การเลือกเดินทางร่วมกันในความสัมพันธ์พิเศษนี้มันไม่ผิดเลย แต่มันก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบและสวยงามเหมือนในนิยาย เพราะสังคมที่เราอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่ทุกคนที่จะ ยอมรับ และ ใจกว้าง พอให้กับคนรักเพศเดียวกัน
รัก,หญิง-หญิง,เกาหลี,ดราม่า,feelgood,girllove,เกาหลี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปันนะรักการเลือกเดินทางร่วมกันในความสัมพันธ์พิเศษนี้มันไม่ผิดเลย แต่มันก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบและสวยงามเหมือนในนิยาย เพราะสังคมที่เราอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่ทุกคนที่จะ ยอมรับ และ ใจกว้าง พอให้กับคนรักเพศเดียวกัน
ปันนะรัก 03
แม้ความรักจะไม่ใช่การแข่งขัน แต่หากเมื่อไหร่ที่มีผู้เล่นลงสนามมากกว่าสองคน การแข่งขันย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ
บ่ายวันหนึ่งที่ปรรณนั่งเล่นอยู่ในห้องพักครูของชาฮยอน เขากำลังนั่งรอคนตัวเล็กเลิกงานเพื่อจะไปส่งเธอที่บ้าน ซึ่งเป็นปกติและเป็นกิจวัตรของคนทั้งคู่ไปแล้ว และก็เป็นจังหวะเดียวกับที่หัวหน้าคิมกำลังเปิดประตูเข้าไป ด้วยวันนี้เขาตั้งใจจะชวนคนตัวเล็กไปทานมื้อเย็นด้วยกันอีกครั้ง หลังจากที่ชวนแล้วแห้วมาหลายรอบ
“นี่ๆ พวกเธอสองคน...นับวันเหมือนแฟนกันเลยนะ” อาจารย์พัคเอ่ยแซว
“เหมือนยังไงเหรอคะ” ปรรณรักย้อนถามติดตลก
“ก็ดูสิ มารอรับกันกลับบ้านทุกวัน มาส่งกันถึงห้องทำงานทุกเช้า แถมบางวันยังมีไปกินกลางวันด้วยกันอีก แบบนี้ถ้าไม่เป็นแฟนกันจะให้เป็นอะไรได้อีกคะคุณปรรณรัก” อาจารย์พัคเอ่ยขำขันอย่างอารมณ์ดี
เสียงสนทนาในห้องพักครู หัวหน้าคิมได้ยินชัดเจนเต็มสองรูหูและนั่นก็ทำเอาหัวหน้าคิมถึงกับตะลึงงันไปพักใหญ่ เขาพยายามตั้งสติก่อนจะหันหลังเดินกลับไปยังห้องทำงานของตัวเอง
“รัก...รักคะ” เสียงแหบพร่าจากคนที่นั่งหลับคอพับดังขึ้นทำให้อาจารย์พัคหลุดจากภวังค์
“ที่รัก!!! ปรรณอยู่นี่ค่ะ เป็นยังไงบ้าง พอลุกไหวไหมคะ” พูดเสร็จก็รีบขยับตัวไปหาคนตัวเล็กพลางลูบหัวเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง
“อื้มม ไหวค่ะ”
“ไหวแน่นะ สภาพนี้!!” เขาพูดกลั้วหัวเราะเบาๆ
“อื้อออ ก็บอกว่าไหวไงคะ”
“ไหวก็ไหวค่ะ…นั้นป่ะ เรากลับบ้านกันดีกว่านะ ที่รักไม่คัน ไม่อ้วก ไม่มีอาการแพ้อะไรนะคะ” ปรรณไม่ลืมที่จะถามคนรัก
“วันนี้ไม่มีอาการอะไรค่ะ” เฮ้อ โชคดีไป
“เออใช่!!! ครูไม่แน่ใจว่าได้บอกปรรณไปหรือยังว่าทางผอ.คิมให้เวลาชาฮยอนถึงวันศุกร์นี้นะ รู้สึกจะเป็นวันสุดท้ายในการยื่นอนุมัติทุนนี้พอดี” อาจารย์พัคโพล่งออกมาทันทีที่นึกถึงวันเดดไลน์ขึ้นมาได้
‘ถึงวันศุกร์นี้’ ก็เท่ากับเหลือเวลาอีกสามวันเองน่ะสิ
ปรรณเอ่ยขอตัวอาจารย์พัคและเพื่อนสนิททั้งสองก่อนประคองคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นและพากันเดินออกมาหยุดยืนอยู่ที่ด้านหน้าร้าน เฮ้อ...ดูจากสภาพของคนตัวเล็กที่ยืนโงนเงนตอนนี้แล้วคิดว่าไม่น่าเดินไหว เขาจึงตัดสินใจแบกคนเมาขึ้นหลังพากันกลับบ้านแทน
“เฮ้อออ ให้ตายสิ” เขาถึงกับปาดเหงื่อหลังพาร่างไร้สตินอนลงบนเตียงนุ่ม เขาไม่เคยคิดว่าการแบกคนเมาขึ้นหลังแล้วเดินกลับบ้านประมาณสามสิบนาทีจะทำให้สูญเสียพลังงานมากมายได้ขนาดนี้
“อื้อออ” เสียงจากคนไร้สติพึมพำออกมาเบาๆ
“พี่ฮยอน รอแป๊บนึงนะคะ เดี๋ยวปรรณไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้ค่ะ” เขาพูดพลางยันตัวลุกจากเตียง
“ร๊ากกกกกก”
“ขาาาาา” คนตัวสูงยิ้มน้อยๆหลังจากได้ยินคำเรียกแสนหวาน และทันทีที่เจ้าตัวตอบรับก็ถูกคนตัวเล็กจู่โจมเข้ามากอดจากทางด้านหลังแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
“เรารู้จักกันมาจะสิบปีแล้วนะคะ คบกันมาก็ห้าปีกว่าแล้ว อีกไม่กี่วันก็จะครบหกปีแล้วนะ พี่ รัก นะคะ อยากอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”
เจ้าหมาเด็กกับคนตัวเล็กคบหากันมาจนถึงวันนี้ก็ 5 ปี 11 เดือน 24 วันแล้ว และอีกเพียง 6 วันก็จะครบรอบ 6 ปีในฐานะคนรัก และครบ 10 ปีที่ทั้งคู่รู้จักกันมา
รักนะ คิดถึงนะ เป็นห่วงนะ กินข้าวหรือยัง ฯลฯ คำพูดเหล่านี้ทั้งเขาและเธอต่างพูดเพื่อแสดงความรู้สึกและเติมกำลังใจให้กันและกันเสมอ เพราะทั้งคู่เชื่อเหลือเกินว่าชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน การบอกความรู้สึกผ่านการสัมผัส(Skinship)และคำพูดถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชีวิตคู่ของปรรณและชาฮยอน
หากแต่วันนี้เจ้าหมาเด็กรู้สึกได้ถึงความไม่มั่นคงในน้ำเสียงของคนที่กำลังกอดเขาอยู่ ตอนแรกเขาคิดว่าคนรักน่าจะเมามากจนลิ้นเปลี้ยทำให้น้ำเสียงฟังดูแปลกไปจากเดิม แต่ทันทีที่เขาหันมาสบตากับคนตัวเล็กก็รับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวและสับสนที่มีมากล้นจากความรู้สึกในใจ
“ปรรณก็อยากอยู่กับที่รักไปนานๆ เหมือนกันค่ะ”
เขาตอบกลับด้วยเสียงที่แผ่วเบาก่อนเคลื่อนมือไปที่ใบหน้าของคนพี่เพื่อซับน้ำตาที่กำลังไหลอย่างเบามือ และไล้มาที่แก้มนุ่มนิ่ม ปลายนิ้วโป้งเลื่อนลงมาเกลี่ยอยู่ที่ริมฝีปากของคนตรงหน้า ก่อนที่เขาจะกดจูบไปตรงตำแหน่งเดียวกันอย่างนุ่มนวลในแบบที่คนเมาชอบ เขาแตะริมฝีปากค้างไว้นานพอสมควรก่อนผละออกอย่างช้าๆ
ช่วงสองปีแรกที่คนทั้งสองตกลงคบหากัน ตอนนั้นปรรณยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สามในมหาฯลัยเดียวกับที่ชาฮยอนทำงานอยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้สอนในส่วนของมหาฯลัยแต่ก็ถือเป็นคณาจารย์ในสถานศึกษาแห่งนี้
โดยทั้งคู่เลือกที่จะคบหากันแบบเงียบๆ และตกลงที่จะไม่โพสต์รูปคู่ลงโซเชียล มีแค่การกดติดตามกันไว้เฉยๆ ด้วยเพราะบทบาทและหน้าที่ของเราทั้งสองคนยัง ไม่สมควร ที่จะโพสต์หรือทำอะไรที่มันประเจิดประเจ้อ ยิ่งเวลาที่อยู่ที่มหาฯลัย มีหลายครั้งที่เผอิญเจอกันตามทางเดินระหว่างตึกหรือตามโรงอาหาร ทั้งคู่จำต้องทำเป็นไม่เห็นกันบ้าง เมินกันบ้างเพราะต่างคนต่างก็กลัวสายตาเวลาที่อีกฝ่ายมองมา
โดยเฉพาะสายตาของเจ้าหมาเด็กของเธอที่มักจะมองมาด้วยแววตาแสนรักเสมอ และนั่นก็ทำให้คนตัวเล็กอดใจไม่ไหวที่จะเดินเข้าไปหา ไปจัดระเบียบเสื้อผ้าให้เขา ด้วยความเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมมหาฯลัยของปรรณ ทำให้หลายๆ ครั้งหลังซ้อมกีฬาเสร็จเขามักจะไม่ค่อยสนใจและใส่ใจกับการจัดระเบียบเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ทำให้คนตัวเล็กอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปช่วย เพราะในฐานะคนรัก เธอก็ไม่ได้อยากให้เจ้าหมาเด็กของเธอดูไม่ดีในสายตาใครทั้งนั้น จนอาจารย์พัคถึงกับต้องคอยเบรกเพื่อนสนิทไว้ทุกครั้งเวลาที่เห็นปรรณรักเดินผ่านหรือสวนมา เพื่อไม่ให้อาจารย์หรือนักศึกษาคนอื่นสงสัยในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ไปมากกว่านี้
“ตลอดสองปีแรกนั้นมันทรมานใจพี่มากเลยนะ ไม่ใช่พี่ไม่มีความสุขนะคะ แต่ในความสุขนั้นมันก็ปนไปด้วยความอึดอัดและความทุกข์ใจเสมอ แต่พอถึงวันที่รักเรียนจบ สำหรับพี่มันเหมือนการยกภูเขาออกจากอกเลย รักรู้ไหมคะ” เจ้าหมาเด็กพยักหน้ารับคำช้าๆ
วันที่ปรรณเรียนจบเป็นวันที่คนรักอย่างชาฮยอนรู้สึกโล่งใจ ดีใจ ภูมิใจและสบายใจมากที่สุด เพราะเธอไม่ต้องทนเก็บความรู้สึกทั้งหมดที่มีไว้เป็นความลับอีกต่อไป เธอก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่อยากอวดให้เพื่อนและคนอื่นได้รู้ว่าเธอก็มีคนรักที่น่ารัก แสนดีและอบอุ่นเพียงไหน
เธออยากโพสต์รูปคู่ อยากโพสต์คลิปต่างๆ ที่เราออกไปทำกิจกรรมร่วมกันเก็บไว้เป็นความทรงจำ เผื่อวันไหนที่ย้อนกลับมาดูจะได้ไม่ลืมว่าเราเคยออกไปทำกิจกรรมอะไรกันมาบ้างและในช่วงเวลานั้นเรามีความสุขกันมากแค่ไหน
“พี่ฮยอน…ที่รัก ฟังปรรณนะ อนาคตของที่รักสำคัญกว่านะคะ”
อันที่จริงเจ้าหมาเด็กก็ไม่ได้อยากเป็นตัวพระผู้เสียสละยอมปล่อยมือตัวนางไปตามล่าหาความฝันเหมือนในละครหลังข่าวสักเท่าไหร่หรอก แต่เพราะเขารู้ว่าเป้าหมายของคนตรงหน้าคืออะไร และมันสำคัญมากแค่ไหน เจ้าตัวถึงได้จำใจพูดออกไปแม้จะไม่ได้เต็มใจเลยก็ตาม
“แต่…อนาคตของพี่ พี่ไปสร้างใหม่ที่อื่นก็ได้นะคะ”
ชาฮยอนพูดจบก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนักจนผลอยหลับไปคาอ้อมกอดของคนรัก ปรรณค่อยๆ ขยับและจัดที่ทางให้คนรักนอนราบไปกับที่นอนขนาดหกฟุตหลังใหม่ที่เพิ่งถอยออกมาได้ไม่นาน ก่อนจะเดินไปเอาผ้ามาเช็ดตัวและเปลี่ยนชุดเพื่อให้คนรักได้นอนหลับอย่างสบายตัวที่สุดสำหรับค่ำคืนที่แสนโหดร้ายนี้
หรือนี่…จะเป็นอาถรรพ์ฉลอง 10 ปีของเรา