เรื่องราวของเหล่าหุ่นยนต์แปลงร่างที่มีทั้งการแข่งความเร็ว ไปจนถึงหายนะระดับจักรวาล แซมด้วยความกุ๊กกิ๊กเล็กน้อย ไซไฟแฟนตาซีอ่านง่าย
ไซไฟ,แฟนตาซี,แฟนตาซี,ไซไฟแฟนตาซี,ไซไฟ,หุ่นยนต์,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
After หลังโลกสลายเรื่องราวของเหล่าหุ่นยนต์แปลงร่างที่มีทั้งการแข่งความเร็ว ไปจนถึงหายนะระดับจักรวาล แซมด้วยความกุ๊กกิ๊กเล็กน้อย ไซไฟแฟนตาซีอ่านง่าย
“รู้ไหมว่าความเรียบง่ายคืออะไร?” หุ่นสีดำกล่าวและยิ้มไปด้วย มันเป็นรอยยิ้มที่น่าสยดสยอง ลิ้นแลบออกมาตวัดไปมา
“มันคือการใกล้จะถึงความว่างเปล่าแต่ยังไม่ใช่”
“ใครที่ไม่มีความเรียบง่าย มันไม่มีความงาม”
“ถ้าไม่มีความงาม ก็ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่” เบิร์นนิงไฟร์ในสภาพสะบักสะบอมนั่งเงียบ เขาถูกมัดอย่างแน่นหนา LSD ยกแขนข้างหนึ่งขึ้นแปลงเป็นดาบ มันมองดูแสงที่สะท้อนบนโลหะสีดำ
“มาสร้างความงามให้กับดาวดวงนี้กันเถอะ!”
“ไม่ใช่วันนี้!” เสียงตะโกนมาพร้อมกับกำปั้นเรืองแสงด้วยความร้อนสูงกระแทกเข้าที่ใบหน้าของ LSD อย่างรุนแรง ที่แท้เบิร์นนิงไฟร์แอบเพิ่มความร้อนที่มือทีละน้อย ๆ จนไม่มีใครสังเกตได้ ทำลายสิ่งพันธนาการทั้งปวงเพื่อเตรียมหลบหนี
ดวงตาสีแดงก่ำบนศีรษะที่ยังคงบิดเบี้ยวไปด้านหลังนั้นกรอกลงมาและมองดูหุ่นสีแดงด้วยความโกรธ ปากที่มีเขี้ยวเอ่ยเสียงดัง “จับมัน!”
หลังได้ยินเสียงคำสั่ง ลูกน้องที่เฝ้าอยู่ด้วยไม่กี่คนกรูกันเข้ามาหวังรุมจับเบิร์นนิงไฟร์ แต่หากจะยังจำกันได้ หุ่นยนต์หนุ่มสนใจการแข่งความเร็ว ถึงเขาจะไม่เคยแข่งให้ใครเห็น แต่คนที่จะสนใจจะเข้าร่วมกิจกรรมด้านนี้ก็ต้องมั่นใจในความเร็วของตนพอสมควร
ภาพที่ตัวประกอบไร้ชื่อมองเห็นแทบจะเป็นลูกไฟสองดวงที่ลอยไปมาด้วยความเร็วสูง มันเข้ากระแทกที่จุดสำคัญจนไม่อาจจะเคลื่อนที่ต่อไปได้ พร้อมไปกับการแผดเผาด้วยความร้อน หากแต่เมื่อเบิร์นนิงไฟมองเห็นช่องทางที่จะหลบหนีได้ เขาก็ไม่ได้ต่อสู้ต่อ แต่แปลงร่างเป็นรถและหนีออกไปจากโกดังร้างทันที LSD กับพรรคพวกที่ยังเคลื่อนไหวได้ แปลงร่างเป็นยานพาหนะแล้วออกติดตาม
…
ในป่าจะเคลื่อนที่ในร่างยานพาหนะได้ลำบาก เบิร์นนิงไฟร์เปิดระบบค้นหาเพื่อหาเส้นทางกลับไปยังถนนโดยเร็วที่สุด แสงและเสียงของปืนเลเซอร์มาจากทางด้านหลัง ถูกเบิร์นนิงไฟร์บ้างแต่ไม่ใช่จุดสำคัญ เมื่อถึงจุดหนึ่งเขาอาศัยมุมอับสายตาแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์แล้วแอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่
พวก LSD แปลงร่างเป็นหุ่นออกตามหา พวกมันเปิดไฟส่องสว่างไปทั่ว พวกมันเดินใกล้เข้ามาใกล้ เข้ามาเรื่อย ๆ หัวใจจักรกลเต้นรัวแรงเหลือเกิน
“พบเส้นทางไปยังถนนสายหลักที่สั้นที่สุดแล้ว” ระบบแจ้งเตือนได้ทันเวลา
หุ่นสีแดงเร้นกายออกไปจากจุดนั้นแล้วไปที่ถนนสายหลัก จากนั้นเร่งเครื่องหนีอย่างไม่คิดชีวิต
…
เมื่อเบิร์นนิงไฟร์กลับมาที่กิลด์ เขาก็พยายามติดต่อกับโคลเดอร์แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บไม่รุนแรง พอจะใช้โดรนพยาบาลในห้องพยาบาลรักษาให้หายขาดได้ในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อหายดีแล้ว หุ่นยนต์หนุ่มนั่งบนเก้าอี้ในห้องพยาบาล พยายามนึกทบทวนว่าโคลเดอร์น่าจะไปอยู่ที่ไหนได้บ้าง แต่แล้วเขาก็เพิ่งรู้สึกตัวได้ว่าตัวเองแทบจะไม่รู้จักเจ้าหนูนี่เลย
หุ่นตัวใหญ่สีแดงเดินออกจากห้องพยาบาลไปที่ห้องหัวหน้ากิลด์ เขาเล่าเรื่องที่ไปพบ LSD ผลิตยาในโกดังร้าง เมื่อได้ฟังที่เบิร์นนิงไฟร์พูดจังก์แคลชก็ทำสีหน้าครุ่นคิด
“ต่อให้เราแจ้งทางการไป แต่เมื่อเขารู้แล้วว่ามีคนรู้ที่อยู่ก็คงจะรีบทำลายหลักฐาน”
“แต่เอาเถอะ ผมจะแจ้งเผื่อไว้”
“เรื่องของโคลเดอร์ คุณไม่ต้องห่วงนะ ผมให้ไปฝึกกับเพื่อนของผม ถ้ากลับมาเมื่อไหร่ แค่ระดับเจ้านั่นน่ะ เพื่อนคุณเอาชนะได้แน่นอน”
“ผมว่าเจ้า LSD มันอาจจะใช้ยาอีกในการแข่งคราวหน้า เราจะจับมันพร้อมหลักฐานกันตอนนั้นเลย”
...
“ในห้องนี้น่ะผมทำให้ทุกสัญญาณการสื่อสารเข้ามาไม่ได้ เพื่อที่ผมจะได้มีสมาธิกับการออกกำลังกาย” อาฟเตอร์อิมเมจกล่าวอย่างอารมณ์ดีพลางมองดูโคลเดอร์ที่อยู่ในสภาพปางตาย
“คุณคิดว่าตัวเองกำลังจะไม่ไหวแล้ว แต่รู้ไหมว่าถ้าคุณยังออกกำลังต่ออีกนิดเดียว นั่นแหละคือจุดที่ร่างกายจะพัฒนาไปอีกขั้น” โคลเดอร์สาบานได้ว่าเห็นแววตาสนุกของอาฟเตอร์ที่พยายามทำตัวจริงจัง แต่เขาก็ไม่ได้แย้งอะไรออกมาในขณะที่รู้สึกเหนื่อยที่สุดในชีวิต
“เอาเถอะ หมดเซ็ตนี้แล้วไปพักได้” โคลเดอร์ยังนอนหมดเรี่ยวแรงอยู่ตรงนั้น
…
“ใบหน้าที่เรียบง่ายของฉัน หมดความงามเพราะเจ้านั่น” LSD กล่าวอย่างโกรธแค้น ขณะนอนบนเก้าอี้ให้โดรนรักษาซ่อมแซมใบหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะแรงกระแทกและความร้อน
“ฉันจะฆ่าแกให้ได้” มันกล่าว เสียงบินหึ่ง ๆ ของโดรน มันน่ารำคาญเต็มทน เมื่อไรการรักษาจะเสร็จสักที LSD ยังคงหวาดระแวงจากการที่มีผู้บุกรุกมาหมาด ๆ มันจึงเปิดระบบตรวจตราขึ้นดูอยู่บ่อย ๆ
“อะไรน่ะ?” สัญญาณของลูกน้องที่ให้ไปเฝ้าทางเข้าออกหายไป
“ใครไปดูซิ” มันตะโกน แต่ไม่มีเสียงตอบรับ
“ใครหน้าไหนเข้ามาอีก ฉันจะฆ่ามันซะ” มันประกาศ เอามือข้างหนึ่งปัดโดรนให้ออกไป แม้การรักษาจะยังไม่เสร็จดี หุ่นยนต์สีดำเดินออกไปตรวจสอบที่ทางเข้าออกด้วยความโกรธ
“ที่นี่ไม่ใช่สวนสาธารณะนะโว้ย” มันตะโกนเมื่อเห็นร่างของหุ่นแปลกหน้า ในความมืดประกอบกับไม่ได้เปิดระบบช่วยมองใด ๆ เนื่องจากยังคงเสียหายจากการถูกโจมตี มันจึงมองเห็นไม่ค่อยชัดนัก
ภาพที่พร่าเลือนนั้นดูราวกับหุ่นที่บุกรุกกำลังนั่งอุ้มร่างของลูกน้องที่นอนอยู่บนพื้น มันใช้แขนทั้งสองข้างประคองหลังเอาไว้ แล้วใช้ปากงับลำคอ
“กะ แกกำลังทำอะไร”
ไม่มีเสียงตอบ มีเพียงสัญญาณชีพของลูกน้องที่อ่อนแรงลงเรื่อย ๆ ร่างไร้สติถูกทิ้งลงบนพื้น ในขณะที่ผู้บุกรุกลุกขึ้นยืน โดยมีเชื้อเพลิงสีชมพูไหลย้อยออกจากเขี้ยวทั้งสองข้าง
“นี่แกดูดเชื้อเพลิงจากหุ่นด้วยกันอย่างนั้นเหรอ?!” LSD ตะโกนอย่างไม่อยากเชื่อ
ทันใดนั้นแววตาสีเขียวอ่อนสว่างวาบ มันพุ่งเข้ามาหา LSD ด้วยความเร็วอย่างเหลือเชื่อ มันรีบแปลงแขนเป็นดาบเพื่อหวังใช้ป้องกันตัว LSD เหวี่ยงแขน มีเสียงโลหะกระทบกันดังกึกก้อง
“เคร้ง” หุ่นสีดำต้องตกตะลึงอีกครั้งเมื่อคมดาบที่เคยภูมิใจหักออกอย่างง่ายดาย มันกระเด็นไปปักพื้นตรงที่ห่างออกไป มันเปลี่ยนร่างเป็นยานพาหนะหวังจะหลบหนี หุ่นลึกลับแปลงร่างเช่นกัน มันเปลี่ยนเป็นค้างคาวยนต์แล้วบินไล่ตามมาอย่างไม่ลดละ
ถึงแม้ LSD จะเป็นหุ่นนักแข่งผู้มั่นใจในความเร็ว แต่คราวนี้ก็เป็นอีกครั้งที่มันได้เผชิญกับคู่ต่อสู้ที่ไม่อาจจะต่อกร ค้างคาวบินไปแซงหน้ามันไว้แล้วเปลี่ยนร่างเป็นหุ่นยนต์ทิ้งตัวลงมาขวางหน้า
“จงมารับใช้ฉัน” มันกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น
…