เรื่องราวของเหล่าหุ่นยนต์แปลงร่างที่มีทั้งการแข่งความเร็ว ไปจนถึงหายนะระดับจักรวาล แซมด้วยความกุ๊กกิ๊กเล็กน้อย ไซไฟแฟนตาซีอ่านง่าย
ไซไฟ,แฟนตาซี,แฟนตาซี,ไซไฟแฟนตาซี,ไซไฟ,หุ่นยนต์,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
After หลังโลกสลายเรื่องราวของเหล่าหุ่นยนต์แปลงร่างที่มีทั้งการแข่งความเร็ว ไปจนถึงหายนะระดับจักรวาล แซมด้วยความกุ๊กกิ๊กเล็กน้อย ไซไฟแฟนตาซีอ่านง่าย
สิ่งมีชีวิตชีวภาพ คือผู้อยู่มาก่อนสิ่งมีชีวิตโลหะในดวงดาวแห่งนี้ ทว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไป สิ่งมีชีวิตโลหะก็ได้เข้าครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของดวงดาว เหลือสิ่งมีชีวิตชีวภาพอยู่ไม่มากนัก พวกที่มีสติปัญญาได้รวมตัวกันสร้างเมืองอยู่ห่างจากสตีลซิตี้พอสมควร แต่เราจะพูดถึงคนเหล่านั้นในภายหลัง
มีเรื่องเล่าขานมานานว่าใจกลางป่าดิมม์ มีถ้ำที่อยู่ใกล้กับสถาปัตยกรรมโบราณของสิ่งมีชีวิตชีวภาพทรงปัญญาที่ถูกทิ้งร้างนานนับพันปี ในถ้ำแห่งนั้นไม่ลึกนัก แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปสำรวจ สาเหตุเพราะมีมังกรอาศัยอยู่
“มังกร?!” ทุกคนอุทาน ดูจะเชื่อได้ยากในยุคสมัยนี้
“แต่มันก็คงเป็นแค่สัตว์ พวกเรามีทั้งอาวุธ มีทั้งความแข็งแกร่ง น่าจะเอาชนะได้ไม่ยาก” เบิร์นนิงไฟร์กล่าว เขาค่อนข้างตื่นเต้นที่จะได้ไปต่อสู้
“มันไม่ง่ายขนาดนั้น เจ้านั่นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเกราะหนาและสามารถพ่นความร้อนสูงได้ โลหะที่ทนความร้อนที่สุดยังอยู่ได้ไม่ถึงห้านาที”
“แร่ที่เราต้องการหาไม่ยากหรอก มันอยู่ในถ้ำนั้น ส่วนใหญ่คนที่เข้าไปเอาไม่ได้ไปสู้กับมังกรนี่หรอก ก็แค่รีบเข้าไปขุดแล้วก็รีบออกมา”
“แต่ปัญหาคือถึงจะรีบแต่มันก็ไม่ใช่ของที่วางอยู่แล้วเข้าไปหยิบได้ทันที มันต้องขุด ต้องใช้เวลา คนที่เข้าไปจะมีอยู่สองทางเลือก หนึ่ง รอมันหลับ ซึ่งมันก็หลับอยู่บ่อย ๆ แต่มันก็อาจจะตื่นขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ กับให้อีกคนเป็นตัวล่อไว้ แล้วคนขุดรีบใช้เครื่องมือขุดแล้วรีบหนีให้เร็วที่สุด แร่ในถ้ำนี้จะมีอยู่อย่างเดียว เป็นสีทองออกส้ม เรียกว่ากราลาพิส ฉันต้องการปริมาณเท่านี้ ส่งข้อมูลกับพิกัดถ้ำไปให้แล้วนะ”
“ส่วนใหญ่ที่ว่าเลือกสองทางเลือกนี่ก็ไม่ใช่การเลือกซะทีเดียว ส่วนใหญ่จะเลือกทางแรกกัน แต่เตรียมพร้อมทำทางเลือกที่สองไว้ถ้าโชคไม่ดี” ทุกคนพยักหน้ารับถึงคำอธิบายที่ชัดเจนของเกียร์
“เอาล่ะ พวกคุณไปกันสองคน ส่วนผมจะกลับไปทำงานที่กิลด์”
“แล้วหัวหน้ามาทำไมเนี่ย” เบิร์นนิงไฟร์ถาม
“ก็เบื่อ ๆ ปวดออฟฟิศซินโดรมด้วย มาดูหน้าหุ่นหน้าบูดหน่อย” เขายิ้มและตบบ่าเพื่อนเก่า จนเกียร์มองบน
“รักษาชีวิตไว้ก็แล้วกัน เห็นท่าไม่ดีก็เผ่นก่อน” หุ่นรุ่นลุงกล่าวก่อนจะกลับไปรื้อของในร้าน
ด้านโคลเดอร์
วันนี้เขาได้รับอนุญาตให้พัก
“การฝึกมากเกินไปจะไม่เป็นผลดีต่อร่างกายครับ” ครูฝึกของเขากล่าว “ฟื้นฟูร่างกายให้ดีแล้วกลับมาทดสอบกันใหม่”
โคลเดอร์เดินออกมานอกผับ Blurry มาที่สวนสาธารณะขนาดเล็กใกล้ ๆ นั้น เขานั่งลงมองดูผู้คนที่ผ่านไปมา บ้างก็มาออกกำลังกาย บ้างก็พาครอบครัวมาเดินเล่น ในใจของเขายังครุ่นคิดถึงวิธีการผ่านการทดสอบ การต่อสู้กับผู้เป็นเลิศด้านความเร็วโดยใช้สัญชาตญาณ ดูจะเป็นโจทย์ที่ยากเหลือเกิน
โคลเดอร์ไม่ได้ติดต่อกับเบิร์นนิงไฟร์มาสักระยะแล้ว เขาจึงต่อสายหาเพื่อนรุ่นพี่ทันที บางทีความเห็นของผู้อื่นก็อาจจะช่วยเราได้ เขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้เบิร์นนิงไฟร์ฟัง
“ถ้าเป็นฉันคงไม่คิดอะไรหรอก แค่ระเบิดพลังไฟให้เต็มที่ไปเลย จะเข้ามาจากทางไหนก็ไม่สำคัญ”
“ผมเคยลองทำแล้วครับแต่เขาก็ยังหลบการโจมตีรอบทิศทางได้ทันอีก”
“อ๋อ ของนายรัศมีมันวงไม่กว้างนี่นะ”
“แบบนี้โจทย์ยากเหมือนกัน”
“นายมีอะไรที่ยังไม่ได้ทำหรือเปล่า?”
หลังวางสายจากเบิร์นนิงไฟร์ โคลเดอร์นั่งลงครุ่นคิดถึงสิ่งที่เขายังไม่ได้ทำอีกครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาเคยเกือบจะโจมตีกลับได้สำเร็จ นั่นคือตอนที่เขาเปลี่ยนจากหลบหลีกการโจมตีของอาฟเตอร์อิมเมจเป็นการโจมตีสวนเข้าไปแทน แต่คำว่าเกือบสำเร็จก็ยังไม่ใช่ความสำเร็จ หากเขาจะเร็วขึ้นกว่านี้ได้อีกนิด อาจเปลี่ยนเป็นความสำเร็จได้
โคลเดอร์พยายามนึกถึงความทรงจำในอดีตที่ผ่านมา บทเรียนใดบ้างที่จะทำให้เขาเพิ่มความเร็วขึ้นได้ในเวลาสั้น ๆ อย่างนี้ เขานึกย้อนไปในสมัยที่ยังอยู่ในเผ่าไอซ์เบิร์น ที่ดินแดนทางเหนือมีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ชื่อทะเลสาบลองเลค ในฤดูหนาวผิวน้ำจะเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง พวกไอซ์เบิร์นจะใช้ร่างหุ่นยนต์แต่แปลงเท้าให้เป็นล้อเพื่อมาเล่นสเกตที่นี่อย่างสนุกสนาน คูลเลอร์น้องสาวของเขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบเทศกาลนี้มาก มักจะรบเร้าให้แม่หรือพี่ชายพามาเล่นสเกตที่นี่อยู่เสมอ
ป่านนี้คูลเลอร์จะเป็นยังไงบ้างนะ โคลเดอร์คิดในใจ หลังเกิดเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียแม่ คูลเลอร์ก็ต้องไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเนื่องจากไม่มีคนดูแล ส่วนตัวเขาเองมีวุฒิภาวะพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว ได้ข่าวว่าทางกิลด์รับสมัครสมาชิกเพิ่ม มีอาหารและที่อยู่ให้ฟรี เขาจึงสมัครมายังกิลด์ โคลเดอร์สื่อสารไปถึงคูลเลอร์บ้างเป็นบางครั้ง แต่ด้วยความที่สถานรับเลี้ยงเด็กจำกัดสัญญาณสื่อสารสำหรับหุ่นรุ่นเยาว์ จึงไม่ค่อยได้สื่อสารกันบ่อยนัก
“เกือบลืมไปเลยว่าเราแปลงเท้าเป็นล้อได้” โคลเดอร์ลองแปลงเท้าเป็นล้อดู มันเป็นระบบที่เขาไม่ค่อยได้ใช้งาน มันติดขัดเล็กน้อย แต่เมื่อลองทำสองสามครั้งก็ขยับได้ราบรื่น
“อ๊ะ” เขานึกอะไรขึ้นมาได้ บางทีนี่อาจจะทำให้เขาโจมตีโต้กลับได้ก็ได้นะ
ด้านเบิร์นนิงไฟร์
ตอนนี้เบิร์นนิงไฟร์กับจีคอนยืนอยู่ที่หน้าถ้ำมังกร
“บรรณารักษ์ห้องสมุดมาทำแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย” จีคอนบ่นแต่เป็นการบ่นพร้อมรอยยิ้ม
“ผจญภัยบ้าง นาน ๆ ทีไง” เบิร์นนิงไฟร์ตอบง่าย ๆ เขาเอื้อมมือไปกุมบ่าของจีคอนไว้
ถ้ำนี้เป็นถ้ำเล็ก ๆ อยู่ไม่ไกลจากชายป่าดิมม์เท่าใดนัก อีกทั้งไม่ได้เป็นสถานที่ลึกลับ แต่ไม่ค่อยมีใครมายุ่งเพราะมีมังกรเฝ้าอยู่และแร่ที่อยู่ในถ้ำนั้น ถึงแม้จะเป็นแร่หายาก แต่ถ้าไม่ต้องการใช้งานในวัตถุประสงค์เฉพาะอย่างจริง ๆ ก็ไม่ค่อยมีใครต้องการเท่าใดนัก
สภาพถ้ำเป็นเหมือนโถงใหญ่เพียงห้องเดียว เพดานถ้ำทะลุเป็นรูใหญ่ ในเวลากลางวันจึงมีลำแสงส่องลงมาที่ใจกลางห้อง ทำให้มีอากาศอุ่น ซึ่งเจ้ามังกรมักจะนอนหลับอยู่ตรงนั้น ในขณะที่แร่จะอยู่ที่ผนังถ้ำในส่วนต่าง ๆ และเป็นแร่เรืองแสงจึงสังเกตได้ไม่ยากนัก การนำแร่ออกมาจะนิยมใช้มีดเลเซอร์ที่มีความคมสูงในการตัดหั่น
ทั้งสองคนเลือกเวลาตัดแร่ในตอนกลางวันเพื่อให้มีแสงสว่าง ถึงแม้จะมีความเสี่ยงที่มังกรจะตื่นบ้างแต่ด้วยคำบอกเล่าที่ว่ามังกรมักจะนอนหลับเป็นส่วนใหญ่จึงตัดสินใจว่ามาในช่วงเวลานี้จะดีที่สุด ถึงกระนั้นการเข้าถ้ำมังกรก็เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นไม่น้อย ทั้งสองค่อย ๆ เดินเข้าไปในถ้ำ เจ้ามังกรนอนหลับอยู่จริง ๆ มันเป็นมังกรขนาดใหญ่สีน้ำเงินแก่ที่มีปีกเหมือนค้างคาว ทั่วร่างปกคลุมไปด้วยเกล็ดหนา ร่างกายของมันกระเพื่อมขึ้นลงช้า ๆ ตามจังหวะการหายใจ
ทั้งสองแอบย่องไปยังจุดที่มีแร่ที่ใกล้ที่สุดและหยิบมีดเลเซอร์ออกมาและเริ่มตัด ทว่ามีเศษแร่ชิ้นเล็ก ๆ ที่ตกพื้น มันก่อให้เกิดเสียงขึ้น เสียงนั้นไม่ดังนัก ว่ากันตามจริงแล้ว เสียงฝีเท้าที่ทั้งสองแอบย่องเข้ามาในถ้ำยังอาจจะดังกว่า แต่ทั้งสองก็รีบหันไปมองที่มังกรทันที
มังกรลืมตาขึ้นแล้ว
“ยังตัดไม่ค่อยออกเลย” จีคอนพูดเสียงค่อย มังกรยังมีทีท่างัวเงีย เธอกับเบิร์นนิงไฟร์จึงยังคงตัดแร่ต่อไปอยู่ แต่ดูความคืบหน้าจะมีไม่มากนัก
เมื่อมังกรคืนสติเต็มที่แล้ว มันเห็นทั้งสองอยู่ตรงหน้า
“เธอตัดแร่ต่อ ฉันจะไปดึงความสนใจของมันเอง” ไม่ต้องรอให้พูดจบ เบิร์นนิงไฟร์วิ่งไปขวางหน้ามังกรไว้ทันที เจ้ามังกรอ้าปากออก ในปากเริ่มเรืองแสงสีส้มออกมา
“ความร้อนสูงมาก” ถ้าสลับเป็นเจ้าโคลเดอร์มาที่นี่แทนได้ก็จะดีหรอก ทางนี้มีแต่พลังไฟ ว่าแล้วเบิร์นนิงไฟร์วิ่งไปอีกทาง พยายามดึงดูดความสนใจของมังกร มันเริ่มพ่นไฟเข้าใส่ เขาเองก็กระโดดหลบ
ผนังถ้ำด้านหนึ่งถูกละลาย เมื่อดูให้ดี ๆ ก็เห็นว่าผนังถ้ำหลายส่วนก็มีรอยเช่นนี้อยู่บ้าง พวกเขาคงไม่ใช่รายแรกที่มาตอนมังกรตื่น
“เร่งมือเข้า” เขาส่งข้อความสื่อสารเพราะมันเร็วกว่าการพูด
เคราะห์ดีที่มังกรไม่สามารถพ่นไฟต่อเนื่องตลอดเวลาได้ แต่มันอ้าปากเพื่อชาร์จใหม่
เบิร์นนิงไฟร์เปิดใช้งานมีดเลเซอร์ในมือ พลังปืนเพลิงที่เขามีอยู่น่าจะใช้งานไม่ได้กับอีกฝ่ายที่มีพลังสายเดียวกันแต่มากกว่าอย่างมหาศาล เขากระโดดเข้าหามังกรอีกครั้ง ส่วนมันใช้กรงเล็บตะปบ เขาลองใช้มีดเลเซอร์แทงกลับ แต่แทบไม่สร้างความเสียหาย
“เสร็จหรือยัง?” เขาส่งข้อความไปอย่างเร่งร้อน ขณะถีบตัวถอยออกมา
“เกือบแล้ว” จีคอนตอบ จังหวะนี้มังกรไล่เบิร์นนิงไฟร์เข้าไปติดกับผนังถ้ำ มันชาร์จไฟเสร็จแล้วและกำลังจะพ่นไฟใส่หน้าเขา
จังหวะที่มันพ่นไฟเขาสไลด์ตัวลงด้านล่าง หลบได้ทันท่วงทีแล้วรีบวิ่งมาทางจีคอน ก้อนแร่ที่แสนดื้อใกล้จะหลุด เบิร์นนิงไฟร์รีบเอามีดเลเซอร์ตัดช่วยในขณะที่มังกรตามมาติด ๆ
“หลุดแล้ว” ทั้งสองรีบวิ่งสุดชีวิตโดยที่มีมังกรพ่นไฟไล่หลังจนทั้งสองสามารถหลบพ้นจากเจ้าตัวปัญหาตัวใหญ่พร้อมแร่ในมือ
“สนุกดีนะ” จีคอนพูดพลางหัวเราะ เบิร์นนิงไฟร์ได้แต่มองบน ทั้งสองแปลงร่างยานพาหนะรีบกลับไปที่ร้านของเกียร์ทันที
ด้านโคลเดอร์
“หวังว่าคุณคงจะพร้อมแล้วนะครับ” อาฟเตอร์อิมเมจกล่าว เขาแยกร่างออกเป็นสามร่างแล้วเข้าโจมตีทันที โคลเดอร์ปิดระบบการมองเห็น รับรู้เพียงสัมผัสการเคลื่อนไหว ถึงแม้จะบอกว่าแยกร่าง แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงจนมองเห็นเป็นหลายร่างเท่านั้น อาฟเตอร์อิมเมจยังคงมีเพียงร่างเดียว
“ตรงนั้น” โคลเดอร์ใช้พลังแช่แข็งโมเลกุลของน้ำในอากาศให้เป็นน้ำแข็ง ทำให้มันเป็นดาบอยู่ที่มือ เขาโจมตีสวนกลับ ฝ่ายตรงข้ามมองเห็นการโจมตีนั้น เขารีบถอยเพื่อหลบ
“ครั้งนี้ผมเร็วกว่าเดิมครับ” แท้จริงโคลเดอร์แปลงเท้าตนเองเป็นล้อรอไว้ก่อนล่วงหน้าและทำพื้นที่ตัวเองยืนอยู่ให้เป็นน้ำแข็งเพื่อลดแรงเสียดทาน ความเร็วเขาจึงเพิ่มมากกว่าเดิมเล็กน้อย
แต่ความเล็กน้อยนั้น ก็เปลี่ยนผลจากไม่สำเร็จมาเป็นสำเร็จได้ ปลายดาบน้ำแข็งสะกิดโดนใบหน้าของอาฟเตอร์อิมเมจเข้าแล้ว
“ยินดีด้วยนะครับ คุณสอบผ่านแล้ว” ฝ่ายตรงข้ามเอ่ยด้วยน้ำเสียงพอใจและยิ้มกับรอยแผลบนใบหน้าที่ได้รับ
ร้าน เกียร์
“มาที่นี่ทำไมล่ะ ก็บอกไปแล้วว่าต้องใช้เตาหลอมที่กิลด์” หุ่นรุ่นลุงบ่น แต่ก็รีบไปเอาวัสดุทำเกราะมาจากหลังร้านทันที “นิ่งอยู่ทำไม แปลงร่างสิ แล้วขนของพวกนี้ไปด้วย ฉันไม่ยกให้หนักหรอกนะ”
ที่กิลด์โคลเดอร์กลับมาแล้ว เขากำลังคุยกับสมาชิกของกิลด์คนอื่น ๆ อยู่ ดูหุ่นวัยรุ่นคนนี้จะมีความมั่นใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากวางของที่ใช้ทำเกราะไว้ที่หน้าเตาหลอมและทิ้งหุ่นรุ่นลุงทั้งสองให้คุยกันประสาหุ่นแก่แล้ว เบิร์นนิงไฟร์ก็ตรงเข้าไปหาโคลเดอร์
“ว่าไง” เขาทัก
“อ้าว พี่เบิร์นนิงไฟร์” โคลเดอร์ตอบ แววตาเขาดูดีใจที่ได้พบกับผู้ที่สนิทที่สุดในกิลด์
“พร้อมจะไปแข่งนัดล้างตาหรือยัง” หุ่นสีแดงกล่าวยิ้ม ๆ
“พร้อมครับ” เขาตอบด้วยสีหน้ามั่นใจอย่างเห็นได้ชัด
จีคอนยืนดูการหลอมเกราะของโคลเดอร์อย่างสนใจ ในขณะที่จังก์แคลชยืนกอดอกคุยกับเพื่อนเก่าที่ขยับร่างกายไม่หยุด
“ไอ้เจ้าเบิร์นนิงไฟร์จะให้ทำเกราะให้ไอ้หนูนั่น แต่กลับไม่ส่งข้อมูลขนาดมาให้ แล้วจะทำได้ยังไง ฉันสวดมันไปแล้ว มันเพิ่งส่งมาให้เมื่อกี้” เกียร์บ่น
“กราลาพิสเป็นแร่ที่ตีให้แผ่ออกได้กว้างที่สุดแต่รับแรงกระแทกได้มากที่สุด ถ้าผสมกับนิมบัสที่ฉันมีอยู่ จะทำให้กลายเป็นเกราะน้ำหนักเบาที่ป้องกันการโจมตีได้ ในขณะเดียวกันก็ทนความร้อนสูง และถ้าออกแบบให้มีรูพรุนก็จะระบายความร้อนได้ดีด้วย” หุ่นแก่สีขาวสาธยายยาวเหยียดให้เพื่อนและหุ่นสาวฟัง จังก์แคลชและจีคอนพยักหน้ายิ้ม ๆ
อีกสองสามชั่วโมงต่อมาก็ได้เกราะที่ดูโฉบเฉี่ยว
“ฉันออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์” เกียร์พูดอย่างภูมิใจ “ให้เจ้าหนูนั่นมาลองซิ”
ว่าแล้วโคลเดอร์ก็เดินเข้ามาสวมใส่และมันก็ใส่ได้พอดี เขาลองขยับอย่างคล่องแคล่ว
“ใช้ได้นี่ ขอให้ชนะในการแข่งนะ” โคลเดอร์พยักหน้ารับ เขารับเกราะแล้วเดินกลับไปที่ห้องพักส่วนตัว
“ว่าแต่จังก์แคลช ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกนาย” แววตาของทั้งคู่เปลี่ยนไปทันที ในขณะที่จีคอนดูตกใจเพราะเธอไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
“เจ้านั่นมันกลับมาแล้วใช่ไหม?” เกียร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน