เรื่องราวของเหล่าหุ่นยนต์แปลงร่างที่มีทั้งการแข่งความเร็ว ไปจนถึงหายนะระดับจักรวาล แซมด้วยความกุ๊กกิ๊กเล็กน้อย ไซไฟแฟนตาซีอ่านง่าย
ไซไฟ,แฟนตาซี,แฟนตาซี,ไซไฟแฟนตาซี,ไซไฟ,หุ่นยนต์,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
After หลังโลกสลายเรื่องราวของเหล่าหุ่นยนต์แปลงร่างที่มีทั้งการแข่งความเร็ว ไปจนถึงหายนะระดับจักรวาล แซมด้วยความกุ๊กกิ๊กเล็กน้อย ไซไฟแฟนตาซีอ่านง่าย
“จู่ ๆ คงจะดุ่ม ๆ เข้าไปเอาข้อมูลที่หอสมุดเลยไม่ได้” LSD กล่าว
“ไปค้นคว้าข้อมูลทั่วไปน่ะเข้าได้สะดวก แต่ข้อมูลอันตรายระดับนี้ทางหอสมุดจะมีโปรโตคอลป้องกันซึ่งเข้าไปปล้นกันง่าย ๆ ไม่ได้” หุ่นสีดำพูดอย่างจริงจังผิดจากปกติ ส่วนเอ็นเฟอร์ฟังอย่างตั้งใจ
“คิดว่าข้าจะบุ่มบ่ามเข้าไปอย่างนั้นหรือ?”
“ถึงแม้ว่าข้าอาจจะใจร้อน แต่ก็รู้ตัวเองดีว่าไม่ได้รู้จักดาวดวงนี้นัก ไม่อย่างนั้นข้าคงจะใช้กำลังจัดการพวกเจ้าเกียร์ไปแล้ว” หุ่นค้างคาวกำหมัดแน่น ดวงตาเปล่งแสงสีแดงเข้ม
เอ็นเฟอร์ยกมือข้างหนึ่งขึ้น ส่วนหนึ่งแยกออกเปลี่ยนเป็นค้างคาวเหล็กขนาดเล็กสี่ห้าตัว
“ข้าจะส่งเจ้าพวกนี้ไปสำรวจก่อน แล้วเราค่อยมาวางแผนกัน”
หอสมุดกลาง สตีลซิตี้
ค้างคาวเหล็กบินเล็ดรอดจากสายตาของกล้องวงจรปิดมาได้โดยไม่มีใครสงสัย มันแยกกันไปตัวละทิศทางเพื่อเข้าไปเก็บข้อมูลและสร้างแบบแปลนของหอสมุด
หลังจากผ่านไปสองวัน
เอ็นเฟอร์ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ในโกดังร้างที่ป่าดิมม์ ชั่วขณะหนึ่งเหมือนมันจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เอ็นเฟอร์ยกมือขึ้น ค้างคาวทั้งห้าบินกลับมาแล้ว พวกมันประกอบร่างตัวเองเข้ากับแขนของเอ็นเฟอร์
“ข้าได้รับข้อมูลพอสมควรแล้ว” มันกล่าว
“LSD จงฟัง”
“เมื่อหอสมุดตรวจจับได้ว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีบุกรุกเข้ามา มันจะแจ้งเตือนผู้ดูแลระบบเพื่อให้เปลี่ยนเป็นโหมดป้องกันตนเอง ซึ่งโดยปกติแล้วหากไม่ร้ายแรงก็เพียงแต่แจ้งตำรวจให้เข้ามาจัดการเท่านั้น แต่หากเป็นกรณีร้ายแรงหรือตำรวจอาจมาไม่ทันการ ผู้ดูแลระบบก็สามารถเปลี่ยนหอสมุดให้เป็นโหมดป้องกันตนเองได้”
“ถึงแม้ว่าอาคารหอสมุดจะไม่ได้มีรูปร่างเป็นลูกบาศก์ แต่เมื่อเข้าสู่โหมดป้องกันตนเอง หอสมุดจะเปลี่ยนรูปร่างเป็นลูกบาศก์และจะสับเปลี่ยนห้องต่าง ๆ ของตนเองด้วยการสุ่ม คล้ายกับของเล่นที่เรียกว่ารูบิค เมื่อเป็นเช่นนี้เส้นทางต่าง ๆ ในหอสมุดจะเปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยที่แม้แต่ผู้ดูแลระบบเองก็ไม่อาจทราบได้ว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่สามารถทำให้เส้นทางกลับเป็นเหมือนเดิมได้”
“นอกจากนี้ผู้ดูแลระบบทั้งสองจะเปลี่ยนสภาพร่างกายเข้าสู่โหมดต่อสู้ ซึ่งทั้งสองจะเพิ่มความทนทานของร่างกายขึ้นอย่างมากและยังมีความสามารถพิเศษเฉพาะบุคคล โดยผู้ดูแลระบบที่ชื่อจีคอน เป็นหุ่นเพศสภาพสตรีสีน้ำเงิน มีความสามารถในการพรางตัวและต่อสู้ระยะไกลและผู้ดูแลระบบที่เป็นหุ่นเพศสภาพสตรีสีครีมที่ชื่อแมปส์ มีความสามารถในการต่อสู้ระยะใกล้ เมื่อทั้งสองรวมพลังกัน ไม่เคยปรากฏว่าการโจรกรรมของหอสมุดนี้เคยประสบความสำเร็จ” หุ่นสีดำทั้งสองมีท่าทีเคร่งเครียด ผ่านไปครู่หนึ่ง LSD จึงเอ่ยขึ้น
“แล้วท่านมีแผนอย่างไร?”
“ข้ายังพูดไม่จบ ยังไม่ได้อธิบายว่าข้อมูลที่ข้าต้องการอยู่ที่ใด”
“ข้อมูลอันตรายนั้นจะได้รับการจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ที่ตัดขาดจากเครือข่ายทั้งหมดและยังถูกเข้ารหัสไว้จึงไม่สามารถอ่านได้โดยไม่มีตัวถอดรหัส อุปกรณ์ที่ว่านี้จะอยู่ในตู้เซฟด้านหลังของผู้ดูแลระบบ”
“ผู้ที่จะถอดรหัสและเปิดตู้เซฟได้มีเพียงผู้ดูแลระบบเท่านั้นและต้องเปิดพร้อมกันสองคนด้วยการสแกนอัตลักษณ์” เอ็นเฟอร์หยุดพูดไปชั่วครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยต่อ
“สำหรับแผนการของข้า อย่างที่เจ้ารู้ว่าข้าสามารถแบ่งร่างกายออกเป็นค้างคาวตัวเล็ก ๆ ได้ มันมีประโยชน์อย่างมากในการหลบซ่อนตัว”
“ให้เจ้าทำทีเข้าไปสอบถามข้อมูลกับบรรณารักษ์หรือผู้ดูแลระบบ ส่วนข้าจะแบ่งร่างทั้งหมดเป็นค้างคาวกระจายกันอยู่ตามจุดต่าง ๆ เราต้องการให้ผู้ดูแลระบบหมดสติเพื่อนำร่างของพวกนางไปสแกนอัตลักษณ์ ดังนั้นเราจึงหลีกเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้”
“หลังจากที่เจ้าไปสอบถามได้ไม่นาน ให้เจ้าแสดงตัวออกปล้น พวกนางน่าจะแจ้งตำรวจเพราะเจ้ามาคนเดียว หลังจากที่ตำรวจมาแล้วให้เจ้าต่อสู้กับพวกมันให้ชนะ หวังว่าเจ้าจะทำได้”
“เมื่อเจ้าชนะตำรวจแล้ว พวกมันน่าจะเรียกกำลังเสริมมา แต่ข้าจะให้เจ้าพวก SUV ไปปิดกั้นเส้นทางของตำรวจไว้เพื่อถ่วงเวลา บีบให้พวกนางต้องเปลี่ยนหอสมุดเป็นระบบป้องกันตนเอง”
“เนื่องจากค้างคาวของข้าจะกระจายตัวกันอยู่ เมื่อระบบสุ่มรูบิค อย่างไรเสียก็ต้องมีค้างคาวที่อยู่ในจุดที่เหมาะสม และข้าจะใช้ค้างคาวพวกนั้นรวมร่างมาเพื่อช่วยเจ้าต่อสู้ ถึงแม้กำลังของข้าจะลดลงไปบ้างแต่ก็น่าจะเพียงพอที่จะปราบพวกนางลงได้”
“ข้าว่าแผนนี้ยังมีจุดอ่อน” LSD พูดอย่างครุ่นคิด
“ว่ามา” ดูเอ็นเฟอร์จะเป็นผู้ที่รับฟังความเห็นของผู้อื่นได้ดีทีเดียว นั่นก็เป็นเพราะมันต้องการผลลัพธ์อย่างที่สุด
“ข้อมูลจากค้างคาวยังมีว่า เมื่อเปิดโหมดป้องกันตนเอง หอสมุดจะย้ายผู้ดูแลระบบและข้อมูลอันตรายไปยังห้องควบคุมพิเศษที่มีความแข็งแรงสูง อีกทั้งยังเป็นการทำหลังจากเปิดการสุ่มรูบิค นั่นหมายความว่าเราจะต้องค้นหาห้องนี้โดยไม่มีแบบแปลนและยังต้องทำลายห้องที่มีความแข็งแรงสูงมาก ซึ่งไม่แน่ใจว่าท่านที่มีกำลังไม่เต็มที่จะทำได้หรือไม่ เนื่องจากระบบน่าจะย้ายข้าที่อยู่เบื้องหน้าพวกนางออกไปให้ห่างที่สุด เพราะน่าจะถือว่าข้าเป็นบุคคลอันตรายไปแล้ว”
“เรื่องนั้นข้าว่าไม่น่าห่วง เพราะข้ามีเจ้าอยู่” LSD ทำหน้าแปลกใจเมื่ออีกฝ่ายพูดว่าเชื่อใจเขา
“เจ้าอาจจะลืมตัวเองไปว่าแปลงร่างเป็นดาบยักษ์ได้และตัวเจ้ายังมีของมีคมอยู่ทั่วร่างกาย”
“เมื่อข้าอยู่หน้าห้องควบคุมพิเศษ ข้าจะส่งสัญญาณเรียกเจ้ามาที่ห้องนั้นและไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด ให้เจ้าทำลายผนังห้องทั้งหมดเพื่อมาหาข้าทันที แล้วช่วยข้าทำลายห้องควบคุมพิเศษ”
“เกรงว่าดาบของข้าอาจจะคมไม่พอและพลังงานของข้าก็อาจจะไม่พอ ถ้าต้องทำลายห้องหลาย ๆ ห้อง”
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าคงจะต้องเจ็บปวดนิดหน่อยกับการทำให้ดาบของเจ้ามีคมมากขึ้น” ว่าแล้วเอ็นเฟอร์แยกร่างทั้งหมดเป็นค้างคาวหลายร้อยตัว
“เอาอาวุธมีคมของเจ้าออกมา”
“อ๊ากกกกกกก” หลังเอ็นเฟอร์พูดจบ เสียงกรีดร้องนั้นก็สะท้อนไปทั่ว
บลูเวลกิลด์
จังก์แคลชเรียกประชุมทุกคนที่ทราบเรื่องการมีอยู่ของเอ็นเฟอร์ ประกอบด้วยตัวเขาเอง เกียร์ อาฟเตอร์อิมเมจ โคลเดอร์และเบิร์นนิงไฟร์
“เอ็นเฟอร์เป็นหนึ่งในศัตรูที่ไล่ล่าพวกเรามาที่ดาวของพวกนายเมื่อหลายร้อยปีก่อน” จังก์แคลชกล่าวกับโคลเดอร์ เบิร์นนิงไฟร์และจีคอน
“พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตปรสิตที่ต้องอาศัยพลังงานจากสิ่งมีชีวิตอื่น พวกมันจะไล่ล่าไปตามดวงดาวต่าง ๆ เพื่อเอาชีวิตรอด โดยทั่วไปพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตโลหะที่แปลงร่างได้และมีความสามารถพิเศษแตกต่างกันไป ในกรณีของเอ็นเฟอร์ มันแยกร่างออกเป็นค้างคาวจำนวนมหาศาลได้และยังรักษาบาดแผลของตนเองได้อีกด้วย แต่ทุกสิ่งที่เจ้าพวกนี้มีเหมือนกัน คือหากมันดูดพลังงานจากใครแล้ว มันจะควบคุมคน ๆ นั้นได้”
“เอ็นเฟอร์เป็นหนึ่งในสมาชิกของยานที่ชื่อเอ็กโซดัส ในตอนนั้นคาดว่ามันยังดูดพลังงานไม่เสร็จจึงตามมาขึ้นยานไม่ทัน เมื่อเอ็กโซดัสไล่ล่าพวกเรามาจนยานตกที่นี่ เอ็นเฟอร์จึงไม่ได้มาด้วย แต่ ณ ขณะนี้ แม้เราจะไม่ทราบว่ามันหาเส้นทางมาที่นี่ได้อย่างไร แต่มันก็ได้มาถึงที่นี่แล้ว”
“ในตอนนี้มันน่าจะยังอ่อนแออยู่และน่าจะยังไม่ฟื้นพลังเต็มที่ แต่ก็คงเหลือเวลาอีกไม่นาน ถ้ามันยังคงมีเหยื่อให้ดูดพลังงานไปเรื่อย ๆ” จังก์แคลชพักครู่หนึ่งก่อนกล่าวต่อ
“วันนั้นมันประกาศว่าจะมาล้างแค้นพวกเรา ฉันต้องขอโทษพวกนายด้วยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เพราะพวกนายมีความสัมพันธ์กับพวกฉัน มันจึงอาจจะมาทำร้ายพวกนายด้วย”
เกียร์ที่นิ่งเงียบมานานเอ่ยปากขึ้นมาบ้าง “นิสัยปกติของเอ็นเฟอร์เป็นคนรอบคอบ มันคงไม่บุ่มบ่ามเข้ามาโจมตีกิลด์ที่มีหุ่นสายต่อสู้อยู่มากมาย ฉันว่ามันน่าจะหาพรรคพวกก่อน ตอนนี้มันคงได้เจ้าหุ่นสีดำตัวนั้นเป็นพวกแล้ว ยังมีใครอื่นที่น่าจะเข้าพวกกับมันอีกไหม นอกจากพวกที่ถูกมันดูดพลังงาน”
อาฟเตอร์อิมเมจพูดขึ้นบ้าง “พวกนายลืมไปแล้วเหรอว่าสมาชิกยานเอ็กโซดัสไม่ได้ตายไปหมด ในตอนนั้นพวกเราใช้พลังที่เหลืออยู่ผนึกพวกมันไว้และให้ย้ายข้อมูลตำแหน่งไปจัดเก็บไว้ที่หอสมุดและลบข้อมูลเหล่านั้นออกจากหน่วยความจำของพวกเรา เพื่อไม่ให้มีใครตามรอยไปถึงตำแหน่งนั้นได้”
เกียร์และจังก์แคลชพยักหน้า “เรื่องราวมันนานเกินไปจริง ๆ”
เบิร์นนิงไฟร์ทำหน้าครุ่นคิดและเอ่ยขึ้นว่า “ผมว่าที่หอสมุดก็น่าจะมีระบบความปลอดภัยหรือเปล่าครับ ข้อมูลสำคัญขนาดนี้”
“พี่เบิร์นนิงไฟร์สนิทกับพี่จีคอนไม่ใช่เหรอครับ ผมว่าลองติดต่อพี่จีคอนไปว่าเราจะรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไง” โคลเดอร์กล่าว
“ใช่ เราคงต้องทำแบบนั้น ตกลงตามนี้นะครับทุกคน” เบิร์นนิงไฟร์กล่าวจบและทุกคนพยักหน้ารับ จากนั้นเขาจึงติดต่อกับจีคอนเพื่อแจ้งสถานการณ์ให้เธอทราบและนัดหมายเพื่อวางแผนรับมืออีกครั้ง