"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

Undead War สงครามคนเป็น - ตอนที่ 3 มีอะไรให้คิดอีกเยอะ โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Undead War สงครามคนเป็น

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย

รายละเอียด

Undead War สงครามคนเป็น โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

โรคระบาดยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน หมอทุกคนตายกันไปหมดแล้ว ความหวังดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสุดท้าย ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ไร้แสงสว่างและไร้สิ้นสุด พวกซอมบี้ต่างคอยจะได้กัดกินเนื้อมนุษย์อย่างกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่พวกมันอยู่เต็มไปหมด 

 

แต่ความหวังก็ยังไม่หมดไป เมื่อผมสามารถเอาชนะเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ร่างกายของผมเกิดกลายพันธุ์และสามารถแปลงกายเป็นซอมบี้ได้ตลอดเวลา นั่นทำให้ผมวิวัฒนาการไปอีกขั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้

สารบัญ

Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 1 ณ จุดเกิดเหตุ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 2 มื้อเช้าสองพ่อลูก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 3 มีอะไรให้คิดอีกเยอะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 4 จุดกำเนิดฝันร้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 5 หัวใจที่เน่าสลาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 6 เข้าสู่กลียุค,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 7 นาทีหลบหนี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 8 กลิ่นคาวเลือดที่หอมหวาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 9 ไปให้ถึงเซฟเฮาส์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 10 สำรวจพื้นที่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 11 ฟาร์มของ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 12 ยื่นหมูยื่นแมว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 13 RED RIGHT HAND,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 14 หญิงสาวปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 15 สีขาวที่แปดเปื้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 16 หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 17 เสียงกระซิบ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 18 หน้ากากหนังมนุษย์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 19 กลายร่าง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 20 หนึ่งต่อร้อย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 21 เสียงประสานลมหายใจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 22 เสียงเพรียกแห่งความทรงจำ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 23 น้ำตาที่ไร้ความชุ่มชื้น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 24 จากที่ต่ำ…ขึ้นสู่ที่สูง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 25 ชายส่งสาส์นปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 26 ถอยหลังเพื่อเริ่มต้นใหม่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 27 ลางร้ายเริ่มปรากฏ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 28 อสูรไร้เทียมทาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 29 ความรู้สึกที่ซับซ้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 30 ฮาวทูมูฟออน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 31 ไวท์เว็ดดิ้งและผู้มาเยือน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 32 หมาป่าที่แต่งตัวด้วยขนแกะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 33 สิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 34 ศัตรูที่ไม่อยากจะสู้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 35 ละทิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 36 โลกที่เปลี่ยนไปเมื่อลืมตาตื่น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 37 ผู้ครอบครองพลังซอมบี้คนที่สอง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 38 ทุ่มสุดตัวเพื่อรอยข่วน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 39 พัฒนาโหมดซอมบี้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 40 เมล็ดพันธุ์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 41 พื้นที่จำกัด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 42 เบื้องหลังของนิว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 43 เตรียมบุก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 44 ก่อนการบุกโจมตี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 45 ชีวิตที่ไร้ค่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 46 อดีตปะทะปัจจุบัน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 47 แบล็กเว็ดดิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 48 มนุษย์คือสัตว์ประเสริฐจริงหรือ?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 49 ออรัลบนรถ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 50 วัดป่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 51 พระสงฆ์รูปสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 52 อมตะไม่มีจริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 53 เป้าหมายเพื่อเอาชีวิตรอด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 54 ตะลุมบอน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 55 ยอมแพ้เสีย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 56 ผู้นำที่อ่อนแอไม่มีวันเป็นทรราช,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 57 ขอเรียกร้องจากผู้ใหญ่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 58 โครงการทั้งห้า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 59 สงครามคนเป็น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 60 ผู้ป่วยโรคระบาดที่ก้าวราวเกเรมาก ๆ และรอการรักษา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 61 ความรักที่เกินกว่าค่าอนันต์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 62 คำตอบค่าเอ็กซ์ในสมการ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 63 ยุทธการทุบหม้อข้าว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 64 นักฆ่าลูกตำรวจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 65 กัปตันไทยแลนด์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 66 ความแข็งแกร่งที่แท้จริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 67 ประกาศชัยชนะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 68 การมาถึงของเบื้องบน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 69 ข้อเสนอที่ดูเป็นธรรม?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 70 นักวิทยาศาสตร์สันหลังยาว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 71 กุญแจสู่การสร้างวัคซีน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 72 สงครามครั้งสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 73 พร้อมสละทุกอย่างเพื่อคนรัก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 74 การเสียสละกำเนิดวีรบุรุษ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 75 วันครบรอบวันตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 76 ชีวิตหลังความตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 77 จากไปแล้วหวนคืน (ตอนอวสาน)

เนื้อหา

ตอนที่ 3 มีอะไรให้คิดอีกเยอะ

การเบียดกันอยู่ในรถไฟฟ้าราวกับว่าเป็นนรกและสวรรค์รวมกัน ในกรณีที่คุณเป็นผู้ชายและคุณเบียดกับผู้หญิงสวย ๆ ตรงสเปกของคุณทุกอย่างหรือยืนอยู่ใกล้กับเด็กมัธยมน่ารัก ๆ (คุกซะแล้วกู) และยืนอยู่ท่ามกลางแอร์เย็น ๆ นั่นคือสวรรค์ 

แต่ถ้าเป็นนรกล่ะ…มันเป็นยังไง…?

มึงต้องยืนเบียดกับพนักงานบริษัทอ้วน ๆ ใส่เสื้อเชิ้ตคับ ๆ ที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเหม็น ๆ ซึ่งกูกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต่างอะไรกับตกนรก แม้ว่าผมจะสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร แต่มือก็ยังสามารถเอื้อมถึงห่วงในรถไฟฟ้าได้ แต่ทุกครั้งที่รถไฟมันเบรกกะทันหัน แม้ว่ามันจะมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้เพียงน้อยนิดเท่านั้น มันก็ทำให้ใบหน้าของผมจุ่มเข้าไปที่หน้าอกแก่ ๆ ย้อย ๆ เปื้อนเหงื่อเหม็น ๆ นั้นจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ใบหน้าอันอวบอ้วนของเขานั้นก็ไม่ได้แคร์อะไรผมเลยแม้แต่น้อย แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ผมเจอมาตลอดเวลาเดินอยู่ในเมือง สายตาของเขาสื่อถึงความเห็นแก่ตัวของตัวเองที่ปล่อยให้ตัวเองอ้วนแล้วมาเดือดร้อนผู้อื่นในรถไฟฟ้าทั้ง ๆ ที่พื้นที่ตรงนั้นสามารถมีคนไปยืนได้ถึงสี่คนเลยทีเดียว 

สถานีต่อไป…สยาม” เสียงผู้ประกาศพูดออกลำโพงหลังเสียงสัญญาณ นั่นหมายความว่ามันถึงสถานีที่ผมจะต้องลง รถไฟฟ้าเริ่มชะลอเพื่อไปจอดเทียบที่ชานชาลา ผู้โดยสารแต่ละคนที่กำลังจะลงที่สถานีนี้เริ่มมีปฏิกิริยาอย่างหนึ่งที่ทุก ๆ เช้าก่อนไปโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ทุก ๆ คนจะอยู่ในท่าที่พร้อมพุ่งตัวออกไปกันอย่างพร้อมเพรียง เมื่อประตูเปิด เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ยืนรออยู่ที่ชานชาลาเสียมารยาทพุ่งสวนทางเข้ามา คนข้างในก็ต้องถือโอกาสพุ่งสวนออกไปก่อนและผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ต้องแหวกกองทัพมนุษย์เหงื่อออกมา

ในที่สุดก็มาถึงซะที ผมเดินไปที่วินมอเตอร์ไซค์บอกให้เขาพาไปที่มหาวิทยาลัย ซึ่งพี่วินคนนี้ก็รู้จักผมเป็นอย่างดี เพราะผมใช้บริการเขาตั้งแต่สมัย ม. ปลายเขาแต่งตัวเหมือนกับทุก ๆ วันด้วยเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินซีดแขนสั้น มีเสื้อกั๊กสีส้มสวมทับเพื่อให้รู้ว่ากูคือวินมอเตอไซด์นะ 

“ไปมอครับพี่เบียร์” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อย ๆ 

“ว่าไงไอ้น้องชาย วันนี้ไปเรียนเหรอ?” พี่เบียร์ถามด้วยเสียงสดใส พลางขยับรถจักรยานยนต์มาให้ผมขึ้นซ้อน

“ใช่พี่” ผมยิ้มแหยะ ๆ พร้อมวาดขาขึ้นซ้อนรถจักรยานยนต์เหมือนทุกครั้ง

“วันนี้ได้ข่าวว่าบีทีเอสคนเยอะมากเลยนี่” พี่เบียร์สตาร์ทเครื่องยนต์

“มีคนมาบอกเหรอ” ผมถาม

“ก็ลูกค้าพี่หลายคนเข้ามาก็บ่นใส่อย่างเดียวเลย” พี่เบียร์เร่งเครื่องทะยานออกไปบนถนน “พี่ก็ไม่รู้จะพูดยังไง ก็ทำได้แต่ทำหน้าที่ตัวเองและรับฟัง แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร ก็แค่รับฟัง พอถึงที่หมายก็รับเงินแล้วก็กลับมาที่นี่ ก็จบ”

“ฟังดูง่ายดีนะพี่” ผมกลอกตามองบน

“ชีวิตที่คิดมาก อยู่ไปก็เครียดเปล่า ๆ” 

“มันก็จริง…”

ใช่…มันก็จริง…ปกติผมเป็นคนที่คิดอะไรมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่มันก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความคิดอยู่แล้ว จะไปห้ามให้ไม่คิดเลยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าคิดแล้วไม่พูดออกมามันก็อีกเรื่อง แล้วเอาไประบายที่อื่น เหมือนตัวผมที่กำลังระบายอยู่ตอนนี้ หมายถึงพิมพ์ในมือถือ เพราะบางทีการพูดอะไรที่เราคิดออกไปมันก็สามารถทำร้ายคนได้ แต่ในทางกลับกันมันก็สามารถกลายเป็นดาบสองคมที่จะย้อนมาทำร้ายเราในภายหลังได้เหมือนกัน

การใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์มันมีข้อดีอยู่อย่างตรงที่ว่า เราไม่ต้องมารถติดให้เสียอารมณ์ แต่ข้อเสียก็คือผมเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดเนื่องจากควันที่ออกมาจากท่อไอเสียของรถที่ลอยขึ้นมามันก็สามารถทำอันตรายให้ได้เหมือนกัน ซึ่งทุกครั้งที่ผมใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ผมก็ต้องเอามือปิดปากปิดจมูกตลอดเวลา ซึ่งผมก็ใช้บริการพี่เบียร์มาตั้งแต่สมัย ม.ปลาย สงสัยเชื้อมะเร็งคงเริ่มก่อตัวแล้วล่ะมั้ง

ผมมาถึงมหาวิทยาลัยในไม่กี่อึดใจ เพราะพี่เบียร์แกเป็นเซียนขับมอเตอร์ไซค์แถวย่านพระรามสี่แห่งนี้ ซึ่งทำให้แกรู้ทุกซอกทุกมุม เปรียบดั่งพี่แกได้เขมือบแผนที่ไปหมดทั้งเขต เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน พี่เบียร์แกก็พาไปได้ทุกที่โดยไม่ถามสักคำว่าต้องผ่านทางไหน เนื่องจากพี่แกรู้เส้นทางที่สามารถใช้เป็นทางลัดได้หมดทุกเส้น นี่แหละเขาเรียกว่า ไม่เอาเปรียบลูกค้า แม้ลูกค้าจะเอาเปรียบเรา!

หลังจากที่จ่ายเงินพี่เบียร์ไปสามสิบบาท ผมมองนาฬิกาตัวเอง ปรากฏว่าตอนนี้เวลาสิบโมงครึ่ง นั่นก็หมายความว่าผมเข้าเรียนสายอีกแล้ว แต่ตามกฏงี่เง่าของมหาวิทยาลัยที่ต้องเข้าเรียนให้ตรงเวลาและถ้ามาช้าเกินสิบห้านาที อาจารย์ก็จะเช็คชื่อให้ เลท ไป ส่วนถ้ามาหลังจากนั้นก็กลายเป็นขาดทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมกำลังโดนอยู่ ณ ตอนนี้ แต่ก็นะ พื้นที่ในมหาวิทยาลัยออกจะกว้าง จะเดินไปไหนมาไหนก็ได้ไม่มีใครว่า ผมเห็นผู้คนที่เดินไปเดินมา ฟันธงได้เลยว่าส่วนน้อย ๆ ส่วนนั้นอาจจะเดินไปอย่างไม่มีจุดหมาย แต่ผมเหรอ…

ผมเดินไปเซเว่นดีกว่า…

ยิ่งเข็มสั้นของนาฬิกาเข้าใกล้เลขสิบสองเมื่อไหร่ อากาศก็ยิ่งร้อนมากเท่านั้น แดดเริ่มแผดเผาพื้นปูนจนร้อน แต่ก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้เพราะใส่รองเท้า แต่ทว่าแดดมันสามารถแผดเผาทั้งร่างกายได้อย่างช้า ๆ มันจะพยายามทรมานเราให้ละลายอย่างช้า ๆ จนไม่เหลือแม้แต่กระดูก…บ้าไปกันใหญ่แล้ว ก็เดินในที่ร่มสิ มันจะไปยากอะไร ผมเดินออกมาจากเซเว่นพร้อมกับถุงพลาสติกที่ใส่ของกินสำหรับมื้อเที่ยง ซึ่งผมก็ซื้อมาเยอะอยู่เหมือนกัน ถ้าหากคิดว่าผมไม่มีที่ที่จะไปอยู่ก็คิดผิด เพราะว่าตึกคณะของผมนั้นมีห้องหนึ่งที่สามารถให้นักศึกษาเข้าไปนั่งเล่นได้ แม้ว่าผมจะอยู่ได้แค่ไม่กี่เดือน แต่ก็อย่าดูถูกความสามารถในการหลงนะครับ 

ตึกคณะนิเทศศาสตร์แตกต่างจากตึกคณะอื่นตรงที่ว่าคณะของผมนั้นไม่เน้นความหรูหราอะไรมาก แต่จะเน้นเอางานของนักศึกษามาตั้งโชว์เพื่อแสดงว่าเป็นเอกลักษณ์ของทางคณะและเป็นตัวอย่างให้รุ่นน้องรุ่นต่อ ๆ ไป ซึ่งก็คือรุ่นของผมนั่นเอง แม้ว่าผมจะอยู่คณะนิเทศก็จริง แต่ก็ไม่ได้มีความสามารถในด้านสื่อเลยแม้แต่นิดเดียว ที่ผมยอมมาอยู่คณะนี้เป็นเพราะว่าผมอยากจะเรียนจบให้ไวที่สุด แล้วหางานทำเป็นตัวเป็นตนเพื่อเลี้ยงที่บ้าน ผมเดินตรงไปยังลิฟต์แต่สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็คือ ภาพนักศึกษาที่กำลังยืนต่อแถวเพื่อขึ้นลิฟต์ยาวเหยียด รวมถึงอาจารย์ที่กำลังจะขึ้นไปสอนก็เดือดร้อนไปตาม ๆ กัน

“คือ…เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ” ผมถามหญิงสาวร่างบางที่อยู่ด้านหน้าของผม

“เห็นบอกว่าลิฟต์เสียน่ะค่ะ คงจะไปเรียนไม่ได้สักชั่วโมง” เธอตอบพร้อมกับหันหน้ามาหาผม เชื่อเถอะว่าตอนนั้น เวลารอบตัวผมถูกเปลี่ยนให้ช้าลงกว่าปกติหลายเท่า นั่นฟาง เธอเป็นดาวคณะ ให้ตายสิ ผมได้คุยกับดาวคณะ!! แต่ก็นะ เธอเป็นคนที่เฟรนด์ลี่ มีคนคุยตั้งหลายคน เพื่อนก็เยอะ โด่งดังที่สุดในคณะ ลูกครึ่งไทย-เกาหลี แถมยังเป็นดาราอีกด้วย ชีวิตของผมมาถึงจุดนี้ได้ยังไง!! แต่ก็นะ มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว หญิงสาวสูงน้อยกว่าผมนิดหน่อย ร่างกายผอมบางจนไม่กล้าจะแตะต้องเพราะกลัวว่าเธอจะแหลกสลาย ใบหน้าอันเรียวงามของเธอ ดวงตาที่เป็นประกาย จมูกเป็นสันโค้งที่รู้ว่าเธอไปทำมาแน่ ๆ และริมฝีปากที่อมชมพูนั่น และผิวพรรณที่ขาวเปล่งประกายจนไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยาย เอาเป็นว่าเธอสวยก็แล้วกัน

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” เธอเอียงศีรษะไปทางขวาเล็กน้อยอย่างงงงวย

“อ๊ะ! เปล่า ๆ ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่คิดอะไรหน่อยเท่านั้นเองครับ” ผมยิ้มแหยะ ๆ 

“เอ๋…? รู้สึกเขินที่ได้คุยกับฉันงั้นเหรอ…?”

….

เอ๋…?

เธออ่านใจได้งั้นเหรอ…?

สักพักนางก็หัวเราะคิก ๆ ให้ตายสิ น่ารักชะมัด

“ขอโทษทีนะ พอดีเราเป็นคนมีความสามารถในเรื่องของการอ่านใจคนน่ะ หวังว่าคงไม่ได้ไปอ่านอะไรที่เป็นความลับของคุณหรอกนะคะ” เธอทำสีหน้าเศร้าเล็กน้อย

“นั่นเป็นคำพูดของผมมากกว่า แต่เดี๋ยวนะ…?” ผมชะงักไปครู่หนึ่ง “อ่านใจงั้นเหรอ?”

“ใช่แล้ว…”

ติ๊งงง!! ลิฟต์ทำงานแล้ว นักศึกษาที่อยู่ ณ บริเวณนั้นต่างพากันดีใจ เพียงหนึ่งวินาทีก่อนที่จะถาถมเบียดกันเข้าไปในลิฟต์โดยไม่ปรานีใครทั้งนั้น ฟางที่หันมองก็เริ่มลุกลี้ลุกลน

“โอ๊ย! ขอโทษนะคะ แต่ฉันรีบจริง ๆ น่ะค่ะ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ยังอยากจะคุยต่อน่ะค่ะ รบกวนขอไลน์ได้ไหมคะ?” ผมได้ยินดังนั้นจึงรีบควัก
มือถือขึ้นมา แต่กลับหล่นลงพื้นด้วยความไม่ระมัดระวังของตัวเอง โชคดีที่มันไม่เป็นอะไร ผมจึงยื่นมือถือให้เธอ หญิงสาวได้เพิ่มเพื่อนในไลน์ของเธอแล้วส่งมือถือมาให้ผมอย่างเร่งรีบ จากนั้นก็รีบวิ่งตรงเข้าไปในลิฟต์ทันที ปล่อยให้ผมยืนนิ่งหน้าแดงอยู่ตรงนั้น 

ในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิด ผมลองเธอผ่านช่องว่างที่แคบลงเรื่อย ๆ และเชื่อหรือไม่ว่า เธอยิ้มและโบกมือให้ผมก่อนที่ประตูลิฟต์เหล็กกล้านั้นจะปิดลง

___________________________________________________

To Be Continue Ep.4