"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"
แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Undead War สงครามคนเป็น"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"
โรคระบาดยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน หมอทุกคนตายกันไปหมดแล้ว ความหวังดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสุดท้าย ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ไร้แสงสว่างและไร้สิ้นสุด พวกซอมบี้ต่างคอยจะได้กัดกินเนื้อมนุษย์อย่างกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่พวกมันอยู่เต็มไปหมด
แต่ความหวังก็ยังไม่หมดไป เมื่อผมสามารถเอาชนะเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ร่างกายของผมเกิดกลายพันธุ์และสามารถแปลงกายเป็นซอมบี้ได้ตลอดเวลา นั่นทำให้ผมวิวัฒนาการไปอีกขั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้
“อะไรนะ!?” สีหน้าของไรท์เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่ตรงกับสิ่งที่คาดว่าจะได้ยินในหัวของตัวเอง ตอนนี้ทุกอย่างที่มันกำลังชักใยเริ่มขาดลงแล้ว การควบคุมของมันเริ่มสูญเสียความสมดุลของตัวเองไปแล้ว ไม่น่าเชื่อเพียงไม่กี่คำที่ออกจากปากของนิวจะทำให้หัวหน้าแก๊งนักเลงสยามนั้นถึงกับเหวอไปข้างนึงเลยทีเดียว
“กูบอกว่ากูปฏิเสธข้อตกลงของพวกมึงทั้งหมดไง” เขาพูดดังขึ้นอีกเพื่อให้พวกมันรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น ใบหน้าของนิวนิ่งเรียบ แต่คิ้วของเขากระตุกหลายรอบมาก เหมือนกับว่ากำลังจะไม่แสดงสีหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ไรท์แสร้งยิ้ม
“แบบนี้ก็แย่น่ะสิ” เขาพูด “แย่สำหรับมึงนะ เพราะว่าตอนนี้กูมีตัวประกันถึงสองคน แถมผู้หญิงคนนี้ แค่กูเผลอกดไกอูซี่แสนน่ารักของกูขึ้นมา หัวของเพื่อนมึงระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ แน่นอน”
“มึงอย่าทำแบบนั้นนะเว่ย!!” นัทโวยวาย
“เฮ้ย! บอกให้มันเงียบหน่อยสิวะ! เดี๋ยวพวกซอมบี้ก็แห่กันมาหรอก!” ไรท์ดุสมาชิกในแก๊ง ในจังหวะนั้นกิ๊บถือโอกาสรอดของตัวเองกัดเข้าที่แขนของไรท์จนจมเขี้ยว เมื่อไรท์รู้สึกถึงแรงกัดของหญิงสาวจึงเหวี่ยงร่างของหญิงสาวออกไปพร้อมกับตบเข้าที่ใบหน้าฉาดใหญ่และใช้เท้าสกปรกของมันถีบร่างของกิ๊บกระเด็นไปนอนกับพื้นอย่างโกรธจัด
“อีกะหรี่นี่มันกัดกู!” ไรท์สบถออกมาพร้อมมองรอยกัดของหญิงสาวซึ่งตอนนี้เป็นแผลเลือดไหวซิบ ๆ
ปัง!
เสียงปืนไรเฟิลซุ่มยิงของฟางดันสนั่นทั่วบริเวณ กระสุนบินลอยแหวกอากาศมา ผ่านพวกผมไปถูกที่แขนของไรท์ทันที แผลที่ถูกยิงด้วย
ปืนสไนเปอร์นั้นแรงพอที่จะทำให้กระสุนทะลุแขนของเข้าไปเจาะที่ท้องของมัน ไรท์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พวกซอมบี้เริ่มเข้ามาในแสงสว่าง ซึ่งในความเป็นจริงพวกมันได้ยินเสียงตั้งแต่นัทโวยวายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นิววิ่งเข้าไปทันที เขาเล็งปืนไปที่ลูกน้องของไรท์ทั้งหมดแล้วกราดยิงอย่างไม่ปรานี กระสุนลูกปรายกว่าร้อยนัดที่แตกออกมาจากกระสุนลูกซองลอยแหวกอากาศด้วยความเร็วแสงเข้าเป้าไปเกือบทุกนัด ทำให้สามารถล้มไปสองคน ส่วนที่เหลือนั้นหลบไปเข้าไปอยู่ด้านหลังของตัวประกัน
เมื่อเห็นนิวทำแบบนั้นผมจึงทำตาม ผมยิงกระสุนกราดไปเช่นกัน แต่พยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้กระสุนเข้าไปถูกร่างของตัวประกันแม้แต่นัดเดียว ซึ่งการทำแบบนั้นมันเป็นการกระทำที่ยากต่อการควบคุมแรงเหนี่ยวของปืนมากมาย แต่ในใจผมยังภาวนาไม่ให้เพื่อและตัวประกันอีกคนหนึ่งเป็นอะไรไป พอถึงระยะประชิด นิวจับที่ปลายกระบอกปืนลูกซองของตัวเองก่อนที่จะใช้มันฟาดไปที่ลูกน้องของมันที่ถือไม้เบสบอลทันที และได้ประดาบกับคนที่ถือมีดมาเชเต้ ก่อนที่จะใช้มีดสั้นของตัวเองแทงเข้าที่ใต้คางจนมิดด้ามทะลุไปถึงสมอง ผู้ที่ถูกแทงถึงกับตาเหลือกและล้มลงไปนอนคว่ำกับพื้นอย่างน่าอนาถ ส่วนมีดนิวได้ชักออกมาอย่างรวดเร็วด้วยพละกำลังที่แข็งแกร่งของตัวเอง เมื่อผมเข้าไปถึงตัวพวกมันและทิ้งปืนไรเฟิลเพราะกิ๊บเคยบอกว่าปืนไรเฟิลจะใช้ลำบากมากในระยะประชิด ให้ใช้มีดจะเป็นการดีที่สุด
ผมชักมืดออกมาจากชองใส่มีดที่ต้นขาหนึ่งเล่มแล้วแทงเข้าที่ท้องของคนที่ถือปืนพกเถื่อนทันที!
อ่า…มือผมเปื้อนเลือดแล้ว
ตอนนี้ในหัวของผมมันโล่งไปหมด โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองนั้นกำลังกระหน่ำแทงศพของลูกน้องของไรท์ที่ถือปืนเถื่อนนั้นอย่างเลือดเย็น อ่าา…กลิ่นเลือดนี่มันหอมจริง ๆ รู้สึกอยากจะกลืนมันลงคอจริง ๆ!!
“ไอ้เอ็น!!” เสียงหนึ่งเรียก แต่มันฟังดูเบลอจริง ๆ แต่ผมจำเสียงนั้นได้ มันเป็นเสียงของนิวนั่นเอง! “ไปได้แล้ว เราช่วยนัทและกิ๊บได้แล้ว รีบไปกันเถอะ พวกซอมบี้ก็เริ่มทยอยเข้ามากันแล้ว!”
ผมได้สติทันที เห็นกิ๊บกับนิวกำลังหามร่างของนัทอยู่ เมื่อทั้งสองเห็นว่าผมได้สติแล้ว กิ๊บใช้มือข้างที่เหลือฉุดให้ผมลุกขึ้นมา ก่อนที่ผมจะออกวิ่งไปกับพวกพ้อง จู่ ๆ เสียง ๆ หนึ่งทำให้ผมอยู่วิ่งทันที
“ชะ…ช่วย…ด้วย…” เป็นเสียงเล็ก ๆ ที่ไม่น่าจะมีใครได้ยิน
แต่ผมกลับได้ยิน…
เพียงเสี้ยววินาทีที่มีเวลาให้ผมมีเวลาตัดสินใจ
ผมวิ่งกลับไปมานักโทษหญิงคนนั้นทันที เธอมีสภาพที่ดูแย่มาก บาดแผลเต็มร่างกายที่สกปรกและเต็มไปด้วยดินโคลนและสิ่งปฏิกูลมากมาย ผมสีทองของเธอยุ่งเหยิง เสื้อผ้าสกปรกและขาดวิน ใบหน้าดูเลื่อนลอยเหมือนกับว่าจิตวิญญาณของเธอนั้นถูกย่ำยีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมใช้มีดอีกเล่มตัดเชือกทั้งเส้นออก เมื่อร่างกายของเธอหลุดจากพันธนาการ ผมจึงแบกเธอวิ่งหนีไปยังรถและไม่ลืมที่จะคว้ากระเป๋าอาวุธและอาหารติดมือไปด้วย น่าแปลกใจอีกตรงที่แรงของผมสามารถแบกร่างหญิงสาวไว้บนบ่าและอีกมือถือกระเป๋าที่หนักกว่ายี่สิบกิโลกรัมในมือเดียวอย่างง่ายดาย ตอนนี้ผมไม่มีเวลาที่จะมานั่งคิดเล็กคิดน้อยอะไรแล้ว เธอกำลังจะตายในไม่ช้า ถ้าผมไม่ตัดสินใจจะช่วยเธอและหนีออกไปจากที่นี่เสีย ขาของผมอยากจะให้วิ่งหนีออกไปจากที่นี่ซะ แต่สัญชาตญาณของผมไม่เห็นด้วย
“แม่งเอ๊ย!” ผมสบถออกมา
จากนั้นเท้าของผมก็ถีบตัวออกจาก ณ จุดนั้นทันที ซอมบี้นั้นมาทุกทิศทาง แต่รถของเราที่ดั่งเป็นตั๋วที่จะพาเราออกไปจากที่นี่นั้นได้จอดรออยู่แล้ว ผู้โดยสารทุกคนกำลังรอการมาถึงของผมอยู่ แต่การที่ต้องแบกของหนักไว้ตั้งสามอย่างนั้นแทบทำให้วิ่งไม่ถนัดเลย ผมเห็นฟางวิ่งถือปืนไรเฟิลซุ่มยิงเข้ามา จากนั้นเธอก็เล็งมาทางผม...เดี๋ยวสิ...
เธอทำอะไรน่ะ...?
จากนั้น เธอก็ลั่นไกปืนทันที ด้วยความที่เธอไม่เคยได้ยิงปืนทำให้ถูกแรงถีบของปืนกระแทกเข้าที่ร่างกายอย่างจังจนหงายหลังลงไปนอนกับพื้น กระสุนปืนของไรเฟิลพุ่งผ่านผมไปเจาะทะลุหัวของซอมบี้ประมาณสี่ห้าตัวพร้อมกันที่กำลังจะเข้ามากัดผมให้ได้ ผมไม่ได้มีพลังวิ่งเร็วจนขนาดสามารถวิ่งได้เหมือนควิกซิลเวอร์สักหน่อย ส่วนนิวได้เห็นฟางล้ม เขาพุ่งเข้าไปรับตัวแฟนสาวทันทีและอุ้มไปนั่งด้านข้างคนขับ กิ๊บแบกนัทมานั่งบนรถเรียบร้อยและใช้ปืนที่อยู่ในรถยิงกราดพวกซอมบี้อย่างบ้าคลั่ง
เธอไม่เคยเจอฝันร้ายที่ร้ายขนาดนี้มาก่อน ปลอกกระสุนสีทองลอยออกจากกระบอกปืนหลังจากได้ทำหน้าที่มัจจุราชของมันเสร็จสิ้นไม่หยุดหย่อนราวกับว่ามันจะกระเด็นออกมาเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้จบ เธอกดที่ไกปืนอย่างแน่นไม่หวังจะให้นิ้วอันเรียวสวยนั้นหลุดจากมันเด็ดขาด ผลจากการกระทำของกิ๊บทำให้ซอมบี้ที่อยู่บริเวณนั้นไม่ค่อยลดมากสักเท่าไหร่ เพราะเธอทำได้แต่ยิงกราดจนไม่ได้เล็งเข้าที่หัว นิวจึงใช้ปืนพกคู่เป่าสมองพวกมันทีละตัว ทีละตัว จนสามารถทำให้จำนวนของมันลดลงอย่างง่ายดาย
ส่วนผมที่ยังคงวิ่งอยู่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเริ่มหมดแรงแล้ว ขาของผมเริ่มอ่อนแรง แต่ระยะทางมันอีกไม่ถึงสิบเมตรก็ถึงแล้ว ผมจึงฝืนขาของตัวเองโดยการถีบส่งตัวด้วยแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่พุ่งไปยังจุดที่รถจอดทันที
นิวพยายามยิงตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดจนตอนนี้เราสามารถมีเวลาเหลือพอที่จะขับรถหนีออกไปจากที่นี่ได้แล้ว
“นิวมาแล้ว! กิ๊บหยุดยิง! ได้เวลาไปกันแล้ว!” ดูเหมือนกิ๊บจะไม่ฟัง เธอยิงกราดไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายแล้วกระสุนก็หมด ด้วยความที่เธอบันดาลโทสะขึ้นมาเอง เธอโกรธจนแทบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้วจึงโดยปืนในมือทั้งหมดใส่พวกมัน ซึ่งใคร ๆ ก็รู้ว่ามันเป็นการกระทำที่ดูเหมือนเป็นการฆ่าตัวตายทางอ้อม ผมเห็นว่ามันไม่ดีแล้ว ผมจึงวางหญิงสาวปริศนาไว้ข้าง ๆ นัทที่ตอนนี้หมดสติไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จากนั้นผมจึงพุ่งเข้าไปอุ้มกิ๊บที่เริ่มคำรามอย่างบ้าคลั่งอย่างคนเสียสติ เมื่อนิวเห็นดังนั้นจึงโล่งอก เขาจึงกลับขึ้นมานั่งบนรถและขับออกไปจากสถานที่แห่งนั้นทันที
รถพุ่งทยานออกไปชนกับพวกซอมบี้และออกจากสยามสแควร์ทันที ในระหว่างนั้น ผมมองที่มือขวาของตัวเอง มีเลือดสีแดงสดเปื้อนอยู่พลางครุ่นคิด
เราฆ่าคนไปแล้ว...มือเปื้อนเลือดซะแล้วสิ...
_____________________________________________________
To Be Continue Ep.14