"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

Undead War สงครามคนเป็น - ตอนที่ 18 หน้ากากหนังมนุษย์ โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Undead War สงครามคนเป็น

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย

รายละเอียด

Undead War สงครามคนเป็น โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

โรคระบาดยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน หมอทุกคนตายกันไปหมดแล้ว ความหวังดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสุดท้าย ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ไร้แสงสว่างและไร้สิ้นสุด พวกซอมบี้ต่างคอยจะได้กัดกินเนื้อมนุษย์อย่างกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่พวกมันอยู่เต็มไปหมด 

 

แต่ความหวังก็ยังไม่หมดไป เมื่อผมสามารถเอาชนะเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ร่างกายของผมเกิดกลายพันธุ์และสามารถแปลงกายเป็นซอมบี้ได้ตลอดเวลา นั่นทำให้ผมวิวัฒนาการไปอีกขั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้

สารบัญ

Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 1 ณ จุดเกิดเหตุ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 2 มื้อเช้าสองพ่อลูก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 3 มีอะไรให้คิดอีกเยอะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 4 จุดกำเนิดฝันร้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 5 หัวใจที่เน่าสลาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 6 เข้าสู่กลียุค,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 7 นาทีหลบหนี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 8 กลิ่นคาวเลือดที่หอมหวาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 9 ไปให้ถึงเซฟเฮาส์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 10 สำรวจพื้นที่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 11 ฟาร์มของ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 12 ยื่นหมูยื่นแมว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 13 RED RIGHT HAND,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 14 หญิงสาวปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 15 สีขาวที่แปดเปื้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 16 หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 17 เสียงกระซิบ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 18 หน้ากากหนังมนุษย์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 19 กลายร่าง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 20 หนึ่งต่อร้อย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 21 เสียงประสานลมหายใจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 22 เสียงเพรียกแห่งความทรงจำ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 23 น้ำตาที่ไร้ความชุ่มชื้น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 24 จากที่ต่ำ…ขึ้นสู่ที่สูง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 25 ชายส่งสาส์นปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 26 ถอยหลังเพื่อเริ่มต้นใหม่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 27 ลางร้ายเริ่มปรากฏ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 28 อสูรไร้เทียมทาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 29 ความรู้สึกที่ซับซ้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 30 ฮาวทูมูฟออน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 31 ไวท์เว็ดดิ้งและผู้มาเยือน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 32 หมาป่าที่แต่งตัวด้วยขนแกะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 33 สิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 34 ศัตรูที่ไม่อยากจะสู้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 35 ละทิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 36 โลกที่เปลี่ยนไปเมื่อลืมตาตื่น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 37 ผู้ครอบครองพลังซอมบี้คนที่สอง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 38 ทุ่มสุดตัวเพื่อรอยข่วน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 39 พัฒนาโหมดซอมบี้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 40 เมล็ดพันธุ์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 41 พื้นที่จำกัด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 42 เบื้องหลังของนิว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 43 เตรียมบุก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 44 ก่อนการบุกโจมตี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 45 ชีวิตที่ไร้ค่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 46 อดีตปะทะปัจจุบัน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 47 แบล็กเว็ดดิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 48 มนุษย์คือสัตว์ประเสริฐจริงหรือ?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 49 ออรัลบนรถ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 50 วัดป่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 51 พระสงฆ์รูปสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 52 อมตะไม่มีจริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 53 เป้าหมายเพื่อเอาชีวิตรอด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 54 ตะลุมบอน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 55 ยอมแพ้เสีย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 56 ผู้นำที่อ่อนแอไม่มีวันเป็นทรราช,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 57 ขอเรียกร้องจากผู้ใหญ่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 58 โครงการทั้งห้า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 59 สงครามคนเป็น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 60 ผู้ป่วยโรคระบาดที่ก้าวราวเกเรมาก ๆ และรอการรักษา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 61 ความรักที่เกินกว่าค่าอนันต์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 62 คำตอบค่าเอ็กซ์ในสมการ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 63 ยุทธการทุบหม้อข้าว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 64 นักฆ่าลูกตำรวจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 65 กัปตันไทยแลนด์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 66 ความแข็งแกร่งที่แท้จริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 67 ประกาศชัยชนะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 68 การมาถึงของเบื้องบน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 69 ข้อเสนอที่ดูเป็นธรรม?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 70 นักวิทยาศาสตร์สันหลังยาว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 71 กุญแจสู่การสร้างวัคซีน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 72 สงครามครั้งสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 73 พร้อมสละทุกอย่างเพื่อคนรัก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 74 การเสียสละกำเนิดวีรบุรุษ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 75 วันครบรอบวันตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 76 ชีวิตหลังความตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 77 จากไปแล้วหวนคืน (ตอนอวสาน)

เนื้อหา

ตอนที่ 18 หน้ากากหนังมนุษย์

“ลากตัวมันมา”

เสียงหนึ่งพูด “อย่าให้มันตายนะเว่ย! มันเป็นคำสั่งของหัวหน้า! 
ถ้ามันตายหัวหน้าคงเอาพวกเราตายแน่!”

เสียงใครวะ…?

เสียงดูเหมือนเด็กแว้นหน้าปากซอยที่ชอบทำตัวเหลวแหลกไปวัน ๆ เมื่อครั้งที่ยังเด็กพ่อชอบซื้อนาฬิกาจีช็อกให้ใส่เรือนนึงและผมชอบมันมาก ๆ หวังว่าในอนาคตเมื่อมีเงิน ผมอาจจะตระเวนซื้อนาฬิกาจีช็อกมาหลาย ๆ เรือน จากนั้นก็เก็บมันไว้เป็นคอลเลกชั่น แต่เมื่อผมเห็นพวกเด้กแว้นเขาใส่กัน ผมถึงกับถอดนาฬิกาของตัวเองออกอย่างขมขื่นแล้วปาลงกับพื้นจนหน้าปัดแตก หลังจากนั้นผมก็เกลียดจีช้อกตั้งแต่นั้นมา คนเรามักจะมีสิ่งที่เกลียดซึ่งส่วนใหญ่มาจากแบ็กกราวน์สตอรี่ของแต่ละบุคคล นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของพื้นหลังว่าทำไมผมถึงเกลียดเด็กแว้นเข้าไส้

ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนลากไปไหนสักแห่ง ซึ่งตอนนี้ผมถูกคุมหัวด้วยถุงผ้ากำมะหยี่สีดำเพื่อไม่ให้เห็นว่าเราอยู่ที่ไหน ผมไม่รู้ว่าฮีซุยจะเป็นยังไง แต่ผมเป็นห่วงเธอเหลือเกิน 

“หัวหน้ายังไม่ตื่นอีกเหรอ?” เสียงเดิมพูดด้วยความรู้สึกที่ผิดหวัง 
ผมแกล้งทำเป็นสลบอยู่แต่ยังรู้สึกเจ็บแผลที่ถูกยิงอยู่ดี “นี่จะบ่ายโมงแล้วนะ นอนกินบ้านกินเมืองฉิบหาย”

“อย่าพูดอย่างนั้นสิ ถ้าเขารู้เขาอาจจะฆ่านายตายได้นะ” อีกเสียงนึงพูด ฟังดูเจ้าเล่ห์ 

“เปิดประตูเร็ว ๆ เข้า กูไม่อยากแบกไอ้นี่นานนะเว้ย!” เสียงแรกพูด

เสียงเสียดสีที่ฟังดูแสบแก้วหูดังขึ้น เสียงฝีเท้าดังขึ้นตามมา คาดว่าน่าจะมีกันสักสิบคนได้ คนที่แบกร่างของผมนั้นหายใจฟืดฟาดเหมือนอยากจะโยนร่างที่ไร้สติลงกับพื้นเพื่อให้ตัวเองรู้สึกเบาหวิว แต่ก็นะ แบกร่างผู้ชายอวบ ๆ แบบนี้ไม่รู้สึกหนักก็เป็นจอมพลังแล้ว สักพักเขาก็หยุดเดิน จากนั้นมันก็ยกร่างของผมวางไว้บนเก้าอี้โดยก้นกระแทกกับเก้าอี้ไม่แรงมาก แต่ก็ทำให้รู้สึกปวดที่แก้มก้นทันที

“จับมาได้แค่คนเดียว ป้อมปราการของมันมีนักแม่นปืนอยู่ ท่าทางเก่งมาก มันสอยพวกเราล่วงไปหลายคน” มันพูดถึงฟาง ส่วนผมยังคงนั่งนิ่งอยู่ พยายามไม่ให้พวกมันสังเกตุว่าตื่นแล้ว

“ไม่เป็นไร” เสียงหนึ่งพูด แต่น้ำเสียงและท่วงทำนองนั้นแตกต่างจากคนที่ผ่าน ๆ มา ฟังดูเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสูง ความเย็นชาที่ซ่อนอยู่ภายในที่สามารถรู้สึกได้ “ถ้าอยากเข้าถ้ำเสืออย่างปลอดภัย ก็ต้องมีอะไรไปล่อ ถอดถุงผ้ามันออกมา”

แสงสว่างพุ่งเข้ามากระทบกับสายตาทันทีที่ถุงผ้าสีดำได้ถูกดึงออกมาจากศีรษะ ผมหยีตาเล็กน้อยเพื่อให้สายตาได้ปรับสภาพ ผมเพิ่งมารู้ว่าตัวเองถูกมัดด้วยเชือกกำมะหยี่หยาบ ๆ เวลาขยับข้อมือจะรู้สึกถึงความคมของเชือกที่กำลังข่วนจนหนังเริ่มถลอก เมื่อสายตาเริ่มปรับสภาพได้ ผมเห็นว่าตัวเองกำลังอยู่ในห้องที่ไหนสักแห่งที่เต็มไปด้วยผู้คน มีประมาณสิบคนเข้ามายืนอยู่ข้างหลังผม และมีอยู่หนึ่งคนที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านหน้าผม เขามองมาที่ผมเหมือนกับว่าเขากำลังเจาะเข้าไปในดวงตาทะลุไปจนถึงจิตใจ พอสังเกตสถานที่ที่ผมอยู่ ณ ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นห้องร้างห้องหนึ่งของตึกไหนสักที่ ดูจากสภาพคงไม่น่าไกลจากคอนโดของนิวเท่าไหร่ กลับมาที่บุคคลปริศนาที่นั่งจ้องตาผมไม่กะพริบ ใบหน้าของเขาดูเหมือนว่าผมเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ใบหน้าทรงรีสีคล้ำดูเจ้าเล่ห์ ตัดทรงผมสกินเฮด ใส่แว่นตากรอบหนาสีดำ ร่างกายสูงแต่ผอม มีมัดกล้ามเล็กน้อย 

“คนนี้ใช่ไอ้นิวแน่เหรอ?” มันพูด

“ก็คงจะใช่…ล่ะมั้งครับ…” เจ้าของเสียงที่แบกผมพูดออกมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ 

“ไอ้นี่มันไม่ใช่ไอ้นิว!!” มันลุกขึ้นพรวดและหยิบเก้าอี้ทุ่มลงกับพื้นอย่างหัวเสียจนเก้าอี้ไม้ผุ ๆ พัง ๆ แหลกเป็นเสี่ยง ๆ ไม่มีชิ้นดี “กูต้องการ
ไอ้นิว!! แล้วมึงเอาไอ้นี่มาให้กูเนี่ยนะ!!”

ผมงงไปหมดแล้ว…

“ไม่เป็นไร” มันหอบเล็กน้อยจากการบันดาลโทสะก่อนที่จะกลับเข้าสู่ภาวะนิ่งเฉยอีกครั้ง เขาจ้องมาที่ใบหน้าของผมอีกครั้งพร้อมกับแสยะยิ้ม “ความจริงมันเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้เป๊ะ”

มันหันไปหน้าลูกน้อง

“ไปเอาผู้หญิงเข้ามาดิ๊” เขาพยักหน้าสั่งลูกน้อง ซึ่งพวกมันสองคนในนั้นทำตามอย่างว่าง่าย คนแรกมีปืนไรเฟิลอยู่หนึ่งกระบอก ส่วนอีกคนมีปืนลูกซองคู่ที่สามารถยิงได้ทีละสองนัด พวกมันทั้งสองโกนหัว โกนคิ้วและโกนหนวดจนไม่เหลือเส้นขนอะไรปรากฏอยู่บนส่วนศีรษะและใบหน้าเลย แถมยังสวมเครื่องแบบ รปภ. ของห้างอีกด้วย ซึ่งเครื่องแบบที่ว่านั้นจะมีเสื้อเกราะกันกระสุนที่ปกปิดเพียงด้านหน้าท้องเท่านั้น ส่วนที่เหลือมีเพียงกางเกงยีนและรองเท้าผ้าใบ เมื่อพวกมันเดินออกไปนอกห้องไม่กี่อึดใจก็กลับเข้ามา พร้อมเสียงลากใครบางคนเข้ามาด้วย

“ปล่อย!!” นั่นเสียงฮีซุย!

“ถ้าอยากจะฆ่าหัวหน้าครอบครัวเสือ ก็ต้องเอาเสือตัวที่อ่อนแอออกมาก่อน” มันมองข้ามผมไป รอยยิ้มที่แสนชั่วร้ายแยกออกมาพร้อมใบหน้าอันบิดเบี้ยวของมัน “วันนี้มาเล่นบทตำรวจดีตำรวจเลวกันดีกว่า”

คู่หูผู้คุมหัวโล้นทั้งสองคนลากหญิงสาวมาวางไว้อยู่ข้าง ๆ ผมโดยที่ให้เธอนั่งลงกับพื้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยแผลและคราบน้ำตา รวมถึงรอยแผลและคราบเลือดตามร่างกายของเธออีกด้วย ผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิง เสื้อผ้าฉีกขาดรุ่งริ่งจนเห็นชุดชั้นใน อาวุธของเธอถูกยึดไปหมด ซึ่งอันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้

“ฮะ…ฮีซุย…” ผมเรียกแฟนสาว “มะ…ไม่เป็นอะไรนะ…?”

หมัดหนัก ๆ รอยเข้ามากระแทกกับใบหน้าของผมจัง ๆ จนใบหน้าหันไปตามแรงที่หมัดนั้นปล่อยออกมา เลือดกระฉอกออกจากปาก แผลที่ถูกซอมบี้ขวนแสบขึ้นจนต้องหลับตาข้างหนึ่งไว้ ผมพ่นเลือดออกมา กลิ่นเลือดนั้นเหม็นคาวสลับหอมหวาน…ให้ตายสิ…เกิดอะไรขึ้นกันแน่…?

“ใครบอกให้มึงเห่า!!?” มันตะคอกใส่หูจนโลกทั้งใบมีแต่เสียงวิ้งก้องอยู่ในหัว

ผมไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่หลับตาปี๋เพื่อบรรเทาอาการเสียงวิ้ง 
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรมาก

“มึงจะเห่าได้ ต่อเมื่อกูสั่งเท่านั้น” มันพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “ตอนนี้กูมีเวลาว่างตั้งเยอะ แต่น่าเสียดายที่กูเป็นคนขี้ใจร้อนนึกนึง”

มันเข้ามายื่นมือกดที่ต้นขาของผมเบา ๆ จากนั้นก็ค่อย ๆ ใส่น้ำหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ รอยยิ้มอันแสนชั่วร้ายยังปรากฏอยู่บนใบหน้าและดวงตาปีศาจของมันจ้องมาที่ผม

“ไอ้นิวอยู่ที่ไหน?” มันถาม “โอเค ๆ ไม่ถามคำถามนี้ละ แม่งน่าเบื่อว่ะ เอางี้ดีกว่า เอางี้ดีกว่า…มึงรู้จักอะไรไอ้นิวกับไอ้นัทบ้าง? บอกกูมาให้หมด”

ผมไม่ปริปาก

“อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่น่า แค่อยากจะทำความรู้จักพวกมันให้มากขึ้นไง…อ้อ!! ลืมแนะนำตัวไปเลย กูชื่อ วิน เป็นหัวหน้าแก๊งนักเลงสยาม เชื่อเถอะ มึงคงได้ยินชื่อมาบ้างแล้วว่าแก๊งของกูมีคนมากมายและโหดเหี้ยมขนาดไหน ในยามที่กฎหมายไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป ทำให้แก๊งของเราขยายอาณาเขตไปได้เรื่อย ๆ รวมถึงเขตของมึงด้วย”

ผมเม้มปากพร้อมกลืนเลือดตัวเองที่ไหลออกจากแผลในปาก…

ทำไมรู้สึกว่าเลือดหวาน…?

“กูไม่อยากถามให้เปลืองน้ำลายหรอกว่ากบดานของพวกแกอยู่ที่ไหนเพราะกูรู้อยู่แล้ว แต่กูแค่อยากรู้จักไอ้สองคนนี้มากขี้นเท่านั้นเอง”

เป็นไปไม่ได้ที่จะจับผมมานั่งมัดไว้กับเก้าอี้พร้อมกับถามคำถามอยากทำความรู้จักหรอก พวกมันมีจุดประสงค์อย่างอื่นแน่นอน

ผมนิ่ง

“บอกหน่อยเถอะน่า” มันเปลี่ยนสีหน้ามายิ้มอย่างเป็นมิตร ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจแล้วว่าตัวเองกำลังปั้นหน้าทุเรศ ๆ เพื่อหวังอะไรบางอย่าง ซึ่งมันใช้ไม่ได้ผลกับตัวผมหรอก

ผมยังคงนั่งนิง ริมฝีปากไม่ขยับ

วินถอนหายใจอย่างถอดใจ

“ใช้ไม้อ่อนไม่ได้ผล ก็ต้องจำเป็นต้องทำใจใช้ไม้แข็งแล้วสินะ” 
มันหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องขอมันคนนึง ซึ่งลูกน้องคนนั้นคือคนที่แบกผมเข้ามานั่นเอง มันเป็นชายร่างกายผอมบาง แต่สูงโย่ง ผิวคล้ำกว่าวิน ใบหน้าเลือนลอยไร้ความปรานีและความรู้สึกจนถึงขนาดต่อให้ฆ่าลูกแมวก็ไม่ทำให้สีหน้าของมันเปลี่ยนไปได้ มันเดินไปหาฮีซุยจากนั้นก็กระซากเส้นของเธอให้ลุกขึ้นยืน เธอกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะดิ้นรนจากพันธนาการที่ไม่อาจดิ้นจนหลุดได้

“อย่าทำอะไรฮีซุยนะเว่ย!!” ผมตะคอกใส่ลูกน้องของวิน

“มึงไม่มีสิทธิ์สั่งลูกน้องกู!!” วินตะคอกกลับเหมือนครูฝึกทหารตะคอกเมื่อทหารใต้บังคับบัญชาเริ่มออกนอกลู่นอกทาง “ไอ้พล! มึงลองทำอะไรแฟนสาวสุดที่รักของมันหน่อยสิวะ เริ่มจากระดับหนึ่งก่อน”

“จัดให้เลยครับหัวหน้า” มันแสยะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายก่อนที่จะยื่นริมฝีปากไปสไลด์ลำคอของเธอ จนเธอกรีดร้องอย่างขยะแขวง

“หยุดนะเว่ยไอ้สัตว์!!” ผมตะโกนเสียงหลง

“กูบอกว่ามึงไม่มีสิทธิ์มาสั่งลูกน้องกู!!” วินตบเข้าที่บ้องหูผมอย่างแรงจนสายตาและสติเริ่มเลอะเลือน “มึงจะบอกมั้ย!?”

ผมที่เริ่มควบคุมสติได้ยังคงนิ่งไม่ตอบ

“นิวกับนัทเป็นเพื่อนกู…”

“อ่าหะ…?” มันพยักหน้า “แล้วยังไงต่อ?”

“เรากบดานอยู่ที่เดียวกัน…”

“อ่าหะ?”

“นิวเป็นคนดี…”

“กูไม่อยากรู้ส่วนตรงนี้ของมันโว้ย!!” มันหยิบเศษเก้าอี้แล้วปาไปใส่กำแพง “ไอ้พล!! ระดับสอง!!”

“ระดับสองเลยเหรอหัวหน้า!? จัดให้” ว่าแล้วพลจัดการใช้มือของตัวเองจับหน้าอกของฮีซุยอย่างมันมือ หญิงสาวหลุดครางออกมาเล็กน้อย ใบหน้าของเธอแดงก่ำแม้ว่าจะมีรอบแผลก็ตาม “นุ่มดีว่ะ เป็นเมียคนไร้น้ำยาแบบไอ้เอ็นนี่มันเสียชาติเกิดจริง ๆ มาเป็นเมียพี่ดีกว่ามั้ย?”

“…” ผมกัดฟันอย่างโกรธแค้น ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยืนมองแฟนสาวของตัวเองโดนกระทำอยู่อย่างนั้น

“บอกได้ยัง?” วินถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง 

“…” ผมยังคงไม่ตอบ

วินถอนหายใจและยังให้สัญญาณกับพล ซึ่งลูกน้องร่างสูงคนสนิทก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจเหมือนกับตัวเองเพิ่งได้ของเล่นใหม่ที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด เขาใช้มือล้วงเข้าไปที่หว่างขาของแฟนสาว คงไม่ต้องบรรยายเพิ่มนะว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น ฮีซุยร้องออกมาและดิ้นรนอย่างทรมานใจ น้ำตาของเธอไหลอาบแก้มด้วยความเจ็บปวด ภาพที่เห็นนั่นยิ่งทำให้ผมกัดฟันแน่นเข้าไปใหญ่

จะเลือกอย่างไรระหว่างไม่บอกเพื่อปกป้องกลุ่ม แต่คนรักของตัวเองดันถูกกระทำแบบนั้นต่อหน้า หรือบอกไปเลยเพื่อรักษาร่างกายและจิตใจของหญิงสาว ซึ่งผมยังนิ่งเงียบอยู่…

“เอ้า!? ว่าไง จะบอกมั้ย?” มันถาม

น้ำตาของผมไหลอาบแก้มแต่ก็ยังไม่มีคำพูดใดแลดรอดออกมาจากปาก ความเงียบปกคลุมทั้งห้อง มีเสียงเล็ก ๆ มาจากเสียงของฮีซุยที่กำลังร่ำไห้อย่างทรมานใจ

“เอ็น…ช่วยเค้าด้วย” เธอเริ่มร้องไห้ออกมา 

“น่าเบื่อว่ะ ทั้งมันทั้งมึง ตายหลังเมียมึงก็แล้วกันนะ” วินพูดพร้อมชักปืนพกออกมาจากเอวและเล็งไปที่ฮีซุยทันที แต่ดวงตาของมันยังคงจ้องมองที่ผมอย่างเลือดเย็น “จะฆ่านังนี่ทิ้งก็น่าเสียดาย นางจะกลายเป็นนางโลมชั้นดีของเราเลยทีเดียว แต่เรื่องนั้นยกเป็นเป็นเรื่องรองดีกว่า ในเมื่อเรื่องหลักของเราสามารถทำให้สำเร็จจนกระทั่งเรื่องรองเป็นผลพลอยได้ ให้ตายสิ มีผู้หญิงสวย ๆ ที่อยู่ในการปกครองของนิวตั้งสองคน น่าอิจฉาจริง ๆ ว่ามั้ย? เอาล่ะ…บอกลาแฟนสาวได้เลยถ้าไม่บอก”

วินกำลังปลดเซฟตี้

“เอ็น!!” ฮีซุยตะโกนอย่างหวาดกลัว

“สาม!”

“ช่วยด้วย!!”

“สอง!!”

ช่างแม่งแล้ว!!

“หนึ่ง”

“ใช้กูเป็นตัวล่อ!!” ผมตอบ ซึ่งวินทำหน้างง “นิวเป็นคนรักเพื่อนมาก พร้อมที่จะเสียสละเพื่อเพื่อนเสมอ ถ้าเอากูไปล่อให้นิวออกมาช่วย พวกมึงทุกคนสามารถรุมฆ่านิวยังไงก็ได้ตามใจ”

วินแสยะยิ้มออกมา

“เห็นมั้ยล่ะที่รัก ว่าแผนนี้ต้องได้ผล” มันพูด

…ที่รัก…? ใคร?

เมื่อพลปล่อยตัวฮีซุย เธอปาดน้ำตาและยิ้มอย่างชั่วร้ายพร้อมกับเดินไปหาวินโดยไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย วินวาดแขนมาโอบไหล่หญิงสาวพร้อมจุมพิตกันอย่างดูดดื่มปล่อยให้ผมจมอยู่กับความงงงวยของสถานการณ์ที่กลับตาลปัตรแบบนี้ หญิงสาวแทบไม่ได้แลมองผมเลยแม้แต่น้อย และจังหวะการจูบของทั้งสองนั้นดูเหมือนคู่รักกันจริง ๆ

ที่ไม่ใช่กับผม…

“ไม่ได้จูบเมียทั้งนาน คิดถึงจังเลย” ปีศาจร้ายยิ้มให้ฮีซุย ซึ่งนางก็ยิ้มตอบ

“ก็ไปทำงานให้ผัวนี่แหละ ฉันก็คิดถึงที่รักเหมือนกันนะ” นางมองมาที่ผมอย่างเลือดเย็น ปราศจากความรักราวกับว่าหัวใจที่ผมให้ถูกขยำทิ้งคงถังขยะไม่ต่างจากกระดาษที่มีแต่คำผิดเขียนอยู่ในนั้น

“เกิดอะไรขึ้น…” ผมพูดเบา ๆ ยังคงตะลึงกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันนั้น…

______________________________________________

To Be Continue Ep.19