"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

Undead War สงครามคนเป็น - ตอนที่ 20 หนึ่งต่อร้อย โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Undead War สงครามคนเป็น

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย

รายละเอียด

Undead War สงครามคนเป็น โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

โรคระบาดยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน หมอทุกคนตายกันไปหมดแล้ว ความหวังดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสุดท้าย ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ไร้แสงสว่างและไร้สิ้นสุด พวกซอมบี้ต่างคอยจะได้กัดกินเนื้อมนุษย์อย่างกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่พวกมันอยู่เต็มไปหมด 

 

แต่ความหวังก็ยังไม่หมดไป เมื่อผมสามารถเอาชนะเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ร่างกายของผมเกิดกลายพันธุ์และสามารถแปลงกายเป็นซอมบี้ได้ตลอดเวลา นั่นทำให้ผมวิวัฒนาการไปอีกขั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้

สารบัญ

Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 1 ณ จุดเกิดเหตุ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 2 มื้อเช้าสองพ่อลูก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 3 มีอะไรให้คิดอีกเยอะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 4 จุดกำเนิดฝันร้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 5 หัวใจที่เน่าสลาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 6 เข้าสู่กลียุค,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 7 นาทีหลบหนี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 8 กลิ่นคาวเลือดที่หอมหวาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 9 ไปให้ถึงเซฟเฮาส์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 10 สำรวจพื้นที่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 11 ฟาร์มของ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 12 ยื่นหมูยื่นแมว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 13 RED RIGHT HAND,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 14 หญิงสาวปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 15 สีขาวที่แปดเปื้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 16 หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 17 เสียงกระซิบ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 18 หน้ากากหนังมนุษย์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 19 กลายร่าง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 20 หนึ่งต่อร้อย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 21 เสียงประสานลมหายใจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 22 เสียงเพรียกแห่งความทรงจำ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 23 น้ำตาที่ไร้ความชุ่มชื้น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 24 จากที่ต่ำ…ขึ้นสู่ที่สูง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 25 ชายส่งสาส์นปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 26 ถอยหลังเพื่อเริ่มต้นใหม่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 27 ลางร้ายเริ่มปรากฏ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 28 อสูรไร้เทียมทาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 29 ความรู้สึกที่ซับซ้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 30 ฮาวทูมูฟออน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 31 ไวท์เว็ดดิ้งและผู้มาเยือน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 32 หมาป่าที่แต่งตัวด้วยขนแกะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 33 สิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 34 ศัตรูที่ไม่อยากจะสู้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 35 ละทิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 36 โลกที่เปลี่ยนไปเมื่อลืมตาตื่น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 37 ผู้ครอบครองพลังซอมบี้คนที่สอง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 38 ทุ่มสุดตัวเพื่อรอยข่วน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 39 พัฒนาโหมดซอมบี้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 40 เมล็ดพันธุ์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 41 พื้นที่จำกัด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 42 เบื้องหลังของนิว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 43 เตรียมบุก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 44 ก่อนการบุกโจมตี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 45 ชีวิตที่ไร้ค่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 46 อดีตปะทะปัจจุบัน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 47 แบล็กเว็ดดิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 48 มนุษย์คือสัตว์ประเสริฐจริงหรือ?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 49 ออรัลบนรถ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 50 วัดป่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 51 พระสงฆ์รูปสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 52 อมตะไม่มีจริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 53 เป้าหมายเพื่อเอาชีวิตรอด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 54 ตะลุมบอน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 55 ยอมแพ้เสีย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 56 ผู้นำที่อ่อนแอไม่มีวันเป็นทรราช,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 57 ขอเรียกร้องจากผู้ใหญ่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 58 โครงการทั้งห้า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 59 สงครามคนเป็น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 60 ผู้ป่วยโรคระบาดที่ก้าวราวเกเรมาก ๆ และรอการรักษา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 61 ความรักที่เกินกว่าค่าอนันต์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 62 คำตอบค่าเอ็กซ์ในสมการ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 63 ยุทธการทุบหม้อข้าว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 64 นักฆ่าลูกตำรวจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 65 กัปตันไทยแลนด์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 66 ความแข็งแกร่งที่แท้จริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 67 ประกาศชัยชนะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 68 การมาถึงของเบื้องบน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 69 ข้อเสนอที่ดูเป็นธรรม?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 70 นักวิทยาศาสตร์สันหลังยาว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 71 กุญแจสู่การสร้างวัคซีน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 72 สงครามครั้งสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 73 พร้อมสละทุกอย่างเพื่อคนรัก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 74 การเสียสละกำเนิดวีรบุรุษ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 75 วันครบรอบวันตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 76 ชีวิตหลังความตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 77 จากไปแล้วหวนคืน (ตอนอวสาน)

เนื้อหา

ตอนที่ 20 หนึ่งต่อร้อย

แม้ว่าผมจะกลายเป็นซอมบี้ แต่สติสตังค์ทุกอย่างที่มีไม่ต่างจากตอนที่ยังเป็นมนุษย์ สิ่งที่แตกต่างกันออกไปก็คือ ผมรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย ไขมันที่หน้าท้องกลับยุบหายไปราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่ รวมถึงไขมันที่แก้มทั้งสองข้างก็หายไปเช่นกัน ทุกส่วนแทนที่ด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งราวกับเหล็กจนไม่น่าเชื่อ แผลถูกยิงที่หน้าท้องสมานกันจนไม่เหลือร่องรอยใด ๆ เลย 

สายตาของทุกคนที่จับจ้องเข้ามาหาผมเป็นตาเดียวนั้นทำให้รู้สึกรำคาญอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะที่วินมันเบิกตามองมาที่ผมอย่างไม่เชื่อสายตาของตัวเอง ผมจับกรงและงอมันได้เหมือนงอลวด เมื่อออกแรงมากขึ้น มันหักออกมาคามือผมทันที ซอมบี้ตัวหนึ่งจะเข้ามากัดผมแต่ก็โดนหมัดของผมกระแทกเข้าที่ใบหน้าจนได้ยินเสียงกะโหลกแตกแล้วล้มลงไปนอนกับพื้นทันที และนั่นก็เป็นซอมบี้ตัวสุดท้ายในกรงนั่น

ให้ตายสิ…พลังนี่มันอะไรกัน…?

“หัวหน้า…ไอ้นี่มันตัวอะไร?” พลถาม

“จะไปรู้เหรอ…” วินปาดเหงื่อที่ไหลลงมาตามหน้าผาก “ตอนนี้เรามีซอมบี้กว่าพันตัวที่อุตส่าห์เก็บไว้ได้ และยังมีลูกน้องกว่าร้อยคน”

“จะฆ่ามันใช่มั้ย?” พลถามอีก

“ก็เออน่ะสิ!!” วินตะคอก “ฆ่าแม่งเลย!!”

เมื่อสิ้นเสียงของผู้นำ ไม่มีใครกล้าที่จะแม้แต่จะขยับเท้าเข้าไปเลยแม้แต่ก้าวเดียว ทุกอย่างหยุดนิ่ง เงียบสงัด แต่น่าแปลกใจที่ผมยังสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของพวกมัน รวมถึงเสียงความดันเลือดที่สูบฉีดอยู่ในร่างกายสกปรกของพวกมัน สิ่งที่ชัดที่สุดก็คงจะเป็นเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจของพวกมันที่เต้นไม่เป็นจังหวะตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ชีพจรของพวกมันเต้นอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าความกลัวเหล่านั้นเป็นต้นเหตุให้เป็นแบบนี้ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง เพราะตอนนี้ผมก็รู้สึกถึงมันอยู่ในร่างกายของผมเอง

ให้ตายสิ…ความรู้สึกดี ๆ แบบนี้มันคืออะไรกัน เหมือนกับว่าตัวเองยกภูเขาออกจากอกเลย ถ้าเปรียบเทียบกันคงจะเป็นภูเขาเอเวอร์เรดล่ะมั้ง

“พวกมึงแม่งทำบ้าอะไรกันอยู่วะ!?” พลตะคอกเมื่อเห็นว่าลูกน้องในสังกัดของตัวเองไม่ทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาสูงสุด (ที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นที่น่าเคารพต่อลูกน้องหรือเปล่า) “พวกมึงมีกันเป็นร้อยคน รุมมันที่มีอยู่แค่คนเดียวก็เหลือแหล่แล้ว!! มันก็แค่มนุษย์ธรรมดานี่แหละวะ!!”

เมื่อไม่มีใครกล้าเข้าไปโจมตีผม พลประทับปืนจากนั้นก็เล็งมาที่ผม เชื่อเถอะว่ากลิ่นเหงื่อของมันที่ย้อยลงมาตามใบหน้านั้นทำให้รู้ถึงความกลัวที่อยู่ภายใต้ความรู้สึกจอมปลอมของตัวเองที่สร้างมาเพื่อเป็นเกราะกำบัง มีแต่คนที่อ่อนแอเท่านั้นแหละที่จะทำแบบนั้นได้ตลอดเวลา แต่คนแบบนี้ก็น่าเป็นที่ยอมรับในเรื่องของการเก็บความรู้สึกของจริงเลยทีเดียว มือของมันสั่นราวกับเจ้าเข้า แม้ในความเป็นจริงแล้วนั้นมันไม่ได้มีอะไรนอกจากความหวาดกลัวในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ แต่ดันพูดออกมากับลูกน้องเมื่อว่าตัวเองรู้ดี แท้จริงคือ แม่งไม่รู้ห่าอะไรเลย!!

“ตายซะ!! ไอ้สัตว์!!” ชายร่างสูงกระหน่ำลูกตะกั่วเข้ามาหาผมเป็นห่าฝน แต่น่าเสียดายที่ผมหลบไม่ได้ เพราะไม่เร็วพอ จึงทำให้กระสุนเจาะร่างผมไป แต่ในทางกลับกัน ผมไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่นิดเดียว แน่ล่ะ ร่างกายของซอมบี้นั้นเส้นประสาทรับรู้ได้ตายไปแล้ว ต่อให้ตัดคอ ตัดนิ้ว ตัดแขน ตัดขา ก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว

เมื่อกระสุนของมันหมด แววตาของมันเปลี่ยนไปราวกับฟ้าเหว ความกลัวของมันฉายชัดเกินร้อยเปอร์เซ็นต์

จู่ ๆ ก็มีกระสุนพุ่งเข้ามาเจาะที่แผ่นหลังของผมจนทำให้ร่างกายล้มลง ถ้าให้เดาน่าจะเป็นหนึ่งในสมุนของวินนั่นแหละ จู่ ๆ ก็มีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาทับผมจนไม่สามารถหนีไปได้ 

“ถ้ามึงกลายร่างเป็นซอมบี้ได้! มึงก็สามารถตายอีกรอบได้โดยการทำลายหัวมึงสินะ!!” มันตะคอก “รุมแม่งเลย!!”

หลังจากนั้นเสียงฝีเท้าที่วิ่งกรูกันเข้ามา ให้ตายสิ…ความจริงมันน่าจะฝังลูกตะกั่วในหัวผมให้จบ ๆ ไปแล้วแท้ ๆ แต่ความโง่เขลาของมัน จึงทำให้มันต้องมาเจอจุดจบอันน่าเศร้าของตัวเองเสียได้ ในขณะที่มันกำลังประกาศชัยชนะของมันโดยการอวดโม้ไปเรื่อยเปื่อย พวกสมุนก็วิ่งกรูเข้ามาหมายจะฆ่าผมให้ตาย 

ผมค่อยก้าวเทาออกจากกรง ไม่ได้ยินเสียงรองเท้าที่กระทบกับพื้นเลย เพราะเสียงโห่คำรามของพวกมันดังจนกลบเสียงทุกอย่างลง รวมถึงเสียงอาวุธที่พวกมันกำลังถือมาด้วย อาวุธทั้งหมดชี้มาที่ผมเป็นจุดเดียว แต่น่าแปลกใจที่ผมรู้สึกมั่นใจเต็มร้อยว่าจะชนะได้แน่ ๆ จากนั้นก็อีกก้าว และเดินต่อไปหาพวกมันอย่างไม่เกรงกลัว เท้าของผมก้าวต่อไปเรื่อย ๆ ความเร็วเริ่มเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นจนกลายมาเป็นการวิ่งเยาะ ๆ จากนั้นฝีเท้าของผมเริ่มซอยถี่ขึ้นมาเป็นการวิ่งแทน จนตอนนี้ผมกำลังจะเข้าเผชิญหน้ากับพวกมันกว่าร้อยคนในไม่ช้า 

เมื่อหมัดของผมกระแทกเข้ากับใบหน้าของพวกมันคนแรกที่เข้ามาถึงตัวผม พละกำลังที่หน้าเชื่อถือทำให้ศีรษะของมันหลุดจากบ่าทันที 
ผมอึ้งอยู่ได้ไม่กี่วินาทีจากนั้นก็ต้องดึงสติกลับมาใหม่ ผมคว้าดาบขึ้นสนิมของคนที่ตายเมื่อกี้มาอีกสามคนจนร่างกายขาดเป็นสองท่อน สายตาอันเฉียบคมเห็นว่าใบมีดขึ้นสนิมนี้จากที่เคยบิ่นอยู่เพียงสองถึงสามมิลลิเมตร จนตอนนี้ได้บิ่นไปเกือบครึ่งแล้ว กระสุนตะกั่วกระหน่ำพุ่งเข้ามาเจาะที่ร่างกายของผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ของพล แต่เป็นคนอื่นที่ฝีมือการยิงปืนไม่ต่างจากเด็กอนุบาล แผลที่ถูกยิงทั้งหมดได้ขับลูกตะกั่วที่ฝังอยู่ตายร่างกายออกจนหมด จากนั้นก็ปิดปากแผลเองโดยอัตโนมัติ แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ว่าร่างกายต้องใช้พลังงานปริมาณระดับนึงที่จะรักษาแผลให้หายได้ (ผมไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ร่างกายตัวเองนั้นทำงานอย่างไร แต่จากที่อธิบายมาข้างต้นนั้นมันเกิดมาจากความเข้าใจส่วนตัวและความรู้สึกเท่านั้น)

แต่ให้ตายสิ…รู้สึกดีเป็นบ้า!!

ผมคว้าปืนพกมาจากคนที่ผมเพิ่งหักแขนไปเหมือนหักแท่งขนม
ป็อกกี้ เสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดนั้นดังทะลุแก้วหู แต่นั่นก็แทบไม่ทำให้ผมสะทกสะท้านอะไรมากมายหรอก จากนั้นผมกระหน่ำยิงปืนออกไป จนตอนนี้ฆ่าพวกมันหมดไปเกือบสิบคนถึงจะได้ แต่พวกมันก็ยังกรูกันเข้ามาหมายจะเอาชีวิต 

โชคดีของผมแท้ ๆ ที่เห็นพวกมันคนหนึ่งถือดาบคาตะนะของผมอยู่เล่มหนึ่ง!!

มือและเท้าของผมประสานการทำงานได้อย่างดีเยี่ยม สัญชาตญาณ
ของตัวเองทำงานเต็มเปี่ยม ผมคว้าคอมือของพวกมันที่ขวางทางและโยนพวกมันออกไปเหมือนเป็นเพียงของเล่นชิ้นเดียว เมื่อไปถึงคนที่ถือดาบของผม มันทิ่มใบมีดเข้ามาแทงที่กลางหน้าอกทันที เมื่อมันเห็นว่าเป้าหมายของตัวเองไม่ล้ม ใบหน้าจากที่ยิ้มอย่างมีชัยกลับเปลี่ยนมาเป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวทันทีเมื่อยังเห็นผมยังคงยืนนิ่งและมีพวกสมุนแมลงน่ารำคาญใช้มีด ดาบ และของมีคมต่าง ๆ นานาแทงเข้าที่ลำตัวของผมทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย

“นั่นดาบของกูที่เพื่อนกูให้มานะเว่ย!” ผมพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “อยากเอามือสกปรกนั่นมาจับและหันเข้ามาเจ้าของที่แท้จริงของมันสิวะ!!”

ผมคว้าข้อมือของมันและกระซากใบมีดให้หลุดจากอก จากนั้นแผลก็สมานทันที รวมถึงรอยแผลที่เหลือด้วย ตอนนี้พละกำลังของผมกำลังจะลดลงเพราะเหตุเกิดมาจากการที่ตัวเองต้องใช้พลังสมานแผลมากจนเกินไป ลมหายใจเริ่มหอบเสียแล้ว เมื่อได้จับดาบ รู้สึกได้ทันทีเลยว่าน้ำหนักของมันแทบไม่มี มันเบาเทียบเท่าขนนกเลยทีเดียว ผมพุ่งเข้าไปฟันพวกลูกน้องของวินตายเกลื่อนด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ เลือดของพวกมันเปื้อนตามร่างกายของผมเต็มไปหมด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมหยุดนิ่งได้ ตอนนี้ผมแทบไม่ได้สนใจลูกน้องของวินเลยแม้แต่นิดหน่อย สำหรับผมแล้ว พวกมันเป็นเพียงแมลงต่ำต้อยเท่านั้น พวกลูกน้องกระหน่ำทั้งยิงและฟันแทงเข้ามาหาผม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี และแล้วชีวิตของมันก็จบลงด้วยความตายเท่านั้น

เป้าหมายของผมคือผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้น

“ไอ้วิน!” ผมคำรามในลำคอ

ผมฆ่าพวกลูกน้องไปหลายคน จากนั้นผมก็เห็นว่าวินได้หายตัวไปแล้ว เพราะมีลูกน้องคนหนึ่งขยับเข้ามาจนบังทัศนวิสัยจนศัตรูคู่แค้นของผมลับหายไป ส่วนพวกแมลงก็ยังคงโจมตีใส่ผมแบบไม่ขาดสาย จนแผลสมานกันไม่ทัน จู่ ๆ ความเจ็บปวดก็เริ่มเข้ามา ให้ตายสิ ถึงขีดจำกัดแล้วเหรอ…?

ผมคว้าหอกจากมือของลูกน้องคนหนึ่งมาได้ แต่ก็ต้องแลกโดยการที่ต้องทิ้งดายคาตะนะลงกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็ทิ่มเข้าไปที่ท้องของพวกมันคนหนึ่ง เมื่อออกแรงมากขึ้น ปลายแหลมของหอกนั่นทะลุไปกลางหลังทันที แล้วไปเสียบกับคนอื่น ๆ ต่อจนกลายเป็นลูกชิ้นเนื้อมนุษย์ ผมโยนพวกมันออกไปให้พ้นทาง ตอนนี้เหลือพวกมันอยู่ไม่กี่คนแล้ว จากที่นับได้ก็น่าจะมีเหลือประมาณยี่สิบกว่าคนได้ ผมก้มลงพื้นคว้าดาบขึ้นมา จากนั้นผมก็วิ่งเข้าไปประจันหน้ากับพวกมันที่สีหน้าเริ่มแสดงความหวาดกลัวอยู่หน่อย ๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมใจอ่อนและสงสารลงได้เลยแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว เพราะสิ่งที่พวกมันได้กระทำต่อร่างกายและจิตใจของผมนั้น มันก็ไม่ได้มีความสงสารต่อผมเลยแม้แต่น้อย แถมยังอยากจะให้ผมตายอีก เชื่อเถอะว่า สภาพผมในตอนนี้ ยมบาลคงยังไม่อยากจะรับผมไปอยู่ด้วยแน่ ๆ ความศรัทธาในพระเจ้าในตอนนี้ได้มลายหายไปหมดสิ้นเมื่อหัวใจของผมได้ถูกขยี้จนแหลกเป็นเสี่ยง  ๆ 

รักศัตรูเหมือนรักตัวเอง

ให้ตายสิ มันก็แค่คำพูดจากลมปากเท่านั้น

ผมไม่สนว่าการฆ่ากันจะทำให้เป็นบาปและตกนรก แต่ขอโทษที ตอนนี้มันก็ต่างจากตกนรกทั้งเป็น ใบมีดอันคมกริบฟันผ่านร่างกายของพวกมันไปอย่างรวดเร็วจนไม่รู้สึกพวกมันไม่รู้สึกเจ็บเลย ถ้าจะรู้สึกอีกทีก็คงจะได้ไปนั่งคุยกับยมบาลแล้ว 

เมื่อผมฆ่าพวกมันจนหมด รู้สึกตัวอีกทีว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ท่ามกลางศพของพวกมัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ ผมเห็นพลยืนถือปืนบาซูก้าประทับไหล่และเล็งมายังผม ต่อให้ว่าพลังสมานแผลจะมากมายขนาดไหน แต่ถ้าโดนกระสุนบาซูก้าระเบิดใส่ ผมคงไม่รอดอย่างแน่นอน ความจริงผมสามารถทิ้งดาบและหลับตากลางแขนให้มันยิงระเบิดร่างกายของผมให้กระจุยเป็นเศษเนื้อเลยก็ได้ แต่สิ่งที่ผมยังแค้นฝังหุ่นที่มีต่อวินนั้นยังอยู่ การที่มันทำร้ายร่างกายของผมนั้นไม่เป็นปัญหา เพราะมันเป็นเพียงแต่กายหยาบ แต่มันส่งผู้หญิงมาทำลายหัวใจของผมจนต้องมาอยู่ในสภาพของซอมบี้ที่ไร้จิตใจแบบนี้มันยกโทษให้ไม่ได้จริง ๆ 

ในความเป็นจริงแล้ว ผมรู้ว่าลึก ๆ ฮีซุยไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก เพราะเป้าหมายของมันไม่ใช่ผม แต่เป็นนิว เชื่อเถอะว่าผมไม่ได้โทษเขาเลยแม้แต่นิดเดียว แถมเรื่องล้างบางแก๊งนักเลงสยามนี้นิวไม่จำเป็นต้องมาเกี่ยวอยู่แล้ว

ผมเคยถูกพวกมันไถเงินและโดนซ้อมมาไม่รู้กี่ครั้งจนมองว่าเป็นไอ้ขี้แพ้ที่เป็นเสมือนเอทีเอ็มที่สามารถมารีดไถเมื่อไหร่ก็ได้ เงินที่ผมได้รับจากทำงานพิเศษ ซึ่งผมทำงานพิเศษเยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นส่งหนังสือพิมพ์ช่วยเช้ามืดระหว่างเสาร์และอาทิตย์ และเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในสยามสแควร์ ด้วยความที่ผมเป็นคนร่างเล็ก แต่ก็มีไขมันปกคลุมไปทั่วร่างกายเลยทำให้ดูอ่อนแอ ซึ่งผมก็อ่อนแอจริง ๆ นั่นแหละ พลกับวินมันก็เรียนที่เดียวกับผม แถมยังเรียนห้องเดียวกันก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์กลียุคนี่ขึ้น ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงแค้นนิวขนาดนั้น แต่ในทางกลับกัน ทางมันเองก็เป็นฝ่ายที่ทำให้ผมเกิดความแค้นขึ้นมาจนอยากจะฆ่าพวกมันให้หมดทั้งแก๊ง ไม่ว่าพวกมันจะมีความผิดน้อยหรือมาก แค่พวกมันแบกชื่อแก๊งนักเลงสยามไปไหนมาไหนก็มีความผิดทั้งสิ้น

ผิดเพราะเกิดมานี่แหละ!!

“เคยเรียนห้องเดียวกันแท้ ๆ แต่วันนี้กูต้องมาฆ่ามึงนี่ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริง ๆ เลยสินะ” มันพูด “แต่ถ้าให้คิดอีกอย่างนั่นก็คือ มึงตายไปแล้ว และกลายร่างเป็นซอมบี้แบบพิเศษที่ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน แถมยังฆ่าลูกน้องของกูกว่าร้อยคนตายเป็นเบือ นั่นมันแสดงให้เห็นว่ากูไม่ควรเก็บอสุรกายอย่างมึงไว้ และ…”

“หยุดเห่าได้แล้ว!!” ผมคำราม “มันน่ารำคาญ!!”

พลชะงักไปวูบหนึ่ง ก่อนที่มันจะกดยิงบาซูก้าใส่ผม ซึ่งกระสุนของบาซูก้านั้นจะช้ากว่ากระสุนปืนอยู่ไม่น้อย นั่นจึงทำให้ผมใช้ความเร็วของตัวเองหลบกระสุนอันเบ้อเร่อนั้นได้อย่างสบาย มันไประเบิดกำแพงพวกนั้นพัง นั่นทำให้รู้ว่าผมอยู่บนตึกสูง ซึ่งถ้าตกลงไปก็คงมีแต่ตายสถานเดียว ผมพุ่งเข้าไปหาพลอย่างรวดเร็วและจัดการฟันศีรษะพลจนขาด ความจริงผมแทบจะไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวอะไรกับเขาเลย แต่หนังหน้าของมันนั้นทำให้ผมรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก มันเป็นใบหน้าของเด็กแว้นใส่นาฬิกาจีช็อกที่ผมเคยเห็นเมื่อนานมาแล้ว จนภาพนั้นมันติดอยู่ในสมองของผมเรื่อยมา จนถึงตอนนี้ก็ไม่สามารถเอามันออกจากหัวได้

จู่ ๆ ก็เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ซึ่งให้ความรู้สึกไม่ต่างจากแผ่นดินไหว 

ตึกกำลังจะถล่ม!!

“จะทดสอบอะไรกันอีกล่ะ!!” ผมคำรามอย่างเกรี้ยวกราด

จากนั้นพื้นที่ผมเหยียบอยู่นั้นก็ได้ถล่มลงไป ร่างของผมก็ดันตกไปด้วย!!

_____________________________________________

To Be Continue Ep.21