"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"
แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Undead War สงครามคนเป็น"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"
โรคระบาดยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน หมอทุกคนตายกันไปหมดแล้ว ความหวังดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสุดท้าย ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ไร้แสงสว่างและไร้สิ้นสุด พวกซอมบี้ต่างคอยจะได้กัดกินเนื้อมนุษย์อย่างกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่พวกมันอยู่เต็มไปหมด
แต่ความหวังก็ยังไม่หมดไป เมื่อผมสามารถเอาชนะเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ร่างกายของผมเกิดกลายพันธุ์และสามารถแปลงกายเป็นซอมบี้ได้ตลอดเวลา นั่นทำให้ผมวิวัฒนาการไปอีกขั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้
ฟางเย็บแผลที่เธอเพิ่งผ่าตัดเอาลูกตะกั่วออกจากหน้าท้องของคาโอรินที่กำลังนอนกัดผ้าเพื่อระงับความรู้สึกเจ็บปวดทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันแทบไม่ได้ช่วยได้มากเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยยาชาที่เคยขโมยมากจากโรงพยาบาลเมื่อสองอาทิตย์ก่อนช่วยได้ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี และยังเป็นปาฏิหาริย์ที่เธอเรียนหมอมาก่อนที่จะย้ายไปเรียนนิเทศเพราะเรียนหนักเกินไป ซึ่งเธอก็ไม่ได้รักษาคาโอรินที่เอาปืนจ่อหัวเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเพราะเต็มใจ
แน่ล่ะ…เธอไม่ได้แฮปปี้เลยที่จะต้องมานั่งรักษาคนที่กำลังจะฆ่าตัวเอง แต่รักษาเพราะนิวได้ขอร้องเธอเอาไว้
เห็นแก่ผัวนะ ไม่งั้นฉันปล่อยมึงตายไปนานแล้ว
“โอเค เอ็น” นิวพูดขึ้น “ตอนนี้ฉันอยากให้นายเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างและทำไมนายโดนซอมบี้กัดแล้วไม่กลายเป็นซอมบี้กลับได้พลังซอมบี้มาแทน”
“ข้อท้ายไม่รู้แน่นอน แต่ฉันน่าจะมีภูมิคุ้มกันไวรัสซอมบี้ล่ะมั้ง หรืออาจจะเซลล์ในร่างกายของฉันสามารถเข้ากับเชื้อไวรัสซอมบี้ได้อย่างดีจนกลับกลายมาเป็นพลัง”
ทุกคนรวมถึงฟางที่กำลังเย็บแผลให้คาโอรินอย่างตั้งใจก็กำลังตั้งใจฟังอยู่
“ส่วนเรื่องราวก็อย่างที่บอกไป ฮีซุยหักหลังฉัน เพราะวินมันเอาฮีซุยมาเป็นเหยื่อล่อเพื่อให้นิวมาติดกับ แต่ดันเป็นฉันที่ติดกับเสียเอง”
“พอเข้าใจแล้ว” นิวพยักหน้า
“แก๊งนี้มันน่านัก” นัทพูดอย่างแค้นใจ “แล้วเราจะทำยังไงกันต่อ?”
“เราต้องจัดการบุกพวกมัน ล้างบางพวกมันให้หมด” ผมพูด
“กูไม่อยากจะทำสงครามหรอกนะ” กิ๊บสวนขึ้นมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด “มึงแหกตาดูก่อนสิว่าไอ้คนที่ชื่อดอมมันขู่อะไรเราไว้ ศัตรูมีตั้งพันคนแล้วไอ้นิวเสือกไปยั่วมันเนี่ยนะ แบบนี้ต่อให้เราเก่งขนาดไหน ไอ้เอ็นจะมีพลังซอมบี้ แต่จำนวนเรามีอยู่แค่นี้จะไปสู้อะไรมันไหว!?”
ทุกคนเงียบ…
สิ่งที่กิ๊บพูดมามันคือความจริง…
เราไม่มีทางชนะเลย
“เราต้องถอยหลังไปตั้งหลักก่อน” นัทพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง “กิ๊บมีบ้านอยู่แถว ๆ บางนา เราน่าจะไปกบดานกันที่นั่นกันก่อนได้”
“อยู่ที่นี่เราจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป” นิวเสริม “ตอนนี้พวกเราอ่อนแอกันมาก เราต้องพร้อมสู้ให้มากกว่านี้”
“แล้วคาโอรินล่ะ?” ฟางถาม
“ก็เอาไปด้วย” ผมหันไปหาหญิงสาวที่นอนอยู่“พอเธอตื่นเมื่อไหร่เดี๋ยวฉันจะเป็นคนแบกเธอไปเอง ตอนนี้ให้ทุกคนเก็บของ เอาของที่จำเป็นไป แล้วไปเจอกันข้างล่าง ให้ใช้บันไดเท่านั้น เพราะไม่รู้ว่าลิฟต์อีกตัวจะใช้ไม่ได้อีกเมื่อไหร่”
“ตามนั้น” นัทพูด ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
ระหว่างเก็บของ คาโอรินสามารถชันตัวเองให้ลุกขึ้นได้แล้ว แต่เธอไม่มีสัมภาระให้เก็บเลยให้นอนอยู่บนโซฟา ผมกลับมาที่ห้องของตัวเอง
ทุกอย่างมันเงียบไปหัว ภาพในความทรงจำที่ทุกครั้งเมื่อกลับมาถึงห้องก็จะมีฮีซุยที่เข้ามากอดและหอมแก้มพร้อมถ่มว่าไปฝึกซ้อมเหนื่อยมั้ย เพราะช่วงนั้นผมต้องไปฝึกศิลปะการต่อสู้กับนิว ซึ่งเป็นอะไรที่เหนื่อยแบบสุด ๆ แต่มันก็แลกมาด้วยที่ทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นได้ ตอนนี้ทั้งห้องกลับมืดมนและเงียบเชียบจนได้ยินเสียงตัวเองหายใจ จากที่เคยมีคนข้าง ๆ กลายที่คอยช่วยแบ่งเบาภาระ มีคนช่วยซัปพอร์ตและหนุนกันเรื่อยมา พอมารู้ที่หลังว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นเพียงการจัดฉากขึ้นเท่านั้น การแสดงของฮีซุยนั้นทำให้ผมเชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นเลยว่าเธอคนนี้คือคนสุดท้ายของชีวิตที่ทำให้ผมคิดว่าทั้งชีวิตนี้นอกจากพ่อแม่ก็มีเธอนี่แหละที่จะเดินไปข้างหน้าพร้อมกับผมแม้ว่าระหว่างทางจะเจอขวากหนามและอุปสรรคต่าง ๆ นานา
สุดท้ายแล้ว…มันก็เป็นเพียงแค่ฝันกลางวันเท่านั้น
การที่ผมได้กลายเป็นซอมบี้ก็เหมือนว่าผมตายไปจากเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และฟื้นคืนชีพกลับมาเป็นมนุษย์เพื่อได้รับโอกาสจากพระเจ้าที่ผมได้ทอดทิ้งไปเพื่อมีชีวิตรอดต่อไปเพื่อเหตุผลอะไรบางอย่างแม้แต่ตัวเองก็ไม่สามารถหาคำตอบได้
คำตอบของคำถามที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าคำถามนั้นมันคืออะไรนั้นมันคงจะอยู่ที่ไหนสักแห่งอย่างแน่นอน
เมื่อผมเก็บของทั้งหมดใส่ในกระเป๋าเป้ที่ครอบครัวผมทิ้งไว้ให้เป็นที่เรียบร้อย ผมกลับไปยังห้องนิวเพื่อรวมตัว เห็นนัทกำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้ากิ๊บ
“กิ๊บ” นัทยื่นแหวนให้ “แต่งงานกับเรานะ”
ผมยืนอึ้ง
หยดน้ำตาอุ่น ๆ ไหลอาบแก้ม จากนั้นเธอก็ตอบตกลงและเข้าสวมกอดนัทอย่างมีความสุขที่สุดในชีวิต นั้นทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า สักวันผมจะมีโมเม้นท์แบบนี้บ้างหรือเปล่า ผมเห็นนิวโอบไหล่ฟางที่กำลังเอาศีรษะพิงไหล่ของแฟนหนุ่ม ทุกคนเป็นสักขีพยานของคู่รักนี้ที่ได้มีวันที่จะครองคู่กันตามกฎหมายแม้ว่ากฎหมายจะใช้ไม่ได้แล้วก็ตาม
จากนั้นผมก็นึกแผนอะไรบางอย่างออก
ผมแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
“คิดอะไรออกแล้ว”
_______________________________________________
To Be Continue Ep.27