"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"
แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Undead War สงครามคนเป็น"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"
โรคระบาดยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน หมอทุกคนตายกันไปหมดแล้ว ความหวังดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสุดท้าย ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ไร้แสงสว่างและไร้สิ้นสุด พวกซอมบี้ต่างคอยจะได้กัดกินเนื้อมนุษย์อย่างกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่พวกมันอยู่เต็มไปหมด
แต่ความหวังก็ยังไม่หมดไป เมื่อผมสามารถเอาชนะเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ร่างกายของผมเกิดกลายพันธุ์และสามารถแปลงกายเป็นซอมบี้ได้ตลอดเวลา นั่นทำให้ผมวิวัฒนาการไปอีกขั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้
ซอมบี้กว่าร้อยตัวค่อย ๆ เดินกรูเข้ามา ทำให้ทุกคนต้องเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือกับสงครามระลอกนี้
“ไม่จริงใช่มั้ย?” นัทเริ่มสติแตก ปืนพกในมือสั่น
“จริงที่สุดเลยล่ะเพื่อนเอ๋ย” นิวพ่นลมหายใจออกทางจมูก “ตอนนี้กระสุนฉันหมดแล้วนะ แล้วของพวกเธอล่ะ?”
“ของเค้ายังเหลือไรเฟิลสไนเปอร์อยู่แม็กหนึ่ง” ฟางรายงาน
“ของฉันมีอยู่ครึ่งแม็ก” คาโอรินบอก
“ฟางเล็งไปที่หัวของมัน ยิงจนกว่ามันจะล้ม” นิวสั่ง “จะให้มันเข้ามาถึงที่นี่ไม่ได้”
ฟางเข้าประจำที่ แต่คาเรนกลับยิ้มและเดินเข้าไปกดลำกล้องปืนลง ทุกคนต่างงงกับสิ่งที่คาเรนได้ทำ รวมถึงผมด้วย เขายิ้มราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นและสถานการณ์นั้นเขาสามารถคุมได้หมดแล้ว
“อย่าเปลืองกระสุนจะดีกว่านะพี่ฟาง” เขาพูด จากนั้นเขาก็เปลี่ยนร่างเป็นซอมบี้โดยที่ไม่ต้องดื่มเลือดซอมบี้หันมาหาผมด้วยดวงตาที่ขาวโพลน “เป็นการเร่งเซลล์ซอมบี้ในร่างกายน่ะ ถ้าฝึกหน่อยก็สามารถแปรงร่างได้เหมือนผมด้วย แต่คราวนี้ผมต้องการให้พี่แปรงร่างเพื่อช่วยผมหน่อย”
เขาใช้ฟันตัวเองกัดแขนของตัวเองให้เลือดไหล สร้างความตกใจให้กับพรรคพวกเป็นอย่างมาก ผมได้กลิ่นเลือดของเขาลอยฟุ้งไปทั่ว แต่จู่ ๆ มันทำให้ผมรู้สึกอยากดื่มเลือดขึ้นมาซะอย่างนั้น หลังจากนั้นคาเรนก็กลายร่างเป็นซอมบี้ บาดแผลนั่นก็ยังไม่หายจากนั้นเขาก็ยื่นแขนที่ซุ่มเลือดมาให้ผม
“ดื่มเสียแล้วกลายร่าง” ชายหนุ่มพูด
จู่ ๆ ร่างกายของผมก็ค่อย ๆ ทำตามสัญชาตญาณดิบอยู่ภายในจิตใต้สำนึก เท้าของผมค่อย ๆ ก้าวทีละก้าว ทีละก้าวจนกลายเป็นวิ่ง ดวงตาของผมแดงฉานราวกับเลือด ผมพุ่งเข้าไปหาเขาพร้อมกับแยกเขี้ยวขย้ำมันทันที ของเหลวสีแดงข้น ๆ ค่อย ๆ ไหลเข้าปาก แทนที่มันจะคาวแต่มันหวานอย่างน่าประหลาด
ร่างกายของผมก็ค่อย ๆ เปลี่ยนร่างเป็นซอมบี้ ผิวหนังค่อย ๆ ซีดเผือก มีเส้นเลือดผุดขึ้นมา ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีขาว กล้ามเนื้อค่อย ๆ ก่อตัวจนมีขนาดที่กระชับขึ้น สารอะดรีนาลีนสูบฉีดไปทั่วเซลล์ ผมกำหมัดแน่นแล้วอัดเข้าไปที่บริเวณศีรษะของซอมบี้ตัวหนึ่งกระเด็นออกไป ผมมองร่างกายตัวเองที่ดูเหมือนว่าจะพัฒนาขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ได้ดื่มเลือดของคาเรน เขาไม่ได้อธิบายอะไรใด ๆ ชายหนุ่มพุ่งสุดตัวไปเข้าไปหาซอมบี้ร่างใหญ่อย่างไม่กลัว ผมกัดฟันชักดาบคาตะนะคู่ใจขึ้นมาก่อนจะวิ่งเข้าไปสมทบกับเขาทันที
ฝั่งของไทแรนเองก็ได้รับรู้การมาของพวกเรา มันจึงคำรามเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ทำให้ซอมบี้รอบ ๆ ข้างต่างกรูเข้ามา คาเรนใช้มีดสั้นของตัวเองในการฟาดฟันพวกมันและมีการใช้มือซ้ายกระชากหัวให้หลุดจากบ่าก่อนจะโยนมาให้ผมใช้ใบมีดอันคมกริบฟันจนขาดเป็นสองท่อน
ถือว่าเป็นคอมโบที่เข้าขากันได้ดีจริง ๆ
“แบบนี้ไม่ต้องทำอะไรแล้วมั้ง?” ฟางถามก่อนจะเริ่มลดการ์ดลง
“ไม่ได้นะ! เราต้องช่วยคุ้มกันสองคนนั้นด้วย” กิ๊บไม่เห็นด้วยก่อนจะคว้าปืนไรเฟิลของตัวเองที่มีสโคปติดอยู่เล็งไปที่ซอมบี้แต่ละตัว จากนั้นก็ตั้งโหมดของปืนอยู่ในโหมดยิงแบบ Single Bullet ก่อนจะเริ่มระดมยิง เมื่อฟางเห็นดังนั้นจึงประทับปืนอีกครั้งแล้วเล็งไปที่หัวของไทแรนที่ออกตัววิ่งเข้ามาหาทั้งสองคนแล้ว
“ฟางและกิ๊บทำดีแล้ว ส่วนที่เหลือจัดการกับพวกที่เข้ามาจากด้านหลัง” นิวออกคำสั่งก่อนจะโยนปืนพกให้นัทเพราะเห็นว่าเขายิงซอมบี้เฉลี่ยตัวละห้านัดกว่ามันจะตาย
“เล็งที่หัวสิวะ!” มังกรพูดแล้วยิงปืนใส่พวกมันเข้าหัวทุกนัด
“ทำไมถึงเข้าหัวทุกนัดเลยวะ!?” ไอยาถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทิ้มไปด้วยความกลัว
“ก็เคยเป็นทหารรักษาดินแดนที่มีครูฝึกเป็นนักแม่นปืนมาก่อน จะไม่ให้เข้าหัวทุกนัดได้ยังไง” ชายหนุ่มบอกก่อนจะเริ่มเข้าไปบวกกับพวกซอมบี้พร้อมกันทีละสามตัว เขาหลบการโจมตีของมันหนึ่งตัวแล้วยื่นปลายกระบอกปืนไปใต้คางแล้วลั่นไกปืน จากนั้นก็เตะมันออกให้พ้นทาง เมื่ออีกตัวพุ่งเข้ามา ชายหนุ่มเอี้ยวหัวหลบเพื่อให้มันสะดุดกับร่างกายที่มีกล้ามเนื้อปกคลุม มังกรยืดตัวขึ้นทำให้ร่างของศพผีดิบกระเด็นข้ามไหล่แล้วปืนใส่หัวของอีกตัว จากนั้นก็หันกลับมายิงหัวซอมบี้ที่ล้มอยู่กับพื้น “อย่ามัวแต่ยืนเฉย ๆ สิ! มาช่วยกัน!”
หลังจากนั้นกระรอกพุ่งเข้าไปจัดการซอมบี้หนึ่งตัวด้วยปืนพกพร้อมกับไอยาและมาย ซึ่งสามคนนี้มักจะเกาะกลุ่มอยู่ด้วยกัน ซึ่งมักจะเปลืองกระสุนที่สุด (วันหลังคงต้องเปิดคอร์สสอนยิงปืนเสียแล้ว) พวกเธอหันหลังชนกันแล้วระดมยิงกระสุนออกไปหลายนัดซึ่งต้องให้ทอม เรมัสและนิวช่วยจัดการอีกแรง (ทอมและเรมัสควรที่จะได้รับการฝึกด้วยเช่นกัน) ส่วนคาโอรินที่กระสุนใกล้จะหมดจึงหันมาใช้มีดสั้นแทน ซึ่งเธอก็ไม่ได้ถนัดเท่าไหร่ ด้วยจำนวนของมันไม่ได้เยอะ จึงสามารถสู้ได้โดยไม่มีความอึดอัดมากนัก
ผมและคาเรนที่ต่างฝ่ากองทัพซอมบี้เพื่อเข้าถึงตัวของไทแรนซึ่งมันก็ไม่ได้รอให้พวกเราเข้าไปหาเพียงอย่างเดียว มันวิ่งมาหาพวกเราด้วยท่าทางที่อุ่ยอ้ายเพราะความแน่นของกล้ามเนื้อและขนาดร่างกายของมัน แต่ก็ยังมีกระสุนของฟางและกิ๊บที่ยังคงระดมยิงใส่อย่างไม่หยุดยั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะกะโหลกหนา ๆ ของมันได้เลยแม้แต่นิดเดียว วิถีของกระสุนไรเฟิลทุกนัดนั้นแม่นยำ แต่ไม่เป็นผล กระสุนจะถูกปัดออกเหมือนร่างกายของมันสร้างจากโลหะชนิดพิเศษที่แม้แต่ไรเฟิลซุ่มยิงยังไม่สามารถเจาะเข้าไปได้
“ทำยังไงดีวะ?” ฟางเริ่มลน
“เจาะไม่เข้า…” กิ๊บเบิกตาและร่างกายสั่นเทิ้มไปด้วยความกลัวท่ามกลางเพื่อนร่วมทีมต่างปกป้องมือสไนเปอร์สาวทั้งสอง
“ทางนั้นปล่อยให้สองคนนั้นจัดการ ตอนนี้หันมาสนใจพวกลูกกระจ๊อกพวกนี้กันก่อน!” นิวสั่งแล้วใช้คาตะนะฟันซอมบี้หัวขาดครึ่งไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ “พวกแม่งจะเยอะไปไหนวะ!”
“อีกไม่กี่ตัวก็จะหมดแล้วนิว!” ทอมบอกแล้วหวดซอมบี้ไปยังศีรษะด้วยท่อนไม้ที่หยิบมาจากข้างทางจนแบะไป ความแรงของการเหวี่ยงนั้นทำให้ท่อนไม้นั่นหักไปด้วย นิวโยนคาบคาตะนะอีกเล่มให้ทอม ซึ่งเขาแทบไม่รู้วิธีฟันแม้แต่นิดเดียว แต่ด้วยความคมของใบมีดที่นิวอุตส่าห์ลับมาอย่างดี ทำให้ยามที่ใบมีดได้สัมผัสกับเนื้อหนังของพวกผีดิบ มันก็ผ่านร่างไปราวกับฟันให้น้ำแยกเป็นสองส่วน ความมั่นใจของชายหนุ่มค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับความกล้าจึงสามารถเข้าไปเผชิญหน้ากับพวกซอมบี้พร้อม ๆ กับมังกรที่วาดลวดลายการยิงปืนอย่างแม่นยำและดุดัน จำนวนของมันค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือตัวไทแรน
คาแรนดีดตัวพุ่งขึ้นไปกลางอากาศเข้าไปหาไทแรนที่สูงสองเมตรมีกล้ามเนื้อหนา ๆ ที่แกร็งราวกับเหล็กกล้าก่อนใช้มีดสั้นปักไปกลางหัวของมัน แต่อนิจจามีดดันหักเพราะมันดันหมุนศีรษะเพื่อปกปิดจุดอ่อน มันสะบัดแขนเพื่อโจมตีคาเรน ซึ่งเขาสามารถใช้กล้ามเนื้อที่แขนกันไว้ได้ ส่วนผมที่ยังยืนจับดาบไว้ในมือพุ่งเข้าไปฟังที่บริเวณเส้นเอ็นบริเวณหลังข้อเท้าของมัน แม้ว่าจะมีพลังซอมบี้ช่วยในการเพิ่มพลังในการโจมตีแล้วก็ตาม ใบมีดมันก็ทำได้แต่สร้างรอยขีดข่วนเท่านั้น
“ทุ่มสุดตัวเพื่อรอยขีดข่วนเพียงรอยเดียวอย่างนั้นหรือ?” เสียงอันน่าสะพรึงกลัวของไทแรนได้พูดขึ้นทำให้ผมและคาเรนต่างผวาให้กับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แบบนี้
“ฉิบหายแล้ว…มันมีสติปัญญา…” ผมพูด
“งานหยาบแล้วสิ…” คาเรนกัดฟันอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะบุกเข้าไปโจมตีอีกครั้งด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น “ถ้าเอาชนะกันด้วยการโจมตีแบบตรง ๆ ไม่ได้ ก็ต้องจัดการด้วยความเร็วที่มึงจะมองไม่ทันเลย!!”
ผม…ผู้ซึ่งไม่รู้วิธีการเพิ่มความเร็ว แต่ในกรณีที่หน้าสิ่วหน้าขวานขนาดนี้มีแต่ต้องพึ่งสัญชาตญาณเอาแล้วล่ะ! เท้าของผมดีดตัวออกไป ทำให้พื้นคอนกรีตตรงที่เคยยืนได้แตกออก คราวนี้เหมือนกับว่าโลกทั้งใบกำลังเลื่อนผ่านตัวผมอยู่ ไทแรนมันใกล้เข้ามาแล้ว…ไม่สิ…มีแต่ผมเท่านั้นที่เคลื่อนที่เข้าไปหามัน มือกำดาบมั่นแล้วฟันเข้าที่ข้อเท้าของมันอีกรอบ แต่คราวนี้พลาด เพราะมันดันยกขาขึ้นเพื่อให้การฟันของผมพลาดเป้าไปแล้วมันก็ใช้เท้ากระทืบร่างของผมให้ติดที่พื้นจนร่างกายบาดเจ็บหนัก แต่นั่นก็เป็นข้อเสียในการตัดสินใจของอีกฝ่าย เพราะคาเรนพุ่งเข้าไปอยู่ด้านหน้าของมัน ซึ่งในเวลาไม่ถึงวินาทีเช่นนี้ไม่สามารถทำให้ไทแรนนั้นหลบการโจมตีนี้ได้หรอก เขาใช้มีดที่หักไปแล้วแทงเข้าที่ดวงตาของมันด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี ผลที่ออกมาก็คือ ใบมีดทั้งหมดจมหายเข้าไปที่ดวงตาข้างซ้าย ทำให้ไทแรนคำรามก้องด้วยความเจ็บปวด
“นิว! ปิดฉากเลย!” คาเรนตะโกน
ไม่กี่วินาทีที่เป็นโอกาสทองที่ชายหนุ่มหยิบยื่นให้ผมนั้นมันมีค่าเสียยิ่งกว่าเงินทอง ผมรู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อของตัวเองเริ่มตึงและกำลังจะฉีกขาดในไม่ช้าจึงกัดฟันแน่น โชคดีที่ร่างกายหลั่งอะดรีนาลีนเพื่อสูบฉีดให้ร่างกายได้บูสต์ตัวเองได้ เพื่อเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ปางตายเช่นนี้ ร่างกายค่อย ๆ ฟื้นตัวอีกครั้งด้วยพลังซอมบี้ก่อนจะพุ่งเข้าไปโจมตีระลอกสุดท้าย
“ตาย!!!” ผมคำรามเสียงดังสนั่นก่อนจะแทงเข้าที่ดวงตาอีกข้างของมันจนทะลุสมองของมันไป
ในนาทีนั้นรู้สึกว่าพวกเรารอดตายแล้ว ไทแรนไม่สามารถจัดการพวกเราได้แล้ว…เพราะว่าเราจัดการมันก่อนยังไงล่ะ พอเป็นอย่างนั้นระยะเวลาการแปรงร่างของผมก็หมดลง สีผิวกลับมาเป็นสีเนื้อเหมือนคนปกติ นัยน์ตากลับมาเป็นสีดำดังเดิม กล้ามเนื้อค่อย ๆ หดและรู้สึกเจ็บอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ร่างอันสูงใหญ่ของไทแรนได้ล้มลง…และแน่นอน…ผมก็ล้มลงด้วยเช่นกัน
“เอ็น!” คาเรนร้องก่อนจะวิ่งเข้ามาแบกผมขึ้นบ่าด้วยมือข้างเดียว เพราะตอนนี้พวกซอมบี้กระจ๊อกที่ได้ยินเสียงค่อย ๆ กรูกันเข้ามา “ไทแรนตายแล้ว! หนี!!”
นิวได้ยินดังนั้นจึงสั่งทุกคนถอย พวกเราจึงหยุดโจมตีทุกอย่างทันทีก่อนจะหันหลังวิ่งไปตามถนนที่มีแต่บ้านรั้วพังและมีพวกซอมบี้เดินยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ยามที่พวกเราวิ่งผ่าน บางตัวก็พยายามวิ่งไล่ตะครุบเราอย่างบ้าระห่ำ แม้ว่าบางตัวจะทำได้เพียงแค่เดินเท่านั้น ซึ่งยังไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่
“หาบ้านที่มีรั้วแข็งแรงเร็วเข้า!” นิวสั่งการ
“เจอหลังนึงแล้ว! อยู่ตรงนี้!” เสียงของวินดังขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่บ้านหลังหนึ่งที่อยู่ห่างจากเราเพียงไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตร เท่าที่เห็นสภาพของบ้านและรั้วที่สูงใหญ่กว่าบ้านหลังอื่น ๆ นั่นถือว่าสามารถใช้เป็นที่กบดานชั่วคราวได้อย่างดีเลยทีเดียว สภาพแวดล้องของที่นี่จะคล้าย ๆ สถานที่ในเมืองนอกตรงที่มีบ้านหลังเล็ก ๆ ตั้งเรียงรายกัน ซึ่งแต่ละบ้านจะกั้นรั้วเพื่อกันขโมย แต่ในทางกลับกันคราวนี้รั้วกลับถูกทำลายจนบิดเบี้ยวไม่สมประกอบอย่างที่ต้องการ แต่ทว่าบ้านหลังที่วินได้ชี้ไปนั้นมีรั้วเหล็กล้อมรอบ ซึ่งน่าจะป้องกันได้ไว้สักระยะ เนื่องด้วยสมาชิกแต่ละคนเริ่มเหนื่อยกันแล้วด้วย
“เข้าไปในบ้านหลังนั้น!” นิวตะโกนแล้วจึงพาพวกเราเข้าไปในรั้วบ้านนั้น ซอมบี้บางตัววิ่งเข้ามาติด ๆ กำลังจะตะครุบนัทได้ แต่เขาหันกลับไปสาดกระสุนใส่มันจนหมดสภาพอยู่ตรงนั้น เขายืนนิ่งอยู่ได้สักครู่ก่อนที่จะถูกคาเรนในร่างซอมบี้คว้าข้อมือเอาไว้ก่อนจะโยนร่างของผมที่กำลังหมดสติให้นิวและเรมัส จากนั้นเขาก็ปิดประตูด้วย ฝูงซอมบี้ได้เข้ามากระแทกประตูโลหะสูงสองเมตรอย่างแรงจนเกือบจะทำให้ประตูรั้วพัง
“ไปเอาท่อนเหล็กหรืออะไรก็ได้มา!” คาเรนออกแรงดันประตูสุดแรงเกิด กิ๊บได้ยินดังนั้นจึงวิ่งหายเข้าไปในบ้านซึ่งนัทก็ตามเข้าไปด้วย “ที่เหลือมาช่วยกันหน่อย จะหมดเวลาของการแปรงร่างแล้ว!”
กระรอก ไอยา มาย วิน และคนอื่น ๆ วิ่งเข้าไปช่วยคาเรนที่กำลังจะคืนร่างเดิมดันประตูสู้แรงกับเจ้าพวกผีดิบเดินได้ นิวปีนขึ้นไปบนกำแพงรั้วที่ก่อด้วยอิฐสูงพอ ๆ กับประตูก็เห็นว่าพวกซอมบี้มีกันมากว่าร้อยตัว เขาถึงสาดกระสุนใส่ตัวที่เข้ามาใกล้ประตูมากที่สุด เพียงไม่กี่อึดใจกิ๊บและนัทออกไปพร้อมกับเหล็กเส้นที่เอาไว้สำหรับพยุงเสาปูน เธอส่งให้คาเรนจากนั้นเขาได้ใช้แรงเฮือกสุดท้ายสอดแท่งเหล็กยาวหนึ่งเมตรที่จับก่อนจะบิดทั้งสองข้างเข้าหากันหลายรอบแล้วม้วนมันจนสามารถผิดตายประตูนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบก่อนที่เขาจะคืนร่างเดิมเป็นมนุษย์ผู้อ่อนแอธรรมดา ๆ
“สำเร็จ!!” คาเรนตะโกนขึ้นไปบนฟ้า “เรา!...รอดแล้ว…” ร่างของเขาก็ล้มลงไปนอนกับพื้นพร้อมสมาชิกทุกคนที่จู่ ๆ ก็เหมือนสับสวิตช์ดับเครื่องยนต์ของตัวเองยังไงยังงั้น พวกเขาทิ้งตัวลงที่พื้นด้วยความเหน็ดเหนื่อย นิวกระโดดลงมาจากกำแพงนั่นก่อนจะมานั่งหอบอยู่กับพวกเรา เหงื่อไหลโชกเป็นน้ำซึมเข้าไปยังเสื้อผ้าจนเปียก
เราทำได้…เรารอดแล้ว…จริง ๆ
____________________________________________
To Be Continue Ep.39