"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

Undead War สงครามคนเป็น - ตอนที่ 53 เป้าหมายเพื่อเอาชีวิตรอด โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Undead War สงครามคนเป็น

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย

รายละเอียด

Undead War สงครามคนเป็น โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

โรคระบาดยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน หมอทุกคนตายกันไปหมดแล้ว ความหวังดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสุดท้าย ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ไร้แสงสว่างและไร้สิ้นสุด พวกซอมบี้ต่างคอยจะได้กัดกินเนื้อมนุษย์อย่างกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่พวกมันอยู่เต็มไปหมด 

 

แต่ความหวังก็ยังไม่หมดไป เมื่อผมสามารถเอาชนะเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ร่างกายของผมเกิดกลายพันธุ์และสามารถแปลงกายเป็นซอมบี้ได้ตลอดเวลา นั่นทำให้ผมวิวัฒนาการไปอีกขั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้

สารบัญ

Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 1 ณ จุดเกิดเหตุ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 2 มื้อเช้าสองพ่อลูก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 3 มีอะไรให้คิดอีกเยอะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 4 จุดกำเนิดฝันร้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 5 หัวใจที่เน่าสลาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 6 เข้าสู่กลียุค,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 7 นาทีหลบหนี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 8 กลิ่นคาวเลือดที่หอมหวาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 9 ไปให้ถึงเซฟเฮาส์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 10 สำรวจพื้นที่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 11 ฟาร์มของ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 12 ยื่นหมูยื่นแมว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 13 RED RIGHT HAND,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 14 หญิงสาวปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 15 สีขาวที่แปดเปื้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 16 หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 17 เสียงกระซิบ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 18 หน้ากากหนังมนุษย์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 19 กลายร่าง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 20 หนึ่งต่อร้อย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 21 เสียงประสานลมหายใจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 22 เสียงเพรียกแห่งความทรงจำ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 23 น้ำตาที่ไร้ความชุ่มชื้น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 24 จากที่ต่ำ…ขึ้นสู่ที่สูง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 25 ชายส่งสาส์นปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 26 ถอยหลังเพื่อเริ่มต้นใหม่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 27 ลางร้ายเริ่มปรากฏ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 28 อสูรไร้เทียมทาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 29 ความรู้สึกที่ซับซ้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 30 ฮาวทูมูฟออน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 31 ไวท์เว็ดดิ้งและผู้มาเยือน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 32 หมาป่าที่แต่งตัวด้วยขนแกะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 33 สิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 34 ศัตรูที่ไม่อยากจะสู้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 35 ละทิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 36 โลกที่เปลี่ยนไปเมื่อลืมตาตื่น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 37 ผู้ครอบครองพลังซอมบี้คนที่สอง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 38 ทุ่มสุดตัวเพื่อรอยข่วน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 39 พัฒนาโหมดซอมบี้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 40 เมล็ดพันธุ์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 41 พื้นที่จำกัด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 42 เบื้องหลังของนิว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 43 เตรียมบุก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 44 ก่อนการบุกโจมตี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 45 ชีวิตที่ไร้ค่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 46 อดีตปะทะปัจจุบัน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 47 แบล็กเว็ดดิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 48 มนุษย์คือสัตว์ประเสริฐจริงหรือ?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 49 ออรัลบนรถ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 50 วัดป่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 51 พระสงฆ์รูปสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 52 อมตะไม่มีจริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 53 เป้าหมายเพื่อเอาชีวิตรอด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 54 ตะลุมบอน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 55 ยอมแพ้เสีย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 56 ผู้นำที่อ่อนแอไม่มีวันเป็นทรราช,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 57 ขอเรียกร้องจากผู้ใหญ่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 58 โครงการทั้งห้า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 59 สงครามคนเป็น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 60 ผู้ป่วยโรคระบาดที่ก้าวราวเกเรมาก ๆ และรอการรักษา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 61 ความรักที่เกินกว่าค่าอนันต์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 62 คำตอบค่าเอ็กซ์ในสมการ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 63 ยุทธการทุบหม้อข้าว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 64 นักฆ่าลูกตำรวจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 65 กัปตันไทยแลนด์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 66 ความแข็งแกร่งที่แท้จริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 67 ประกาศชัยชนะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 68 การมาถึงของเบื้องบน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 69 ข้อเสนอที่ดูเป็นธรรม?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 70 นักวิทยาศาสตร์สันหลังยาว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 71 กุญแจสู่การสร้างวัคซีน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 72 สงครามครั้งสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 73 พร้อมสละทุกอย่างเพื่อคนรัก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 74 การเสียสละกำเนิดวีรบุรุษ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 75 วันครบรอบวันตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 76 ชีวิตหลังความตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 77 จากไปแล้วหวนคืน (ตอนอวสาน)

เนื้อหา

ตอนที่ 53 เป้าหมายเพื่อเอาชีวิตรอด

ในระหว่างทางเราแวะเข้าไปสำรวจที่บริเวณหมู่บ้านในย่านสลัมเล็ก ๆ ซึ่งเป็นที่ที่เหม็นกลิ่นคาวเลือดและมีซอมบี้อยู่เต็มไปหมด ผมตะลุยจัดการซอมบี้ทุกตัวที่เห็น แล้วให้คาโอรินเข้าไปตรวจค้นด้านในบ้านแต่ละหลัง แต่ดูเหมือนว่าจะเสียเวลาเปล่า เพราะผมสังเกตเห็นร่องรอยการต่อสู้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรอยกระสุนที่เจาะอยู่ตามกำแพงสังกะสี ตามทางเดินมีศพซอมบี้นอนตายโดยมีรอยกระสุนอยู่กลางหน้าผากรวมแผลจากการถูกของมีคมแทงสวนขึ้นทะลุไปยังสมอง

“หมู่บ้านนี้น่าจะคนเข้ามายึดที่นี่แล้ว” ผมพึมพำในลำคอ

“เอ็นคะ เค้าอยากถามอะไรหน่อย” แฟนสาวพูดขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ท่าทางของเธอดูระมัดระวังเหลือเกิน “มันคาใจเค้ามานานแล้ว”

“ได้ครับ” ผมตอบอย่างสุภาพเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นว่าสิ่งที่เธอจะถามจะไม่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

“ตอนที่ดอมมันส่งจดหมายเชิญงานแต่งระหว่างวินและฮีซุยมาก็จริง ซึ่งมันเป็นการทำให้เอ็นช้ำใจเล่น ๆ แต่ทำไมกลับกลายเป็นว่าฮีซุยถึงต้องมาแต่งงานกับเอ็นแทนล่ะ?” 

ผมนิ่งไปสักพักหนึ่ง

“คนพวกนี้จิตไม่ค่อยปกติกันสักคน” ผมเกริ่น “วินมันฉลาดในการใช้คำพูด แต่ลึก ๆ มันมีความย้อนแย้งในจิตใจ เป้าหมายก็ไม่ชัดเจน แม้ว่ามันบอกว่าจะใช้ประโยชน์จากพลังซอมบี้ของเค้า แต่เค้าคิดว่ามันไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของมัน ต่อให้มันจะฉลาดและมีวาทศิลป์ขนาดไหน มันก็ไม่ได้โง่ที่จะรู้ดีว่าเค้าไม่ยอมร่วมมือกับมันแน่ ๆ”

คาโอรินฟังอย่างตั้งใจพร้อมเดินไปด้วย

“ส่วนฮีซุย” ชื่อนี้พูดกี่ทีก็รู้สึกเจ็บปวด “เป็นแค่ผู้หญิงมีปมคนหนึ่งที่ไม่เห็นคุณค่าของร่างกายตัวเอง ใช้สิ่งที่อยู่หว่างขารวบรวมพรรคพวกมาให้วิน แสร้งทำเป็นรักวินเพื่อจะได้มีเป้าหมายในชีวิต สิ่งที่ดอมบอกน่ะมันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ ไม่มีทหารเป็นพันคนหน้าไหนอยากจะร่วมมือกับวัยรุ่นที่ได้ชื่อว่านักเลงสยามหรอก”

“ถ้าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ก็ว่าไปอย่างนะ” หญิงสาวบอก

“ใช่” ผมเห็นด้วย “เป็นแค่ผลประโยชน์ระยะสั้น สิ่งมีชีวิตทั้งโลกมีเป้าหมายอยู่เพียงอย่างเดียวคือการเอาชีวิตรอด จะทิ้งความเป็นคนหรือยังคงความเป็นคนอยู่ก็ต้องเลือกเอา”

ผมไม่ได้พูดสิ่งที่เหลือเพราะจะเป็นการทำร้ายจิตใจของแฟนสาวทันที งานแต่งงานกลางดงซอมบี้ที่จะกลายเป็นลานประหารแด่คนที่ผมรักนั้นก็เป็นส่วนของแผนที่ผมคิดขึ้นมา เพื่อให้ฮีซุยบรรลุความปรารถนาของตัวเองก่อนจะสิ้นลมหายใจ เพราะฮีซุยนั้นหลอกตัวเองมาตลอดว่ารักวิน แต่ในความเป็นจริงเธอรักผมมากมายนัก แต่การที่คนรักเป็นฝ่ายศัตรูเป็นสิ่งที่เธอเองนั่นทำใจยอมรับได้ยาก ความเจ็บปวดทรมานอันแสนสาหัสที่ต้องสะกดจิตใจตัวเองเพื่อยังหวังผลประโยชน์จากวินอยู่ เพราะเธอยังรู้อีกว่าหากเธอหักหลังวินมาอยู่กับผมที่ตอนนี้มันก็สายไปแล้ว เธอก็จะไม่มีจุดยืนในกลุ่มของผมอีกเลย

เธอไม่มีคนคอยปกป้องยังไงล่ะ

ถ้าเธอแต่งงานกับผม เธอก็จะใช้ผมเป็นโล่ป้องกัน แต่สุดท้ายแล้วกลุ่มของเราก็จะแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นพวกเราก็จะตายกันหมด ทางเลือกที่ดีที่สุดคือฆ่าเธอทิ้งเสีย

“ที่นี่ไม่มีอะไรให้เก็บแล้วล่ะ” ผมพูด “เราไปกันเถอะ”

“จ้ะ” 

 

เสียงเครื่องรถที่ถูกปรับจูนจนมีเสียงเบาลงด้วยฝีมือของนัทแล่นผ่านบ้านอยู่หลายหลัง ด้วยความที่วันนี้สำรวจเสร็จเร็วกว่าปกติจึงเลือกที่จะขับไม่เร็วมากเพื่อเป็นการกินลมชมวิว มีซอมบี้หลงฝูงเดินไม่กี่ตัว ซึ่งเราไม่ได้สนใจและเห็นว่ามันเป็นเหมือนหมาข้างถนน บอกตามตรงเลยว่าทุกคนได้ลืมวันและเวลาของตัวเองหมดแล้ว ไม่รู้ว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่ เดือนนี้มีวันสำคัญทางศาสนาหรือวันหยุดต่าง ๆ ที่จะถูกกาบนปฏิทินเพื่อให้นักศึกษาอย่างผมทราบและจะได้เตรียมตัวกันถูก

วันหยุดของคนอื่นที่ได้ไปเที่ยวทะเลหรือภูเขาหรือต่างประเทศ ส่วนผมนั้นก็อยู่แต่ที่บ้าน…ไม่สิ…ต้องเรียกว่าเป็นอะพาร์ตเมนต์ถึงจะถูก

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมเข้าไปอ่านเจอในหนังสือที่ผมเก็บเงินซื้อมาด้วยความยากลำบาก เป็นหนังสือเกี่ยวกับปรัชญาการใช้ชีวิตประจำวัน ผมจำชื่อนักเขียนคนนี้ไม่ได้แล้ว สิ่งที่ทำให้หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่ทำให้ผมสามารถมีจิตใจที่แข็งแกร่งได้ง่าย ๆ เสียดายที่ผมไม่ได้หยิบมาหลังจากที่กลับไปถึง ‘บ้าน’ ของตัวเองเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

‘คนเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกัน’ ปรัชญาหนึ่งในหนังสือเล่มนี้คือหนึ่งในปรัชญาที่ผมเอามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน คนเรามักมองว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนตัวเอง ซึ่งมันก็อาจจะจริงบ้างไม่จริงบ้างมันขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล มนุษย์เรามีแขน มีขา มีตาสองข้าง มีหูสองข้าง มีปาก มีจมูกรวมถึงส่วนประกอบต่าง ๆ ของร่างกาย แต่ในขณะที่บางคนเกิดมาไม่มีแขนหรือขา นั่นเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คนเราไม่มีความเหมือนกัน รวมถึงอีกในหลาย ๆ ปัจจัยก็คือ ลายนิ้วมือ ดวงตา น้ำเสียงและสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ นั่นคือการจำกัดและขยายความของคำว่า ‘คนเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกัน’ 

“คิดอะไรอยู่เหรอคะ?” คาโอรินจับมือผมก่อนจะซบศีรษะที่ต้นแขนของผมด้วยความรักใคร่

“กำลังคิดอะไรไปเรื่อยน่ะ” ผมตอบ “ว่าวันพรุ่งนี้พวกเราจะยังเหลือครบทุกคนอยู่หรือเปล่า”

“แล้วที่รักคิดว่ายังไงล่ะคะ?” 

“ต้องอยู่ให้ครบทุกคนสิ กลุ่มของพวกเรายิ่งแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ๆ อยู่แล้ว แบบนี้เราอาจจะไปยึดหมู่บ้านมาจากเดวิดได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน” ผมพูดด้วยความมั่นใจ

เรามีพรรคพวกที่ไว้ใจได้มากมาย แต่ละคนก็ยังแข็งแกร่งมากกว่าเดิม แม้กระทั่งพวกกระรอกที่หัดยิงปืนจนเริ่มเชี่ยวชาญพอจะเป็นกำลังสำคัญในสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ในสมัยที่ยังเรียนอยู่ที่โรงเรียน ในวิชาประวัติศาสตร์เรามักจะเรียน…ไม่สิ…ท่องจำเกี่ยวกับสงครามต่าง ๆ นั่นทำให้รู้ว่ามนุษย์เรานั้นทำสงครามมากันตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ช่วงเวลาในตอนนั้นมักจะเกิดเพื่อต้องการเข้าไปยึดเมือง เหมือนกับสามก๊กที่ทำสงครามเพื่อแย่งชิงเมืองและต้องการที่จะรวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง

แต่การทำสงครามในวันพรุ่งนี้นั้นเป็นศึกที่เราต้องแย่งชิงมาจากพวกมัน ซึ่งมันอาจจะฟังดูเหมือนว่าพวกเราเป็นตัวร้าย แต่ในความเป็นจริงก็อาจจะใช้ เพราะเราคิดว่าเราเป็นฝ่ายพระเอก มันเป็นฝ่ายตัวร้าย แต่อีกฝ่ายมองตัวเองเป็นฝ่ายดีและมองมาที่พวกเราเป็นฝ่ายชั่ว ก็เหมือนกับคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกันและเห็นตัวเลขเก้าและเลขหกในมุมมองที่แตกต่างกันออกไป

 

เมื่อเราถึงที่บ้าน เรมัสและทอมก็เข้ามาช่วยยกของลงจากรถ นัทที่กำลังตรวจดูรถคันใหม่เพื่อติดเกราะเหล็กกันกระสุนได้หยุดสิ่งที่เขาได้ทำอยู่พร้อมกับเข้ามาช่วยยกของอีกแรง กิ๊บแบกน้ำขวดใหญ่สองแพ็กด้วยมือข้างเดียวแล้วเดินเข้าไปเก็บในครัวซึ่งมีกระรอกและมายเป็นคนจัดการดูแลอยู่แล้ว

“คราวนี้ได้มาแต่มาม่าและน้ำเหรอ?” มายถามด้วยความสงสัย “แบบนี้ขาดสารอาหารแย่”

“กินเพื่อประทังชีวิตไว้ก่อนดีกว่า” กิ๊บพูดประชากเสียงจนหญิงสาวทั้งสองไม่ค่อยจะชอบการพูดของเธอสักเท่าไหร่

แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้เนื่องด้วยเหตุผลที่หญิงสาวพูดออกมานั้นเป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

คนเราหนีความจริงได้ยากเหลือเกิน

“พรุ่งนี้เราจะบุกแล้วใช่ไหม?” ผมกลายร่างเป็นซอมบี้แล้วพุ่งขึ้นไปหานิวที่นั่งตรวจตราความเรียบร้อยอยู่บนหลังคา

“ใช่” เขาตอบด้วยความเคร่งเครียด “พรุ่งนี้เราสองคนต้องจับคู่กันจัดการหอคอยให้หมด”

“ได้” ผมตอบรับ “ขอให้เราชัยในวันพรุ่งนี้ด้วยเถอะ”

“ฉันก็คิดไว้แบบนั้น” ชายหนุ่มยิ้มอย่างเห็นด้วย พร้อมประทับปืนไรเฟิลซุ่มยิงและส่องกล้อง “เป้าหมายของเรามีเพียงอย่างเดียวก็คือการมีชีวิตรอด”

“ฉันไปเจอพระมา”

“โชคดีจัง” เขาหันกลับมาพร้อมกับน้ำเสียงที่ฟังดูโล่งอก “ต่อให้ประเทศจะล่มจมแต่ศาสนาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจก็ยังไม่หายไปสินะ”

“ฉันไม่ได้นับถืออะไรนอกจากตัวเองอีกแล้ว” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “ก่อนหน้านี้ผมนับถือคริสเตียนเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ตัดสินใจหันหลังกับสิ่งที่ตัวเองเคยเชื่อและพระเจ้า”

“พูดอย่างกับในหนังแหนะ” ชายหนุ่มยักคิ้ว

“ขอโทษที่ดูหนังเยอะได้ปะล่ะ?” ผมพ่นลมหายใจออกทางจมูก

“เราสองคนนี่ชอบอะไรเหมือนกันเลยเนาะ อย่างกับว่าได้มองตัวเองในกระจกเลย” นิวพูดออกมาเป็นปริศนา

“พูดอะไรของนาย?”

“ไม่มีอะไรหรอก” จากนั้นเขาก็วาร์ปหายไปในทันที

มีแน่ ๆ

 

ตัดมาที่มุมมองของนิว

ผมวาร์ปออกมานอกเขตของบ้านห่างไกลประมาณหลายสิบกิโลเมตร นี่เป็นระยะทางที่ไกลที่สุดสำหรับผมที่สามารถวาร์ปได้ สมัยที่ผมอยู่โรงเรียนเดอะ ดาร์ก สกูล ผมสามารถวาร์ปได้ไกลเพียงหนึ่งกิโลเมตรเท่านั้น นั่นหมายความว่าเมื่อยิ่งเติบโต พลังก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น การที่ผมพูดอะไรแบบนั้นออกไปให้เอ็นรู้นั้นถือว่าเกือบจะทำให้ตัวตนของคนใดคนหนึ่งหายไป เพราะมันจะทำให้โลกคู่ขนานนั้นเกิดการทับซ้อนกันจนไม่มีใครสามารถแก้ไขได้ การที่ผมได้มาอยู่ที่นี่ คอยช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้นั้น…มันยากเกินกว่าที่ผมและฟางจะจัดการได้

โรคระบาดที่เกิดจากฝีมือของ ‘เบื้องบน’ ใน ‘โลกที่สี่’ นี้มันไม่ต่างอะไรกับ ‘โลกที่สาม’ ที่เป็นชาติที่แล้วของผมเลย การที่วิญญาณของผมจุติกลับชาติมาเกิดใหม่ในโลกคู่ขนานนั้นแค่มีเป้าหมายเพื่อให้ผมรับมือกับเหตุการณ์แบบนี้เองน่ะเหรอ…? 

มันไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอที่จะโยนโลกทั้งใบมาให้ผมแบกอยู่คนเดียว การที่ต้องกุมความลับอะไรสักอย่างและแบกความรับผิดชอบที่ใหญ่หลวงนี่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน การที่จะทำให้โลกนี้สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ต้องทำให้คนที่มีชีวิตรอดรวมกันล้างบางซอมบี้ไปให้หมดแล้วจัดการตัดหัวเบื้องต้นเสีย ความทรงจำในชาติที่แล้วของผมนั้นไม่มีเหตุการณ์ซอมบี้เกิดขึ้น แต่มีเพียงโรคระบาดที่เป็นฝีมือของรัฐบาลที่ต้องการจะล้างบางประชาชนเพื่อที่ตัวเองจะได้กินภาษีไปเรื่อย ๆ และคนที่คิดจะต่อต้านระบบการปกครองของมันจะลดน้อยลง นี่ไม่ต่างจากการทิ้งระเบิดปูพรมให้ทั้งฝ่ายตรงข้ามที่เป็นคนเชื้อชาติเดียวกัน รวมถึงฝ่ายตัวเองที่โดนลูกหลงตายในขณะที่ตัวเองนอนมัวเมาอยู่กับสุราและนารี

ให้ตายสิ…จะเป็นชาติไหนคนที่มักใหญ่ไฝ่สูงจะเป็นพวกที่ได้เปรียบเสมอ แต่การเป็นผู้นำที่ดีนั้นมันยากมากเลยทีเดียว ราวกับว่าพวกเราอยู่บนเรือที่เดินทางโดยไร้แผนที่ ซึ่งต้องงมหาเส้นทางไปเรื่อย ๆ ไม่ต่างจากตอนนี้ เพราะเราไม่มีเป้าหมายถึงนอกจากเอาชีวิตให้รอด แม้ว่าการแก้ไขสถานการณ์ซอมบี้เป็นเป้าหมายหลักของผม แต่จะให้ทำยังไงดีล่ะ…?

โลกทั้งใบที่อยู่บนบ่าทั้งสองข้างนี้มันช่างหนักจริง ๆ

_________________________________________

To Be Continue Ep.54