"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

Undead War สงครามคนเป็น - ตอนที่ 58 โครงการทั้งห้า โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Undead War สงครามคนเป็น

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย

รายละเอียด

Undead War สงครามคนเป็น โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

โรคระบาดยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน หมอทุกคนตายกันไปหมดแล้ว ความหวังดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสุดท้าย ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ไร้แสงสว่างและไร้สิ้นสุด พวกซอมบี้ต่างคอยจะได้กัดกินเนื้อมนุษย์อย่างกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่พวกมันอยู่เต็มไปหมด 

 

แต่ความหวังก็ยังไม่หมดไป เมื่อผมสามารถเอาชนะเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ร่างกายของผมเกิดกลายพันธุ์และสามารถแปลงกายเป็นซอมบี้ได้ตลอดเวลา นั่นทำให้ผมวิวัฒนาการไปอีกขั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้

สารบัญ

Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 1 ณ จุดเกิดเหตุ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 2 มื้อเช้าสองพ่อลูก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 3 มีอะไรให้คิดอีกเยอะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 4 จุดกำเนิดฝันร้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 5 หัวใจที่เน่าสลาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 6 เข้าสู่กลียุค,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 7 นาทีหลบหนี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 8 กลิ่นคาวเลือดที่หอมหวาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 9 ไปให้ถึงเซฟเฮาส์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 10 สำรวจพื้นที่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 11 ฟาร์มของ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 12 ยื่นหมูยื่นแมว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 13 RED RIGHT HAND,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 14 หญิงสาวปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 15 สีขาวที่แปดเปื้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 16 หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 17 เสียงกระซิบ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 18 หน้ากากหนังมนุษย์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 19 กลายร่าง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 20 หนึ่งต่อร้อย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 21 เสียงประสานลมหายใจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 22 เสียงเพรียกแห่งความทรงจำ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 23 น้ำตาที่ไร้ความชุ่มชื้น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 24 จากที่ต่ำ…ขึ้นสู่ที่สูง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 25 ชายส่งสาส์นปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 26 ถอยหลังเพื่อเริ่มต้นใหม่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 27 ลางร้ายเริ่มปรากฏ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 28 อสูรไร้เทียมทาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 29 ความรู้สึกที่ซับซ้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 30 ฮาวทูมูฟออน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 31 ไวท์เว็ดดิ้งและผู้มาเยือน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 32 หมาป่าที่แต่งตัวด้วยขนแกะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 33 สิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 34 ศัตรูที่ไม่อยากจะสู้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 35 ละทิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 36 โลกที่เปลี่ยนไปเมื่อลืมตาตื่น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 37 ผู้ครอบครองพลังซอมบี้คนที่สอง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 38 ทุ่มสุดตัวเพื่อรอยข่วน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 39 พัฒนาโหมดซอมบี้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 40 เมล็ดพันธุ์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 41 พื้นที่จำกัด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 42 เบื้องหลังของนิว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 43 เตรียมบุก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 44 ก่อนการบุกโจมตี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 45 ชีวิตที่ไร้ค่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 46 อดีตปะทะปัจจุบัน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 47 แบล็กเว็ดดิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 48 มนุษย์คือสัตว์ประเสริฐจริงหรือ?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 49 ออรัลบนรถ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 50 วัดป่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 51 พระสงฆ์รูปสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 52 อมตะไม่มีจริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 53 เป้าหมายเพื่อเอาชีวิตรอด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 54 ตะลุมบอน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 55 ยอมแพ้เสีย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 56 ผู้นำที่อ่อนแอไม่มีวันเป็นทรราช,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 57 ขอเรียกร้องจากผู้ใหญ่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 58 โครงการทั้งห้า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 59 สงครามคนเป็น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 60 ผู้ป่วยโรคระบาดที่ก้าวราวเกเรมาก ๆ และรอการรักษา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 61 ความรักที่เกินกว่าค่าอนันต์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 62 คำตอบค่าเอ็กซ์ในสมการ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 63 ยุทธการทุบหม้อข้าว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 64 นักฆ่าลูกตำรวจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 65 กัปตันไทยแลนด์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 66 ความแข็งแกร่งที่แท้จริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 67 ประกาศชัยชนะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 68 การมาถึงของเบื้องบน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 69 ข้อเสนอที่ดูเป็นธรรม?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 70 นักวิทยาศาสตร์สันหลังยาว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 71 กุญแจสู่การสร้างวัคซีน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 72 สงครามครั้งสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 73 พร้อมสละทุกอย่างเพื่อคนรัก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 74 การเสียสละกำเนิดวีรบุรุษ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 75 วันครบรอบวันตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 76 ชีวิตหลังความตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 77 จากไปแล้วหวนคืน (ตอนอวสาน)

เนื้อหา

ตอนที่ 58 โครงการทั้งห้า

“โครงการของรัฐบาลงั้นเหรอ?” ผมทวนคำพูดของจินอู

“ใช่ครับ” เขาพยักหน้าก่อนจะเดินมานั่งใกล้ลูกกรงไม่กี่เซนติเมตรเพื่อที่จะได้สื่อสารสะดวกมากขึ้น บรรยากาศรอบตัวเริ่มร้อนขึ้น หัวใจของผมและคาเรนเต้นแรง “ผมเป็นหนึ่งในทหารระดับกลางที่มีโอกาสติดตามเจ้านายไปประชุมโปรเจ็กต์ลับของเบื้องต้น เจ้านายของผมก็คือนายกรัฐมนตรีที่หายสาปสูญไปนั่นแหละครับ”

“ได้มาเจอกับคนใหญ่คนโตเชียวนะเนี่ย” คาเรนพ่นลมหายใจออกทางปาก “ไม่ธรรมดา ๆ”

“อย่าบอกนะว่าการโปรเจ็กต์นั่นก็คือโปรเจ็กต์โรคระบาดที่ทำให้คนกลายเป็นซอมบี้?” ผมถาม

ทหารหนุ่มพยักหน้า แววตาที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความแค้นได้ฉายออกมา

เขาไม่ได้พูดเล่น…

“โปรเจ็กต์โครงการของเบื้องบนนั้นล้วนเกี่ยวกับการลดจำนวนประชากรของประเทศเพื่อลดคนที่ต้องการจะล้มล้างเบื้องต้นและเชื้อพระวงศ์ครับ” เขาเกริ่น 

“ฉันจำได้” ผมมองเข้าไปในดวงตาของทหารหนุ่มที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นในใจต่อใครบางคนที่อยู่สูงเกินกว่าจะเอื้อมถึง “ตอนนั้นมีม็อบประท้วงกับเบื้องบนให้ลาออกติดกันเจ็ดวันเจ็ดคืนไม่หยุด พ่อของฉันถูกเลิกจ้างก็เพราะแบบนี้นี่แหละ”

“ในหัวของผม” จินอูใช้นิ้วชี้ของตัวเองเคาะที่ขมับสองสามที ดวงตายังคงจับจ้องมาที่ผมภายในลูกกรง “มีความลับทั้งหมดของโปรเจ็กต์ลับทั้งห้าและเหตุการณ์เรื่องราวต่าง ๆ ครับ โดยที่แต่ละโปรเจ็กต์เรียงตั้งแต่หนึ่งถึงห้าซึ่งประกอบไปด้วย 

โปรเจ็กต์ 001: เกมวีอาร์มรณะ

โปรเจ็กต์ 002: การเกณฑ์ทหารแบบไม่จำกัด

โปรเจ็กต์ 003: เพิ่มภาษีและค่าครองชีพ

โปรเจ็กต์ 004: ยุติการช่วยเหลือและบริการต่าง ๆ ของประชาชน

โปรเจ็กต์ 005: เชื้อโรคระบาดและอาวุธชีวภาพ”

“ทั้งสองคนทำอะไรกันอยู่?” เรมัสเดินเข้ามาในบ้านที่เราขังจินอูอยู่โดยที่ไม่ดูสถานการณ์ “จะมาบอกว่าคาโอรินอาการดีขึ้นแล้ว เธออยู่กับกระรอกและฟางน่ะ”

“อืม…ขอบคุณนะ” ตอนนี้สติของผมยังคงจับจ้องไปยังสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะเล่า

“เรมัส…” คาเรนเรียกชื่อชายหนุ่มที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ “นายเคยบอกว่านายได้เข้าไปเล่นเกมวีอาร์เกมใหม่ล่าสุดมาใช่มั้ย? ที่ถูกดึงจิตเข้าไปในเกมแล้วถ้าตายในเกมก็คือต้องตายในชีวิตจริงด้วย”

ผมเบิกตาโพลงเมื่อคาเรนพูดแบบนั้นก่อนจะหันหน้าไปมาชายหนุ่มร่างสูง

เขาทำหน้างง

“Survival Alone Game ใช่ ๆ เกมนั้นแหละ ฉันแทบเอาตัวไม่รอดเลยล่ะ เป็นเกมแบตเทิลรอยัลที่มีผู้เล่นมากกว่าหนึ่งพันคนโดยที่ต้องฆ่ากันเอง…ฆ่ากัน…” เรมัสเสียงแผ่วลงเมื่อพูดคำว่า ‘ฆ่า’ ออกไปเพราะเขารู้ตัวดีว่าตัวเองฆ่าคนไปมากมายเพื่อดิ้นรนเอาชีวิตรอดซึ่งไม่ต่างอะไรกับตอนนี้เลยทีเดียว เชาชะงักเมื่อเริ่มรู้สึกถึงสถานการณ์และบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงและซีเรียสกว่าเดิม “ฉันเป็น…ผู้ชนะ…เพียงคนเดียวของเกม มีไลฟ์พอยต์เหลืออยู่หนึ่งจุด…”

“ใช่แล้ว” จินอูบอก “การฆ่าคนในเกมยังไม่มีกฎหมายออกมาถือว่าไม่ผิดกฎหมาย และโครงการพวกนี้ถือว่าผิดกฎหมายไหม การฆ่าคนมันทั้งผิดศีลธรรมและกฎหมายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับ แต่ศีลธรรมมันไม่แข็งแรงเท่ากฎหมาย ทางเบื้องบนจึงแบ่งเงินจำนวนหนึ่งที่กู้มาหลายล้านล้านไปให้กับผู้พิพากษาทุกคน อัยการและทนายทุกคนในประเทศเพื่อที่จะให้ตัวเองชนะในทุกคดีหากเกิดมีการฟ้องร้องขึ้น”

“คนมีเงินชอบคิดว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ…?” ผมหายใจแรงพร้อมอารมณ์ที่เริ่มโกรธก่อนจะนั่งบนกับพื้นให้อยู่ในระยะเดียวกับทหารหนุ่ม เรมัสและคาเรนนั่งลงตาม “เล่ามาให้หมด”

 

ย้อนกลับไปก่อนกลียุคสิบชั่วโมง

สถานที่แห่งหนึ่งในรัฐสภา ในยามค่ำคืนนั้นมีเพียงทหารเวรถือปืนที่มีกระสุนจริงอยู่เต็มแม็กเฝ้าทางเข้าของสิ่งปลูกสร้างที่รกร้างเหมือนกับยังสร้างไม่เสร็จ รถสีดำคันหรูเปิดไฟหน้ารถสว่างจ้าแล่นมาจอดหน้าป้อมที่มีไม้กั้นทาสีแดงสลับขาวกั้นเพื่อไม่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องรุกล้ำเข้าไป ทหารหนุ่มในเครื่องแบบเต็มยศวิ่งเข้ามาพร้อมกับไฟฉาย แต่ก็ไม่ลืมที่จะกระชับปืนไว้ในมือเสมอเผื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เพราะในตอนนี้สถานการณ์นั้นสุ่มเสี่ยงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นม็อบหรือการโจมตีเบื้องบนตามโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ที่ทุกวันนี้ต้องเกณฑ์ทหารจำนวนมากเพื่อมานั่งจับเมาส์ รัวแป้นคีย์บอร์ดเพื่อชื่นชมเบื้องบนและรีพอร์ตผู้ที่ไม่เห็นด้วยให้ถูกแบนไปจากแพลตฟอร์ม 
นี่คือตำแหน่ง ‘ไอโอ’ ที่เจ้าหน้าที่ส่วนกว่าเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์เป็นทหารที่ต้องอยู่ภายในการบังคับบัญชาของเบื้องบน

“กรุณาเปิดกระจกและระบุตัวเองด้วยครับ” นายทหารคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าส่องไฟฉายเข้าไปที่กระจกรถ จากนั้นกระจกที่เคลือบด้วยฟิล์มกันแสงอย่างดีลงเผยให้เห็นใบหน้าที่ยังหนุ่มแน่นของชายหนุ่มในชุดสูท มือที่จับพวกมาลัยทั้งสองข้างสวมถุงมือสีขาวราวกับว่าผู้ที่นั่งหลับอยู่ด้านหลัง ไม่ต้องการให้เหงื่อจากนิ้วและฝ่ามือเปื้อนส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์คันแพงนี้

“นายสุรทัย แซ่เถา ไปครับ” คนขับรถพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแต่ดวงตาของเขาที่มองทหารหนุ่มยศระดับล่างนั่นช่างดูน่ากลัวเสียเหลือเกิน นั่นทำให้เขาต้องรีบยกแผ่นไม้กั้นขึ้นเพื่อให้รถสามารถขับผ่านไปได้

คุณสุรทัยเป็นชายร่างอ้วนในชุดสูทสีน้ำเงินลายทางตรง ในอ้อมกอดของเขามีกระเป๋าหนังจระเข้สีดำใบขนาดพอดีอยู่ ภายในนั้นมีเอกสารลับที่สำคัญเป็นอย่างมาก กระเป๋าหนังใบนี้จึงไม่เหมือนกระเป๋าที่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป มันเป็นสิ่งที่ทางเบื้องบนได้มอบเอาไว้เพื่อเก็บข้อมูลความลับโครงการทั้งห้าที่ใช้เวลานานกว่าสิบปีในการพัฒนามันขึ้นมาจนสำเร็จ เนื่องจากมีกลไกพันธนาการกระเป๋าให้ปลอดภัยจากทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการสแกนม่านตาเพื่อปลดล็อก วัสดุที่ทำนั้นกันไฟ แต่พอถึงเวลาที่ต้องทำลายหลักฐานมันก็จะมีฟังก์ชันทำลายตัวเองจนไม่เหลือแม้แต่ซาก 

เงินทุกบาททุกสตางค์จากภาษีประชาชนไม่ได้นำไปใช้เพียงเท่านี้ ยังมีการฝังชิปในสมองเกี่ยวกับข้อมูลโครงการทั้งห้าเผื่อว่ากระเป๋าจะถูกขโมย แต่หากมีการทรยศกันเกิดขึ้น ชิปนั้นจะระเบิดเพื่อปลิดชีวิตทันที

นักการเมืองระดับสูงคนนี้รู้ดี เขาจึงห้อยกุญแจมือกับกระเป๋าใบนี้เฉกเช่นส่วนหนึ่งของร่างกายเลยทีเดียว

สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ก็ต้องฝืนกลืนเข้าไปอย่างเดียวล่ะนะ

“ถึงแล้วครับท่าน” คนขับรถผิวสีน้ำผึ้งพูดเพื่อปลุกผู้เป็นนาย ซึ่งเขาก็สะดุ้งขึ้นทันทีก่อนจะหยิบผ้าเย็นมาเช็ดใบหน้าของตัวเองเพื่อให้รู้สึกตื่นตัวมากขึ้น

“ฉันหลับไปนานเท่าไหร่เนี่ย?” สุรทัยถามก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ

“ตั้งแต่ออกจากบ้านครับ” คนขับรถพูด “วันนี้ก็มีงานสังสรรค์อีกแล้วเหรอครับ?”

“ระมัดระวังคำพูดดีจังเลยนะ” สุรทัยยิ้มอย่างพอใจที่มีคนขับรถที่เชื่อใจและระมัดระวังคำพูดตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน “ใช่แล้ว งานสังสรรค์”

“ขอให้สนุกนะครับท่าน”

คนขับรถเข้ามาจอดยังกระท่อมร้างแห่งหนึ่งที่มีทหารร่างกายกำยำสองคนยืนถือปืนเอ็มสิบหก ดวงตาจับจ้องมาที่รถคันสีดำนี้ จากนั้นทหารคนฝั่งซ้ายมือเดินเข้าไปเปิดประตูให้กับ ‘เจ้านาย’ ทันทีที่เห็นป้ายทะเบียนที่ได้มาจากการประมูลเลขเก้าสี่ตัวพร้อมกับชื่อเมืองหลวง

สุรทัยก้าวเท้าลงมาจากรถก่อนที่จะเดินเข้าไปในกระท่อมอันแสนมืดมิด โดยที่มีทหารฝั่งขวาคอยส่องไฟฉายให้

ทั้งสามคนไม่มีการพูดจาอะไรกัน ซึ่งเป็นกฎของทางเบื้องบนได้บัญญัติเอาไว้เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลไปถึงผู้ที่ไม่น่าไว้วางใจ ทหารหนุ่มคนฝั่งขวาเดินเข้าไปเปิดประตูห้องใต้ดินเผยให้เห็นบันไดที่สร้างจากปูนเคลือบกระเบื้องอย่างดีและมีไฟเอลอีดีเปิดสว่างจ้า ซึ่งแตกต่างจากภายนอกเสียเหลือเกิน เขาค่อย ๆ เดินลงบันไดด้วยท่าทางที่อุ้ยอ้าย ค่อย ๆ วางเท้าทีละขั้น ทีละขั้นจนไปถึงขั้นสุดท้าย สิ่งที่เขาเห็นอยู่เบื้องหน้าก็คือทางเดินที่ยาวออกไปเป็นทางตรงโดยปลายทางนั้นจะมีประตูไม้แกะสลักเป็นรูปของเชื้อพระวงศ์
องค์ปัจจุบัน ซึ่งประตูบานนี้ไม่มีการติดตั้งลูกบิดเอาไว้ เขาออกเดินอย่างมั่นใจแม้ว่าเบื้องลึกของจิตใจนั้นกรีดร้องอยากจะให้ ‘การประชุม’ ในครั้งนี้เสร็จอย่างรวดเร็วเพื่อที่ตัวเองจะได้กลับบ้านไปเจอลูกเจอเมีย ทุกครั้งที่เขาย่างกรายเข้ามาในนี้ แม้ว่าจะเป็นนักการเมืองระดับสูงที่มีสิทธิ์ในการเข้ามาในเขตหวงห้ามแบบนี้ก็ยังรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้

เมื่อถึงประตูเข้าจำเป็นต้องสแกนม่านตาเพื่อยืนยืนว่าตัวเองเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของทีมโปรเจ็กต์ทั้งห้านี้ เมื่อสแกนม่านตาเสร็จสิ้น ประตูก็เปิดออกอย่างอัตโนมัติ

ภายในห้องนั้นแตกต่างจากโถงทางเดินอย่างชัดเจน มีโต๊ะยาวสีขาวหนึ่งตัววางอยู่กลางห้องกว้างขนาดสิบตารางเมตร มีคนนั่งอยู่เป็นจำนวนสิบคน แต่ละคนคือนักการเมืองระดับสูงและมียศมีตำแหน่งสูงทั้งนั้น มีทหารระดับพลเอกนั่งอยู่ห้าคนและผู้บัญชาการตำรวจนั่งอยู่ด้วย บนโต๊ะมีกระเป๋าแบบเดียวกันกับของสุรทัย แต่ไม่มีใครคิดอยากจะแตะต้องมัน ข้าง ๆ กระเป๋ามีโทรศัพท์มือถือของแต่ละคนวางอยู่ บัญญัติอีกหนึ่งข้อของการประชุมลับสุดยอดแบบนี้คือไม่สามารถใช้อุปกรณ์สื่อสารได้ หากฝ่าฝืนก็จะถูกระเบิดสมองตายเอาง่าย ๆ ไม่มีใครเปิดปากพูดคุย ไม่มีใครหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นแม้ว่าอยากจะทำจนใจจะขาดก็ตาม

กฎมันก็ต้องเป็นกฎ

สุรทัยเข้ามานั่งเก้าอี้บุหนังตัวสุดท้ายก่อนที่ชายผมสีขาววัยชราร่างผอมสวมสูทสีดำสนิทขนาดพอดีตัวที่นั่งอยู่หัวโต๊ะลุกยืนขึ้น นั่นส่งผลให้เกิดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่โดยที่ทั้งห้องประชุมต่างลุกยืนขึ้นในทันที รวมถึงสุรทัยที่เพิ่งจะหย่อนก้นลงนั่งไม่ถึงห้าวินาที

“คุณสุรทัย คุณมาสาย” ชายผมขาวพูดตำหนิเสียงเข้ม “นี่เป็นการประชุมสำคัญเพื่อที่จะทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องนี้จะสบายในอนาคตนะ เห็นถึงผลประโยชน์ของผู้อื่นบ้าง”

“ขออภัยด้วยครับ…ผมต้องส่งลูกสาวคนเล็กเข้านอน” จริง ๆ แล้วเป็นข้ออ้างคำโกหกคำโตเฉย ๆ เพราะก่อนจะมาที่นี่เขาเพิ่งไปใช้บริการของนักศึกษาคนหนึ่งมา สาเหตุที่หลับมาในรถก็เพราะแบบนี้ การที่คนขับรถบอกว่ามาจากบ้านนั้นเป็นคำพูดที่แสดงการเก็บความลับได้อย่างอยู่หมัดของเจ้าตัว

“ช่างมัน” ชายผมขาวพ่นลมหายใจออกทางจมูกก่อนจะนั่งลง ทำให้ทุกคนในที่ประชุมนั่งลงตามไปด้วย

“โครงการทั้งห้าของพวกเรานั้นมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน นั่นก็คือการลดจำนวนประชากรจากเจ็ดสิบล้านคนเหลือให้ได้สามสิบล้านคน” คำพูดของชายหัวขาวทำให้ที่ประชุมหลายคนกลืนน้ำลายดังเอื้อก “หวังว่าทุกคนจะเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างดีว่ามีประชาชนลุกฮือขึ้นมาเพื่อหวังจะทำลายพวกเรา สิ่งที่เรามีในตอนนี้ก็คืออำนาจกฎหมาย เบื้องบนและเชื้อพระวงศ์ที่เป็นผู้ผลักดันให้โครงการทั้งห้าเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไปได้ และต่อไปนี้ผมจะให้ผู้ที่รับผิดชอบของแต่ละโครงการรายงานความคืบหน้าหน่อยครับ”

ชายหนุ่มอายุสามสิบต้น ๆ ลุกขึ้นมาพร้อมกับมองลอดผ่านแว่นตากรอบเงินไปรอบ ๆ ก่อนจะเปิดกระเป๋าและหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา 

“จากรายงานความคืบหน้าของโครงการ 001 เกมวีอาร์ที่ชื่อว่า Survival Alone Game ได้ผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ 98.9 เปอร์เซ็นต์ซึ่งถือว่าเยอะมาก ๆ ครับ ตอนนี้มีผู้เล่นมากกว่าห้าแสนคน เกมขายออกไปมากกว่าหนึ่งล้านดาวน์โหลด ยอดขายเครื่องวีอาร์แบบพิเศษของเราอยู่ที่เจ็ดแสนเครื่อง ตีเป็นรายได้เข้ากองกลางอยู่ที่หนึ่งหมื่นล้านบาทครับ” ชายหนุ่มสรุปรายงานความคืบหน้าของโครงการแรกอย่างคล่องแคล่ว แต่เขาเลือกที่จะมองข้ามจุดหนึ่งของรายงานซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด

“แล้วยอดผู้เสียชีวิตล่ะ?” ชายผมขาวถามอย่างจับผิด “คุณไม่ได้รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตเลยนะ”

“ยอดผู้เสียชีวิตปัจจุบันอยู่ที่ห้าหมื่นคน คิดเป็นสิบเปอร์เซ็นต์จากผู้เล่นทั้งหมดครับ” ดวงตาของเขามีแต่ความหวาดกลัวต่อบาปในฐานะของผู้พัฒนาโครงการมรณะที่ฆ่าชีวิตคนบริสุทธิ์ไปกว่าห้าหมื่นคน ตอนนี้จำนวนศพก็น่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แถมเขาต้องเอาเงินจากรายได้นี้ไปโปะให้กับสำนักข่าว เพื่อไม่ให้เผยแพร่ข่าวการตายของเล่มวีอาร์นี้ หลังจากการประชุมครั้งนี้เขาจำเป็นต้องโอนเงินจำนวนมากไปให้เจ้าของสำนักข่าวทุกสำนักให้ปิดข่าวให้หมด

นี่แหละอำนาจของเงินที่สามารถปิดปากใครก็ได้! 

“แล้วกลุ่มเป้าหมายที่เหลืออีก 1.1 เปอร์เซ็นต์ล่ะไปไหนคะ?” หญิงวัยกลางคนตัดผมสั้นเท่าติ่งหู แต่งหน้าหนา ๆ เพื่อลดรอยเหี่ยวย่นของใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา “เป้าหมายของทุกโครงการต้องสำเร็จแบบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่หรือ? คุณพัค?”

พัคกลืนน้ำลาย ดวงตาจับจ้องไปที่หญิงวัยกลางคนที่กำลังส่งสายตาอย่างเยาะเย้ย

นางบาร์ซ่าคือหนึ่งในวุฒิสมาชิกของเบื้องบน มีอำนาจทางรัฐบาลเหลือล้นรวมถึงแบ็กกราวน์ที่เป็นสมาชิกระดับสูงของเบื้องบนอยู่ไม่น้อย ซึ่งแต่ละอย่างที่ได้มานั้นส่วนมากไม่ได้มาจากความสามารถของตัวเอง แต่เป็นการพลีกายถวายตัวให้กับสมาชิกแต่ละคนของเบื้องบนเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนของตำแหน่งหน้าที่ทางการเมืองซึ่งจะได้เงินจำนวนมากและหลายช่องทาง หล่อนแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เพื่อเป็นการกลั่นแกล้งรุ่นน้องเล่น ๆ แต่คุณพัคไม่ได้ตกหลุมพลางแค่นี้ง่าย ๆ เขาแสยะยิ้มอย่างมีชัยนั่นทำให้นางบาร์ซ่าขมวดคิ้วด้วยความฉงน

“1.1 เปอร์เซ็นต์นั้นคือกลุ่มเป้าหมายที่ไม่มีเงินครับ ซึ่งจะตกไปอยู่ที่โครงการ 003 แทนครับ เพราะสุดท้ายคนพวกนี้ก็จะไม่ได้กินดีอยู่ดีแล้วก็ตายไปเอง 1.1 เปอร์เซ็นต์พวกนี้ถือว่าเป็นคนกลุ่มที่น้อยมาก ๆ ครับ เพียงไม่มีจะกินก็ตาย จากนั้นโครงการที่ผมรับผิดชอบก็จะสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ครับ”

ชายผมขาวยิ้มออกมาด้วยความพอใจ

“เยี่ยมมาก ๆ เลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นลูกชายของนักการเมืองระดับตำนานของประเทศที่เกษียณไปแล้ว เชื้อไม่ทิ้วแถวเลยจริง ๆ” นางบาร์ซ่าพูดยกยอนักการเมืองรุ่นน้องโดยที่หลบสายตา

หลังจากนั้น โครงการ 002 จนถึง 004 ได้รายงานความคืบหน้าของโครงการเป็นที่เรียบร้อย เท่าที่สรุปและคำนวณออกมาได้นั้นจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นแตะหลักล้านเป็นที่เรียบร้อย นั้นทำให้ประชาชนเริ่มรวมตัวและก่อม็อบขึ้นเพื่อปะทะกับทหาร ซึ่งจุดได้เปรียบของสงครามกลางเมืองในครั้งนี้นั้นทำให้ฝ่ายของทางการได้เปรียบตรงที่ว่าพวกเขาได้เกณฑ์ทหารชายฉกรรจ์ไปเป็นจำนวนมากเพื่อแลกกับเงินจำนวนมากเป็นค่าตอบแทน หากในสมรภูมิใครฆ่าได้เยอะที่สุดก็จะได้เงินโบนัสมากขึ้นเท่านั้น 

ตอนนี้ประเทศกำลังจะลุกเป็นไฟ!

“ตอนนี้ก็มาถึงโปรเจ็กต์สุดท้ายของเราเสียที ขอเชิญรายงานครับ”

______________________________________________

To Be Continue Ep.59