"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"
แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Undead War สงครามคนเป็น"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"
โรคระบาดยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน หมอทุกคนตายกันไปหมดแล้ว ความหวังดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสุดท้าย ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ไร้แสงสว่างและไร้สิ้นสุด พวกซอมบี้ต่างคอยจะได้กัดกินเนื้อมนุษย์อย่างกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่พวกมันอยู่เต็มไปหมด
แต่ความหวังก็ยังไม่หมดไป เมื่อผมสามารถเอาชนะเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ร่างกายของผมเกิดกลายพันธุ์และสามารถแปลงกายเป็นซอมบี้ได้ตลอดเวลา นั่นทำให้ผมวิวัฒนาการไปอีกขั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้
การที่จะทำสงครามกับเดวิดที่มีลูกน้องที่เป็นทหารจำนวนหนึ่ง
กองร้อยแบบนี้ทำให้พวกเราต้องวางแผนการรบอย่างมาก เพราะว่าเราไม่ต้องการให้ใครต้องมาตาย แม้ว่าจะมีคำพูดปรัชญาขอการทำสงครามว่า สงครามย่อมมีผู้ที่เสียสละ ซึ่งผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ที่จะต้องสังเวยชีวิตเพื่อที่จะต้องให้ได้ชัยชนะมา แต่ก็จะย้อนแย้งกับที่เราต้องจัดการฆ่ากองทหารของเดวิดทุกคนที่เข้ามาขวางทาง หากว่าพวกนั้นยอมจำนนแต่โดยดี อาจจะพิจารณารับเอามาเป็นพวกพ้องของเราเพื่อเอาไปสู้กับทัพใหญ่ของเมเยอร์ก็ได้
เรื่องที่ผมพังคุกเพื่อปล่อยจินอูออกมาเป็นอิสระนั่นทำให้นิวไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เพราะกลัวว่าเขาจะเป็นอันตรายหรือไม่ก็เป็นสายลับให้กับฝ่ายศัตรู แต่ผมก็สามารถยืนยันได้ว่าเขาเองก็ไม่อยากจะรับใช้กองทัพเช่นกัน นิวจึงยอมให้เขามาเป็นหนึ่งในสมาชิก
ตอนนี้สมาชิกของเราโดยที่ไม่รวมประชากรที่ไม่สามารถรบได้ก็สิบสี่คน นิวจึงเห็นถึงความสำคัญของหน้าที่ในการทำงานและการตำแหน่งหน้าที่การรบ จึงแบ่งหน้าที่เป็นไปตามดังนี้ ผม คาเรน และคาโอริน เป็นหน่วยลาดตระเวน กิ๊บและฟางเป็นหน่วยซุ่มยิง แต่ฟางจะควบหน้าที่คอยเยียวยารักษาแผลให้กับคนเจ็บไปด้วย มังกร นัท จินอู และกระรอก เป็นพลแม่นปืน มาย ไอยา เรมัส และทอม เป็นหน่วยโจมตีระยะประชิด ส่วนนิวจะเป็นหน่วยซัปพอร์ตทุกคน
ซึ่งตอนนี้การจัดระเบียบการรบนั้นเป็นไปอย่างมีระเบียบเพื่อเตรียมพร้อมในการบุกยึดในวันพรุ่งนี้ ระหว่างที่รอวันเข้าไปยังสมรภูมิ ทุกคนจึงใช้เวลาของตัวเองในการพักผ่อนอย่างเต็มที่
และแน่นอน ผมได้ใช้เวลาที่มีความสุขที่สุดอยู่กับแฟนสาวหลังจากที่เราไม่ได้ทำกันมานาน ความร้อนแรงของสองเราเกิดขึ้นบนเตียง เธอผลักผมลงบนนั้นก่อนจะแกะทุกอย่างที่ติดตัวออก ไม่ว่าจะเป็นปืนไรเฟิล มีดสั้น ปืนพก แม็กกระสุนสำรอง รวมทั้งเสื้อผ้าต่าง ๆ นานา ส่วนผมก็ทำเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นปืนพก ดาบคาตะนะ มีดสั้น และขวดเลือดซอมบี้ที่เอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ให้ตายสิ…ตั้งแต่ได้รับพลังมาฮอร์โมนในร่างกายของผมก็พลุ่งพล่านมากกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่า ทั้งอะดรีนาลีนที่สูบฉีดเกินไปจนบางทีร่างกายแทบจะรับไม่ไหว โดยเฉพาะฟีโรโมนของคาโอรินนั้นทำให้ช่วงล่างของผมรับรู้และแข็งแรงตัวอย่างรวดเร็ว บรรยากาศภายในห้องของบ้านหลังเล็ก ๆ หลังนั้นที่ใช้เป็นห้องส่วนตัวของเราสองคนนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย
เมื่อร่างกายของเราสองคนไม่เหลืออะไรป้องกัน สังเกตได้เลยว่าทุกครั้งที่เราต่อสู้หรือพยายามเอาตัวรอดจากอะไรบางอย่าง กล้ามเนื้อของเราจะค่อย ๆ พัฒนา เพียงดูจากหน้าท้องที่เคยแบนราบเรียบไม่ต่างจากเนินทรายแล้ว แต่ตอนนี้เธอมีกล้ามเนื้อหน้าท้องผุดขึ้นมาเป็นลอนบาง ๆ ทำให้หัวใจของผมเต้นรัวเร็วด้วยความเซ็กซี่ และหน้าอกที่กลมกลึงนั่นอีก แม้ว่าขนาดของมันจะไม่ใหญ่เท่าฮีซุย แต่ขนาดแบบนี้ถือว่าเป็นขนาดที่พอเหมาะกับมือผม เธอค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามาคร่อมบนร่างของผมก่อนจะโน้มตัวประกบริมฝีปากเข้าด้วยกัน
อืม…นุ่มจัง…ริมฝีปากของแฟนสาวที่นุ่มนวลราวกับเยลลี่แบบนี้ทำให้กล้ามเนื้อที่แน่นเกร็งต้องคลายตัวลง ลิ้นของเธอค่อย ๆ เข้ามาทักทายภายในของผม นั่นทำให้รู้สึกว่าวันนี้เธอร้อนแรงกว่าวันไหน ๆ
“มันดีจังเลยค่ะที่รัก” หญิงสาวทำเสียงออดอ้อนฟังดูน่ารักและยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณดิบเถื่อนในฤดูผสมพันธุ์ของสัตว์ป่าเข้าไปอีก
จากนั้นก็พลิกร่างของเธอให้อยู่ใต้ร่างผม ก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงรักใส่ในร่องที่เริ่มแฉะ ร่างกายของแฟนสาวสั่นสะท้านไปด้วยความเสียวซ่านพร้อมกับช่วงหว่างที่ตอดรัดของผมที่แข็งราวกับเหล็ก แม้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้สอดใส่กัน แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเธอก็ยังคงเป็นคนแรกและคนสุดท้ายในชีวิตในชาตินี้ของผม เสียงครางของเธอนั้นร้องออกมาจากใจและความรู้สึกที่แท้จริง นั่นทำให้ผมเลือกที่จะโยกเอวต่อไปเรื่อย ๆ ความเสียวสะท้านนั้นได้ส่งต่อมายังผมทำให้แทบจะคลั่งรักเธอมากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ แม้ว่าเธอจะยิงปืนเก่ง ต่อสู้อย่างไม่กลัวตายได้ แต่กระนั้นผมก็ยังอยากจะใช้ร่างกายนี้ปกป้องเธอจนตัวตาย
ให้ตายสิ…ผมไม่สามารถควบคุมร่างกายได้เลย ทุกอย่างมันอัติโนมัติไปหมด ผมกัดฟันและหลับตาด้วยความรู้สึกที่เสียวสะท้านที่ช่วงล่างของเราสองคนได้กระทำ
คาโอรินพลิกร่างผมให้นอนหงายแล้วเธอก็ขึ้นมาคร่อมราวกับแมวสาวยั่วสวาท เจอโน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากอย่างดูดดื่มก่อนจะยอมให้ผมเข้าไปในร่างกายของเธออีกครั้ง ครั้งนี้รู้สึกได้ว่าผมเข้าไปสำรวจในร่างกายของเธอลึกมากกว่าเมื่อกี้ เธอกอดผมแน่นราวกับว่าจะครอบครองร่างกายและจิตใจของผมให้เป็นของเธอ สะโพกของแฟนสาวโยกขึ้นลงอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราสองคนจะได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันแบบนี้ ในใจของผมในตอนนี้นั้นเพียงแค่อยากจะบอกรักเธอเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน…ไม่สิ…สิ่งเหล่านั้นมันไม่มีที่สิ้นสุดต่างหาก ความรักของผมนั้นเกินกว่าความเป็นอนันต์ของจักรวาลเสียอีก มันมากกว่านั้น มันมากกว่านั้น
“ฉันรักเธอนะคาโอริน ฉันรักเธอมาก ๆ เลย” ผมพูดกระซิบที่ข้างหูของแฟนสาว “เธอเป็นคนสุดท้ายในชีวิตของฉันแล้วนะครับ”
“ฉะ…ฉันก็รักเธอมาก ๆ นะเอ็น” เธอกระซิบกลับ
เราทั้งสองบรรเลงรักบนเตียงได้มาถึงจุดไคลแม็กซ์แล้ว มันจบลงด้วยการผมเสร็จไปด้านในตัวเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสองคนต้องการมาตั้งนานแล้ว เธอรู้สึกพอใจคืนนี้เป็นอย่างมาก ความรู้สึกที่อดกลั้นมาตลอดเวลาได้ระเบิดออกจนรู้ว่าได้ว่าตอนนี้ได้ยกภูเขาออกจากอกเป็นที่เรียบร้อย
ศีรษะของหญิงสาวเข้ามาหนุนแขนขวาของผมก่อนจะเอาหน้าซุกที่แผงอกที่ตอนนี้เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่น ๆ
“คิดอะไรอยู่เหรอ?” ผมถามหลังจากที่เธอนอนเงียบ ๆ
“ไม่คิดเลยนะว่าเอ็นที่เค้าเจอตอนแรกนั้นช่างแตกต่างกับนอนนี้มาก ๆ เลยรู้ไหม” เธอพูดก่อนจะเลื่อนมือขึ้นไปลูบไล้ไปตามร่างกาย “ตอนนั้นเอ็นไม่ได้มีกล้ามเนื้อกับซิกซ์แพ็กแบบนี้นี่”
“ก็โลกมันเป็นแบบนี้ จะให้หุ่นเท่าเดิมไม่ได้นี่” ผมเม้มปากด้วยความเขินอายเนื่องด้วยแฟนสาวไม่ได้พูดกับผมด้วยประโยคแบบนี้มาก่อน “อาจจะเป็นเพราะพลังซอมบี้หรือเปล่านะ…?”
“พลังแหละ” แฟนสาวตอบทันควัน
“ใจร้ายจัง…” ผมเบ๊ปากเล่น ๆ
“แต่เค้าก็ชอบหุ่นหมีแบบก่อนหน้านี้นะ” เธอโผเข้ามากอดผมไม่ต่างจากตุ๊กตาหมีจนแก้มของเธอแนบชิดกับแผงอก
“ถ้าโลกนี้กลับมาเป็นปกติเมื่อไหร่จะทำให้ความฝันของรินเป็นจริงเอง” ผมลูบหัวแฟนสาว
“ไม่ต้องหรอก”
“?”
“ไม่ว่าเอ็นจะหุ่นแบบไหนเค้าก็รักไม่เปลี่ยนแปลงนั่นแหละ” เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
พอมาคิดดี ๆ แล้วผมจำไม่ได้แล้วว่าตัวผมเองนั้นมีคาโอรินอยู่ในหัวใจตั้งแต่เมื่อไหร่ ภาพความทรงจำครั้งแรกของเราสองคนนั้นมันเลือนรางเหลือเกิน ในตอนนั้นผมเพียงอกหักหัวใจสลายเพราะฮีซุย ความเคว้งคว้างของหัวใจที่เต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์จนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป ต่อให้บาดแผลตามร่างกายนั้นจะสามารถเยียวยาให้หายขาดได้ แต่ความรู้สึกที่เสียไปแล้วมันยากจะนำกลับคืนมา ยอมรับเลยว่าช่วงเวลาที่เจ็บปวดยิ่งกว่าก็เป็นเวลาที่รู้ว่าเธอไม่ได้มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว
หลังจากนั้น ผมก็เก็บฮีซุยไว้ในส่วนลึกของจิตใจ…ไม่สิ… ผมฝังเธอเอาไว้ในส่วนไหนสักแห่งในจิตใจของผมและยกคาโอรินไว้เป็นที่หนึ่งในใจเสมอ ในระหว่างนั้นก็เกิดความลังเลอยู่นั้นผมได้ถามตัวเองอยู่เรื่อย ๆ ว่าผมควรลงเอยกับผู้หญิงคนนี้ดีไหม? หรือเธอเป็นเพียงผู้หญิงขั้นเวลาที่ฮีซุยจากไปแล้ว เป็นผู้หญิงที่ผมเรียกเธอได้ว่าเป็นแฟน แต่ก็ไม่ถึงกับคำว่าภรรยา เพราะผมเคยตั้งให้ฮีซุยอยู่ตำแหน่งนั้นมาแล้ว ต่อให้จากไปตำแหน่งของเจ้าตัวก็ยังคงอยู่
ให้ตายสิ… แค่หนึ่งวินาทีผมคิดอะไรให้เรื่อยเปื่อยวะเนี่ย!!
แต่ก็เอาเถอะ วันนี้ผมได้ตัดสินใจแล้ว
“คาโอรินครับ”
“คะที่รัก?”
“หลังจากศึกนี้…เรามีอะไรจะบอกด้วยน่ะ” ผมเลือกจะหลีกเลี่ยงคำพูดนั้นไป เธอมองมาที่ผมราวกับกำลังพยายามมองลึกเข้าไปที่จิตใจของผม
“บอกอะไรเหรอคะ?”
“ไม่มีอะไรหรอก” ผมปัด “แค่อยากจะบอกรักแฟนก่อนวันพรุ่งนี้ต่างหาก”
“เอ็นนี่ล่ะก็” หญิงสาวเขินแล้วกอดรัดผมมากขึ้น “รักเหมือนกันนะคะ…ที่รักคิดว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง?”
“เราก็ต้องชนะและยึดฐานเก่าของเรากลับคืนมานั่นแหละ” ผมพ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างคิดหนัก “แล้วจับพวกมันสักสิบคนเป็นเชลยและฆ่าเดวิดซะ”
“เรานี่เดินทางกันมาไกลจริง ๆ เลยนะ” เธอพูด
“อืม…” ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “เราสองคนในตอนนั้นยังเป็นนักศึกษาอยู่เลย ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกันสถานการณ์แบบนี้อะนะ”
“จะเป็นยังไงก็ช่าง พอได้มาเจอกับเอ็นแล้วทำให้เค้ามีเป้าหมายที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อผู้ชายที่เค้ารักนี่แหละ” เธออิงแอบจนเกือบจะสิงร่างผมอยู่แล้ว
ผมไม่ได้พูดอะไรโต้ตอบเธอเป็นพิเศษ เพียงแค่มอบความอบอุ่นที่จะปกป้องดูแลรักษาคนที่ผมรักแบบนี้ไปตลอด พรุ่งนี้สงครามใหญ่กำลังจะมา ฉะนั้น…ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นบนเตียงในคืนนี้มีความสำคัญยิ่งกว่าเงินทองในบัญชีเงินฝากเสียอีก…ให้ตายสิ…ทำไมไม่คิดตั้งแต่แรกนะว่าจะหาเวลาไปธนาคารแล้วหอบเงินทั้งหมดที่มีอยู่ออกมา เผื่อว่าจะเอาไว้ใช้เป็นทุนสร้างครอบครัวกับเธอ…รวมถึงแหวนเพชรที่จะใช้ขอเธอแต่งงานด้วย
อืม…พอจะคิดอะไรดี ๆ ออกแล้ว
ถัดมาที่อาคารตึกกลางที่นิวและฟางได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันบนเตียงอันแสนอบอุ่น แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเธอจะบอกว่าเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่สถานะนั้นเป็นเพียงแค่อดีตอันแสนไกลโพ้น เพราะสุดท้ายแล้วพวกเขาทั้งสองคนจึงไม่อยากจะไปลงเอยกับใครที่ไหนนอกจากคนที่อยู่ช้างกาย พวกเขาถูกส่งมาจากอีกโลกหนึ่งเพื่อล้างบางพวกซอมบี้และพาโลกกลับสู่สภาพเดิม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วต้นเหตุของสถานการณ์ในตอนนี้นั้นมาจากคนโลภมากไม่กี่คนที่พยายามตักตวงผลประโยชน์จากผู้อื่นและกดทับเพื่อให้ตัวเองอยู่สูงกว่าด้วยความโง่เขลา สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับภารกิจนี้ก็คือ ‘ฮีซุย’ ชื่อของผู้หญิงคนนี้ยังคงฝังอยู่ในใจของเขาเสมอมา ก่อนที่จะได้รับความทรงจำกลับคืนมานั้นเขาไม่ต่างจากเด็กหนุ่มที่ตัวเบาโหวงจนเกือบจะเหาะเหินเดินอากาศได้เลยทีเดียว
แต่พอหลังจากที่ความทรงจำในชาติที่แล้วได้กลับมานั้น ความรู้สึกที่แสนเจ็บปวดได้โหมกระหน่ำเข้ามาราวกับฝนเขาไม่สามารถหยุดภาพต่าง ๆ ที่ไหลเข้ามาในสมองได้เลย ความคิดเปลี่ยนเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิมตามที่เคยเป็นในชาติที่แล้วจึงทำให้รู้ว่าเขาได้ผ่านสมรภูมิมาโชกโชนเลยทีเดียว…เกิดอะไรขึ้นในชาติที่แล้วกันนะ…?
ฟางนอนกอดแฟนหนุ่มอย่างรักใคร่ ปืนไรเฟิลชุ่มยิงตั้งเอาไว้ข้างเตียงเผื่อมีบางอย่างเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด
“ยังไม่นอนเหรอ?” เสียงที่งัวเงียของฟางถามแฟนหนุ่มที่กำลังมองขึ้นไปยังเพดานราวกับว่าเขามองทะลุออกไปนอกจักรวาล เขาชะงักเมื่อได้ยินเสียงของฟางจึงละความสนใจไปที่เธอทันที
“นอนไม่ค่อนหลับน่ะ” เขาตอบ
“เครียดเรื่องพรุ่งนี้เหรอ?”
“โดนจับได้อีกแล้วแหะ ถ้าเราสองคนแต่งงานกันเค้าคงจะโกหกอะไรไม่ได้เลยใช่ไหมเนี่ย” เขาพูดติดตลกแต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ขำด้วย เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของเธอ เขาจึงเลิกพูดไร้สาระทันที “เดวิดมีกำลังมากกว่าเราเป็นสิบเท่า แถมยังมีปืนและอาวุธครบมืออีก ถ้าเราเข้าไปบุกตอนนี้กลัวว่าจะมีคนใดคนหนึ่งตาย แม้ว่าจะเป็นทอมที่ตอนนี้อ่อนแอยิ่งกว่านัทอีก”
“เขาก็ใช้ปืนเก่งระดับนึงเลยไม่ใช่เหรอ?” หญิงสาวถาม แต่นิวไม่คิดแบบนั้น เขาพ่นลมหายใจออกทางจมูกแล้วมองขึ้นไปบนเพดาน “หรือมีอะไรมากกว่านั้น?”
“ลางสังหรณ์มันบอกว่าพรุ่งนี้จะเกิดการเสียสละมากขึ้น” เขาพูด “ไม่มีสงครามไหนที่ไม่มีคนที่ต้องเสียสละ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเราหรือพวกมัน”
“แต่ที่รู้ ๆ อยู่ก็คือฝ่ายพวกมันจะต้องแพ้ให้เราอยู่แล้ว”
“ใช่…” แม้ว่าชายหนุ่มจะตอบไปเพียงแค่นั้น ในใจลึก ๆ แล้วพรุ่งนี้จะเป็นสงครามที่ใหญ่มากกว่าที่ผ่านมา กลุ่มของกองทัพเดวิดมีอาวุธครบมือและกำลังทหารจำนวนหนึ่งกองร้อย แต่พวกเขามีอาวุธชีวภาพถึงสองคนด้วยกัน…นอกนั้นก็เป็นเพียงคนธรรมดา ยกเว้นนิวและฟางที่ตอนนี้ได้ปลดล็อกพลังจนได้พละกำลังกลับคืนมา พวกเราในตอนนี้มีสิบสี่คนที่ต่อหนึ่งร้อย แค่จำนวนและปัจจัยหลาย ๆ อย่างก็ดูเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด…ความคิดพวกนี้มันกวนใจเขาจริง ๆ
“จะไปไหนเหรอ?” ฟางกดร่างของนิวลงบนเตียงพร้อมกับแกะยางมัดผมที่มัดเส้นผมทุกเส้นเป็นเปียข้างเดียวอย่างลวก ๆ เพื่อง่ายต่อการเคลื่อนไหว ดวงตาอันเป็นประกายของเธอจับจ้องเข้าไปในดวงตา ทะลุเข้าไปถึงจิตวิญญาณของแฟนหนุ่ม “ตอนเรายังเด็ก ๆ นิวสามารถเอาชนะบุคคลที่ไม่มีใครในโรงเรียนเอาชนะได้ สงครามในวันพรุ่งนี้ เอ็นและนิวจะเป็นกำลังสำคัญ เค้าเชื่อมั่นในตัวนิวนะ วันก่อนที่ทั้งสองคนจับคู่กันสู้นั้นทำได้ดีมาก ๆ เลยล่ะ และในอนาคตต่อจากนี้ เราจะสามารถชนะได้อย่างแน่นอน”
“อืม…” ผมพยักหน้า ทันใดนั้นฟางก็ได้พลิกตัวขึ้นคร่อมร่างของแฟนหนุ่ม ด้วยพละกำลังที่เพิ่งกลับมาและยังไม่ชินเท่าไหร่จึงทำให้ขาเตียงรับไม่ไหวจึงหักทั้งสี่ข้างเลยทีเดียว ร่างของทั้งสองหล่นวูบ สร้างความตกใจให้ฟางอย่างมาก ฟางหวีดร้องอยู่แป๊บหนึ่งก่อนจะรีบยกมือขึ้นมาปิดปาก ร่างของเธอกดทับลงบนตัวนิวทำให้รู้สึกจุกเล็กน้อย เขาไม่ได้โกรธอะไร เขากลับหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ไม่คิดเลยว่าการกระทำที่อยู่เหนือความคาดหมายแบบนี้จะทำให้ความเครียดหลาย ๆ อย่างค่อย ๆ มลายหายไปสิ้น
“เริ่มรู้สึกไม่อยากได้ขาเตียงอยู่พอดี” เขาพูดแบบนั้นก่อนจะคว้าร่างของแฟนสาวเข้ามากอด เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุขที่ได้ลงเอยกับคนที่รักเธอ อีกทั้งยังเป็นคนที่เธอนั้นให้หัวใจไปจนหมด หลังจากนี้โลกจะเป็นยังไง สายใยแห่งความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนจะยังเหนียวแน่นจนไม่มีอะไรที่สามารถพรากทั้งสองคนให้จากไปอีกแล้ว สำหรับนิวแล้วไม่ต่างอะไรกับการได้นางฟ้ามาอยู่ข้างกาย เป็นนางฟ้าที่เขาพร้อมจะปกป้องด้วยร่างกายและจิตใจไม่โลเล วันพรุ่งนี้พวกเราทั้งสิบสี่คนจะต้องไม่เป็นอะไร ถึงเวลาที่ต้องเอาจริงเอาจังให้มากกว่านี้ เอาให้รุนแรงยิ่งกว่าตอนนี้ เอาชนะอีแก่นั่นให้ได้ เอาให้มากกว่าที่ผมในชาติที่แล้วได้สู้กับพวกจตุรอาชาให้ได้!
________________________________________________
To Be Continue Ep.62