"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"
แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Undead War สงครามคนเป็น"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"
โรคระบาดยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน หมอทุกคนตายกันไปหมดแล้ว ความหวังดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสุดท้าย ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ไร้แสงสว่างและไร้สิ้นสุด พวกซอมบี้ต่างคอยจะได้กัดกินเนื้อมนุษย์อย่างกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่พวกมันอยู่เต็มไปหมด
แต่ความหวังก็ยังไม่หมดไป เมื่อผมสามารถเอาชนะเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ร่างกายของผมเกิดกลายพันธุ์และสามารถแปลงกายเป็นซอมบี้ได้ตลอดเวลา นั่นทำให้ผมวิวัฒนาการไปอีกขั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้
“ไม่ถูกเรียกชื่อนี้มานานแล้วแฮะ…”
ทอมทำสีหน้าบอกบุญไม่รับใส่อีกฝ่ายผู้เป็นอดีตผู้บังคับบัญชาแล้วทำการหลบการโจมตีของใบมีดด้วยการกระโดดตีลังกากลับหลังแล้วตั้งท่าพร้อมสู้พร้อมแววตาที่ไร้ความลังเล ฝ่ายของเดวิดที่เห็นอดีตลูกน้องใต้บังคับบัญชาเติบโตขึ้นก็รู้สึกภูมิและตื่นเต้นแปลก ๆ เขาแสยะยิ้มออกมาด้วยความดีใจก่อนจะพุ่งเข้ามาชายหนุ่มทันที ทอมไม่ได้กลัวการโจมตีของอีกฝ่าย ท่าทางตั้งรับของเขามั่นคง เมื่อใบมีดจากเดวิดถูกเหวี่ยงเข้ามา ทอมสามารถป้องกันได้ด้วยมีดของตัวเองก่อนจะปัดออกไปแล้วเหวี่ยงขาออกไปเตะที่สีข้าง แต่เดวิดกลับหมุนตัวหลบทัน ทันใดนั้นเขาไม่สามารถมองทอมว่าเป็นทหารที่ไร้ค่าอีกเลย
“เดี๋ยวนี้พัฒนาไปได้ไกลเลยนะเนี่ย” เดวิดแสยะยิ้มด้วยความตื่นเต้น “นายยังตัวผอมบางนิดเดียวหลังจากที่เราเจอกันครั้งสุดท้าย แต่มาดูตอนนี้สิ ดูเริ่มมีเนื้อมีหนังแล้วไหมล่ะ”
“คนในกลุ่มช่วยกันฝึกให้ ให้เอ็นและคาเรนที่กลายร่างเป็นซอมบี้ฝึกสอนให้ก็ทำให้มีปฏิกิริยาที่เฉียบแหลมมากขึ้น” ทอมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ เขาเกลียดเดวิดที่สุด…ไม่ว่าจะทำอะไรเขาก็จะเป็นคนขัดขวางและกลั่นแกล้งมาตลอดจน รวมถึงถูกให้อดอาหารจนร่างกายผ่านผอมแบบนั้นอีก
“ดีจังเลยนะที่มีพรรคพวกคอยสอนให้” เดวิดพุ่งเข้าไปเหวี่ยงมีดหมายจะเฉือนเนื้อของชายหนุ่ม แต่ทอมก็สามารถหลบได้อย่างสบาย ๆ แล้วทุบแผ่นหลังของอดีตผู้บังคับบัญชาด้วยสันมีดอย่างแรงจนทำให้เขาล้มลงไปนอนกับพื้น
“มันจะไปเหมือนพวกแกที่เอาแต่แกล้งกูได้ยังไงล่ะวะ!”
ในสมัยที่ทอมยังประจำการอยู่ที่หน่วยของเดวิด เขาเป็นนายทหารที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่ม ด้วยความที่เป็นคนร่างเล็กสูงเพียงหนึ่งร้อยห้าสิบห้าเซนติเมตร ทำให้ถูกทหารที่อยู่หน่วยเดียวกันซึ่งตัวสูงกว่ามาก ๆ กลั่นแกล้งตลอดเวลา ขึ้นชื่อว่าเป็นหน่วยทหาร แน่นอนว่าการปฏิบัตินั้นไม่เหมือนกับในโรงเรียนที่สามารถเอาไปฟ้องครูได้ เพราะเดวิดเองก็เป็นหัวหน้าหน่วยที่ปฏิบัติกับทอมเยี่ยงทาสไม่ต่างจากคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ถูกแย่งอาหาร แกล้งต่างๆ สารพัด แต่ที่แย่ที่สุดเท่าที่เขาเจอมาก็คือการข่มขืนทางทวารระหว่างที่เข้าห้องน้ำอย่างไร้ความปรานี
“ใครบอกว่าแกล้งกันล่ะ?” เดวิดยักคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง “ก็แค่เอ็นดูทหารตัวจิ๋วที่เป็นมาสคอตประจำหน่วยต่างหาก”
“แบบนั้นก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่” ทอมพุ่งเข้าพรวดเข้าไปเฉือนแขนของเดวิดได้สำเร็จโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันรู้ตัว ความเจ็บปวดบาง ๆ เกิดขึ้นที่แขนซ้าย มีเลือดสีแดงข้น ๆ ไหลออกมา
ก่อนหน้านี้เดวิดประมาททอมจนเกินไป
“การที่มีเรียกกูว่าเป็นกัปตันไทยแลนด์อะไรนั่น มันทำให้รู้สึก
อยากจะอ้วกแตกจริง ๆ เลยว่ะ” ทอมกัดฟันด้วยความโกรธเกรี้ยวที่เมื่อก่อนเขาได้ยินจากสมาชิกในหน่วยพูดคุยกันเรื่องโครงการเซรุ่มบางอย่าง ที่จะสามารถอัปเกรดตัวเองให้เป็นซูเปอร์ทหารได้ในเวลาสั้น ๆ เมื่อทหารพวกนั้นเห็นทอมจึงเรียกมาคุยด้วยเป็นครั้งแรก พวกเขาบอกว่าทางผู้ใหญ่ได้เลือกให้ทอมเป็นผู้ที่จะได้รับเซรุ่มซูเปอร์ทหารที่มีพลังเดียวกับกัปตันอเมริกาเลยทีเดียว
“งั้นฉันก็จะได้เป็นกัปตันไทยแลนด์สินะ!”
ทอมเบิกตาที่ใสราวกับเด็กโพลงขึ้นทำให้พวกทหารรู้ได้ทันทีว่านายทหารร่างเล็กนี้หลอกง่าย จึงทำการโกหกต่อเพื่อความบันเทิงภายในหน่วย
เพียงคำพูดของเพื่อนร่วมหน่วยก็ทำให้ทอมนั้นเกิดแรงบันดาลใจที่จะฝึกฝนตัวเองเพื่อรับเซรุ่มสีฟ้าเหมือนกับที่เห็นในหนัง ไม่ว่าจะเป็นทั้งวิ่งและออกกำลังกายต่าง ๆ นานา เขาสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพจนเดวิดรู้ได้ทันทีว่าเขาโดนพูดอะไรกรอกหูไป หลังจากนั้นเขาจึงเล่นสนุกด้วยโดยการใช้อำนาจของตัวเองโดยการสั่งงานที่เกี่ยวกับเซรุ่มซูเปอร์ทหารปลอม ๆ ให้กับไคลเพื่อรายงานกับเบื้องบน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นการฝากซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อต่างหาก
สำหรับเดวิด การเล่นสนุกกับจิตใจมนุษย์ที่แสนบอบบางเป็นอะไรที่สนุกที่สุดของเขาแล้ว
ด้วยความชะล่าใจของทอมทำให้เขาเอาแต่เตรียมตัวคิดนั่นคิดนี่ว่าจะออกแบบชุดซูเปอร์ฮีโร่ของเขาแบบไหน ธีมสีจะเป็นธีมอะไร อาวุธของเขาจะเป็นโล่หรืออย่างอื่น พลังที่มาจากเซรุ่มที่ว่านั้นจะมีพลังเทียบเท่ากับกัปตันอเมริกาเลยหรือเปล่า ความคิดพวกนั้นอยู่ในหัวจนเขาโดดซ้อมประจำวัน นั่นส่งผลให้ทั้งหน่วยถูกทำโทษด้วยกระโดดลงไปในบ่ออุจจาระที่เหม็นจนแทบอยากจะลาลับจากโลกนี้เลยทีเดียว
เขารู้สึกผิดที่ทำให้ทั้งหน่วยถูกทำโทษทั้ง ๆ ที่ปฏิบัติดีอยู่ตลอด แต่กลับตกม้าตายเพราะลืมตารางซ้อมประจำวันจนส่งผลให้กลายเป็นแบบนี้ เขาถูกคนในหน่วยรุมกระทืบอย่างน่าเวทนา สภาพอยู่ในขั้นโคม่าจนต้องส่งเข้าห้องไอซียู ส่วนพวกที่รุมทำร้ายถูกสั่งให้เขียนรายงานมาส่งเดวิดจำนวนสิบหน้ากระดาษเอสี่ แต่พวกเขากลับช่วยกันเขียนแค่คนละครึ่งหน้าก่อนจะก๊อบปี้ให้เท่ากับจำนวนคนแล้วแก้หน้าปกรายงานก่อนจะส่งให้ผู้บังคับบัญชาของตัวเอง ซึ่งฝ่ายของเดวิดนั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงเซ็นยอมรับรายงานรูปเล่มอย่างง่ายดายเพื่อเป็นการยืนยันว่าการทำโทษอันแสนสั้นได้ผ่านไปแล้ว
“เมื่อไหร่ผมจะได้เข้ารับเซรุ่มซูเปอร์ทหารเหรอครับ?”
“หืม? ถามว่ายังไงนะ?”
เดวิดยักคิ้วหนึ่งข้างขึ้นมาด้วยความงงงวยจากสิ่งที่ลูกน้องของตัวเองถามในขณะที่ตัวเองต้องไปเยี่ยมทอมเพื่อเป็นมารยาท ซึ่งในความเป็นจริงเขานัดพริตตี้ไว้ที่ร้านเดิมเสียด้วย ทำไมเขาต้องมาเสียเวลากับนายทหารที่อ่อนแอแบบนี้ด้วย ช่างไร้ค่าจริง ๆ!
“ก็เห็นที่พูดกันในหน่วยว่าการเบื้องบนได้วิจัยสร้างเซรุ่มพวกนั้น” ทอมที่ยังนอนอยู่บนเตียงคนไข้และยังมีสายระโยงระยางเสียงเข้ากับร่างของชายหนุ่ม ทำให้เดวิดรู้สึกคันระยิบระยับทั้งตัว
“เซรุ่มพวกไหน?” เดวิดแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราว แต่ในความเป็นจริงแล้วเขานั่นแหละที่เป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลัง เพราะในตอนแรกมันเป็นแค่การพูดคุยกันเกี่ยวกับหนังเรื่องกัปตันอเมริกาภาคแรก ที่มีการพูดถึงเรื่องเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์ซึ่งทำให้พระเอกอัปเกรดตัวเองชายร่างเล็กแรงน้อยกลับกลายมาเป็นชายหนุ่มร่างกายบึกบึนต่างหาก แต่ดูเหมือนว่าทอมจะฟังพลาดไปจึงเกิดความเข้าใจผิดไปเอง
มันคือน้ำผึ้งหยดเดียวเท่านั้นเอง ไม่คิดว่าการดูหนังแล้วเอาไปพูดกับเพื่อนซึ่งเป็นสิ่งที่ปกติธรรมดาได้กลายมาเป็นการทำให้ทอมถูกกระทืบปางตายแบบนี้…แต่ในทางกลับกันมันก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของทอมด้วยเหมือนกัน ดูเหมือนว่าเขาจะสอบตกเรื่องนี้ไปเลยทีเดียว เดวิดหัวเราะอยู่ในใจกับเรื่องที่เข้าใจผิดแบบนี้ เพราะเขาเพียงต้องไปเขียนรายงานเบื้องบนได้อย่างง่ายดาย มันไม่ใช่การลงโทษในเรื่องของการเขียนเอกสารรายงาน แต่เป็นการสื่อสารให้เบื้องบนรับทราบว่าเกิดอะไรขึ้นเท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วรายงานที่อุตส่าห์พิมพ์จะถูกลืมหายไปราวกับว่ามันไม่เคยถูกพิมพ์ขึ้น
ที่แย่กว่าก็คือเขาไม่ได้เป็นคนพิมพ์ แต่จ้างนักเขียนเป็นคนเขียนให้โดยแลกกับค่าแรงที่สูงจนนักเขียนไส้แห้งคนนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้
เงินสามารถเนรมิตได้ทุกอย่าง
“กัปตันไทยแลนด์คือความฝันของนายสินะ” เดวิดถาม
“ครับ”
“งั้นฉันก็ต้องพูดก่อนนะว่า ความฝันของนายมันก็เป็นเพียงฝันที่จะไม่มีวันได้เป็นจริงอยู่แล้ว” สิ่งที่ผู้บังคับบัญชาได้พูดออกไปนั้นมันคือความจริงที่ทลายความฝันที่เป็นดั่งแสงสุดท้ายของทอมไปอย่างหน้าด้าน ๆ “เพราะเซรุ่มซูเปอร์ทหารที่ทุกคนได้พูดกันนั้นเป็นแค่สิ่งที่พวกเรารวมหัวกันหลอกต่างหากล่ะ คิดเหรอว่าทางเบื้องบนจะยอมสนับสนุนงบในการวิจัยในสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้?”
คำพูดที่แทงใจดำชายหนุ่มอายุยี่สิบในวันนั้นได้แปรเปลี่ยนมาเป็นความแค้นจนถึงทุกวันนี้
แต่วันนี้…ชายหนุ่มที่เคยนอนซมอยู่ในห้องไอซียูคนนั้นได้ออกมาสู้กับอดีตผู้บังคับบัญชาของตัวเองอย่างกล้าหาญ ซึ่งตัวเองก็ยังเกิดคำถามมากมายอยู่ในหัวเกี่ยวกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของทอม
“ด้วยประสบการณ์ของกูที่เจอแต่อะไรที่เสี่ยงตายมาตลอดการร่วมทางกับพวกนิว ทำให้กูแกร่งพอที่จะสู้กับมึงได้อย่างสูสี” ทอมเหวี่ยงมีดใส่เดวิดอย่างรวดเร็วซึ่งเดวิดใช้มีดปัดป้องการโจมตีได้อย่างเฉียบคม
เมื่อตัดมายังสถานการณ์ของนิว เอ็น คาเรน นัท และฟางนั้นอยู่ในดงของทหารที่ยังเหลือรอด พวกมันจ่อปลายกระบอกปืนมาทางเราด้วยสีหน้าที่ยังมีความกลัวอยู่ภายใน พวกเราเริ่มหมดแรงกันแล้ว แถมพลังซอมบี้ของผมและคาเรนกำลังจะหมดเพราะการที่ตัวเองเอาร่างกายไปป้องกันกระสุนให้กับคนอื่น ๆ จะเป็นลดทอนระยะเวลาการใช้พลังไปอย่างมาก โดยเฉพาะพลังเยียวยาซึ่งจะทำให้ระยะเวลาลดทอนลงไปอีก ในตอนนี้ถ้าไม่สามารถใช้พลังได้ เราก็จะตายกันหมดเพราะลูกตะกั่วพวกนั้น
“พร้อม!!” เสียงของทหารคนหนึ่งตะโกนขึ้นเพื่อทำการประหาร ผมกำหมัดแน่น เหงื่อไหลย้อยลงมาตามใบหน้าด้วยความกังวลขั้นสุดแล้วเบียดให้คาโอรินไปอยู่ด้านหลัง
“เอ็น?”
“ต่อให้ฉันตาย…เธอจะต้องไม่เป็นอะไร” ผมพูดด้วยความอินในสถานการณ์ที่หน้าสิ่วหน้าขวานขนาดนี้
คาเรนค่อย ๆ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงพร้อมกับหยิบแผ่นเหล็กบาง ๆ ออกมา
มันคืออะไร?
“ยิง!!!!”
____________________________________________
To Be Continue Ep.66