"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

Undead War สงครามคนเป็น - ตอนที่ 67 ประกาศชัยชนะ โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Undead War สงครามคนเป็น

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย

รายละเอียด

Undead War สงครามคนเป็น โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

โรคระบาดยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน หมอทุกคนตายกันไปหมดแล้ว ความหวังดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสุดท้าย ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ไร้แสงสว่างและไร้สิ้นสุด พวกซอมบี้ต่างคอยจะได้กัดกินเนื้อมนุษย์อย่างกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่พวกมันอยู่เต็มไปหมด 

 

แต่ความหวังก็ยังไม่หมดไป เมื่อผมสามารถเอาชนะเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ร่างกายของผมเกิดกลายพันธุ์และสามารถแปลงกายเป็นซอมบี้ได้ตลอดเวลา นั่นทำให้ผมวิวัฒนาการไปอีกขั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้

สารบัญ

Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 1 ณ จุดเกิดเหตุ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 2 มื้อเช้าสองพ่อลูก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 3 มีอะไรให้คิดอีกเยอะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 4 จุดกำเนิดฝันร้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 5 หัวใจที่เน่าสลาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 6 เข้าสู่กลียุค,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 7 นาทีหลบหนี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 8 กลิ่นคาวเลือดที่หอมหวาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 9 ไปให้ถึงเซฟเฮาส์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 10 สำรวจพื้นที่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 11 ฟาร์มของ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 12 ยื่นหมูยื่นแมว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 13 RED RIGHT HAND,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 14 หญิงสาวปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 15 สีขาวที่แปดเปื้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 16 หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 17 เสียงกระซิบ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 18 หน้ากากหนังมนุษย์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 19 กลายร่าง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 20 หนึ่งต่อร้อย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 21 เสียงประสานลมหายใจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 22 เสียงเพรียกแห่งความทรงจำ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 23 น้ำตาที่ไร้ความชุ่มชื้น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 24 จากที่ต่ำ…ขึ้นสู่ที่สูง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 25 ชายส่งสาส์นปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 26 ถอยหลังเพื่อเริ่มต้นใหม่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 27 ลางร้ายเริ่มปรากฏ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 28 อสูรไร้เทียมทาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 29 ความรู้สึกที่ซับซ้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 30 ฮาวทูมูฟออน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 31 ไวท์เว็ดดิ้งและผู้มาเยือน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 32 หมาป่าที่แต่งตัวด้วยขนแกะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 33 สิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 34 ศัตรูที่ไม่อยากจะสู้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 35 ละทิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 36 โลกที่เปลี่ยนไปเมื่อลืมตาตื่น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 37 ผู้ครอบครองพลังซอมบี้คนที่สอง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 38 ทุ่มสุดตัวเพื่อรอยข่วน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 39 พัฒนาโหมดซอมบี้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 40 เมล็ดพันธุ์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 41 พื้นที่จำกัด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 42 เบื้องหลังของนิว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 43 เตรียมบุก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 44 ก่อนการบุกโจมตี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 45 ชีวิตที่ไร้ค่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 46 อดีตปะทะปัจจุบัน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 47 แบล็กเว็ดดิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 48 มนุษย์คือสัตว์ประเสริฐจริงหรือ?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 49 ออรัลบนรถ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 50 วัดป่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 51 พระสงฆ์รูปสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 52 อมตะไม่มีจริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 53 เป้าหมายเพื่อเอาชีวิตรอด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 54 ตะลุมบอน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 55 ยอมแพ้เสีย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 56 ผู้นำที่อ่อนแอไม่มีวันเป็นทรราช,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 57 ขอเรียกร้องจากผู้ใหญ่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 58 โครงการทั้งห้า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 59 สงครามคนเป็น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 60 ผู้ป่วยโรคระบาดที่ก้าวราวเกเรมาก ๆ และรอการรักษา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 61 ความรักที่เกินกว่าค่าอนันต์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 62 คำตอบค่าเอ็กซ์ในสมการ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 63 ยุทธการทุบหม้อข้าว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 64 นักฆ่าลูกตำรวจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 65 กัปตันไทยแลนด์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 66 ความแข็งแกร่งที่แท้จริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 67 ประกาศชัยชนะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 68 การมาถึงของเบื้องบน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 69 ข้อเสนอที่ดูเป็นธรรม?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 70 นักวิทยาศาสตร์สันหลังยาว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 71 กุญแจสู่การสร้างวัคซีน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 72 สงครามครั้งสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 73 พร้อมสละทุกอย่างเพื่อคนรัก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 74 การเสียสละกำเนิดวีรบุรุษ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 75 วันครบรอบวันตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 76 ชีวิตหลังความตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 77 จากไปแล้วหวนคืน (ตอนอวสาน)

เนื้อหา

ตอนที่ 67 ประกาศชัยชนะ

เสียงปืนที่ดังสนั่นนั้นทำให้พวกซอมบี้ที่อยู่รอบ ๆ หมู่บ้านค่อย ๆ กรูกันเข้ามาทีละสองสามตัวตามสัญชาตญาณของพวกมัน ที่ผู้รอดชีวิตทุกคนต่างเข้าใจและเดาทางพฤติกรรมของพวกมันได้ดีว่า พวกมันต้องการจะเช้ามาฉีกเนื้อหนังของเราอยู่แล้ว เราก็แค่ฆ่ามันโดยการเล็งที่จุดตายเพียงจุดเดียว นั่นก็คือหัว 

และหน่วยซัปพอร์ตทั้งสามคนนั้นต่างรู้อยู่แก่ใจไม่ต่างจากคนอื่น ๆ กระรอก ไอยา และมายเป็นผู้ที่ยิงปืนไม่ค่อยเข้าขั้นจะฆ่ามนุษย์ด้วยกันเองได้ นิวจึงมอบหมายหน้าที่ที่มีความสำคัญพอ ๆ กับหน้าที่อื่นให้ทำ นั่นก็คือให้ป้องกันกลุ่มจากพวกซอมบี้โดยจะใช้เพียงปืนพกเท่านั้น ตั้งแต่การต่อสู้ครั้งก่อน ๆ ทำให้กระสุนปืนของพวกเธอหมด แต่ด้วยเมื่อยึดหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีทหารอยู่แล้ว อาวุธยุทโธปกรณ์นั้นก็ยิ่งมีให้ใช้มากขึ้น เมื่อของมันมีแล้วก็ต้องหมดไป กระสุนแต่ละนัดที่ยิงออกไปนั้นต้องหวังผลหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์

ไอยาเห็นว่าซอมบี้ที่เข้ามามีไม่ถึงสามตัว เธอจึงเก็บปืนเข้าซองพร้อมกับล็อกเซฟตี้ไว้ ก่อนจะชักมีดออกมาแล้วเดินเข้าไปหาพวกมัน มายและกระรอกงงงวยกับสิ่งที่เพื่อนสาวกำลังทำ จึงพยายามเรียก

“ไอยา! จะไปไหน!?” กระรอกตะโกนถามซึ่งหญิงสาวที่เดินออกไปนั้นไม่ฟัง ดวงตาของเธอมุ่งมั่นไปกับซอมบี้ตัวแรกที่เข้ามา เธอพุ่งเข้ามาง้างมือแล้วจัดการแทงใบมีดแสนคมกริบ ปักกลางกบาลของซอมบี้ตัวนั้นแล้วมันก็แน่นิ่งไปราวกับแบตเตอรี่หมดกะทันหันยังไงยังงั้น จากนั้นเธอกระชากมีดออกมาด้วยแรงที่มีก่อนจะวิ่งอ้อมหลังซอมบี้อีกตัว มันพยายามจะไล่ตามเธอ แต่สุดท้ายก็ถูกกระสุนปืนของมายยิงใส่จนมันล้มลงไปกับพื้น ไอยาเบิกตาโพลงด้วยความตกใจพร้อมกับหันไปหาเจ้าของกระสุนที่ทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่

“คิดเหี้ยอะไรอยู่วะ?” มายถามด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคือง 

“ก็ประหยัดกระสุนไง” หญิงสาวร่างเล็กผิวสีน้ำผึ้งตอบได้ตรงคำถาม “ซอมบี้มาทีนึงไม่กี่ตัวก็น่าจะใช้มีดมากกว่านะ”

“แล้วถ้าเกิดพลาดขึ้นมาล่ะจะทำยังไง” มายยังไม่พร้อม

“ก็….” ไอยาพูดไม่ออก

“เอาเถอะน่า จะมาทะเลาะกันทำไม จริง ๆ ถ้ามาแค่ตัวสองตัวจะใช้มีดก็ไม่มีปัญหา ซึ่งกูก็เห็นด้วยกับไอยาเรื่องประหยัดกระสุนนะ” กระรอกพูด แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายที่เห็นต่างกำลังจะพูดอะไร เธอจึงชิงพูดก่อน “แต่พวกเราสามคนไม่ได้มีเทคนิคการต่อสู้ราวกับปีศาจเหมือนเจ้าพวกนั้น ซึ่งการโจมตีแบบระยะไกลก็เป็นสิ่งที่ควรทำ หลังจากนี้เดี๋ยวจะให้มายประจำตำแหน่งนักแม่นปืนคู่กับฉัน แล้วไอยาก็คอยจัดการตัวที่เหลือรอดด้วยมีดละกัน”

ทั้งสองได้ยินสิ่งที่หญิงสาวร่างบางผิวขาวมัดผมเป็นหางม้าเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา จึงพิจารณาในหัวอยู่ได้สักครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ายอมรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะทั้งสามคนไม่อยากจะทะเลาะกันด้วยปัญหาที่ดูเล็กแต่ไม่เล็กแบบนี้ 

“แต่ตอนนี้ซอมบี้น่าจะหมดแล้วใช่ไหม?” มายถามพร้อมทั้งชะเง้อมองออกไปสุดลูกหูลูกตา

“อืม…ก็เหมือนจะอย่างนั้น” กระรอกยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมามองผ่านเลนส์ เมื่อเห็นว่าไม่มีซอมบี้แล้วพวกเขาจึงตัดสินใจเข้าไปด้านใน เนื่องจากพวกเธอไม่ได้ยินเสียงปืนมาได้พักหนึ่งแล้ว จากนั้นก็ได้ยินเสียง ปั้ง! ครั้งเดียวซึ่งทำให้ทั้งสาวตกใจเป็นพิเศษ แม้ว่าตัวเองจะได้ยินเสียงปืนมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็ตาม แต่เสียงนี้มันดังกว่าใครเพื่อนเลย

“ยังไม่จบกันอีกเหรอวะ?” มายถามขึ้นพลางมองไปที่ศพของพวกทหารที่ตายแล้วนอนเกลื่อนบนถนนภายในตัวหมู่บ้านจำนวนมาก ในหัวของเธอนั้นมีแต่คำถาม ซึ่งบางอย่างเธอไม่จำเป็นต้องได้คำตอบจากคนอื่น เพราะว่าคำตอบมันเฉลยอยู่ในคำถามแล้ว “นี่เราอยู่กับสัตว์ประหลาดหรือยังไงวะ…”

ผมถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวของผมออกเผยให้เห็นร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยมัดกล้ามซึ่งชุ่มไปด้วยน้ำเหงื่อ ทำให้ร่างกายของผมนั้นยิ่งดูไม่ต่างจากนักมวยเพราะร่างกายที่สูงขึ้นทำให้เสื้อเชิ้ตดูเล็กลงไปทั้ง ๆ ที่ยังมีขนาดเท่าเดิม เท่าที่เดาได้ก็น่าจะเกิดจากการที่เลือดซอมบี้ไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของผมล่ะมั้ง เพราะตอนนี้ผมสูงพอ ๆ กับมังกรเสียอีก แน่นอนว่าพวกเขาตกใจกับการเปลี่ยนแปลง แต่เรื่องที่ต้องกำลัดเดวิดเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญมากกว่า สายตาของผมจับจ้องไปที่ศัตรูตัวฉกาจเบื้องหน้า ตอนนี้เหลือเพียงมันคนเดียวแล้ว ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ยังคงยืนประจันหน้ากับคนสิบสามคนอย่างไม่เกรงกลัว

ฟางในตอนนี้ได้ใช้พลังเยียวยาในการรักษาอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะสายเกินไป เธอสามารถดึงกระสุนออกมาจากศีรษะของเขาอีกทั้งยังทำให้แผลรอยกระสุนสมานกันจนหายดี กลายเป็นว่าหัวใจของชายหนุ่มตอนนี้ไม่เต้น เธอจึงใช้มีดผ่าบริเวณสีข้างให้มีขนาดกว้างพอที่จะสอดมือเข้าไปเพื่อจับที่หัวใจ ก่อนจะบีบและใช้พลังเยียวยาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถทำได้

“ไม่ต้องแล้วฟาง” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “พลังของเธอทำอะไรไม่ได้แล้ว เธอเยียวยาได้ แต่ไม่มีทางฟื้นคืนชีพให้กับคนตายได้หรอก”

ผมกัดฟันด้วยความที่ตัวเองจะต้องยอมรับเรื่องนี้ให้ได้

“ทอมตายแล้ว” 

และทุกคนก็ต้องยอมรับเรื่องนี้ให้ได้…

“และฉันกำลังจะฆ่าคนที่ทำเรื่องแบบนี้ในฐานะมนุษย์” 

“กิ้งก่าได้ทองชัด ๆ มาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมกลายร่างแบบนี้แม่งโคตรโง่เลยว่ะ” เดวิดหัวเราะด้วยความสะใจเนื่องจากเห็นว่าตัวเองกำลังได้เปรียบ ไม่วายยังดูถูกผมอีก “ร่างมนุษย์ที่แสนอ่อนแอแบบนั้นจะทำอะไรกูได้วะ!?”

สมองได้สั่งการให้รวมกำลังไว้ที่เท้าก่อนจะดีดตัวออกไปหาเดวิดอย่างรวดเร็ว แม้ว่าความเร็วจะตกไปหน่อยแต่ถ้าเทียบกับคนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ผู้มีพลังพิเศษอย่างนิวแล้ว ผมเร็วกว่ามาก เพียงไม่กี่วินาทีผมได้เข้าไปประชิดตัวของเดวิดแล้ว หมัดซ้ายของผมสวนเข้าไปที่ลิ้นปี่ของมันอย่างแรง ส่งผลให้ร่างกายของมันกระเด็นออกไปกระแทกกับพื้นซีเมนต์จนหนังถลอกปอกเปิดไปหมด

“อะ…อะไรกันวะ…?” เดวิดพยายามชันตัวขึ้นมา ความเจ็บปวดบริเวณที่ผมชกไปนั้นแทบทำให้สำรอกออกมาเลยทีเดียว ความกลัวที่เริ่มฉายออกมาจากดวงตาของเขา ทำให้ผมคิดว่าตัวเองได้เปรียบขึ้นมามากแม้ว่าจะอยู่ในร่างของมนุษย์ที่แสนอ่อนแอเหมือนที่มันบอก

ก็มันไม่ได้อ่อนแออย่างที่มันดูถูกไว้นี่

ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงให้มากความ จึงดีดตัวเองเข้าไปหาพร้อมกับรัวหมัดใส่อย่างไม่ยั้งมือ มันเหวี่ยงมีดสั้นเฉือนบริเวณหน้าอกจนถึงท้องเลือดไหลออกจากบาดแผล ความเจ็บปวดแผ่ไปทั้งร่างกาย แต่เพียงไม่กี่วินาทีแผลรอยยาวนั้นก็สมาน ผมไม่ปล่อยให้เพื่อช่องว่างจึงลุกเข้าวงในก่อนจะเหวี่ยงหมัดขวาอัดใส่บริเวณขมับอย่างแรง เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง รวมถึงจมูกและปาก ตอนนี้เดวิดไม่สามารถทำอะไรได้ต่อแล้ว 
เขาหงายหลังลงไปนอนกับพื้นร่างกายไม่สามารถขยับหรือทำอะไรได้เลย ผมมองลงไปหามันด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย

“คนเรามันต้องมีการพัฒนา” ผมชักมีดออกมาก่อนจะแทงเข้ากลางกบาลโดยไม่ลังเล

ฉึก!!

เสียงใบมีดแหลม ๆ เจาะทะลุกะโหลกหน้าผากดัง กร๊อบ!! พร้อมกับเลือดที่พุ่งออกมาจากบาดแผลเมื่อผมกระชากอาวุธสังหารออกจากบาดแผล ถือว่าเป็นการอวสานของเดวิด ผมมองไปยังพวกทหารของฝ่ายศัตรูซึ่งตอนนี้มีสีหน้าที่เหวอรับประทาน ท่าทางที่เคยจองหองนั้นมลายหายสิ้นในการควบคุมของจินอู เท่าที่ผมนับดูนั้นก็เหลือกันประมาณสิบคนที่ยังเดินอยู่ได้

“ตอนนี้ผู้บังคับบัญชาของพวกมึงตายแล้ว” ผมเกริ่น “กูมีทางเลือกให้สองทางระหว่างไปจากที่นี่พร้อมอาวุธและอาหาร หรือจะอยู่ที่นี่ภายใต้การปกครองของพวกกู ส่วนพวกที่บาดเจ็บจะให้หน่วยพยาบาลเป็นคนรักษาให้แล้วไปตัดสินใจกันเองเอง”

“ยอมครับ” ทหารคนหนึ่งพูดขึ้นนั่นจึงทำให้ทหารคนอื่น ๆ ยอมร่วมเป็นพรรคพวกของผม นั่นหมายความว่าตอนนี้เรามีทหารมาร่วมรบอีกหลายคนซึ่งก็ต้องยอมรับอีกว่ามีหลายคนที่ล้มตายเพราะสงคราม

ก็แหงล่ะ…สงครามย่อมมีผู้เสียสละอยู่เสมอ

งานแรกที่ผมสั่งให้ทำก็คือเผาศพทหารที่ตายแล้ว รวมถึงซ่อมประตูรั้วที่พัง ส่วนทหารที่บาดเจ็บสาหัสก็ได้พลังเยียวยาของฟางช่วยเอาไว้ จึงเอาไปทำหน้าที่แรงงานได้ต่อแม้ว่าบางคนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เท่าที่สังเกตทหารกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์รู้สึกดีกับการที่ได้รับรู้ถึงการตายของเดวิด ส่วนไคลนั้น นัทเป็นคนสู้กับเขาและจับได้จึงถูกมัดไว้กับต้นไม้พร้อมให้เปลือยกายเหลือแต่เพียงกางเกงในเท่านั้น

ส่วนนักวิทยาศาสตร์ที่หลบอยู่ภายในโดมผ้าใบสีขาวนั้นไม่ได้ตกใจการมาถึงของนิวเพราะเขาคิดว่า ผู้ชายคนนี้ไม่น่าจะเลวร้ายตามการคาดการณ์ประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งชีวิต ‘เทียน’ มองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของนิวที่แฝงไปด้วยนัยยะต่าง ๆ ซึ่งยากจะคาดเดา

ผู้ชายคนนี้ให้ความรู้สึกที่แปลก ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง

“ตอนนี้กลุ่มของเรายึดหมู่บ้านและสังหารผู้บังคับบัญชาของที่นี่ไปแล้ว” นิวพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูทรงพลัง สายตาอันเฉียบคมมองไปที่ชายร่างผอมในชุดเสื้อกาวน์รวมถึงใส่เสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อนพร้อมผูกไทสีดำ ตัดผมสั้นเกือบจะติดหนังศีรษะหนวดเคราถูกโกนจนใบหน้าสะอาดสะอ้าน “นายยังอยากมีชีวิตรอดอยู่หรือเปล่าล่ะ? ถ้าอยากก็ต้องรบกวนขอให้ช่วยผลิตวัคซีนให้ที”

“คุณนี่พูดเหมือนผู้บัญชาการเดวิดเลยนะครับ” เขายิ้มมุมปาก “ตอนนี้ผมก็กำลังคิดค้นมันอยู่เหมือนกัน จริง ๆ สูตรมันอยู่กับหัวหน้านักวิทยาศาสตร์เอลที่ฐานทัพใหญ่บัญชาการโดยผู้บัญชาการ ‘เมเยอร์’ ”

“นั่นเป็นเป้าหมายถัดไปของเราอยู่แล้ว” ชายหนุ่มแสยะยิ้ม “งั้นหมายความว่าเราสองคนต่างมีเป้าหมายเดียวกัน”

นักวิทยาศาสตร์หนุ่มยิ้มและพยักหน้าก่อนจะแนะนำตัวกัน นิวมอบหน้าที่ให้เทียนลองคิดค้นวัคซีนที่สามารถทำให้ซอมบี้กลับมาเป็นมนุษย์ปกติ ซึ่งการที่จะทำให้ รีเวิร์ส นั้นมันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก หากลองมองเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่เทียบนั้นต้องการเอลที่มีสูตรการสร้างอยู่ในหัวอยู่แล้ว เป็นสูตรสมการที่แม้แต่เทียนเองก็ไม่สามารถแก้ได้เพราะมันเป็นสูตรเฉพาะที่ไม่ได้อยู่ในตำราไหนเลย

ถ้าพูดให้ถูกต้องก็คือ มันคือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์สุดอัจฉริยะคนนี้คิดค้นขึ้นมาเหมือนกับโทนี่ สตาร์ค สร้างธาตุใหม่ขึ้นมานั่นเอง

ส่วนทอมนั้นไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้อีกแล้ว เราจัดพิธีศพเล็ก ๆ ให้กับเขาในฐานะนักรบคนหนึ่งเพื่อเป็นการให้เกียรติอย่างสมศักดิ์ศรี แต่ก็จะมีทหารบางคนไม่ค่อยสบอารมณ์เรื่องงานศพสักเท่าไหร่เพราะเพื่อนทหารร่วมทัพนั้นก็เป็นคนเหมือนกัน แต่ทำไมถึงไม่พูดจัดงานศพให้สมศักดิ์ศรี 

“คนเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกันยังไงล่ะ” จินอูบอกลูกน้องตัวเองแบบนั้น “พวกนายไม่ได้ทำอะไรที่เป็นที่น่าจดจำ ก็จะพูดลืมไปแบบนั้น แต่ถ้านายได้ทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เราเป็นฝ่ายมีชัยเหนือสมรภูมิ ยังไงก็มีคนที่สรรเสริญพวกนาย”

พวกเขาพยักหน้ายอมรับความจริง

ระหว่างที่ทุกคนกำลังทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างขยันขันแข็ง ผมและคาโอรินได้รับมอบหมายให้เก็บอาวุธทุกอย่างที่อยู่ในศพของพวกทหารที่ตายแล้ว สิ่งที่เก็บมาได้มักจะเป็นมีดสั้น ปืนไรเฟิลเหมือน ๆ กัน รวมถึงแม็กกระสุนจำนวนมากและระเบิดมือจำนวนมากซึ่งมันอาจจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการบุกยึดฐานใหญ่ของพวกมันได้ ตั้งแต่ฆ่าเดวิดได้ก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาลูกยักษ์ออกจากอก เมื่อล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง นิ้วมือสัมผัสกับสิ่ง ๆ หนึ่ง มันคือ ‘แหวนแต่งงาน’ ซึ่งมันเป็นแหวนแต่งงานของแม่ ผมเจอมันอยู่ในซอกหลืบของกระเป๋าเป้ที่พวกท่านเตรียมไว้โดยสามารถตีความการกระทำนี้ได้ว่า ‘ถ้าลูกเจอคู่ชีวิตที่จะอยู่ด้วยกันไป จงมอบแหวนวงนี้ให้เสีย’ คำพูดนี้เหมือนกับแม่ยื่นหน้ามากระซิบที่ข้างหูยังไงยังงั้น 

ผมลังเล…สายตามองไปที่แฟนสาวที่กำลังเก็บมีดที่เข็มขัดพวกทหารอย่างไม่ยากเย็น แต่เท่าที่สังเกต เธอเริ่มเหนื่อยล้าจากการสู้รบ

“เดี๋ยวเค้าช่วยเอง” ผมเก็บแหวนใส่ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะเข้าไปช่วย “ไปนั่งพักก่อนไหม?”

“ไม่เป็นไรหรอก” เธอยิ้มก่อนจะเข้ามาจุมพิตที่แก้มผม “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะที่รัก”

“เค้ายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” ผมหน้าแดง

“ก็ที่จัดการกับเดวิดไง”

“แต่มันทำให้มือเค้าเปื้อนเลือดนะ”

“มีใครในนี้ที่มือสะอาดบ้างล่ะ?” เธอถามกลับ

แค่นี้ผมก็พอมั่นใจได้เต็มร้อยแล้วว่า คาโอรินนี่แหละ คือคนนั้น

จากนั้นผมจึงคุกเข่าต่อหน้าหญิงสาว

“ที่รัก! เป็นอะไร! อาการก่อนหน้านี้มันกำเริบเหรอ!?” เธอทิ้งทุกอย่างที่อยู่ในมือแล้วพุ่งเข้ามาประคองร่างของผมด้วยความตกใจและห่วงใจ สองมือที่อ่อนนุ่มสัมผัสกับใบหน้าของผมนั้นช่างอ่อนโยน ดวงตาคู่สวยเป็นประกายและกำลังชุ่มไปด้วยน้ำตานั้นช่างน่ารักน่าหลงใหลเสียจริง ๆ 

แม่ครับ…คนนี้แหละคือคู่ชีวิตของผม

“คาโอริน”

“คะ?” เธอแปลกใจที่ผมเรียกชื่อเต็มของเธอ

“เค้าดีใจนะที่ได้เป็นแฟนกับริน” ผมยิ้ม

“พูดอะไรของเธอเนี่ย เค้าเป็นห่วงนะ” เธอขมวดคิ้วพร้อมกับยื่นหลังมือมาแตะที่หน้าผากผม “แล้วตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง มีอาการคล้ายหน้ามืดหรือเปล่า? ให้แบกไปนอนพักที่ไหนก่อนไหม ส่วนตรงนี้เค้าจะจัดการให้เอง”

ผมส่ายหน้า

“เธอยังยืนไหวนะ?” เธอถาม

ผมพยักหน้า

ตอนนี้แหละ พูดออกไปสิ

“แต่งงานกับผมนะ”

ผมตัดสินพูดประโยคนั้นออกไป ทำให้หญิงสาวชะงักไปในทันที ในหัวของเธอตอนนี้ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ แต่ที่รู้ ๆ ก็คือเหมือนเซลล์ทุกอณูในร่างกายของเธอรับรู้อะไรบางอย่างที่กะทันหันไปจนทำให้เกิดค้างขึ้นมา ผมหยิบแหวนที่อยู่ในกระเป๋าออกมาก่อนที่จะยื่นให้กับคาโอริน ดวงตาของเธอเบิกออกด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าผมจะมาขออะไรแบบนี้ 

คนที่อยู่รอบ ๆ เริ่มสังเกตเราสองคนจึงค่อย ๆ หยุดสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่แล้วมองมาที่พวกเรา

“คาโอริน…เธอคือคนที่ผมรักคนสุดท้ายของชีวิตผมนะ และผมจะใช้ชีวิตทั้งหมดนี้เพื่อปกป้องดูแลคาโอรินเอง และสัญญาว่าจะรักคาโอริน…ตลอดไป”

เธอยิ้มออกมาทั้งน้ำตาอุ่น ๆ ที่ไหลมาตามใบหน้า 

“แต่งค่ะ” ผมดึงเธอเข้ามากอดทันทีเมื่อได้รับคำตอบ เธอซบศีรษะที่บ่าขนรู้สึกถึงน้ำตาอุ่น ๆ ที่เริ่มแฉะเสื้อเชิ้ตของผมแล้ว การกอดครั้งนี้ทำให้ตัวเองอ้อมแขนของผมกว้างจนสามารถกอดร่างบางได้รอบเลยทีเดียว “เค้าก็รักเอ็นนะ หลังจากนี้เราจะอยู่ด้วยกันไปจนวันตายเลยนะคะ เธอคือคนสุดท้ายของเค้านะคะ”

 

งานแต่งงานของเราจัดขึ้นหลังจากงานศพของทอมประมาณไม่กี่วันโดยมีมังกรเป็นบาทหลวงให้ไม่ต่างจากเหตุการณ์แบล็กเว็ดดิ้ง แต่คราวนี้มันคืองานแต่งงานของจริงที่หลังจากนี้จะมีแต่ความสุขในชีวิตคู่ ถ้าให้พูดแบบตลกร้ายก็คือ วิญญาณที่ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิดของฮีซุยน่าจะยังอาฆาตผมอยู่แน่นอน งานแต่งของเรานั้นไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมาย ไม่ได้เกี่ยงเรื่องพิธีการมากมาย ขอแค่ประกาศให้รู้ว่าเราสองคนคือสามีภรรยาแล้ว ซึ่งผมจะไม่ให้ความสนใจกับผู้หญิงอย่างฮีซุยหรอก คาโอรินดูสวยงามราวกับเป็นนางฟ้าเมื่ออยู่ในชุดแต่งงานกระโปรงยาวกว่าสี่เมตรโดยมี ฟาง  กิ๊บ กระรอก ไอยา และมายเป็นคนหามชายกระโปรงเวลาเดินเข้ามาในพิธี ส่วนผมแต่งตัวด้วยสูททักซิโด้ที่ไปขโมยมาจากร้านเช่าชุดแต่งงานที่เดียวกับที่วินจะพาผมไปซึ่งมันมีอยู่ร้านเดียวทั้งเมือง

ภายในงานยังเปิดเพลง Perfect ของ ​Ed Sheeran อีกด้วยทำให้บรรยากาศงานดูสว่างไสวและซึ้งจนไม่สามารถอดกลั้นน้ำตาอยู่ได้ เชื่อเถอะว่าทันทีที่ทุกคนรู้เรื่องนี้ก็ต่างยินดีกันทั้งนั้น

 

I found the love for me

Darling just dive right in

And follow my lead

Well, I found a girl beautiful and sweet

I never knew you were the someone waiting for me

 

ผมได้พบรักแท้แล้ว

ที่รักของผมได้เข้ามาหาผม

และตามผมมา

ผมพบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยและอ่อนหวาน

ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธอคือคนที่เฝ้ารอผมมาเสมอ

 

“คุณเอ็นครับ คุณจะรับคุณคาโอรินเป็นภรรยาและสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณคาโอริน ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติเธอ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ไหมครับ?” มังกรที่ยืนหันหน้ามาหาเราสองคนพร้อมถือคัมภีร์ไบเบิลยิงคำถามมาที่ผม

ผมมองไปที่เจ้าสาวแสนสวยของผมพร้อมกับเอ่ยคำสาบาน

“รับครับ”

บาทหลวงมังกรทำสีหน้าพอใจในคำตอบก่อนจะหันมาถามคาโอรินในคำถามเดียวกัน

“คุณคาโอรินครับ คุณจะรับคุณเอ็นเป็นสามีและสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณเอ็น ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ไหมครับ?”

“รับค่ะ”

เธอตอบทันควัน

มังกรยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำตอบ

ผมสวมแหวนของแม่ใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธออย่างนุ่มนาวและกล่าวว่า “คุณคาโอริน ขอให้รับแหวนนี้เป็นเครื่องหมายแสดงความรักและความซื่อสัตย์ของผม เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต” จากนั้นคาโอรินก็สวมแหวนให้กับผมอย่างนิ่มนวลพร้อมกับกล่าวคำที่ได้ซักซ้อมมา “คุณเอ็น ขอให้รับแหวนนี้เป็นเครื่องหมายแสดงความรักและความซื่อสัตย์ของผมเดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต”

“ในตอนนี้คุณทั้งสองได้กลายเป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องแล้วครับผม” ทันทีที่บาทหลวงได้ปิดพระคัมภีร์และจุมพิตลงบนคัมภีร์และได้กล่าวอีกว่า “เชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวจูบได้ครับ”

ริมฝีปากของเราสองคนประกบกัน มันคือคำสัญญาที่ผูกมัดกันไปตลอดชีวิต หลังจากนี้เราจะมีกันและกันตลอดไป

เพลงยังคงบรรเลงอยู่

 

ที่รักของผม แค่คุณค่อย ๆ จุมพิตผมช้า ๆ

แค่นี้หัวใจของผมก็เป็นของคุณแล้ว

และตอนนี้สายตาของคุณก็เอาแต่จับจ้องมาที่ผม

ที่รักครับ...ตอนนี้ผมกำลังเต้นรำอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์

และคุณก็อยู่ในอ้อมกอดของผม

เราเต้นบนพื้นหญ้าด้วยเท้าเปล่า ๆ

และฟังเพลงโปรดของกันและกัน

 

ทุกคนที่อยู่ในงานนั้นต่างหลั่งน้ำตาให้กับฉากงานแต่งงานที่เห็นอยู่ตรงหน้า และไม่คิดเลยว่าจะได้จัดขึ้นจริง ๆ ในโลกที่แสนโหดร้ายและล่มสลายถึงเพียงนี้

 

อันที่จริงแล้วผมพบผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้มแข็งกว่าทุกคนที่ผมเคยพบเจอ

เธอแบ่งปันความฝันของเธอมากมายให้กับผม

และหวังว่าวันหนึ่งผมจะได้สร้างครอบครัวกับเธอ

ผมพบความรับในอีกรูปแบบหนึ่งที่ต้องแบกรับภาระอื่น ๆ

นอกเหนือไปจากการรักษาความลับเอาไว้

ผมจะต้องแบกรับเรื่องความรักและเรื่องลูก ๆ ของผม

ที่รัก เพียงแค่จับมือผมไว้เท่านั้น

มาเป็นภรรยาของผมและผมจะปกป้องดูแลคุณเอง

ผมได้วางแผนอนาคตของเราสองคนเอาไว้แล้วนะ

 

“ผมรักคุณนะ ริน” ผมกอดเธอแน่น “และก็จะรักเธอตลอดไป”

__________________________________________________

To Be Continue Ep.68