"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"
แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Undead War สงครามคนเป็น"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"
โรคระบาดยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน หมอทุกคนตายกันไปหมดแล้ว ความหวังดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสุดท้าย ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ไร้แสงสว่างและไร้สิ้นสุด พวกซอมบี้ต่างคอยจะได้กัดกินเนื้อมนุษย์อย่างกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่พวกมันอยู่เต็มไปหมด
แต่ความหวังก็ยังไม่หมดไป เมื่อผมสามารถเอาชนะเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ร่างกายของผมเกิดกลายพันธุ์และสามารถแปลงกายเป็นซอมบี้ได้ตลอดเวลา นั่นทำให้ผมวิวัฒนาการไปอีกขั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้
เสียงคำรามของพวกซอมบี้รอบ ๆ กระท่อมนั้นเงียบไป รวมถึงเสียงทุกอย่างเงียบลงจนไม่ได้ยินเสียงอะไรราวกับตัวเองหูหนวกไปแล้ว สิ่งที่ภรรยาสาวได้บอกกับผมเมื่อกี้มันเป็นความจริงหรือมันเป็นสิ่งที่ผมหูแว่วไป…? เธอพูดบางอย่างออกมา…ให้ตายสิ…นี่ผมตั้งใจจะหลอกตัวเองเพื่อไม่ยอมรับความจริงอย่างนั้นเหรอ…? ว่าแต่สมองของตัวเองเริ่มงงเสียแล้วสิว่าอย่างไหนเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องปรุงแต่ง ดวงตาของผมเบิกโพลง มือที่กำดาบคาตะนะชุ่มเลือด ไร้เรี่ยวแรงจนปล่อยอาวุธคู่ใจลงกับพื้น น้ำตาของหญิงสาวทะลักออกมาราวกับก๊อกแตกด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด ทั้ง ๆ ที่ความคิดของผมนั้นไม่เหลืออะไรเลย อาการช็อกที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวนี้ทำให้ตัวเองทำอะไรไม่ถูก อาการของคนที่กำลังจะได้เป็น ‘พ่อ’ มันเป็นแบบนี้เองเหรอ
นั่นสินะ…ตอนที่พ่อทำแม่ท้องก็รู้สึกแบบเดียวกันสินะ…
แล้วสิ่งที่พ่อทำคือปกป้องคนที่ตัวเองรักเพื่อเป็นการรับผิดชอบต่อตัวเธอเองสินะ…
โอเค…คราวนี้ผมขอเดินตามทางของพ่อก็แล้วกัน
ผมอ้าแขนกว้างแล้วสวมกอดภรรยาสาวอย่างเบามือแล้วค่อย ๆ กระชับให้แน่นขึ้น หญิงสาวตาโตเมื่อเห็นกิริยาของผม เธอกอดผมกลับแล้วซุกใบหน้าไปที่แผงอกของผมอีกครั้งก่อนจะปล่อยโฮออกมา ผมไม่เข้าใจหรอกว่าความรู้สึกของคนที่กำลังอุ้มท้องนั้นรู้สึกอย่างไร แต่ในเมื่อผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้ว ผมจะต้องปกป้องคนที่ผมรักให้ได้
จู่ ๆ ซอมบี้ก็โถมเข้าใส่บานประตูอย่างแรงจนทำให้ผมเกือบจะล้มคะมำไปข้างหน้า หญิงสาวกรีดร้องด้วยความตกใจ ผมเกร็งเท้าเพื่อยึดตัวเองให้มั่นคงเพื่อให้แผ่นหลังของตัวเองดันบานประตูไม้ให้นานที่สุด พละกำลังของผมยังคงเหลืออยู่ แต่มันคงไม่นานพอที่จะเอาชนะซอมบี้กว่าพันตัวอย่างแน่นอน ผมควรจะทำยังไงดี…
“คาโอรินครับ” ผมจับศีรษะของเธอมาสบตากับผม เธอหยุดร่ำไห้ทันทีทั้ง ๆ ที่มีน้ำตานองหน้า “เพื่อลูกที่จะต้องเกิดมาบนโลกที่แสนสดใส ผมพร้อมทำทุกอย่างและเพื่อปกป้องภรรยาของผมด้วย พอผมเปิดประตูแล้วให้ขึ้นขี่หลังผมทันทีเลยนะ”
ผมผละจากร่างของเธอก่อนจะหันไปเปิดประตู ทันทีที่บานประตูเปิดออก พวกซอมบี้กรูกันเข้ามาหาผม กรงเล็บและฟันของมันกัดและขย้ำเนื้อหนังจนหลุดไปชิ้น ๆ ผมกัดฟันอดทนอย่างเจ็บปวดและกางแขนเป็นที่กั้นไม่ให้พวกมันเข้าถึงตัวแฟนสาวได้ พละกำลังของพวกมันนั้นมหาศาล หากเทียบกับผมในหนึ่งตัวแล้วมันอาจจะน้อย แต่ในเมื่อพวกมันรวมตัวกัน ฝ่ายที่เสียเปรียบเมประตูก็จะเป็นผมในทันที
“ออกไปสิวะไอ้สัตว์ปั้บ!!” ผมแผดเสียงดังลั่นแล้วระเบิดพลังผลักพวกซอมบี้พวกนั้นกระเด็นออกไปไกลกว่าสามเมตร ความเจ็บปวดแปล๊บ ๆ ขึ้นมาจากแขนทั้งสองข้าง…ให้ตายสิ…กล้ามเนื้อของผมฉีกไปแล้ว
“เอ็น!” ภรรยาสาวร้องเรียก “เป็นอะไรมั้ย!?”
“ไม่เป็นไร! กระโดดขึ้นมา!!”
เธอพุ่งตัวขึ้นมาเกาะหลังของผมแน่นส่วนผมคว้าปืนมาจากเธอก่อนจะยิงพวกมันจนกระสุนหมดแม็กเพื่อเปิดช่องให้สามารถหนีได้ แต่จากเท่าที่มองไปรอบ ๆ แล้วนั้น มันไม่ต่างจากป่าล้อมเมือง มนุษย์ทุกคนที่ยังมีชีวิตรอดนั้นกลับไปยังหมู่บ้านพฤกษาด้วยพลังวาร์ปของนิวแล้ว ตอนนี้ทั้งฐานทัพก็เหลือเพียงผมและคาโอรินเพียงสองคนสินะ จำนวนกองทัพซอมบี้ยังไม่ท่าทีว่าจะลดแม้ว่าผมจะฆ่าไปหลายตัวแล้วก็ตาม
“พวกมันล้อมเราแล้วอะที่รัก!” คาโอรินเกาะผมแน่น “เราจะทำยังไงกันดี!?”
ตอนนี้จะทำยังดี…?
พวกมันเริ่มตั้งหลักได้แล้ว
พวกมันค่อย ๆ กรูกันเข้ามา…เดี๋ยวนะ…พวกมันบางตัวมีร่างกายกำลังขยายใหญ่ขึ้น! ผมเบิกตามองด้วยความประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นพวกมัน ‘วิวัฒนาการ’ กลายเป็นซอมบี้ร่างยักษ์ที่ชื่อว่าไทแรน นั่นทำให้ผมยังคงจำสิ่งที่เทียนได้บอกผมก่อนจะมาที่นี่ได้
“ผมขอถามเกี่ยวกับไทแรนได้ไหมครับว่ามันเกิดมาจากอะไร?”
“พวกมันเกิดจากซอมบี้ธรรมดานั้นได้กินเนื้อซอมบี้ด้วยกันเองทำให้ไวรัสในร่างกายเกิดปฏิกิริยายาผสมผสานรวมร่างและวิวัฒนาการทำให้อัปเกรดเป็นไทแรน”
อ๋า…เข้าใจแล้วล่ะ…คาเรน…ผมสามารถไขปริศนาข้อนี้ได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว สิ่งที่เทียนได้พูดออกมาเป็นทฤษฎีนั้นไม่อาจทำให้ผมเชื่อถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ได้เท่ากับมาเห็นกับตา พวกมันกว่าสิบตน…ไม่สิ…ห้าสิบตน…ไทแรนในตอนนั้นมีอยู่ถึงห้าสิบตนด้วยกัน มันกลายเป็นฉากฝันร้ายของผมที่ไม่อาจจะคิดมาก่อน ผมล้วงเอาขวดแก้วบรรจุเลือดซอมบี้มาจากกระเป๋ากางเกง เปิดจุกออกพร้อมดื่มจนหมด ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมต้องกินเลือดเพื่อเพิ่มเวลา นั่นเป็นเพราะจะทำให้พลังนั้นยังคงกระพัน ส่วนการที่กินเนื้อซอมบี้ด้วยกันนั้นจะกลายเป็นวิวัฒนาการ
ในเมื่อสถานการณ์แบบนี้ผมจะต้อง…กิน…พวกมัน
ผมดีดตัวเองพุ่งเข้ามาหาพวกมันด้วยความเร็วสูงจนคาโอรินต้องเกาะไว้แน่น แม้ว่าร่างกายในตอนนี้ของผมนั้นเริ่มรับไม่ไหวแล้วก็ตาม ตัวเองก็ยังกัดฟันฝ่าเข้าไปในดงพวกมันอย่างไม่เกรงกลัว ผมแผดเสียงคำรามออกมาราวกับสัตว์ป่าเพื่อเรียกพลังให้สถิตอยู่กับตัว ก่อนจะฟาดฟันพวกมันอย่างบ้าคลั่ง ซอมบี้ตัวหนึ่งได้กระโดดเข้ามาใส่ ผมคว้ามันกลางอากาศก่อนจะฉีกร่างของมันขาดเป็นสองท่อน เลือดสีดำของมันไหลอาบร่างพวกเราทั้งสอง ผมเงยหน้าขึ้นแล้วอ้าปากดื่มเลือดพวกมันเพื่อเพิ่มพลังให้มากกว่านี้ หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงสองร้อย! ยังไม่พอหรอก ถ้าพวกมันแข็งแกร่งถึงขนาดนั้น แค่นี้มันไม่พอ!!
ผมเหวี่ยงขาไปรอบสามร้อยหกสิบองศาสุดแรง เตะพวกมันให้ลอยออกไปเพื่อสร้างช่องว่างให้ผมได้พักสักประเดี๋ยว จากนั้นผมทำสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำ นั่นก็คือการกินเนื้อของซอมบี้ สัญชาตญาณของตัวเองนั้นสั่งให้ทำเพื่อยื้อความตายไม่ให้เข้ามาถึงตัวได้เร็วเกินไป ยามที่เคี้ยวชิ้นเนื้อที่เหนียวนั้นมันทำให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ รสชาติมันไม่ต่างจากเนื้อเน่า ๆ ความรู้สึกพะอืดพะอมราวกับอยากจะสำรอกออกมา แต่มันก็ไม่สามารถทำได้เพราะทำไปเพื่อเอาชีวิตรอด
“เอ็นทำอะไรน่ะ!!?” คาโอรินส่งเสียงดังเมื่อเห็นพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของผู้เป็นสามี
ทำไมตัวเองถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้…? ใครก็ได้ช่วยตอบผมที ผมแค่ลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า กินมื้อเช้าพร้อมกันสองคนพ่อลูก ในขณะที่แม่กำลังสลบเหมือดอยู่บนเตียง แล้วเดินทางไปเรียนที่มหาวิทยาลัย…จากนั้นก็จับพลัดจับผลูมาวิ่งหนีซอมบี้และต่อสู้…สู้…เพื่อเอาชีวิตรอดและเอามันมาเดิมพันอยู่บ่อยครั้ง
ซึ่งครั้งนี้ผมยอมทุ่มทุกอย่างหมดหน้าตักให้กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับร่างกายของผมเมื่อได้กลืนชิ้นเนื้อนี่ลงไป
เอื้อก…
เพียงชั่วพริบตา รู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองเริ่มมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจก็เต้นแรงมากขึ้นจนเกินสี่ร้อยครั้งต่อนาที สติของผมกำลังจะเลื่อนแต่ผมได้กัดลิ้นจนเป็นแผลลึกเพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา ซึ่งมันก็ได้ผลไปได้ระยะหนึ่ง พวกซอมบี้และไทแรนค่อย ๆ บีบวงล้อมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง พวกมันไม่เคยให้โอกาสผมเลยสักนิด ชิ้นเนื้อของผมต่อพวกมันนั้นมีค่า แต่ชิ้นเนื้อของพวกมันก็มีค่าสำหรับผมเหมือนกัน ตอนนี้ผมไม่ได้มองพวกมันเป็นเพียงอสูรกายที่ไร้ค่าอีกต่อไป แต่พวกมันคือแหล่งพลังงานของผมชัด ๆ กล้ามเนื้อที่ฉีกขาดค่อย ๆ กลับมาเป็นเหมือนเดิม แผลรอยกัดตามร่างกายค่อย ๆ สมานจนไม่เหลือแม้แต่แผลเป็น
ความเจ็บปวดแสนสาหัสราวกับถูกเข็มนับล้านแย่งกันทิ่มแทงไปทุกรูขุมขนทั่วร่างกาย ทำให้ผมแผดเสียงออกมา ในหัวของผมนั้นยังมีภาพของคาโอรินและลูกที่ชัดเจนเสมอ
“เราสามคน…จะต้องรอด!!!”
นิววาร์ปกลับมายังหมู่บ้านพฤกษาพร้อมกับจินอูด้วยอาการที่หอบอย่างรุนแรงจากการใช้พลังรวดเดียว ชายหนุ่มถูกเจออยู่บนต้นไม้และพยายามยิงพวกซอมบี้จนกระสุนหมด ตอนนี้ร่างกายของนิวนั้นเหนื่อยล้าเต็มที่เพราะใช้พลังมากจนเกินไป ฟางที่กำลังรักษาคนอื่น ๆ ก็พุ่งเข้ามารักษาอาการของแฟนหนุ่มในทันที แต่แล้วแสงสีเขียวจากมือของเธอค่อย ๆ จางให้หายพร้อมกับอาการหน้ามืดตามัวเนื่องจากฝืนร่างกายตัวเองมากเกินไปเช่นเดียวกัน กิ๊บและกระรอกเห็นดังนั้นจึงรีบเข้ามาแบกฟาง แต่แล้วจู่ ๆ กระรอกก็เกิดคลื่นไส้ขึ้นมาแล้วสำรอกตรงนั้นทันที ด้วยความที่หญิงสาวยิ่งหมดแรงไปแล้ว การสำรองออกมานั้นยิ่งทำให้กินพลังงานมากเข้าไปอีก เรมัสเข้ามาประคองกระรอกและนัทเข้ามาประคองฟางคู่กับภรรยาสาวเข้าไปยังเต็นท์ของเทียนที่ตอนนี้เอลกำลังคุยกับเทียนเรื่องการเตรียมวัตถุดิบและเครื่องผสมวัคซีน แม้ว่าเอลจะไม่ได้บอกเทียบว่าเขาทำน้ำไขสันหลังอันแสนมีค่าของคาเรนแตกสลายไป
“ไปกินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่า?” เรมัสถามกระรอกที่เขาอุ้มมานั่งพิงต้นไม้ห่างจากกลุ่มคนเพื่อให้มีอากาศถ่ายเทสะดวกก่อนจะยื่นขวดน้ำให้เธอจิบเพื่อทดแทนน้ำที่เสียไปในร่างกาย
หญิงสาวส่ายหน้า
“สันนิษฐานได้อย่างเดียวว่าท้อง” จู่ ๆ เสียงของนิวก็ดังขึ้นจากด้านหลังของเรมัส ทั้งสองเบิกตาโพลงให้กับสิ่งที่ชายหนุ่มได้พูดออกมา
“พะ…พูดอะไร…?” หญิงสาวยังคงไม่ยอมรับความจริง
นิวนั่งยอง ดวงตาจับจ้องเข้าไปในจิตใจของอีกฝ่ายผ่านหน้าต่างนัยน์ตา
“เธอกับคาเรนไม่ได้ป้องกันตอนมีอะไรกันใช่มั้ย? ขอให้ตอบมาตามตรง”
กระรอกพยักหน้า
นิวถือวิสาสะยื่นมือออกไปตับมือกระรอกก่อนจะเขย่ามือกับเธอเบา ๆ
“ขอแสดงความยินดีด้วย…” จากนั้นเขาก็ปล่อยให้กระรอกนั่งตัวแข็งพลางทำใจยอมรับให้ได้
“เอ็น คาเรนและคาโอรินล่ะนิว!?” มังกรวิ่งเข้ามาถาม “สามคนนั้นยังไม่กลับมาเลย”
“คาเรนตายแล้ว” นิวพูดออกไปอย่างเร่งรีบเพราะชื่อของตัวเองในโลกคู่ขนานที่ตัวเองลืมไปเสียสนิท แต่มังกรก็ยืนตัวแข็งเพราะคำตอบของชายหนุ่ม
ลมหายใจของนิวนั้นรวยริน เมื่อเขากำลังจะวูบลงไปนั้นก็มีมือของใครบางคนได้มารับร่างของเขาเอาไว้ เอลนั่นเอง
“ตอนนี้ขวดน้ำไขสันหลังของคาเรนได้เสียหายไปแล้ว” เขาพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ทำให้นิวยิ่งใจเสียมากลงไปกว่าเดิม “ความหวังสุดท้ายที่แท้จริงของเรายังอยู่ที่ฐานทัพนะ”
นิวรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร
“ผมเข้าใจแล้ว…ผมจะไปรับเขากลับมา”
ร่างกายของผมสูงใหญ่เทียบเท่ากับพวกไทแรนด้วยกัน จนตอนนี้เมื่อมองลงไปด้านล่างก็เห็นพวกซอมบี้กลายเป็นคนแคระยังไงยังงั้น กล้ามเนื้อของผมปวดไปหมด เส้นเลือดปุดที่บริเวณกล้ามเนื้อตามร่างกายต่าง ๆ จนแทบจะระเบิดออกมา ผมกัดฟันแน่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ตัวเองสามารถอดทนกับความเจ็บปวดพวกนั้นได้ ตอนนี้ผมไม่ต่างจากไทแรนพวกนั้นแล้ว ผมกลายเป็นไทแรน! คาโอรินที่เกาะอยู่บนหลังของผมเบิกตาโตเมื่อเห็นผมกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด สติของผมนั้นไม่เต็มร้อยทำให้ร่างกายไม่ค่อยจะฟังคำสั่งตัวเองสักเท่าไหร่
“โฮกกกกกกก!!” ผมคำรามเสียงก้องจนทำให้คาโอรินถึงกับต้องยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาปิดหู
ผมเริ่มเปิดฉากการโต้กลับพวกไทแรนและซอมบี้ตัวกระจิ๋วอย่างบ้าคลั่ง หมัดอันหนักอึ้งถูกเหวี่ยงใส่พวกไทแรนอย่างรุนแรงส่งผลให้หัวของมันหลุดจากบ่า ขาทั้งสองข้างก้าวไปเตะพวกซอมบี้ร่างกระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง ไทแรนตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาหา แต่ผมเบี่ยงตัวหลบได้ก่อนจะคว้าข้อเท้าของมันมาแล้วเหวี่ยงไปรอบทิศทางราวกับเป็นตุ๊กตายัดนุ่น ผมคำรามไม่ต่างจากยักษ์ ไม่ต่างจากสัตว์ป่าที่บ้าคลั่งจนไม่มีอะไรสามารถหยุดผมได้อีกแล้ว พวกซอมบี้จำนวนหลายร้อยปลิวกระเด็นไปจนพื้นที่ตรงนั้นไม่เหลือซอมบี้ที่เดินได้แล้ว
แต่พวกไทแรนยังคงอยู่ ผมกำหมัดแน่นแล้วพุ่งเข้าไปโจมตีพวกมันด้วยวิชามวยที่นิวได้สอนผมมา การที่ร่างกายได้ใหญ่โตขึ้น ทำให้น้ำหนักทุกอย่างเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหาย การที่จะเหวี่ยงหมัดออกไปนั้นช่างยากเย็น จำเป็นต้องงัดพละกำลังทั้งหมดออกมาให้คราวเดียว ยามที่กำปั้นได้กระแทกที่ใบหน้าของมันก็ไม่ต่างจากที่ถูกคอนกรีตก้อนใหญ่ ๆ กระแทกใส่เลยทีเดียว
พวกไทแรนและซอมบี้ที่ยังเหลือรอดยังคงบีบวงล้อมเข้ามาเรื่อย ๆ ผมไม่ชินกับร่างกายที่ใหญ่โตและหนักอึ้งแบบนี้เลยสักนิด กล้ามเนื้อของผมตึงเปรี๊ยะจนแทบจะฉีกขาดอีกครั้ง
จู่ ๆ ผมก็ถูกไทแรนตัวหนึ่งเหวี่ยงหมัดเข้าใส่ผมอย่างจัง ในจังหวะนั้นสติของผมก็เลื่อนลอยไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง มันไม่ปล่อยให้ผมได้ตั้งหลักได้ มันคว้าคอของผมแล้วจัดการดึงเข้ามา ก่อนที่จะง้างหมัดปล่อยใส่ผมราวกับเป็นกระสุนปืนใหญ่ ใบหน้าของผมเละไม่มีชิ้นดี แต่ก็ยังสามารถสมานกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ด้วยพลังเยียวยา แต่ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มช้าลงไปทุกทีแล้ว
นี่คงจะเป็นขีดจำกัดของผมแล้วสินะ
แต่แล้วภาพของคาโอรินที่ตอนนี้ยังคงเกาะหลังของผมไว้แล้วหลับตาปี๋เพื่อให้ทุกอย่างมันผ่านไป
“เพื่อ…ระ…ริน…” ผมทำปากพะงาบ เลือดบางส่วนกระอักออกมา แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้ผมยกธงขาวยอมแพ้ได้ “เพื่อ…ละ…ลูก!!”
ผมเบิกตาโพลงอีกครั้งพร้อมกับดึงสติของตัวเองให้กลับมามากที่สุดแล้วเข้าไปเผชิญหน้ากับมันอย่างไม่เกรงกลัว ศึกดวลหมัดของผมและพวกมันในยกที่สองได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
“ว้ากกกกกกกก!!!!!!” ตอนนี้ผมได้ดับเครื่องชนแล้ว ไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งผมได้ ความเจ็บปวดพวกนั้นไม่สามารถทำอะไรผมได้อีกแล้ว เพราะผมไม่ได้รู้สึกถึงมันอีกต่อไป ผมเป็นเพียงเครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึกไปแล้ว ร่างกายขยับไปเองตามสัญชาตญาณ ผมทั้งเตะทั้งต่อยพวกไทแรนอย่างบ้าคลั่ง ผมอาละวาดจนทุกอย่างในนั้นเสียหาย ระเบิดหลายลูกเกิดระเบิดขึ้นหลายลูกทำให้พวกซอมบี้และไทแรนโดนลูกหลงเข้าไปด้วย
ผมไม่รู้ว่าตัวเองได้ต่อสู้กับพวกมันไปนานเท่าไหร่แล้ว จำนวนของพวกมันดูเหมือนแทบไม่ได้ลดลงเลย ตอนนี้พลังของผมค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ ราวกับดิ่งลงพสุธา เพียงไม่นานร่างกายของผมก็กลับมาเป็นร่างมนุษย์ที่มีขนาดเท่าเดิม คาโอรินประคองร่างของผมไว้ด้วยพละกำลังที่มีเพราะผมไม่สามารถขยับร่างกายได้อีกแล้ว บาดแผลทั่วร่างกายในตอนนี้ไม่สามารถเยียวยาได้เพราะพลังซอมบี้นั้นได้ใช้ไปเกินขีดจำกัดแล้ว พวกซอมบี้และไทแรนจำนวนมากก็ค่อย ๆ โอบวงล้อมเข้ามาเรื่อย ๆ ราวกับว่าการโจมตีของผมเมื่อครั้งที่ยังเป็นไทแรนนั้นแทบไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรเลย
“พวกมันกำลังเข้ามาใกล้แล้ว…” คาโอรินสะอื้นน้ำตาอุ่น ๆ ไหลตามกรอบหน้าที่เรียวสวย มือของเธอกุมหน้าท้องของตัวเองด้วยความเจ็บปวดที่หัวใจ “รอก่อนนะที่รัก” เธอชักมีดออกมาจากเข็มปลอกมีดที่มัดอยู่ที่ต้นขามาตั้งท่าใส่พวกมันแต่ดูเหมือนว่าการกระทำของเธอนั้นจะไร้ค่าสิ้นดี เธอคนเดียวไม่สามารถฆ่าพวกมันด้วยมีดเพียงเล่มเดียวได้อย่างแน่นอน
ในสภาพที่สิ้นหวังนี้ เธอทำได้แต่เพียงกำมีดไว้ในมือและกอดร่างอันไร้เรี่ยวแรงของผมไว้แน่นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความหวาดกลัว มัจจุราชนับพันกำลังจะเข้ามารุมฉีกร่างของผมและเธอแล้ว
พวกมันใกล้เข้ามา
ใกล้เข้ามา
ใกล้เข้ามา
___________________________________________________
To Be Continue Ep.74