"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

Undead War สงครามคนเป็น - ตอนที่ 76 ชีวิตหลังความตาย โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Undead War สงครามคนเป็น

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,ผจญภัย

รายละเอียด

Undead War สงครามคนเป็น โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"พลังที่ผมได้มานั้น...มันคือพรหรือคำสาปกันแน่นะ...? แล้วผมจะใช้พลังนี้แก้ไขประเทศที่ล่มสลายนี้จะกลับเหมือนเดิมได้อย่างไร...?"

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

โรคระบาดยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา ไม่ได้หายไปไหน หมอทุกคนตายกันไปหมดแล้ว ความหวังดับวูบจนไม่เหลือแม้แต่แสงสุดท้าย ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ไร้แสงสว่างและไร้สิ้นสุด พวกซอมบี้ต่างคอยจะได้กัดกินเนื้อมนุษย์อย่างกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่พวกมันอยู่เต็มไปหมด 

 

แต่ความหวังก็ยังไม่หมดไป เมื่อผมสามารถเอาชนะเชื้อไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ร่างกายของผมเกิดกลายพันธุ์และสามารถแปลงกายเป็นซอมบี้ได้ตลอดเวลา นั่นทำให้ผมวิวัฒนาการไปอีกขั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้

สารบัญ

Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 1 ณ จุดเกิดเหตุ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 2 มื้อเช้าสองพ่อลูก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 3 มีอะไรให้คิดอีกเยอะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 4 จุดกำเนิดฝันร้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 5 หัวใจที่เน่าสลาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 6 เข้าสู่กลียุค,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 7 นาทีหลบหนี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 8 กลิ่นคาวเลือดที่หอมหวาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 9 ไปให้ถึงเซฟเฮาส์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 10 สำรวจพื้นที่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 11 ฟาร์มของ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 12 ยื่นหมูยื่นแมว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 13 RED RIGHT HAND,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 14 หญิงสาวปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 15 สีขาวที่แปดเปื้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 16 หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 17 เสียงกระซิบ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 18 หน้ากากหนังมนุษย์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 19 กลายร่าง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 20 หนึ่งต่อร้อย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 21 เสียงประสานลมหายใจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 22 เสียงเพรียกแห่งความทรงจำ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 23 น้ำตาที่ไร้ความชุ่มชื้น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 24 จากที่ต่ำ…ขึ้นสู่ที่สูง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 25 ชายส่งสาส์นปริศนา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 26 ถอยหลังเพื่อเริ่มต้นใหม่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 27 ลางร้ายเริ่มปรากฏ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 28 อสูรไร้เทียมทาน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 29 ความรู้สึกที่ซับซ้อน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 30 ฮาวทูมูฟออน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 31 ไวท์เว็ดดิ้งและผู้มาเยือน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 32 หมาป่าที่แต่งตัวด้วยขนแกะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 33 สิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 34 ศัตรูที่ไม่อยากจะสู้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 35 ละทิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 36 โลกที่เปลี่ยนไปเมื่อลืมตาตื่น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 37 ผู้ครอบครองพลังซอมบี้คนที่สอง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 38 ทุ่มสุดตัวเพื่อรอยข่วน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 39 พัฒนาโหมดซอมบี้,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 40 เมล็ดพันธุ์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 41 พื้นที่จำกัด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 42 เบื้องหลังของนิว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 43 เตรียมบุก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 44 ก่อนการบุกโจมตี,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 45 ชีวิตที่ไร้ค่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 46 อดีตปะทะปัจจุบัน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 47 แบล็กเว็ดดิ้ง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 48 มนุษย์คือสัตว์ประเสริฐจริงหรือ?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 49 ออรัลบนรถ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 50 วัดป่า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 51 พระสงฆ์รูปสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 52 อมตะไม่มีจริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 53 เป้าหมายเพื่อเอาชีวิตรอด,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 54 ตะลุมบอน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 55 ยอมแพ้เสีย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 56 ผู้นำที่อ่อนแอไม่มีวันเป็นทรราช,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 57 ขอเรียกร้องจากผู้ใหญ่,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 58 โครงการทั้งห้า,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 59 สงครามคนเป็น,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 60 ผู้ป่วยโรคระบาดที่ก้าวราวเกเรมาก ๆ และรอการรักษา,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 61 ความรักที่เกินกว่าค่าอนันต์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 62 คำตอบค่าเอ็กซ์ในสมการ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 63 ยุทธการทุบหม้อข้าว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 64 นักฆ่าลูกตำรวจ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 65 กัปตันไทยแลนด์,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 66 ความแข็งแกร่งที่แท้จริง,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 67 ประกาศชัยชนะ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 68 การมาถึงของเบื้องบน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 69 ข้อเสนอที่ดูเป็นธรรม?,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 70 นักวิทยาศาสตร์สันหลังยาว,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 71 กุญแจสู่การสร้างวัคซีน,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 72 สงครามครั้งสุดท้าย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 73 พร้อมสละทุกอย่างเพื่อคนรัก,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 74 การเสียสละกำเนิดวีรบุรุษ,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 75 วันครบรอบวันตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 76 ชีวิตหลังความตาย,Undead War สงครามคนเป็น-ตอนที่ 77 จากไปแล้วหวนคืน (ตอนอวสาน)

เนื้อหา

ตอนที่ 76 ชีวิตหลังความตาย

ผมเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนต่างมีคำถามเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายว่ามันจะเป็นยังไง นรกสวรรค์มีจริงไหม โลกหลังความตายที่ปรากฏอยู่ในแต่ละศาสนานั้นจะมีจริง ๆ หรือทุกสิ่งทุกอย่างมันจะเป็นเรื่องที่หลอกลวงพวกเราตลอดมา

ทุกคนคิดว่าโลกหลังความตายของแต่ละคนเป็นยังไงกันล่ะ?

ในตอนแรกนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมืดมัวไปหมดหลังจากที่ยมทูตหน้าหล่อคนนั้นพาผมไปยังโลกหลังความตาย ในความเป็นจริงแล้วโลกหลังความตายมันก็คือโลกมนุษย์ของเราเอง แต่มันอยู่ในคนละพิภพกันเท่านั้น เท่าที่ผมรู้มาว่าพิภพของวัฏสงสารนั้นมีหกพิภพด้วยกัน เช่น พิภพนรก, พิภพเปรต, พิภพเดรัจฉาน, พิภพอสูร, พิภพมนุษย์และพิภพสวรรค์ ชีวิตหลังความตายความตายนอกจากพิภพมนุษย์แล้วผมอาจจะไปเกิดใหม่ในห้าพิภพนี้พิภพใดพิภพหนึ่ง

เอ๊ะ…รอบ ๆ ตัวผมเริ่มสว่างขึ้นแล้ว ผมเห็นร่างกายของตัวเองอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเสื้อผ้าก็กลับมาแล้วเหมือนกันเพราะก่อนหน้านี้ผมไม่สามารถเอาเสื้อผ้าไปด้วยได้ แน่ล่ะ…เหมือนดั่งในสุภาษิตที่ว่า เงินทองเป็นของนอกกาย ต่อให้ตายก็เอาไปไม่ได้ รวมถึงเสื้อผ้าก็เหมือนกัน แต่ตอนนี้ผมมีเสื้อผ้าแล้ว ผมไม่รู้สึกหนาวหรือร้อนเลย ร่างกายเบาหวิวราวกับว่าจิตวิญญาณของตัวเองได้พ้นทุกข์พ้นโศกไปแล้ว

นี่น่ะเหรอ…โลกหลังความตาย

“เอ็น กวิวังโส พูนศรี” เสียงหนึ่งเรียกชื่อเต็มของผม เมื่อหันกลับไปก็ได้เผชิญหน้ากับยมทูตตนที่พาผมมา เขานั่งบนเก้าอี้สีขาวพร้อมกับสมุดปกสีดำที่ดูโบราณในมือ เขาผายมือให้ผมนั่งเก้าอี้สีเดียวกันที่มาอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบได้

ผมนั่งลงอย่างว่าง่ายพลางหันมองไปรอบ ๆ ห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่สีขาวนี้ ผมไม่เห็นหรอกว่ามันจะมีเหลี่ยมอะไร แต่รู้สึกว่ามันใหญ่จนกว้างออกไปราวกับไม่มีที่สิ้นสุด คำถามเกิดขึ้นในหัวตลอดแต่ดูยมทูตหน้าหล่อที่กำลังเปิดดูอ่านเนื้อหาในสมุดเล่มนั้นอย่างใจจดใจ่อ สักพักเขายกขาขึ้นมาไขว้กับอีกข้างหนึ่งก่อนจะหัวเราะอะไรบางอย่างออกมาราวกับเป็นเรื่องตลก ให้ตายสิ…หน้าหงุดหงิดชะมัด

“แล้วคาเรนล่ะครับ?” ผมถาม “เขาไม่ได้มาที่นี่ด้วยเหรอ?”

“หมอนั่นได้ขึ้นสวรรค์ไปแล้ว แต่ในกรณีของนายนั้นมันพิเศษกว่าของหมอนั่นอีก” ผมไม่ชอบเลยที่ยมทูตเรียกคู่หูของผมว่า ‘หมอนั่น’ แต่ก็ดีสำหรับคาเรนแล้วที่ไม่ต้องทุกข์ทรมานอะไรเหมือนกันแล้ว…ว่าแต่…กรณีพิเศษของผมนั้นมันพิเศษขนาดไหนกันเชียวนะ…?

“ทั้งกรรมดีและกรรมชั่วของคุณนี่มาพอ ๆ กันเลยนะครับ” เขาพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ “คุณฆ่าคนไปเยอะมาก ๆ แต่ก็เข้าใจได้ว่าสถานการณ์บนพิภพมนุษย์นั้นเป็นยังไง เพราะพิภพอื่น ๆ ก็ไม่ต่างกัน เข้าใจได้ เข้าใจได้”

อืม…พิภพทั้งหกเป็นเรื่องจริงสินะ

“ใช่ครับ เป็นเรื่องจริง” เขาตอบคำถามในใจผมได้ “แล้วก็ขออนุญาตให้คุณไม่คิดอะไรในหัวได้ไหมครับ คนที่อ่านใจได้อย่างผมมันเริ่มรำคาญแล้วนะครับ”

“แล้วคุณกำลังอ่านอะไรอยู่?” ผมถามอย่างระมัดระวัง

“ประวัติของคุณ ตอนนี้อ่านไปได้ร้อยกว่าหน้าแล้วล่ะ แต่ละหน้ามันน่าเบื่อชะมัด แต่เริ่มน่าสนใจตั้งแต่หน้านี้แหละ” เขาพูดก่อนจะพลิกหน้าหนังสือด้วยความเร็วสองแผ่นกระดาษในหนึ่งนาที…นั่นแหละ ผมใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์โดยการนับหนึ่งถึงหกสิบเพื่อให้รู้ว่าเวลานั้นผ่านไปนานแค่ไหน

“จริง ๆ มันต้องเป็นหน้าที่ของฉันที่จะเป็นคนตัดสินให้นายไปพิภพไหน”

“อ้าว…ไม่ใช่หน้าที่ยมบาลเหรอ?”

“ยมบาลเข้ายกหน้าที่ให้แล้วเกษียณตัวเองไปทั้งหลายร้อยปีที่แล้ว” ยมทูตปิดหนังสือก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้ “ว่าแต่นายเถอะ ฉันได้อ่านประวัติของนายตั้งแต่เกิดจนตายหมดแล้ว เห็นว่านายก็ทำกรรมทั้งดีและชั่วพอ ๆ กันเลย จริง ๆ ช่วงแรกก็เกิดมาอย่างไม่ได้ตั้งใจก็น่าสงสารพออยู่แล้ว แต่ความรู้สึกเจ็บปวดในใจลึก ๆ ตั้งแต่เด็กมันยิ่งน่าสงสารมากกว่า แต่พอนายสามารถกอบกู้โลกทั้งใบได้ด้วยน้ำไขสันหลังของนาย ถือว่าเป็นกรรมดีจนกลบกรรมเลวของนายหมดเลย”

“สรุปแล้วผมจะได้ไปอยู่ภพไหนกันแน่ครับ?”

“อย่าเพิ่งรีบร้อนไป” เขายกมือขึ้นห้ามอย่างใจเย็น “ที่นี่เราไม่ทำอย่างนั้น ที่นี่เราจะไม่รีบร้อนอะไร เราตายแล้ว จะรีบร้อนไปไหนกัน?”

เออ…มันก็จริงของเขา

“นี่เป็นครั้งแรกของฉันที่จะไม่ตัดสินว่านายควรจะไปเกิดในภพภูมิที่ไหน” ยมทูตบอก “แต่มีคนอยากจะพบกับนาย”

“ใคร?”

“คนที่นายคิดว่ารู้จักดีเลยล่ะ” ยมทูตหน้าหล่อผายมืออันเรียวขาวไปยังประตูสีดำบานหนึ่งที่จู่ ๆ ปรากฏขึ้นทางขวามือของผมอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย สักพักบานประตูก็ถูกเปิดออก มีชายหญิงสองคนเดินออกมา ในแวบแรกผมเกิดคำถามในใจมากมายว่าพวกเขาสองคนเป็นใคร แต่เมื่อพินิจพิจารณาแล้วก็ทำให้ผมน้ำตาไหลพราก

“พ่อครับ…แม่ครับ…” ดวงตาของผมเบิกโพลงเมื่อพวกท่านยิ้มตอบ

บางอย่างดึงให้ผมลุกจากเก้าอี้พุ่งเข้าไปกอดทั้งสองคนในทันที ความอบอุ่นบาง ๆ แผ่เข้ามาในตัวผมให้ความรู้สึกถึงจิกซอว์ชิ้นสุดท้ายในชีวิต ทุกอย่างมันเพอร์เฟ็กต์ไปหมด ผมเจอพ่อกับแม่แล้วหลังจากที่ทำได้แค่บอกลากันเหมือนอย่างปกติในตอนเช้าทุกครั้งก่อนไปเรียน

“เป็นอย่างไรบ้างลูก” แม่บัวยื่นมือมาสัมผัสใบหน้าอย่างเบามือ ไออุ่นจากเธอนั้นทำให้รู้สึกสบายและเป็นสิ่งที่ผมโหยหามานานแสนนาน

“ผมคิดถึงพ่อกับแม่มาก ๆ ครับ” ผมสะอื้น

“พวกเราก็คิดถึง” น้ำเสียงอันนุ่มนวลของผู้เป็นพ่อที่มักจะไม่ค่อยได้ยินเมื่อครั้งที่ยังมีชีวิต “พวกเรายังไม่ยอมไปยังพิภพใดพิภพหนึ่งเพื่อรอลูกนี่แหละ”

“พ่อและแม่เผ้าดูลูกจากตรงนี้ตลอดเวลา ลูกเก่งมาก ๆ เลยนะ เก่งที่สุดในโลกเลย ลูกเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่หล่อเหลา ร่างสูงและแข็งแกร่งกว่าใคร ๆ” แม่บัวพูดด้วยความปราบปลื้มก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าดูเศร้าหมองลง “แต่ตอนนี้ก็คงต้องถึงเวลาแล้วล่ะ”

“เวลาอะไรครับ?” ผมสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่กำลังผิดแปลกออกไป

“เวลาที่พวกเขาทั้งสองจะถูกตัดสินว่าจะได้ไปเกิดยังภพไหนยังไงล่ะ” เสียงอันทรงพลังดังมาจากด้านหลัง ผมหันขวับไปยังต้นเสียงก็ได้พบกับชายร่างสูงกว่า แต่งตัวด้วยสูทสีขาว ผมยาวสีเงินและไว้หนวดเคราสีเดียวกัน ดวงตาสีฟ้าครามน้ำทะเลมองมาที่ผมอย่างเมตตา สัญชาตญาณของผมบอกเสียงดังว่าคน ๆ นี้ไม่ใช่มนุษย์และสัตว์หรือยมทูต

“ยินดีที่ได้รู้จัก เอ็น” เขาพูด “ข้าคือพระเจ้า

ผมเบิกตาโตเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาได้พูดออกมา นี่พระเจ้ามีจริงอย่างนั้นเหรอ?

“ก็มีจริงน่ะสิ” เขาพ่นลมหายใจออกทางจมูก “โลกแห่งความตายก็เหมือนบริษัทที่ข้าบริหารอยู่นั่นแหละ ถ้าไม่มีข้าอยู่บริหารแล้วโลกนี้จะสมดุลได้ไง ส่วนพิภพทั้งหกก็เหมือนเป็นบริษัทลูกไปอีกทีที่ข้าต้องดูแลและรับฟังเรื่องคำภาวนาต่าง ๆ และแน่นอน คำด่าจากเจ้าก็เช่นกัน”

“กูจะหันหลังให้กับมึง!! พระเจ้า!!”

สิ่งที่ผมได้ตะโกนขึ้นฟ้าเพื่อประกาศให้ตัวเองเลิกเชื่อคนบนฟ้าที่ไม่รู้ว่ามีอยู่จริงหรือไม่

แต่ตอนนี้บุคคลผู้นั้นได้มายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว…จะไม่เชื่อตอนนี้ก็คงจะกลายเป็นความอคติไปสินะ…

“คำคำนั้นทำให้ข้ารู้สึกประทับใจในตัวเจ้าอย่างมาก ข้าเลยอนุญาตให้บุพการีทั้งสองของเจ้าอยู่ที่นี่จนกว่าเจ้าจะตาย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและทรงพลัง “นาน ๆ ครั้งจะได้เจอคนแบบเจ้าที่ตายก่อนอายุขัยตั้งหลายปี ซึ่งตรงนี้เป็นบาปที่รุนแรงรองลงมาจากการฆ่าพ่อฆ่าแม่ตัวเอง หรือเรียกอีกอย่างว่าฆ่าตัวตาย จะได้ไปอยู่ในพิภพเปรต ชดใช้กรรมจนกว่าจะสิ้นอายุขัยแล้วรอคำตัดสินจากข้าอีกที”

“แล้วผมจะได้ไปอยู่ที่ไหน?” ผมถาม

“พิภพมนุษย์” เขาตอบ

“เยี่ยม” ผมพ่นลมหายใจออกทางจมูก “ผมก็ต้องไปเกิดใหม่สินะ”

“ก็ไม่เชิง วิญญาณของเจ้าจะได้กลับสู่ร่างเดิม ร่างกายของเจ้าที่เหลือแต่กระดูกนั้นข้าจะสร้างขึ้นให้ใหม่เป็นกรณีพิเศษ ส่วนพลังซอมบี้ของเจ้านั้นข้าก็จะคืนให้กับเจ้าถือว่าเป็นรางวัลในการทำความดี” พระเจ้าบอก

“ขอบคุณ” ผมก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด พระผู้เป็นเจ้าได้ให้ร่างกายกับผมรวมถึงให้ผมกลับไปมีชีวิต ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะมีใครทำกัน การฟื้นจากความตายนั้นไม่เคยมีปรากฏอยู่ที่ไหนสักแห่งนอกจากถูกตีพิมพ์ลงในพระคัมภีร์ไบเบิลเท่านั้น “ท่านไม่โกรธเหรอที่ผมพูดอะไรแย่ ๆ แบบนั้นออกไป”

“ทุกคนต่างสาปแช่งและสรรเสริญข้ามาตั้งแต่สองพันปีก่อนแล้ว ส่วนมากจะเกิดจากความอดติที่ไร้เหตุผลของคนพวกนั้น” เขาชี้นิ้วมาที่ผม “แต่คำพูดของเจ้านั้นแตกต่าง มีความรู้สึกมีเหตุและผล แต่ข้าไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเฝ้ามองว่าเจ้าจะทำอะไรต่อไป”

“ถ้าท่านเป็นพระเจ้าจริง ๆ ก็ต้องช่วยกันสิ” 

“ไปเอาชุดความคิดแบบนั้นมาจากไหนกัน หืม?” เขาเอียงคงเล็กน้อยพร้อมกับหัวเราะร่าออกมาอย่างสนุกสนานที่ได้เล่นกับจิตใจของมนุษย์ “ใจของคนเรานี่ช่างยากแม้หยั่งถึงจริง ๆ นั่นแหละ ข้าเป็นพระเจ้าก็จริงและสามารถช่วยคนอื่นได้จริง แต่จะกลายเป็นว่าข้าได้รุกล้ำกฎแห่งเส้นด้ายแห่งโชคชะตาไปน่ะสิ”

“หมายความว่ายังไง?” ผมถามพร้อมกับจับมือแม่แน่น

“เส้นด้ายแห่งโชคชะตานั้นจะถูกทอออกมาโดยที่แม้แต่ข้าก็มิอาจรู้ได้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของมัน” เขาส่ายศีรษะด้วยความเวทนาก่อนจะมองมาที่ผมด้วยสายตาที่อบอุ่น “แต่ชะตาของเจ้าจะยังมีต่อจากนั้น”

“ลูกแต่งงานมีครอบครัวแล้วนะ” มือของแม่บัวบีบไหล่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพร้อมกับยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “พ่อกับแม่ต้องขอโทษที่เลี้ยงลูกได้ไม่ดีเท่าที่ควร”

“ไม่หรอกครับ” ผมคุกเข่าลงพร้อมกับความสะอึ้งที่อยู่ในดวงใจแต่น้ำตากลับไม่ไหลออกมาจากดวงตา “ผมซาบซึ้งที่พ่อกับแม่ไม่ฆ่าผมและให้ผมเกิดมาต่างหากล่ะครับ”

ฝ่ามือทั้งสองขึ้นประนมไว้ที่อกก่อนจะก้มลงกราบบิดามารดา ทั้งสองย่อตัวลงมาลูบศีรษะของผมด้วยความเอ็นดู ความรู้สึกที่อบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายและทำให้ช่องว่างหลาย ๆ อย่างในชีวิตของผมนั้นถูกเติมเต็ม ความรักของพ่อแม่ที่แสดงออกอย่างชัดเจน ผมไม่เดียวดายอีกต่อไปแล้ว

“ต่อไปนี้เจ้าจะไม่เดียวดายอีกต่อไปแล้วล่ะ ตอนนี้ภรรยาของเจ้าคลอดลูกออกมาแล้ว” พระผู้เป็นเจ้าได้เสกทีวีจอกว้างขึ้นมาหนึ่งหลังฉายภาพเด็กทารกที่อยู่ในอ้อมกอดของคาโอริน “อันนี้อัดไว้ตั้งแต่หลายนาทีก่อน ตอนนี้นางได้โตเป็นสาวแล้วล่ะ” 

“หลานเราดูสวยเหมือนคุณย่าเลยแหะ” คุณพ่อแอบแซวคุณแม่จนเธอใช้ศอกกระทุ้งไปที่หน้าท้องของสามีเบา ๆ ด้วยความเขินอาย

“นี่ลูก…ลูกสาวของผม…ลูกของผมเป็นผู้หญิงเหรอ?”

“ก็ใช่น่ะสิ” พระเจ้าหัวเราะร่า “ฝีมือดีเหมือนกันนี่ ตอนที่เจ้ากำลังบรรเลงรักนี่ข้าต้องเสกป๊อปคอร์นกินไปดูไปเลยนะเนี่ย”

“พระเจ้าอะไรลามกฉิบหาย…” ผมหน้าแดงพร้อมกับพึมพำในลำคอ

“เอาเถอะ ข้าไม่สนคำด่านินทาอะไรหรอก ตอนนี้เจ้าเสียเวลาอยู่ที่นี่มายี่สิบนาทีแล้ว เพราะหนึ่งนาทีของที่นี่เท่ากับหนึ่งปีของพิภพมนุษย์” พระเจ้ายื่นมือออกมา แสงสีทองเรืองขึ้นแล้วพุ่งเข้ามาโอบร่างของผมไว้ “ข้าจะส่งจิตวิญญาณของเจ้าไปใส่ในเนื้อหนังของเจ้าที่ข้าได้ทำการสร้างขึ้นมาใหม่พร้อมกับพลังซอมบี้ของเจ้า สักวันเจ้าจะต้องได้ใช้ปกป้องครอบครัวของเจ้าอย่างแน่นอน”

“แล้วพ่อกับแม่ล่ะ?” ผมถาม

“พวกเราก็ต้องชดใช้กรรมอยู่ที่นี่” พ่อบอก “พวกเราดีใจที่ได้เห็นลูกเติบโตมาได้ขนาดนี้ เราสองคนภูมิใจในตัวลูกมาก ๆ นะ”

เมื่อสิ้นเสียงของพ่อ ทุกอย่างรอบตัวก็ดับวูบราวกับถูกปิดไฟ

ดวงตาของผมเบิกกว้าง รู้สึกถึงน้ำหนักของตัวเอง ประสาทสัมผัสทั้งห้ากลับมาแล้ว ให้ตายสิ…นี่ผมอยู่ในโลงศพใช่ไหม? มันทั้งมืด แคบและอากาศออกซิเจนกำลังจะหมดอีก ผมพยายามตั้งสมาธิก่อนจะกลายร่างเป็นซอมบี้แล้วปล่อยหมัดออกไปอย่างแรงส่งผลให้ฝาโลงศพแตกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ตัวเองกลับลืมไปว่าอยู่ใต้ดิน กองดินจำนวนมากไหลลงมาทับร่างของผม แต่ด้วยพละกำลังและเนื้อหนังที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างขึ้นมาให้ใหม่กลิ่นไม่ต่างจากรถยนต์ที่เพิ่งขับออกจากศูนย์ ผมจัดการอัดพลังทั้งหมดก่อนจะเริ่มขุดดินขึ้นไปด้านบนอย่างยากลำบาก ออกซิเจนกำลังจะหมดในไม่ช้า ผมจึงสูดอากาศเข้าไปเต็มปอดก่อนจะปืนขึ้นไป 

เพียงไม่กี่อึดใจ มือของผมก็สัมผัสกับน้ำเย็น ๆ ดินเริ่มนุ่มขึ้น จากนั้นมือของผมก็สามารถขึ้นไปสัมผัสกับอากาศด้านบนได้ ผมฮึดพลังอีกนิดเดียวก่อนจะพาตัวเองขึ้นมาจากหลุมได้ เศษดินที่เปื้อนชุดสูทสีดำถูกน้ำฝนที่ตกกระหน่ำลงมาชำระร่างจนสะอาด ผมหายใจเข้าจนเต็มปอดเพื่อเรียกสติของตัวเองให้กลับคืนมา จากนั้นผมแผดเสียงคำรามก้องขึ้นไปบนฟ้าราวกับสัตว์ป่า 

ผม…คืนชีพแล้ว

____________________________________________________

To Be Continue Ep.77