จะกล่าวถึงหน้าประวัติศาสตร์โลกเวทมนตร์ชื่อของ 'จาฟา ครูส' เป็นชื่อที่ทุกคนต้องได้ยินเสมอ แต่เหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนทำให้ตัวตนของเขาหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์
ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ตลก,ย้อนยุค,ไทย,จาฟาไม่อยากเป็นพ่อมด,ลึกลับ,นิยายแฟนตาซี,คำสาป,เวทมนตร์,แฟนตาซีน,พ่อมด,BL,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พ่อมดในตำนานคนนั้นเป็นแค่คนตกงาน #จาฟาไม่อยากเป็นพ่อมดจะกล่าวถึงหน้าประวัติศาสตร์โลกเวทมนตร์ชื่อของ 'จาฟา ครูส' เป็นชื่อที่ทุกคนต้องได้ยินเสมอ แต่เหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนทำให้ตัวตนของเขาหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์
#จาฟาไม่อยากเป็นพ่อมด
มิเกล อาร์เอชได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลหลังจากที่บิดาของตนเสียชีวิตลงอย่างปริศนา
ห้องทำงานที่เคยถูกลงกลอนถูกเปิดออก ภาพของพ่อมดในตำนานที่เคียงข้างเขาในวัยเยาว์
การสิ้นชีวาของแม่มดสาวผู้มีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับเขา
'จาฟา ครูส'
การดำดิ่งสู่เพนทาเคิล สมาคมพ่อมดที่ปกครองพ่อมดทั้งปวงในฮีมาไทต์
คำเตือน: การฆ่า/การใช้ความรุนแรง/การพยายามฆ่า/ฆ่าตัวตาย/สังหารหมู่/พฤติกรรมน่ารังเกียจ/การทารุณกรรมเด็ก/การทารุณกรรมทางด้านจิตใจ/ลิทธิ/ความเชื่อ ศาสนา
เวอร์ชั่นที่เผยแพร่ยังไม่ได้ตรวจสอบคำผิดอย่างละเอียด
ป.ล.การลงนิยายอาจจะไม่ถี่หรือไม่ค่อยมีเวลามากนัก เนื่องจากนักเขียนอยู่ในช่วงวัยเรียน ภาระงานจากโรงเรียนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งนักเขียนเรียนเกี่ยวกับแพทย์ อาจทำให้มีเวลาทางด้านนี้น้อยลงอีกด้วย
ต้องขอบคุณนักอ่านทุกท่านด้วยนะคะ
อยากเขียนแฟนตาซีขึ้นมา และคิดว่าแนวพ่อมดแม่มดนี่แหละเหมาะแก่การทดลองเขียนสุด ๆ ในโลกสมมตินี้จะพาคุณไปท่องยังเมืองต่าง ๆ สมาคมและสมาพันธ์ มีความเชื่อศาสนาและลัทธิต่าง ๆ เป็นเรื่องสมมุติ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ
“โอ้ นั่นสินะพ่อมดที่ร้องขอพลังจากข้า ดูจากตรงนี้แล้วก็ดูเก่งใช่ย่อย แต่หากเทียบกับข้าก็ยังถือว่าห่างชั้นมากโข” เขากลอกตาอย่างเบื่อหน่าย นับวันเข้ายิ่งรู้สึกเหม็นขี้หน้ามังกรเฒ่าตนนี้เอามาก ถึงจะอยู่ด้วยกันมาครึ่งค่อนชีวิต หากให้ฟังคำเยินยอที่มีต่อตัวเองทุกวันก็คงไม่ได้ จาฟาอยู่ท่ามกลางฝูงชน ไม่มีใครรับถึงการมีอยู่ของดรากันที่ลอยค้างในอากาศเป็นดวงไฟ ผลมาจากพลังของอีกฝ่ายที่หลบซ่อนตัวตนได้อย่างมิดชิดทำให้จับไม่ได้
และเป็นเรื่องยากที่เขาจะตอบกลับไปโดยไม่ให้ถูกเข้าใจผิดว่าบ้าไปเสียก่อน
แต่เหมือนการแข่งขันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ของทั้งสองเผ่าพันธุ์จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ในช่วงที่เขาเคยร่ำเรียนจะจัดการประลองเป็นอันดับแรก ลำดับต่อมาจึงกลายเป็นการตอบปัญหา แข่งปรุงยา หรือรวมกลุ่มเพื่อค้นหาความรู้ใหม่ ๆ ส่วนใหญ่แล้วพ่อมดไม่ค่อยชอบเรื่องรบราฆ่าฟันมากนัก พวกเขาแสวงหาความรู้สดใหม่อยู่เสมอ ฉะนั้นการประลองจึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นของพวกเขา จาฟากอดอกมอง การแข่งขันประลองดูท่าจะเลื่อนออกไปเป็นลำดับสุดท้าย
มีอะไรแปลกชอบกล ไม่สิ แปลกตั้งแต่การเริ่มเปิดงานด้วยเอเดอร์แล้ว
ทำไมเพนทาเคิลจึงมาร่วมงานในวันนี้
ในทุก ๆ ปี สมาคมพ่อมดจะส่งตัวแทนชั้นสูงลงมาแทน พวกเขาไม่มีวันลงจากยอดหอคอยเพื่อเฝ้ามองพิธีเช่นนี้หรอก หากจะมีอะไรอื่นมากกว่านั้น เขาผุดขึ้นยืนขึ้น ชายหนุ่มในรูปลักษณ์ของหญิงสาวพลันหายตัวไปท่ามกลางความวุ่นวาย การปลอมแปลงเป็นหนึ่งในนักเรียนเอนเซลาดัสเป็นเรื่องยาก แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้เพราะเขาก็เคยเป็นศิษย์เก่าของที่นี่มาก่อน ดังนั้นสถาบันแห่งนี้จึงต้อนรับเขาเสมอ อีกทั้งการไร้เวทมนตร์ก็ไม่ทำให้เหล่าสมาคมพ่อมดที่ต้องการจับตัวเขาก็ไม่รู้อีกด้วย
“เจ้าจะไปที่ไหน”
“หาเด็กนั่น” ดรากันเลิกคิ้วมอง ก่อนกวาดสายตามองเพ่งหาเด็กที่กลิ่นบางอย่างยากจะลืมเลือน ไม่ได้หอมหรือเหม็น ดีหรือชั่ว หากจาฟาเข้าใกล้เด็กที่มอบไข่มังกรให้เขามากขึ้นกว่านี้คงจะบอกอะไรได้หลาย ๆ อย่าง เจ้าของร่างสูงโปร่งหันซ้ายขวา โถงทางเดินมีห้องเก็บของและห้องทดลองอยู่มากมาย รีบย่ำฝีเท้าเร็ว ๆ ไปยังห้องสุดท้ายที่เงียบที่สุด ไร้เสียงโหวกเหวกของพ่อมดแม่มดตอนใด
“ข้าคิดหัวจะระเบิดก็คิดไม่ออกว่าควรจะเอาน้ำยาอะไรไปเทียบเคียงกับพวกเขาดี ข้ารู้ว่าในเอนเซลาดัส...ไม่สิ ในฮีมาไทต์มีสมุนไพร ยาแขนงต่าง ๆ มากมายให้พวกเราได้จับจ่ายใช้สอย แต่ว่า…ข้าไม่มั่นใจเลย การแข่งขันครานี้มีผู้คนมากมายจับตารอดูพวกเราอยู่ หากก้าวพลาดไปสักเล็กน้อยอนาคตของข้าคงจบอยู่แค่ที่นี่ ไม่มีใครอยากรับพ่อมดสมองทึ่มไปทำงานแน่”
น้ำเสียงนั้นสั่นเครือ จาฟาวางมือแนบกับประตูไม้เก่าคร่ำครึ ที่อีกฝ่ายพูดมาก็มีความจริงผสมอยู่แม้จะเป็นเพียงครึ่งเดียว ในฮีมาไทต์มักมอบโอกาสให้เด็กที่มีความสามารถกันทั้งนั้นแหละ หากไม่เก่งพอก็จะไม่มีวันได้เส้นทางดี ๆ ส่วนคนที่ด้อยกว่าก็ต้องกัดฟันเพื่อให้อยู่รอด เขาได้ยินเสียงไอโขลกจากการโหมอ่านหนังสือ เลือดที่ไหลออกทางจมูกเมื่อการพักผ่อนถูกช่วงชิงไป แทนที่ด้วยการร่ำเรียน
เสียงตุบของร่างที่ทรุดลงกับพื้น
ความรู้สึกร้อนดั่งเปลวเพลิงเมื่อไข้สูงขึ้น
ความรู้สึกเย็นเฉียบเมื่อร่างนั้นหมดลมหายใจ
จาฟารุดมือกลับมาวางแนบไว้ที่ลำตัว เขาเคาะประตูเบา ๆ สองครั้งเป็นการขออนุญาต จากนั้นจึงมีคนไม่คุ้นหน้าออกมาเปิดประตูให้ ร่างสูงใหญ่มัดกล้ามเนื้อลอนสวยเลิกคิ้ว ด้วยความสูงที่มากกว่าทำไมให้สายตาของอีกฝ่ายเหมือนดั่งการเหยียดหยามมิใช่น้อย จาฟาคิ้วกระตุกแต่เมื่อได้ยินเสียงดรากันจึงเลือกที่จะเชื่อฟัง เขาสูดหายใจอย่างช้า ๆ
“ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้ามาก่อนเลย เป็นแม่มดชั้นปีไหนรึ” ชายเบื้องหน้าเอ่ยถาม อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะเบี่ยงตัวหลบให้เขาเข้าไปด้านใน “ข้ามีน้ำยามานำเสนอเจ้า” สีโกนเมนวางไว้ที่เด็กหนุ่มคนที่พึมพำบางอย่างยาวเหยียด อีกฝ่ายมองเขาด้วยท่าทีประหวั่น จาฟาเม้มปาก เขารู้สึกรับมือไม่ถูกเมื่อต้องอธิบายเรื่องพวกนี้…
“ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่ข้ามอบให้ได้ ตัวน้ำยาเป็นสีฟ้าประกายมุข ข้าเชื่อว่าไม่มีใครสามารถปรุงยานี่ออกมาได้ยกเว้นแต่…” จาฟา คำตอบของเขาผุดขึ้นในใจหลาย ๆ คน นักปรุงยาผู้ใฝ่เรียนรีบปรี่เข้ามาหาแม้จะสงวนท่าทีเอาไว้ก็ตาม ร่างเล็กดันคนตัวโตให้ถอยห่างจากประตู เมื่อได้เห็นหน้าแม่มดที่ช่วยเหลือแล้วจึงรู้สึกตกหลุมรักก็มิปาน
ไม่ใช่สิดอริส! ที่ชอบน่ะก็คือความรู้นั่นต่างหาก!!
“มะ…มันเป็นน้ำยาเกี่ยวกับอะไรหรือ มีสรรพคุณอะไรบ้าง แล้ว แล้ว แล้วมีเพียงหนึ่งเดียวที่ปรุงได้นั่นคือใครหรือ?”
“ข้ายังบอกเจ้าตอนนี้ไม่ได้ เหลือเวลาอีกไม่มากที่เจ้าจะเริ่มทดลอง หากเจ้าปรุงยาสำเร็จข้าขะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้เอง”
เขาหันหลังกลับไป ปล่อยให้ดอริสมองแผ่นหลังของหญิงสาวปริศนาคนนั้น
เขามองกระดาษเหลืองกรอบในมือ ลายมือของอีกฝ่ายเป็นระเบียบเรียบร้อยนัก จะว่าคุ้นก็คุ้น แต่จะไม่ก็…ยังหาข้อสรุปอะไรไม่ได้ พ่อมดหนุ่มปรบมือหนึ่งครั้งก่อนหันกลับมามองเพื่อนชายและเพื่อนหญิง “เอาละ! เรามีเวลาในการทดลองนี่ไม่มากนัก หากสำเร็จข้าว่ามันจะต้องเป็นน้ำยาที่สุดยอดมากแน่”
มาเดลิน “ใครกันหนอคือผู้ปรุงยาที่สำเร็จ”
อาร์ค “แล้วเจ้าเชื่อได้อย่างไรว่านางจะไม่ให้พวกเราผสมยาพิษเพื่อประโยชน์ของนางเอง”
“ไม่หรอก ข้าว่าข้าเชื่อใจนางได้…เอาละ ข้าต้องไปเตรียมของก่อน ฝากพวกเจ้าดูส่วนผสมพื้นฐานที!” อีกฝ่ายวิ่งพรวดออกไปด้านนอกตรงไปยังห้องเก็บสมุนไพรหลากชนิด ซึ่งล้วนแล้วแต่เก็บเอาไว้เพื่อใช้ในการนี้โดยเฉพาะ นักปรุงยาหนุ่มยิ้มแย้มอย่างเบิกบาน แม้จะอยากบอกเรื่องนี้กับเพื่อนสนิทมากแค่ไหนก็ตาม แต่ต้องรอเวลาเท่านั้น
พ่อแม่จะเห็นไหมนะว่าเขาเติบโตมากขนาดนี้
“ว่าอย่างไรนะขอรับ?”
“ขอโทษจริง ๆ แต่การเดินทางครั้งนี้กินเวลาพวกเขามาก จึงจะเลื่อนการแข่งขันทั้งหมดไปไว้วันพรุ่งนี้แทน จะเพิ่มเวลาให้พวกเธออีกด้วย” มิเกลยกมือขึ้นนวดคลึมปลายคิ้วสองข้าง ก่อนพยักหน้าเร็ว ๆ เมื่ออาจารย์ลอว์เลนเดินผ่านไปจึงพ่นลมหายใจเหนื่อยหน่ายออกมา การเดินทางตามหาพ่อแม่ของดอริสต้องเลื่อนออกไปอีกขั้นหนึ่ง แผนการของเขาแปรรวนเล็กน้อย แต่ก็มากพอจะส่งผลให้ผู้นำตระกูลอาร์เชอเครียดมากขึ้น มิเกลปวดหัวตุบ ตุบ เขาไม่อาจแก้อาการแบบนี้ได้สักที
ก่อนจะนั่งลงที่ราวบันได สูดหายใจให้อากาศเข้าปอด
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เจ้าเองก็อย่าใจร้อนไปเลย อีกไม่กี่วันเดี๋ยวก็ได้ลงสนามแล้ว”
“ข้าไม่ได้คิดเรื่องนั้น...” เขาว่าเสียงอ่อน
“งั้นหรือ แต่ข้าว่าเจ้าคิดนะ เจ้าเองก็อยากให้หลาย ๆ คนเห็นตนเมื่อชนะการประลองใช่ไหมเล่า ถ้าหากเป็นข้าละก็จะดีใจมากเลยแหละ”
“หยุดได้แล้วอารี”
“ผู้คนมากมายต่างจับจ้องมาที่เรา คู่หูแห่งเอนเซลาดัส...ไม่สิ คู่หูแห่งฮีมาไทต์จะต้องกึกก้องไปทั่ว! เป็นข้าอารี และเจ้ามิเกล แค่นั้นก็เพียงพอให้ข้ามีชีวิตอยู่ต่อแล้ว”
“หยุด”
เขาปราม
“เจ้าว่าอย่างไร?”
“ข้าบอกให้เจ้าหยุดพูดสักทีได้หรือไม่! นั่นกวนสมาธิข้าจนคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว!!”
เขาผุดลุกขึ้น กลืนน้ำลายลงคออย่างโกรธเกรี้ยว แลมองซ้ายขวาก่อนจะกัดริมฝีปากล่างแรง ๆ “ขอโทษที...ข้าคิดอะไรมากไปหน่อย วันนี้กลับแก่อรเถอะ เรื่องฝึกซ้อมนั่นค่อยเป็นวันหลังแล้วกัน ข้าว่างานประลองคงจัดขึ้นวันสุดท้าย เป็นการแข่งขันจบงานที่สวยหรู เลอค่าแกการชื่นชมเพนทาเคิล”
“อืม…เอาไว้เจอกันนะ มิเกล”
เขารีบร่ายคาถา พาตัวเองไปยังคฤหาสน์ตระกูลอาร์เชอในบัดดล เส้นทางอนาคตที่แตกแขนงดั่งกิ่งก้านของต้นไม้ทำเอาชายหนุ่มรับมือไม่ทันการณ์ เขาพาตัวเองกลับมานั่งในห้องรับแขก เซวานด์คงรินชาให้เขาอย่างนอบน้อมโดยสังเกตเห็นความตึงเครียดของเจ้าของเป็นอย่างดี เซวานด์กระแอมไอ
“เธอมารอที่ห้องทำงานของท่านแล้ว”
เขาแหงนหน้ามอง “ใคร?”
มิเกลจำได้ว่าวันนี้เขาไม่นัดใครไว้ หากเป็นไรรย์นางก็คงต้องปรากฏตัวขึ้นที่นี่แล้ว
หรือว่า “คนเมื่อเช้าขอรับ”
มิเกลทะลึ่งพรวดวิ่งขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว เขาจับบานประตูก่อนเปิดออกเสียงดังปัง กระนั้นก็ไม่สามารถเรียกสายตาคนในห้องให้หันกลับมามองได้อย่างที่คิด มิเกลหอบหายใจเหนื่อย ๆ เขาสูดหายใจลึกและเชื่องช้าให้ความสงบช่วยประโลมอารมณ์คุกรุ่นงุ่นง่านที่ค้างอยู่ในอก มิเกลกะพริบตา “ฮิม”
“เจ้ามาช้านะพ่อมด” เธอเลื่อนสายตามองเขาอย่างราบเรียบ ไม่ฉายแววอารมณ์ใดให้เขาได้คาดการณ์
“เจ้ามาที่นี่ทำไมหรือ?”
“อ้อ ข้าแค่อยากได้ที่พักสักสามสี่วันหลังพิธีนี้จบลง ส่วนเรื่องเหรียญ...ข้ามีอย่างอื่นมอบให้เจ้าแทน” นางคว้ากระเป๋าขึ้นมาเปิดดูบางอย่างก่อนยื่นให้เขา “หนังสือ? เกี่ยวกับชีวประวัติ...แม่มดในอดีตหรือ” เขายักไหล่ “ข้าคิดว่าเจ้าจะชอบมันนะ”
เขามองดูหนังสือครู่หนึ่งก่อนฉีกยิ้มกว้าง “แน่นอน ข้าชอบมันมาก อ้อ เรื่องห้องสินะ ที่นี่ยังพอมีห้องของแขกเอาไว้อยู่ ให้ข้านำทางให้ไหม?” จาฟาพยักหน้าเล็กน้อย ลุกยืนจากเก้าอี้ก่อนเดินตามหลังเจ้าของบ้านไป ห้องรับแขกอยู่ทางปีกซ้ายซึ่งไกลจากห้องทำงานอยู่มากโข ระหว่างทางเดินคล้ายมีสายตาจับจ้องเขาอยู่เรื่อย นั่นคงเป็นพ่อบ้านหรือดรากันที่เงียบปิดปากมาตั้งแต่เมื่อครู่
“ที่นี่แหละ เชิญใช้ได้ตามสบาย อาหารเย็นจะถูกเตรียมไว้ตั้งแต่หนึ่งทุ่มตรง ข้าหวังว่าเจ้าจะลงมาทานร่วมโต๊ะกับข้า หากไม่รังเกียจละนะ”
“อืม”
เขามองเตียงที่ปูด้วยผ้าขาว ผ้าห่มสีซีด โต๊ะไม่เก่าคร่ำครึ ตู้เสื้อผ้าที่ทำจากไม้โอ๊ค เขาวางกระเป๋าของตนเองลงที่โต๊ะก่อนดึงลิ้นชักออกมา พบว่าไม่มีสิ่งใด ว่างเปล่าและดูโดดเดี่ยว ดรากันเป็นตัวช่วยในการมอบแสงสว่างแก่ห้องใบนี้ ดรากันปรากฏโฉมในรูปลักษณ์ของมนุษย์อีกครา
“ข้าว่าการกระฉากหน้ากากของเพนทาเคิลยากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เพียงแค่ใส่ความเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่อาจทำให้ชาวเมืองรู้ถึงความโหดร้ายโสมมของพวกมันได้อย่างถ่องแท้แน่ หากไม่ใช่ระดับที่สูงกว่านั้น แต่จะให้ข้าออกตัวก็เห็นทีจะยากไปหน่อย แค่คิดว่าต้องจ้องมองพ่อมดก็เห็นภาพเจ้าเวรตะไลนั้นขึ้นมาทันที! บางทีคงเผลอพลั้งมือฆ่าลงไปจริง ๆ ก็ได้”
“กิลเดอร์ลาเกลียดเจ้า เกลียดมังกร เกลียดลูกหลานของมังกร” เขากล่าว “สมควรแล้วที่เขาจะถูกลงทัณฑ์”
“...” นอกจากการเปิดโปงยังมีเรื่องที่เขาต้องรับผิดชอบด้วย หากเขาทำสำเร็จคดีที่ติดตัวเอาไว้ก็ยังคงอยู่
เขาฆ่าคน ฆ่าผู้บริสุทธิ์เพียงเพื่อกำจัดเสี้ยนหนาม ให้อารมณ์นำพาไปสู่หายนะ
เหตุนั้น จึงไม่แปลกที่พ่อมดแม่มดในฮีมาไทต์จะเกลียดเขา หวาดกลัวเขาหรือต่อต้านเขา
เขาเพียงอยากเป็นแค่…พ่อมดธรรมดา
“การประชุมของผู้ค้ำจุนจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อใด?”
“ไม่รู้ มีเพียงพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่ทราบได้”
“ข้าอยากรู้ว่าการประชุมพูดเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง เพียงเล็กน้อยที่เจ้าสามารถบอกข้าได้”
ดรากันเงียบไปสักพัก ปรายตามองพ่อมดหนุ่มที่ยังมีเปลวเพลิงในดวงจิต “การประชุมจัดขึ้นไม่บ่อยนัก สหัสวรรษที่ผ่านมาเป็นการจัดระเบียบผู้ค้ำจุนเพราะอายุไขของมนุษย์ที่แบกรับความสมดุลของโลกเกิดผิดพลาดขึ้นมา พ่อมดทรงปัญญาจึงให้ทางเลือกแก่เขาว่าจะอยู่ต่อหรือจะตายลง”
“เขา...เลือกอยู่ต่อใช่ไหม”
“ใช่ ถึงอยู่ในสภาพเหมือนตายทั้งเป็น ร่างกายของเขาถูกแช่แข็งด้วยคริสตัลของพ่อมดและเอลฟ์ กระนั้นประสาทรับรู้ของเขาก็ยังทำงานเช่นเดิม แม้จะช้าลงตามอายุไขของมนุษย์”
“...”
“แต่ในหลายสหัสวรรษที่ผ่านมายังไม่มีเรื่องเดือดร้อนจนผู้ค้ำจุนต้องลงมาดูแล เงื่อนไขของการประชุมแม้จะน้อยนิดแต่ก็ใช่ว่าจะทำตามได้ง่าย ๆ”
เขาคงบ้าน่าดูหากเสนอความคิดนี้แก่มังกรเฒ่า “ข้าอยากพบพวกเขา”
“...”
“อยากพบพ่อมด เอลฟ์ อมมนุษย์ แฟรี่ มนุษย์คนนั้น ข้าอยากเข้าร่วมการประชุม”