นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นมาจากเหตุการณ์จริงของผู้เขียน ความโชคร้ายของผมก็คือการที่ได้เป็นแฟนคุณ...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่แยแสคุณอีกเลย...

คืนทมิฬ - ตอนที่ 6 การมาถึงของขงเบ้ง โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ดาร์ค,ไทย,สะท้อนปัญหาสังคม,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คืนทมิฬ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ดาร์ค,ไทย,สะท้อนปัญหาสังคม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

คืนทมิฬ โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นมาจากเหตุการณ์จริงของผู้เขียน ความโชคร้ายของผมก็คือการที่ได้เป็นแฟนคุณ...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่แยแสคุณอีกเลย...

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

หลังจาก 'นิว' อกหักกับแฟนเก่าโสเภณีจึงได้พบกับรักใหม่นาม 'ฮีซุย' หญิงสาวที่รอคอยมาแสนเนิ่นนานจากคำแนะนำของ 'วิน' เพื่อมาเยียวยาจิตใจ

โดยไม่รู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของแผนการร้ายในครั้งนี้

สารบัญ

คืนทมิฬ-ตอนที่ 1 One More Night,คืนทมิฬ-ตอนที่ 2 หญิงสาวผู้มากับฝน,คืนทมิฬ-ตอนที่ 3 ทั้งวัน…ทั้งคืน,คืนทมิฬ-ตอนที่ 4 ร้อนตัว,คืนทมิฬ-ตอนที่ 5 ดวงใจกลายเป็นก้อนหิน,คืนทมิฬ-ตอนที่ 6 การมาถึงของขงเบ้ง,คืนทมิฬ-ตอนที่ 7 นางฟ้า,คืนทมิฬ-ตอนที่ 8 ทางสะดวก,คืนทมิฬ-ตอนที่ 9 ระบายมันออกมา,คืนทมิฬ-ตอนที่ 10 Netoru (NTR),คืนทมิฬ-ตอนที่ 11 คำสารภาพจากเหยื่อ,คืนทมิฬ-ตอนที่ 12 พิโรธ,คืนทมิฬ-ตอนที่ 13 เพื่อเธอ...แค่นี้เราทำได้,คืนทมิฬ-ตอนที่ 14 ความเงียบที่ดังสนั่น,คืนทมิฬ-ตอนที่ 15 หูเบา,คืนทมิฬ-ตอนที่ 16 สวิงกิ้งอย่างบ้าคลั่ง,คืนทมิฬ-ตอนที่ 17 ดวงตาเห็นธรรม,คืนทมิฬ-ตอนที่ 18 หนี,คืนทมิฬ-ตอนที่ 19 เส้นทางยังอีกยาวไกล,คืนทมิฬ-ตอนพิเศษที่ 1 สิ่งที่ต้องสะสาง,คืนทมิฬ-ตอนพิเศษที่ 2 หลังจากนั้น,คืนทมิฬ-ตอนพิเศษที่ 3 เมื่อชีวิตต้องเดินต่อไป

เนื้อหา

ตอนที่ 6 การมาถึงของขงเบ้ง

เสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอดอยู่ที่หน้าบ้าน พลรู้ได้ทันทีว่าเป็น 'วิน' เพื่อนรักของเขาที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ดูทรงว่าน่าจะรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้วอย่างแน่นอน การที่ได้เจอคนใหม่ ๆ หรือคนแปลกหน้าสำหรับตอนนี้นับว่าไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่สำหรับผมเมื่อเทียบเท่าสมัยที่อยู่ปีหนึ่ง ยามที่ชายหนุ่มร่างสูง สวมแว่นกรอบสี่เหลี่ยมหนาเตอะ ตัดผมสกินเฮด ร่างกายผอมบางพอ ๆ กับพล สีผิวสว่างกว่าพล สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงยีนหัวเข่าขาดสีดำ ท่าทางการเดินไม่ต่างอะไรกับจิ๊กโก๋ แต่ดูจากทรงแล้วเขาพยายามจะเดินให้ปกติที่สุด

ซึ่งในตอนนั้นผมและก้านแก้วดูออกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนยังไง

แต่....

"พี่ชื่อวิน" เขาพูดเสียงดังฟังชัดก่อนจะยื่นมือมาหานอต "ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน"

นอตจับมือเช็กแฮนด์กับเขาด้วยแววตาที่เป็นประกายกว่าทุกครั้ง ราวกับว่าเขาเป็นพระเจ้ามาโปรดยังไงยังงั้น

"พี่ยังไม่ค่อยชินกับงานโปรดักชั่นเท่าไหร่ แต่ก็เคยร่วมงานกับพลอยู่ครั้งสองครั้ง พี่เลยพอมีประสบการณ์อยู่บ้าง แต่คราวนี้พี่ต้องให้นอตช่วยถ่ายทอดในเรื่องของประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ที"

"ไม่มีปัญหาเลยครับ ผมยินดี" เสียงของชายหนุ่มดูดีใจอย่างเห็นได้ชัด

"ดีมาก ๆ เลย ว่าแต่มาคุยเรื่องค่าจ้างกันดีกว่า" ชายหนุ่มร่างสูงมองไปที่นอตด้วยสายตาอันเฉียบคมหลังเลนส์แว่น ก่อนจะถือวิสาสะเข้าไปนั่งที่โซฟาแล้วเอนหลังแหกขากว้างราวกับว่าที่นี่คือบ้านของเขาเอง

"แต่ก่อนที่จะตกลงกันเรื่องค่าแรงของพี่ พี่มีเงื่อนไขอยู่ไม่กี่ข้อ ก็คือพวกเราควรจะอยู่กันในฐานะครอบครัว ไม่ใช่ทีมงาน" วินเอ่ยด้วยท่าทีที่วางก้ามใหญ่โตเพื่อให้ตัวเองดูยิ่งใหญ่กว่าพวกเรารวมกัน "แล้วเวลาเราทำงาน เราต้องแบ่งงานกันให้ถูก หรือที่เรียกว่า..."

"Put the right man into the right job" พลพูดต่อ

'มอบงานแก่ผู้ที่เหมาะสมกับมัน'

"ในส่วนของเงินเดือน" ชายหนุ่มเชิดหน้าขึ้นพร้อมมองไปยังนอตด้วยสายตาที่ว่างเปล่า...ว่างเปล่าในที่นี้คือไม่สามารถอ่านใจผู้ชายคนนี้ได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ "พี่ไม่เอาเงินเดือน แต่แค่เลี้ยงข้าวพี่สามมื้อก็เพียงพอแล้ว วันนึงพี่กินไม่มากและไม่ยาก แค่ข้าวผัดกะเพราจานละสี่สิบห้าบาท น้ำขวดเดียวเท่านั้น"

ทุกคนเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

.

.

.

.

.

.

แต่แล้ว

"ได้เลยครับพี่! ไม่มีปัญหาครับ เดี๋ยวถ้าพี่ขายงานให้ผมได้ พี่ก็จะได้โบนัสด้วย ยิ่งพี่ขายได้พี่ก็จะยิ่งได้โบนัสเพิ่มไปอีกครับ" วินแสยะยิ้มในเงามืด ก่อนจะลุกขึ้นตรงเข้ามาหานอตแล้ววางมือลงบนไหล่ สายตาแวบหนึ่งของเขาดูสมเพชอีกฝ่ายเหลือเกิน แต่ทันใดนั้นแววตาของเขาก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน

"โบนัสน่ะพี่ไม่ต้องการหรอก พี่มีโรงเหล็กอยู่ที่บ้านแฟนพี่แล้ว แค่ข้าวน้ำสามมื้อทุก ๆ วันก็พอแล้ว เงินที่เหลือเอาไปพัฒนาองค์กรของ 'เรา' แบบนี้พี่มองว่าดีกว่า" วาทศิลป์ของวินนั้นคมคาย ทำให้ได้ใจนอตเพียงไม่กี่นาที

"งั้นก็ตกลงตามนี้ครับ"

 

...............................

 

หลังจากวันนั้นวินได้มาอยู่ที่บ้านหลังนี้ในตอนกลางวันและกลับบ้านในตอนกลางคืน พร้อมกับพลซึ่งมีห้องนอนอยู่ที่นี่อยู่แล้ว ผม นอตและก้านแก้วนั้นไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน สิ่งที่ผมและก้านแก้วสัมผัสได้ในตอนนี้ก็คือกลิ่นตุ ๆ ที่ลอยอยู่ภายในตัวบ้าน แม้ว่าจะไม่รู้ที่มา แต่ก็รู้ว่ามี เราสื่อสารกันผ่านสายตาเวลาที่วินเข้ามานั่ง ๆ นอน ๆ ในบ้าน ซึ่ง...เขาไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งนอน เล่นเกมในมือถือ

นั่นไม่ใช่ความผิดของเขาที่ไม่ได้ทำงาน แต่ในทางกลับกันที่นอตได้ลั่นวาจาไว้ว่าจะเลี้ยงข้าวโปรดิวเซอร์คนนี้สามมื้อทุกวัน แม้เขาจะบอกว่าเขาจะกินแค่ข้าวกะเพราหมูสับราคาจานละสี่สิบห้าบาทเป็นเวลาสามมื้อต่อวัน รวมน้ำขวดละสิบบาท โดยปกติจะต้องจ่ายมื้อละห้าสิบห้า แต่ในความเป็นจริงนั้น อนิจจา สุดท้ายนอตต้องออกเงินค่ากินให้เกือบร้อยต่อมื้อเลยทีเดียว

แต่ถ้าแลกกับได้ 'ขงเบ้ง' มาไว้กับตัวแล้วจะเสียเท่าไหร่ย่อมยอม!!

'หากเทียบเป็นสามก๊ก นอตคือเล่าปี่ ผู้นำของก๊ก ก้านแก้วคือนางกำฮูหยิน เมียหลวงของผู้นำ ผมเป็นจูล่ง ขุนพลที่กล้าหาญ พลคือกวนอู ขุนพลสุดแกร่งและวินเป็นดั่งขงเบ้ง นักวางแผนอันชาญฉลาด' นั่นคือสิ่งที่ชายหนุ่มได้นิยามพวกเรา ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยทีเดียว ดูก้านแก้วจะไม่ชอบใจเท่าไหร่แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ซึ่งผมดูออก

"เป็นอะไรหรือเปล่าวะ?" ผมถามในขณะที่ช่วยก้านแก้วหั่นผักหั่นหมูอยู่ในห้องครัว เพราะวันนี้เธออยากจะทำอาหารสักเมนู แต่ในความเป็นจริงเธออยากหาพื้นที่คุยกับผมเป็นการส่วนตัว

เธอยังไม่ตอบในขณะที่ตัวเองกำลังล้างผักล้างเนื้อที่ไปซื้อมา

"มึงว่าพี่วินเขาดูแปลก ๆ หรือเปล่าวะ?" เธอถามขึ้นด้วยเสียงเบาก่อนจะเหล่สายตามา ผมอ่านสายตาของเธอออก 'เธอไม่ไว้ใจขงเบ้งคนนี้!'

"ก็รู้สึกแปล...."

"ว่าไงน้องชาย อู้หู้ว! วันนี้ไม่ได้ออกไปกินข้าวนอกหรอกเหรอ?" วินถือวิสาสะเข้ามาโอบไหล่เราสองคนพร้อมกับพูดออกมาด้วยเสียงใส ๆ แต่รังสีอำมหิตสีดำที่แผ่ออกมามันทำให้ผมและก้านแก้วสะดุ้งไปตาม ๆ กันเลยทีเดียว ผมพยายามควบคุมลมหายใจไม่ให้หายใจออกแรงเกินไป "อ้าว...วันนี้จะทำอะไรกินเนี่ย....ทำไมไม่ตอบกันล่ะ พี่เป็นโปรดิวเซอร์เชียวนะ"

"พอดีจะทำต้มจืดกันน่ะค่ะ" ก้านแก้วไหวพริบดีกว่าจึงตอบด้วยน้ำเสียงปกติพร้อมกับปั้นยิ้มออกไปให้เนียนที่สุด

"ดีเลย ๆ พี่ก็ชอบกินต้มจืด แต่ถ้าทำกะเพราหมูสับให้พี่กินหน่อยสิ" ชายหนุ่มร้องขอ "ทำไม่เป็นเหรอ?"

"เออ...คือ..." ก้านแก้วถูกจนมุมแล้วเพราะนางไม่เคยทำกะเพรามาก่อน

"ไม่เป็นอะไรหรอกครับแก้ว" เขาถือวิสาสะเรียกก้านแก้วว่าแก้วราวกับตัวเองสนิทกับหญิงสาวมากถึงขั้นเรียกชื่อเล่นกันห้วน ๆ กันแล้ว ทั้ง ๆ ที่เธอไม่คิดที่จะสนิทด้วยเลยสักนิด "เดี๋ยวพี่หาสูตรกะเพราที่พี่ชอบส่งให้ก็แล้วกันนะ แล้วก็นิว! เดี๋ยวพี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ"

"ครับ?" ผมตอบรับ

"เรื่องทำอาหารปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแก้วทำไปก่อน พี่มีเรื่องอยากจะคุยด้วย" เขาโอบไหล่ผมแล้วค่อย ๆ ดันผมออกมาจากห้องครัว ซึ่งก้านแก้วก็มองตามหลังมาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล

"มีอะไรหรือเปล่าครับ?" ผมถาม

"พี่ได้ข่าวว่านิวอยากมีแฟนใช่มะ?" ชายหนุ่มร่างสูงพูดเข้าประเด็นในทันที "นอตเล่าให้พี่ฟังว่านิวไปคบกับกะหรี่แล้วโดนทิ้งงั้นเหรอ? มึงนี่โคตรสุดเลยว่ะ"

"ครับ" ผมตอบแค่นั้น ร่างกายเกร็งไปหมด

"พี่มีเมียแล้ว พลก็มีแฟนอยู่คนนึง"

 

หา...!?

 

"แล้วนอตมันก็มีแก้ว แล้วมึงนี่คือแกะดำเลยนะเว่ย" วินยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พลวางมือถือแล้วเดินเข้ามาโอบไหล่ผมพร้อมทำทุกอย่างเหมือนวินทุกอย่าง

"จำไม่ได้เหรอที่นายเล่าให้ฟังตอนนั้นพร้อมร้องไห้ด้วยน่ะ รู้สึกว่าจะชื่อบีใช่ไหม? ไม่เป็นไรหรอกนะ ไม่เป็นไร" พลพูดกรอกหู ซึ่งทำให้ภาพวันวานเมื่อเดือนที่แล้วย้อนกลับมาในทันที ผมนั่งดื่มเบียร์กับนอต ก้านแก้ว และพลที่บ้าน อยู่ดี ๆ ผมก็คิดถึงบีแล้วร้องไห้ฟูมฟายออกมาราวกับเด็กทารกที่เพิ่งสูญเสียของเล่นสุดหวงไป

"เดี๋ยวพี่จะแนะนำผู้หญิงคนนึงให้นิวเอง" ชายหนุ่มเข้ามากอดคอแล้วแสยะยิ้ม "รับรองได้เลยว่านิวจะต้องชอบอย่างแน่นอน

_________________________________________________

To Be Continue Ep.7