นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นมาจากเหตุการณ์จริงของผู้เขียน ความโชคร้ายของผมก็คือการที่ได้เป็นแฟนคุณ...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่แยแสคุณอีกเลย...
รัก,ชาย-หญิง,ดาร์ค,ไทย,สะท้อนปัญหาสังคม,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คืนทมิฬนิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นมาจากเหตุการณ์จริงของผู้เขียน ความโชคร้ายของผมก็คือการที่ได้เป็นแฟนคุณ...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่แยแสคุณอีกเลย...
หลังจาก 'นิว' อกหักกับแฟนเก่าโสเภณีจึงได้พบกับรักใหม่นาม 'ฮีซุย' หญิงสาวที่รอคอยมาแสนเนิ่นนานจากคำแนะนำของ 'วิน' เพื่อมาเยียวยาจิตใจ
โดยไม่รู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของแผนการร้ายในครั้งนี้
หลังจากนั้นวินก็ไม่ได้พูดอะไรกับผมเกี่ยวกับผู้หญิงที่ว่าคนนั้นเลย มีแต่พลเท่านั้นที่เข้ามาหาพร้อมกับใส่ข้อมูลของผู้หญิงคนที่ว่ากรอกหูผมแทบทั้งวัน
"คนนี้น่ะ ชื่อฮีซุย จากที่กูได้เดาสเปกที่มึงชอบก็น่าจะเป็นคนนี้แหละ" เขาพูดก่อนจะยืนรูปหญิงสาวหน้าตาน่ารักมาก ๆ คนหนึ่งให้ผมดู
----------------------
(คนแต่ง: ให้ตายสิ...ผมเกือบจะลืมใบหน้านั้นแล้วสิ...แต่สุดท้าย...มันก็ยังคงตราตรึงใจของผมอยู่ดี)
-----------------------
ใบหน้าของเธอกลม แต่ยังดูเรียวสวย ดวงตาอันเป็นประกายดั่งแสงจันทรา เส้นผมสีดำขลับยาวลงพาดบ่า อีกทั้งยังสวมหมวกไบเลย์สีแดงเลือดหมูแบบหลวม ๆ เป็นหนึ่งในเครื่องประดับที่ผมคิดว่าทำให้เธอดูมีเสน่ห์ขึ้นเป็นเท่าตัว ร่างของเธอเล็ก มีหน้าอกซ่อนอยู่ใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวและกระโปรงเทนนิสสีดำ สวมถุงเท้าสีดำยาวขึ้นมาถึงต้นขา เผยให้เป็นเรียวต้นขายาว ๆ เสี้ยวหนึ่ง ซึ่งเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของร่างกายเธอรองจากใบหน้าและดวงตาของเธอเลยก็เป็นได้ แต่ที่เหนือกว่านั้นก็คือรอยยิ้มที่แสนสดใจพอที่จะกะเทาะศิลาที่ผนึกหัวใจของผมมาตลอดครึ่งปีให้แตกออก
จู่ ๆ ก็รู้สึกถึงจังหวะหัวใจที่เต้นแรงกว่าทุกครั้งจนทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย ดวงตาเบิกโพลงด้วยความแปลกใจ...อะไรกัน...ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาผมปฏิเสธหัวใจตัวเองแล้วผนึกความรู้สึกนั้นไว้ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำลายมันได้ แม้แต่ตัวผมเอง
แต่เธอคนนี้ช่างน่าสนใจและน่าหลงใหลเสียจริง ๆ ไม่ว่าจะมองในมุมไหน เธอก็น่ารักในทุกอณู
"คนนี้..."
"น่ารักใช่ไหมล่ะ?" พลพรวดขึ้น "คนนี้เป็นเพื่อนกูเองน่ะแหละ รู้จักกันตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว ตอนนี้นางกำลังจะเลิกกับแฟนเพราะด้วยเหตุผลที่ผัวของฮีซุยชอบทำร้ายร่างกาย"
หา...?
"เป็นผู้ชายที่เหี้ยจริง ๆ" จู่ ๆ โทสะก็ปรี๊ดขึ้นมาที่ใบหน้าอันแดงก่ำ...อะไรกัน ความหงุดหงิดแบบนี้...ไม่ได้เป็นมานานแล้ว...
"ใช่ไหมล่ะ!? กูเนี่ยอยากจะเอามันออกมาฉิบหายเลย แต่เอาออกมาได้ยากมาก ๆ เพราะคบกันมาตั้งสี่ปี ตอนนี้กูมองว่ามีมึงคนเดียวที่จะเอามันออกมาได้เว่ย" พลพูด
"หมายความว่ายังไงนะ?" ผมตามไม่ทัน
"ก็กูและไอ้วินจะเป็นคนสอนมึงจีบฮีซุยยังไงล่ะ!" ชายหนุ่มร่างสูงผิวคล้ำเผยรอยยิ้มที่ไม่สามารถเดาได้ออกมา
............................
วันนี้เรามีถ่ายงานการบ้านของอาจารย์โต๋ง ซึ่งผม นอต และก้านแก้วได้ตั้งทีมเป็นหนึ่งทีม ส่วนพลและวินเป็นกองหนุนสำหรับงานนี้ โดยพวกเขาจะพาฮีซุยมารู้จักกับพวกเราด้วย ระหว่างทางที่ไปสตูดิโอ โดยนอตและก้านแก้วนั่งกันไปคนละคันกับผมที่นั่งไปกับวิน
เมื่อเราถึงสตูดิโอที่เป็นสถานที่ถ่ายทำ ทีมงานของนอตได้เข้าไปจัดการสถานที่ซึ่งเป็นไปตามที่เรารู้กันทั้งหมดโดยไม่ต้องถามกันแม้แต่คำเดียว เพราะเมื่อการประชุมก่อนถ่ายทำเมื่อคืนสิ้นสุด ถือว่าทุกอย่างในวันรุ่งขึ้นจะต้องเป็นไปตามนั้น
"วันนี้เอ็งไม่ต้องห่วงเรื่องวิธีจีบเว่ย เพราะยังไงเดี๋ยวพี่และพลจะเป็นคนให้คำแนะนำเอง พี่นี่เชี่ยวชาญเรื่องวาทศิลป์ ส่วนพลนั้นรู้ใจฮีซุยมากกว่าผัวมันอีก" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฉะฉาน "ถ้าเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวพวกพี่จะเข้าไปช่วยเอง"
"ว่าแต่ผมต้องทำอะไรบ้างล่ะครับ?" ผมถามด้วยความ
อยากรู้
"เป็นตัวของตัวเองที่สุดเว่ย! ผู้หญิงเขาชอบที่เราปฏิบัติตัวให้เป็นตัวเองที่สุด" วินวางมือบนบ่าของผม "พี่เชื่อในตัวเจ้าว่าเจ้าจะดึงฮีซุยออกมาจากผัวเก่ามันได้"
ผมเข้าใจความหมายของประโยคนี้ดี แฟนเก่าของฮีซุยนั้นชอบหาเรื่องทะเลาะ และพอจะแพ้ก็ลงไม้ลงมือจนทำให้แฟนสาวแทบไม่เหลือความเป็นคน เป็นเพียง 'ทาส' ให้ผู้ชายเฮงซวยอย่างมันได้ลงไม้ลงมืออย่างตามใจชอบ แค่คิดก็อยากจะชกหน้ามันสักหมัดแล้ว!
เมื่อพลกลับรถเข้ามาถึงที่สตูดิโอแล้ว ผู้หญิงที่นั่งมาข้าง ๆ ลงจากรถมา ในจังหวะนั้นทำให้ผมได้รู้ว่าแสงอาทิตย์ในยามเช้านั้นงดงามมากมายขนาดไหน เส้นผมดำขลับอมน้ำตาลสะท้อนแสงอาทิตย์ ตัดกับใบหน้าที่ตกแต่งจนดูเนียนละเอียด ริมฝีปากสีแดงอ่อนอวบอิ่ม แต่งตัวด้วยเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนสีน้ำเข้มรัดรูป มีรอยขาดที่หัวเข่าตามแฟชั่น รองเท้าผ้าใบทำให้ยิ่งดูมีเสน่ห์ในสายตาของผมเป็นอย่างมาก
เธอ...ตรึงหัวใจของผมให้สนใจเธอแต่เพียงผู้เดียว!
"คนนี้ไงที่ชื่อฮีซุย" พลเดินลงมาจากรถพร้อมกับหญิงสาวที่มีท่าทางเคอะเขินเล็กน้อย
"สวัสดีค่ะ ชื่อฮีซุยนะคะ ยินดีที่ได้รู้จัก" เธอยกมือขึ้นไหว้พวกเราตามมารยาท ทำให้ผมรีบรับไหว้แทบไม่ทัน...อา... น้ำเสียงของเธอช่างไพเราะยิ่งนัก ทำให้หัวใจแทบละลายเลยทีเดียว...อยากรู้จักให้มากกว่านี้จัง "หนูอาจจะยังไม่ได้ชำนาญในเรื่องนี้ ก็ให้พวกพี่ ๆ แนะนำด้วยละกันนะคะ"
"เดี๋ยว ๆ เธอเป็นรุ่นเดียวกับพวกนี้นะ อย่าลืมสิ" พลตบบ่าหญิงสาวเบา ๆ ทำให้เธอเบิกตาโพล่งด้วยความตกใจ
"เออ ๆ จริงด้วย! ขอโทษนะคะ" เธอเผยรอยยิ้มออกมา ซึ่งมีพลังทำลายล้างเทียบเท่าระเบิดนิวเคลียร์เลยทีเดียว แต่มันจะเพิ่มพลังมากขึ้นเมื่อเธอหันหน้ามาสบตาผมแล้วพูดว่า "ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ"
.
.
.
.
.
กูตายย~~~ >//////<
ทุกคนได้ทำความรู้จักกันหมดยกเว้นผม เพราะไม่ยอมเข้าไปทำความรู้จักกันเธอทันที นั่นมีเหตุผลที่ว่าผมอยากจะสร้างความแตกต่างจากคนอื่น ๆ เพื่อให้เธอคิดว่าทุกคนต่างเข้ามาทักทาย แต่ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงไม่เข้าหาเรากันนะ?
ระหว่างการทำงาน ผมพยายามทำงานเพิ่มเป็นสองเท่าเพื่อให้ฮีซุยสนใจ แต่ก็อยู่ในความดูแลของโค้ชพลและโค้ชวินที่คอยแนะนำผมนั่นนี่ เพราะพวกเขาก็เห็นด้วยที่ยังไม่ต้องเข้าไปจีบอย่างตรง ๆ แม้ว่าตัวเองจะทำตัวไม่สนใจเธอ ในใจนี่คือเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ไปแล้ว!
การทำงานทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี พลและวินสามารถบริหารจัดการกองถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนนอตผู้กำกับและก้านแก้วผู้ช่วยผู้กำกับไม่จำเป็นต้องลุกออกไปจัดการเลยแม้แต่นิดเดียว เท่าที่สังเกตฮีซุยพบว่าเธอพยายามทำงานอย่างเต็มที่ ตำแหน่งที่เธอได้นั้นก็คือหน่วยผู้ช่วยพร็อพส์ โดยจะดูแลในเรื่องของอุปกรณ์ประกอบฉากต่าง ๆ ซึ่งจะประสานกับพลอีกทีหนึ่งว่าควรใช้อะไรและไม่ต้องใช้อะไร
.................................
ผมเดินไปเอาของไปให้กับหนึ่งในทีมงาน ก็เห็นฮีซุยนั่งเขี่ยมือถือด้วยหน้าตาที่เศร้าโศกอยู่ในห้องแต่งตัวของนักแสดง...จะว่าไปผมก็ไม่เห็นเธออยู่ในกองตั้งนานแล้ว จึงรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหา หญิงสาวรับรู้ถึงการมาของผมจึงเงยหน้าขึ้น สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกคือน้ำตาใส ๆ ที่เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตา ทำให้หัวใจของชายหนุ่มแบบผมต้องผงะไปเล็กน้อย
"มีใคร...ทำอะไรให้ร้องไห้เหรอครับ?" ผมถามอัตโนมัติ
หญิงสาวได้ยินดังนั้นจึงจะปาดน้ำตา แต่ผมคว้าข้อมือของเธอไว้ก่อนจะยื่นทิชชูให้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นไปตามสัญชาตญาณซึ่งเกิดขึ้นเองโดยที่ผมแทบไม่ได้คิดไตร่ตรองแม้แต่นิดเดียว
ฮีซุยชะงักทันทีเมื่อผมเช็ดน้ำตาให้กับเธอเมื่อหยดแรกไหลย้อยลงมาตามใบหน้า
"นะ...นี่! เดี๋ยวสิ!"
"อย่าเพิ่งขยับ เดี๋ยวเครื่องสำอางก็เลอะหมดหรอก" ผมพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา อาการเคอะเขินจากเมื่อเช้าได้มลายหายไปแล้ว ผมย่อตัวลงนั่งพร้อมกับชันเข่าข้างขวาขึ้นแล้วค่อย ๆ ซับน้ำตาหยดนั้นจนแห้ง ร่างกายของหญิงสาวนั่งนิ่งหัวใจผมพองโตเมื่อเห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ ของเธอ ดวงตามองมาทางผมอย่างไม่ละสายตา
"เมื่อเช้าเหมือนเห็นเธอแต่ไม่ได้ทักทายกันเลย" หญิงสาวบอก "เราชื่อฮีซุยนะ"
"เราชื่อนิว" ผมตอบแค่นั้น
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ"
ทันทีที่เธอยิ้ม ทำให้ผมรู้ว่า
นางฟ้านั้นมีจริง
________________________________________________
To Be Continue Ep.8