นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นมาจากเหตุการณ์จริงของผู้เขียน ความโชคร้ายของผมก็คือการที่ได้เป็นแฟนคุณ...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่แยแสคุณอีกเลย...
รัก,ชาย-หญิง,ดาร์ค,ไทย,สะท้อนปัญหาสังคม,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คืนทมิฬนิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นมาจากเหตุการณ์จริงของผู้เขียน ความโชคร้ายของผมก็คือการที่ได้เป็นแฟนคุณ...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่แยแสคุณอีกเลย...
หลังจาก 'นิว' อกหักกับแฟนเก่าโสเภณีจึงได้พบกับรักใหม่นาม 'ฮีซุย' หญิงสาวที่รอคอยมาแสนเนิ่นนานจากคำแนะนำของ 'วิน' เพื่อมาเยียวยาจิตใจ
โดยไม่รู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของแผนการร้ายในครั้งนี้
ดวงตาของผมเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคจากวิน เพียงไม่กี่วินาทีผมก็พอจะสามารถปะติดปะต่อสิ่งที่ผมมีในหัวได้บ้างแล้ว ในระหว่างที่พุ่งออกจากเตียงเพื่อแต่งตัวอย่างไว นั่นก็คือ 'เธอแอบไปหาเล้งตอนที่ผมหลับไม่ได้สติอยู่ ผมไม่ได้เสียใจที่เธอจะทำแบบนั้น แต่รู้สึกแย่ยิ่งกว่าที่ตัวเองไปร่วมหลับนอนกับคนมีเจ้าของแล้ว...ผมนี่มันเลวได้ใจจริง ๆ
วินบอกว่าตอนนี้ฮีซุยพักอยู่ที่ห้องนอนของผมที่บ้านเช่า ผมไม่ลืมที่จะซื้อโจ๊กร้อน ๆ ไปหนึ่งถุง เผื่อว่าเธออยากจะกินอะไรสักหน่อย เมื่อขับรถไปถึงบ้านเช่า วิน พล นอต และก้านแก้วนั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นผม พลก็พรวดเข้ามาเหวี่ยงหมัดกระแทกใส่หน้าผมอย่างจังจนร่างกายล้มลงไปกับพื้น
"ผ่านไปแค่วันเดียวมึงปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงวะ?" พลที่กำลังฟิวส์ขาดกระชากคอเสื้อผมขึ้นมาด้วยพละกำลังอันมหาศาล ดวงตาของเขาพิโรธอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นอตและก้านแก้วต่างตกใจกับสถานการณ์นี้ ซึ่งยากที่จะแก้ไข "ที่เพื่อนกูต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะมึง!"
"แล้วมึงจะแนะนำฮีซุยให้กูทำไมวะ?" ผมถามกลับ "ถ้ามึงไม่สะเออะแนะนำให้กูซะอย่าง เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น...หรือไม่ก็เกิดขึ้นแต่ไม่ใช่เป็นเพราะกู แต่เป็นเพราะผัวฮีซุยนั่นแหละที่เหี้ย อย่ามาทำเหมือนกับว่ากูผิดไปหมดทุกเรื่องสิวะ!!" ผมเริ่มฟิวส์ขาดบ้างพร้อมกับถุยเลือดลงพื้น
"เคลียร์อะไรกันเสร็จแล้วให้มาถูทำความสะอาดหน่อยก็ดีนะ" นอตพูดเบา ๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจ เพราะอารมณ์โทสะที่พุ่งพรวดขึ้นมาอย่างน่าใจหาย ผมเดินขึ้นไปชั้นสอง ตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง พลางทำให้อารมณ์ของตัวเองให้เย็นเท่าที่ทำได้
อา...น่าจะโอเคแล้วล่ะ
ลูกบิดประตูเย็นเฉียบในยามที่ได้สัมผัส ความรู้สึกเหมือนความโศกเศร้ากำลังกัดกินจิตใจอยู่ เมื่อคืนเรามีความสุขมากกว่าสิ่งอื่นใดในโลก ผมมอบความรักให้เธอ เติมเต็มเธอจนสุดหัวใจ แต่ในตอนเช้า...เธอเอาสิ่งที่ผมเติมเต็มนั้นไปให้หลุมดำสูบเอาไปจนหมด...ขึ้นชื่อว่าหลุมดำ ต่อให้มีเท่าไหร่ก็ไม่มีทางพอได้หรอก
ลมเย็น ๆ โชยออกมาจากช่องว่างระหว่างบานประตูและขอบเมื่อผมผลักเข้าไป เตียงของผมอยู่ด้านขวามือ เห็นเท้านูนขึ้นจนฝากใต้ผ้าห่มชี้ไปด้านหน้า เพียงแค่นั้นก็ทำให้จิตใจแทบแตกสลาย เมื่อหันไปมองฮีซุยที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงพร้อมกับรอยฟกช้ำดำเขียวบนใบหน้า
.
.
.
.
นี่มันอะไรกัน...? ราวกับว่าเรื่องเมื่อคืนนั้นเป็นความฝัน...หรือว่าปัจจุบันนี้เป็นเพียงความฝันกันแน่...?
แต่นี่มันไม่ใช่ความฝัน เพราะอาการเจ็บแปล๊บ ๆ ที่พลชกผมไปเมื่อกี้ยังคงแสดงอาการได้ชัด
มันคือความจริง...
เธอนอนนิ่ง ๆ ราวกับไม่มีชีวิต สิ่งที่ยืนยันได้ว่าจิตวิญญาณของหญิงสาวยังไม่ไปไหนก็คืออกที่พองตัวขึ้นและยุบลงเป็นจังหวะ ทำให้โล่งใจไปได้หนึ่งเปลาะ ผมนั่งลงหลังชิดกำแพง โจ๊กในถุงพลาสติกวางไว้ข้างตัว สายตาจับจ้องไปที่ฮีซุยด้วยความว่างเปล่า
"อะ...อื๊อออ...." เสียงฮีซุยโอดโอย ผมเข้าไปหาเธอ ล้วงมือเข้าไปในผ้าห่มเพื่อที่จะกุมมือไว้
"ขอโทษที่ทำให้เป็นไปแบบนี้นะ" ผมพูดเบา ๆ
ฮีซุยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเห็นผมอยู่ข้าง ๆ น้ำตาของเธอไหลอาบหน้าทันที จิตใจของผมตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อเห็นหญิงสาวคนที่ผมรักต้องเสียน้ำตา
"ไม่ใช่ความผิดนิวเลย" ฮีซุยยิ้ม "ถ้าไม่มีนิวเมื่อวาน เค้าคงไม่กล้าออกไปทำอะไรที่เสี่ยงแบบนี้หรอก"
"เสี่ยง?" ผมทวนคำ
หลังจากนั้นเธอได้เล่าให้ฟังทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน หลังจากที่ผมหลับไปแล้ว เธอโทรหาเล้งเพื่อที่จะบอกเลิกแล้วจะไปเอาของที่ห้องของเขา ทันทีที่ชายหนุ่มร่างสูงเห็นเธอก็รู้ได้ว่าเธอนอกใจเพื่อที่จะเลิกกับเขาไปคบกับอีกคน เล้งประเคนหมัดประเคนเท้าทำลายหญิงสาวจนเลือดตกยางออก โดยที่ไม่ออมแรงเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วคว้ามีดมาจ่อที่คอหอยของเธอ แล้วขู่ว่าเขาจะให้ฮีซุยพิจารณาให้ดี แล้วเอาคำตอบมาให้ภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง พร้อมเอาผู้ชายที่มีใจให้มา 'กราบตีน' มันอีก หลังจากนั้นเขาก็ปล่อยหญิงสาวล้มลุกคลุกคลานไปตามทางเดินของหอพัก ก่อนที่เธอจะตัดสินใจโทรเรียกพลให้มารับพามาที่นี่ ในความเป็นจริงพลโมโหเล้งมากกว่าโมโหผมเสียอีก
แต่ตอนนี้ผมแทบจะพิโรธเลยทีเดียวเชียว!!
"มันอยู่ห้องเลขอะไร?" ผมถามด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป
"อย่าเลยนิว" เธอลุกพรวดขึ้นมา แต่ความเจ็บปวดตามร่างกายทำให้เธอร้องออกมา ผมเข้าไปประคองร่างของเธอไว้ในอ้อมกอด เปลวเพลิงพิโรธถูกจุดไว้ในจิตใจของผมแล้ว ผมพร้อมฆ่ามันในทุกวินาทีที่เจอมัน! แม้ว่าจะไม่เคยเห็นหน้าตาก็เถอะ
ผมพยายามรวบรวมสติ...เข้าใจล่ะ...ถ้าตอนนี้ยังใช้ศาลเตี้ยไม่ได้ ก็ต้องใช้กฎหมายเข้าว่า
"ไปแจ้งความและไปโรงพยาบาลกัน"
ผมพาฮีซุยไปยังโรงพยาบาลทันทีเพื่อตรวจดูอาการ โดยเข้าไปส่งถึงห้องฉุกเฉิน จากนั้นผมก็ไปจอดรถก่อนจะตามไป
"ห้ามเข้าครับ" ยามหนุ่มร่างสูงกำยำยืนขวางประตูอยู่ "สำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้นครับ"
"ผมเป็นญาติผู้ป่วยฉุกเฉินครับ เพิ่งส่งเข้าไปเมื่อกี้นี้เอง" ผมแย้ง
"ยังไงก็เข้าไปไม่ได้ครับ ต้องรอให้ออกมาเอง" ยามหนุ่มคนนั้นยืนกรานในกฎระเบียบที่ตัวเองเคร่งครัด
"ให้เขาเข้าไปเถอะครับพี่เมฆ" เสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้น เมื่อหันไปมองก็พบกับหมอหนุ่มร่างสูงผอมยืนอยู่ พร้อมกับนางพยาบาลสองคน
"เอาแบบนั้นเหรอครับหมอริค?" ยามหนุ่มถามโดยมีท่าทีที่เปลี่ยนไป
"ตอนนี้คุณกำลังทำผมเสียเวลานะครับ" หมอริคพูดเป็นเชิงขู่ "เปิดประตูครับ"
"ครับ ๆ" ยามเมฆรีบหยิบคีย์การ์ดสแกนที่กล่องรับสัญญาณ ไม่กี่อึดใจประตูก็เปิดออกโดยอัตโนมัติเผยให้เห็นความวุ่นวายที่อยู่ภายใน
"เข้าไปหาคนไข้กันเถอะ" หมอริคบอกก่อนจะใช้มือดันไหล่ให้ผมเดินเข้าไป
ผมกวาดสายตาค้นหาว่าฮีซุยอยู่ตรงไหนแล้วก็เจอ ซึ่งหมอริคก็ไปที่นั่นเช่นกัน ตอนนี้ร่างของฮีซุยนอนลืมตาสงบนิ่งอยู่บนเตียงคนไข้ราวกับไร้จิตวิญญาณไปแล้ว หมอหนุ่มเข้ามาตรวจร่างกายของเธอ ไม่ว่าจะอ่านประวัติและทำการฟังเสียงหัวใจเต้น
"โดนทำร้ายมาสินะครับ" เขาถาม
"ครับ" ผมตอบ
"ขอแฟ้มเอ็กซ์เรย์ให้ผมหน่อย" เขายื่นมือขอสิ่งที่ต้องการ นางพยาบาลก็ยื่นมาให้ทันที เขาเปิดสวิตช์กระดานหลอดไฟแล้วหยิบฟิล์มเอ็กซ์เรย์ไปแปะบนนั้นเผยให้เห็นกระดูกซี่โครงของฮีซุย "ตรงนี้กระดูกซี่โครงร้าวครับ แต่ช่วงนี้ก็พยายามอย่าขยับเยอะก็แล้วกัน"
"ผมขอใบรับรองแพทย์เพื่อแจ้งความด้วยได้ไหมครับ" หมอริคยืนนิ่งพร้อมมองมาหาผมด้วยสายตาที่เรียบเฉยผ่านเลนส์แว่น
"ได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้"
ระหว่างที่กำลังรอจ่ายเงิน จู่ ๆ ร่างกายของฮีซุยก็สั่นเทิ้ม
"เป็นอะไรหรือเปล่า?"
"ค...เค้าหนาว..." เธอเข้ามากอดผมทันที "กอดเค้าที..."
ผมเข้าไปกอดเธออย่างไม่แคร์สื่อแม้ว่าจะมีคนมองก็ตาม พร้อมกับมอบความอบอุ่นให้กับร่างกายของเธอพลางสุมไฟแค้นที่มีต่อเล้งให้มากขึ้น...มากขึ้น
ไอ้เหี้ยเล้ง! มึงต้องตาย!
....................................
บรรยากาศในสถานีตำรวจนี้ช่างแตกต่างจากโรงพยาบาลอย่างเห็นได้ชัด ตำรวจร่างสมส่วนนั่งอยู่ตรงหน้าพร้อมกับสมุดรายงานประจำวัน โดยมีตำรวจท่านอื่นที่ยังง่วนอยู่กับงานของพวกเขา
"ช่วยอธิบายหน่อยครับว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องราวเป็นยังไงมายังไงครับ" ตำรวจคนนั้นถาม
"...." ฮีซุยนั่งนิ่งและก้มหน้าลงทำให้ตำรวจหนุ่มเริ่มเอือมระอากับท่าทางของ 'เหยื่อ' แต่หน้าที่ของเขาก็คือต้องใจเย็นที่สุดเพื่อให้คดีคืบหน้าไปได้ด้วยดี ในวันนึงเขาต้องดูแลเป็นสิบ ๆ เคส ซึ่งเคสทำร้ายร่างกายนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเคสที่ต้องดูแลเช่นกัน
"เอาไว้ให้พร้อมแล้วค่อยมาใหม่ก็ได้นะครับ" คุณตำรวจหนุ่มถอนหายใจก่อนจะวางปากกาลงแล้วทำท่าจะเอาแฟ้มเอกสารที่วางไว้ข้างตัวมาทำต่อ
"ขอโทษค่ะ...หนูพร้อมที่จะเล่าแล้วค่ะ" คุณตำรวจชะงักมือก่อนจะกำหมัดแน่นแล้วคลายออก จากนั้นก็เปิดสมุดรายงานบันทึกประจำวันพร้อมปากกาอีกรอบ
"เชิญเล่าได้เลยครับ"
สิ่งที่เธอเล่าออกไปนั้นล้วนเป็นความจริง นั่นคือสิ่งที่เธอสาบาน เธอบอกว่าบาดแผลตามร่างกายและตามที่แพทย์ได้ระบุมานั้นเกิดมาจาก 'อดีต' แฟนหนุ่มของเธอที่ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ รวมถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เธอถูกเอามีดจ่อที่คอหอยหลายครั้งและตบตีจนเป็นรอยฟกช้ำ บอกได้เลยว่าเพิ่งเจอผู้หญิงที่ถูกกระทำรุนแรงแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เธอโดนนั้นมันหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่มนุษย์ผู้หญิงคนหนึ่งจะทนได้ ที่แย่ที่สุดก็คือขู่จะสาดน้ำกรดใส่ ซึ่งนั่นไม่ได้ทำให้เธอตาย แต่จะทำให้ตกนรกทั้งเป็น
นั่นยิ่งสุมไฟแค้นของผมให้มากขึ้นไปอีก
เมื่อกลับมาถึงบ้านพร้อมกับใบก๊อปปี้ของบันทึกรายงานประจำวันที่มีลายลักษณ์อักษรอยู่ครบ โดยฝากไว้กับวินพร้อมกับเงินสดสองหมื่นบาทที่ผมกดมาจากเอทีเอ็มเมื่อกี้ เขางงกับการกระทำของผมเป็นอย่างมาก
"นี่ให้เงินพี่ทำไม?" เขาถาม
"ถ้าผมถูกตำรวจจับเข้าคุก เอาเงินนี่มาประกันตัวผมด้วยนะครับ" ผมไม่ปล่อยให้วินได้พูดอะไร จึงหันหลังวิ่งขึ้นรถอย่างรีบร้อนก่อนจะเหยียบคันเร่งจนมิด พุ่งทะยานไปยังหอพักของฮีซุย ขึ้นไปหยุดอยู่หน้าห้องหนึ่งที่อยู่ล่างลงมาหนึ่งชั้นจากห้องของฮีซุย
ผมรู้ได้ยังไง? เธอเป็นคนบอกผมเองระหว่างขับรถกลับบ้านว่า 'ห้องของเล้งอยู่ชั้นล่างตรงกับห้องของเธอ'
ห้องนี้แหละ
_________________________________________
To Be Continue Ep.12