นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นมาจากเหตุการณ์จริงของผู้เขียน ความโชคร้ายของผมก็คือการที่ได้เป็นแฟนคุณ...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่แยแสคุณอีกเลย...
รัก,ชาย-หญิง,ดาร์ค,ไทย,สะท้อนปัญหาสังคม,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คืนทมิฬนิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นมาจากเหตุการณ์จริงของผู้เขียน ความโชคร้ายของผมก็คือการที่ได้เป็นแฟนคุณ...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่แยแสคุณอีกเลย...
หลังจาก 'นิว' อกหักกับแฟนเก่าโสเภณีจึงได้พบกับรักใหม่นาม 'ฮีซุย' หญิงสาวที่รอคอยมาแสนเนิ่นนานจากคำแนะนำของ 'วิน' เพื่อมาเยียวยาจิตใจ
โดยไม่รู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของแผนการร้ายในครั้งนี้
การออกแบบชุดการแสดงของนักแสดงผู้หญิงห้าคนนั้นจำเป็นต้องได้รับบรีฟจากผู้กำกับมาก่อนว่าคอนเซปต์ชุดในแต่ละแบบต้องการให้ออกมาเป็นแบบไหน ซึ่งตอนนี้เรายังมีเวลาว่างประมาณหนึ่งสัปดาห์ที่ผมกับฮีซุยจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะไปเที่ยวกันแบบสองต่อสอง มีอะไรกันในห้องนอน รวมถึงบนโซฟาชั้นหนึ่งในวันที่เพื่อน ๆ ยังไม่กลับบ้าน ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ใส่ถุงยางเลย เมื่อผมเสร็จก็จะสลับกันเสร็จในและเสร็จนอก ซึ่งเราสองคนมองว่ามันหมดเวลาความสนุกร้อยเปอร์เซ็นต์ แบบนี้จึงกินยาคุมทุกครั้งที่เสร็จใน ส่วนผมก็ต้องซื้อถุงยางมาตลอด หากวันไหนไม่มีเธอก็จะใช้ปากอมจนกว่าจะเสร็จ บอกได้ว่าปากของเธอสุดยอดกว่าช่วงล่างเสียอีก
เวลาที่มีความสุขนั้นก็จากไปอย่างรวดเร็ว นอตเขียนบทเสร็จเรียบร้อย รวมถึงวางแคแรกเตอร์พร้อมกับชุดที่จะให้ตัด ส่วนชุดของตัวละครชายซึ่งส่วนใหญ่เป็นชุดที่สามารถหาซื้อและแต่คนน่าจะมีใส่กันอยู่ปัจจุบันเลยให้ตัดเพียงชุดของนักแสดงหญิงเท่านั้น
แต่ละชุดที่นอตบรีฟให้นั้นส่วนใหญ่จะเป็นแนวคอสเพลย์ หรือเป็นชุดเจ้าหญิงแบบที่ไม่มีขายตามอินเตอร์เน็ต บอกตามตรงว่าฮีซุยเสนอว่าให้ซื้อแล้วค่อยมาปรับแต่งอีกทีจะเป็นการดีที่สุด แต่เขาไม่ยอม โดยให้เหตุผลมาว่า 'บางอย่างในชุดที่ซื้อมามันยังไม่ตรงกับแคแรกเตอร์ สู้ตัดใหม่ยังจะดีกว่า' ซึ่งฮีซุยก็ต้องยอมแพ้ให้กับสิ่งที่เขาต้องการ
จากนั้นเราก็ออกไปซื้อของกัน ผมจำเป็นต้องออกเงินก่อนถึงจะเอาใบเสร็จไปเบิกเงินกับก้านแก้วได้ เราซื้อผ้าตามที่ฮีซุยพิจารณาว่าเหมาะสมกับการตัดเย็บชุดของตัวละครตัวนี้ทั้งหมดห้าผืนใหญ่ ๆ ซึ่งแค่นี้ก็หมดไปเยอะอยู่เหมือนกัน หลังจากซื้อของเสร็จเราตัดสินใจไปหาอะไรกินในห้างและดูหนังไปสองเรื่อง ระหว่างที่นั่ง เธอยกพนักพิงแขนขึ้นเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกว่านี้ มือของเราประสานกันตลอดทั้งเรื่อง จากนั้นก็จูบกัน....ให้ตายสิมือของเธอล้วงเข้าไปในกางเกงผมจนทำให้ไอ้หนูโด่ขึ้นซะงั้น
สรุปคือเราออกจากโรงในช่วงกลางเรื่องซึ่งทำให้รู้สึกเสียเกียรติในฐานะคนทำหนังนิดหน่อยแฮะ
เรามีอะไรกันบนรถ...ใช่...ในลานจอดรถของห้างนั่นแหละ เพิ่งจะมารู้ว่าเธอเป็นคนที่เครื่องติดกับแฟนได้มากมายขนาดนี้ ใบหน้าของเธอในยามที่ขึ้นคร่อมบนตักผมพร้อมกับยัดใส่ในร่องรักที่กำลังเปียกแฉะของเธอ แล้วโยกขึ้นโยกลงอย่างอย่างเมามันจนทำให้รถทั้งคันโยกตามไปด้วย และแน่นอน หน้าอกของเธอแปะที่ใบหน้าจนไม่อาจเห็นอะไรได้ ผมเสร็จในเธอไปสองครั้งเลยทีเดียว
...................................
เวลางานของจริงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เรามีห้องทำงานในห้องพิเศษที่ยื่นออกไป ซึ่งเจ้าของบ้านเก่าได้ต่อเติมไว้เพื่อให้นักศึกษาเช่าและได้ทำงาน ฮีซุยเริ่มจากการสอนร่างแบบเสื้อด้วยการร่างหุ่น โดยจะแบ่งเป็นแปดส่วน จากหัว คอ ไหล่ อก หน้าท้อง เอว ขา และเท้า เธอขอให้ผมร่างร่างกายตัวละครห้าตัวใส่ในกระดาษโดยที่ขีดเขียน แบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน
เชื่อเถอะว่ากว่าจะเสร็จทั้งห้าตัวก็ปาไปตีสี่แล้ว
"ที่รักไหวมั้ยคะ?" เธอถาม "พรุ่งนี้ไม่มีเรียนนี่ พักกันก่อนก็แล้วกัน"
"ไม่เป็นไรหรอก" ผมบอก "อีกแป๊บเดียวก็จะเช้าแล้ว"
"ไม่ได้นะ" หญิงสาวบอก "เดี๋ยวร่างกายก็จะแย่เอา แล้ววันนี้เราก็ร่างโครงหุ่นได้ครบแล้ว ค่อยตื่นมาทำตอนบ่าย ๆ ก็ได้"
"โอเค ๆ" ผมพยักหน้าทั้ง ๆ ที่สะลืมสะลืออย่างหนัก เมื่อฮีซุยยืนขึ้นแต่ผมยังนั่งอยู่ เธอจึงช่วยดึงร่างผมให้ลุกขึ้นก่อนจะเหวี่ยงมือผมให้พาดบ่าแล้วพากลับเข้าห้องนอน หลังจากนั้นเราสองคนก็หลับเป็นตายจนฟ้าสาง
...............................
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมคิวเพลงและช่วยนอตกำกับการแสดง ส่วนพล วินและคนอื่น ๆ ที่มีหน้าที่สร้างฉากหลังก็ไปจัดการส่วนของเขา แม้ว่าบทจะมีการแก้อยู่หลายดราฟต์ก็จริง แต่สุดท้ายผมและก้านแก้วก็เบรกผู้กำกับหนุ่มไว้อยู่ เพราะถ้าเปลี่ยนไปมากกว่านี้เกรงว่านักแสดงจะสับสนเรื่องบทและอาจจะต้องตีความตัวละครใหม่
เหลือเวลาให้กับฮีซุยไม่นานมาก...แค่วันเดียวเท่านั้นเอง...เหลือเพียงเก็บรายละเอียดของชุดสุดท้ายก่อนจะขนขึ้นรถและเอาไปส่ง แต่อนิจจาที่แฟนสาวของผมนั้นดันไม่สบาย แต่เธอก็ยังเก็บรายละเอียดชุดได้อย่างประณีต ทั้ง ๆ ที่ใบหน้าของเธอเริ่มซีดไปแล้ว น้ำมูกของเธอไหลย้อย ผมมีหน้าที่เช็ดให้
ในความเป็นจริงผมสามารถทำต่อให้เธอได้ แต่สาวเจ้ากลับไม่ยอมและบอกว่านี่เป็นงานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ ต่อให้จะเป็นอะไร เธอเองจะไม่ล้มจนกว่างานจะเสร็จ แถมวันนี้อาจารย์ผู้ดูแลโปรเจ็กต์นี้ได้กำหนดเดดไลน์ส่งงานวันนี้ก่อนเที่ยง ซึ่งตอนนี้สิบเอ็ดโมงแล้ว!!
ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากดูและซับน้ำมูกให้เธอ ซื้อข้าวต้มป้อนให้เธอพร้อมกับหายามาให้กิน
เมื่อเธอตัดด้ายเสร็จ ผมรีบเข้าไปมัดด้ายให้ทุกอย่างเข้ารูปสมบูรณแล้วเอาไปสวมไว้ที่หุ่น ผลที่ปรากฏออกมานั้นถือว่าสวยงามและดูดีเลยทีเดียว
ตุ้บ!
"ฮีซุย!" ผมหันมาหาเธอทันที เห็นว่าร่างของเธอไปนอนกองกับพื้นแล้ว ผมรีบเข้าไปอุ้มแฟนสาวขึ้นมาแล้วพาไปยังห้องนอน "ไม่ต้องห่วงนะ ที่รักทำงานสำเร็จแล้ว ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเค้านะ"
ผมกับฮีซุยไม่ได้นอนกันมาสองวันเพราะเรื่องชุดนี่แหละ เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่นอตมาขอเปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่จนฮีซุยเริ่มรำคาญ สุดท้ายก็เป็นผมที่ต้องไปไกล่เกลี่ยให้กับทั้งสองคนนั้น ซึ่งทำให้นอตฉุนผมที่เห็นใจผู้หญิงมากกว่าเพื่อนรักที่คบกันมานานกว่า
เพื่อฮีซุย...แค่นี้กูทำได้อยู่แล้ว!
"เหลือเวลาอีกยี่สิบนาที ต้องไปให้ทันแล้วล่ะ" ผมพูดกับตัวเองหลังจากที่ห่มผ้าให้หญิงสาวเสร็จแล้ว ผมตั้งสมาธิให้แน่วแน่เพื่อเรียกสติและสูบฉีดอะดรีนาลีนไปทั่วร่างกายให้มากกว่า ก่อนจะดีดตัวพุ่งออกไปในสภาพร่างกายที่ฟิตเปรี๊ยะชั่วคราว...นั่นคือความสามารถพิเศษของผม ในเวลาที่ผมใกล้จะหมดสภาพ ผมจะสามารถฮึดเอาพลังสุดท้ายมาใช้ได้ชั่วคราว ทำให้ลืมความเหนื่อยล้าทุกอย่างไปได้หมดจด ซึ่งจะอยู่ได้เพียงสิบนาทีเท่านั้น
ต้องรีบแข่งกับเวลาหน่อยแล้ว!
ผมรีบซีนพลาสติกชุดพวกนี้ให้เรียบร้อย แม้จะรู้ว่ามันไม่ได้ถูกต้องเสียทีเดียว แต่ผมก็ต้องทำเพื่อให้การขนส่งปลอดภัยที่สุดก่อนจะยัดมันไว้ในรถพร้อมกับหุ่นลองเสื้อทั้งห้าหุ่น จากนั้นก็รีบเบิ่งไปมหาวิทยาลัยทันที ระหว่างนั้นยามหน้าประตูรั้วที่ไม่รู้ห่าเหวอะไรเลย
"น้องครับ? ใช่นักศึกษาที่นี่หรือเปล่า? คุณเลี้ยวเข้ามาได้ยังไงกันเนี่ย?" ยามคนนั้นเข้ามาขวางทางผมก่อนจะให้ผมเลื่อนกระจกลงแล้วยิงคำถามใส่
"ผมเรียนที่นี่แหละครับ ผมแค่จะมาส่งของ" ผมบอก "ผมเหลือเวลาอีกห้านาทีเท่านั้นเองนะครับ ให้ผมเข้าไปเถอะ"
"ไม่ได้ครับ ต้องขอดูไอดีของคุณก่อนถึงจะเข้าไปได้ครับ ท่าทางการขับรถของคุณมันน่าสงสัยเกินไปครับ" มันพูดด้วยท่าทางที่กวนส้นตีนอย่างมากทำให้ผมเกือบจะระงับความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ ถ้าไม่มีเสียงโทรเข้ามา 'อาจารย์โต๋ง!' ผมกดรับสายพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
"นิว! ตอนนี้ชุดนักแสดงที่แฟนคุณทำอยู่ที่ไหนแล้ว?" อาจารย์โต๋งถามอย่างรีบร้อน "ผมต้องเอาไปให้พวกนักแสดงเขาลองกันแล้ว ว่าแต่นอตเขาคอนเฟิร์มแล้วใช่ไหม?"
"ตอนนี้ผมมาถึงมหาวิทยาลัยแล้วครับ แต่ติดตรงยามไม่ให้เข้านี่แหละครับ" ผมบอก "เข้าหาว่าผมไม่ใช่นักศึกษาบัตรนักศึกษาผมก็ลืมเอามา"
"ช่างแม่งสิวะ! ให้ผมคุยกับมันหน่อยดิ๊!?" เสียงของอาจารย์โต๋งโมโหสุดขีด ผมถอนหายใจก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้ยามคุย เพียงไม่ถึงครึ่งอึดใจ เขารีบคืนโทรศัพท์ก่อนจะเชิญให้ผมเข้าไป
.
.
.
.
.
แค่นี้ก็หมดเรื่องแล้ว...
ทำให้มันยากทำไมวะ...?
ในที่สุดผมก็จัดการส่งงานของฮีซุยได้เสร็จสิ้น รู้สึกได้เลยว่าผมเหนื่อยเกินกว่าจะขับรถเองได้ อาจารย์โต๋งจึงเรียกแท็กซี่ให้ขับพาไปส่งถึงบ้านพร้อมกับออกค่าแท็กซี่ให้อีกด้วย เมื่อถึงบ้านแล้วผมเดินเข้าบ้านหลังจากจ่ายค่าแท็กซี่ ขึ้นไปยังห้องนอนด้วยแรงสุดท้ายของท้ายที่สุด จากนั้นผมก็สลบอยู่บนเตียงที่ฮีซุยสลบไปก่อนหน้านั้นแล้ว
ก่อนที่หนังตาของผมจะปิดนั้น ภาพสุดท้ายก็คือใบหน้าของแฟนสาวที่กำลังหลับอยู่นั้นช่างน่ารักจริง ๆ
"รักนะครับ...ฮีซุย..."
_________________________________________
To Be Continue Ep.14