นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นมาจากเหตุการณ์จริงของผู้เขียน ความโชคร้ายของผมก็คือการที่ได้เป็นแฟนคุณ...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่แยแสคุณอีกเลย...

คืนทมิฬ - ตอนที่ 18 หนี โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ดาร์ค,ไทย,สะท้อนปัญหาสังคม,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คืนทมิฬ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ดาร์ค,ไทย,สะท้อนปัญหาสังคม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

คืนทมิฬ โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นมาจากเหตุการณ์จริงของผู้เขียน ความโชคร้ายของผมก็คือการที่ได้เป็นแฟนคุณ...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่แยแสคุณอีกเลย...

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

หลังจาก 'นิว' อกหักกับแฟนเก่าโสเภณีจึงได้พบกับรักใหม่นาม 'ฮีซุย' หญิงสาวที่รอคอยมาแสนเนิ่นนานจากคำแนะนำของ 'วิน' เพื่อมาเยียวยาจิตใจ

โดยไม่รู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของแผนการร้ายในครั้งนี้

สารบัญ

คืนทมิฬ-ตอนที่ 1 One More Night,คืนทมิฬ-ตอนที่ 2 หญิงสาวผู้มากับฝน,คืนทมิฬ-ตอนที่ 3 ทั้งวัน…ทั้งคืน,คืนทมิฬ-ตอนที่ 4 ร้อนตัว,คืนทมิฬ-ตอนที่ 5 ดวงใจกลายเป็นก้อนหิน,คืนทมิฬ-ตอนที่ 6 การมาถึงของขงเบ้ง,คืนทมิฬ-ตอนที่ 7 นางฟ้า,คืนทมิฬ-ตอนที่ 8 ทางสะดวก,คืนทมิฬ-ตอนที่ 9 ระบายมันออกมา,คืนทมิฬ-ตอนที่ 10 Netoru (NTR),คืนทมิฬ-ตอนที่ 11 คำสารภาพจากเหยื่อ,คืนทมิฬ-ตอนที่ 12 พิโรธ,คืนทมิฬ-ตอนที่ 13 เพื่อเธอ...แค่นี้เราทำได้,คืนทมิฬ-ตอนที่ 14 ความเงียบที่ดังสนั่น,คืนทมิฬ-ตอนที่ 15 หูเบา,คืนทมิฬ-ตอนที่ 16 สวิงกิ้งอย่างบ้าคลั่ง,คืนทมิฬ-ตอนที่ 17 ดวงตาเห็นธรรม,คืนทมิฬ-ตอนที่ 18 หนี,คืนทมิฬ-ตอนที่ 19 เส้นทางยังอีกยาวไกล,คืนทมิฬ-ตอนพิเศษที่ 1 สิ่งที่ต้องสะสาง,คืนทมิฬ-ตอนพิเศษที่ 2 หลังจากนั้น,คืนทมิฬ-ตอนพิเศษที่ 3 เมื่อชีวิตต้องเดินต่อไป

เนื้อหา

ตอนที่ 18 หนี

กริ๊งงงงงงง~~~

 

ฮีซุยโทรมา....ผมรับสาย

"ครับที่รัก?"

"วันนี้ไปกินปิ้งย่างเกาหลีด้วยกันมั้ย พวกเราไปกันหมดเลย แต่นอตกับก้านแก้วไม่ได้ไปด้วยน่ะ ไม่รู้ทำไม ที่รักไปด้วยกันนะ" หญิงสาวพูดออกทางมือถือด้วยเสียงใส

"พอดีวันนี้เค้าไม่ว่างอะ...ต้องทำงานวิชาอาจารย์โต๋งให้เสร็จ" ผมบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ "เดี๋ยวเสร็จแล้วยังไงจะโทรบอกนะครับ"

"อื้ม! ดูแลตัวเองดี ๆ นะงับที่รัก" เธอตอบรับ "รักนิวน้า~บ๊าย บาย"

"อื้ม....บ๊าย บาย"

นั่นเป็นคำสุดท้ายที่เราคุยกันก่อนจะเลิกกัน...

ผมวางสายก่อนจะพยักหน้าให้กับนอตและก้านแก้วที่ยืนอยู่หน้าบ้านเช่าของเราก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที

"ของที่จำเป็นที่สุดก็คือคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ของเรา!" ผมพูดก่อนแล้วให้ก้านแก้วไปช่วยขนคอมพิวเตอร์ของแฟนหนุ่มออกมา ส่วนผมจะจัดการของผมเอง! ในหัวของผมไม่มีอารมณ์ที่อยากจะอยู่ต่อที่นี่แล้ว ดวงตาเห็นธรรมของผมก็บอกอย่างนั้นเช่นกัน

 

.....................................

 

ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง

หลังจากจูเข้ามาพูดให้ผมได้เห็นความจริงทุกอย่างและได้ช่วยผมทำลายภาพลวงตาเหล่านั้นไปเรียบร้อย คนแรกที่ผมจะโทรหาก็คือนอต ในตอนแรกเขาไม่ได้พอใจที่ผมโทรมา แต่ออกจะรำคาญเสียด้วยซ้ำ

"โทรมาทำไม?" เขาถาม

"จะโทรมาขอโทษ...กูอยากจะออกจากบ้านหลังนี้ว่ะ" ผมพูด

"แล้วมึงจะเอาเงินมาจากไหน พวกไอ้วินก็สูบเลือดสูบเนื้อมึงอยู่นี่ กูก็ไม่มีเงินแล้วด้วย"

"เรื่องเงินเดี๋ยวให้ครอบครัวกูช่วยจัดการให้ทีหลัง เผลอ ๆ ซื้อบ้านอีกหลังได้เลย" ผมบอก

"เรามาเจอกันที่ซอยหลังมอละกัน" ผมเม้มปาก "เราจะมาวางแผนหลบหนีกัน"

พวกเราสามคนได้มาเจอกันตามที่นัดหมายไว้ ผมเริ่มจากการขอโทษด้วยการกราบลงไปที่พื้น ซึ่งนอตและก้านแก้วก็พุ่งเข้ามาหยุดผมไว้ เขาไม่ได้โกรธที่เขาตัดเพื่อน แต่เขาแค่ไม่อยากจะสุงสิงอะไรกับพรรคพวกของวินเท่านั้นเอง เขาสามารถอภัยผมได้ในทันทีที่ผมได้เห็นความจริงทุกอย่างและนอตยังพูดกับผมอีกว่า 'หลังจากที่พวกเราย้ายออกมาจากบ้านหลังนั้น เขาจะบอกความจริงว่าฮีซุยและวินทำอะไรกันลับหลังผม' ซึ่งก็พอจะเดาออกอยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องไปสืบ
ก็รู้...

ประวัติศาสตร์แม่งซ้ำรอยอีกแล้ว...

 

ซ้ำคนที่โทรไปบอกให้จูโทรมาหาผมก็คือนอตนั่นแหละ เพราะเขาเชื่อว่าคำพูดและวาทศิลป์ของเขาจะช่วยให้ผมมีดวงตาเห็นธรรมได้ ซึ่งทุกอย่างมันลงตัวพอดี

 

...................................

 

ผมจัดการถอดปลั๊ก ถอดทุกอย่างออก แล้วแบกซีพียูพร้อมมอนิเตอร์ทั้งสองตัวออกไปไว้ที่เบาะหลังรถก่อนจะรีบกลับมาเอาลำโพง เมาส์ และคีย์บอร์ด รวมถึงเมาส์ปากกา เพียงเท่านี้ก็ถือว่าโล่งใจไปได้หนึ่งเปลาะแล้ว สักพักนอตและก้านแก้วต่างก็ยกเซ็ตคอมพิวเตอร์ของตัวเองลงมาวางในรถของพวกเขาเช่นกัน (ทั้งสองมีกันคนละเซ็ต)

ผมพุ่งขึ้นไปคว้าหนังสือทั้งหมดของผมลงมา เหงื่อหลายเม็ดซึมผิวหนังหลายจุด แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอก! ผมโยนมันไว้ข้าง ๆ กับเซ็ตคอมพิวเตอร์แล้วพุ่งขึ้นไปเอาเสื้อผ้าทั้งหลายโยนไว้ที่เบาะหลังพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบเล็ก...แต่ทว่าตอนนี้รถของผมเต็มแล้ว

"ล่วงหน้าเอาของไปลงอีกบ้านก่อนเลย!" ก้านแก้วบอก "แล้วค่อยกลับมาเอาของที่เหลือ!"

เสียงสตาร์ตรถดังกระหึ่มขึ้น รถวอลโว่สีขาวได้พุ่งทะยานไปตามถนนหมู่บ้าน เลี้ยวซ้าย เลี้ยวซ้าย และเลี้ยวขวาตรงซอยข้างหน้า แล้วผมมาจอดที่บ้านหลังขนาดสองชั้นที่ผม นอตและก้านแก้วรวมเงินกันเช่า หากถามว่าบ้านหลังปัจจุบันที่เคยอยู่ล่ะ...นอตโทรไปจัดการยกเลิกสัญญาแล้ว ส่วนเงินมัดจำสัญญาสามปีก็ต้องยอมให้เขาเก็บไป

เพราะตอนนี้ชีวิตของเราสำคัญกว่า...เราสามคนไม่สามารถเอาวิน พล ฮีซุย และมาต้าลงได้ พวกเขามีเยอะกว่า แม้ว่าผมจะเก่งก็ตาม วินและพลนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าเล้งเสียอีก นอตจึงคิดว่า...หนีออกไปจากบ้านหลังนี้พร้อมกับยกเลิกสัญญาเพื่อบีบให้ไอ้สี่คนนี้ออกไปให้หมดจะเป็นการดีที่สุด

บ้านถูกเปิดไว้เมื่อเย็นที่ผ่านมา ผมยกของทุกอย่างวางไว้ภายในรั้วบ้านอย่างไม่เป็นระเบียบก่อนจะขับกลับไปที่บ้านหลังเก่า ในระหว่างนั้นผมก็สวนกับรถของก้านแก้วที่นอตขับ แสดงว่าพวกเขาสามารถจัดการของได้ส่วนหนึ่งแล้วสินะ ในตอนนี้ของผมเหลือของจิปาถะเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ต้องรีบหน่อย เพราะไม่รู้ว่าพวกมันจะกลับมาเมื่อไหร่

ผมคว้าของทุกอย่างในในกระเป๋าเดินทางใบเล็กใบที่สองของผม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของใช้ทั่วไปที่จำเป็นสำหรับผมรวมถึงผ้าปูที่นอนอีก แต่เมื่อเดินลงไปผมเผลอสะดุดชายผ้าปูที่นอนของตัวเองจนล้มคะมำไปกับพื้นถนนอย่างแรงจนทำให้ศีรษะกระแทกพื้นเล็กน้อย แต่ผมก็พยายามไม่ให้สติของตัวเองขาดหาย จึงกัดฟันลุกขึ้น พลางสบถออกมาอย่างหงุดหงิด แต่แล้วก็รู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ บริเวณศีรษะด้านหน้า พอแตะไปก็รู้สึกถึงของเหลวอุ่น ๆ จากนั้น 'เลือด' ก็ไหลย้อยลงมาตามใบหน้า

 

แม่งเอ๊ย!

 

ไม่กี่อึดใจต่อมารถของวินก็แล่นมาจอดหน้าบ้านพร้อม 'สิบแปดมงกุฎ' ทั้งสี่คนเดินลงมาจากรถแล้วมองมาที่ผมอย่างงง ๆ

"เกิดอะไรขึ้นวะไอ้นิว มึงหัวแตกนี่!" พลพูดขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาหาผม

"มึงหยุดอยู่ตรงนั้นเลยไอ้พล!" ผมคำรามแล้วชี้หน้ามัน พลชะงัก...คนอื่นก็ด้วย

"เป็นอะไรบอกกูได้นะไอ้นิว..." วินพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ

"มึงก็อีกตัว!" ผมถลึงตาใส่มันด้วยความโกรธเกรี้ยว "กูตงิดใจกับมึงมาตั้งแต่แรกแล้ว...ไม่รู้ก็ไปตกหลุมพรางมึงตอนไหน...แต่ตอนนี้ก็ออกมาจากหลุมพรางของมึงแล้ว และจะไม่ทำซ้ำสองเด็ดขาด!"

"ที่รัก พูดอะไรของเธอ..."

"และมึงก็เหมือนกัน ฮีซุย!" ผมรู้สึกปวดใจเมื่อขึ้น 'มึง' กับผู้หญิงที่ผมเคยรัก "กูไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของมึงบอก แต่ที่รู้ ๆ ก็คือความรักที่มีให้กูก่อนหน้านี้มันของปลอม!"

"แล้วตอนที่เค้าอยู่พยาบาลให้ล่ะ!?" ฮีซุยบีบน้ำตาเพื่อให้ผมใจอ่อน

มันไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้วล่ะ!!

"แล้วมึงอยู่ดูแลกูทั้งวันไหมล่ะ!? แล้วตอนที่อีมาต้าเข้ามาเอากับวินโชว์ในห้อง มึงก็ไม่สนใจกูเลยแม้แต่น้อย เอาแต่สนใจอยากจะดูสัตว์สองตัวผสมกัน!!"

"ไอ้สัส! มึงพูดให้มันดี ๆ นะเว่ย!" วินก้าวเข้ามาตะคอกใส่ผม แม้ว่ารังสีอำมหิตของเขาจะแกร่งกล้าขนาดไหน ในจังหวะแบบนี้ต่อให้จะเข่าอ่อนก็ตาม ผมก็จะกัดฟันสูง

"คนอย่างมึงไม่สมควรให้กูพูดดีด้วยหรอก!" ผมตอกกลับด้วยความโกรธที่พุ่งสูง ยิ่งทำให้เลือดไหลมากขึ้นไปอีก ต้องขอบคุณสารอะดรีนาลีนที่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บแผลมาก

จู่ ๆ รถของก้านแก้วก็เข้ามาจอดด้านหลังผม นอตเดินลงมาจากรถพร้อมถือกระดาษสัญญาเช่าบ้านไว้แล้วชูให้พวกสิบแปดมงกุฎดูแล้วจะฉีกมันทิ้งต่อหน้าก่อนจะทุ่มลงบนพื้น

"พวกมึงมีเวลาหนึ่งสัปดาห์ในการย้ายออกไปจากที่นี่ ถ้าไม่ออกไปภายในวันเวลาที่กำหนด พวกมึงจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย!" เขาพูดอย่างคล่องแคล่วอย่างกับเรียนมา ทำให้วินกัดฟันอย่างโกรธเกรี้ยวและกำหมัด "หากมีการทำร้ายร่างกาย พวกมึงก็จะโดนอีกกระทง!" นอตพูดดักเอาไว้

วินยืนนิ่งก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ อย่างใช้ความคิดแล้วแสยะยิ้ม

"เป็นแผนตลบหลังที่เฉียบขาดมาก ๆ ทั้งสองคน กูชมเลย มึงก็ด้วยไอ้นิว มึงเป็นคนแรกที่ลบล้างมนตร์เสน่ห์ของฮีซุยได้ ผู้ชายหลาย ๆ คนที่ผ่านมานั้นไม่เคยมีใครทำได้แม้แต่คนเดียวจนถูกพวกกูสูบเลือดสูบเนื้อจนหมดตัว" วินเผยไพ่ออกมาจนหมดมือก่อนจะเดินก้าวฉับ ๆ กลับเข้าไปในบ้าน พลและมาต้าเดินตามเข้าไป เหลือเพียงฮีซุยที่ยืนอาบน้ำตาอยู่

 

....

 

ให้ตายสิ...เกือบจะหลงมารยาเธออีกรอบแล้ว

"นิว..." เธอสะอึ้นเรียกชื่อผม

"พอเถอะ...นี่เบื่อที่จะเล่นละครตามบทที่พวกมึงวางไว้ต่อไปแล้วล่ะ..." ผมพูดเรียบ ๆ "ของขวัญวันครบรอบต่าง ๆ นานาเราวางไว้ในห้องนอนแล้วล่ะ ทุกอย่างที่เธอซื้อให้ ทุกอย่างที่เป็นความทรงจำ ทุกอย่างที่เป็นหลักฐานว่าเราเคยรักกันพร้อมกับความรู้สึก...เรากองเอาไว้ตรงนั้นหมดแล้ว..."

"ทุก ๆ อย่างที่วินทำอาจจะเป็นเรื่องโกหก" เธอสะอื้น "แต่เราคิดจริง ๆ นะว่าเธอคือแฟนจริง ๆ"

ผมถอนหายใจ

"ผู้หญิงอย่างเธอ...ไปขายตัวยังได้เงินดีกว่าเถอะ..." ผมพูด "ถ้าไปขายแล้วบอกด้วยละกัน เดี๋ยวไปใช้บริการ"

ก่อนผมจะเดินขึ้นรถ คำคำหนึ่งที่ผมเอ่ยออกมาด้วยแววตาที่ไร้วิญญาณ

 

"เราเลิกกันเถอะ"

______________________________________________

To Be Continue Ep.19