เทพอหังการถูกขับจากสวรรค์...สร้างความเดือดร้อนให้โลกมนุษย์ด้วยอำนาจและอิทธิฤทธิ์..ตั้งตัวเป็นฮ่องเต้...จนต้องมีใครสักคนมาปราบความอหังการนี้ด้วยวรยุทธที่สุดยอดแห่งยุค...คือวรยุทธเทพมังกร แต่กว่าจะสำเร็จวิชานี้ร่างกายต้องเผชิญกับมารมากมายจนบอบช้ำ...แต่เขาต้องไปให้ถึงจุดประสงค์ให้ได้..เขาต้องเดินทางไปร่วมกับจิตวิญญาณของมังกรสวรรค์เพื่อสยบเทพอหังการนั้นให้ได้
จีน,แฟนตาซี,ย้อนยุค,ผจญภัย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ศึกเทพยุทธมังกรทลายฟ้า ภาค 1เทพอหังการถูกขับจากสวรรค์...สร้างความเดือดร้อนให้โลกมนุษย์ด้วยอำนาจและอิทธิฤทธิ์..ตั้งตัวเป็นฮ่องเต้...จนต้องมีใครสักคนมาปราบความอหังการนี้ด้วยวรยุทธที่สุดยอดแห่งยุค...คือวรยุทธเทพมังกร แต่กว่าจะสำเร็จวิชานี้ร่างกายต้องเผชิญกับมารมากมายจนบอบช้ำ...แต่เขาต้องไปให้ถึงจุดประสงค์ให้ได้..เขาต้องเดินทางไปร่วมกับจิตวิญญาณของมังกรสวรรค์เพื่อสยบเทพอหังการนั้นให้ได้
เทพองค์หนึ่งนามว่า "ฉงหลง" ซึ่งเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์แห่งสวรรค์ ได้ลักลอบกระทำผิดมหันต์ ด้วยการสมสู่กับสนมคนโปรดของเจ้าแห่งสวรรค์ ความผิดครั้งนี้นำมาซึ่งความอับอายและโทสะของสวรรค์อย่างใหญ่หลวง ฉงหลงถูกขับไล่ลงมายังโลกมนุษย์ สูญเสียสถานะเทพแต่ยังคงเหลืออิทธิฤทธิ์บางประการ ด้วยความแค้นต่อสวรรค์ เขาจึงรวบรวมเหล่าอสูรที่หลบซ่อนอยู่ในมิติแห่งมนุษย์ ตั้งกองกำลังขึ้นมาก่อกวนและครอบครองแคว้นใหญ่ในจีน ตั้งตัวเป็น "ฮ่องเต้เทวทัณฑ์" ผู้ปกครองอันโหดเหี้ยม ราษฎรตกอยู่ในความทุกข์ยากเป็นเวลาหลายปี
ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ ในแคว้นที่ถูกปกครองโดยอสูร มีเด็กชายชาวไร่นามว่า "หลงจิ้ง" เติบโตขึ้นมาพร้อมความรักในคุณธรรมและความหวังว่าโลกจะเปลี่ยนแปลง แต่โลกของเขากลับเต็มไปด้วยความอยุติธรรม เมื่อเหล่าองครักษ์อสูรของฮ่องเต้ออกมารังแกและปล้นชาวบ้านเป็นกิจวัตร....วันหนึ่งหลงจิ้งลุกขึ้นต่อกรกับองครักษ์อสูรเพื่อปกป้องครอบครัว แต่ด้วยพลังที่ต่างชั้น เขาถูกทำร้ายจนบอบช้ำ พ่อของเขาจึงตัดสินใจส่งเขาไปอยู่กับเพื่อนเก่าที่เมืองไกล ด้วยหวังว่าเขาจะได้รับการปกป้อง
ที่นั่นหลงจิ้งได้พบกับ "ปรมาจารย์หมิงเถียน" ชายชราในคราบชาวบ้านธรรมดา ผู้ซ่อนเร้นตัวจากยุทธภพมาหลายสิบปี อดีตของหมิงเถียนคือยอดฝีมือผู้สำเร็จวิชา "พลังเทพจักรวาล" ศาสตร์ที่ลึกลับที่สุดในยุทธภพ แต่มีข้อแม้ว่าผู้ฝึกต้องถือพรหมจรรย์และมีจิตใจบริสุทธิ์ หลงจิ้งเริ่มฝึกวิชานี้ด้วยความมุ่งมั่น ความเจ็บปวดจากอดีตทำให้เขาอดทนต่อความยากลำบาก ผ่านไป 10 ปี เขาสำเร็จพลังเทพจักรวาลขั้นที่ 9 และกลายเป็นจอมยุทธ์ที่ไร้เทียมทาน
หลงจิ้งกลับมายังบ้านเกิดที่ถูกปกครองโดยฮ่องเต้เทวทัณฑ์อีกครั้ง ครั้งนี้เขาไม่ใช่เพียงชาวไร้คนธรรมดา แต่เป็นยอดยุทธ์ผู้ทรงพลัง การเผชิญหน้ากับเหล่าองครักษ์อสูรกลายเป็นการต่อสู้ที่สั่นสะเทือนยุทธภพ
การต่อสู้ระหว่างมนุษย์ที่ถือคุณธรรมและเทพตกสวรรค์ผู้โหดเหี้ยมจะนำไปสู่บทสรุปที่ไม่เพียงเปลี่ยนแปลงแคว้นนี้ แต่ยังสะท้อนถึงความผิดและการชดใช้ที่สวรรค์ต้องเผชิญ
ท้องฟ้าสีทองสุกสว่างของสวรรค์เคยสงบเงียบ แต่วันนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป เสียงระฆังแจ้งเหตุลั่นก้องทั่วแดนสรวง พร้อมกับเหล่าเทพและเซียนต่างพากันเร่งรีบมายังลานพิพากษาสวรรค์ แสงจันทราบนสวรรค์ซีดจางลง ราวกับรับรู้ถึงหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น
กลางลานพิพากษา ฉงหลง เทพนักรบผู้ยิ่งใหญ่ ยืนอยู่เพียงลำพัง ร่างสูงสง่าประดุจขุนเขา แม้ถูกพันธนาการด้วยโซ่แห่งสวรรค์ซึ่งเปล่งแสงสีทอง เขายังคงยืนตระหง่านอย่างไม่หวั่นเกรง สายลมเย็นพัดโชยผ่าน ชุดคลุมสีดำของเขาปลิวไสวตัดกับแสงรัศมีของเหล่าเทพที่ล้อมรอบ
“ฉงหลง! เจ้ามีสิ่งใดจะกล่าวแก้ตัวหรือไม่?” เสียงเจ้าแห่งสวรรค์ดังขึ้น กึกก้องดั่งสายฟ้าฟาด สายพระเนตรขององค์เจ้าแห่งสวรรค์จับจ้องลงมายังฉงหลง พร้อมกับเหล่าเทพบริวารที่ล้อมรอบ
ฉงหลงเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขามืดมน แต่เปี่ยมไปด้วยความดื้อรั้น
“ข้าไม่มีสิ่งใดจะแก้ตัว เพราะข้าทำไปด้วยความเต็มใจ ข้าไม่เสียใจแม้แต่น้อย!”
คำพูดของเขาสร้างเสียงซุบซิบกึกก้องในหมู่เทพ เซียนที่อยู่รอบลาน หลายคนส่ายหน้า ไม่อาจเชื่อได้ว่าเทพนักรบผู้เคยปกป้องสวรรค์กลับลอบทำผิดมหันต์ถึงเพียงนี้
เหตุการณ์ลับที่สั่นสะเทือนสวรรค์ เรื่องราวเริ่มต้นในคืนหนึ่งเมื่อฉงหลงได้รับหน้าที่เฝ้าประตูวิมานหยกทอง สถานที่ซึ่งเจ้าแห่งสวรรค์และเหล่าสนมอาศัยอยู่ สนมคนโปรดของเจ้าแห่งสวรรค์ "หวินอวี้" หญิงงามผู้เลอโฉมประดุจเทพธิดา ได้ลอบมาหาฉงหลงที่หน้าประตูวิมาน เธอสวมชุดคลุมสีขาวนวล ร่างบางของเธอเปล่งประกายภายใต้แสงจันทร์
“ฉงหลง ท่านเหนื่อยหรือไม่?” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ราวกับหยาดน้ำค้างที่โปรยลงบนพื้นดินแห้งแล้ง ฉงหลงพยายามรักษาท่าที แต่ความงามของหวินอวี้ราวกับมนตร์สะกด นางมาเยี่ยมเขาบ่อยครั้ง และด้วยความใกล้ชิดที่เพิ่มขึ้น ความสัมพันธ์ลับระหว่างพวกเขาก็เริ่มต้นขึ้น คืนหนึ่งในวิมานหยกทอง ทั้งสองลอบพบกันในสวนดอกเหมย หวินอวี้ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ที่ผลิดอกสีแดงสด ฉงหลงก้าวเข้าไปหา และในที่สุดพวกเขาก็ปล่อยให้หัวใจนำทาง ฝ่าฝืนกฎสวรรค์ที่ห้ามเทพสมสู่กับสนมของเจ้าแห่งสวรรค์โดยเด็ดขาด
ความลับที่แตกสลาย แต่ความลับไม่มีในใต้ฟ้า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่อาจรอดพ้นสายตาของเหล่าเทพผู้คอยสอดส่อง หนึ่งในบริวารใกล้ชิดของเจ้าแห่งสวรรค์ลอบสังเกตพฤติกรรมของหวินอวี้และรายงานเรื่องราวทั้งหมด เจ้าแห่งสวรรค์เดือดดาลถึงขีดสุด และในที่สุดก็ประกาศให้มีการพิพากษาฉงหลงต่อหน้าสวรรค์ทั้งหมด
“เจ้ากล้าหยามเกียรติข้า และทำลายกฎแห่งสวรรค์ เจ้าต้องได้รับโทษที่สาสม!”
เสียงเจ้าแห่งสวรรค์ดังกึกก้อง สายฟ้าสีทองพุ่งลงมาจากฟากฟ้า โซ่แห่งสวรรค์รัดแน่นขึ้นกับร่างของฉงหลง แต่เขากลับไม่แสดงความหวาดหวั่น
“ความรักที่ข้ามีต่อหวินอวี้ไม่ใช่ความผิด! หากการรักนางคือบาป ข้าขอเผชิญกับผลของมัน!” คำประกาศของฉงหลงเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว
โทษแห่งการล่มสวรรค์ ทันทีที่คำพิพากษาประกาศออกมา เจ้าแห่งสวรรค์ชูคทาสีทองขึ้นเหนือศีรษะ
“ฉงหลง ข้าขอตัดขาดเจ้าจากสวรรค์! เจ้าจะไม่มีสิทธิ์เหยียบแผ่นฟ้าของเราอีกต่อไป!”
พายุสายฟ้าฟาดลงมาอย่างบ้าคลั่ง ร่างของฉงหลงถูกพลังมหาศาลผลักดันให้ตกลงจากขอบฟ้าสวรรค์ เขาพุ่งดิ่งลงมายังโลกมนุษย์ดั่งดาวตก รอยยิ้มสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้บนใบหน้าคือรอยยิ้มแห่งการท้าทาย
บนสวรรค์ หวินอวี้ถูกจองจำไว้ในหอคอยแห่งการสำนึก โดยไม่รู้เลยว่าความรักครั้งนี้จะนำมาซึ่งความหายนะทั้งบนฟ้าและโลกมนุษย์...
ยามค่ำคืนในโลกมนุษย์ท่ามกลางท้องฟ้ามืดสนิท เสียงลมหวีดหวิวดังลั่นป่าใหญ่ทางตะวันตกของแคว้นหย่งโจว ทันใดนั้น แสงสว่างเจิดจ้าก็ปรากฏขึ้น ราวกับดวงดาวดวงหนึ่งตกลงจากฟากฟ้า มันพุ่งผ่านเมฆหมอกก่อนกระแทกลงกลางภูเขาสูง เสียงระเบิดดังก้องไปรอบบริเวณ หินผาแตกกระจาย ดินทรุดลึกจนเกิดหลุมขนาดมหึมา
ร่างของฉงหลงนอนนิ่งอยู่กลางหลุมนั้น แม้ถูกเนรเทศ เขายังคงความสง่างามของเทพนักรบ เสื้อคลุมสีดำเปื้อนดินและฝุ่น แต่แววตาของเขายังคงเปี่ยมไปด้วยความหยิ่งทะนง
เขาลุกขึ้นช้าๆ สำรวจตัวเอง ก่อนจะยกมือขึ้นดูโซ่สีทองที่ล้อมรอบข้อมือ มันเป็นเครื่องพันธนาการที่เจ้าแห่งสวรรค์สลักไว้เพื่อจำกัดพลังอำนาจของเขา
“ฮึ... ข้าถูกลิดรอนพลังจริงหรือ? แต่เพียงแค่นี้มันจะหยุดข้าได้อย่างนั้นหรือ?”
เสียงของเขาก้องกังวาน แม้ไม่มีผู้ใดอยู่ด้วย แต่ทุกสรรพสิ่งรอบตัวเหมือนจะรับรู้ถึงความมืดมนที่กำลังก่อตัวขึ้น
วันเริ่มต้นแห่งการครองโลก
หลายวันผ่านไป ฉงหลงใช้เวลาสำรวจพื้นที่รอบหลุมที่เขาตกลงมา ป่าใหญ่นั้นเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด เสียงคำรามของอสูรร้ายดังมาจากทิศทางต่างๆ ฉงหลงพบว่ายังมีพลังบางส่วนที่เขาสามารถใช้ได้ เขาเริ่มรวบรวมเหล่าสัตว์อสูรที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ล่อพวกมันออกมาด้วยการปล่อยพลังเทพที่หลงเหลือ “มาสิ เจ้าทั้งหลาย! จงสยบต่อข้า!” สัตว์อสูรทั้งหลายไม่อาจต้านทานพลังของฉงหลงได้ พวกมันก้มหัวสยบรับใช้เขา ฉงหลงใช้ความสามารถในการบงการอสูรเหล่านี้ก่อร่างสร้างอำนาจในดินแดนมนุษย์
แคว้นหย่งโจวที่เคยสงบสุขเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เมื่อฉงหลงตั้งตัวเป็นผู้นำ เขาปกครองด้วยความโหดร้ายและบังคับให้ชาวบ้านต้องส่งเครื่องบรรณาการเพื่อเลี้ยงดูเหล่าอสูรร้าย องครักษ์ของเขาซึ่งเป็นสัตว์อสูรมีรูปลักษณ์น่าเกรงขาม ไม่ว่าใครที่กล้าขัดขืน ล้วนถูกจับตัวไปลงโทษอย่างไร้ปรานี
“ฮ่องเต้เทวทัณฑ์” คือฉายาที่ชาวบ้านต่างเรียกด้วยความหวาดกลัว
ในหมู่บ้านเล็กๆ ริมหุบเขา เด็กหนุ่มชาวไร่คนหนึ่งนามว่า “หลินเทียน” เติบโตขึ้นท่ามกลางความทุกข์ยาก ครอบครัวของเขาเคยถูกพวกอสูรของฮ่องเต้เทวทัณฑ์เข้าปล้นสะดม เขาเป็นคนรักความยุติธรรม แต่ความอ่อนแอของร่างกายทำให้เขาไม่อาจช่วยใครได้
“เทียน ลูกเอ๋ย อย่าได้คิดลุกขึ้นสู้กับพวกมันเลย พวกเราทำได้แค่มีชีวิตรอดเท่านั้น” พ่อของเขาเตือน
แต่หลินเทียนไม่ยอมแพ้ เขาฝันว่าจะหาทางปลดปล่อยบ้านเกิดจากเงื้อมมือของฮ่องเต้เทวทัณฑ์ เขาเริ่มฝึกฝนตนเองอย่างลับๆ โดยลอกเลียนแบบท่วงท่าการต่อสู้จากนักรบพเนจรที่เคยผ่านหมู่บ้าน
โชคชะตาที่พลิกผัน วันหนึ่ง หลินเทียนถูกองครักษ์อสูรจับตัวไปหลังจากพยายามขัดขวางพวกมันที่เข้ามารังแกหญิงชราในหมู่บ้าน เขาถูกทำร้ายจนบอบช้ำและถูกโยนกลับมายังบ้าน พ่อของเขาตัดสินใจครั้งใหญ่
“เทียน เจ้าไม่อาจอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป ข้าจะพาเจ้าไปยังเพื่อนเก่าของข้า เขาอาจช่วยเจ้าได้”
ด้วยความจำใจ หลินเทียนจึงจากบ้านเกิดไปพร้อมกับพ่อ การเดินทางครั้งนี้คือจุดเริ่มต้นของโชคชะตาที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล...
ทิวเขาสลับซับซ้อนทอดยาวไปจนสุดสายตา สายหมอกหนาทึบปกคลุมเส้นทางที่หลินเทียนและพ่อกำลังเดินผ่าน ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยอุปสรรค หนามป่าบาดผิวจนเลือดซึมเป็นรอยแดง แต่ไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งความมุ่งมั่นของพ่อที่ต้องการพาลูกชายไปพบกับคนที่เขาเชื่อว่าจะช่วยหลินเทียนได้
“พ่อ เรากำลังจะไปที่ไหนกันแน่?” หลินเทียนถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขาเจ็บจากบาดแผลทั่วร่าง แต่ความสงสัยทำให้เขาฝืนเดินต่อ พ่อของเขาหยุดชั่วครู่ เหลียวมองไปยังภูเขาลูกใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
“คนที่เรากำลังจะไปพบ คือเพื่อนเก่าของพ่อ เขาคือผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับฉายาว่า ‘เฒ่ามังกรฟ้า’”
ชื่อที่พ่อกล่าวออกมาแม้หลินเทียนจะไม่เคยได้ยิน แต่ก็ทำให้เขาสงสัยยิ่งขึ้นไปอีก ผู้คนในหมู่บ้านของเขาไม่เคยพูดถึงผู้ใดที่มีฉายาน่าเกรงขามเช่นนี้
วิหารกลางหุบเขา
การเดินทางสิ้นสุดลงเมื่อพวกเขามาถึงวิหารเก่าแก่กลางป่าลึก วิหารนั้นสร้างจากหินทั้งก้อน ดูเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยพลังอันน่าเกรงขาม เสียงน้ำตกจากภูเขาใกล้เคียงดังก้องไปทั่ว ห่อหุ้มสถานที่แห่งนี้ไว้ราวกับแยกมันออกจากโลกภายนอก
“เฒ่ามังกรฟ้า! ข้าพาลูกชายมาขอฝากฝังไว้กับท่าน” พ่อของหลินเทียนเปล่งเสียงดัง ร่างสูงใหญ่ของชายชราเดินออกมาจากเงามืด ดวงตาสีเทาของเขาเปล่งประกายประหนึ่งเห็นทะลุทุกสิ่ง
“อาเทียน... ลูกของเจ้านี่เองหรือ? ฮึ... ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้ว” เฒ่ามังกรฟ้ากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
การฝึกฝนเริ่มต้น
เฒ่ามังกรฟ้ารับหลินเทียนไว้เป็นศิษย์ แม้หลินเทียนจะสงสัยในตอนแรก แต่ไม่นานเขาก็พบว่า ชายชราไม่ได้เป็นเพียงปรมาจารย์ยุทธที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นผู้ครอบครองวิชาอันลี้ลับที่ไม่มีใครในยุทธภพรู้จักมาก่อน นั่นคือ "พลังเทพมังกร"
“พลังนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใดจะฝึกได้ง่าย เจ้าต้องละวางทุกสิ่งในใจ ต้องถือพรหมจรรย์ และต้องมีความอดทนราวกับภูเขาหิน” เฒ่ามังกรฟ้าอธิบาย
หลินเทียนเริ่มฝึกฝนในวันนั้นเอง เขาเริ่มต้นจากท่วงท่าพื้นฐาน การควบคุมลมหายใจ และการทำสมาธิ ท่ามกลางธรรมชาติที่แวดล้อมไปด้วยสรรพสิ่งบริสุทธิ์