เพื่อนไม่กอดกัน เพื่อนไม่หวงเพื่อน เพื่อนไม่นอนด้วยกัน และเพื่อน...ไม่มีลูกด้วยกัน

พีขอโทษ Sorry foe the mistake - 1 ไม่รู้ตัว โดย โฉมจันทรา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,โอเมกาเวิร์ส,ชาย-ชาย,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พีขอโทษ Sorry foe the mistake

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,โอเมกาเวิร์ส,ชาย-ชาย,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

พีขอโทษ Sorry foe the mistake โดย โฉมจันทรา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เพื่อนไม่กอดกัน เพื่อนไม่หวงเพื่อน เพื่อนไม่นอนด้วยกัน และเพื่อน...ไม่มีลูกด้วยกัน

ผู้แต่ง

โฉมจันทรา

เรื่องย่อ

อีนิกม่า × อัลฟ่า

 

เพื่อนไม่กอดกัน

เพื่อนไม่หวงเพื่อน

เพื่อนไม่นอนด้วยกัน

และเพื่อน...ไม่มีลูกด้วยกัน

 

_____________________

 

"ไม่ปลุกอีกแล้ว"

 

"อยากให้กานต์พักผ่อนเยอะ ๆ ไงครับ"

 

"ตามใจเราจนเคยตัวหมดแล้ว"

 

_____________________

 

"ทำไมรอบนี้มันรุนแรงกว่าเดิมอะพี"

 

"พ...พีไม่รู้ กานต์ออกไปก่อน"

 

"จะให้เราไปไหน พีเป็นหนักขนาดนี้"

 

"ออกไป ก...ก่อนนะครับ"

 

"กานต์ไม่ไป"

 

______________________

 

"...กานต์ครับ"

 

"เรายังไม่พร้อม ค่อยคุยได้ไหม"

 

"พีขอโทษ"

 

____________________

คนหนึ่งทำเหมือนอีกฝ่ายเป็นคนแปลกหน้า

____________________

 

"ทำไมต้องเป็นพี ทำไมอะ!"

 

"กานต์ พีขอร้อง พอนะครับ พีขอร้องนะกานต์ ใจพีจะขาดอยู่แล้ว"

 

"...ทำไมต้องเป็นพีด้วย"

 

_________________

อีกคนคล้ายกับตายทั้งเป็น

____________________

 

ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม

ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด บทความ เนื้อหา รูปภาพประกอบ ภายในหนังสือเล่มนี้ ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อด้วยรูปแบบหรือกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือการนำส่วนใดส่วนหนึ่งของเนื้อหาจากหนังสือเล่มนี้ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะทางพาณิชย์หรือไม่ก็ตาม ยกเว้นเพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับหนังสือเท่านั้น หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมายโดยมีโทษสูงสุด

สารบัญ

พีขอโทษ Sorry foe the mistake-0 บทนำ,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-1 ไม่รู้ตัว,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-2 เดินทาง,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-3 ดูดาวบนเกาะ,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-4 หิ่งห้อยกลางเขื่อน,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-5 อัลฟ่ากลิ่นไวน์,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-6 อาการรัทที่รุนแรงกว่าปกติ,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-7 คืนเสพเพศ (1/2),พีขอโทษ Sorry foe the mistake-7 คืนเสพเพศ (2/2),พีขอโทษ Sorry foe the mistake-8 รู้สึกผิด,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-9 อัลฟ่า...ฮีท?,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-10 จูบได้ไหมครับ (1/2),พีขอโทษ Sorry foe the mistake-10 จูบได้ไหมครับ (2/2),พีขอโทษ Sorry foe the mistake-11 เกลียดกันก็ไปซะ,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-12 ติดกลิ่น,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-13 ไม่พร้อม,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-14 เพราะผิดพลาด,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-15 ดื้อดึง,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-16 ถึงเวลาที่ต้องห่างกัน,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-17 หมอนใบโต,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-18 รู้แล้วอย่างไรต่อ,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-19 ไม่เอาออกได้ไหมครับ,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-20 ไม่ชินเลย,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-21 คุณพ่อหวั่นกลัว,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-22 เพราะเขาเองที่ืเห็นแก่ตัว,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-23 ไม่เอาแล้ว,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-24 ปลดล็อคซึ่งกันและกัน,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-25 ช้ากว่าแต่รักเหมือนกัน,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-26 คุณพ่อและคุณแม่,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-Special 1 กานต์อยากให้ทำ,พีขอโทษ Sorry foe the mistake-Special 2 บันทึกของพีและกานต์

เนื้อหา

1 ไม่รู้ตัว

บทที่ 1

ไม่รู้ตัว

แสงสีเหลืองทองจากดวงอาทิตย์ทอแสงลงมาตกกระทบพื้นถนนและสิ่งปลูกสร้างเบื้องล่าง ตึกแถวมากมายตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ บางตึกสูงเพียงแค่สองชั้นในขณะที่ตึกข้าง ๆ กันนับจำนวนชั้นแทบไม่ไหว บนถนนเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ฝุ่นและควันจากรถราทำให้หลายคนในบริเวณนั้นสำลักจนน้ำตาเล็ด เสียงบีบแตร เสียงล้อครูดไปกับถนนดังขึ้นให้ได้ยินเป็นระยะ ผู้คนต่างเร่งรีบทำเวลาในช่วงเช้าของวัน เท้าหลายคู่ย่ำลงพื้นด้วยความเร็วและหนัก การกระทบไหล่กับคนแปลกหน้ามีให้เห็นบ้างประปราย

แต่ไม่มีใครให้ความสนใจมัน

วีรกานต์ มองความชุลมุนข้างล่างนั่นจากสะพานลอยที่มีหลังคาหุ้มไว้เพื่อกันแสงแดด เป็นภาพคุ้นตาเมื่อเขาต้องเดินทางมาทำงานในละแวกนี้เป็นประจำ

วันนี้เขาเลือกใส่เชิ้ตตัวเก่ง มันเป็นเสื้อแขนยาวสีเขียวอ่อน กระดุมถูกติดทุกเม็ดเว้นแต่สองเม็ดบนสุด เผยให้เห็นไหปลาร้าน่ามองแบบวับแวบ ปลายแขนเสื้อถูกเจ้าของพับขึ้นมาสองทบเพื่อไม่ให้ดูอึดอัดและเป็นทางการจนเกินไป ชายเสื้อข้างหนึ่งถูกยัดอยู่ในกางเกงสแลคสีครีม ส่วนอีกข้างปล่อยยาวลงมา

ผมสีน้ำตาลไหม้อยู่ในทรงทูบล็อก มันถูกหวีอย่างลวก ๆ ก่อนออกมา รับกับดวงหน้าคม สันจมูกโด่งเพียงนิด ริมฝีปากเจือสีชมพูอย่างคนสำอาง ทว่าทุกอย่างบนตัวอัลฟ่าหนุ่มดูน่าหลงใหล เรียกสายตาหวานเยิ้มจากผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้ไม่ยาก

น่ามองจนไม่อาจละสายตา

โดยเฉพาะกลิ่นฟีโรโมนจากเจ้าตัวจาง ๆ ที่ลอยไปตามสายลมจนผู้คนรอบข้างเผลอหันมองซ้ายขวาเพราะคิดว่าแถวนี้คงมีโอเมก้าตัวเล็กน่าเอ็นดูอยู่เป็นแน่

ชากุหลาบ

ดูนุ่มนิ่มไม่สมกับความเป็นอัลฟ่าสักนิด

เขาจับกระเป๋าเป้ให้กระชับ สาวเท้าแบบไม่รีบร้อน มือข้างขวาที่หิ้วถุงใส่แก้วมอคค่าถูกยกขึ้นมาลิ้มลอง ความหอมของกาแฟและช็อกโกแลตที่ผสมกันทำเขายิ้มให้กับรสชาติที่ถูกปาก ดวงตาสีเฮเซลนัทก็เสมองซ้ายทีขวาทีอย่างสำรวจ

อัลฟ่าหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสบายตัวก้าวเข้าไปในห้างสรรพสินค้า จุดหมายคือร้านคาเฟ่บนชั้นสาม บันไดเลื่อนพาเขาขึ้นไปยังชั้นที่หมาย กลิ่นอาหารและกลิ่นกะทิอ่อน ๆ จากขนมไทยลอยมาเตะจมูกของวีรกานต์ เมื่อมองลงไปที่ชั้นแรกก็จะเห็นบูธร้านอาหารต่าง ๆ ตั้งอยู่มากมาย

หอมสังขยาจัง

เขาวางแขนทั้งสองข้างไว้บนราวเหล็ก สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อความเย็นที่สะสมอยู่ในนั้นแทรกผ่านเนื้อผ้าเข้ามาให้รู้สึกเย็นวาบ ทอดมองไปด้านล่างหาสิ่งน่าสนใจ เผื่อว่าหลังจากจัดการธุระงานเสร็จแล้วอาจจะได้ของกินสักสามสี่อย่างติดไม้ติดมือกลับบ้าน

ผ่อนคลายอารมณ์ก่อนเริ่มงานอยู่เพียงครู่ก็ตัดสินใจก้าวเดินต่อเมื่อก้มมองโทรศัพท์แล้วเห็นว่าใกล้ถึงเวลานัด

สิ่งแรกที่ปรากฏแก่สายตาคือการตกแต่งที่มีความเป็นมินิมอลของทางร้าน มันเป็นสีครีมนวล ๆ สบายตา มีแคคตัสหลายต้นในกระถางใบน้อยถูกวางประดับไว้เกือบทุกมุมเพื่อไม่ให้ภายในตัวร้านดูโล่งจนน่าเบื่อเกินไป

เขากวาดสายตามองไปทั่วร้านเพื่อหาคนคุ้นเคย ก่อนจะสังเกตเห็นชายหนุ่มร่างใหญ่กำลังโบกมือให้เขาอยู่

เพียงแวบแรกก็รู้ว่าเป็นอัลฟ่า

วีรกานต์ยิ้มรับก่อนจะสาวเท้าเดินไปยังโต๊ะที่อีกฝ่ายนั่งอยู่ก่อนแล้ว

ชายหนุ่มเป็นเด็กมอปลายที่วีรกานต์มองว่าเด็กคนนั้นไม่ได้ต่างจากครั้งแรกที่รู้จักกันในตอนที่อีกฝ่ายยังอยู่มอต้น

นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองเขาที่กำลังก้าวเดินเข้าไปหา มือหนายกขึ้นเสยเส้นผมสีเดียวกับดวงตาให้เข้ารูปเข้าทรงแล้วยักคิ้วน้อย ๆ ส่งมาให้

“วันนี้มาไวจังครับ” ผู้มาก่อนเปิดบทสนทนาขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังรออยู่นั่งลงที่นั่งฝั่งตรงข้ามเรียบร้อยแล้ว

“เต้มาไวกว่าพี่อีก” วีรกานต์ตอบรับพร้อมรอยยิ้มอย่างทุกที

“ก็อยากอยู่กับพี่นาน ๆ นี่ครับ” อัลฟ่าเด็กกว่ากล่าวอย่างออดอ้อน ริมฝีปากบึนออกเล็กน้อยพร้อมกับอาการคอตกคออ่อน

“เลิกเจ้าชู้ทีเต้ หยอดตั้งแต่มอต้นแล้วเรา”

“โหย พี่ก็รับรักผมสักทีสิครับ” ชายหนุ่มว่าด้วยเสียงเศร้า

วีรกานต์ไม่ได้สนใจเสียงโอดครวญของเด็กมอปลายตรงหน้า เขาได้ยินจนเบื่อแล้ว คำพูดคำจาหว่านล้อมให้หลงกลคารมเจ้าชู้แบบนี้น่ะ ใช้กับเขาไม่ได้ผลหรอกนะ

ในตอนแรกยอมรับว่าแอบตกใจกับท่าทีของอีกฝ่าย อัลฟ่าสองคนที่เพิ่งรู้จักกันเพียงหนึ่งสัปดาห์มาบอกรักบอกชอบเขาเสียได้ จริงอยู่ที่ปัจจุบันโลกมันไปไกลมากแล้ว ทุกเพศมีสิทธิ์เลือกคนที่ต้องการใช้ชีวิตคู่ด้วยได้ อัลฟ่าไม่จำเป็นต้องครองคู่กับโอเมก้าเสมอไป

แต่เวลาเพียงสัปดาห์เดียวมันออกจะ...ไวไปหน่อย

ความอึดอัดปกคลุมพื้นที่ในเวลานั้นจนเด็กหนุ่มหน้าเสียจึงรีบแก้ต่างให้ตัวเองว่าเพียงแค่เอ่ยเย้าหยอกตามนิสัยก็เท่านั้น หากทำให้รู้สึกไม่ดีก็ขอให้บอก จะไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดใจอีก

ตอนนั้นชายหนุ่มตรงหน้ายังเป็นเพียงเด็กมอต้น วีรกานต์จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่กับการวางตัวให้คนรอบข้างรู้สึกว่าตนเองน่ามอง เขาไม่ได้ติดใจอะไรกับเหตุการณ์ครั้งนั้นเมื่อเด็กชายยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่ได้คิดอะไรเกินเลย

ถือเสียว่าเป็นคู่ซ้อมให้แล้วกันนะ

“ไอ้เด็กนี่ พี่โทรบอกไวน์แล้วอย่ามาร้องนะ”

“ผมตายจริงนะนั่น ไหว้เลยพี่กานต์” ชายหนุ่มทำหน้าบิดเบี้ยวพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ยกขึ้นมาประนมกลางอกไว้ทันทีทันใดเมื่อคนตรงหน้าเอ่ยถึงบุคคลที่สาม

วีรกานต์เคยพบกับ ไวน์ หรือหนุ่มน้อยโอเมก้าแฟนของเจ้าเด็กคนนี้เพียงไม่กี่ครั้ง ไม่แปลกหากว่าอัลฟ่าอย่างเต้จะกลัวถึงขนาดนั้น

ไวน์ไม่ใช่เพียงโอเมก้า แต่เป็นถึงควีนโอเมก้าที่ปัจจุบันหาได้ยากนัก

อัลฟ่าตัวน้อย ๆ อย่างเขาจึงต้องอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว

“วันนี้จะให้สอนอะไร” เขาเอ่ยตัดบทเมื่อเห็นว่าเสียเวลากับเรื่องไร้สาระไปมากแล้ว

“พี่อะ ขี้เกียจเรียนนะเนี่ย” อัลฟ่ามอปลายโอดครวญอีกคราเมื่อนึกถึงเนื้อหาในตำรามากมายที่ต้องจำเพื่อนำเข้าสอบในอีกสามเดือนข้างหน้า

“อย่ามาเต้ แม่เราจ่ายพี่มาแล้ว” วีรกานต์เอ่ยเสียงดุ

“เซ็งอะ” ชายหนุ่มบึนปากบ่นกระปอดกระแปดตามประสา แต่ก็ยอมหยิบหนังสือเรียนที่เตรียมมาส่งให้กับรุ่นพี่ที่ตอนนี้เป็นอาจารย์ติวในหลาย ๆ วิชาของเขา

“ฟิสิกส์เลยหรอ” อัลฟ่ากลิ่นชากุหลาบเปิดหน้าหนังสือเพื่อดูเนื้อหาคร่าว ๆ ก่อนจะเริ่มบทเรียนให้แก่เด็กหนุ่มตรงหน้า

แม้ภายนอกจะดูคล้ายเด็กหลังห้องที่ใครต่อใครต่างบอกว่าไม่เอาเรียน แต่เมื่อเข้าสู่โหมดจริงจัง วีรกานต์ก็สังเกตเห็นได้เสมอว่าอัลฟ่าตรงหน้ามีความตั้งใจมากเพียงใด

ถ้าไม่ตั้งใจก็คงทำในสิ่งที่ชอบไม่ได้

วีรกานต์เองก็เช่นกัน

เขารับติววิชาหลักในหมวดหมู่วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ให้กับเด็กมอปลายตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย ในตอนแรกเขายอมรับว่าหัวหมุนพอสมควร ตารางชีวิตเรียกได้ว่ายุ่งเหยิงเสียยิ่งกว่าสายหูฟังมากกว่าสิบเส้นพันกันเสียอีก เขาทำชีทสรุปหามรุ่งหามค่ำจนหมดสติไปหลายครั้ง เดือดร้อนให้พ่อแม่และเพื่อนข้างบ้านต้องผลัดเวรกันมาดูแลอยู่ไม่ห่าง

โดยเฉพาะเจ้าเพื่อนอัลฟ่าที่ทิ้งงานโปรเจคของคณะเพื่อมาคอยคุมเขาให้เข้านอนตามเวลา

และตัวเองก็หลับไปพร้อมกัน

ผ่านไปเพียงครึ่งปีเขาก็จับจุดได้ ตารางชีวิตเริ่มมีความเป็นระบบระเบียบมากขึ้น พาลให้คนรอบข้างหายใจโล่งปอดไปด้วย

ช่วงเวลาเรียนพิเศษผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า วีรกานต์เห็นว่าแค่นี้ก็มากพอให้เด็กหนุ่มตรงหน้ากุมขมับได้แล้ว จึงเอ่ยบอกให้คนเด็กกว่าพักสมองสักสิบห้านาที อัลฟ่ามอปลายจึงลุกจากเก้าอี้อย่างว่าง่าย ก้าวออกจากร้านสีครีมเพื่อไปเข้าห้องน้ำและหาซื้อขนมว่างอย่างอื่นมาไว้ทาน

อัลฟ่ากลิ่นชากุหลาบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาไถโซเชียลไปพลาง ๆ ระหว่างรอเด็กหนุ่มทำธุระ นิ้วชี้เรียวยาวกดเข้าแอปพลิเคชันสีเขียวที่เขาใช้ติดต่อกับคนอื่นเป็นประจำ เลื่อนลงหาชื่อบุคคลที่ต้องการติดต่อจนเจอ

นายองุ่น

ใครใช้ให้เจ้านั้นมีฟีโรโมนเป็นกลิ่นองุ่นกัน

เขาจิ้มสัญลักษณ์รูปโทรศัพท์เพื่อต่อสายหาคนที่บุกเข้าห้องเขาเมื่อคืนนี้

“…ครับ” ปลายสายเว้นช่วงไปครู่หนึ่งก่อนจะครางรับเสียงยาน

ยังไม่ตื่นสิท่า

“ไม่ต้องมาครับเลย สายแล้วพี” เขาตอบกลับเพื่อนตัวดีที่ตอนนี้คาดว่าน่าจะยังฝังใบหน้าคมนั้นลงบนหมอนในห้องเขาสักใบ

เสียงขลุกขลักดังเข้ามาให้ได้ยินก่อนจะเงียบไปแล้วน้ำเสียงแหบพร่าจากบุคคลกำลังตื่นก็แทนที่ “ยังไม่เที่ยงเลย”

“พี ลุกเลย” อัลฟ่ากลิ่นชากุหลาบเรียกชื่อคนในสายด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเอ่ยต่อ

“ไม่ลุกกานต์เอาคอมไปเผานะ”

เสียงขลุกขลักเกิดขึ้นอีกรอบแต่ครานี้รู้สึกว่ามันจะดูรุนแรงกว่ารอบก่อน เขายิ้มขำเมื่อนึกใบหน้าของเพื่อนอัลฟ่าในตอนนี้ออก ปากหนานั่นคงเบะลงจนสุดเท่าที่จะทำได้ คิ้วทั้งสองก็น่าจะผูกกันเป็นปม น้ำเสียงในประโยคถัดไปคงมีแต่ความขอร้องอ้อนวอนและออดอ้อน

หวงคอมยิ่งกว่าอะไร

“กานต์...ไม่เอาไม่ให้ทิ้ง ตัวทำเงินพีทั้งนั้นเลยนะ” นั่นอย่างไร ผิดคาดเสียที่ไหน

"ไม่ให้ทิ้งก็ลุกสิ ทำงานทำการบ้าง" วีรกานต์เอ่ยเสียงดุให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาไม่พอใจ

“สัญญาก่อน”

“ลุก”

“สัญญา...”

“โอเค ๆ สัญญาแล้ว ทีนี้ก็ลุก” วีรกานต์ลอบถอนหายใจกับความออดอ้อนของเพื่อนอัลฟ่าคนสนิท หากไม่ตัดบทตอบรับคำสัญญาสักที เห็นทีคงคุยเรื่องนี้กันอีกนานเป็นนาทีแน่

เซ้าซี้เก่งที่หนึ่งเลยนายองุ่น

อัลฟ่าชากุหลาบไล่เพื่อนให้ลุกจากเตียงมาใช้ชีวิต เขาเอ่ยเสียงดุอีกครั้งเมื่อเพื่อนตัวดียังโอดครวญไม่หายที่ถูกปลุกก่อนเวลาทั้ง ๆ ที่งานของเจ้าตัวมีกำหนดส่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่คนรับงานนี่สิ ทำตัวเอ้อระเหยจนน่าหมั่นไส้

คอยดูเถอะ ถูกลูกค้าติกลับมาก็จะทำเสียงอ่อยเสียงอ่อนให้ฟังอย่างทุกที

จะตีให้เขียว

วีรกานต์กำชับกับเพื่อนอัลฟ่าอีกสองสามประโยคก่อนจะจบบทสนทนาไป พอดีกับที่เด็กหนุ่มมอปลายเดินกลับมาพร้อมขนมทานเล่นในมือ

“พี่กานต์ เดี๋ยววันนี้ผมกลับไวหน่อยนะ ดูเหมือนไวน์จะไม่สบาย” เด็กมอปลายเอ่ยบอกเขาทันทีที่นั่งลง

“อ้าว กลับก่อนไหม เนื้อหาหลักเหลือแค่สองอย่างเอง เดี๋ยวพี่ส่งสรุปให้ก็ได้นะ เต้จะได้กลับไปดูแลไวน์” วีรกานต์บอกด้วยน้ำเสียงใจดีพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อย

“รบกวนพี่ไหมอะ”

“ไม่หรอก พี่มีไฟล์สรุปทุกเรื่องอยู่แล้ว แค่ขอเวลากลับบ้านไปหาไฟล์ก่อนเดี๋ยวพี่ส่งให้”

“น่ารักว่ะ ให้จุ๊บเหม่งที” ไม่ว่าเปล่า อัลฟ่าตรงหน้าลุกขึ้นยืนพรวดเดียวจนวีรกานต์ตกใจรีบเอนกายหนีไปด้านหลังโดยอัตโนมัติ ก่อนจะถลึงตาใส่เด็กหนุ่มอย่างคาดโทษ

จริงจังได้ไม่นานจริง ๆ เด็กคนนี้

“ไอ้เต้”

“ไอ้เลยว่ะ ฮ่า ๆ ๆ ” อัลฟ่ามอปลายทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เขายกมือสองข้างขึ้นขนาบข้างตัวอย่างยอมแพ้

“งั้นผมกลับนะ อย่าลืมไฟล์สรุปผมล่ะ”

พวกเขาเอ่ยร่ำลากันอยู่สักพักก็แยกย้าย เต้เดินนำออกไปก่อนเพราะรีบร้อนใจเมื่อแฟนหนุ่มโทรมาบอกให้แวะร้านขายยา เขายกมือไหว้รุ่นพี่ลวก ๆ แล้วรีบแจ้นออกไปอย่างเร็ว ส่วนวีรกานต์ย้ายตัวเองลงบันไดเลื่อนมาที่ชั้นล่างโดยไม่ลืมจ่ายค่าขนมและน้ำให้กับทางร้าน

อัลฟ่ากลิ่นชากุหลาบเดินทอดน่องไปตามบูธร้านค้าต่าง ๆ แวะร้านนี้เข้าร้านนั้นเป็นว่าเล่น ก่อนจะฉุกคิดได้ว่าของที่อยู่ในมือนั้นมากเกินความตั้งใจในตอนแรกไปมาก

 

 

 

วีรกานต์โดยสารรถสาธารณะประจำทางเพื่อไปลงที่ปากซอยบ้านก่อนจะต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้ามา ในเวลานี้ผู้คนที่ใช้รถสาธารณะไม่ได้แน่นขนัดมากนักเนื่องด้วยเป็นเวลาบ่ายคล้อย เขาจึงได้ที่นั่งรับลมมองดูความวุ่นวายในเมืองใหญ่ไปพลาง

โดยปกติแล้ววีรกานต์จะกลับมาถึงบ้านในช่วงเวลาเกือบเย็น แต่ในวันนี้เขากลับก่อนเวลาไปหลายชั่วโมงทีเดียว ขนมและอาหารต่าง ๆ ที่หิ้วติดมือมาถูกนำไปเก็บไว้ในตู้เย็น

บรรยากาศภายในบ้านเงียบสงบเพราะผู้ใหญ่ของบ้านทั้งสองท่านเพิ่งจะบินไปเที่ยวยุโรปเมื่อสองวันก่อน ตอนนี้จึงมีเพียงเสียงของเครื่องปรับอากาศที่วีรกานต์เปิดมันไว้เมื่อครู่เพื่อไม่ให้ตัวบ้านดูวังเวงจนเกินไป

เขาสาวเท้าขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของบ้านเพื่อเตรียมตัวไปชำระล้างร่างกายหลังจากออกไปใช้ชีวิตกับฝุ่นควันมาเกือบครึ่งวัน แต่ไอเย็นที่ลอดผ่านบานประตูห้องนอนทำให้วีรกานต์ชะงักฝีเท้า พื้นกระเบื้องยางลายไม้สีน้ำตาลมีความเย็นหลงเหลือ บ่งบอกว่าเครื่องปรับอากาศภายในห้องยังคงทำหน้าที่ของมันอยู่

เจ้าเพื่อนตัวดีไม่ยอมปิดให้อีกแล้วหรือ

ในตอนเช้าที่วีรกานต์เตรียมตัวออกไปข้างนอก เขาเพียงเพิ่มอุณภูมิขึ้นอีกหนึ่งองศาเพื่อไม่ให้คนที่ยังซุกตัวอยู่ในผ้าห่มนวมผืนหนาหนาวสะท้านจนเกินไป และเพื่อไม่ให้เจ้าอัลฟ่านั่นนอนกินบ้านกินเมืองไม่ยอมทำการทำงาน

แต่ดูท่าแล้ว เขาคงใจดีเกินไปหน่อย

อัลฟ่าชากุหลาบเอื้อมมือไปสัมผัสลูกบิดสีเงินแผ่วเบาแล้วหมุนเปิดบานประตูออก ไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศลอยมากระทบใบหน้าพอดิบพอดี ความฉ่ำเย็นที่ได้รับทำให้วีรกานต์สันนิษฐานได้ไม่ยากเลยว่าอุณหภูมิภายในห้องคงต่ำกว่าที่เขาปรับไว้ไม่น้อยกว่าสององศา

ไม่ต้องกวาดสายตาให้เสียเวลา ดวงตาสีเฮเซลนัทเป็นประกายวาวโรจน์ทันทีเมื่อพบร่างกำยำของอัลฟ่าม้วนตัวรวมกับผ้าห่มนวมผืนหนาจนกลายเป็นก้อนขยุกขยิกก้อนหนึ่ง ใบหน้าที่โพล่พ้นผืนผ้าออกมาแสดงออกถึงความสบายใจ ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท ริมฝีปากหยัดยิ้มขึ้นที่มุมปากน้อย ๆ

หลับสบายมากเลยใช่ไหม

“นายพีรยุทธ์!!!”

 

 

 

เสียงพูดคุยกันระหว่างบุคคลหลายคนดังแว่วเข้ามาในโสตประสาทพาให้รู้สึกหงุดหงิดใจอยู่บ้าง ในห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนเดินขวักไขว่คาดคะเนจากสายตาแล้วคงเฉียดพันคนเห็นจะได้

พีรยุทธ์ ไม่ชอบความวุ่นวายในเมืองเศรษฐกิจแห่งนี้ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าที่แห่งนี้นั้นช่วยต่อชีวิตให้คนทำงานฟรีแลนซ์แบบเขาได้มากทีเดียว

อัลฟ่าร่างสูงอยู่ในชุดลำลองสบายตัวด้วยเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีเทา สวมคู่กับกางเกงสีดำขาบานและรองเท้าผ้าใบสีตัดกัน จิวเวอรี่เล็กน้อยอย่างสร้อยคอสีเงินและต่างหูแบบห่วงถูกนำมาใส่เป็นเครื่องประดับเพื่อให้เข้าคู่กัน จมูกโด่งและริมฝีปากเคลือบลิปมันบางเบา

ประกอบกับเส้นผมสีดำสนิทที่ปรกลงมาปิดบังหน้าผากและดวงตาคู่คมสีเดียวกันยิ่งขับให้เจ้าตัวดูน่าเกรงขามสำหรับผู้คนที่เดินผ่านไปมา

ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ แผ่นหลังกว้างและผายออก ทำให้เดาได้ไม่ยากเลยว่าผู้ชายภายใต้เสื้อโอเวอร์ไซส์คนนี้เป็นอัลฟ่า อีกทั้งกลิ่นฟีโรโมนที่แผ่ออกมาบางเบาทำหน้าที่เสมือนยาเสน่ห์หลอกล่อให้เหล่าโอเมก้าชายหญิงหรือแม้กระทั่งอัลฟ่าด้วยกันเองหันตามความหอมหวานและส่ายสายตามองหาเจ้าของกลิ่น

กลิ่นองุ่น...มันหอมหวานเสียจนเกือบห้ามใจไม่อยู่

พีรยุทธ์เดินมาหยุดยืนอยู่ที่ระเบียงของชั้น หันหลังพิงกับราวเหล็กกั้นพลางยกแขนขึ้นท้าวแล้วเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย เขายิ้มกริ่มอยู่ในใจเมื่อผู้คนรอบตัวเริ่มหันมองหาที่มาของกลิ่นฟีโรโมนหอมหวานแต่เมื่อได้สบตากับอัลฟ่าเจ้าของกลิ่นก็จำต้องรีบหันหนีซ่อนความเขินอายที่ถูกจับได้ว่าแอบมองเจ้าตัว เขาทำเพียงปล่อยฟีโรโมนบางเบาของตัวเองอย่างจงใจเพื่อเช็คประสิทธิภาพก็เท่านั้น

ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าพอใจอยู่ไม่น้อย

“เจอที่ถูกใจบ้างไหมล่ะ” น้ำเสียงคุ้นหูดังขึ้นมาจากทางด้านซ้ายเรียกให้เขาหันไปมองพร้อมรอยยิ้มให้เพื่อนอัลฟ่า เป็นวีรกานต์ที่เดินขนาบคู่มากับเจ้าเด็กอัลฟ่ามอปลาย

สองอัลฟ่าก้าวเดินอย่างเชื่องช้าจนมาหยุดยืนที่ด้านหน้าเพื่อนตัวดี เขาหันซ้ายแลขวาเผื่อว่าจะเจอคำตอบของคำถามที่ถามออกไปเมื่อครู่แต่คิดว่าผู้คนรอบ ๆ นี้ไม่ใช่สเป๊กของเพื่อนเขาเลยสักคนจึงหันกลับมาสบตากับเพื่อนอัลฟ่าพร้อมเลิกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถามว่า คนไหน?

“เจอ แต่เขาไม่สน” พีรยุทธ์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาหยุดปล่อยฟีโรโมนหว่านเสน่ห์ไปสักพักแล้ว

“คนไหนหรอพี่” เป็นอัลฟ่ามอปลายที่เอ่ยถามด้วยสีหน้ายียวน

กวนตีนตั้งแต่เด็กจนโตเลยไอ้นี่

“เรื่องของผู้ใหญ่”

“โหไรวะ ห่างกันแค่ห้าปีเองไหม” เจ้าเด็กอัลฟ่าโอดครวญ ย่นจมูกหน่อย ๆ อย่างขัดใจที่ไม่อาจแกล้งแหย่รุ่นพี่ได้

ใครบ้างที่มองไม่ออกว่าคนที่อัลฟ่ากลิ่นองุ่นปักใจชอบพอคือใคร ถึงแม้รุ่นพี่จะไม่เคยเอ่ยปากบอกความรู้สึกที่มีให้คนนอกอย่างเขาได้รับรู้แต่มีหรือที่อัลฟ่ามอปลายคนนี้จะมองไม่ออก มีก็แต่เจ้าตัวที่ไม่รู้เรื่องอะไร สายตาหรือการกระทำก็ชัดออกนอกหน้าขนาดนั้น

ทำไมถึงไม่รู้ตัวสักที

"แล้วสรุปคนไหนเนี่ย ไม่เห็นสักคน" อัลฟ่าชากุหลาบถามย้ำอีกครั้งด้วยความอยากรู้ หันมองซ้ายขวาหลายทีแล้วแต่ก็ไม่เห็นโอเมก้าคนไหนที่ดูน่ารักน่าเอ็นดูเข้าตาเพื่อนของเขาสักคน

แล้วมันถูกใจคนไหนวะ

"ก็คนที่อยู่ข้างหน้าไง" เจ้าเด็กมอปลายกอดอกพลางเอ่ยเสียงหยอกเย้า ดวงตาเสมองออกไปด้านข้าง มุมปากหยักยิ้มขึ้นเพียงนิดเมื่อหางตาเห็นว่าอัลฟ่าร่างหนาถลึงตาใส่เขาไปทีอย่างคาดโทษพร้อมกับทำปากขมุบขมิบว่า หุบปาก

มีความสุขแล้ววันนี้

วีรกานต์เอี้ยวตัวหันหลัง กวาดสายตามองหาบุคคลปริศนาอีกครา จนไปสะดุดที่โอเมก้าชายร่างเล็กในชุดนักเรียนเอกชน ดูจากส่วนสูงแล้วคงเพิ่งพ้นมัธยมต้นมาหมาด ๆ ใบหน้าจิ้มลิ้มน่าเอ็นดู ริมฝีปากเป็นกระจับฉ่ำลิปก็ดูน่ารักไม่หยอก ต้องเป็นคนนี้แน่นอน

"นี่เล็งเด็กสิบหกสิบเจ็ดเลยหรอ" อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยถามพลางเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาฉายแววหยอกล้อเหมือนเด็กมอปลายเมื่อครู่ หากแต่อวัยวะภายในกลับเต้นระส่ำขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ มันไม่ได้นึกสนุกชอบใจเหมือนที่แสดงออกผ่านดวงตาสีคาราเมลเลยสักนิด

กลับกัน เขารู้สึกโดดเดี่ยวราวกับกำลังถูกมองข้าม ทำไมกันหากเพื่อนได้พบเจอคนที่ถูกตาถูกใจเขาก็ควรจะยินดีด้วยไม่ใช่หรือ ทำไมถึงต้องรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้ข้างหลังแบบนี้ด้วย วีรกานต์เองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน

พีรยุทธ์ขมวดคิ้วจนแทบเป็นปมเมื่อได้ฟัง ดวงตาสีรัตติกาลจ้องมองเพื่อนสนิทด้วยความไม่เข้าใจ แอบเคืองนิดหน่อยที่อัลฟ่าชากุหลาบก็เห็นด้วยกับคำของไอ้เด็กนั่นแล้วยังใส่ร้ายเขาอีก

ตัวเขาเองยังไม่ได้มองใครอื่นเลยสักคน ยิ่งเป็นเด็กที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะแล้วเขายิ่งไม่ได้สนใจ ไม่อยากเอาตัวเข้าไปพัวพันกับเรื่องพรากผู้เยาว์เท่าไหร่ "มั่วแล้วกานต์ ไม่ใช่ใครทั้งนั้นแหละ อย่าไปฟังไอ้เต้มันมาก"

บุคคลที่ถูกกล่าวถึงแอบเบ้ปากลงเพียงครู่อย่างหมั่นไส้

"กลับกันครับ" อัลฟ่ากลิ่นองุ่นคลายวงแขนที่ประสานกันอยู่บนอกออก แล้วจับแขนของเพื่อนอัลฟ่าให้หันหลัง ออกแรงดันไปด้านหน้าเพื่อเตรียมตัวกลับไปพักผ่อนเพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว วีรกานต์เองก็ไม่ได้คิดขัดขืนเพื่อนแม้แต่น้อยจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

"อ้าวพี่ แล้วผมอะ"

"มาเองก็กลับเองดิวะ"

 

 

 

 

 

 

 

#พีขอโทษ

บอกได้คำเดียวว่า "อื้ม"

TW : dao_jun000