เพื่อนไม่กอดกัน เพื่อนไม่หวงเพื่อน เพื่อนไม่นอนด้วยกัน และเพื่อน...ไม่มีลูกด้วยกัน
รัก,ดราม่า,โอเมกาเวิร์ส,ชาย-ชาย,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พีขอโทษ Sorry foe the mistakeเพื่อนไม่กอดกัน เพื่อนไม่หวงเพื่อน เพื่อนไม่นอนด้วยกัน และเพื่อน...ไม่มีลูกด้วยกัน
อีนิกม่า × อัลฟ่า
เพื่อนไม่กอดกัน
เพื่อนไม่หวงเพื่อน
เพื่อนไม่นอนด้วยกัน
และเพื่อน...ไม่มีลูกด้วยกัน
_____________________
"ไม่ปลุกอีกแล้ว"
"อยากให้กานต์พักผ่อนเยอะ ๆ ไงครับ"
"ตามใจเราจนเคยตัวหมดแล้ว"
_____________________
"ทำไมรอบนี้มันรุนแรงกว่าเดิมอะพี"
"พ...พีไม่รู้ กานต์ออกไปก่อน"
"จะให้เราไปไหน พีเป็นหนักขนาดนี้"
"ออกไป ก...ก่อนนะครับ"
"กานต์ไม่ไป"
______________________
"...กานต์ครับ"
"เรายังไม่พร้อม ค่อยคุยได้ไหม"
"พีขอโทษ"
____________________
คนหนึ่งทำเหมือนอีกฝ่ายเป็นคนแปลกหน้า
____________________
"ทำไมต้องเป็นพี ทำไมอะ!"
"กานต์ พีขอร้อง พอนะครับ พีขอร้องนะกานต์ ใจพีจะขาดอยู่แล้ว"
"...ทำไมต้องเป็นพีด้วย"
_________________
อีกคนคล้ายกับตายทั้งเป็น
____________________
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด บทความ เนื้อหา รูปภาพประกอบ ภายในหนังสือเล่มนี้ ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อด้วยรูปแบบหรือกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือการนำส่วนใดส่วนหนึ่งของเนื้อหาจากหนังสือเล่มนี้ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะทางพาณิชย์หรือไม่ก็ตาม ยกเว้นเพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับหนังสือเท่านั้น หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมายโดยมีโทษสูงสุด
บทที่ 4 หิ่งห้อยกลางเขื่อน
_______
หลังจากเสร็จสิ้นการดูดาวเมื่อคืนนี้ สองอัลฟ่าก็พากันกลับไปที่จุดนัดพบกับคุณลุงเบต้าและพบว่าชายชราตั้งท่ารอคนหนุ่มทั้งคู่อยู่ก่อนแล้ว
แต่อาจจะด้วยอากาศที่เย็นสบายตัวและเป็นช่วงเวลาใกล้เข้าวันใหม่เต็มทีทำให้ฝ่ายของอัลฟ่าชากุหลาบเกิดอาการสัปหงกอยู่หลายครั้งจนพีรยุทธ์สังเกตเห็นเลยคว้าเอาตัวคนข้างกายมาไว้ในอ้อมกอดหวังให้อีกคนได้หลับนอนอย่างสบาย
ไม่วายถูกคุณลุงเบต้าที่นั่งบังคับหางเสืออยู่ด้านหลังเอ่ยแซวว่าเป็นคู่รักที่หวานกันเสียจริง ทำเอาอัลฟ่ากลิ่นองุ่นหูแดงเถือกลนลานรีบปฏิเสธในทันทีว่าเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้น
แต่อย่างไรเสียในสายตาของชายชราที่ผ่านร้อนหนาวมาหลายสิบปีก็ดูออกว่าคนทั้งคู่มีใจให้แก่กัน
อัลฟ่าแล้วอย่างไร
โลกนี้เขาไปถึงไหนกันแล้ว
พีรยุทธ์ปฏิเสธคุณลุงไปอีกรอบว่ามีเพียงตนที่แอบรักอยู่ฝ่ายเดียว ทำเอาชายชราขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็ยอมรามือไป แต่ภายในใจยังคงครุ่นคิดว่าเพราะเหตุใดถึงทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยากกัน คนนอกอย่างเขายังมองรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีใจ
แต่เอาเถอะ...คนแก่จะไม่ยุ่งเรื่องของคนหนุ่ม
เมื่อมาถึงเรือนแพของสองอัลฟ่า พีรยุทธ์เอ่ยเรียกอัลฟ่าชากุหลาบแผ่วเบาหวังให้อีกคนตื่นจากนิทราแต่ก็เปล่าประโยชน์เมื่อคนในอ้อมแขนไม่ไหวติงใด ๆ จนมีเสียงของชายชราดังมาจากด้านหลังว่าให้อุ้มอีกฝ่ายขึ้นไปนอนพักเสีย เขาจึงต้องทุลักทุเลอยู่นานกว่าจะทรงตัวบนเรือที่โคลงเคลงได้ ไม่ลืมที่จะหันไปขอบคุณคุณลุงเบต้าอีกครั้งที่อุตส่าห์พาพวกเขาไปเปิดหูเปิดตาบนเกาะสวยงามนั่น
เมื่อก้าวเข้ามาในเรือนพีรยุทธ์ก็วางร่างของวีรกานต์ลงบนฟูก จัดการดึงผ้าห่มผืนหนามาคลุมกายอัลฟ่าไว้ ก่อนจะออกไปจัดการชำระคราบความเหนียวเหนอะจากหยาดน้ำที่กระเซ็นโดนระหว่างเดินทางออกจากร่างกาย
ก่อนกลับเข้ามาที่บ้านพัก เขาไม่ลืมที่จะหาภาชนะมารองน้ำและผ้าสะอาดเตรียมไว้สำหรับเช็ดตัวให้วีรกานต์ด้วย เพื่อให้อีกฝ่ายได้เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสบายตัว
เขายังเหนียวตัวจนต้องไปอาบน้ำอีกรอบ
อัลฟ่าชากุหลาบก็คงไม่ต่างกัน
เมื่อจัดการเช็ดตัวให้วีรกานต์เสร็จแล้วเขาก็นำกะละมังใบเล็กและผ้าสะอาดไปเก็บเข้าที่ก่อนจะสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่ม
พีรยุทธ์เกลี่ยปอยผมสีคาราเมลน้อย ๆ พลางลอบยิ้มอยู่คนเดียวอย่างนึกเอ็นดูอัลฟ่าข้างกาย
กินอิ่มแล้วก็นอน
น่ารักไม่มีใครเกิน
เขาถือวิสาสะยกเอาศีรษะของวีรกานต์ขึ้นแล้ววางไว้บนลำแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของตน อัลฟ่ากลิ่นองุ่นจัดการพลิกเอาตัวเพื่อนอัลฟ่าให้หันมาซบที่อกหนา ริมฝีปากจรดจุมพิตลงบนหน้าผากมนย่างอ่อนโยน
“ฝันดีครับกุหลาบของผม”
วันที่สองของทริปพักผ่อนที่เรือนแพในเขื่อน วันนี้เป็นพีรยุทธ์ที่รู้สึกตัวตื่นก่อนแต่เขายังไม่ลุกออกไปไหน ดวงตาสีรัตติกาลจ้องมองคนในอ้อมกอดไม่วางตา เขาไล่สายตามองทุกสัดส่วนบนใบหน้าของวีรกานต์
คิ้วสีน้ำตาลโค้งสวย ดวงตาที่กลมมน จมูกรั้น ๆ ริมฝีปากชมพูน่าจูบ
อัลฟ่ากลิ่นองุ่นส่ายหัวให้กับความคิดของตัวเอง
จริงอยู่ว่าเขาแอบรักอีกฝ่ายมานานแต่ไม่มีเลยสักครั้งที่จะกระทำสิ่งนั้นโดยที่เจ้าตัวไม่รับรู้หรือยินยอม ดังนั้นเขาจึงสะบัดหัวไล่ความคิดไม่ดีเหล่านั้นออกไปแล้วกลับมาจ้องมองอัลฟ่าในอ้อมแขนอย่างหลงใหลอีกครั้ง
แต่ไม่นานวีรกานต์ก็รู้สึกตัวตื่นจากห้วงฝัน เขาบิดกายคลายความเมื่อยขบเล็กน้อยก่อนจะรับรู้ได้ว่ามีไออุ่นอยู่ใกล้ตัว อัลฟ่าชากุหลาบลืมตาขึ้นเผยให้เห็นดวงตาสีเฮเซลนัทที่พีรยุทธ์ชอบมันนักหนา
“ไม่ปลุกกานต์อีกแล้ว” เขาเอ็ดอัลฟ่าที่กำลังสวมกอดตนอยู่อย่างไม่เต็มปากนักด้วยน้ำเสียงแหบแห้งจากการเพิ่งตื่นนอน
“อยากให้กานต์นอนสบาย ๆ ไงครับ” อัลฟ่าเจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลเช่นเดียวกับดวงตาเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มอย่างทุกที
ซึ่งมันเป็นคำตอบที่ไม่ผิดคาดไปจากความคิดของวีรกานต์เลยแม้แต่น้อย
บอกแล้วว่านายองุ่นน่ะดูแลเขาเหมือนลูกเลย
“แล้ววันนี้จะทำอะไรดี” อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยถามถึงแผนการเที่ยวพักผ่อนในวันนี้ อันที่จริงเขาก็อยากรู้ว่าเขามานอนอยู่บนเรือนแพนี้ได้อย่างไร ในเมื่อความทรงจำสุดท้ายก่อนหลับไปคือเขายังนั่งอยู่บนเรือยนต์อยู่เลย
แต่ถ้าให้เดาก็คงหนีไม่พ้นว่าพีรยุทธ์เป็นคนพาเขาขึ้นมานอนเป็นแน่ วีรกานต์จึงคิดว่าไม่ต้องถามให้เสียเวลาจะดีกว่า
“ไปตกปลากันไหมครับ” อัลฟ่ากลิ่นองุ่นเอ่ยถามคนในอ้อมกอด จริง ๆ เขานัดแนะกับคุณลุงเบต้าไว้แล้วแต่ถามเพื่ออยากได้ยินคำยืนยันจากเพื่อนอัลฟ่ามากกว่าว่าอยากไปหรือไม่ หากอยากพักผ่อนอยู่ในเรือนแพเฉย ๆ เขาก็จะไม่ขัดใจอีกฝ่าย
“มีด้วยหรอ” วีรกานต์เงยหน้าเล็กน้อยแล้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยใคร่รู้
ในเขื่อนแบบนี้จะมีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วยหรือ
“มีสิครับ เป็นกระชังของชาวบ้านระแวกนี้น่ะ” พีรยุทธ์ยกยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงคลายข้อสงสัยให้อัลฟ่าชากุหลาบ เจ้าตัวอ้าปากร้องอ๋อในใจพร้อมกับพนักหน้าขึ้นลงรับรู้
“แล้วจะไปเลยไหม” วีรกานต์เอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น
การตกปลาเป็นกิจกรรมใหม่สำหรับคนเมืองเช่นเขา จึงไม่แปลกหากเขาจะแสดงออกว่าตื่นเต้นเสียออกนอกหน้า ทำเอาอัลฟ่าเจ้าของอ้อมกอดหัวเราะน้อย ๆ อย่างเอ็นดู
“รอแดดร่มก่อนนะครับ สักบ่ายแก่ ๆ ค่อยไปจะได้ไม่ร้อนมาก” พีรยุทธ์ตอบคำถามด้วยรอยยิ้มอย่างทุกที
ขยันทำตัวน่าเอ็นดูจริง ๆ คนนี้
อัลฟ่าชากุหลาบผงกหัวเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวรอสำหรับกิจกรรมในช่วงบ่าย
เวลาเกือบบ่ายสามตามที่ได้นัดหมายไว้กับคุณลุงเบต้า แสงแดดยังคงทอแสงอยู่รำไรแต่ไม่ได้ร้อนอบอ้าวอย่างที่คิดไว้ สองอัลฟ่าหนุ่มและหนึ่งชายชราขี่เรือยนต์ออกจากเขื่อนไปตามทางน้ำ ไม่นานก็มาถึงเพิงไม้ที่มีกระชังที่ชาวบ้านทำไว้เลี้ยงปลาสายพันธุ์ต่าง ๆ
"ไอ้เจ๋งเอ้ย มารับลูกค้าหน่อย" เสียงของเบต้าชราเอ่ยเรียกบุคคลที่สามที่น่าจะเป็นคนดูแลกระชังปลาแห่งนี้
เสียงดังขลุกขลักออกมาจากห้องที่ถูกตีกั้นด้วยไม้ ก่อนจะปรากฎเป็นเด็กชายวัยรุ่นรีบรุดออกมารับหน้าลูกค้าตามที่ชายชราเอ่ยเรียก
"มากันแล้วหรอครับ พ่อกำลังไปเตรียมเหยื่อมาไว้ให้เลย" เด็กหนุ่มเอ่ยบอกคนมาใหม่ทั้งสามด้วยท่าทีนอบน้อม
สองอัลฟ่าตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่พักหนึ่งก็เดินตามบุคคลที่ดูแล้วมีอายุมากกว่าเด็กหนุ่มคนเมื่อครู่ พวกเขาเดินไปตามทางบนกระชังปลาอย่างระวังเพราะคลื่นน้ำที่กระเพื่อมอยู่ตลอดเวลา
คุณลุงเบต้าเองก็ถือโอกาสนี้มาอู้งานเสียหน่อย
"ปลาเยอะมากเลยพี" หลังจากหาที่ปักหลักกันได้แล้ว วีรกานต์ก็นั่งลงหย่อนขาไว้ในกระชังปลาพลางเตะน้ำเล่นไปด้วย
"ตกไปสักตัวสองตัวไว้กินมื้อเย็นกันไหมครับ เขาย่างเกลือให้ฟรีด้วย" อัลฟ่ากลิ่นองุ่นนั่งหันหลังให้เพื่อนสนิท เขาหย่อนขาลงในกระชังเช่นเดียวกับวีรกานต์
"เอาสิ ปลาสด ๆ คงหอมอร่อยน่าดู" อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยบอกกับคนข้างหลัง มือข้างหนึ่งถือเบ็ดตกปลาคันเล็กที่ห้อยเหยื่อเอาไว้ก่อนจะหาจังหวะเหวี่ยงเบ็ดลงกระชังและรอเวลา
พีรยุทธ์ทำเช่นเดียวกับอัลฟ่าด้านหลัง พวกเขาทั้งคู่อยู่ในชุดลำลองสบายตัว บนหัวมีหมวกปีกบานสวมไว้คนละใบเพื่อป้องกันแดด
เวลาผ่านไปหลายนาทีแต่ไม่มีวี่แววว่าปลาในกระชังจะติดเหยื่อเลยสักตัว ต่างคนต่างก็จดจ้องไปที่เบ็ดของตัวเองว่าปลาจะติดเหยื่อตอนไหน
"หาว..." อัลฟ่ากลิ่นองุ่นเปิดปากหาวหวอดเมื่อเริ่มรู้สึกเบื่อกับกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ แม้ตัวเองจะเป็นคนเชิญชวนก็ตามที
ผิดกับวีรกานต์ที่ยังคงตาใสแจ๋ว ดวงตาสีเฮเซลนัทมองไปที่ปลายเบ็ดไม่ละสายตา แต่เมื่อได้ยินเสียงบางอย่างจากคนด้านหลังก็เอ่ยถามทันที "ง่วงหรอ"
"นิดหน่อยครับ" พีรยุทธ์เอี้ยวตัวหันกลับมาตอบคำถามของอัลฟ่าชากุหลาบ เขาเอ่ยเสียงอ่อนกว่าปกติเล็กน้อยเพื่อออดอ้อนอีกฝ่าย
"เมื่อคืนนอนดึกหรือไง"
"นอนพร้อมกานต์นั่นแหละครับ แค่ตอนนี้มันนั่งอยู่เฉย ๆ เลยเบื่อ ๆ น่ะ"
วีรกานต์พยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันกลับไปสนใจการตกปลาต่อ
อัลฟ่ากลิ่นองุ่นบึนปากเล็กน้อยเมื่อถูกเพื่อนสนิทเมินใส่ เขาเอนกายไปด้านหลังเพื่อใช้ตัวของวีรกานต์เป็นที่พักก่อนจะช้อนตามองเจ้าของเรือนผมสีคาราเมลไม่ละไปไหน
วีรกานต์เห็นท่าทีของเพื่อนอัลฟ่าก็นึกขำอยู่ในใจ เป็นเพราะเขามัวแต่ตั้งใจจดจ่ออยู่กับกิจกรรมตรงหน้าจนไม่ได้สนใจบุคคลด้านหลังทำให้อัลฟ่ากลิ่นองุ่นมีอาการแง่งอนแสดงออกมาให้เห็น
"กลับไปนั่งพักในแพนู้นไหม"
"ไม่เอา จะอยู่กับกานต์" พีรยุทธ์เอ่ยเสียงอ่อน เขากระฟัดกระเฟียดเล็กน้อยประกอบคำพูดว่าไม่ต้องการห่างอัลฟ่าชากุหลาบไปไหน
แต่ในสายตาของอัลฟ่าเจ้าของเรือนผมสีคาราเมลกลับคิดว่าการออดอ้อนของพีรยุทธ์นั้นคล้ายกับเจ้าหมาพันธุ์ซามอยด์ที่กำลังนอนหมอบช้อนตามองเจ้าของมันอยู่บนพื้นบ้าน
วีรกานต์ส่งยิ้มละไมให้อัลฟ่าข้างกายก่อนจะหันกลับไปสนใจกิจกรรมที่ยังค้างคาอยู่ต่อ ทำเอาอัลฟ่ากลิ่นองุ่นถอนหายใจเสียเฮือกใหญ่ สะบัดกายหนีอย่างคนแง่งอน เขาตั้งใจให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความไม่พอใจที่ถูกสิ่งอื่นดึงความสนใจของเพื่อนสนิทไปเสียหมด
พีรยุทธ์เอนศีรษะพิงไหล่คนข้างกาย ถูไถไปมาอย่างออดอ้อนอยู่พักใหญ่แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากอัลฟ่าชากุหลาบอย่างที่ต้องการเสียที
"กานต์..."
"ฮ่า ๆ ๆ โอเค ๆ ไม่แกล้งแล้ว"
ช่วงเย็นของวันเดียวกัน สองอัลฟ่ากำลังนั่งรับลมอยู่บนเรือนแพ เป็นพีรยุทธ์ที่เอ่ยชวนวีรกานต์ให้มาหย่อนขาลงน้ำอยู่ข้างกัน
แสงสีส้มทองของพระอาทิตย์ตกกระทบบนผืนน้ำ ฝูงนกหลายฝูงพากันบินกลับรัง สายลมเย็น ๆ พัดผ่านมาให้รู้สึกสบายตัว
"พรุ่งนี้จะกลับกี่โมง" อัลฟ่าชากุหลาบเอ่ยถามคนข้างกายแต่สายตายังคงเหม่อมองท้องฟ้าไม่ละไปไหน
"ออกเช้า ๆ ดีไหมครับ จะได้ไม่ร้อนมาก" พีรยุทธ์ตอบเพื่อนสนิท
ในตอนแรกเขาก็มองแสงสีส้มเช่นเดียวกับวีรกานต์ แต่หางตาดันเห็นรอยยิ้มละมุนของอัลฟ่าชากุหลาบจนต้องหันกลับไปมองเสียเต็มตา
เรือนผมสีคาราเมลต้องแสงดวงอาทิตย์จนเป็นประกายสวยเสี้ยวหน้าของอัลฟ่าที่เขาหลงใหล จมูกโด่งขึ้นเป็นสัน ริมฝีปากสีชมพูเรื่อเป็นกระจับน่ามองนั่น เมื่อทุกสิ่งอย่างถูกจับมารวมกันไว้ที่วีรกานต์เพียงคนเดียวมันจึงดึงดูดให้อัลฟ่ากลิ่นองุ่นเผลอมองมันไม่ละสายตา
"จะมองอีกนานไหม" เสียงใสจากอัลฟ่าชากุหลาบดึงพีรยุทธ์ให้หลุดออกจากพะวัง
อัลฟ่าเจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลเบนหน้าออกไปมองทิวทัศน์รอบกายอย่างเก้อเขิน ฝ่ามือหนาถูกยกขึ้นมาลูบลำคอเพราะทำตัวไม่ถูกที่อีกฝ่ายจับได้
ทางด้านของวีรกานต์ เขารู้ตัวตั้งแต่แรกแล้วว่าถูกอีกฝ่ายมอง ก็เล่นจ้องหน้ากันโจ่งแจ้งเสียขนาดนั้น ใครบ้างจะไม่รู้สึกตัว
หากแต่ตัวเขาเองก็ทำตัวไม่ถูกอยู่บ้างเมื่อถูกจับจ้องอย่างไม่วางตา อาการใจเต้นรัวเกิดขึ้นกับเขาอีกครั้งจึงจำต้องเอ่ยบอกคนข้างกายเพื่อที่ตนจะได้มีเวลาหายใจหายคอบ้าง
“ไหน ๆ ก็มาแล้ว วันนี้ไปดูหิ่งห้อยกันนะครับ” พีรยุทธ์เอ่ยบอกกับคนข้างกาย จริง ๆ แล้วนี่คือกิจกรรมแรกที่อัลฟ่ากลิ่นองุ่นนัดหมายไว้กับคุณลุงเบต้าว่าจะพาเพื่อนสนิทไปชมความสวยงามยามค่ำคืนที่ปลายเขื่อน
วีรกานต์เอียงใบหน้าหันมองอัลฟ่าเจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลพลางเลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ เป็นเชิงตั้งคำถาม “นึกว่าจบทริปแล้ว”
“พีแล้วแต่กานต์ครับ ถ้ากานต์อยากพักผ่อนเราก็แค่นอนเล่นอยู่ที่นี่” พีรยุทธ์ยกยิ้มบางให้คนข้างกาย เขาหันกลับมามองอัลฟ่าชากุหลาบอย่างไม่เต็มตานัก เนื่องจากว่าตัวเขาเองยังคงรับรู้ได้ถึงอาการเห่อร้อนบนใบหน้าที่ยังหลงเหลืออยู่
“ไปสิ มาทั้งทีก็เก็บให้หมดทุกอย่างไปเลย” ดวงตาสีเฮเซลนัทของวีรกานต์ทอแสงเป็นประกายเมื่อนึกได้ว่าแต่ละอย่างที่ได้ทำในทริปท่องเที่ยวครั้งนี้ล้วนแปลกใหม่และน่าตื่นเต้นสำหรับเขามากนัก
พวกเขานั่งคุยกันอีกสักพักก็ถึงเวลาของมื้อค่ำ ชายชราคนเดิมก็นั่งเรือยนต์มาส่งอาหารให้ลูกค้าในเรือนแพ คราวนี้เป็นวีรกานต์ที่ไปรับเอาถาดสแตนเลสแทนเพราะอีกฝ่ายเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ การแต่งกายจึงยังไม่เรียบร้อยนัก
เมื่อถึงเวลานัดหมายในช่วงเกือบสามทุ่ม หนึ่งชายชราเบต้าและอัลฟ่าอีกสองคนก็นั่งเรือมุ่งมาที่ปลายเขื่อน วันนี้ไม่ได้มีเพียงพวกเขาที่มาชมความสวยงามของหิ่งห้อย ใกล้กันมีเรืออีกหลายลำจอดลอยลำอยู่กลางน้ำ
“เขาเรียกว่าอันซีนไงหนุ่ม คนเมืองมาที่นี่ทีไรก็หนีไม่พ้นต้องมาดูหิ่งห้อยแบบนี้ทุกคน” คุณลุงเบต้าเอ่ยบอกคนหนุ่มทั้งสองขณะที่กำลังหย่อนสมอเรือลงน้ำเพื่อถ่วงดุนให้เรืออยู่กับที่
“นาน ๆ ทีจะได้มีโอกาสได้เห็นนี่ครับลุง” อัลฟ่ากลิ่นองุ่นกล่าวเสริมกับคนขับเรือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดวงตาสีรัตติกาลเช่นเดียวกับเส้นผมจ้องมองแสงสีเหลืองทองที่กำลังส่องประกายระยิบระยับอยู่เหนือผิวน้ำไม่ใกล้ไม่ไกลจากพวกเขานัก
“ชอบไหมครับ” เสียงนุ่มทุ้มของพีรยุทธ์เอ่ยถามคนข้างกาย แต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับกลับมาเขาจึงต้องเอี้ยวตัวหันไปมอง
อัลฟ่าชากุหลาบจ้องมองความสวยงามตรงหน้าไม่วางตา เขาเบิกตาขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากสีชมพูฉ่ำก็เปิดอ้าออก ดวงตาสีเฮเซลนัมแสดงออกว่าตื่นเต้นมากเพียงใด เขาไม่ละออกไปจากแสงสีทองเลยสักวินาทีเดียว
พีรยุทธ์เองเมื่อหันมองคนข้างกายก็หยุดหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง
สวย...เป็นคำ ๆ เดียวที่บรรยายวีรกานต์ในตอนนี้ได้ดีที่สุดแล้ว
เรือนผมสีคาราเมล ริมฝีปากสีชมพู พวงแก้มใสและจมูกโด่งรั้นเมื่อถูกต้องด้วยแสงสีทองจากธรรมชาติและแสงของจันทร์เต็มดวงก็ราวกับว่าอีกฝ่ายคล้ายไม่มีอยู่จริง
“สวยสิ สวยมากเลยพี”
กานต์สวยกว่านั้นอีกครับ อัลฟ่ากลิ่นองุ่นได้แต่คิดในใจไม่กล้าที่เอ่ยออกไปให้อีกคนรับรู้
#พีขอโทษ
เซอร์ไพรส์~~~! สุขสันต์วันปีใหม่ไทยนะคะทุกโคนนน
เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวและจันไม่ได้ไปไหนTT ก็เลยแพลนไว้ว่าจะอัพน้องพีให้อ่าน 3 ตอนรวดในช่วงสงกรานต์เลยค่ะ^^
ไอ้ลูกหมามันหลงเขาใหญ่เลยอะ หลงแบบหัวปักหัวปำ
แบบว่าเธอสวยที่สุดในล้านโลก
หลังจากนี้จะเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักแล้วค่ะ ที่เคยบอกว่าเป็นดราม่าตอนนี้ใกล้เข้ามาแล้ว เกียมทิชชู่ไว้เลอ
TW : dao_jun0