นักสำรวจป่ามืออาชีพกลุ่มหนึ่งได้รับคำสั่งให้ค้นหาอัญมณีแห่งป่าดงพญาไฟ...ดินแดนดงดิบที่ไม่เคยมีใครเคยเข้าไปมาก่อนนับพันปี...สิ่งเหลือเชื่อ และสิ่งเหนือมนุษย์อาศัยอยู่ในนั้น...ความเร้นลับต่างๆทำให้บางครั้งต้องแลกมากับการเสียสละ...ในเทือกเขาพยัคฆราช แห่งนี้

ดวงตาพยัคฆราช - ตัวอย่าง โดย อักษรลิขิต @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แอคชั่น,อักษรลิขิต,ดวงตาพยัคฆราช,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ดวงตาพยัคฆราช

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อักษรลิขิต,ดวงตาพยัคฆราช

รายละเอียด

ดวงตาพยัคฆราช โดย อักษรลิขิต @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

นักสำรวจป่ามืออาชีพกลุ่มหนึ่งได้รับคำสั่งให้ค้นหาอัญมณีแห่งป่าดงพญาไฟ...ดินแดนดงดิบที่ไม่เคยมีใครเคยเข้าไปมาก่อนนับพันปี...สิ่งเหลือเชื่อ และสิ่งเหนือมนุษย์อาศัยอยู่ในนั้น...ความเร้นลับต่างๆทำให้บางครั้งต้องแลกมากับการเสียสละ...ในเทือกเขาพยัคฆราช แห่งนี้

ผู้แต่ง

อักษรลิขิต

เรื่องย่อ

สารบัญ

ดวงตาพยัคฆราช- ตัวอย่าง,ดวงตาพยัคฆราช- PART 1,ดวงตาพยัคฆราช- PART 2,ดวงตาพยัคฆราช- PART 3,ดวงตาพยัคฆราช- PART 4,ดวงตาพยัคฆราช- PART 5

เนื้อหา

ตัวอย่าง

คณะเข้าสู่ดงพญาไฟ ผ่านทางลูกรังบ้าง ดินบ้าง ข้างทางมีลำธารไหลเบาๆขนาบข้างไป ต้นไม้เล็กๆเริ่มเปลี่ยนเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้น เรานั่งเกวียนมาสักประมาณ 2 ชั่วโมง ก็เริ่มเข้าสู่ป่าจริงๆเสียที พระอาทิตย์เริ่มแผ่วแสงลงไปมาก เกวียนชลอลงและหยุดใกล้ปลายลำธารพอดี ใต้ต้นไม้สูงใหญ่มีลำต้นแผ่กิ่งก้านแข็งแรงหลายต้น สามารถขึงเชือกเต้นท์ได้

หม่อมหลวงอัศวินตะโกนบอกทุกคน 

“ วันนี้เราจะพักค้างกันตรงนี้แหล่ะ...” 

ทุกคนต่างรู้หน้าที่ของตนราวกับถูกฝึกมาอย่างชำนาญ...วินกับนทีเดินไปสำรวจพื้นที่โดยรอบ ยอดและสมัยเตรียมกางที่พักแรม ลดาดูแลเรื่องอาหาร ปีเตอร์ ไปวางแนวป้องกันสัตว์ร้ายและสัตว์มีพิษไม่ให้เข้ามาใกล้บริเวณที่พักแรม พ่อ แม่ ลูก ช่วยหาเชื้อเพลิงมาให้ลดา............. พระอาทิตย์ตกแล้ว ความมืดเข้ามาเยือน อากาศเริ่มเย็นลง กองไฟถูกก่อขึ้นสองกอง ทุกคนนั่งล้อมวงทานอาหารที่ลดาจัดเตรียมไว้...ลดาใช้ธนูยิงไก่ป่าตัวใหญ่มาได้ 1 ตัว และได้ปลาจากลำธารมา 3 ตัว ย่างหอมๆกับข้าวเหนียวร้อนๆจากท่อนไผ่ย่างไฟ อิ่มหนำสำราญกันทั่วหน้าท่ามกลางความเงียบมีแต่เสียงสัตว์ป่า ความมืดสนิทและ ความเงียบ ทำให้บรรยากาศโดยรอบอึมครึมมาก.. 

ปีเตอร์ได้เตรียมยาแก้พิษต่างๆไว้พร้อมแล้วหากเกิดอะไรขึ้นจะได้ใช้อย่างทันท่วงที...

หม่อมหลวงอัศวินพูด... 

“คืนนี้เราจะผลัดเปลี่ยนเวรยามกัน  ผลัดแรกผมกับปีเตอร์จะอยู่ให้ก่อนถึงตีหนึ่ง จากนั้นจะเป็น นทีกับสมัย และผลัดสุดท้ายก่อนเช้ามืด ยอด กับ กอแซ ....เอาล่ะ..ทุกคนแยกย้ายกันพักผ่อนได้..”

อัศวินกับปีเตอร์ลุกขึ้นไปเดินสำรวจรอบๆบริเวณที่พัก ขณะนั้นเป็นเวลาสามทุ่ม ความเงียบความมืดครอบคลุมทุกอย่างทั่วบริเวณ มีแต่แสงสว่างของไฟสปอร์ตไลท์มือถือในมือของอัศวินและไฟฉายของปีเตอร์เท่านั้น... 

ทันใดนั้น..อัศวินก็ได้กลิ่นสาปสัตว์โชยมาตามลม

อัศวินถามปีเตอร์ ......

“ปีเตอร์..นายได้กลิ่นอะไรมั้ย” ปีเตอร์ตอบ 

“ใช่ครับ..เหม็นมากเหมือนซากศพ”

เขาสองคนพยายามหาทิศทางว่ากลิ่นนั้นมาจากทางไหนกันแน่ เขาเดินเข้าไปในดงไผ่ ก็ได้พบกับยอด กำลังยืนมองพวกเขาอยู่ 

อัศวินร้องทักไป......

“อ้าว..ยอด นายออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่.. ฉันนึกว่านายพักนอนเอาแรง ยังไม่ถึงเวรนายหนิหน่า”.

. .ยอดก็ยืนเฉยๆโดยไม่ตอบอะไรเลย แค่กวักมือเรียกให้ทั้งสองเข้าไปหา ปีเตอร์กำลังก้าวเท้าเดินออกไปหายอด

แต่ อัศวินฉุดมือปีเตอร์ไว้แล้วบอกว่า 

“ เดี๋ยวปีเตอร์ นายดูดีๆนั่นไม่ใช่ยอด มันเป็นสมิง แปลงมา” 

ปีเตอร์ตกใจมากและอุทานไป.....

“เฮ้ย..เกือบไปแล้ว นึกสังหอนใจอยู่แล้วเชียวว่าทำไมยืนตัวแข็งจัง..แล้วเอาไงดีครับ...” 

อัศวินเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าที่สะพายมาด้วย หยิบเอามีดหมอที่ลงลวดลายอาคมไว้เต็มตัวมีด พนมมือสวดคาถาแล้วเงื้อฟันไปที่สมิงที่แปลงเป็นยอดยืนอยู่...ไอ้สมิงร้องเสียงเหมือนเสือตัวใหญ่แล้วก็หายไปจากตรงนั้น 

อัศวินบอกปีเตอร์ว่า......

“เรารีบออกไปจากจุดนี้ดีกว่า” 

ทั้งสองย้อนกลับไปบริเวณที่พัก ทุกคนยังคงนอนพักกันอยู่อย่างเงียบเชียบ 

อัศวินพูดกับปีเตอร์ว่า .....

“ นี่ถือว่าเป็นสิ่งทดสอบเราเบื้องต้น..ทางข้างหน้ายังมีอะไรต่ออะไรให้เราพบเจออีกมาก...เราต้องมีสติทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิด” 

“เราคงต้องไปปลุกอีกสองคนให้มาต่อจากเราแล้วนะ..ขอไปพักบ้าง เพลียมาทั้งวันแล้ว..”

ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี ทุกอย่างเป็นไปโดยสถานการณ์ปกติ  ....ผลัดที่สองเป็นหน้าที่ของ นทีกับสมัย...นทีตื่นขึ้นมาชงกาแฟดำจากน้ำร้อนในกาที่อุ่นอยู่ที่กองไฟ กลิ่นของมันหอมจนสมัยอดไม่ได้

“..ขอผมสักถ้วยเถอะ...กลิ่นมันยั่วผมเหลือเกิน  ตามันจะได้สว่างหน่อย”  

ทั้งสองนั่งล้อมกองไฟที่จุดกึ่งกลางของที่พัก อากาศคืนนี้ค่อนข้างเย็น ความมืดปกคลุมทั่วบริเวณป่าด้วยต้นไม้สูงใหญ่ทำให้อุณหภูมิเย็นเยือกจริงๆ   นทีได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังมาจากหลังบริเวณที่พัก จึงลุกขึ้นไปดูแต่พอเดินไปเสียงนั้นก็เงียบไป  

สมัยถามนทีว่า ....

“มีอะไรหรือเปล่า นที”  

นทีตอบว่า.........

“ไม่มีอะไรผมคงหูฝาดไป” 

สักครู่เสียงโหยหวนเหมือนหญิงสาวร้องให้ช่วยก็ดังขึ้นอีกแต่คราวนี้ เสียงนั้นทำให้ทั้งสองคนได้ยินพร้อมกัน ทั้งสองหันมามองหน้ากันแล้วเตรียมพร้อมขึ้นลำปืนพร้อมยิงและหันหลังไปทางหลังที่พัก นทีประทับปืนสั้น สมิธแอนด์เวสสัน เล็งไปที่จุดกำเนิดเสียง  ส่วนสมัยถือไรเฟิล มันลิเคอร์ เล็งไปที่เดียวกัน  

ทันทีที่เขาหันหลังมาพร้อมกันนั้น ทั้งสองคนมองเห็นหญิงสาวเสื้อผ้าขาดวิ่นนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ตรงหน้า ห่างไปสักยี่สิบเมตรได้   

นทีและสมัยหันมามองหน้ากันอีกครั้งด้วยความสงสัย... 

“น้องๆ...มานั่งทำไมตรงนี้เป็นอะไรหรือเปล่า  บ้านช่องอยู่ที่ไหนล่ะ...เงยหน้าขึ้นมาพวกพี่ไม่ทำอะไรหรอก” 

หญิงสาวค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาหาชายทั้งสอง ใบหน้าของหล่อนทำให้ทั้งนทีและสมัยตกตะลึงเพราะความงามของหล่อน   หล่อนค่อยๆลุกขึ้นยืนและค่อยๆแย้มยิ้มให้สองคนนั้น....แต่ทันใดนั้นนทีก็ร้องอุทานขึ้นมา .....

“เฮ้ย...สมัย..นี่มัน ?”  

นทีมองเห็นหล่อนแยกเขี้ยวเต็มตา เขี้ยวโง้งเหมือนสัตว์ร้าย นทีเหนี่ยวไกปืนแล้วยิงใส่ไม่ยั้ง 3 นัด แต่ไม่ถูกเป้าหมายเลยเพราะหล่อนในคราบของเสือสมิงนั้นหายไปทันที และมาปรากฏกายอยู่ข้างหลังสมัย กำลังเงื้อมือที่มีกรงเล็บยาวและคมกริบฟาดไปที่หลังของสมัย....

นทีตะโกน.....

“สมัยมันหลบอยู่ข้างหลังนาย”   

สมัยก้มตัวหลบอย่างรวดเร็ว  ทันทีที่สมัยก้มลง นทีก็ยิงไปที่สมิงสาวนั้นทันที ครั้งนี้ลูกกระสุนถูกเป้าหมายตรงที่ท้องของมัน...เสียงมันร้องดังก้องป่าแล้วก็กลายร่างเป็นเสือลายพาดกลอนตัวใหญ่มากวิ่งหายเข้าไปในเงามืด 

สมัย..ประทับปืนไรเฟิลแล้วยิงไล่เข้าไปในเงามืดสองนัด .....ทุกอย่างกลับมาเงียบสงัดเหมือนเดิม....ทุกคนในที่พักพาตื่นกันหมดเพราะเสียงปืนที่ดังแสบแก้วหู ...

หม่อมหลวงอัศวินวิ่งออกมาด้านหลังที่พัก 

แล้วถาม......

เกิดอะไรขึ้น นที!....ผมได้ยินเสียงปืน” 

นทีกับสมัยตอบพร้อมกัน “สมิงครับ..

เป็นผู้หญิงสาวสวยปลอมมา..มันเกือบเล่นงานสมัยด้านหลัง พอดีผมยิงสกัดไว้ก่อน”  

นทีพูดกับอัศวิน ... 

“แหมๆ..โอ้โห...จะโชว์ว่างั้น”

สมัยพูดเบาๆ... 

“ เอาแหล่ะๆ...ไม่มีใครเป็นอะไรก็ดีแล้ว เมื่อช่วงที่ฉันอยู่เวรกับปีเตอร์ก็เจอเหมือนกันแต่มันหายไปเสียก่อน”   

หม่อมหลวงอัศวินมองดูทางที่มันหลบหนีไป..แล้วพูดขึ้นว่า ....

“เราต้องรีบตามมันไป และรีบกำจัดมันซะ..ก่อนที่มันจะแว้งกลับมาทำร้ายพวกเราอีก...เพราะมันถูกยิงกลางลำตัวขนาดนั้นคงไปไม่ได้ไกล ก่อนที่จะเช้าเราจะหามันไม่เจอ.....นทีกับปีเตอร์ไปกับผมตามรอยเลือดมันไป   เอาสปอร์ตไลท์ส่องนำไป”

ทั้งสามคนเดินหายเข้าไปทางที่สมิงมันหนีไปในความมืด....