ความสัมพันธ์เริ่มขึ้นจากคืนนั้นจนเขาและเธอต้องมาทำภารกิจร่วมกันโดยไม่มีใครรู้มาก่อนว่าต้องเป็นแบบนี้...พวกเขาต้องร่วมกันกอบกู้วิกฤตของโลกจากศัตรูที่มีอิทธิพลและกองกำลังล้ำยุค...เขาและเธอต้องเผชิญกับอาวุธและวิวัฒนาการที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน
ผจญภัย,แอคชั่น,คู่รักคู่พิฆาต,อักษรลิขิต,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Couple คู่รัก...คู่พิฆาตความสัมพันธ์เริ่มขึ้นจากคืนนั้นจนเขาและเธอต้องมาทำภารกิจร่วมกันโดยไม่มีใครรู้มาก่อนว่าต้องเป็นแบบนี้...พวกเขาต้องร่วมกันกอบกู้วิกฤตของโลกจากศัตรูที่มีอิทธิพลและกองกำลังล้ำยุค...เขาและเธอต้องเผชิญกับอาวุธและวิวัฒนาการที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน
คนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา.....ชายหญิงสองคนมาจากต่างที่กันแต่มีเหตุให้มาใช้ชีวิตร่วมกัน..และต้องมาทำภารกิจร่วมกันโดยบังเอิญจนเกิดเหตุการณ์มากมายในชีวิตเขาทั้งสอง..บางครั้งมันตรงกันข้ามกับชีวิตจริงของเขา...เขาและหล่อนพบกับความสุขมากมายและในขณะเดียวกันเขาและหล่อนก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆที่ทำให้เกือบเอาชีวิตไม่รอด...แต่พวกเขาก็รอดมาได้..จนเกิดข้อสงสัยในใจทั้งคู่ว่า..คนที่เขาอยู่ด้วยเป็นใครกัน ..ถึงมีพิษสงรอบตัว.....ความลับก็คือความลับต่อไป....แต่ในที่สุดสถานการณ์บังคับให้เขาต้องเปิดเผยตัวตน....และสิ่งที่เขามีหน้าที่เหมือนกันคือ ปกป้องมนุษยชาติจากภัยก่อการร้ายที่รุกลามไปทั่วโลก......ชีวิตเขาและเธอไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบ..แต่โรยด้วยกับระเบิดและดงกระสุน...หน้าที่ความรับผิดชอบทั้งหมดต้องไปคู่กับความโรแมนติกท่ามกลางควันปืนและระเบิด..เพราะเขาและเธอเป็นมือหนึ่งในภารกิจนี้..จนพวกกลุ่มก่อการร้ายหมายหัวเขาทั้งสองและตั้งค่าหัวไว้สูงมาก..เพราะพวกเขาคือตัวอันตราย...เพราะพวกเขา คือ คู่รัก..คู่พิฆาต
ตลาดดอกไม้ในเมืองโมนาโคเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่สาดส่องผ่านยอดตึกเก่าแก่ กลิ่นหอมของดอกไม้หลากสีสันแพร่กระจายไปทั่วบริเวณ ผู้คนต่างเดินกันอย่างเร่งรีบในยามเช้า และในมุมหนึ่งของตลาด อาเธอร์ยืนอยู่หลังแผงดอกไม้ของเขา มือหนาหยิบดอกกุหลาบสีแดงช่อสวยขึ้นมาแต่งอย่างคล่องแคล่ว เขาใช้ชีวิตในฐานะคนขายดอกไม้ธรรมดา แต่แท้จริงแล้วเขาคือสายลับฝีมือฉกาจที่ปกปิดตัวตนแทบสมบูรณ์แบบ
ในขณะเดียวกัน เอวิต้าเดินเยื้องย่างผ่านแผงดอกไม้ไป เธอมาที่โมนาโคเพื่อภารกิจลับ แต่บรรยากาศรอบตัวทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นชั่วคราว ผมยาวสีน้ำตาลของเธอสะบัดเบาๆ ตามสายลม เธอมองหาเป้าหมาย แต่ดันสะดุดตาเข้ากับแผงดอกไม้ของอาเธอร์
"ดอกกุหลาบสำหรับผู้หญิงสวย ๆ?" อาเธอร์ทักเสียงนุ่ม ขณะยื่นดอกกุหลาบสีแดงช่อหนึ่งให้เธอ
เอวิต้ายิ้มบาง ๆ "คุณพูดอย่างนี้กับทุกคนที่เดินผ่านหรือเปล่า?"
"เฉพาะกับคนที่ทำให้หัวใจผมเต้นแรงเท่านั้น"
อาเธอร์ตอบพร้อมยิ้มเขินเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะฝึกมาให้เยือกเย็นกับทุกสถานการณ์ แต่เมื่อเจอเอวิต้าเขากลับรู้สึกสะดุดขึ้นมาอย่างประหลาด
เอวิต้ารับดอกไม้แล้วพูดคุยกับอาเธอร์เบา ๆ ทั้งคู่เริ่มสนทนากันมากขึ้น จนกระทั่งอาเธอร์ตัดสินใจชวนเธอไปทานอาหารเย็นด้วยกัน เอวิต้ายอมตอบรับ ทั้งสองเริ่มต้นความสัมพันธ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป
แต่คืนนั้นหลังจากที่ทั้งสองได้ใช้เวลาด้วยกันในห้องพักสุดหรูของโรงแรมในเมืองโมนาโค อาเธอร์ตื่นมาในตอนเช้าแล้วพบว่าเอวิต้าหายตัวไป ไม่มีจดหมาย ไม่มีข้อความใด ๆ ราวกับว่าเธอไม่เคยมีตัวตนอยู่ในคืนนั้น
ในความสับสน อาเธอร์ค้นหาเบาะแสจนรู้ว่าเธอมุ่งหน้าไปยังนิวยอร์คเพื่อภารกิจบางอย่าง เขาไม่ลังเลที่จะทิ้งแผงดอกไม้แล้วออกเดินทางตามหาเธอ พร้อมตั้งใจจะหาคำตอบให้ได้ว่าเอวิต้าคือใคร และทำไมเธอถึงหายไปจากชีวิตเขาในทันที
อาเธอร์ขึ้นเครื่องบินตรงไปนิวยอร์คทันที ในใจเขาเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ทำไมเอวิต้าถึงจากไปโดยไม่บอกลา? เธอเป็นใครกันแน่? เขารู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่ความลับที่ซับซ้อนอย่างไม่ทันตั้งตัว แม้ตัวเองจะเป็นสายลับที่มีประสบการณ์ แต่ความสัมพันธ์ครั้งนี้กลับทำให้เขาสับสนเหมือนไม่เคยรู้จักเธอเลย
เมื่อมาถึงนิวยอร์ค อาเธอร์ก็เริ่มค้นหาเธออย่างจริงจัง เขาใช้ทักษะการสืบสวนที่มีเชื่อมโยงเครือข่ายสายลับท้องถิ่นเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับเอวิต้า และสุดท้ายก็พบเบาะแสว่าเธอพักอยู่ในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง แต่การเข้าไปพบเธอโดยตรงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เอวิต้ากำลังทำภารกิจลับเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมระดับโลกที่ต้องการทำลายระบบการเงินสากล เธอได้รับคำสั่งจากหน่วยงานของเธอให้สอดแนมและเก็บข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผู้นำองค์กร เธอทำงานคนเดียวเหมือนทุกครั้ง แม้รู้ว่ามันอันตรายเพียงใด
ค่ำวันนั้น อาเธอร์ยืนอยู่ตรงข้ามโรงแรมที่เอวิต้าพัก เขาสังเกตเห็นว่าเธอกำลังเดินออกจากโรงแรมด้วยท่าทางลึกลับ อาเธอร์ตัดสินใจแอบตามเธอไปอย่างระมัดระวัง จนกระทั่งเขาเห็น เอวิต้าพบกับชายคนหนึ่งในซอยมืด ทั้งคู่คุยกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ชายคนนั้นยื่นแฟ้มเอกสารให้เธอก่อนที่จะหายไปในความมืด
ในขณะที่เอวิต้ากำลังจะเดินออกจากซอยนั้น อาเธอร์ตัดสินใจเข้าประชิดตัวเธอทันที มือหนาคว้าไหล่เธอและดึงเธอเข้ามุมซอยอย่างรวดเร็ว
“เอวิต้า!” เขาเรียกเสียงต่ำพร้อมดวงตาที่มุ่งมั่น
เอวิต้าสะดุ้ง เธอหันกลับมาและพบกับใบหน้าของอาเธอร์ หัวใจเธอเต้นแรงทันที
“อาเธอร์? คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”
“ฉันควรจะถามคำถามนี้กับเธอมากกว่า”
อาเธอร์ตอบ เขาจับจ้องเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความรู้สึกผิดหวัง
“เธอหายไปโดยไม่บอกฉัน แล้วตอนนี้กลับเจอเธอกำลังทำอะไรบางอย่างในซอยมืดนี่...บอกฉันสิ เอวิต้า เธอเป็นใครกันแน่?”
เอวิต้าถอนหายใจ เธอรู้ว่าตอนนี้คงปกปิดอะไรไม่ได้อีกต่อไป
"ฉันเป็นสายลับ..."
ความเงียบแผ่ปกคลุม อาเธอร์ยืนนิ่ง ความจริงที่ได้รับรู้ทำให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้น แต่ก็ทำให้เขาต้องคิดหนัก
“สายลับ?” เขาถามเบา ๆ
“ใช่” เอวิต้าตอบอย่างจริงจัง
“ฉันถูกส่งมาที่นี่เพื่องานสำคัญ แต่ไม่เคยคิดว่าจะบังเอิญเจอกับคุณที่โมนาโค...และมันก็ไม่ควรเกิดขึ้นด้วย”
อาเธอร์ยิ้มบางๆ แม้ในใจเขายังสับสน
“นั่นแหละปัญหา...มันเกิดขึ้นแล้ว”
"อาเธอร์"
เอวิต้าก้าวเข้ามาใกล้
“เรื่องระหว่างเราคือความจริง แต่ภารกิจของฉันสำคัญเกินกว่าจะให้ใครมายุ่ง ฉันไม่อยากให้คุณตกอยู่ในอันตราย”
“ฉันไม่สนว่าเธอทำงานให้ใครหรือกำลังทำอะไรอยู่”
อาเธอร์ตอบเสียงหนักแน่น
“แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเธอเป็นใคร...ฉันจะไม่ยอมให้เธอต้องเสี่ยงคนเดียวแน่”
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลัง ทั้งสองหันไปมองและเห็นชายในชุดดำสองคนกำลังวิ่งเข้ามาพร้อมอาวุธครบมือ
“ต้องไปแล้ว”
เอวิต้าพูดเบาๆ ก่อนจะจับมืออาเธอร์แล้ววิ่งหนีไปในตรอกแคบ ๆ
ทั้งสองต้องร่วมมือกันเอาตัวรอดจากเหล่าศัตรูที่ตามไล่ล่า และเผชิญกับอันตรายที่รออยู่เบื้องหน้า พร้อม ๆ กับที่ความรักของพวกเขากำลังทวีความเข้มข้น
อาเธอร์และเอวิต้าวิ่งฝ่าตรอกแคบที่เต็มไปด้วยเงามืด เสียงฝีเท้าของศัตรูที่ไล่ตามมาดังไล่หลังไม่หยุด ทั้งสองตัดสินใจหาที่หลบอยู่ในอาคารเก่าใกล้ๆ ก่อนที่ศัตรูจะเห็นพวกเขา
“เราต้องหาทางออกจากที่นี่”
เอวิต้าพูดอย่างเร่งรีบ แต่เสียงหายใจของเธอยังสั่นเครือจากการวิ่งเมื่อครู่
อาเธอร์พยักหน้า เขาเงยหน้ามองรอบๆ ตึก และเห็นบันไดหนีไฟที่พาดอยู่ด้านข้าง
“เราปีนขึ้นไปแล้วหาทางออกบนหลังคา”
ทั้งสองปีนบันไดอย่างรวดเร็ว เมื่อขึ้นมาถึงหลังคา พวกเขามองเห็นภาพมุมสูงของนิวยอร์ค แต่ยังไม่มีวี่แววของทางหนีที่ปลอดภัย เสียงฝีเท้าปีนตามมายังคงดังขึ้นใกล้ ๆ ชัดขึ้นเรื่อย ๆ
"เร็ว! พวกมันตามมาแล้ว"
เอวิต้าพูด ก่อนจะชี้ไปยังตึกอีกฝั่งที่มีทางเชื่อมข้ามระหว่างหลังคาสูง
“ไปทางนั้น” อาเธอร์กระซิบ
แล้วทั้งคู่ก็รีบวิ่งข้ามทางเชื่อมอย่างรวดเร็ว ทันทีที่พวกเขาข้ามไปถึงฝั่งตรงข้าม เสียงปืนดังขึ้น! กระสุนพุ่งผ่านไปใกล้พวกเขา เอวิต้าตัดสินใจล้มตัวลงกับพื้นเพื่อหลบกระสุน ขณะที่อาเธอร์ดึงปืนพกออกมาจากซองข้างเอวแล้วเล็งตอบโต้ไปยังฝ่ายศัตรู
“จะสู้ก็ได้” อาเธอร์พูดเบา ๆ พร้อมยิงกระสุนกลับไป ทำให้หนึ่งในผู้ตามล่าถูกยิงล้มลง
เอวิต้าลุกขึ้นจากที่หลบ
"ไม่คิดว่าคุณจะมีปืน"
เธอหันมายิ้มเล็กน้อย แม้สถานการณ์จะตึงเครียด
“ก็ไม่ได้ขายดอกไม้จริง ๆ หรอก”
อาเธอร์ตอบพลางส่งยิ้มมุมปาก แล้วพยักหน้าให้เอวิต้าหนีไปทางบันไดลงสู่ถนนด้านล่าง
ทั้งคู่รีบหนีไปได้ทันก่อนที่ศัตรูจะตามทัน พวกเขาวิ่งไปจนถึงซอยมืดอีกฝั่งหนึ่งของเมือง นิวยอร์คในยามค่ำคืนเริ่มเงียบสงบ แต่ทั้งคู่รู้ดีว่าอันตรายยังคงรออยู่ทุกมุม
หลังจากที่หยุดพักสักครู่ อาเธอร์มองเอวิต้าอย่างจริงจัง
"เราจะทำยังไงต่อไป เธอจะบอกฉันได้ไหมว่าภารกิจของเธอคืออะไร?"
เอวิต้าถอนหายใจเงียบๆ
"ฉันถูกส่งมาสืบเกี่ยวกับกลุ่มอาชญากรรมระดับโลก พวกมันกำลังวางแผนทำลายระบบการเงินโลก ฉันต้องเก็บข้อมูลทั้งหมดก่อนที่แผนจะเริ่มลงมือ"
อาเธอร์นิ่งฟังด้วยความจริงจัง
"ฉันเองก็ทำงานให้กับหน่วยงานลับ พวกเขาส่งฉันมาที่นี่เพื่อตามหาข้อมูลเดียวกัน"
เอวิต้าเบิกตากว้าง "หมายความว่า…"
"ใช่" อาเธอร์พยักหน้า
"เราตามล่าเป้าหมายเดียวกัน แต่ตอนนี้พวกมันรู้ว่าเราทำงานร่วมกันแล้ว"
เอวิต้าหัวเราะเบา ๆ
"ช่างเป็นความบังเอิญจริง ๆ"
อาเธอร์ก้าวเข้าไปใกล้
"มันไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญหรอก มันคือโชคชะตา"
ก่อนที่พวกเขาจะพูดอะไรต่อ เสียงโทรศัพท์ของเอวิต้าดังขึ้น เธอรีบหยิบขึ้นมาดู และสายลับที่อยู่ปลายสายส่งข่าวร้าย
"เป้าหมายจะทำการเคลื่อนไหวคืนนี้...เรามีเวลาไม่มากแล้ว"
อาเธอร์มองเธอด้วยความแน่วแน่
“ไปเถอะ เราต้องหยุดพวกมันด้วยกัน”
ทั้งสองสายลับที่เพิ่งเปิดเผยตัวตนต่อกัน ต้องรวมพลังกันเผชิญหน้ากับศัตรูที่ยิ่งใหญ่กว่า และทำภารกิจเสี่ยงตายที่อาจเปลี่ยนอนาคตของโลกใบนี้ไปตลอดกาล
เอวิต้ากับอาเธอร์รีบออกจากซอยมืด มุ่งหน้าไปยังที่ตั้งของกลุ่มอาชญากรรมที่กำลังจะทำการเคลื่อนไหวในคืนนี้ ทั้งสองซ้อนแผนเข้าถึงข้อมูลลับที่มีแต่เฉพาะคนวงในเท่านั้นที่รู้ หลังจากปรึกษากันไม่นาน ทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะบุกเข้าไปยังโกดังใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของแผนการร้ายนี้
“นี่คือที่ที่พวกมันเก็บข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับแผนของพวกมัน” เอวิต้าพูดพลางชี้ไปยังอาคารโกดังที่ตั้งอยู่ปลายถนน
“มีระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา เราต้องหาทางเข้าไปข้างในให้ได้”
“ไว้ใจฉันเถอะ”
อาเธอร์พูดด้วยความมั่นใจ สายตาของเขาจับจ้องไปที่โกดังใหญ่ พร้อมประเมินสถานการณ์ด้วยความระมัดระวัง เขาสังเกตเห็นทหารเฝ้าอยู่รอบๆ พร้อมอาวุธครบมือ
อาเธอร์และเอวิต้าค่อย ๆ แอบเข้าไปทางประตูด้านหลังโกดัง ทั้งสองทำงานอย่างคล่องแคล่วไร้เสียง ราวกับว่าการบุกเข้ามาในพื้นที่เสี่ยงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขา เมื่อมาถึงส่วนกลางของโกดัง อาเธอร์ใช้เครื่องมือแฮกเข้าระบบรักษาความปลอดภัย ในขณะที่เอวิต้าดูแลทางเข้าด้วยท่าทางระวังตัวเต็มที่
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา เอวิต้าขยับตัวอย่างรวดเร็วและแอบหลบไปในมุมมืด อาเธอร์รีบปิดระบบรักษาความปลอดภัยได้ทันก่อนที่กลุ่มทหารจะผ่านไป
“เรียบร้อยแล้ว” อาเธอร์กระซิบ
แล้วทั้งสองก็เริ่มเดินลึกเข้าไปในอาคารเพื่อหาห้องที่เก็บข้อมูลสำคัญ
พวกเขาพบกับห้องเก็บข้อมูลลับขนาดใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยเอกสารและคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงถึงแผนการร้ายระดับโลก เอวิต้าหยิบแฟลชไดร์ฟขึ้นมาเสียบเข้าคอมพิวเตอร์ และเริ่มดาวน์โหลดข้อมูลทันที ขณะเดียวกัน อาเธอร์คอยตรวจสอบบริเวณรอบข้างเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาปลอดภัย
แต่ความเงียบที่เคยสงบนั้นก็ถูกทำลายลง เมื่อจู่ๆ ระบบเตือนภัยก็ดังขึ้น เสียงสัญญาณเตือนภัยแผดเสียงก้องไปทั่วโกดัง
“พวกเราถูกจับได้แล้ว!” เอวิต้าพูดด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ ขณะที่การดาวน์โหลดข้อมูลยังคงดำเนินไป
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะถ่วงเวลาไว้” อาเธอร์หยิบปืนออกมาพร้อมเตรียมรับมือกับทหารที่กรูกันเข้ามาจากทุกทิศทาง
เสียงปืนดังขึ้นทั่วห้อง อาเธอร์ยิงสกัดพวกทหารอย่างรวดเร็ว แต่ศัตรูก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้น เอวิต้าก็ตะโกนว่า
“ข้อมูลเสร็จแล้ว!”
เธอเก็บแฟลชไดร์ฟลงในกระเป๋าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยกปืนขึ้นมาเสริมกำลังให้กับอาเธอร์
ทั้งสองคนต่อสู้กันไปอย่างไม่ยอมแพ้ กระสุนพุ่งผ่านไปทุกทิศทาง ขณะเดียวกันพวกเขาก็พยายามหนีออกจากโกดัง
เมื่อพวกเขาใกล้จะถึงประตูทางออก ทหารศัตรูจำนวนมากเข้ามาขวางทางไว้ อาเธอร์และเอวิต้าต้องหาที่กำบังหลังกล่องไม้ ทั้งสองหอบหายใจหนัก สายตาประสานกันในชั่วขณะหนึ่ง ท่ามกลางอันตรายที่อยู่รอบตัว
“เราต้องฝ่าออกไปให้ได้” เอวิต้าพูดด้วยความมั่นใจในแววตา
อาเธอร์ยิ้มบาง ๆ
“ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอเสี่ยงคนเดียวหรอก เราทำไปด้วยกัน”
ทันใดนั้น ทหารศัตรูกรูเข้ามาใกล้ เอวิต้าและอาเธอร์ลุกขึ้นพร้อมกัน ปืนในมือของพวกเขายิงสวนกลับไปอย่างแม่นยำ พวกเขาใช้ทักษะการต่อสู้ทั้งระยะใกล้และไกลอย่างเต็มที่ ฝ่าออกมาจากโกดังได้ในที่สุด
เมื่อมาถึงนอกโกดัง เสียงสัญญาณเตือนภัยยังคงดังอยู่ แต่ทั้งคู่รู้สึกเหมือนได้หายใจโล่งขึ้นมาบ้าง เอวิต้ามองแฟลชไดร์ฟในมือเธอ
"เราได้ข้อมูลสำคัญแล้ว แต่พวกมันจะไม่ปล่อยเราไปง่าย ๆ"
อาเธอร์มองเธออย่างจริงจัง
"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะผ่านมันไปด้วยกัน"
ทั้งสองสายลับที่เคยปิดบังความลับต่อกัน บัดนี้กลับต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูที่ยิ่งใหญ่กว่าเพื่อหยุดยั้งแผนการร้ายที่อาจทำลายล้างโลก
เมื่อทั้งอาเธอร์และเอวิต้าหนีออกจากโกดังได้ พวกเขารีบวิ่งไปยังรถคันหนึ่งที่จอดซ่อนอยู่ใกล้ ๆ เอวิต้าคว้ากุญแจที่เก็บไว้ในเสื้อแจ็กเก็ตของเธอแล้วสตาร์ตรถ เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นพร้อมกับเสียงล้อที่ลื่นไถลขณะเธอเหยียบคันเร่งเต็มที่ รถพุ่งออกไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
“พวกมันจะไม่ปล่อยเราง่าย ๆ แน่”
อาเธอร์พูดพลางหันไปมองกระจกหลัง เห็นรถไล่ตามมาติด ๆ
เอวิต้าหมุนพวงมาลัยด้วยความชำนาญ พลิกรถเข้าไปในถนนเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยโค้งหักศอกและรถยนต์จอดข้างทาง ความเร็วที่เธอใช้ทำให้รถทั้งสองคันพุ่งไล่ตามกันอย่างดุเดือด รถของศัตรูเปิดไฟหน้าสว่างจ้า รุกไล่เข้ามาใกล้เรื่อย ๆ
"ฉันจะทำให้มันชนกันเอง" เอวิต้าพูดด้วยความมั่นใจ
เธอหักพวงมาลัยอย่างรวดเร็ว ทำให้รถที่ตามมาเบรกลื่นและชนเข้ากับอีกคันหนึ่งที่วิ่งสวนมา เสียงระเบิดดังสนั่น รถทั้งสองคันพลิกคว่ำลงกลางถนน
อาเธอร์หัวเราะเบา ๆ
"ทักษะการขับของเธอนี่ไม่ธรรมดาเลย"
เอวิต้ายิ้มอย่างไม่แยแส
"ยังไม่หมดเท่านี้หรอก"
พวกเขาขับรถต่อไปจนถึงท่าเรือในย่านที่เงียบสงบ
นิวยอร์คในยามดึกดื่นเริ่มกลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง แต่เอวิต้ารู้ดีว่านี่เป็นเพียงความสงบก่อนพายุที่แท้จริง
เมื่อทั้งคู่มาถึงท่าเรือ เอวิต้าจอดรถไว้ข้างทาง ทั้งสองรีบลงจากรถและตรงไปยังเรือลำเล็กที่พวกเขาได้เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ เรือถูกซ่อนอยู่ใต้หลังคาเก่าที่ท่าเรือร้าง เอวิต้าและอาเธอร์จัดการเปิดเรือออก แล้วรีบลงไปบนเรือก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์
ขณะที่เรือแล่นออกไปในแม่น้ำฮัดสัน อาเธอร์มองไปยังทิวทัศน์ของเมืองนิวยอร์คที่ห่างออกไป เรือแล่นผ่านแสงไฟจากตึกสูงใหญ่ แต่สิ่งที่รอพวกเขาข้างหน้านั้นยังเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้
"เรากำลังจะไปไหน?"
อาเธอร์ถามขณะที่เขานั่งลงข้างเอวิต้าที่กำลังบังคับเรือ
“ไปที่ปลอดภัยก่อน แล้วเราจะดูข้อมูลจากแฟลชไดร์ฟนี้”
เอวิต้าตอบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
"ฉันรู้จักที่ลับแถวนี้ มันเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครตามเราเจอ"
ทั้งสองแล่นเรือผ่านแม่น้ำอย่างรวดเร็ว อาเธอร์มองไปที่เอวิต้าด้วยความรู้สึกหลายอย่าง ทั้งสงสัยและชื่นชมในตัวเธอ
การที่เธอเป็นสายลับที่มีทักษะเช่นนี้ทำให้อาเธอร์รู้สึกว่าเขาเจอคู่ต่อสู้ที่คู่ควร
หลังจากเรือแล่นไปได้สักพัก พวกเขาก็มาถึงที่หลบซ่อนที่เอวิต้าพูดถึง มันเป็นบ้านไม้เก่าที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้ริมแม่น้ำ ดูเหมือนว่าจะถูกทิ้งร้างมานานแล้ว
เอวิต้าพาอาเธอร์เข้าไปในบ้าน ทั้งสองหย่อนตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยล้า อาเธอร์มองเธอพลางยิ้มบาง ๆ
“เราเป็นทีมที่ไม่เลวนะ”
เอวิต้ายิ้มตอบ “ก็ดูจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ”
เอวิต้าเปิดแฟลชไดร์ฟและเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์เก่าๆ ที่ตั้งอยู่ในบ้านไม้ เธอนั่งลงพร้อมกับจ้องมองหน้าจอขณะที่ข้อมูลเริ่มปรากฏขึ้น ภาพเอกสารลับและแผนที่หลายอย่างไหลเข้าสู่สายตา ทั้งแผนการโจมตีเป้าหมายทั่วโลก ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มก่อการร้าย และชื่อของคนสำคัญที่เกี่ยวข้อง
อาเธอร์เดินเข้ามาใกล้ มองข้อมูลที่เอวิต้ากำลังเลื่อนดู
"มันมีอะไรมากกว่าที่เราคิด"
เขาพูดเบาๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยและตื่นตัว
เอวิต้าหยุดอยู่ที่ไฟล์หนึ่ง
"ดูนี่สิ" เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ข้อมูลในไฟล์ระบุถึงการโจมตีที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และเป้าหมายคือ… นิวยอร์ก
"แย่แล้ว พวกมันเตรียมการไว้อย่างดี"
อาเธอร์กล่าวขณะที่ดูรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการทำลายล้างครั้งใหญ่
“พวกมันวางแผนที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายในเมือง”
เอวิต้ากลืนน้ำลายลงคอ เธอรู้ดีว่าภารกิจนี้สำคัญมาก แต่ตอนนี้สิ่งที่ทำให้เธอหนักใจยิ่งกว่านั้นคือใครบางคนที่เธอเห็นในรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง
"ไม่..." เธอพูดเบาๆ
ก่อนจะชี้ไปที่ชื่อในเอกสาร อาเธอร์หันมองตาม
"ใคร?"
เอวิต้าเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบด้วยเสียงที่สั่น
"คนนี้...คือหัวหน้าของฉันเอง"
อาเธอร์ชะงัก
"หมายความว่ายังไง?" เขาถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ฉันทำงานให้เขามาตลอด”
เอวิต้ากล่าวพร้อมความรู้สึกสับสนในหัวใจ
"แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้"
อาเธอร์รู้ว่าเรื่องนี้ซับซ้อนเกินกว่าจะปล่อยผ่านไป
"เราต้องหาทางหยุดแผนการนี้ และเปิดโปงตัวจริงของเขา"