"เมื่อความรักต้องห้ามเกิดขึ้นระหว่างทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์และปีศาจแห่งความมืด... ความเกลียดชังระหว่างสองเผ่าพันธุ์จะสั่นคลอน หรือรักแท้จะเป็นเพียงความลับที่ถูกกลืนหายไปในความขัดแย้งนิรันดร์?"

Heaven Fall's รักระหว่างเเสงเเละเงา - บทที่2 "การเริ่มต้นใหม่ในโลกมนุษย์" โดย Dekuru @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,แอคชั่น,ตลก,แฟนตาซี,ไซไฟ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Heaven Fall's รักระหว่างเเสงเเละเงา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,แอคชั่น,ตลก,แฟนตาซี,ไซไฟ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

Heaven Fall's รักระหว่างเเสงเเละเงา โดย Dekuru @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"เมื่อความรักต้องห้ามเกิดขึ้นระหว่างทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์และปีศาจแห่งความมืด... ความเกลียดชังระหว่างสองเผ่าพันธุ์จะสั่นคลอน หรือรักแท้จะเป็นเพียงความลับที่ถูกกลืนหายไปในความขัดแย้งนิรันดร์?"

ผู้แต่ง

Dekuru

เรื่องย่อ

ในโลกที่แบ่งออกเป็นสามดินแดน, ทูตสวรรค์ และ ปีศาจ ได้พบรักที่ไม่อาจเปิดเผยได้ ความเกลียดชังระหว่างสองเผ่าพันธุ์ทำให้ความรักนี้ต้องถูกซ่อนเร้นท่ามกลางสงครามและความขัดแย้ง ทั้งคู่ต้องเลือกว่าจะรักกันและเปลี่ยนแปลงโลก หรือจะต้องรักษาความลับนี้ไว้ตลอดไป.

 เป็นการเขียนครั้งเเรกของผม อาจจะไม่ถูกใจหรือไม่ถูกชะตาถ้าอยากให้ใส่อะไรเข้าไปหรือเเนะนำเเนวทางคอมเม้นได้คับ 

สำหรับผมขอให้มีผู้คนมาเห็นเรื่องราวที่ผมสร้างเเละฟังหรืออ่านเรื่องราวของผมก็ถือว่า

ผมสำหรับกับเป้าหมายเเล้วคับ

**ยังไงก็ขอฝากผลงานไว้ด้วยคับ

นามปากกา Dekuru คับ

สารบัญ

Heaven Fall's รักระหว่างเเสงเเละเงา-บทที่1 "เงามืดแห่งพันธสัญญา",Heaven Fall's รักระหว่างเเสงเเละเงา-บทที่2 "การเริ่มต้นใหม่ในโลกมนุษย์",Heaven Fall's รักระหว่างเเสงเเละเงา-บทที่3 "ความมืดของเรื่องราวที่ซ่อนไว้",Heaven Fall's รักระหว่างเเสงเเละเงา-บทที่4 "ความจริงที่ถูกเปิดเผย",Heaven Fall's รักระหว่างเเสงเเละเงา-บทที่5 "การเผชิญหน้าที่นำพาทั้งสองโลก",Heaven Fall's รักระหว่างเเสงเเละเงา-บทที่6 "ความมืดที่ถูกปลดปล่อยและการเผชิญหน้าครั้งใหม่",Heaven Fall's รักระหว่างเเสงเเละเงา-บทที่7 "สัญญาณแห่งชะตากรรม",Heaven Fall's รักระหว่างเเสงเเละเงา-บทที่ 8 "ชะตากรรมที่มิอาจหวนคืน: ศึกระหว่างสายเลือด",Heaven Fall's รักระหว่างเเสงเเละเงา-7.2 7.2 "ชะตากรรมที่มิอาจหวนคืน: ศึกระหว่างสายเลือด"

เนื้อหา

บทที่2 "การเริ่มต้นใหม่ในโลกมนุษย์"

เวลาล่วงเลยไป 4 ปี ในช่วงเวลาของโลกมนุษย์ หลังจากโลกปีศาจล่มสลาย… 


**โลกมนุษย์ วันที่ 18 กรกฎาคม ปี 2035**


ในเมืองอันเงียบสงบ ณ ห้องเล็กๆ เด็กชายคนหนึ่งกำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงที่เต็มไปด้วยหมอนนุ่มและผ้าห่มอุ่น แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านม่านบางๆ เสียงลมพัดเบาๆ จากภายนอกปลุกเขาขึ้นจากความฝันที่เต็มไปด้วยเงามืดและความสับสน ดวงตาสีฟ้าครามของเขาเผยออกพร้อมกับแววตาที่แฝงด้วยความเศร้าลึกๆ


"อืมม...ง้าววว..."


เขาบิดขี้เกียจพร้อมอ้าปากหาว ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง ท่าทางเหมือนแมวตื่นนอน พลางใช้มือแตะบริเวณศีรษะของตัวเอง


"ให้ตายสิ… ฝันถึงเรื่องนั้นอีกแล้วงั้นเหรอ..."


น้ำเสียงแผ่วเบาบ่งบอกถึงความรู้สึกเหนื่อยล้า ขณะที่มือลูบปลอกคอที่มีกระพรวนเล็กห้อยอยู่ เสียงกิ๊งๆ ดังเบาๆ ราวกับเตือนให้เขานึกถึงอะไรบางอย่าง จากนั้นเขาขยี้แก้มเบาๆ ราวกับจะปลุกตัวเองให้ตื่นเต็มตา ใบหน้าใสซื่อของเขาเต็มไปด้วยเสน่ห์ราวกับแมวตัวน้อยที่กำลังทำความสะอาดขน


อากาศเย็นยะเยือกของยามเช้าทำให้เขาขดตัวอีกครั้ง


"โห… หนาวขนาดนี้ ฉันไม่อยากอาบน้ำเลยแฮะ..."


เขาบ่นพึมพำพลางเดินไปที่หน้าต่าง มือเปิดม่านและบานหน้าต่างออก แสงอาทิตย์แรกของวันสาดเข้ามาในห้อง ทอประกายอ่อนโยนกระทบโต๊ะเขียนหนังสือที่จัดเรียงอย่างเรียบร้อย


สายตาของเขาจับจ้องไปยังวัตถุที่ห่อด้วยผ้าสีดำที่วางอยู่มุมห้อง เด็กชายยิ้มบางๆ ก่อนพึมพำเสียงแผ่ว


"ท่านพ่อ.. ท่านแม่… อรุณสวัสดิ์ขอรับ"


น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว ก่อนที่เขาจะหันไปมองรูปถ่ายในกรอบไม้ที่ตั้งไว้


"อรุณสวัสดิ์...ท่านพี่ทุกคน"


หลังจากกล่าวคำทักทาย เขาเริ่มจัดการกิจวัตรประจำวันตามปกติ เปลี่ยนเป็นชุดนักเรียนมัธยมปลายอย่างเรียบร้อย และนั่งลงที่โต๊ะอาหาร หยิบขนมปังปิ้งและนมจากตู้เย็นมารับประทาน


*ติ๊ง*


หน้าต่างข้อความสีฟ้าเรืองแสงปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา


**ระบบแจ้งเตือน**


*ขณะนี้เวลา 07:15 น. อุณหภูมิ 14 องศาเซลเซียส ช่วงเวลา 09:00-12:00 น. ท้องฟ้าแจ่มใส


คำเตือน: คาดการณ์ว่ามรสุมจากทิศตะวันออกเฉียงใต้จะเข้าสู่พื้นที่ในเวลา 14:00 น. กรุณาเตรียมตัวและปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัย*


เขาหยุดชะงักขณะนั่งมองหน้าต่างแจ้งเตือนนั้น ก่อนกัดขนมปังคำสุดท้ายและพึมพำเบาๆ


"มรสุมเหรอ... แต่คงทันไปงานพิเศษอยู่ล่ะมั้ง...นะ"


ในโลกมนุษย์นี้ ทุกคนสามารถมองเห็น "หน้าต่างสเตตัส" (Status) ที่ปรากฏขึ้นพร้อมข้อมูลส่วนตัว เช่น พลังชีวิต (HP) พลังมานา (MP) ค่าความทนทาน (DEF) และสกิล (Skill) ที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน หน้าต่างนี้ยังมีข้อมูลเสริมอย่างช่องเก็บของและเลเวลที่บ่งบอกความสามารถโดยรวม มันคล้ายกับเกมออนไลน์ที่มนุษย์เรียกกัน แต่ต่างกันตรงที่...มันคือของจริง


"ถึงแม้จะไม่เหมือนหน้าต่าง UI ของฝั่งโลกปีศาจก็เถอะ... เเต่ว่าโลกมนุษย์นี่ทั้งโหดร้ายและงดงามในเวลาเดียวกันจริงๆ....ไม่ต่างจากโลกปีศาจ"


ในเช้าวันนั้น ขณะที่เขากำลังเดินไปโรงเรียนที่ชื่อ "ฮารุมิยะ" โรงเรียนที่เปิดรับเผ่าพันธุ์หลากหลาย เด็กสาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามาทักด้วยรอยยิ้มสดใส


"อ๊ะ! คุณโอมิกะ! อรุณสวัสดิ์ค่ะ!"


น้ำเสียงร่าเริงและบุคลิกเป็นมิตรของเธอทำให้เขาหยุดเเล้วหันไปมอง  เด็กสาวผู้นั้นคือเผ่าไลฟ์เอลฟ์ (Light Elf) ด้วยลักษณะเด่นอย่างหูยาวที่เป็นเอกลักษณ์ เธอเป็นเผ่าพันธุ์ที่เชี่ยวชาญเวทย์มนต์ธาตุแสง และยังสามารถใช้เวทย์บรรพกาลของเผ่าพันธุ์ตัวเองได้ จุดกำเนิดของเธอมาจากดินแดนเทวะ "Dawnshard Expanse" อาณาเขตแห่งสุริยันที่ปกครองโดยเทพีแห่งแสงอาทิตย์ *ลูมิน่า*


เธอคือเด็กสาวที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ในอดีต—ในวันที่ฟ้าฝนร่วงโรยอย่างหนักเมื่อ 4 ปีก่อน... *ในช่วงเวลาของโลกมนุษย์*


ในช่วงเวลาของโลกมนุษย์ เด็กหญิงที่มีดวงตาสีเขียวบริสุทธิ์และใบหน้าเปล่งประกายสดใสกำลังวิ่งกลับบ้านอย่างมีความสุข ทันใดนั้น เธอพบกับเด็กชายคนหนึ่งในตรอกที่มืด เด็กชายคนนั้นมีลักษณะเหมือนแมว ร่างกายมอมแมม มีดวงตาสีฟ้าบริสุทธิ์ หูและหางเหมือนแมว เขาสวมเสื้อคอกลมสีเขียวมรกต ทับด้วยเสื้อโค้ทคลุมฮูดสีแดง ทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยบาดแผลและรอยขาดคล้ายเกิดจากการต่อสู้ เขาหายใจโรยริน และดูเหมือนสติใกล้จะเลือนลาง แต่เขายังมองเด็กหญิงด้วยแววตาเฉยเมยก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้น


เด็กหญิงหยุดมองชั่วครู่ก่อนตัดสินใจวิ่งเข้าไปช่วยเหลือเด็กชาย


“นี่เธอน่ะ... ชื่ออะไรเหรอ?” เธอถามด้วยใบหน้าใสซื่อและร่าเริง


“โอมิ... โอมิกะ อากิระ...” เด็กชายตอบอย่างแผ่วเบาและอ่อนแรง


“งั้นสินะ... ชื่อกิระคุงใช่ไหม? เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอเอง ไม่ต้องกลัวนะ ฉันไม่ทำร้ายเธอหรอก” เธอยิ้มอย่างจริงใจ


เด็กหญิงพาเด็กชายที่หมดสติกลับไปยังบ้านของเธอ โดยปิดเรื่องนี้เป็นความลับจากครอบครัว


---


เด็กชายฟื้นขึ้นมาในห้องเก็บของเล็ก ๆ ที่แสงสลัว เขารู้สึกมึนงงเมื่อพบว่าบาดแผลของเขาถูกทำแผล และเสื้อผ้าถูกเปลี่ยนใหม่


“ไงจ๊ะ ตื่นแล้วเหรอ กิระคุง? นายหลับไปตั้งสามวันแน่ะ คิดว่าจะตายไปซะแล้ว...” เด็กหญิงกล่าวด้วยน้ำเสียงสดใส พร้อมนำสำรับอาหารและน้ำมาให้


เด็กชายมองสำรับอาหารอย่างไม่ไว้ใจ แต่เมื่อเด็กหญิงกินให้ดูเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ เขาก็เริ่มทานอาหารอย่างหิวโหย


“ว่าแต่นายเป็นเผ่าพันธุ์อะไร แล้วทำไมถึงไปอยู่ในตรอกนั้นได้ล่ะ?” เด็กหญิงถามด้วยความสงสัย


เด็กชายเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะตอบ “เผ่า Divine Feline (แมวเทวะ) น่ะ... ฉันถูกเนรเทศเพราะทำผิดกฎของสรวงสวรรค์”


เด็กหญิงพยักหน้าเข้าใจและเสนอให้เขาซ่อนตัวในห้องเก็บของชั่วคราว เธอสัญญาว่าจะหาทางช่วยเขา


“นี่เธอ... ไม่กลัวฉันเหรอ?” เด็กชายถามด้วยความแปลกใจ


“ทำไมต้องกลัวล่ะ? นายไม่ใช่ปีศาจสักหน่อยนี่นา” เธอตอบอย่างใสซื่อ พร้อมหัวเราะเบา ๆ “ถึงพ่อแม่จะเคยเล่าเรื่องเผ่าปีศาจให้ฟัง แต่ตอนนี้โลกปีศาจก็ล่มสลายไปแล้วล่ะ!”


“ว่าไงนะ!? โลกปีศาจล่มสลายเเล้วจริงเหรอ?” เด็กชายถามอย่างลุกลี้ลุกลน


เด็กหญิงอธิบายว่าหลังจากเจอเขาได้สองสามวัน เธอได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้พอดี เด็กชายจึงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนเก็บงำบางสิ่งในใจ


---


ต่อมา เด็กหญิงพาเขาไปฝากงานที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของคนรับใช้ตระกูลของเธอ เพื่อให้เขามีที่อยู่เเละเลี้ยงดูตัวเองโดยไม่เป็นที่สังเกต หลังจากนั้น ชีวิตของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป  


*ช่วงเวลาปัจจุบัน* ทั้งเด็กชายและเด็กสาวเดินเข้ามาในโรงเรียนฮารุมิยะพร้อมกัน พวกเขาเก็บสัมภาระไว้ในตู้ล็อกเกอร์ของตัวเองและเปลี่ยนรองเท้าตามระเบียบ ก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียน เด็กสาวยิ้มสดใสพร้อมเอ่ยว่า


"นี่ กิระคุง! พักกลางวันมาเจอกันที่โรงอาหารนะ ชั้นจะรอ!"


"เข้าใจแล้วครับ คุณลูมิ" เด็กชายตอบเสียงเรียบ


ขณะที่กิระกำลังจะเดินไป เขาถูกผลักชนล็อกเกอร์อย่างแรงจนบาดเจ็บ ชายร่างใหญ่ที่ทำเช่นนั้นคือเซ็ต เผ่าโอเกอร์ และคูรอน เผ่าออร์ค ทั้งสองเป็นนักเรียนที่ชอบใช้อำนาจร่างกายข่มเหงผู้อื่น


"เฮ้ ไอ้โอมิกะ! ได้ข่าวว่าสนิทกับคุณลูมิเรสมากเลยนี่? แนะนำชั้นให้รู้จักเธอหน่อยสิ ฮ่าๆๆ!" เซ็ตพูดพลางหัวเราะเยาะ


กิระที่ร่างกายเล็กกว่ามากพยายามนิ่งเฉย "ขอโทษทีนะครับ รุ่นพี่เซ็ต รุ่นพี่คูรอน ผมต้องขอตัวไปเรียนแล้ว"


แต่คำพูดของเขากลับถูกเมิน เซ็ตจับเขาฟาดกับล็อกเกอร์และต่อยหน้าเต็มแรง "เฮ้ย! นี่แกกำลังล้อเล่นอยู่หรือไง!"


ในขณะนั้น เสียงก้องดังขึ้นจากโถงทางเดิน


"หยุดเดี๋ยวนี้นะคะ! รุ่นพี่เซ็ตกับรุ่นพี่คูรอน ถ้าไม่หยุด ชั้นจะฟ้องอาจารย์ชิโนะจริงๆ ด้วย!"


เสียงเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นอย่างหนักแน่นจนทั้งเซ็ตและคูรอนต้องยอมล่าถอยไปด้วยความละอาย


"ชิ! โชคดีไปนะ ไอ้โอมิกะ!"


เด็กสาวที่เข้ามาช่วยเหลือกิระคือ ฮานะ ฮิคาริ หัวหน้าห้องผู้เป็นเผ่าภูติแห่งวารี เธอรีบวิ่งเข้ามาดูอาการเขา


"ขอบคุณมากนะครับ คุณฮิคาริ "


"ชั้นบอกแล้วไงว่าเรียกแค่ฮานะก็พอ หรือจะเรียกหัวหน้าห้องก็ได้! นายเจ็บมากไหมนั่น?" เธอถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง


"ไม่เป็นไรครับ แค่เลือดกำเดาไหลเอง" กิระยิ้มเจื่อน


"นายควรไปห้องพยาบาลก่อนนะ เหลือเวลาอีกตั้ง 10 นาที"


"ไม่เป็นไรครับ ผมไหว"


"งั้นก็ตามใจ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ เรียกชั้นได้นะ ชั้นจะพาไปเอง" ฮานะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน


เมื่อทั้งสองเดินเข้าห้องเรียน ฮานะเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา "ให้ตายสิ กิระคุง นายควรจะสู้กลับบ้างนะ! โดนยำอยู่แบบนี้น่าสมเพชเกินไปแล้ว!"


"ขอโทษครับที่ผมอ่อนแอ" กิระตอบเสียงเบา


ฮานะถอนหายใจ ก่อนจะโยนผ้าเช็ดหน้าให้ "เอาไปเช็ดเลือดซะ! ใช้เสร็จแล้วซักมาคืนด้วย ชั้นมีแค่ผืนเดียว!"


เธอพูดพลางเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเองอย่างหงุดหงิดแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง


เมื่อคาบเรียนเริ่ม อาจารย์ชิโนะ นาโฮะกะ ทักทายนักเรียนอย่างกระตือรือร้น แต่เมื่อเห็นกิระ เธอก็เอ่ยถามด้วยความห่วงใย


"โอมิกะคุง เธอไหวไหม? ไปห้องพยาบาลก่อนก็ได้นะ"


"ไม่เป็นไรครับอาจารย์ ผมสบายดี"


เสียงซุบซิบของนักเรียนในห้องดังขึ้น


"ดูหมอนั่นสิ อ่อนแอชะมัด"


"คนแบบนั้นจะมาทำไม..."


กิระฟุบหน้าลงกับโต๊ะ คิดในใจอย่างเหนื่อยหน่าย


*(เสียงในใจ)* "ให้ตายสิ...ไร้สาระกันจริงๆ"


เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน เสียงของลูมิเรสดังขึ้น


"นี่! กิระคุง ทางนี้!"


กิระเดินไปนั่งที่โต๊ะตามเสียงเรียก ลูมิเรสยิ้มอ่อนโยนและยื่นอาหารให้เขา "นี่ กินนี่สิ!"


"คุณลูมิไม่กินเหรอครับ?"


"ชั้นไม่กิน เดี๋ยวอ้วน ถ้าอ้วนขึ้นจะไม่ได้เป็นเจ้าสาวในฝัน!" เธอพูดพลางหัวเราะเบาๆ


กิระถอนหายใจ "คุณลูมิ หยิบมาเองไม่ใช่เหรอครับ? รับผิดชอบด้วยนะครับ"


ขณะนั้น เขารู้สึกปวดหัวและเห็นภาพอดีตที่พรั่งพรูขึ้นมา...


แต่เสียงเรียกของลูมิเรสดึงเขากลับมา "กิระคุง เป็นอะไรหรือเปล่า?"


ก่อนที่บทสนทนาจะดำเนินต่อ ฮานะเดินมาพร้อมถาดอาหาร "นี่ โอมิกะคุง ชั้นขอนั่งด้วยได้ไหม?"


"ได้สิครับ หัวหน้าห้อง"


หลังจากพูดคุยสักพัก กิระลุกขึ้นและเดินออกไปจากโต๊ะ ท่ามกลางสายตาอิจฉาของคนในโรงอาหารที่ซุบซิบไม่หยุด


(เสียงซุบซิบ) "ทำไมหมอนั่นถึงได้สนิทกับคุณลูมิเรสกับคุณฮิคาริขนาดนั้น?"


ในขณะที่ทั้งสองสาวมองกิระเดินจากไป เด็กสาวผมสีทองประกายมองเพื่อนสาวเผ่าเอลฟ์ผมขาวด้วยสายตาลังเล ก่อนจะถามออกมาอย่างไม่มั่นใจนัก"คุณฟอลเรส...ชอบโอมิกะคุอย่างนั้นหรอค่ะ!? "


“บะ...บะ...บ้าแล้ว! ฉันไม่ได้ชอบเขาสักหน่อยนะ…แค่...บะ...บะ...แบบว่า เห็นเขานิสัยแบบนั้นแล้วรู้สึกว่าเขาเท่ดี...นิดหน่อย”


เธอตอบด้วยน้ำเสียงสั่นไหวและเต็มไปด้วยความเขินอาย ดวงหน้าร้อนผ่าว  เด็กสาวผมสีทองยิ้มบาง ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นที่แฝงความท้าทาย “งั้นเหรอคะ? ถ้างั้น...ฉันเองก็ยอมแพ้ไม่ได้แล้วล่ะค่ะ! ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะ”


เธอลุกขึ้นจากที่นั่ง ปล่อยให้เด็กสาวเผ่าเอลฟ์ผมขาวได้แต่มึนงงอยู่เพียงลำพัง


---


เวลาหลังเลิกเรียน เด็กชายมาถึงล็อกเกอร์ของตนเอง หยิบสัมภาระและเปลี่ยนรองเท้าอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะก้าวออกจากตึกเรียนด้วยท่าทีสงบนิ่ง


ที่ชั้นบน เด็กสาวเผ่าเอลฟ์ผมขาวมองดูแผ่นหลังของเขาที่กำลังเดินจากไป คำพูดของเด็กสาวผมสีทองยังคงดังก้องในหัว


“นี่คุณฟอลเรส! ชอบโอมิกะคุงงั้นเหรอคะ? ถ้างั้นฉันเองก็ยอมแพ้ไม่ได้แล้วล่ะค่ะ!!” น้ำเสียงของเธอหนักแน่นและจริงจัง


“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อยนะยะ! ฉันก็แค่พูดในมุมของเพื่อนสาวที่คอยช่วยเหลือกันเองนะยะ!”


น้ำเสียงโวยวายของเด็กสาวเผ่าเอลฟ์ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ดึงดูดความสนใจจนเสียงในห้องที่วุ่นวายเงียบลง


“ขะ...ขะ...ขอโทษค่ะ” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นด้วยความเขินอาย ใบหน้าขึ้นสี


---


ขณะเดินทางไปทำงาน เด็กชายพึมพำกับตัวเองเบาๆ “อืม...เหมือนจะทันก่อนมรสุมเข้าพอดี โชคดีจริงๆ”


แต่จู่ๆ ลำแสงสีขาวบริสุทธิ์พุ่งเข้าหาด้านข้างของเขา เด็กชายหลบได้ทันก่อนลำแสงนั้นจะตามมาจากด้านหน้าอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้มีดาบคาตานะเล่มหนึ่งฟาดฟันเข้ามาจากด้านหลัง พร้อมหอกแสงที่พุ่งมาปะทะร่างจนเกิดการระเบิดเสียงดัง ฝุ่นควันฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ


เด็กชายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นและแฝงความเหนื่อยหน่าย “เป็นการโจมตีที่ดี...แต่ยังช้าไปนิด และอ่านทางง่ายไปหน่อย...จะไม่ออกมาเจอกันตรงๆ หน่อยเหรอ?”


เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังร่างเพรียวบางของเด็กสาวคนหนึ่งที่ปรากฏบนท้องฟ้า เธอมีปีก2คู่สีขาวบริสุทธิ์ สีหน้าสงบนิ่งและเยือกเย็น น้ำเสียงหนักแน่นกล่าวขึ้น


“แกคือปีศาจที่ฉันต้องจับเป็นสินะ ถ้าขัดขืน ฉันจะจับตาย”


เด็กชายแค่นหัวเราะ “ไม่รู้สิ...ไม่เคยมีใครเข้ามาโจมตีทีเผลอแบบนี้มาก่อนเลยนะ หรืออาจจะมีกันนะ...?”


สิ้นคำ ลำแสงสายฟ้าฟาดก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง


**เสียงประกาศ**


“ใช้งาน Extra Skill Thunderstrike Flash (แสงสายฟ้าฟาด)”


ร่างของเด็กชายถูกตัดขาดเป็นสองท่อน เด็กสาวเก็บดาบเข้าฝักด้วยท่าทีเรียบเฉย


“ภารกิจเสร็จสิ้น...ง่ายกว่าที่คิด”


เธอหลับตาลง แต่เพียงเสี้ยววินาที เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง


“ก็เคยบอกแล้วนี่...ว่าการโจมตีน่ะมันทื่อไป”


เด็กสาวหันขวับไปมอง ภายใต้เงาในฝุ่นควัน เด็กชายยืนพิงเสาไฟฟ้า ดวงตาสีฟ้าสว่างจ้า รูม่านตาบีบเล็กราวกับปีศาจ


“เงาติดตา...?” เด็กสาวพึมพำอย่างตกใจหลังจากหันไปมองร่างที่ขาดเป็นสองท่อนของเด็กหนุ่ม


เด็กชายเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงแฝงความขบขัน “แค่ Basic Skill ของปีศาจ...Liquid Mirage (เงาติดตากระจกวารี)”


เด็กสาวกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ ก่อนเสียงคำสั่งดังขึ้นในหัว “ถอยกลับมา ตัวเจ้าในตอนนี้ยังเอาชนะปีศาจตนนั้นไม่ได้”


เธอถอยหลัง ก่อนจะพูดทิ้งท้าย “ครั้งหน้า...เจ้าไม่มีโอกาสหายใจแบบนี้อีกแน่”


เธอหายวับไปพร้อมลำแสงจากฟากฟ้า


เด็กชายถอนหายใจ พลางพึมพำเบาๆ “ปีกกับเเสงเเบบนั้น...ทูตสวรรค์งั้นเหรอ...?”


เขาก้มลงปรากฎบาดแผลที่แก้ม ก่อนเผยรอยยิ้มเย็นชา คำพูดดังก้องในจิตใจ


“ไอ้ทูตสวรรค์ตนนั้น...ถ้าเจอกันอีกเมื่อไหร่ ฉันจะฆ่าแก!”


น้ำเสียงของเด็กชายสั่นสะท้านไปด้วยความเย็นยะเยือก เขาพูดออกมาอย่างเต็มไปด้วยความเคียดแค้นจากอดีต ดวงตาสีฟ้านัยต์ตาเริ่มบีบเล็กลงอีกครั้ง ขณะที่เขี้ยวยาวขึ้น มือที่กำแน่นจนเนื้อในขยุ้มแน่น โลหิตเริ่มไหลออกมา—ความเกลียดชังในตัวเขาไม่อาจหักห้ามได้...


_________________________________________

**ข้อมูลเพิ่มเติมจากตอนที่2**

"การเริ่มต้นใหม่ในโลกมนุษย์


1. ไลฟ์เอลฟ์ (Life Elves)


ไลฟ์เอลฟ์เป็นเผ่าที่เชี่ยวชาญด้านการใช้เวทมนตร์ธรรมชาติ และมักอาศัยอยู่ในป่าใหญ่หรือพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ พวกเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตในนั้น


พวกเขามีร่างกายที่แข็งแรงและทนทานต่อสภาพแวดล้อม แต่ยังคงมีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ดี


มักมีผิวสีเขียวหรือสีน้ำตาลเข้ม ผมยาว และมีหูแหลม


ไลฟ์เอลฟ์ใช้พลังธรรมชาติในการรักษาและเสริมพลังให้แก่เพื่อนร่วมเผ่าหรือสภาพแวดล้อม

_________________________________________


2. ภูติวารี (Water Spirits)


ภูติวารีเป็นภูติที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำ ทะเลสาบ หรือทะเล


พวกเขามักมีรูปร่างเป็นมนุษย์ แต่สามารถเปลี่ยนรูปร่างไปตามน้ำได้


มีความสามารถในการควบคุมและใช้พลังน้ำในการโจมตีหรือป้องกัน


ภูติวารีเป็นเผ่าที่มีความลึกลับและมีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับธรรมชาติของน้ำและการไหล

_________________________________________


3. อ๊อค (Ogres)


อ๊อคเป็นเผ่ามนุษย์ขนาดใหญ่ มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ แต่มีความแข็งแรงมากกว่ามาก


พวกเขามักเป็นนักรบที่มีพลังมหาศาล และใช้พลังในการต่อสู้หรือทำลายล้าง


อ๊อคมีผิวที่แข็งแกร่ง และมักจะมีรูปร่างที่ดูดุร้ายและน่าเกรงขาม


พวกเขามักอาศัยในถ้ำหรือพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเผ่าอื่นๆ

_________________________________________

4. โอเกอร์ (Ogres)


โอเกอร์มีลักษณะคล้ายกับอ๊อค แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่าและมีความดุร้ายมากขึ้น


พวกเขามักเป็นผู้คุมอาณาเขตของตนเอง และมีพลังในการต่อสู้สูง


โอเกอร์เป็นเผ่าที่มีการใช้พลังทางกายภาพในหลายรูปแบบ และมีความทนทานต่อการโจมตี



(=^・ェ・^=)