ฝันของเธอและเขา ให้ลมหายใจของเขาสดใสดั่งภาพวาด ให้เธออยู่ยืนยาวดั่งเรื่องเล่าในหนังสือ หากจำเป็นต้องพรากจากกันให้ความรักนั้นเป็นนิรันดร์ดั่งโรสแมรี่

รักดั่งฝัน You me and rosemary - 0 บทนำ โดย กระจ้อยร่อย @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ครอบครัว,เศร้า,วัยว้าวุ่น,วัยทำงาน,วัยรุ่น,สนุกเฮฮา,รักมหาลัย,รักต่างวัย,รักดราม่า,รัก,โรแมนติก ,โรแมนติค ,โรแมนติก,โรแมนซ์,romantic,ดรามา,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

รักดั่งฝัน You me and rosemary

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เศร้า,วัยว้าวุ่น,วัยทำงาน,วัยรุ่น,สนุกเฮฮา,รักมหาลัย,รักต่างวัย,รักดราม่า,รัก,โรแมนติก ,โรแมนติค ,โรแมนติก,โรแมนซ์,romantic,ดรามา,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า

รายละเอียด

รักดั่งฝัน You me and rosemary โดย กระจ้อยร่อย @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ฝันของเธอและเขา ให้ลมหายใจของเขาสดใสดั่งภาพวาด ให้เธออยู่ยืนยาวดั่งเรื่องเล่าในหนังสือ หากจำเป็นต้องพรากจากกันให้ความรักนั้นเป็นนิรันดร์ดั่งโรสแมรี่

ผู้แต่ง

กระจ้อยร่อย

เรื่องย่อ

สารบัญ

รักดั่งฝัน You me and rosemary-0 บทนำ

เนื้อหา

0 บทนำ

บทนำ


แสงร่ำไรจากเมืองที่ไม่เคยหลับใหลส่องผ่านหน้าต่างกระจกริมระเบียงเข้ามาในห้องนอน หากไร้ซึ่งเสียงเครื่องปรับอากาศ ภายในห้องก็คงเงียบสนิทไม่ต่างอะไรจากถ้ำกลางป่า เสื้อผ้าชุดเก่ากระจัดกระจายอยู่บนเตียง กลิ่นไหม้อ่อนๆ ลอยคละคลุ้งไปทั่วห้อง


สูดหายใจเข้าจนเต็มปอด โยนสูทสีกรมลงบนพื้นแล้วคว้าซองบุหรี่หัวเตียงมุ่งตรงไปที่ริมระเบียง ไฟปลายบุหรี่ถูกจุด เมื่อหายใจเข้าร่างกายหนักอึ้งก็พลันเบาลงความเครียดที่สะสมมาตลอดหลายชั่วโมงถูกปล่อยออกไปพร้อมกับควันสีขาวที่ลอยหายไปในอากาศ จากชั้นยี่สิบห้าสามารถมองเห็นเมืองทั้งเมืองได้ ทว่าทิวทัศน์ตรงหน้าต่อให้สวยงามแค่ไหน เมื่อนานไปก็หลงเหลือเพียงความเบื่อหน่าย


เมื่อกลิ่นบุหรี่ในคอจางหายไป ภาพ แสง สี เสียง อันวุ่นวายก็แล่นเข้ามาในหัว งานเลี้ยงจอมปลอมที่เต็มไปด้วยถ้อยคำและสีหน้าเสแสร้งของผู้คนที่กินอำนาจเป็นของว่าง รอยยิ้มพวกนั้นจืดชืด เฝ้าพ่นบทพูดที่ถูกตระเตรียมมาอย่างดี เสียงดนตรีต่อให้สนุกสนานแค่ไหนผู้คนเหล่านั้นกลับไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเลยแม้แต่น้อย บรรยากาศเหล่านั้นช่างน่ารังเกียจ สายตาของผู้คนคอยตีคุณค่าทุกอากัปกิริยาราวกับเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งบนกระดานเกมการเมือง


หากทำตัวดีก็มีชัยได้ทั้งใจทั้งอำนาจ หากทำตัวผิดเหมือนอย่างผมก็ต้องจมสู่ขุมนรกที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ริมฝีปากเหี่ยวย่นคอยต่อว่า ด่าทอสารพัด ชีวิตนกในกรงทองที่ถูกตัดปีกมันทรมานเกินบรรยาย จะบินหนีก็ไม่ได้ จะหายไปก็หวาดกลัว ผลสุดท้ายจึงได้แต่ต้องข่มใจยอมรับและเผชิญหน้าให้แต่ละวันผ่านพ้นไปก็เท่านั้น


นานวันเข้า ความเจ็บปวดเหล่านั้นก็ตกผลึกกลายเป็นความคิดที่อยากจะลบตัวเองให้หายไปโลกใบนี้ นั่นเป็นเพียงหนทางเดียวที่จะหนีออกจากวังวนชีวิตนี้ได้ อยากหายตัวไป แม้กระทั่งยมบาลก็ตามไม่เจอ


ความรู้สึกในใจเรียกร้องให้น้ำตาไหลออกมา ทว่ามันกลับเหือดแห้งไปในพริบตา เหลือเพียงความเจ็บปวดที่อัดอั้นอยู่ในอก เพียงแค่คิดว่าพรุ่งนี้ยังคงต้องตื่นมาใช้ชีวิตในโซ่ตรวนนี้อีกครั้งก็อยากจะเอามีดปาดคอตัวเองให้ตายเสียเดี๋ยวนี้


ควันบุหรี่ลอยหายไปครั้งแล้วครั้งเล่า ซองบุหรี่ว่างเปล่า สายลมเย็นเยือกพัดผ่านข้างแก้ม เมื่อก้มลงมองพื้นด้านล่างจึงถึงตระหนักได้ว่ามันสูงจนน่ากลัว หากกระโดดลงไปจากตรงนี้คงสามารถหายไปจากโลกนี้ได้ในพริบตา ทว่าปัญหาจะตกไปอยู่ที่คนดูแลสวน หรือไม่ก็แม่บ้านทำความสะอาดของคอนโด แบบนั้นคงไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่


แต่คนตาย...จะสนใจเรื่องความยุติธรรมไปทำไม ยังไงก็มีเงินจ่ายค่าทำความสะอาดเหลือเฝือ


สองมือกำระเบียงเหล็กแน่น ความคิดมากมายสลับหมุนวนอยู่ในหัว ทว่าเมื่อหลับตาลงสายลมเย็นก็หอบเอากลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาสัมผัสปลายจมูก กลิ่นอวลปริศนาที่ทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก เมื่อหันมองระเบียงห้องข้างๆ ก็เห็นพุ่มไม้ขนาดย่อมกำลังไสวตามแรงลม


เพียงเสี้ยววินาทีต้นไม้ปริศนานั้นก็ผลักไสทุกความคิดของผมให้หายไป ขณะจ้องมองด้วยความสงสัย เสียงฮัมเพลงเบาๆ ก็ลอยออกมาจากในห้อง ผมทรุดลงนั่งพิงข้างผนัง เฝ้าฟังเสียงนั้นพลางนึกในใจว่ามันเหมือนกับเพลงในงานกีฬาสี มีจังหวะดนตรีคลออยู่จางๆ ทว่าเจ้าของเสียงร้องนั้นกลับไม่สนใจสักเท่าไหร่


ร้องผิดจังหวะ เสียงแหบแห้ง แต่ถึงอย่างนั้นกลับรับรู้ได้ว่าเจ้าของเสียงมีความสุขมากแค่ไหน อย่างไรเสียมันก็ดีกว่าเสียงที่ถูกปั้นแต่งขึ้นเหมือนอย่างในงานเลี้ยงวันนี้เป็นไหนๆ ไร้ความเสแสร้ง ไร้เจตนาแอบแฝง


เมื่อบทเพลงแรกจบไป ผมคล้อยตาหลับลงกระทั่งบทเพลงใหม่เริ่มขึ้นในเวลาไม่นาน ร่างกายที่หอบความเหนื่อยล้ามาตลอดทั้งวันค่อยๆ จมลงสู่การหลับใหลโดยที่เสียงร้องผิดคีย์นั้นยังคงก้องอยู่ข้างหู




ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ...