ไม้ประดับแล้วอย่างไร ต่อไปข้าจะเฉิดฉายให้เห็นเป็นบุญตา

เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ - ตอนที่ 5 เปิดตัวระบบผู้ช่วย โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,เกิดใหม่,ครอบครัว,ปลูกผัก,ชาย-หญิง,คุณหนูไม้ประดับ,นิยายรักจีนโบราณ,เกิดใหม่,ครอบครัว,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,เกิดใหม่,ครอบครัว,ปลูกผัก,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

คุณหนูไม้ประดับ,นิยายรักจีนโบราณ,เกิดใหม่,ครอบครัว

รายละเอียด

เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไม้ประดับแล้วอย่างไร ต่อไปข้าจะเฉิดฉายให้เห็นเป็นบุญตา

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

เมื่อนักแสดงนางร้ายเบอร์ต้นทั้งนอกจอและในจอต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยอุบัติเหตุจากความประมาทของทีมงาเธอก็ไปแสดงอภินิหารปากแจ๋วจนยมทูตและยมบาลลามไปยังเทพโชคชะตาผายมือเปิดทางให้ได้ไปเกิดใหม่แต่มีเงื่อนไขที่ต้องช่วยเหลือผู้คนเพื่อสั่งสมความดีให้กับดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับที่ตนเองจะไปอาศัยอยู่ในร่างนั้นคือคุณหนูผู้อ่อนแอและค่อนข้างจะโง่เขลา เป็นบุตรสาวที่บิดาหมางเมินแถมยังหาเรื่องจะหย่าขาดจากมารดาของนางอยู่ทุกวี่ทุกวัน

แต่ไหนๆ ได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งจะให้มามือเปล่ามันก็ออกจะธรรมดาไปงานนี้นอกจากความมั่นหน้าที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดแล้วเธอยังได้รับระบบผู้ช่วยอัจฉริยะที่ปากแจ๋วๆ พอๆ กันมาเป็นสูตรลัดกลโกงรอบด้านที่จะทำให้การใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ที่ต่างไปจากเดิมนั้นง่ายดายมากยิ่งขึ้น

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1.       ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2.       ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3.       หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 1 ถกเถียงไม่ไถ่ถาม,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 2 ตัวเลือก,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 3 บุตรสาวของข้าใครอย่าได้มารังแก,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 4 ตัดสินใจ,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 5 เปิดตัวระบบผู้ช่วย,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 6 เตรียมการค้าขาย,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 7 เตรียมการโค้งสุดท้าย,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 8 กลิ่นหอมยวนใจ,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 9 ขายดีกว่าที่คิด,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 10 อนุภรรยาผู้อาภัพ,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 11 ขึ้นเขาครั้งแรก ปลดเหรียญอ่านฟรี 3 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 10 มีนาคม 68

เนื้อหา

ตอนที่ 5 เปิดตัวระบบผู้ช่วย

การเดินทางมายังบ้านเดิมของท่านยายนั้นใช้เวลาเพียงสองวันก็มาถึงแล้วเพราะว่าเรือนหลังนี้นั้นอยู่ห่างจากเรือนของบิดาเพียงไม่กี่อำเภอแต่สำหรับเด็กสาวแล้วคิดว่ามันก็น่าจะไกลพอที่ทำให้คนทางนั้นไม่มาวุ่นวายหากพวกนางเกิดได้ดิบได้ดีในอนาคตโดยสิ่งแรกที่ท่านแม่พานางมาจัดการคือการย้ายตัวเองและผู้ติดตามให้เข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านใหม่ให้ถูกต้องเสียก่อนและสิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือทั้งเจี่ยฝูอันและเจี่ยจิ่งอันได้ย้ายกลับมาใช้สกุลวั่นอันเป็นสกุลเดิมของมารดาแล้วเรียบร้อย

“ท่านแม่มีร้านตำราอยู่ใกล้ๆ กับที่ว่าการอำเภอด้วยเจ้าค่ะ” สายตาของดรุณีน้อยกวาดมองสภาพแวดล้อมใหม่ด้วยความตื่นเต้นพลันสายตาก็ไปมองเห็นร้านตำราขนาดใหญ่จึงร้องเรียกมารดาให้ดู

“เจ้าอยากเข้าไปดูหรือไม่อันอันบ้านของท่านยายก็อยู่ในตรอกฝั่งตรงข้ามร้านตำรานั่นแหละ” เมื่อเห็นว่าอย่างไรแล้วรถม้าก็ต้องผ่านไปทางนั้นวั่นจิ่งอันจึงไม่ปฏิเสธหรือละเลยในความสนใจของบุตรสาว

“ลูกอยากเข้าไปดูเจ้าค่ะ” ร้านตำรานี่แหละเป็นแหล่งความรู้ของผู้คนสมัยนี้วั่นฝูอันอยากรู้ว่าเรื่องราวทั่วไปของยุคสมัยมันมีอะไรบ้างเพราะตำราที่เจ้าของร่างเคยอ่านส่วนมากจะเป็นตำราอาหารไม่ก็ตำราสมุนไพรแล้วก็ตำราของสตรีเกี่ยวกับการดูแลงานบ้านงานเรือน

“เชิญขอรับฮูหยิน คุณหนู เลือกดูได้ตามสบายแต่ถ้าหากมีตำราที่สนใจเป็นพิเศษแต่หาไม่พบก็สอบถามได้ขอรับ” มาถึงหน้าร้านตำราก็มีชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งแต่งกายด้วยอาภรณ์สีสว่างแต่ก็สบายตาเอ่ยต้อนรับทักทายด้วยความเป็นมิตร

“ข้าขอเดินสำรวจสักครู่นะเจ้าคะ” วั่นฝูอันตอบกลับด้วยความสุภาพเมื่อเห็นรอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลานางก็เข้าใจว่าเขาอนุญาตจึงขอให้มารดารออยู่ก่อน

ในระหว่างที่บุตรสาวไปเลือกดูตำราที่ตัวเองสนใจฝั่งมารดาก็ยืนสนทนากับบุรุษที่ออกมาต้องรับโดยมาทราบภายหลังว่าเขานี่แหละที่เป็นเจ้าของร้านตำราแห่งนี้อีกทั้งยังเป็นบุตรชายคนเล็กของท่านนายอำเภออีกด้วยนับว่าเป็นคนหนุ่มที่มีความคิดความอ่านดีมากคนหนึ่งจากการสนทนากันเพียงชั่วครู่

แม้การเดินจนทั่วร้านขายตำราจะไม่มีตำราใดที่วั่นฝูอันสนใจเป็นพิเศษแต่นางก็ได้กระดาษและชุดเครื่องเขียนติดมือกลับมาชุดใหญ่เพราะสิ่งนี้จำเป็นยิ่งนักในการเริ่มร่างแผนกิจการที่นางต้องการทำในอนาคตอันใกล้ซึ่งก่อนจะเดินทางมาทั้งวั่นฝูอันและมารดาได้มีการปรึกษากันคร่าวๆ แล้วว่าจะเปิดร้านขายอาหารแต่จะขายอะไรหรือเป็นร้านแบบไหนรอให้นางมาเห็นสถานที่จริงเสียก่อนจึงค่อยตัดสินใจกันอีกครั้งหนึ่ง

เรือนสินเดิมของท่านแม่หรือบ้านเดิมของท่านยายนั้นเป็นเรือนเดี่ยวมีพื้นที่กว้างขวางตั้งอยู่ในตรอกที่เป็นถนนสายรองของอำเภอโดยบริเวณนี้ยังนับว่ามีผู้คนพลุกพล่านด้วยอยู่ห่างจากตัวอำเภอและตลาดที่เป็นศูนย์กลางการค้าขายไม่ไกลนับว่าเป็นทำเลที่ไม่แย่สามารถทำการค้าขายที่หน้าบ้านได้เลยไม่ต้องไปหาเช่าพื้นที่ในการสร้างร้านให้สิ้นเปลือง

“คุณหนูไม่ต้องทำหรอกเจ้าค่ะเดี๋ยวข้ากลับมาจัดการให้เองนะเจ้าคะ” หูหว่านเถียนบอกกับคุณหนูของนางที่ทำท่าจะช่วยยกหีบข้าวของเข้าไปในเรือนด้วยตนเอง

“ช่วยกันเถอะพี่เถียนจะได้เสร็จเร็วๆ ข้าอยากออกไปสำรวจตลาดแล้วอยากรู้เหลือเกินว่าที่นี่จะมีอะไรอร่อยๆ ให้กินบ้าง” นอกจากไม่ฟังแล้วมือเล็กๆ ของคุณหนูยังไม่หยุดหยิบจับข้าวของแต่ก็ยังดีที่นางยังรู้จักหยิบแต่ข้าวของในหีบเล็กที่ไม่เกินกำลังของตนเอง

“ถ้าคุณหนูอยากช่วยจริงๆ ก็ช่วยเก็บข้าวของในห้องนอนของตัวเองดีกว่านะเจ้าคะของหนักๆ พวกนี้ให้ข้าจัดการเองเถอะ” อันที่จริงคุณหนูของนางไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้เลยก็ได้แต่ถ้าไม่ให้ช่วยก็คงจะไม่ยอมสาวใช้คนสนิทที่โตมาด้วยกันจึงรู้ทันและขอให้นางไปทำงานอย่างอื่นที่ไม่ได้ใช้แรงกำลังมากมายอะไรเพราะตัวคุณหนูเองเพิ่งหายป่วยมาได้ไม่เท่าไหร่

“เอาแบบนั้นก็ได้ข้าจะไปจัดการห้องของตัวเองส่วนพี่ก็ช่วยทุกคนจัดการส่วนอื่นไปนะเจ้าคะ” เมื่อแบ่งหน้าที่กันแล้วเรียบร้อยวั่นฝูอันก็แยกไปยังห้องนอนของตนเองที่ตอนนี้มีหีบข้าวของตั้งวางไว้อย่างเป็นระเบียบรอให้มาจัดการนี่ยังดีที่ท่านแม่หาคนมาทำความสะอาดเอาไว้ล่วงหน้าเมื่อมาถึงแล้วจึงเข้าอยู่ได้เลยไม่ต้องมาวุ่นวายทำความสะอาดกันให้เหน็ดเหนื่อยด้วยเรือนหลังนี้ไม่ได้มีคนอาศัยอยู่มานานมากแล้ว

ถึงจะไม่มีคนมาพักอาศัยแต่ท่านแม่ก็ไม่ได้ปล่อยให้เรือนรกร้างไปตามกาลเวลาหลังจากออกเรือนไปกับท่านพ่อไม่นานนางก็กลับมาที่เรือนหลังนี้เพื่อจัดการว่าจ้างคนมาดูแลทำความสะอาดเป็นรายเดือนแล้วก็จ้างติดต่ออย่างนั้นเรื่องมาจนกระทั่งถึงวันที่ย้ายกลับเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่อีกครั้ง

ในห้องนอนของวั่นฝูอันยังเป็นห้องโล่งๆ ที่มีเครื่องเรือนเพียงไม่กี่ชิ้นอีกทั้งบนเตียงยังไม่มีเครื่องนอนใดๆ เพราะต้องไปซื้อใหม่นางจึงเดินสำรวจห้องนี้ให้ถ้วนถี่ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะจัดวางอะไรไว้ที่ไหนบ้างทั้งข้าวของส่วนตัวของนางนั้นก็มีไม่มากจึงจัดได้ไม่ยากอะไรเพราะนอกจากเสื้อผ้ากับเครื่องประดับไม่กี่ชิ้นพวกตำราหรือเครื่องเขียนท่านแม่ก็จัดห้องข้างๆ เอาไว้ให้ไม่ได้อนุญาตให้นางเอางานมาทำในห้องนอน

“ว่าแต่ท่านตาบอกว่าจะแถมระบบผู้ช่วยรุ่นทดลองใช้มาให้นี่นา แล้วอยู่ตรงไหนกันล่ะเนี่ย เฮ้ ระบบผู้ช่วยอยู่ไหนนะ” ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้อยู่ตามลำพังจริงๆ หลังจากที่ฟื้นคืนสติมาวั่นฝูอันจึงคิดถึงเรื่องสำคัญตามข้อตกลงที่ท่านเทพแห่งโชคชะตารับปากก่อนที่จะตัดสินใจมาใช้ชีวิตเป็นเจี่ยฝูอันเอาไว้ได้แต่นอกจากจะคิดถึงแล้วเธอก็ยังส่งเสียงร้องเรียกเบาๆ ที่เกือบจะเป็นเพียงเสียงกระซิบ

“อ๊ะ” สิ้นเสียงร้องเรียกหาระบบผู้ช่วยก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้นตรงหน้าของวั่นฝูอันจนเมื่อนางกะพริบตาเบาๆ สองสามครั้งเพื่อปรับการมองเห็นถึงได้รู้ว่าตรงหน้าของตัวเองมีนกตัวเล็กๆ สีน้ำตาลบินวนไปมาอยู่

“สวัสดีเจ้าค่ะคุณหนูข้าคือระบบผู้ช่วยมีอะไรให้รับใช้เจ้าคะ”

“เดี๋ยวๆ จะมารับใช้อะไรกันล่ะเป็นเจ้าไม่ใช่เหรอที่ต้องเป็นฝ่ายแนะนำตัวและอธิบายว่าตัวเองช่วยเหลืออะไรข้าได้บ้างทำเหมือนในเกมออนไลน์น่ะรู้จักหรือเปล่า” เจอหน้ากันครั้งแรกก็เหมือนจะมีเรื่องให้วั่นฝูอันต้องปวดหัวนางจะมีอะไรไปใช้เจ้านกตัวจิ๋วตรงหน้าเล่าในเมื่อยังไม่รู้เลยว่าขีดจำกัดหรือความสามารถที่เจ้าตัวมีนั้นมันคืออะไร

“โอ๊ย ไม่ต้องตะโกนก็ได้เจ้าค่ะมันแสบแก้วหูอันที่จริงคุณหนูแค่คิดในใจก็ได้นะเจ้าคะไม่ต้องส่งเสียงออกมาเดี๋ยวผู้คนเขาจะหาว่าวิกลจริตเพราะไม่มีใครเห็นตัวข้าหรอกนอกจากท่านเพียงคนเดียว” เจ้านกตัวจิ๋วแต่ปากแจ๋วทำท่าเอาปีกแคะหูที่ไม่มีอยู่จริงทำเอาวั่นฝูอันรู้สึกหมั่นไส้แต่ก็เอ็นดูเพราะรู้สึกคล้ายกำลังมองเห็นตัวเองในขนาดย่อส่วน

“ได้ๆ แนะนำตัวเองหน่อยสิเจ้ารู้จักข้าแล้วใช่ไหมแต่ข้ายังไม่รู้จักเจ้าเลยนะ” เมื่อนกน้อยบอกให้พูดในใจเอาก็ได้วั่นฝูอันจึงไม่ลังเลเลยที่จะทำตามและนางก็พบว่าเจ้านกจิ๋วนี่เข้าใจสิ่งที่นางสื่อสารจริงๆ ด้วย

“ข้าเป็นระบบช่วยเหลือดวงวิญญาณรุ่นทดลองเจ้าค่ะหน้าที่ก็ช่วยอำนวยความสะดวกหรือว่าช่วยก็ชี้หนทางไปสู่เป้าหมายที่คู่วิญญาณของข้าต้องการด้วย อ้อ เรามีระบบสะสมแต้มบุญด้วยนะเจ้าคะแค่ทำภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายให้ผ่านแล้วแต้มบุญที่ว่าก็จะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของที่ต้องการได้ด้วยแต่ก็จะใช้ได้แค่กับสิ่งที่ไม่มีชีวิตเท่านั้น เช่นใบชา กาน้ำ เครื่องนอน เงินก็แลกได้นะเจ้าคะเพียงแต่ต้องสะสมแต้มบุญสูงสักหน่อย”

“ข้าเชื่อแล้วล่ะว่าเจ้าเป็นผู้ช่วยรุ่นทดลอง แต่ก็เอาเถอะคิดว่ามีเพื่อนเพิ่มอีกคนเป็นนกก็ดีเหมือนกัน” นั่งฟังเจ้านกน้อยระบบผู้ช่วยพูดวกไปวนมาไม่มีการจัดลำดับหรือเรียงหัวข้ออยู่นานสองนานวั่นฝูอันก็รู้แล้วว่าคงจะหวังพึ่งพาผู้ช่วยมือใหม่เป็นหลักไม่ได้อย่างแน่นอนแต่ไหนๆ สวรรค์ก็ส่งผู้ช่วยมาให้แล้วนางก็จะรับไว้แล้วใช้มันอย่างระมัดระวังก็แล้วกัน

“การทำภารกิจนี่มีเงื่อนไขยังไงบ้างเหรอช่วยอธิบายให้ฟังหน่อย ว่าแต่คุยกันมานานสองนานข้ายังไม่รู้จักชื่อเจ้าเลยนะไม่คิดจะแนะนำตัวสักหน่อยหรือ” ระหว่างที่คุยกับเจ้านกน้อยระบบผู้ช่วยในใจมือของวั่นฝูอันก็ยังคงทำงานจัดเก็บของใช้ส่วนตัวของตัวเองให้เรียบร้อยไปด้วยโดยนางเริ่มจากการจัดโต๊ะแต่งตัวก่อนเป็นอันดับแรก

“ไม่มีชื่อหรอกเจ้าค่ะก็ข้าเพิ่งถูกส่งมาพร้อมกับตอนที่คุณหนูฟื้นนี่แหละยังไม่เคยคุยกับใครที่ไหนแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองต้องตั้งชื่อ”

“เอ้า ไม่มีก็ไม่มีแต่ถ้าอยากมีก็จะตั้งให้ดีหรือเปล่า” อย่างน้อยๆ เจ้านกนี้ก็ช่วยแก้เหงาได้เป็นอย่างดีเพราะพูดกันดีๆ ไม่ค่อยได้ตัวก็เล็กแค่นี้แต่เจ้าตัวกลับใส่อารมณ์ได้เก่งมากสงสัยจะเป็นนกขี้หงุดหงิด

“หากคุณหนูจะกรุณาเจ้าค่ะ”

“เจ้าชื่อจิ๊ดริดก็แล้วกันมันแปลว่าเล็กๆ น่ารักเป็นภาษาของโลกที่ข้าจากมา ชอบหรือไม่” สำหรับนกตัวจิ๋วที่สามารถมานอนอยู่ในฝ่ามือข้างเดียวของวั่นฝูอันคงไม่มีชื่อไหนที่เหมาะกว่าชื่อจิ๊ดริดอีกแล้ว

“ว้าว ต่อจากนี้ข้ามีชื่อว่าจิ๊ดริดที่แปลว่าเล็กๆ น่ารัก... ขอบคุณคุณหนูเจ้าค่ะแม้ข้าอยากจะได้ชื่อที่มีความหมายว่าคนงามมากกว่าก็เถอะแต่จิ๊ดริดก็ไม่ได้แย่อะไร ส่วนเรื่องภารกิจก็ไม่มีอะไรมากแค่ทำไปตามลำดับเจ้าค่ะหากทำผ่านภารกิจหนึ่งแล้วจึงจะเลื่อนไปทำลำดับถัดไปได้แล้ว

โดยแต่ละภารกิจก็จะมีกำหนดเวลาด้วยนะเจ้าคะมากน้อยตามความยากง่ายหากทำไม่สำเร็จตามเวลาที่กำหนดก็เท่ากับว่าภารกิจล้มเหลวต้องหยุดทำภารกิจไประยะหนึ่งจึงจะเริ่มใหม่ได้หรือบางภารกิจก็อาจจะมีบทลงโทษไปตามสถานการณ์” เจ้าจิ๊ดริดเปลี่ยนจากเรื่องชื่อไปพูดเรื่องภารกิจอย่างว่องไวทำเอาวั่นฝูอันเกือบปรับอารมณ์ตามมันไม่ทัน

“ถ้าอย่างนั้นเอาภารกิจแรกมาลองทำเลยดีกว่า” วั่นฝูอันเองก็อยากที่จะทดลองระบบเหมือนกันนางจึงไม่ลังเลเลยที่จะขอทดลองภารกิจแรก

“จิ๊ดริดรับคำสั่งเจ้าค่ะ ภารกิจที่หนึ่งเก็บกวาดและตกแต่งห้องส่วนตัวโดยต้องมีส่วนหนึ่งของธรรมชาติเป็นองค์ประกอบ มีระยะเวลาสามวันหากคุณหนูพูดว่าตกลงเวลาในการทำภารกิจก็จะเดินถอยหลังทันที” เมื่อเจ้าจิ๊ดริดพูดจบก็มีตารางสี่เหลี่ยมโผล่ขึ้นมาเหนือหัวน้อยๆ ของมันซึ่งในตารางนั้นจะประกอบไปด้วยชื่อของภารกิจและเวลาสากลที่ตั้งเอาไว้เจ็ดสิบสองชั่วโมงซึ่งไม่ได้เป็นการนับเวลาของยุคนี้

“เอาสิ ตกลงเริ่มได้เลย” แค่จัดห้องไม่เห็นต้องรออะไรเพราะวั่นฝูอันก็ทำมันอยู่ตอนนี้โดยนางเลือกที่จะจัดข้าวของชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้เข้าที่ก่อนไม่ว่าจะเป็นเครื่องประทินผิวหรือว่าเครื่องสำอางส่วนเสื้อผ้าก็เอาออกมาจากหีบพับใส่ตู้ที่มีอยู่ในห้องก็เรียบร้อยแล้วแต่วันแรกก็ทำได้เพียงเท่านั้นเพราะต้องพักไปรับประทานอาหารกลางวันจากนั้นกลับมาจัดเตียงที่คนจากร้านขายผ้าเพิ่งขนเครื่องนอนมาส่ง

“อย่างสุดท้ายแล้วธรรมชาติพอหรือยังจิ๊ดริด” ในเมื่อภารกิจแรกต้องการให้จัดห้องส่วนตัวให้เรียบร้อยโดยมีส่วนหนึ่งของธรรมชาติเป็นองค์ประกอบคุณหนูวั่นฝูอันจึงไม่รีรอเลยที่จะเดินไปยังสวนของเรือนเพื่อขุดดอกไม้ต้นเล็กๆ ใส่กระถางเพื่อนำกลับมาดูแลในห้องของตนเองนอกจากนั้นยังเก็บดอกไม้ดอกหญ้าที่มีอยู่เต็มเรือนมาใส่ในแจกันกระเบื้องเคลือบใบงามอีกหลายใบ

“ภารกิจที่หนึ่งเก็บกวาดและตกแต่งห้องส่วนตัวโดยต้องมีส่วนหนึ่งของธรรมชาติเป็นองค์ประกอบ ผลการตรวจสอบ ผ่านได้รับรางวัลเป็นแต้มบุญทั้งหมดห้าร้อยแต้มเจ้าค่ะ”