ไม้ประดับแล้วอย่างไร ต่อไปข้าจะเฉิดฉายให้เห็นเป็นบุญตา

เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ - ตอนที่ 6 เตรียมการค้าขาย โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,เกิดใหม่,ครอบครัว,ปลูกผัก,ชาย-หญิง,คุณหนูไม้ประดับ,นิยายรักจีนโบราณ,เกิดใหม่,ครอบครัว,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,เกิดใหม่,ครอบครัว,ปลูกผัก,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

คุณหนูไม้ประดับ,นิยายรักจีนโบราณ,เกิดใหม่,ครอบครัว

รายละเอียด

เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไม้ประดับแล้วอย่างไร ต่อไปข้าจะเฉิดฉายให้เห็นเป็นบุญตา

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

เมื่อนักแสดงนางร้ายเบอร์ต้นทั้งนอกจอและในจอต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยอุบัติเหตุจากความประมาทของทีมงาเธอก็ไปแสดงอภินิหารปากแจ๋วจนยมทูตและยมบาลลามไปยังเทพโชคชะตาผายมือเปิดทางให้ได้ไปเกิดใหม่แต่มีเงื่อนไขที่ต้องช่วยเหลือผู้คนเพื่อสั่งสมความดีให้กับดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับที่ตนเองจะไปอาศัยอยู่ในร่างนั้นคือคุณหนูผู้อ่อนแอและค่อนข้างจะโง่เขลา เป็นบุตรสาวที่บิดาหมางเมินแถมยังหาเรื่องจะหย่าขาดจากมารดาของนางอยู่ทุกวี่ทุกวัน

แต่ไหนๆ ได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งจะให้มามือเปล่ามันก็ออกจะธรรมดาไปงานนี้นอกจากความมั่นหน้าที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดแล้วเธอยังได้รับระบบผู้ช่วยอัจฉริยะที่ปากแจ๋วๆ พอๆ กันมาเป็นสูตรลัดกลโกงรอบด้านที่จะทำให้การใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ที่ต่างไปจากเดิมนั้นง่ายดายมากยิ่งขึ้น

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1.       ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2.       ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3.       หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 1 ถกเถียงไม่ไถ่ถาม,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 2 ตัวเลือก,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 3 บุตรสาวของข้าใครอย่าได้มารังแก,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 4 ตัดสินใจ,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 5 เปิดตัวระบบผู้ช่วย,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 6 เตรียมการค้าขาย,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 7 เตรียมการโค้งสุดท้าย,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 8 กลิ่นหอมยวนใจ,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 9 ขายดีกว่าที่คิด,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 10 อนุภรรยาผู้อาภัพ,เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับ-ตอนที่ 11 ขึ้นเขาครั้งแรก ปลดเหรียญอ่านฟรี 3 มีนาคม 68 ติดเหรียญถาวร 10 มีนาคม 68

เนื้อหา

ตอนที่ 6 เตรียมการค้าขาย

ภายในเรือนหลังใหม่ยังมีอะไรให้ทำอีกมากวั่นฝูอันและมารดาใช้เวลาไปกว่าเจ็ดวันกว่าจะจัดแจงข้าวของให้เข้าที่ได้เนื่องจากเรือนหลังนี้แม้จะมีพื้นที่กว้างขวางแต่พื้นที่อยู่อาศัยนั้นกลับมีค่อนข้างที่จะจำกัดจึงใช้วิธีให้คนงานหญิงที่มีทั้งหมดสามคนอยู่รวมกันในห้องเดียวไปก่อนหลังจากนี้วั่นจิ่งอันจะตามนายช่างมาสร้างเรือนของคนงานให้ต่างหากเพราะคิดเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าในอนาคตอาจจะต้องมีคนงานเพิ่มหากจะมีการเปิดร้านค้าหรือว่าปลูกผักทำสวนที่บ้าน

กิจวัตรประจำวันของวั่นฝูอันส่วนมากก็ทบทวนตำราที่มีอยู่เพื่อหาแรงบันดาลใจในการเปิดร้านขายอาหารหรือบางวันที่ภายในเรือนไม่เหลืองานการอะไรให้ทำจริงๆ นางก็จะชวนพี่เลี้ยงของตนเองไปเดินสำรวจตลาดเพื่อมองหาช่องทางค้าขายไปพร้อมๆ กับทำภารกิจเก็บแต้มบุญของจิ๊ดริดไปเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่ยากมากมายนักเรื่องที่ต้องทำก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดการภายในเรือนเสียเป็นส่วนใหญ่ซึ่งก็ไม่เห็นมันจะเกี่ยวข้องกับแต้มบุญอะไรตรงไหนเลยแต่นางก็ทำๆ ไปไม่ได้โต้แย้ง

“อันที่จริงถนนด้านหน้าเรือนของเราก็มีคนพลุกพล่านอยู่นะเจ้าคะท่านแม่ลูกว่าเราเริ่มทำกิจการที่หน้าบ้านตัวเองก่อนดีหรือไม่จะได้ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายมากนัก” หลังจากที่นั่งคุยกับจิ๊ดริดมาเกือบทั้งคืนวั่นฝูอันคิดว่าตัวเองได้ข้อมูลที่ต้องการมากพอแล้วจึงรวบรวมสิ่งที่ตนเองอยากจะทำจดบันทึกไว้ในสมุดเล่มบางที่เย็บขึ้นมาด้วยตนเองจากนั้นก็เอาข้อมูลที่มีมานั่งปรึกษาหารือกับมารดาหลังมื้ออาหารเช้า

“เพราะเรือนของเราตั้งอยู่บนถนนสายรองของอำเภออย่างไรล่ะลูกรักอีกทั้งทางด้านหน้าตรอกทางเข้าก็มีโรงเตี๊ยมเปิดให้บริการอยู่นักเดินทางจึงพลุกพล่านเป็นของธรรมดาแล้วแบบนี้เจ้าคิดหรือยังว่าอยากขายอะไรจะเป็นของกินอย่างที่เคยคุยกันไว้หรืออยากเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น” เรื่องนี้มารดาตามใจบุตรสาวคนเดียวมากด้วยเห็นวั่นฝูอันมีความกระตือรือร้นที่อยากจะทำงานทำการคนเป็นแม่ก็รู้สึกภาคภูมิใจแล้วถึงมันจะยังไม่เห็นเป็นรูปร่างเลยก็ตาม

“ลูกยังอยากขายอาหารเจ้าค่ะแต่เป็นอาหารที่ซื้อกลับไปกินที่เรือนได้หรือหากจะซื้อกินที่ร้านก็ได้เช่นเดียวกันใช้พื้นที่ไม่มากนักจะนั่งกินหรือยืนกินก็ยังได้เพราะอาหารที่ขายจะใส่อยู่ในชามเพียงใบเดียวเจ้าค่ะ ลูกเรียกการขายลักษณะนี้ว่าการขายอาหารจานด่วนที่ไม่ใช่จะสะดวกแค่ตอนกินคนปรุงก็สะดวกเนื่องจากทำเพียงหนึ่งครั้งในปริมาณเยอะๆ แต่เอามาตักแบ่งขายได้ทั้งวัน

สิ่งแรกที่ลูกจะขายก็คือเครื่องในหมูตุ๋นเพราะสามารถเอามาดัดแปลงวิธีการรับประทานได้หลายอย่างไม่ว่าจะกินกับแผ่นแป้งย่าง ราดบนข้าวสวยหรือว่าราดลงบนบะหมี่ก็ล้วนแต่เข้ากันทั้งสิ้นอีกทั้งพวกไส้หมูและเครื่องในหมูที่มีขายอยู่ในตลาดราคาไม่แพงเลยมาคิดดูดีๆ ก็เหมือนกับได้เปล่าแค่เราต้องมาเสียเวลาทำความสะอาดเท่านั้นเองเจ้าค่ะ” วั่นฝูอันอธิบายให้มารดาฟังด้วยความตั้งอกตั้งใจ

“หากลูกคิดว่ามันดีก็ลองทำดูอย่างไรแล้วเรื่องนี้ก็ต้องเรียกท่านป้ากับพี่สาวพี่ชายของเจ้ามาคุยพร้อมกันด้วยนะทุกคนคงดีใจที่เราจะได้มีกิจการเป็นของตัวเอง” วั่นจิ่งอันไม่เคยได้สอนให้บุตรสาวทำตัวเจ้ายศเจ้าอย่างทั้งแม่ครัว สาวใช้หรือคนงานชายในความปกครองของนางนั้นวั่นฝูอันล้วนแต่ให้ความนับถือทุกคนไม่ต่างจากญาติพี่น้องการให้เกียรติและดูแลกันสิ่งนี้ยิ่งทำให้คนงานไม่เคยคิดคดทรยศสองแม่ลูกเลยสักครั้งเดียวแม้ว่าจะเคยมีคนจ้างให้พวกเขาทำเรื่องไม่ดีด้วยเงินตำลึงทองมาแล้วก็ตาม

หลังจากเรียกประชุมคนทั้งบ้านวั่นฝูอันก็เริ่มแบ่งงานให้ทุกคนไปทำโดยจะมีนาง มารดาและป้าเมิ่งแม่ครัวคนเก่งจะทำหน้าที่ทดสอบสูตรอาหารส่วนพี่หว่านเถียน พี่อี๋นั่วและพี่ต๋าฟงจะเป็นคนที่เตรียมเครื่องเรือนสำหรับการเปิดร้านซึ่งก็มีเพียงแค่เก้าอี้ไม้สำหรับให้นั่งรอและนั่งรับประทานอาหารกับโต๊ะตัวยาวที่สามารถนั่งรวมกันได้โต๊ะละสิบคนจำนวนสี่โต๊ะเท่านั้นเองนับว่าเป็นการลงทุนที่ไม่มากมายอะไรเลย

“ลูกดีใจที่อย่างน้อยก็ไม่ต้องเริ่มต้นจากติดลบนะเจ้าคะท่านแม่ เรามีเรือนที่สามารถดัดแปลงเป็นร้านค้าได้ก็สามารถทุ่นค่าใช้จ่ายได้เยอะแล้ว” ในระหว่างที่ช่วยมารดาและป้าเมิ่งทำความสะอาดเครื่องในหมูตามวิธีการที่ตนเองแนะนำวั่นฝูอันก็อดที่จะพูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจในตนเองไม่ได้แต่นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่นางไม่ได้พูดออกไปก็เพราะกำลังคิดว่าการเริ่มต้นของตัวเองในโลกใหม่ไม่ได้แย่อย่างที่กลัวถึงจะต้องมาเริ่มทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยตัวเองแต่มันก็ไม่ลำบากอย่างที่เคยอ่านผ่านตามาจากนิยายในชีวิตก่อน

“หากในวันข้างหน้าลูกอยากขยับขยายทำร้านเป็นสัดส่วนมากกว่านี้แม่ก็ยินดีลงทุนให้เจ้านะอันอันที่ดินรอบบริเวณบ้านนั้นยังไม่มีเจ้าของอยู่หลายแปลงเอาไว้เราไปลองสำรวจและขอดูราคาที่อำเภอด้วยกันก็ได้” ด้วยพื้นที่ว่างเปล่าบริเวณรอบๆ บ้านบางส่วนยังเป็นที่รกร้างซึ่งเป็นของทางการจะซื้อขายจึงต้องไปให้เจ้าหน้าที่ของอำเภอจัดการให้

“เริ่มต้นที่ตรงนี้ก่อนเถิดเจ้าค่ะหากทำร้านใหญ่โตเราก็ต้องมีทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์ลองทำเท่าที่ไหวก่อนดีกว่า”

หนึ่งชั่วยามต่อมาเครื่องในหมูที่ถูกทำความสะอาดเป็นอย่างดีไม่หลงเหลือกลิ่นเหม็นและกลิ่นคาวถูกหย่อนลงหม้อต้มน้ำที่มีเครื่องพะโล้ผัดหอมกรุ่นตามสูตรที่วั่นฝูอันจดจำมาจากสูตรของคุณยายในชีวิตก่อนโดยทุกครั้งที่ทำพะโล้ท่านจะไม่ใส่ผงพะโล้สำเร็จรูปแต่จะใช้กระเทียม พริกไทยและรากผักชีโขลกรวมกันให้ละเอียดเวลาจะปรุงก็นำมาผัดกับน้ำมันให้หอมเติมเครื่องสมุนไพรอย่างอบเชย โป๊ยกั๊ก ลูกกระวานและข่าที่คั่วจนหอมลงไปอีกเล็กน้อยเท่านั้นเอง

กลิ่นของเครื่องพะโล้หอมฟุ้งไปทั่วเรือนทำเอาคนที่กำลังช่วยกันทำความสะอาดบรรดาโต๊ะเก้าอี้เก่าในเรือนที่ยังอยู่ในสภาพดีให้พร้อมสำหรับการเตรียมเอาออกมาใช้งานถึงขั้นเดินตามกลิ่นอาหารมาที่ครัวกันตั้งหลายรอบ

“มื้อเย็นพวกเราจะได้รับประทานเครื่องในหมูตุ๋นแสนอร่อยกันแน่นอนอดใจรอสักนิดนะเจ้าคะ” วั่นฝูอันที่เงยหน้ามาเจอพี่เลี้ยงของตัวเองยืนทำตาปริบๆ ใส่หม้อเครื่องในตุ๋นนางก็นึกเอ็นดูแต่จะตักให้ชิมก็ทำไม่ได้เนื่องจากเครื่องในสดเพิ่งใส่ลงไปในหม้อน่าจะยังไม่สุกดีเสียด้วยซ้ำจึงได้แต่ปลอบใจพี่หว่านเถียนที่แสนดีของนางไปก่อน

ระหว่างที่รอเครื่องในหมูตุ๋นเปื่อยได้ที่นั้นวั่นฝูอันก็ขอให้ป้าเมิ่งสอนทำแผ่นแป้งย่างที่เป็นอาหารหลักของผู้คนทุกชนชั้นไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านรากหญ้าตลอดไปจนเศรษฐีมีเงินหรือขุนนางต่างก็ต้องเคยรับประทานกันทั้งนั้นแต่นางจะเพิ่มความหลากหลายด้วยการทำแผ่นแป้งย่างขึ้นโดยใช้ธัญพืชที่แตกต่างกันที่คิดออกในตอนนี้ก็จะมีแผ่นแป้งที่ทำมาจากแป้งขัดขาว แป้งไม่ขัดขาว อีกทั้งยังจะเพิ่มรสสัมผัสด้วยข้าวโพดบด ถั่วบด ธัญพืชบดรวมไปถึงเมล็ดงาขาวงาดำนางก็จะนำเอามาใช้

“ตั้งแต่เกิดมาจนป่านนี้ข้าก็ไม่เคยทำแผ่นแป้งย่างผสมธัญพืชมากมายเช่นนี้มาก่อนเลยเจ้าค่ะ คุณหนูช่างมีความคิดกว้างไกลนักข้าเชื่อว่าร้านอาหารที่กำลังจะเปิดต้องขายดีอย่างแน่นอน” นางหูเมิ่งเอ่ยปากชมคุณหนูน้อยผู้มีความสามารถหลังจากที่ช่วยกันทดลองทำแผ่นแป้งย่างออกมาทีละสูตรและมันก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังนอกจากแผ่นแป้งในกระทะจะส่งกลิ่นหอมมากแล้วรสชาติก็ยังอร่อยหากกินคู่กับเครื่องในหมูตุ๋นต้องได้รับความนิยมอย่างแน่นอน

“นอกจากแผ่นแป้งย่างแล้วเรายังสามารถเอาเครื่องในหมูตุ๋นไปราดหน้าบะหมี่และข้าวสวยรับประทานได้นะเจ้าคะ หากได้ผักดองรสเปรี้ยวมาแนมด้วยเล็กน้อยรับรองว่ายิ่งอร่อยมากขึ้นไปอีก” วั่นฝูอันยิ้มกว้างด้วยชอบใจที่แม่ครัวเก่าแก่ของมารดาเอ่ยปากชมแสดงว่าแผ่นแป้งของนางนั้นรสชาติและหน้าตาที่เข้าทีกับเขาอยู่เหมือนกัน

“เช่นนั้นแม่จะทำบะหมี่ไข่สูตรของท่านยายให้ลูกเองรับรองว่ารสชาติไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน” วั่นจิ่งอันเองก็สนับสนุนทุกการกระทำของบุตรสาวเมื่อวั่นฝูอันมีความตั้งใจจะทำการค้านางก็อยากสนับสนุนอย่างเต็มที่

“ท่านแม่ของลูกดีที่สุดเจ้าค่ะ” ดรุณีน้อยยิ้มหวานให้มารดาเพราะนางตั้งใจเอาไว้ว่าจะขอให้ป้าเมิ่งสอนทำบะหมี่อยู่พอดีแต่ในเมื่อท่านแม่มีสูตรของอร่อยอยู่ในมือนางจึงเปลี่ยนใจมาเรียนวิธีการทำบะหมี่กับท่านแม่แทนก็ได้

“ถ้าอย่างนั้นป้าขอไปตลาดสักครู่นะเจ้าคะคุณหนูเล็กหากเครื่องในหมูตุ๋นต้องกินคู่กับผักดองข้าก็จะไปหาซื้อผักกาดมาดองให้เจ้าค่ะแต่อาจจะไม่ได้กินภายในวันนี้เพราะต้องใช้เวลาดองอย่างน้อยสามวันจึงจะเปรี้ยวพอรับประทานได้”

“ถ้าเช่นนั้นข้าฝากป้าเมิ่งซื้อผักชนิดอื่นมาให้ได้ไหมเจ้าคะข้าเคยอ่านเจอสูตรผักดองเปรี้ยวเผ็ดในตำราเห็นว่าน่าสนใจดีจึงอยากจะลองทำดูหากมันอร่อยเราจะได้นำมาขายด้วยเลย”

เมื่อมีหนึ่งคนเริ่มจุดประกายความคิดต่างๆ ที่กระจายอยู่ในหัวของวั่นฝูอันก็เริ่มไหลบ่าออกมาไม่ต่างจากสายน้ำซึ่งผักดองที่นางพูดถึงก็คือกิมจิที่เป็นอาหารที่ผู้คนนิยมรับประทานกันในชีวิตก่อนของนางแม้มันจะเป็นของแปลกใหม่สำหรับยุคนี้แต่วั่นฝูอันกลับมั่นใจว่ามันจะต้องขายดีอีกทั้งกิมจิยังสามารถใช้ผักที่หลากหลายมาทำได้ไม่มีสูตรตายตัวยิ่งทำให้ยิ่งมั่นใจเหลือเกินว่าผู้คนจะต้องไม่มีทางเบื่ออาหารของนางอย่างแน่นอน

นอกจากนี้วั่นฝูอันยังคิดวิธีการขายเอาไว้เสร็จสรรพโดยอาหารหนึ่งจานไม่ว่าจะเป็นแผ่นแป้งย่าง ข้าว หรือบะหมี่นางจะแถมผักดองให้รับประทานฟรีหนึ่งชนิดแต่ถ้าหากอยากรับประทานเพิ่มก็สามารถซื้อแยกต่างหากได้เผลอๆ นางจะทำผักดองนี่แหละขายควบคู่กันไปด้วยแต่ขอดูผลการตอบรับหลังจากที่ร้านเปิดให้บริการเสียก่อนค่อยลงมือทำก็ยังไม่สาย

ระหว่างที่รอให้ป้าเมิ่งกลับมาจากจ่ายตลาดวั่นฝูอันก็ตามหาวัตถุดิบต่างๆ ที่ตัวเองต้องการใช้ซึ่งนางมั่นใจว่ามันจะมีครบทุกอย่างเพราะท่านแม่ของนางเพิ่งจัดการซื้อของแห้งและเครื่องปรุงเข้าเรือนมาเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เองและแต่ละอย่างก็ซื้อมาในปริมาณที่ค่อนข้างมากสามารถใช้บริโภคภายในครัวเรือนได้ราวๆ สองถึงสามเดือนเลยแต่ถ้าหากนางเอามาใช้ทำอาหารขายแล้วอาจจะต้องซื้อหามาเพิ่มเร็วกว่าที่คาดไว้แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก

“ท่านแม่เจ้าคะลูกจำได้ว่าที่หลังเรือนเรามีต้นลูกพลับอยู่ในตอนนี้มันจะพอมีลูกสุกอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้” แม้จะมั่นใจว่าตัวเองจดรายการให้ป้าเมิ่งไปซื้อวัตถุดิบในการทำกิมจิครบแล้วแต่วั่นฝูอันกลับเพิ่งมาคิดได้ว่านางลืมส่วนผสมที่เป็นผลไม้จึงนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าจะหาอะไรมาใช้ทดแทนกันได้

“ต้นพลับที่เรือนนี้ออกลูกทั้งปีไม่สนฤดูกาลเลยล่ะลูกรักท่านลุงซูคนดูแลที่นี่เล่าให้ฟังว่าเขาเก็บไปขายทุกๆ ปีแถมยังซื่อสัตย์เก็บเงินที่ขายผลไม้เอาไว้ให้แม่อีกด้วยเพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจและความซื่อสัตย์ที่ครอบครัวซูมีแม่จึงยกเงินรายได้ให้เขาทั้งหมดเลย ว่าแต่เจ้าอยากได้เหรอจะเอาลูกพลับสุกมาทำอะไรเล่า”

“มันเป็นส่วนผสมลับในการทำผักดองของลูกเลยเจ้าค่ะ ลูกขอออกไปดูก่อนนะเจ้าคะเผื่อว่าจะมีลูกสุกงอมที่สามารถใช้ได้จะได้เก็บมาเตรียมไว้” เมื่ออธิบายให้มารดาเข้าใจแล้ววั่นฝูอันจึงถือตะกร้าออกจากครัวไปโดยมีจุดหมายเป็นหลังเรือนที่มีไม้ยืนต้นหลายชนิดปลูกปะปนกันอย่างไม่เป็นระเบียบนักตัวนางเองตั้งแต่ย้ายเข้ามาที่นี่ก็มีโอกาสแวะมาดูผ่านๆ เพียงสองสามครั้งยังไม่สามารถจำได้เลยว่ามันมีผลไม้หรือต้นอะไรปลูกอยู่บ้าง

ส่วนหนึ่งก็เพราะมันยังไม่ถึงฤดูการที่ผลไม้จะให้ผลผลิตวั่นฝูอันที่มิใช่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องพันธุ์พืชจึงไม่สามารถระบุได้ว่าต้นอะไรเป็นต้นอะไรแต่หลังจากนี้นางตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะหมั่นมาตรวจสอบละดูแลอย่างสม่ำเสมอเพราะมั่นใจว่านางจะได้ใช้ประโยชน์จากสวนแห่งนี้อย่างแน่นอน