ไม้ประดับแล้วอย่างไร ต่อไปข้าจะเฉิดฉายให้เห็นเป็นบุญตา
จีน,เกิดใหม่,ครอบครัว,ปลูกผัก,ชาย-หญิง,คุณหนูไม้ประดับ,นิยายรักจีนโบราณ,เกิดใหม่,ครอบครัว,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เมื่อนางร้ายเกิดใหม่มาเป็นคุณหนูไม้ประดับไม้ประดับแล้วอย่างไร ต่อไปข้าจะเฉิดฉายให้เห็นเป็นบุญตา
เมื่อนักแสดงนางร้ายเบอร์ต้นทั้งนอกจอและในจอต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยอุบัติเหตุจากความประมาทของทีมงาเธอก็ไปแสดงอภินิหารปากแจ๋วจนยมทูตและยมบาลลามไปยังเทพโชคชะตาผายมือเปิดทางให้ได้ไปเกิดใหม่แต่มีเงื่อนไขที่ต้องช่วยเหลือผู้คนเพื่อสั่งสมความดีให้กับดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับที่ตนเองจะไปอาศัยอยู่ในร่างนั้นคือคุณหนูผู้อ่อนแอและค่อนข้างจะโง่เขลา เป็นบุตรสาวที่บิดาหมางเมินแถมยังหาเรื่องจะหย่าขาดจากมารดาของนางอยู่ทุกวี่ทุกวัน
แต่ไหนๆ ได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งจะให้มามือเปล่ามันก็ออกจะธรรมดาไปงานนี้นอกจากความมั่นหน้าที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดแล้วเธอยังได้รับระบบผู้ช่วยอัจฉริยะที่ปากแจ๋วๆ พอๆ กันมาเป็นสูตรลัดกลโกงรอบด้านที่จะทำให้การใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ที่ต่างไปจากเดิมนั้นง่ายดายมากยิ่งขึ้น
หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ
กติกาการลงนิยาย
ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้
1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์
2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์
3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ
เพราะการเตรียมการเปิดร้านอาหารแม้จะเป็นเพียงร้านเล็กๆ ที่ดูแลกันเองด้วยกำลังคนที่มีในครอบครัวมันมีรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ ให้ทำมากมายแม้ว่าวั่นฝูอันจะสามารถประหยัดรายจ่ายบางส่วนไปได้แต่ก็มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่มารดาต้องจ่ายออกไปเพราะว่ามันล้วนแต่เป็นสิ่งของจำเป็นจะไม่ซื้อหาก็คงไม่มีทางที่จะเปิดร้านได้อย่างแน่นอนอย่างเช่นเครื่องใช้จาน ชามและตะเกียบรวมไปถึงหม้อใบยักษ์ที่ต้องสั่งทำล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเปิดร้านขายอาหาร
นอกจากนี้ทั้งวั่นฝูอันและท่านป้าเมิ่งก็กำลังขะมักเขม้นช่วยกันทำผักดองเอาไว้หลายสิบไหเพราะไหนๆ ทำแล้วก็ตั้งใจทำให้มันเยอะๆ ไปเลยถึงแม้จะขายไม่หมดแต่คนในบ้านก็ยังสามารถนำมารับประทานกันได้จึงทำให้ตอนนี้ในครัวของบ้านเต็มไปด้วยไหผักดองขนาดใหญ่หลายสิบไหที่มีกระดาษแปะเอาไว้อย่างเด่นชัดว่าด้านในเป็นผักดองชนิดใดและทำขึ้นมาในวันที่เท่าไหร่
“เห็นผักที่ซื้อมาจากตลาดรอบหลังนี้ลูกปวดใจเหลือเกินเจ้าค่ะท่านแม่นอกจากจะต้นเล็กแล้วยังไม่ค่อยสวยงามอีกทั้งราคายังค่อนข้างสูงจนอยากจะปลูกผักเอาไว้ทำผักดองเองเหลือเกิน” วั่นฝูอันเอ่ยกับมารดาในระหว่างที่สองแม่ลูกช่วยกันทำบัญชีค่าใช้จ่ายเป็นการรวบรวมต้นทุนที่ใช้ไปทั้งหมดก่อนที่ร้านขายอาหารจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาซึ่งส่วนนี้เป็นวั่นฝูอันเองที่เสนอมารดาให้ทำขึ้นเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดจากการใช้เงินและเพื่อเอาไว้คิดคำนวณหากำไร
“ระหว่างที่รอจานชามมาส่งเรายังพอมีเวลาเหลือและพื้นที่ว่างข้างเรือนก็มีอยู่อีกมากเจ้าสามารถนำพื้นที่ว่างมาทำเป็นแปลงปลูกผักได้ทั้งหมดเลยลูกรักหรือจะรื้อสวนด้านหน้าเรือนออกไปเลยก็ยังได้แม่คิดว่านำที่ดินมาปลูกผักน่าจะเป็นประโยชน์เสียมากกว่าไปปลูกไม้ดอกสวยงามที่เก็บผลผลิตกินไม่ได้” ด้วยเรือนหลังนี้สร้างค่อนมาทางที่ดินด้านหลังจึงมีพื้นที่ว่างที่ส่วนหน้าเรือนมากพอสมควรที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์นอกเสียจากจะมีสระบัวและสวนหย่อมให้พอนั่งพักผ่อนได้ก็ไม่มีอะไรอีก
“ลูกขอทำสวนที่ด้านข้างเรือนก่อนดีกว่าเจ้าค่ะเราเริ่มปลูกผักที่ใช้ดองกันก่อนเลยนอกจากนั้นก็เป็นผักที่กินกันอยู่บ่อยๆ หากดินที่นี่อุดมสมบูรณ์ดีค่อยขยายไปทำข้างหน้าเรือนเราสามารถทำสวนผักให้สวยทดแทนสวนดอกไม้ได้ส่วนสระบัวนั้นก็สามารถนำปลามาเลี้ยงเอาไว้เป็นแหล่งอาหารได้อีกนะเจ้าคะ”
“หากเจ้าเห็นว่าดีแม่ก็เห็นว่าควรทดลองทำตามใจเลย ถ้าหากขั้นตอนการเตรียมดินนั้นต๋าฟงทำไม่ไหวก็บอกให้เขาไปตามบ้านซูมาช่วยก็ดีพวกเขาไว้ใจได้และขยันขันแข็ง” วั่นจิ่งอันไม่คิดที่จะห้ามปรามบุตรสาวเหตุเพราะสมัยที่ยังอาศัยอยู่ในเรือนสกุลเจี่ยนั้นบุตรสาวไม่เคยมีปากมีเสียงมีชีวิตอยู่ไปวันๆ แบบคนไม่มีตัวตนเนื่องจากบิดาไม่เคยให้ความสนใจนางเลยนับแต่ที่นำสตรีหน้าไม่อายผู้นั้นเข้ามาบัดนี้เมื่อบุตรสาวได้สนุกกับการทำงาน ได้แสดงความคิดเห็นของตนเองอย่างอิสระแล้วมารดาอย่างนางจะไปขัดขวางเพื่ออะไร
อีกทั้งที่ผ่านมาตัวนางเองที่มีส่วนให้ทำให้วั่นฝูอันกลายเป็นคนไม่มีตัวตนเนื่องจากมารดาคิดกลัวไปว่าหากบุตรสาวแสดงความฉลาดเฉลียวหรือทำตัวโดดเด่นขึ้นมาจะมีภัยมาถึงตัวเพราะขนาดนางสองคนแม่ลูกอยู่กันเงียบๆ ไม่เคยทักท้วงหรือทวงสิทธิ์ที่จะเป็นของตนเองสองแม่ลูกคู่นั้นยังทำร้ายวั่นฝูอันเสียจนปางตาย
“เอาไว้ลูกจะไปปรึกษากับพี่ต๋าฟงดูนะเจ้าคะนี่ก็ตั้งใจเอาไว้ว่าหากร้านเปิดและต้องการคนงานลูกจะไปทาบทามบ้านซูนี่แหละมาช่วยบุตรสาวของท่านลุงหน่วยก้านใช้ได้และขยันขันแข็งดีเจ้าค่ะ อีกทั้งอัธยาศัยพวกนางก็ดีหากได้มาทำงานด้วยกันลูกก็จะได้มีสหายวัยใกล้เคียงกันเพิ่มขึ้นด้วย” บ้านซูที่ว่าคือครอบครัวของซูกุ้ยเจียงที่สมัยก่อนมารดาของเขารับจ้างดูแลเรือนให้ท่านแม่ของวั่นฝูอันจนเมื่อนางตายไปด้วยโรคชราก็มีบุตรชายผู้นี้นี่แหละที่มารับช่วงต่อและเมื่อไม่นานมานี้ท่านลุงก็เพื่อเสียภรรยาคู่ชีวิตไปทำให้ต้องเลี้ยงดูบุตรสาวทั้งสองคนตามลำพัง
แปลงผักข้างเรือนของวั่นฝูอันใช้เวลาทำไม่กี่วันก็เห็นเป็นรูปเป็นร่างแต่ตอนนี้นางยังหว่านเมล็ดพันธุ์อะไรลงไปไม่ได้เพราะเพิ่งเติมมูลสัตว์บำรุงดินลงไปยังต้องใช้เวลาตากดินและหมักเอาไว้อย่างน้อยๆ ก็หนึ่งเดือนในเมื่อมันใช้เวลามากถึงเพียงนี้วั่นฝูอันจึงตัดสินใจให้พี่ฉุนต๋าฟงคนงานชายเพียงคนเดียวที่มีอยู่ไปตามท่านลุงซูมาช่วยทำงานจัดการขุดรื้อสวนดอกไม้เล็กๆ ออกโดยจะย้ายดอกไม้ทั้งหลายไปใส่ไว้ในกระถางแล้วนำไปตกแต่งในเรือนแทนส่วนพื้นที่ทั้งหมดนางตั้งใจแล้วว่าจะปลูกผักทุกชนิดที่นางพอจะหาเมล็ดพันธุ์ได้
“คุณหนูเปลี่ยนใจมาทำสวนแทนการเปิดร้านค้าแล้วหรือเจ้าคะ” ซูหลานเฟินบุตรสาวคนโตของท่านลุงซูวัยสิบห้าปีเอ่ยถามด้วยความสงสัยที่คุณหนูบ้านวั่นตามครอบครัวของนางมาช่วยเตรียมดินปลูกผักทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ท่านพ่อเพิ่งจะบอกว่านางกำลังจะทำการค้าไม่ใช่หรืออย่างไร
“เสี่ยวเฟิน เสี่ยวเจียงต่อไปนี้พวกเจ้าเรียกข้าว่าพี่อันอันหรือพี่สาวดีกว่าไม่ต้องเรียกคุณหนูอะไรหรอก ข้ายังจะทำการค้าแต่ระหว่างที่รอให้เตรียมการเสร็จจึงอยากปลูกผักไปด้วยเพราะจะเอามาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร ว่าแต่หากข้าเปิดร้านแล้วพวกเจ้าอยากมาทำงานด้วยกันไหมพี่สาวมีงานมากมายที่ยังต้องการคนช่วย” วั่นฝูอันไม่เคยถือตัวว่าตนนั้นมีฐานะทางครอบครัวสูงกว่าบุตรสาวของชาวบ้านธรรมดาจึงพูดคุยกับบุตรสาวของบ้านซูด้วยความสนิทใจ
“จริงเหรอเจ้าค่ะ คุณหนู... เอ่อ พี่อันอันมีงานให้ข้ากับน้องทำจริงๆ นะเจ้าคะ” ซูหลานเฟินเกือบจะทำต้นมะลิที่นางกำลังปลูกใส่ในกระถางหลุดมือด้วยอารามดีใจอีกทั้งยังถามกลับเพื่อต้องการคำยืนยันว่าเมื่อครู่นั้นหูนางไม่ได้ฝาดไปเองส่วนทางด้านน้องสาวซูฮุ่ยเจียงนั้นก็ตกใจจนอ้าปากค้างไปเรียบร้อยแล้ว
“จริงสิในครัวยังมีงานอีกมากเลยล่ะส่วนใหญ่จะเป็นงานเก็บกวาดทำความสะอาดเพราะพี่อี๋นั่วกับพี่เถียนต้องช่วยพี่สาวขายของคงทำงานตรงนั้นไม่ไหวหากพวกเจ้าสนใจก็ไปลองขออนุญาตบิดาดู อันที่จริงพี่ก็ตั้งใจจะจ้างท่านลุงซูให้มาช่วยดูแลสวนผักอยู่แล้วล่ะครอบครัวของเจ้าจะได้ไม่ต้องไปตระเวนรับจ้างทำงานไกลบ้านมาทำงานกับพี่นี่แหละ”
อันที่จริงเรื่องนี้นั้นวั่นฝูอันก็ยังมิได้ปรึกษามารดาแต่เป็นเพราะว่านางมองดูแล้วในอนาคตงานที่มีน่าจะล้นมือและเกินกำลังคนของมารดาอย่างแน่นอนจึงอยากมาทาบทามบ้านซูเอาไว้ก่อนพวกเขาจะได้ไม่ต้องไปตกปากรับคำทำงานรับจ้างไกลบ้านเช่นที่ผ่านๆ มาด้วยบ้านซูนั้นไม่มีที่ดินเป็นของตนเองแต่ท่านลุงซูกุ้ยเจียงนั้นเป็นคนขยันขันแข็งจึงรับจ้างทำงานทุกอย่างเท่าที่ตนเองจะสามารถทำได้ตั้งแต่งานช่างอย่างสร้างบ้าน งานทำเครื่องเรือนไปจนถึงงานเกษตรท่านลุงซูก็สามารถทำได้หมดอีกทั้งนายช่างที่มาสร้างเรือนพักของคนงานให้มารดาท่านลุงก็ช่วยแนะนำช่างที่มีฝีมือและซื่อสัตย์สุจริตให้แต่เพราะท่านลุงรับปากไปรับจ้างทำงานให้เครื่องเรือนก่อนแล้วจึงไม่ได้มารับจ้างสร้างบ้านพักครั้งนี้ด้วย
“ข้ามั่นใจว่าท่านพ่อจะต้องมาทำงานกับพี่อันอันแน่นอนเจ้าค่ะ” ซูฮุ่ยเจียงยิ้มกว้างด้วยความดีใจเพราะเด็กหญิงติดตามบิดากับพี่สาวมาทำงานที่เรือนสกุลวั่นตั้งแต่จำความได้และนางก็รับรู้มาโดยตลอดว่าครอบครัววั่นเป็นคนใจดีอนุญาตให้ท่านพ่อเก็บผลไม้ไปขายโดยที่ไม่รับเงินคืนเลยสักอีแปะเดียวทำให้ตอนนี้ที่บ้านของนางเริ่มลืมตาอ้าปากได้บ้างแล้วนี่หลังคาบ้านก็เพิ่งซ่อมเสร็จไปน่าจะแข็งแรงคงทนอยู่อาศัยไปได้อีกหลายสิบปี
“เอาไว้ร้านใกล้เปิดเมื่อไหร่พี่สาวจะให้คนไปตามพวกเจ้านะ” เรื่องนี้วั่นฝูอันไม่ได้รับปากลอยๆ โดยหลังจากที่พวกนางปลูกดอกไม้กันเสร็จแล้วเจ้าของความคิดก็เอาเรื่องไปปรึกษากับมารดาซึ่งแน่นอนว่าท่านแม่เห็นด้วยและยังรับปากว่าจะแจ้งท่านลุงซูให้ด้วยตนเองในเรื่องของการจ้างงาน
งานทุกอย่างที่วั่นฝูอันคิดและทำขึ้นมานางมิได้แค่ทำๆ ให้มันผ่านพ้นไปทุกอย่างนั้นนางจะจดบันทึกเอาไว้เป็นลายลักษณ์อักษรลงในสมุดเล่มเล็กที่ไม่เคยทิ้งเอาไว้ให้ห่างจากตัวเลยแม้แต่ครั้งเดียวซึ่งมันเป็นนิสัยส่วนตัวที่ติดมาจากชีวิตเก่าเพราะเมื่อก่อนรัญญาก็เป็นคนที่ชอบจดบันทึกไม่ว่าจะเป็นการเขียนลงสมุดหรือว่าบันทึกลงในสมาร์ตโฟนเพื่อความสะดวกสบายและความคล่องตัวไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถทำได้เลยทันทีซึ่งนับว่าเป็นอุปนิสัยที่ทั้งรัญญากับวั่นฝูอันมีคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมากซึ่งนั่นก็ทำให้ไม่มีใครมองเห็นความผิดปกติ
“คุณหนู ฮูหยินขอรับจะดีเหรอที่จะให้ข้าและลูกๆ มาทำงานที่ร้านค้าของท่าน” เมื่อซูกุ้ยเจียงทราบเรื่องในตอนเย็นเขาแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองเองจึงถามซ้ำเพราะไม่ใช่ว่ามีแค่เขาคนเดียวที่จะได้มีงานทำแต่บุตรสาวทั้งสองก็ยังจะได้ทำงานอยู่ใกล้ๆ กันอีกด้วย
“ดีแน่นอนเจ้าค่ะ ท่านลุงซูก็ทำงานให้มารดาของข้ามานานถึงแม้เราจะเพิ่งได้พบหน้ากันแต่ผลงานและสิ่งต่างๆ ที่ท่านเคยได้ทำมาข้าล้วนเห็นมาด้วยตาของตนเองแล้ว ท่านลุงก็เห็นอยู่ว่ามารดาของข้ามีคนติดตามมาเพียงหยิบมือการจะทำร้านค้าโดยเฉพาะร้านอาหารนั้นต้องประกอบด้วยหลายส่วนแต่ละส่วนก็ล้วนต้องใช้แรงคนด้วยกันทั้งนั้นข้าจึงอยากได้คนที่ไว้ใจได้และเข้าใจนิสัยใจคอกันมาทำงานร่วมกัน”
“เช่นนั้นระหว่างที่รอให้ร้านค้าเปิดข้าจะให้บุตรสาวมาเรียนรู้งานนะขอรับพวกนางเป็นเด็กว่าง่ายสั่งสอนอะไรก็จดจำได้ดีพวกท่านไม่ต้องกังวลใจไปเลย” เรื่องนี้ผู้เป็นบิดามั่นใจยิ่งนักว่าบุตรสาวจะไม่ทำให้ทั้งนายจ้างและตนเองผิดหวังเนื่องจากมารดาผู้ล่วงลับของพวกนางล้วนอบรมสั่งสอนเรื่องต่างๆ ที่สตรีพึงรู้และพึงกระทำมาเป็นอย่างดีแม้ครอบครัวของตนเองจะเป็นเพียงชาวบ้านหาเช้ากินค่ำธรรมดาๆ ก็ตาม
และการที่พวกเขาพ่อลูกจะได้ทำงานที่เดียวกันนั้นนับว่าเป็นโอกาสที่ดียิ่งนักโดยเมื่อก่อนทุกครั้งที่พ่อซูต้องออกไปทำงานไกลบ้านก็มักจะคิดเป็นห่วงบุตรสาวทั้งสองอยู่เสมอสาเหตุหนึ่งคือบ้านของพวกเขาอยู่ค่อนไปทางนอกตัวอำเภอฝั่งที่ติดกับภูเขาที่ใช้เวลาเดินทางราวๆ สองถึงสามเค่อจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีผู้คนแปลกหน้าสัญจรผ่านไปมาเนื่องจากเป็นทางผ่านในการขึ้นไปหาของป่าบนเขาเวลาที่ต้องปล่อยให้บุตรสาวอยู่ที่เรือนกันตามลำพังเขาจึงกังวลใจเป็นอย่างมาก
“ข้าจะดูแลน้องสาวทั้งสองคนด้วยตนเองเจ้าค่ะท่านลุงมิต้องเป็นห่วงไปส่วนเรื่องสวนผักของข้าคงต้องฝากให้ท่านลุงช่วยดูแลด้วยนะเจ้าคะ” เมื่อพูดคุยกันเข้าใจแล้วก็เป็นท่านแม่ที่แจ้งเรื่องค่าจ้างซึ่งตอนแรกท่านลุงซูก็คิดว่ามันมากไปแต่เพราะท่านแม่ยืนยันว่าค่าจ้างเท่านี้เป็นรายได้ปกติของลูกจ้างในร้านค้าท่านลุงจึงยอมเข้าใจแต่โดยดี
“หลานเฟิน ฮุ่ยเจียงไม่ต้องห่วงว่าพวกเจ้าจะทำแต่งานในครัวจนไม่ได้ออกมาดูเดือนดูตะวันอาอยากให้เจ้าทำงานง่ายๆ กันไปก่อนเมื่อหยิบจับอะไรคล่องตัวแล้วท่านป้าเมิ่งจะเป็นคนสอนเรื่องการปรุงอาหารและงานครัวอื่นๆ ให้พวกเจ้าเองยิ่งพวกเจ้าเก่งขึ้นมาเท่าไหร่ค่าตอบแทนที่จะได้มันก็จะมากขึ้นตามไปด้วยและคนของอาไม่มีใครหวงวิชาความรู้เจ้าสามารถซักถามสิ่งที่เจ้าสงสัยได้ทุกเมื่อ”
ในเมื่อวั่นฝูอันอนุญาตให้บุตรสาวบ้านซูเรียกนางว่าพี่สาวแล้วมารดาจึงไม่ต้องการให้เด็กๆ มาเรียกนางด้วยความเกรงใจจึงใช้สรรพนามที่เป็นกันเองมากขึ้นเว้นแต่ในส่วนของบิดาบ้านซูเพราะถึงอย่างไรแล้วนางก็เป็นสตรีที่ผ่านการหย่าร้างอีกทั้งเขาก็เป็นบุรุษที่ภรรยาเสียชีวิตไปแล้วการเว้นระยะห่างให้สมควรจะช่วยป้องกันตนเองจากข้อคำติฉินนินทาของพวกชาวบ้านกินแตงได้ในอนาคต
+++++
หายไปหลายวันเพราะร่างกายไปปะทะกับไข้หวัดมาเล็กน้อย ยังมีใครรอคุณหนูวั่นเปิดร้านอาหารอยู่บ้างไหมคะ