ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
รัก,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,เล่าประสบการณ์,ตลก,พล็อตสร้างกระแส,Y2K,ย้อนยุค,พระเอกเก่ง,เจ้าแผนการ,นักธุรกิจ,คนในฝัน,รวยตั้งแต่ยังเด็ก,สร้างตัว,สายเปย์,มาเฟีย,ตัวพ่อ,โรงเรียน,พล็อตไม่ซ้ำใคร,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เสือเจ้าพระยา | ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า (อ่านฟรี!)ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
เสือเจ้าพระยา ภาคที่ 1 | จับเสือมือเปล่า!
- ที่มาของชื่อเรื่อง -
ซ้ายเด่นสง่าเสือเจ้าพระยา ขวาดาราประดับฟ้าเพริศแพร้ว
สองเพชรงามน้ำหนึ่งเมืองบัวแก้ว ผู้ผ่องแผ้วคู่แคว้นแดนประทุม
………
นิยายเรื่องนี้จะเป็น ‘แนวสร้างตัว’ ซึ่งตลอดทั้งเรื่องผสมผสานไปด้วยมุกตลก และสอดแทรกไว้ด้วยสาระ โดยที่ได้อิงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงบนโลก ในภาคนี้จะมุ่งเน้นไปที่การปูพื้นฐานตัวละคร และก็โครงเรื่องเสียเป็นส่วนใหญ่
โดยนิยายจะเล่าย้อนกลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2548 เป็นเรื่องราวของพระเอกที่มีชื่อว่า “เสือน้อย” นับตั้งแต่เจ้าตัวได้เข้ามัธยมต้นในภาคที่ 1 จนกระทั่งเรียนจบมหาลัย ในภาคที่ 5
ผู้เขียนเชื่อว่าท่านนักอ่านนั้น ‘มีลิมิต’ ในการยอมรับนิยายสักเรื่องหนึ่ง ดังนั้นในตอนที่ 24 “คนขี่ควาย” ก็อาจช่วยให้ท่านตัดสินใจง่ายขึ้น แน่นอนหากว่าท่านอ่านเต็มภาคได้ย่อมจะดีที่สุด
“ใครจะไปคิดว่าควายจะเปลี่ยนชีวิตคนได้?” ทองสุขเจ้าควายตัวแสบ ถูกพ่อหยิบยกขึ้นมาเปรียบเปรยให้ลูกชายได้ฉุดคิดถึงสิ่งที่ทำอยู่ และมันได้จุดประกายความคิดของเด็กหนุ่ม ทำให้ชีวิตเขาพลิกผันไปตลอดกาล
♪
บทเพลงที่ใช้เปิดนิยายเรื่องนี้ คือ ‘เพลงบ้าหอบฟาง’ ของวงอัสนี-วสันต์
หอบฟางหอบฟางไปไหน ทำไมถึงต้องหอบฟาง
หอบกันจริงๆจังๆ หอบกันรุงรังหอบฟาง
♪
#พล็อตไม่ซ้ำใคร #นักธุรกิจร้อยล้าน #นักรักตัวพ่อ #มาเฟีย
นิยาย 5 ภาค/เล่ม(จบ) | จำนวน ≈643,202 คำ - [มี E-Book]
[--- อ่านฟรีรวม 150 ตอน! ---]
ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า
(อ่านฟรีทั้งภาค!)
ภาคที่ 2 เสือไว้ลาย
(ฟรีตอนที่ 57-87)
ภาคที่ 3 หน้าเนื้อใจเสือ
(ฟรีตอนที่ 116-131)
ภาคที่ 4 ชาติเสือจับเนื้อกินเอง
(ฟรีตอนที่ 186-207)
ภาคที่ 5 เสือหมอบ
(ฟรีตอนที่ 251-275)
(จบบริบูรณ์)
คำโปรย
เด็กหนุ่มผู้แผ้วถางป่าดงอันรกเรื้อ...
“ใช้สองมือกวาดพงสร้างทางฝัน สองเท้าย่างก้าวพลันสู่จุดหมาย
ขีดเขียนโชคชะตาด้วยใจกายยืนหยัดอย่างผึ่งผายด้วยคุณธรรม”
อุปสรรคนานัปการ…จะหล่อหลอมให้เขา กลายเป็นคนแกร่ง!
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้ ผู้เขียนแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ชื่อตัวละคร เหตุการณ์ และสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่อง อาจปรากฏอยู่ในความเป็นจริง “ทั้งนี้ผู้เขียนมิได้มีเจตนามุ่งทำร้ายให้เกิดความเสื่อมเสียต่อบุคคลวิชาชีพ หรือองค์กรใดทั้งสิ้น” หากแต่ใช้อ้างอิงเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านเท่านั้น…
เนื้อหาในนิยายอาจมีเนื้อเรื่องที่ไม่เหมาะสมปรากฏอยู่บ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง …หากมีความผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ตอนที่ 11 การผจญภัยกับแฝดนรก!
แม่บ่นกระปอดกระแปด “นี่อาบน้ำหรือวิ่งผ่านน้ำจ๊ะพ่อคุณ” เธอเดินเข้าไปใกล้ ๆ ดมอยู่สองสามที ก่อนจะพยักหน้า “แปรงฟันแล้วหรือยัง?”
เสือน้อยตอบกลับทันที “แปรงแล้วจ๊ะ เรื่องที่แม่สอนไอ้เสือน้อยคนนี้ไม่ลืมหรอกน่า!” แม่ชบาเน้นย้ำเรื่องแปรงฟันตลอด ทั้งยังเตรียมกล่องแปรงฟันใส่ในกระเป๋าไว้ เพื่อที่จะให้ไปแปรงที่โรงเรียนด้วย
เหตุผลก็ง่าย ๆ ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนปากเหม็น เห็นคนฟันขาวใสยิ้มทีไรก็น่ามอง ประโยคหลัง ๆ นี้เป็นความรักสะอาดของเธอ ที่ปลูกฝั่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
แม่สวนทันที “ก็ทำให้มันได้จริง...ไป...ไปได้แล้ว เดี๋ยวเข้าแถวสาย” เธอยื่นเงินให้ลูกพร้อมกับบอกมีอะไรก็โทรมานะ เธออดส่ายหัวไม่ได้ มีเรื่องให้บ่นเยอะแยะ แต่ถ้าบ่นมากไปประเดี๋ยวไปสายไม่ทันเข้าแถวเช็กชื่อพอดี
เสือน้อยนั่งวินมอเตอร์ไซค์มาถึงหน้าโรงเรียน จากนั้นก็พุ่งปรู๊ดวิ่งเข้าโรงเรียนไปตามหาเพื่อนที่นัดหมายกันไว้ ไปช้าประเดี๋ยวไม่ทันข่าวสาร
พอวิ่งมาถึงก็เห็นไอ้สิงหานั่งอยู่พร้อมกับผองเพื่อน นั่งกันเป็นแก๊ง 20 กว่าคน
สิงหาพูดขึ้น “ไอ้เสือน้อย เมื่อวานไม่เห็นเอ็งเพิ่มเพื่อนข้าในเอ็มมาเลยวะ เนี่ยข้าเตรียมจะส่งเมลของเหมือนฝันให้เอ็ง…แต่ไม่เห็นเอ็งเพิ่มเพื่อนข้ามาสักที!” เขาอดบ่นไม่ได้
แต่เพราะตัวเขาเอง ก็ดันเผลอไปกดลบเบอร์ของเจ้าหมอนี่ด้วยส่วนหนึ่ง มิเช่นนั้นคงโทรไปหานานแล้ว
เสือน้อยยิ้มแห้งพูดขอโทษขอโพยเพื่อน “เออ…ข้าลืมเลยว่ะ ขอโทษที! พอดีเมื่อวานยุ่งนิดหน่อย แต่เดี๋ยววันนี้ไม่ลืมแน่นอนเอาหัวเป็นประกันได้เลย!”
คนในกลุ่มที่ได้ยินก็พูดแทรกขึ้นมา “เสือน้อย…เอ็งจะจีบเหมือนฝันเหรอวะ?” เสือน้อยจำนายคนนี้ได้ ในก๊วนแก๊งเทพเขาชื่อวรุณ ชื่อเล่นน้ำ แน่นอนล่ะคนที่แนะนำตัวเอง เป็นคนแรก ๆ ก็มันนี่แหละ
เสือน้อยพูดพลางยิ้มแย้ม “ตัดคำว่า ‘จะ’ ทิ้งไปเสีย แล้วเปลี่ยนเป็นจีบแน่นอน!” เขาพูดอย่างเปิดเผย “ทำไมเอ็งก็จะจีบแข่งกับข้าเหรอ? แต่บอกก่อนนะเพื่อนกันก็ไม่ออมมือให้นะโว้ย”เสือน้อยมองไปยังเพื่อนใหม่
น้ำกล่าวปฏิเสธ “ไม่เอา…ไม่ร่วมวงด้วยหรอก แต่พอดีว่าเพื่อนที่โรงเรียนเก่าของข้า มันกำลังไปตามจีบเหมือนฝันอยู่เหมือนกัน มันชื่อไอ้พี แถมหล่อมากสาวกรี๊ดมันเต็มจะไหวเหรอวะเพื่อน…”
เสือน้อยตบอก พูดเสียงดัง “นี่ข้าพูดตรงนี้เลยนะ เพื่อน ๆ ใครจะจีบเหมือนฝันแข่งกับข้าก็ได้ เหมือนดั่งคำโบราณบอกว่า ‘ศาลา นารี วิถี คงคา’ ใคร ๆ ก็สามารถจับจองได้โว้ย ตราบใดที่เขายังไม่ยอมรับคนอื่นเป็นแฟน ตัวข้าก็มีสิทธิ์”
เขาพูดจบก็หัวเราะร่า “ฮ่า ๆ” มองดูคล้ายคนบ้า
สมชายพูดขึ้น “นั่นแน่ะเจ้าบทเจ้ากลอนเสียด้วย”
“แต่ข้าได้ยินมานะว่ามันนักเลงนะไอ้นี่ เห็นว่าเป็นนักกีฬาเทควันโด ที่โรงเรียนเก่าแม่งตัวจี๊ดประจำโรงเรียนเลยนะ เมื่อวานแม่งเปิดเรียนมาวันแรก ก็นัดต่อยกับรุ่นพี่เลยเพื่อนจากโรงเรียนเก่าข้าที่อยู่ห้องเดียวกับมันเล่าให้ฟัง” สมชายกล่าวเตือนด้วยความเป็นห่วง
เสือน้อยยกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินคำว่าตัวจี๊ด มันทำเอาเขาหวนนึกถึงตอนเด็ก ส่วนเรื่องชกต่อยอะไรนั้น “อื้อ…” เอาเป็นว่าสำหรับเขาเฉย ๆ มากกับเรื่องนี้
“ช่างมันเถอะ… ผลสุดท้ายก็ให้ฝ่ายหญิงเขาเป็นคนเลือก” เสือน้อยตอบแบบชัดเจน เพราะท้ายที่สุดก็ต้องเป็นฝ่ายหญิงเลือกจริง ๆ นั่นแหละ
เสือน้อยไม่เก็บมาใส่ใจเลย เรื่องพวกใช้กำลัง ในอดีตตอนอยู่ประถมเขาก็ใช่ย่อย พอนึกขึ้นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกย้อนไปถึงครั้นตอนเรียนประถม…
……
กลางลานชุมชนแออัดเด็กน้อยหัวดำ กำลังนัดแนะกันเพื่อจะไปผจญภัย หรือหาเรื่องแสบ ๆ ทำกัน
กลุ่มเด็กน้อยวัยละอ่อน กำลังเดินตามกันเป็นขบวน ๆ มุ่งหน้าไปเที่ยวเล่นที่หมู่บ้านข้าง ๆ ทั้งไปยิงนกตกปลา แต่ยิงก็ไม่โดน ตกก็ไม่ได้ด้วยขาดความชำนิชำนาญ เมื่อเห็นว่าเอาดีทางนี้ไม่ได้
จึงเฮโลพากันไปปีนหลังขี่คอ ช่วยกันขโมยเด็ดมะม่วงหลายลูกของสวนลุงก้าน ซึ่งเป็นสวนตั้งอยู่หมู่บ้านข้าง ๆ มาทำพริกน้ำปลา จิ้มกินกันอย่างเอร็ดอร่อย
ที่มากไปกว่าความอร่อยคือการได้ทำอะไรแผลง ๆ แล้วประสบความสำเร็จ จึงทำให้เหล่าเด็กน้อยทั้งหลายรู้สึกตื่นเต้น ภูมิใจอย่างกับเรียนได้ที่หนึ่งของห้องก็ไม่ปาน
ในกลุ่มมีรุ่นพี่ผู้เป็นหัวหน้าขบวนการอายุประมาณสิบปีกว่า พาน้อง ๆ ลูกสมุน เที่ยวตระเวนผจญภัย ทำคล้ายกับว่าในหนังในละครที่บุกป่าฝ่าดง พวกเขาเอาไม้ไผ่แทนดาบ กวัดแกว่งตัดพงหญ้า…
แต่ละคนเอาผ้าขาวบางมาทำเป็นผ้าคลุม โดยเสือน้อยเป็นคนเสนอไอเดีย เขาเคยเห็นในหนังบ่อย ๆ ทั้งจีนฝรั่ง ที่พระเอกต้องมาพร้อมกับผ้าคลุมด้านหลัง ดังนั้นเขาจึงขันอาสา ไปขโมยผ้าขาวบางในห้องครัวที่บ้าน มาแจกให้เพื่อน ๆ สวมใส่
เสือน้อยที่น้ำมูกยืดย้อยออกมาจากรูจมูก มันแกว่งไกวไปมา ทำเอาเด็กน้อยจำต้องคอยสูดหายใจอยู่เป็นระยะ ๆ มองดูน่าขบขันอยู่ไม่น้อย
แก้มย้วยที่ห้อย มองคล้ายกับกำลังอมอะไรสักอย่างไว้ แดงระเรื่อมองดูน่ารักน่าเอ็นดู ปีนี้เขาขึ้น ป.2 แล้ว ฟันน้ำนมบางซีกก็พึ่งหลุดร่วงไป
‘เพชร’ เด็กน้อยผู้เป็นหัวหน้าขบวน ลูกเพื่อนบ้านในชุมชนแออัดด้านข้าง
เจ้าตัวเริ่มเข้าค่ายมวยตั้งแต่ปีก่อน เพราะถูกลุงเด่นชัยเจ้าของค่ายมวยเห็นแวว จึงดึงตัวมาเพื่อปลุกปั้นให้เป็นนักมวยอาชีพ ซึ่งตอนนี้เขาอยู่ ป.4 แล้ว
พ่อแม่ของเพชรก็ถามความสมัครใจของเจ้าตัว จนในที่สุดก็ถูกลุงเด่นชัยเจ้าของค่าย เคี่ยวเข็ญอย่างหนัก เตรียมจะขึ้นชกในเร็ว ๆ นี้แล้ว
เพชรเป็นเด็กที่สูงกว่าคนวัยเดียวกันไม่น้อย ทั้งอายุเยอะสุดจึงถูก ยกให้เป็นหัวหน้าของเหล่าบรรดาลูกสมุนที่เดินตามต้อย ๆ อยู่ข้างหลัง
ส่วนเสือน้อยในฐานะผู้สนับสนุนรายใหญ่ ใจกล้าถึงขนาดขนผ้าของแม่มาแจกให้ทุกคนทำเป็นผ้าคลุมหลัง ย่อมได้รับการยอมรับจากเด็กในวัยเดียวกัน โดยแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้า
โดยปกติทุกวัน ถ้าไม่เหลาไม้ไผ่มาแบ่งพวก เล่นฟันดาบตีกัน ก็จะออกเดินออกผจญภัยตามท้องทุ่งคันนา ทำตัวเป็นวีรบุรุษสู้กับหญ้า รบกับกบเขียด และวีรกรรมที่หาญกล้าที่สุดในสัปดาห์นี้ก็คือ…ไปปีนเก็บรังผึ้ง
ที่พวกเขากำลังเดินมุ่งหน้ากันไป ซึ่งถูกเสนอขึ้นโดยสองฝาแฝดชายอย่าง ‘ยักษ์-ใหญ่’ สองพี่น้อง รู้จักกันมาก็หลายปีเสือน้อยก็ยังแยกไม่ค่อยออกว่า “คนไหนเป็นคนไหน?”
และบ่อยครั้งเขามักเรียกผิด หรือไม่รู้ว่าถูกสองแฝดแกล้งหลอกหรือเปล่า พวกสองแฝดเป็นเพื่อนบ้านอยู่ใกล้ชิดติดกับบ้านเสือน้อย ปีนี้ทั้งคู่ก็ขึ้น ป.1 แล้ว และก็ได้อยู่โรงเรียนเดียวกับเสือน้อย
แต่จะว่าไปทั้งแก๊งที่เดินตามกันต้อย ๆ ก็เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันหมด คงเพราะมันใกล้บ้านที่สุดแล้ว
ยักษ์-ใหญ่ บอกว่าวันก่อนเห็นลุงเปี๊ยกแกปีนไปเก็บรังผึ้ง สวมหมวกคลุมผ้าขาวบาง จุดกาบมะพร้าวใช้ควันไฟไล่ผึ้ง
สองพี่น้องที่บังเอิญไปเห็นด้วยความตื่นเต้น จึงอดเลื่อมใสลุงเปี๊ยกไม่ได้ หลังเห็นแกลงมาปลอดภัย จึงวิ่งเข้าไปถามขอความรู้อย่างสนอกสนใจ
พอได้ยินดังนั้น สองแฝดก็ได้เอาคำบอกเล่า มาพูดให้เพื่อน ๆ ฟังเมื่อวันก่อน ทั้งกลุ่มจึงเดินวางแผนแยกย้ายกันไปหาอุปกรณ์ บางคนก็ไปหากาบมะพร้าว ไม่ก็เศษไม้ กิ่งไม้ยาว ๆ
หรือไม่ก็วิ่งไปซื้อไม้ขีดที่…ร้านขายของชำแม่ค้าปากปลาร้า ซึ่งถูกผู้ใหญ่แถวนั้นใช้เรียก เพราะเจ้าหล่อน ด่าได้แม้กระทั่งลูกค้า
หลังจากรวบรวมได้ครบ ก็ขาดแต่ผ้าขาวบางไว้กันผึ้งต่อยเท่านั้น
ที่มาของการเดินตามกันเป็นขบวนในวันนี้ ก็เพื่อที่จะเข้าไปเก็บรังผึ้งมากิน โดยปกติแล้วผู้ใหญ่มักเตือนให้อยู่ห่าง ๆ ระวังผึ้งต่อย
ทว่าสำหรับเด็กน้อยผู้หาญกล้าแล้ว พวกกิจกรรมเหล่านี้ มันคือความท้าทายอันแรงกล้า ที่พวกเขาปรารถนาจะพิชิตยอดภารกิจนี้!
กลุ่มเด็กน้อยใจกล้าทั้ง 7 คนเดินตามลำดับไหล่ สองมือถืออุปกรณ์ที่แต่ละคนไปเตรียมมาด้านหน้าหัวท้าย มีเพชรและเสือน้อย คอยคลุมหัวขบวนและท้ายขบวนอยู่ ส่วนสายตาก็สาดส่อง ควานหารังผึ้งตามกิ่งไม้ในป่า…
เด็กน้อย ป.1 ในกลุ่มชี้ ตะโกนว่าเจอแล้วทำเอาทั้งกลุ่มดีอกดีใจ ก่อนจะกวาดสายตาไปมองเห็นจอมปลวกอยู่ทิศทางที่เจ้าตัวชี้ไป
เพชรจึงหัวเราะดังลั่น ก่อนพูดว่า “นั่นไม่ใช่รังผึ้ง นั่นมันรังปลวกโว้ย!” ทั้งกลุ่มก็พากันหัวเราะ เดินตามหาต่อไป ส่วนเสือน้อยก็ได้ตบบ่าให้กำลังใจรุ่นน้อง
ฟ้าไม่ละทิ้งคนมีความพยายาม หลังจากผ่านไปนานสองนาน พวกเขาก็ได้เจอรังผึ้ง ที่เหมาะสม เด็กน้อยทั้งเจ็ดก็ไม่รีรอแบ่งหน้าที่กันเสร็จสรรพ ช่วยกันเอากาบมะพร้าวมากองสุมกัน เป็นกองพะเนิน
จากนั้นเพชรลูกพี่ใหญ่ก็ใช้ไม้ขีดจุดไฟใส่กาบมะพร้าว และก็รีบวิ่งไปรวมตัวกับลูกสมุน ทุกคนใช้ผ้าขาวบางต่างโล่คลุมตัวเองและเพื่อน ๆ เรียกได้ว่ามิดชิดเสียจนพวกเขาคิดว่า แม้แต่ยุงสักตัวก็บินผ่านเข้ามาไม่ได้!
ไฟค่อย ๆ แรงขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนผลที่ตามมาของไฟนั่นก็คือควัน
ควันไฟเริ่มก่อตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ สายตาของเหล่าเด็กน้อย พากันจับจ้องไปยังที่เดียวกัน และกำลังรอลุ้นให้มันลุกโชนเพื่อขับไล่ให้ผึ้งบินออกจากรัง จากนั้นพวกเขาก็จะได้เข้าไปเก็บรังผึ้งตามแผนการที่นัดแนะ
แต่เจ้ากรรมทุกอย่างเหมือนจะมาดีแล้ว แต่พวกเหล่าเด็กน้อยลืมดูทิศทางลม!
และในตอนนี้พวกตนกำลังอยู่ใต้ลม ส่วนกาบมะพร้าวที่จุดอยู่เหนือลมห่างจากรังผึ้งไม่ไกล แทนที่ลมจะลอยขึ้นไปอย่างที่คาดหวัง ดันมุ่งเข้ามาหาพวกเขาเสียได้ ซึ่งมันทำเอาทุกคนที่อยู่ในมุ้งสำลักควันแทบแย่...
และแล้วผึ้งที่เกาะอยู่บนรังก็ได้กลิ่นควัน พร้อมกับความร้อนที่ค่อย ๆ ลอยขึ้นมา ทำให้ผึ้งงานบินวนเตือนภัย เสียง “หึ่ง ๆ” ดังระงม
พวกมันเห็นผู้บุกรุก และเตรียมพุ่งเข้าจู่โจมผู้บุกรุก…เพื่อปกป้องอาณาเขตของตนตามสัญชาตญาณ
เหล่าเด็กน้อยที่อยู่ภายในมุ้งต่างก็พากันสำลักควันไฟ แต่ละคนต่างส่งเสียงอู้อี้ ก่อนที่จะตัดสินใจ ‘สละเรือกระโดดลงแม่น้ำ’ พวกเขาต่างพากันวิ่งกระเจิง ไปกันคนละทิศคนละทาง
พร้อมตามมาด้วยฝูงผึ้งที่บินมาตามต่อย แต่ละคนก็โดนกันไปคนละจุดคนละตำแหน่ง
ส่วนของเสือน้อยโดนที่แก้มแดง ๆ ของเขา มองดูโดดเด่นสะดุดตา เจ้าตัวร้องเสียงหลง จึงได้แต่วิ่งร้องไห้กลับบ้านไป
……