ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
รัก,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,เล่าประสบการณ์,ตลก,พล็อตสร้างกระแส,Y2K,ย้อนยุค,พระเอกเก่ง,เจ้าแผนการ,นักธุรกิจ,คนในฝัน,รวยตั้งแต่ยังเด็ก,สร้างตัว,สายเปย์,มาเฟีย,ตัวพ่อ,โรงเรียน,พล็อตไม่ซ้ำใคร,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เสือเจ้าพระยา | ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า (อ่านฟรี!)ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
เสือเจ้าพระยา ภาคที่ 1 | จับเสือมือเปล่า!
- ที่มาของชื่อเรื่อง -
ซ้ายเด่นสง่าเสือเจ้าพระยา ขวาดาราประดับฟ้าเพริศแพร้ว
สองเพชรงามน้ำหนึ่งเมืองบัวแก้ว ผู้ผ่องแผ้วคู่แคว้นแดนประทุม
………
นิยายเรื่องนี้จะเป็น ‘แนวสร้างตัว’ ซึ่งตลอดทั้งเรื่องผสมผสานไปด้วยมุกตลก และสอดแทรกไว้ด้วยสาระ โดยที่ได้อิงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงบนโลก ในภาคนี้จะมุ่งเน้นไปที่การปูพื้นฐานตัวละคร และก็โครงเรื่องเสียเป็นส่วนใหญ่
โดยนิยายจะเล่าย้อนกลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2548 เป็นเรื่องราวของพระเอกที่มีชื่อว่า “เสือน้อย” นับตั้งแต่เจ้าตัวได้เข้ามัธยมต้นในภาคที่ 1 จนกระทั่งเรียนจบมหาลัย ในภาคที่ 5
ผู้เขียนเชื่อว่าท่านนักอ่านนั้น ‘มีลิมิต’ ในการยอมรับนิยายสักเรื่องหนึ่ง ดังนั้นในตอนที่ 24 “คนขี่ควาย” ก็อาจช่วยให้ท่านตัดสินใจง่ายขึ้น แน่นอนหากว่าท่านอ่านเต็มภาคได้ย่อมจะดีที่สุด
“ใครจะไปคิดว่าควายจะเปลี่ยนชีวิตคนได้?” ทองสุขเจ้าควายตัวแสบ ถูกพ่อหยิบยกขึ้นมาเปรียบเปรยให้ลูกชายได้ฉุดคิดถึงสิ่งที่ทำอยู่ และมันได้จุดประกายความคิดของเด็กหนุ่ม ทำให้ชีวิตเขาพลิกผันไปตลอดกาล
♪
บทเพลงที่ใช้เปิดนิยายเรื่องนี้ คือ ‘เพลงบ้าหอบฟาง’ ของวงอัสนี-วสันต์
หอบฟางหอบฟางไปไหน ทำไมถึงต้องหอบฟาง
หอบกันจริงๆจังๆ หอบกันรุงรังหอบฟาง
♪
#พล็อตไม่ซ้ำใคร #นักธุรกิจร้อยล้าน #นักรักตัวพ่อ #มาเฟีย
นิยาย 5 ภาค/เล่ม(จบ) | จำนวน ≈643,202 คำ - [มี E-Book]
[--- อ่านฟรีรวม 150 ตอน! ---]
ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า
(อ่านฟรีทั้งภาค!)
ภาคที่ 2 เสือไว้ลาย
(ฟรีตอนที่ 57-87)
ภาคที่ 3 หน้าเนื้อใจเสือ
(ฟรีตอนที่ 116-131)
ภาคที่ 4 ชาติเสือจับเนื้อกินเอง
(ฟรีตอนที่ 186-207)
ภาคที่ 5 เสือหมอบ
(ฟรีตอนที่ 251-275)
(จบบริบูรณ์)
คำโปรย
เด็กหนุ่มผู้แผ้วถางป่าดงอันรกเรื้อ...
“ใช้สองมือกวาดพงสร้างทางฝัน สองเท้าย่างก้าวพลันสู่จุดหมาย
ขีดเขียนโชคชะตาด้วยใจกายยืนหยัดอย่างผึ่งผายด้วยคุณธรรม”
อุปสรรคนานัปการ…จะหล่อหลอมให้เขา กลายเป็นคนแกร่ง!
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้ ผู้เขียนแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ชื่อตัวละคร เหตุการณ์ และสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่อง อาจปรากฏอยู่ในความเป็นจริง “ทั้งนี้ผู้เขียนมิได้มีเจตนามุ่งทำร้ายให้เกิดความเสื่อมเสียต่อบุคคลวิชาชีพ หรือองค์กรใดทั้งสิ้น” หากแต่ใช้อ้างอิงเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านเท่านั้น…
เนื้อหาในนิยายอาจมีเนื้อเรื่องที่ไม่เหมาะสมปรากฏอยู่บ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง …หากมีความผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ตอนที่ 33 เวลาว่างของเหมือนฝัน
เสือน้อยก็ขึ้นสเตตัสใน Hi5 อีกทั้งใน MSN
จึงทำให้คนอื่นรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง ส่วนเหมือนฝันก็ทักมาให้กำลังใจเล็กน้อย ทั้งคู่ก็คุยกันอยู่นานสองนาน ความเป็นเพื่อนของทั้งคู่ดูเหมือนจะสนิทมากขึ้นกว่าแต่ก่อน คงด้วยเพราะเสือน้อยเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ดูเป็นมิตรมากยิ่งขึ้น
ผ่านไปได้ไม่กี่วันเสือน้อยก็ลืมความทุกข์ใจไปหมดสิ้น กลับมาเป็นเสือน้อยที่เหมือนเดิม แถมทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น มีเวลาว่างไปดูเจ้าทองสุขได้มากยิ่งขึ้น
พอถึงช่วงจะสอบปลายภาคลูกน้องที่ร้านเกม ซึ่งกำลังทำหน้าที่ปั๊มตังค์ในเกม ให้อยู่ก็บ่น ๆ กับเขาว่าไม่รู้ว่าจะสอบผ่านหรือเปล่า?
จึงทำให้เสือน้อยไปรวบรวมข้อมูลมา ถ้าพวกนี้ตกก็เท่ากับต้องไปเรียนซ่อมเสียเวลายกใหญ่ ไม่สู้จ้างครูสอนพิเศษมาสอนพวกเขาก่อนสอบไม่ดีกว่าหรือ?
เสือน้อยก็ให้ลูกน้องไล่รายชื่อวิชามา ประเดี๋ยวจะหาคนมาสอนให้ แน่นอนส่วนใหญ่เป็นพวกวิชาคณิตศาสตร์หรือพวกเคมีสำหรับเด็ก ม.ปลาย
และตัวเขาย่อมมีวิธีการหาครูสอนพิเศษของเขาเอง จนได้พวกนักศึกษามหาลัยที่เก่งคณิตศาสตร์ และวิชาเคมี รับจ้างสอนพิเศษนักเรียน มัธยมต้นและปลาย เป็นอาชีพเสริมอยู่ในขณะเรียนมาสอน
โชคดีที่ทั้งกลุ่มโดยมากอยู่ห้องเดียวกัน เสือน้อยจึงไม่ต้องไปตามหาครู มาหลากหลายแขนง เหตุผลที่เขาเลือกคนที่อยู่ห้องเดียวกันนั้น นั่นก็เป็นเพราะว่าจะได้ตามตัวง่าย ๆ แถมยังตรวจตรวจสอบกันเองเช่นกัน
สำหรับการเรียนพิเศษของกลุ่มลูกน้อง มันก็ง่ายกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก พวกนั้นมาบ่นให้ฟังว่า “เข้าใจง่ายกว่าที่ครูสอนปกติ สูตรที่ใช้คำนวณก็เป็นอีกแบบ ในการสอบคราวนี้ พวกเขาจึงมั่นใจขึ้นเยอะ” จึงเอ่ยปากขอบคุณเสือน้อยอยู่ยกใหญ่
เสือน้อยเองก็เก๊กมาด “ไม่ต้องห่วงอยู่กับไอ้เสือ กินอิ่มนอนหลับแน่นอน!” เขากอดอกพูดอย่างมาดมั่น
……
หลังจากนั้นก็สอบปลายภาคเสร็จ การปิดเทอมใหญ่ก็มาถึง…
มันคือที่สุดของการรอคอยของแต่ละคนที่จะได้พักผ่อนอยู่บ้าน สำหรับบางคนนี่เป็นโอกาสดีที่จะทำงานพิเศษหาเงินเข้ากระเป๋า…ส่วนของเสือน้อยนั้นเป็นทั้งสองอย่าง
ตอนนี้เสือน้อยไปเช่าแผงขายหมูปิ้ง แถวท่าเรือซึ่งเป็นทำเลที่ดีมาก เพราะมีคนเดินผ่านไปผ่านมาเยอะมาก เวลานักเรียนสองโรงเรียนจากอีกฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เลิกเรียนก็จะพากันขึ้นเรือข้ามฟากมา
ทว่าตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมเจ้าของแผงจึงเลิกขายเลิกเช่า ได้เวลาเปลี่ยนที่ขายของเขาพอดี จึงทำให้แผงนี้ตกเป็นของเสือน้อย ที่มีเส้นสายผ่านแม่ชบาไปถึงเจ้าของตลาด
เขาก็ได้จ้างคนประจำจุดเอาไว้คนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่อายุ 17-18 ปีกว่าโดยให้รายได้ตายตัว ส่วนเด็กหนุ่มขอแค่มีงานทำอะไรก็เอาหมดไม่เกี่ยง ไม่กล้าโกรธเพราะโดนขู่ไว้ด้วยกฎต่าง ๆ
ส่วนธุรกิจร้านเกม กลายเป็นว่าตลอดทั้งวัน ร้านเกมเนืองแน่นเต็มทุกโต๊ะ ทำให้เสือน้อยทำยอดขายอาหารพุ่งจากเดิมเป็น 5-6 เท่า เพราะเล่นนั่งแช่กันอยู่ร้านเกมทั้งวัน อาหารและน้ำ เสือน้อยก็มีพร้อมบริการถึงที่…
ลูกน้องที่วิ่งส่งตามร้านเกมต่าง ๆ ห้างร้านต่าง ๆ ก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งหมูปิ้งไก่ทอด ข้าวราดแกง มีครบจบในที่เดียว
พักหลัง ๆ มีคนอยากสั่งน้ำหวานมามากขึ้น เสือน้อยมีหรือจะปล่อยผ่าน เมื่อมีคนเสนอก็ต้องมีคนสนองจึงได้ว่าจ้างแม่บ้านสองคน มาช่วยเขาทำงาน
จนแม่ชบาโวยวาย ที่ไม่มีคนทำความสะอาดบ้าน…
ส่วนเรื่องที่เขาให้ความสำคัญก็คือการสอบเข้าของ ไอ้แฝดนรกยักษ์-ใหญ่
เขาต้องการเพื่อนที่ไว้ใจได้มาคอยคุมกิจการที่เริ่มมีมากขึ้น เจ้าสองคนนี้เป็นทั้งน้อง เป็นทั้งเพื่อนเล่น อีกทั้งลูกสมุนกลาย ๆ
ย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้มันไปเรียนที่อื่น นอกจากโรงเรียนปทุมวิไล ใกล้บ้านแค่นี้จะไปเรียนที่อื่นทำไมให้ไกล
เสือน้อยยอมลงทุนจ้างครูสอนพิเศษ ที่ติวเข้มข้อสอบเกร็งข้อสอบของนักเรียน ได้อย่างสบาย ๆ โดยรวมก็คือพวกสองหน่อต้องเข้าโรงเรียนนี้ให้ได้ เขายังเอาเงินเดือนมาล่อใจพวกมันด้วย เพื่อทำให้มีแรงกระตุ้น
กิจการของเขาไปได้ดีมาก มีคนบอกว่า “ลักกี้อินเกม…อันลักกี้อินเลิฟ”
สำหรับเสือน้อยเป็นเช่นนี้เลย ปิดเทอมส่วนใหญ่เสือน้อยก็นั่งประจำตำแหน่งอยู่สี่ที่ร้านทองสุข ร้านข้าวแกง เปลในบ้านสวน และสุดท้ายก็คือค่ายมวยที่ขึ้นชกเป็นประจำ
……
วันประกาศผลสอบก็เป็นไปตามคาด ยักษ์-ใหญ่สองคนสอบติด และก็ได้ผ่านการสัมภาษณ์แล้ว จึงทำให้เสือน้อยโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
ส่วนทั้งคู่ก็ดีใจไม่ต่างกัน เพราะตลอดปีที่ผ่านมา ดูเหมือนจะเดินตามรอยเท้าของพี่เสือน้อยได้ไม่ทัน ขาดรายได้ไปเยอะแยะเลยสำหรับพวกเขา ตอนนี้ตามทันแล้ว ทั้งคู่จึงโล่งใจมาก
สำหรับพวกเขาแล้วเสือน้อยคือพี่ชาย ยิ่งเห็นมีเงินมาจ้างเพื่อน ๆ แถวบ้านมากมายก็ยิ่งเคารพลูกพี่คนนี้อย่างบอกไม่ถูก
พวกเขาได้อานิสงส์เป็นลูกสมุนมือซ้ายขวา เวลาใช้งานก็มักถูกใช้งานสำคัญ ๆ ทว่าในบางครั้งพี่เสือแกก็มักจะให้พวกเขาลงแรงหนักกว่าคนอื่น…แต่เงินก็ถึงเช่นกัน!
ทุกคนรู้ดีว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นสมุนหลัก เพราะดูได้จากการยืนลำดับไหล่ ‘ยักษ์-ใหญ่’ ก็มักจะยืนขนาบข้าง คล้ายกับในหนังในละคร
พวกเขาทั้งคู่อยากจะให้เปิดเรียนเร็ว ๆ ตั้งแต่รู้ว่าตนสอบติด
ลูกพี่อย่างเสือน้อยก็จัดการให้พวกเขาควบคุมในตำแหน่งสำคัญ ๆ ส่วนเจ้าตัวก็นอนไปนอนเลี้ยงควาย หรือไม่ก็ขึ้นชกมวยล่อเป้าอยู่บนเวที
พอมีปัญหาอะไรก็โทรมา หรือถ้าโทรไม่ติดก็จะขี่รถมารายงานลูกพี่ที่ค่ายมวย
……
เหมือนฝันสาวน้อยผู้งดงาม กิริยาท่าทางที่เธอแสดงออกมา มันก็ชวนให้คนได้หลงใหลเป็นอย่างมาก ขนาดผู้หญิงด้วยกันเองยังแอบชอบเธอด้วยซ้ำ
ทั้งเรียนดีกีฬาเด่น ทางโรงเรียนได้ส่งเธอไปประกวดแข่งขันพวกภาษาอังกฤษ และเธอก็ยังได้รางวัลกลับมามากมาย ซึ่งเธอเป็นที่รักของบรรดาครูและเพื่อน ๆ เป็นอย่างมาก ด้วยเป็นคนนิสัยดีเข้ากับคนอื่นง่าย ไม่ถือตัว
ส่วนทางด้านความรักนั้น เด็กหนุ่มผู้มาห้อมล้อมเธอก็มีตั้งแต่ ม.1 ไปจนถึง ม.6
และแน่นอนว่าความสวย และความเด่นของเธอย่อมนำพามา ซึ่งความริษยาในหมู่พวกผู้หญิง บางครั้งก็โดนรุ่นพี่ผู้หญิงหมั่นไส้ ชอบเรียกเธอไปแกล้งในงานกีฬาสี เธอมักจะถูกพวกรุ่นพี่เล่นงานเป็นประจำ ส่วนเพื่อนในกลุ่มของเธอก็พลอยโดนหางเลขไปด้วย
ทั้งต่อว่ากระแนะกระแหน พูดเสียงดังทำให้เธออับอาย จนเธอโกรธมากไปร้องไห้กับพ่อแม่ จนเรื่องไปถึงฝ่ายปกครอง
หลังจากเสือน้อยไปสารภาพรักและกลายเป็นเพื่อนกัน ตลอดช่วงเวลานั้นก็จะมีคนที่หมั่นมาเอาใจอยู่ตลอด เช่น นายพีรพัฒน์ นักกีฬาเทควันโดคนโปรดของครูในชมรม
ซึ่งเจ้าตัวได้ใส่ที่ปิดตาอยู่เป็นเดือนกว่าจะเอาออก ใครไปถามก็จะบอกว่า “โดนเศษไม้เข้าตาหมอให้ปิดไว้”
และนายคนนี้เป็นเหมือนฝันเองที่เปิดโอกาสให้เขาเข้ามาในชีวิต ส่วนคนอื่นที่มาตามตอแยจนเธอเองก็รำคาญ…รำคาญมาก ๆ เสียด้วย แม้กระทั่งเสือน้อยเอง
แต่ทว่ารายนั้นได้ชิงสารภาพไปก่อนแล้ว จึงทำให้เธอคลายกังวล หนทางเดียวที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากสถานการณ์ที่ผู้ชายมาห้อมล้อมแบบนี้ได้ จำเป็นที่ต้องเลือกสักคน ไม่เช่นนั้นก็จะมีคนมาตอแยเธอไม่จบไม่สิ้น…
เหตุผลที่เธอหลงเสน่ห์เด็กหนุ่ม…เป็นเพราะปากหวานช่างเอาอกเอาใจ แถมหน้าตาก็ หล่อเหลา คิ้วหนาคมเข้ม รูปร่างหน้าตาดี ทั้งยังเป็นนักกีฬาคนเก่งประจำโรงเรียนอีกต่างหาก ทั้งฟุตบอล เทควันโด ดูเหมือนเขาโตขึ้นไปสามารถเอาดีด้านกีฬาได้เลย
อีกทั้งพียังสามารถปกป้องเธอได้ ด้วยศิลปะการต่อสู้ ซึ่งเธอได้ยินมาคร่าว ๆ ว่าพีเองก็ดูเป็นหัวโจกในรุ่นราวคราวเดียวกัน หลังจากตกลงลองคบหาดูใจกันแล้ว ก็ปรากฏว่าทั้งคู่เหมือนจะไปได้ดี พีมักจะชวนเธอไปเที่ยวตามห้าง ดูหนัง ฯลฯ
แต่โดยมากเธอมักอยู่ที่ร้านหนังสือ ในมุมโปรดนิยายและวรรณกรรม ในร้านหนังสือที่ไปเที่ยวหรือแวะหาทีไร ก็ต้องซื้อติดมือกลับบ้านมาเป็นประจำ
วันวาเลนไทน์ก็ยกดอกไม้ช่อใหญ่เด่นสะดุดตามาให้เธอ ทำเอาเพื่อนร่วมห้องอิจฉากันเป็นแถว ๆ ทั้งกล่องขนมช็อกโกแลตแทนใจ มีมาไม่ขาด…ยิ่งนานวันทั้งคู่ก็ยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
จนกระทั่งปิดเทอม ทั้งคู่ดูเหมือนจะแยกย้ายกันไปชั่วคราว เนื่องจากมีภาระกิจของแต่ละคนที่ต้องทำ
กิจกรรมหลัก ๆ ของเหมือนฝันก็คือ ‘การอ่านนิยาย’ ซึ่งกองนิยายที่ตอนนี้สุมอยู่ ต่อแถวรอคิวอ่านยาวเป็นหางว่าว ในบางครั้งก็ไปช่วยพ่อนั่งคุมร้านวัสดุก่อสร้าง
ส่วนนายพีก็มีซ้อมเทควันโดทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน หากแต่บางวันก็โทรนัดกันไปเจอะเจอตามร้านอาหารในห้างตามสมควร
ตั้งแต่คบกับพีเธอก็ดูเหมือนมีความสุขมากขึ้น หัวใจของเด็กสาวแรกแย้มก็พองโตขึ้นเรื่อย ๆ เธอถึงขั้นคิดไปถึงอนาคตระหว่างเขาและเธอไม่ได้ ผ่านจินตนาการในหนังสือ…
……
ทางด้านนายพีรพัฒน์ หลังจากมีเรื่องชกต่อยกับเสือน้อยไปคราวก่อน
ซึ่งโดนอีกฝ่ายซัดหมอบเหมือนหมาข้างถนน มันจึงทำให้เขาโกรธแค้นอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก หากแต่ครอบครัวของเขาเอง ก็โดนพ่อของไอ้หมอนั่นกับทนายความบีบบังคับ รวมไปถึงทั้ง ผอ. ก็เข้าข้างฝ่ายนั้นด้วย
จึงได้ทำข้อตกลงห้ามยุ่งเกี่ยวห้ามมาหาเรื่องกันอีก อีกฝ่ายถึงจะหยุดดำเนินคดี พร้อมเรียกค่าทำขวัญ พ่อแม่ของเขาเมื่อได้ดูหลักฐานที่ทางโรงเรียนให้มา ทั้งกล้องวงจรปิด ทั้งพยานบุคคล ก็ทำเอาอึ้งพูดไม่ออก
และพ่อแม่ของเขาได้ยอมจ่ายเงินฟาดเคราะห์ไป เห็นว่าจ่ายไปเยอะมาก เขาถึงได้โดนตำหนิจากครอบครัวอย่างรุนแรง
พ่อ : ไอ้พี…ไอ้ลูกโง่ขนาดมึงไปรุมเขามึงยังแพ้ แพ้ไม่พอเสือกให้เขาเอาหลักฐานมาจับอีก เจริญจริง ๆ ไอ้ลูกโง่เอ๊ย!
พ่อด่าเขาอยู่อย่างนี้เป็นวันๆ
แม่ : คุณก็อย่าไปว่าลูกนักเลยดูสิ ลูกก็เจ็บตัวมามากพอแล้ว
พี : ใช่ ๆ ความจริงพ่อควรเอาเรื่องมันด้วยซ้ำ ที่มันเล่นงานผมสาหัสเนี่ย!
พ่อ : ยังจะเถียงอีก นี่ถ้าไม่ใช่เพราะมึงทำอะไรไม่คิด ไม่ดูตาม้าตาเรือ มึงคิดว่าอยู่ในป่าในดงหรือไงจะกระทืบใครก็ไม่ต้องสนใจ แต่นี่อะไรกล้องวงจรปิดเต็มโรงเรียนมึงดูสิ! จะไปเอาเรื่องมัน แต่มึงพาเพื่อนไปรุมมัน ขึ้นศาลไหนก็แพ้…แพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มด้วยซ้ำ กลายเป็นขี้ปากอับอายขายขี้หน้าคนอื่นเขาอีก
“ลูกของไอ้ สจ.พาที ยกพวกไปรุมกระทืบ มิวายโดนสวนคืน หมดกันชื่อเสียงที่กูสั่งสมมา!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว ส่วนเด็กหนุ่มได้แต่ก้มหน้ายอมรับสภาพ
สจ.พาที : ตั้งแต่นี้ไปเป็นไปได้ก็อย่าไปหาเรื่องมัน เข้าใจมั้ย!!
พี : แล้วถ้ามันมาหาเรื่องผมละพ่อ?
พาที : มึงก็ดูไปตามสถานการณ์สิวะ แค่ช่วงนี้เลี่ยง ๆ มันไปก่อนผ่านไปหลาย ๆ เดือนค่อยไปยุ่มย่ามกับมันใหม่