ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
รัก,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,เล่าประสบการณ์,ตลก,พล็อตสร้างกระแส,Y2K,ย้อนยุค,พระเอกเก่ง,เจ้าแผนการ,นักธุรกิจ,คนในฝัน,รวยตั้งแต่ยังเด็ก,สร้างตัว,สายเปย์,มาเฟีย,ตัวพ่อ,โรงเรียน,พล็อตไม่ซ้ำใคร,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เสือเจ้าพระยา | ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า (อ่านฟรี!)ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
เสือเจ้าพระยา ภาคที่ 1 | จับเสือมือเปล่า!
- ที่มาของชื่อเรื่อง -
ซ้ายเด่นสง่าเสือเจ้าพระยา ขวาดาราประดับฟ้าเพริศแพร้ว
สองเพชรงามน้ำหนึ่งเมืองบัวแก้ว ผู้ผ่องแผ้วคู่แคว้นแดนประทุม
………
นิยายเรื่องนี้จะเป็น ‘แนวสร้างตัว’ ซึ่งตลอดทั้งเรื่องผสมผสานไปด้วยมุกตลก และสอดแทรกไว้ด้วยสาระ โดยที่ได้อิงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงบนโลก ในภาคนี้จะมุ่งเน้นไปที่การปูพื้นฐานตัวละคร และก็โครงเรื่องเสียเป็นส่วนใหญ่
โดยนิยายจะเล่าย้อนกลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2548 เป็นเรื่องราวของพระเอกที่มีชื่อว่า “เสือน้อย” นับตั้งแต่เจ้าตัวได้เข้ามัธยมต้นในภาคที่ 1 จนกระทั่งเรียนจบมหาลัย ในภาคที่ 5
ผู้เขียนเชื่อว่าท่านนักอ่านนั้น ‘มีลิมิต’ ในการยอมรับนิยายสักเรื่องหนึ่ง ดังนั้นในตอนที่ 24 “คนขี่ควาย” ก็อาจช่วยให้ท่านตัดสินใจง่ายขึ้น แน่นอนหากว่าท่านอ่านเต็มภาคได้ย่อมจะดีที่สุด
“ใครจะไปคิดว่าควายจะเปลี่ยนชีวิตคนได้?” ทองสุขเจ้าควายตัวแสบ ถูกพ่อหยิบยกขึ้นมาเปรียบเปรยให้ลูกชายได้ฉุดคิดถึงสิ่งที่ทำอยู่ และมันได้จุดประกายความคิดของเด็กหนุ่ม ทำให้ชีวิตเขาพลิกผันไปตลอดกาล
♪
บทเพลงที่ใช้เปิดนิยายเรื่องนี้ คือ ‘เพลงบ้าหอบฟาง’ ของวงอัสนี-วสันต์
หอบฟางหอบฟางไปไหน ทำไมถึงต้องหอบฟาง
หอบกันจริงๆจังๆ หอบกันรุงรังหอบฟาง
♪
#พล็อตไม่ซ้ำใคร #นักธุรกิจร้อยล้าน #นักรักตัวพ่อ #มาเฟีย
นิยาย 5 ภาค/เล่ม(จบ) | จำนวน ≈643,202 คำ - [มี E-Book]
[--- อ่านฟรีรวม 150 ตอน! ---]
ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า
(อ่านฟรีทั้งภาค!)
ภาคที่ 2 เสือไว้ลาย
(ฟรีตอนที่ 57-87)
ภาคที่ 3 หน้าเนื้อใจเสือ
(ฟรีตอนที่ 116-131)
ภาคที่ 4 ชาติเสือจับเนื้อกินเอง
(ฟรีตอนที่ 186-207)
ภาคที่ 5 เสือหมอบ
(ฟรีตอนที่ 251-275)
(จบบริบูรณ์)
คำโปรย
เด็กหนุ่มผู้แผ้วถางป่าดงอันรกเรื้อ...
“ใช้สองมือกวาดพงสร้างทางฝัน สองเท้าย่างก้าวพลันสู่จุดหมาย
ขีดเขียนโชคชะตาด้วยใจกายยืนหยัดอย่างผึ่งผายด้วยคุณธรรม”
อุปสรรคนานัปการ…จะหล่อหลอมให้เขา กลายเป็นคนแกร่ง!
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้ ผู้เขียนแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ชื่อตัวละคร เหตุการณ์ และสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่อง อาจปรากฏอยู่ในความเป็นจริง “ทั้งนี้ผู้เขียนมิได้มีเจตนามุ่งทำร้ายให้เกิดความเสื่อมเสียต่อบุคคลวิชาชีพ หรือองค์กรใดทั้งสิ้น” หากแต่ใช้อ้างอิงเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านเท่านั้น…
เนื้อหาในนิยายอาจมีเนื้อเรื่องที่ไม่เหมาะสมปรากฏอยู่บ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง …หากมีความผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ตอนที่ 35 นกแก้วบินวน มีคนจะเดือดร้อน!
ในอาทิตย์ที่ผ่านมาตอนพักกลางวันหรือตอนเย็น เสือน้อยแทบไม่เจอเพื่อนเลย
จึงโทรเรียกสมุนมือซ้ายขวามา “เฮ้ย! พวกมึงไปสืบได้ยังพวกคนไหนที่รวย ๆ ดูมีสตางค์จะได้ขายกระเป๋ากันเสียที อย่าลืมนะว่าต้องกระจายข่าวแบบลับ ๆ”
ยักษ์ : ได้มาหลายคนแล้วพี่เสือส่วนใหญ่เป็นเด็กห้องสิบสี่
ใหญ่ : ผมก็กระจายข่าวคร่าว ๆ แล้วกระเป๋ามีน้อยคนมีเยอะราคาน่าจะดีดขึ้นพี่
เสือน้อย : ดีมาก ถ้ามันมีคนต้องการเยอะ มึงก็ซื้อใจไว้!
ตั้งแต่เข้าเรียนไม่ผิดจากที่คาดเสือน้อยให้เจ้าสองคนนี้และเด็กแถวบ้านที่เป็นลูกสมุนใส่กระเป๋ารุ่นเก่า เอาไว้คุยข่มกับเพื่อนเช่นว่า มรดกตกทอด ฯลฯ จนมีข่าวแพร่สะพัดในกลุ่ม ม.1 ว่ามีคนปล่อยกระเป๋ารุ่นเก่า ใครที่ใส่มันก็ดูเด่นสะดุดตา ดูเท่กว่าคนอื่นเป็นไหน ๆ
เสือน้อยทยอย ๆ ปล่อยของราคาก็ดีดขึ้นเป็น 5 เท่าในช่วงเริ่มแรก เขาปล่อยเพื่อให้คนลองตลาดให้คนที่เห็น อิจฉาจนอยากได้เสียก่อน
จากนั้นก็กระจายข่าวไปเพิ่มความน่าสนใจไปอีกระลอก คราวนี้ไม่ใช่แค่เด็ก ม.1 ที่ร่วมด้วย ยังมี ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6 ตามมาด้วย
เมื่อความต้องการสูงปริมาณน้อย ราคาย่อมพุ่งขึ้นเป็นธรรมดา
เสือน้อยก็ได้จ้างคนมารับเจรจาปล่อยของ บ้างก็ทำเป็นเรื่องเป็นราว เปิดประมูลพวกที่สภาพดีที่สุดสิบใบไปเลย แต่ละใบมีรูปถ่ายแนบว่าได้มาจากใคร
……
หลายวันถัดมาใช้เวลานานกว่าที่คาด พวกกลุ่มเพื่อน ๆ ที่นำโดยไอ้สมชายก็กลับมารายงานหัวหน้าแก๊ง อย่างละเอียดยิบ
สิงหาได้ทีก็เป็นนำเสนอผู้เปิดหัว “ที่กูพบมานะ ตอนปิดเทอมไอ้นี่แม่งสุดจัดปลัดบอก ควงหญิงอาทิตย์ละคน แถมยังได้ไปหลายคนด้วยทั้งรุ่นพี่รุ่นเดียวกัน เพื่อนสนิทมันยืนยันมาเอง กูไปหลอก ๆ ถามสองถึงสามคน”
ต่อมาต่ายก็เสริมขึ้นทันควัน “กูสืบประวัติครอบครัวมันมาละไอ้ห่าที่น่าตกใจคืออะไรรู้มั้ย? พ่อมันชื่อพาที มีคำว่าพาจริงๆ ด้วยโว้ย”
เสือน้อยทำท่าตกใจเล็กน้อย เขาหันมามองไอ้ต่ายอย่างสนอกสนใจในข้อมูล “พ่อมันเป็น สจ. แม่เป็นนักธุรกิจ ครอบครัวมีลูกคนเดียว ญาติพี่น้องเยอะ เครือข่ายอิทธิพลของ สจ. มันมีเยอะอยู่”
สมชายยิ้มอย่างมีเลศนัย “แต่ของกูนี่สิน่าสนใจ ไอ้พีแม่งเป็นนายหน้าขายบุหรี่เว้ย!”
ทุกคนก็หันมามองเพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ “คือมันมีประเด็นอยู่ว่า…กูไปเยี่ยวแล้วเจอเพื่อนเก่าถามมันว่าไป เอาบุหรี่มาจากไหนวะใครแม่งขายให้มึง?”
“มันก็บอกว่าพี่ทิด ม.5 เป็นคนขายให้ ตอนแรก ๆ กูก็ปล่อยผ่าน จนกระทั่งสืบคนที่ไอ้พีแม่งสนิทด้วยปรากฏว่าเจอ ‘ไอ้ทิดกับไอ้พี’ มันเหมือนจะร่วมมือกัน อันนี้กูก็เลยร่วมมือกับไอ้วา เพราะแม่งหน้าตาดูเหมาะเป็นเด็กล่อซื้อที่สุดละ”
วาพูดขึ้นด้วยความภูมิใจ “กูไปถึงขั้นตามย้อนรอยเลย มันขายกันเปิดเผยแต่ราคาแพงเอาเรื่อง แต่ขายทุกวันขายคนประจำเท่านั้น…กูไปขอแบ่งซื้อมา” จากนั้นพวกเขาก็สาธยายถึงวิธีได้มาของข้อมูล
เปรม สาม เอส พูดขึ้น “ส่วนพวกกูสามคน ก็รับล่ารายชื่อคนสนิทที่อยู่ในโรงเรียนมาให้ อีกทั้งยังได้ผู้หญิงที่มันไปพัวพันด้วย แต่มีคนหนึ่งเหมือนจะยอมพูด แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่ยอมเปิดปากง่าย ๆ กูว่าอันนี้มึงต้องใช้เงินง้างปากเธอเอง…”
เสือน้อยพูด “ดีมาก! จัดการต่อไปเรื่องบุหรี่ให้ความสำคัญหน่อย บีบจุดอ่อนมันง่ายเลย ส่วนผู้หญิงที่มันเคยไปมีอะไรด้วย พามาหากูหน่อยประเดี๋ยวจัดการเอง”
ก่อนจะแจกจ่ายเงินให้เพื่อน ๆ คนละสามพัน ทำเอาทุกคนตาลุกวาว
“ตามอีก…เน้นไปที่เรื่องของบุหรี่กับผู้หญิงคนนั้น!” เสือน้อยนึกถึงการใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้อย่างเลือนราง
……
ผ่านไปไม่นานเปรมก็พาเพื่อนผู้หญิงร่วมชั้นปีมาหาเสือน้อยจนได้
เสือน้อยได้พูดกล่อมว่า “นี่…ไม่มีอะไรเราแค่อยากถามเกี่ยวกับนายพี เธอรู้ใช่มั้ยเราเคยตามจีบเหมือนฝันอยู่?” เขาเน้นที่คำว่าเคย
หญิงสาวจึงตอบว่า “อื้อ!”
หน้าของเสือน้อยนั่น เป็นเหมือนกับมาสคอตประจำโรงเรียน ก็แน่ล่ะใคร ๆ ก็จำเขาได้ทั้งนั้น
“ดังนั้นเราจึงอยากรู้เรื่องความเจ้าชู้ของไอ้พี…จะได้เอาไปเป็นไม้เด็ดพิชิตใจสาว ถ้าเธอยอมบอกเรามีค่าจ้างให้ด้วยนะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หญิงสาวก็ได้บรรยายความเลวของไอ้ทรพี เสียเต็มประดา เธอเองก็ได้เล่าเรื่องที่ตัวเธอและเพื่อนแข่งกันตามตื๊อนายพี จากนั้นก็ถูกมันลวนลาม สุดท้ายมันตะล่อมจนเผลอตัวเผลอใจให้มัน
“และพอเราไปโวยวายตามตื๊อขอให้มันรับผิดชอบ มันก็ปัดบอกต่างสนุกด้วยกันทั้งคู่จะมาเอาอะไรอีก?” หญิงสาวคนนี้เล่าอธิบายเรื่องนี้ให้เสือน้อยฟัง
เสือน้อยก็ขอเบอร์ติดต่อเธอเอาไว้ เขาเตรียมวางแผนให้เธอไปเล่าเรื่องนี้ให้เหมือนฝันฟัง พร้อมให้ค่าจ้างไม่ใช่น้อย
ส่วนถ้าเธอยอมร่วมมือ ไปเล่าเรื่องนี้ให้เหมือนฝันฟังตามแผนจะให้เพิ่มอีก ระหว่างนี้จึงขอให้เธอพยายามตื๊อไอ้พีไว้ก่อน
ก่อนจะดำเนินการตามแผน ทั้งคู่ต่างได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ฝ่ายหญิงเธอชื่อ ‘เพลงขวัญ’ เป็นผู้หญิงน่ารัก ๆ เป็นดาวเด่นประจำห้องเจ็ดเลย หน้าตาในช่วงอายุเท่านี้บางมุมก็ไม่ด้อยไปกว่าใคร มันออกมาจากความมั่นใจของเธอเอง
ความจริงในใจของเพลงขวัญเอง ก็ไม่อยากให้ไอ้พีมันลอยหน้าลอยตาแบบนี้ ได้เธอแล้วก็ทิ้งไป เธอยังไปกล้าเรียกร้องอะไรได้อีก โชคดีที่ป้องกันเมื่ออีกฝ่ายไร้เยื่อใยกับเธอก่อน บวกกับแผนของนายเสือน้อยก็ยิ่งทำให้เธอฮึกเหิมขึ้นมา
“ค่าจ้างดีทำให้มีแรงผลักดัน…”
……
วันหนึ่งหลังจากเปิดเทอมได้ไม่นาน
ในบ้านก็มียัยตัวป่วนคนหนึ่งมาเยือน เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของเสือน้อยเอง เป็นลูกของน้าชม้อยน้องสาวแท้ ๆ ของแม่ ตั้งแต่เด็กเสือน้อยก็ปวดหัวกับเธอเป็นประจำ…ยัยตัวน้อยชอบมาวิ่งปั่นประสาทเขา ครั้นนึกถึงอดีตแล้วก็อดส่ายหน้าไม่ได้
‘นกแก้ว’ ลูกสาวน้าชม้อย ได้สอบติดโรงเรียนคณะราษฯ กลายเป็นรุ่นน้องลูกหมีแล้วอีกคนหนึ่ง แต่ในช่วงนี้ที่บ้านของน้าชม้อยกับสามีทะเลาะกันรุนแรงทุกวัน พอแม่ชบาไปเห็นเข้าจึงพาหลานรักออกมาจากบ้าน เก็บข้าวของมาอยู่บ้านนี้
สาวน้อยราวกับลูกนกตัวสั่น ดูหวาดหวั่น ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เนื่องจากพอเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา เธอทั้งพยายามห้ามก็แล้ว เรียกญาติทั้งปู่ตากับยายมาช่วยก็แล้วแต่ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้น
จนโทรไปหาป้าชบาให้มาห้ามทัพ จากนั้นเธอก็ตกอยู่ในอาการเหม่อลอย อาศัยอยู่ในบ้านของป้าหลายวันกว่าอาการจะดีขึ้น
โชคดีที่ลูกหมีได้ไปช่วยลาป่วยแทนที่โรงเรียน และมีแม่ชบาคอยปลอบใจหลานรักอยู่ตลอดเวลา ถึงขั้นพาไปขายของด้วยเลย ไม่ปล่อยให้เก็บตัวอยู่ในบ้าน
จนกระทั่งเธอดีขึ้น เสือน้อยเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความปั่นป่วน
พอเห็นเสือน้อยเลี้ยงควายเสร็จ และนอนอยู่บนเปล เธอมานั่งจ้องมองด้วยความสงสัย
สมองกำลังหาทางคิดจะแกล้งพี่ชายคนนี้อย่างไงดี คิดไปคิดมาจึงเอาหญ้ามาแหย่จมูก ทำเอาเจ้าตัวไม่เป็นอันนอน เส้นเลือดบนขมับเต้นตุ้บตับ
ส่วนเจ้าทองสุขโชคดีหน่อย เจ้าควายตัวนี้มันเหมือนมีญาณพิเศษ ที่จะเอาอกเอาใจถูกคน พอเห็นสาวน้อยเดินมามันก็วิ่งไปคลอเคลียกับเธอ วิ่งเล่นไล่ตามกันอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
“นกแก้ว!” เสือน้อยตะโกนโมโห ขณะที่ถูกปลุกให้ตื่นนอนตอนกลางวัน
ทำเอาเจ้าหล่อนวิ่งหนีไปด้วยรอยยิ้มที่เบิกบาน และด้วยความสามารถอันน่าเหลือเชื่อเธอไปแอบอ้างชื่อเสือน้อยกับพี่ลูกหมีของเธอ รวมสมัครพรรคพวกผู้หญิงแถวนั้น พยายามจะเลียนแบบเสือน้อย และตั้งตัวเป็นหัวหน้าของเหล่าเด็กผู้หญิงรุ่นน้องในวัยเดียวกัน
มันได้สร้างความปั่นป่วนให้เสือน้อย…ได้ไม่น้อยเลยจริง ๆ
จากนั้นเป็นต้นมาเธอก็กลายเป็นเหมือนนกแก้วจริง ๆ ที่เดินพูดไปพูดมาถามโน่นถามนี่ จนเสือน้อยเวียนหัว อดไปบ่นกับแม่ไม่ได้
ทว่าแม่ชบาก็ยิ้ม ๆ บอกว่า “น้องยังเด็กอยู่ เป็นพี่ก็ต้องรักน้องสิ!”
เสือน้อยได้ยินดังนั้นก็ทำได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ เพราะเขาได้ยินแม่บอกมาตั้งแต่เด็ก เวลาเล่นกับพี่ ๆ น้อง ๆ
นกแก้วเข้าได้ดีกับพี่ลูกหมีของเธอนักแหละ เธอมีพี่ลูกหมีเป็นต้นแบบยังชวนมานอนด้วยกันบ่อย ๆ เพราะว่าหลังจากที่พ่อแม่ทะเลาะกัน ดูเหมือนต่างก็จะแยกทางกันไปต่างคนต่างอยู่
ส่วนน้าชม้อย เมื่อหย่ากับสามีเธอแล้ว ก็เตรียมจะพาลูกสาวกับบ้าน แต่เจ้าตัวยืนตัวสั่น ไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหน
เหตุผลหลัก ๆ ที่หย่ากันเพราะทั้งคู่ต่างมีคนใหม่เข้ามาในชีวิต ทางฝ่ายน้าชม้อยก็จับได้ เลยแค้นใจจนไปดื่มเหล้าย้อมใจจนกระทั่งบังเอิญ เจอเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย
พูดปลอบใจกันไปกันมาอีท่าไหนไม่รู้ไปจบลงบนเตียง ฝ่ายชายพยายามขอรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ด้วยเพราะชม้อยก็ยังอายุยังน้อยแค่สามสิบกว่า ๆ ทรวดทรงองค์เอวก็ดูดีกว่าสมัยตอนเรียนอยู่มหาลัยเสียอีก หากแต่ติดที่มีลูกเร็วไปหน่อยหลังจบมหาลัยได้ไม่นาน…
ฝ่ายชายที่มาติดพันเธอก็ยอมรับเธอได้ที่เป็นแม่หม้ายลูกติด ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ด้วยดีระหว่างทั้งคู่
แต่สามีเธอไม่ยอมหย่า จนทะเลาะมีปากเสียงกัน กระทั่งตกลงแยกย้ายกันไปด้วยดีแล้วชม้อยก็กลับมารับลูกสาวของเธอ เตรียมไปอยู่กับแฟนใหม่!
แต่เด็กสาวเหมือนไม่อยากกลับบ้านตอนนี้ บ่ายเบี่ยงขอเวลาเสียหน่อย ความจริงแล้วเธอก็ไม่ได้รังเกียจอะไรพ่อเลี้ยงใหม่คนนี้
ส่วนเรื่องที่พ่อแท้ ๆ แอบปันใจก็เป็นเธอเองนี่แหละ ที่สืบเสาะจนรู้ว่าพ่อมีพิรุธจากขี้ปากของเหล่าชาวบ้าน
แม่ชบาก็เลยช่วยกล่อมให้เด็กอยู่ปรับตัวที่นี่ ไปกลับกับบ้านโน้นบ่อย ๆ จะได้ทำความคุ้นชินไปทีละเล็กทีละน้อยดีกว่ามั้ย? เมื่อทั้งคู่สองสามีภรรยาป้ายแดง สบตากันก็พยักหน้าตกลงตามนั้น
ในส่วนพ่อของนกแก้วก็กลับบ้านของตัวเองแถวเมืองนนท์…พร้อมกับเมียใหม่ ท้ายที่สุดนกแก้ว จึงได้อยู่บ้านหลังนี้ต่อไป ก่อนจะเริ่มพยายามปรับตัวเข้าหาครอบครัวใหม่ และพ่อเลี้ยงคนใหม่…
...…
กลางเทอมของ ม.2 ปัญหาใหญ่เรื่องการผลิตหมูเสียบไม้ก็กลายเป็นปัญหาจนได้…
เพราะแม่ชบาบอกว่า “ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปมีหวังแย่แน่ ๆ เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้เสือน้อยขยายโครงการไปตามตลาดต่าง ๆ จ้างคนเสียบหมูปิ้ง หมักหมูก็ใช้พื้นที่เยอะ”
แต่อยู่ดี ๆ แม่ชบาก็บอกว่า “วันนี้มีคนมาฝากขายที่ดินให้แม่แน่ะ ทำเลอยู่จากบ้านเราไม่ไกล เหมาะเอามาทำเป็นสถานที่สร้างขยายกิจการได้”
เสือน้อยยิ้มกรุ้มกริ่ม “เชียร์ขนาดนี้ได้ค่านายหน้าเท่าไหร่น่ะแม่?”
แม่ชบาก็เขกมะเหงกเขาไปทีหนึ่ง ก่อนยอมรับว่า “ก็นิดหน่อย” เธอรู้ยิ่งโตเจ้าเด็กนี่ยิ่งเจ้าเล่ห์ดังนั้นต้องคอยคุมไม่ให้ก่อเรื่องมาก
เสือน้อยกุมหน้าผากนั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร “ราคาที่ดินประเมินไว้เท่าไหร่ ถ้าไม่แพงเสือซื้อให้แม่ก็ได้…”
พ่อผันพูดแทรกว่า “ตรงนี้ก็เอาไว้ทำโรงงานสิ จะได้ดูมีมาตรฐาน ตอนแรก ๆ ก็เสียบหมูก่อน ค่อย ๆ ขยายไป ถ้าเอ็งคิดจะทำอาหารสดนะ” พ่อมองที่ดินแปลงนี้ก็ตัดสินใจแนะนำลูกชายตามความคิดของตัวเอง
เสือน้อยก็เหมือนคนที่หลงทางในความมืด ได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์…