ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
รัก,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,เล่าประสบการณ์,ตลก,พล็อตสร้างกระแส,Y2K,ย้อนยุค,พระเอกเก่ง,เจ้าแผนการ,นักธุรกิจ,คนในฝัน,รวยตั้งแต่ยังเด็ก,สร้างตัว,สายเปย์,มาเฟีย,ตัวพ่อ,โรงเรียน,พล็อตไม่ซ้ำใคร,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เสือเจ้าพระยา | ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า (อ่านฟรี!)ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
เสือเจ้าพระยา ภาคที่ 1 | จับเสือมือเปล่า!
- ที่มาของชื่อเรื่อง -
ซ้ายเด่นสง่าเสือเจ้าพระยา ขวาดาราประดับฟ้าเพริศแพร้ว
สองเพชรงามน้ำหนึ่งเมืองบัวแก้ว ผู้ผ่องแผ้วคู่แคว้นแดนประทุม
………
นิยายเรื่องนี้จะเป็น ‘แนวสร้างตัว’ ซึ่งตลอดทั้งเรื่องผสมผสานไปด้วยมุกตลก และสอดแทรกไว้ด้วยสาระ โดยที่ได้อิงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงบนโลก ในภาคนี้จะมุ่งเน้นไปที่การปูพื้นฐานตัวละคร และก็โครงเรื่องเสียเป็นส่วนใหญ่
โดยนิยายจะเล่าย้อนกลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2548 เป็นเรื่องราวของพระเอกที่มีชื่อว่า “เสือน้อย” นับตั้งแต่เจ้าตัวได้เข้ามัธยมต้นในภาคที่ 1 จนกระทั่งเรียนจบมหาลัย ในภาคที่ 5
ผู้เขียนเชื่อว่าท่านนักอ่านนั้น ‘มีลิมิต’ ในการยอมรับนิยายสักเรื่องหนึ่ง ดังนั้นในตอนที่ 24 “คนขี่ควาย” ก็อาจช่วยให้ท่านตัดสินใจง่ายขึ้น แน่นอนหากว่าท่านอ่านเต็มภาคได้ย่อมจะดีที่สุด
“ใครจะไปคิดว่าควายจะเปลี่ยนชีวิตคนได้?” ทองสุขเจ้าควายตัวแสบ ถูกพ่อหยิบยกขึ้นมาเปรียบเปรยให้ลูกชายได้ฉุดคิดถึงสิ่งที่ทำอยู่ และมันได้จุดประกายความคิดของเด็กหนุ่ม ทำให้ชีวิตเขาพลิกผันไปตลอดกาล
♪
บทเพลงที่ใช้เปิดนิยายเรื่องนี้ คือ ‘เพลงบ้าหอบฟาง’ ของวงอัสนี-วสันต์
หอบฟางหอบฟางไปไหน ทำไมถึงต้องหอบฟาง
หอบกันจริงๆจังๆ หอบกันรุงรังหอบฟาง
♪
#พล็อตไม่ซ้ำใคร #นักธุรกิจร้อยล้าน #นักรักตัวพ่อ #มาเฟีย
นิยาย 5 ภาค/เล่ม(จบ) | จำนวน ≈643,202 คำ - [มี E-Book]
[--- อ่านฟรีรวม 150 ตอน! ---]
ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า
(อ่านฟรีทั้งภาค!)
ภาคที่ 2 เสือไว้ลาย
(ฟรีตอนที่ 57-87)
ภาคที่ 3 หน้าเนื้อใจเสือ
(ฟรีตอนที่ 116-131)
ภาคที่ 4 ชาติเสือจับเนื้อกินเอง
(ฟรีตอนที่ 186-207)
ภาคที่ 5 เสือหมอบ
(ฟรีตอนที่ 251-275)
(จบบริบูรณ์)
คำโปรย
เด็กหนุ่มผู้แผ้วถางป่าดงอันรกเรื้อ...
“ใช้สองมือกวาดพงสร้างทางฝัน สองเท้าย่างก้าวพลันสู่จุดหมาย
ขีดเขียนโชคชะตาด้วยใจกายยืนหยัดอย่างผึ่งผายด้วยคุณธรรม”
อุปสรรคนานัปการ…จะหล่อหลอมให้เขา กลายเป็นคนแกร่ง!
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้ ผู้เขียนแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ชื่อตัวละคร เหตุการณ์ และสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่อง อาจปรากฏอยู่ในความเป็นจริง “ทั้งนี้ผู้เขียนมิได้มีเจตนามุ่งทำร้ายให้เกิดความเสื่อมเสียต่อบุคคลวิชาชีพ หรือองค์กรใดทั้งสิ้น” หากแต่ใช้อ้างอิงเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านเท่านั้น…
เนื้อหาในนิยายอาจมีเนื้อเรื่องที่ไม่เหมาะสมปรากฏอยู่บ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง …หากมีความผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ตอนที่ 36 เติมปัญญาให้พวกบ้าพลัง!
เป้าหมายของเขาไม่ใช่ทำให้คนมีงานทำมากขึ้นหรอกหรือ? เห็นคนมีชีวิตดีขึ้นหรือ? และถ้าเป็นโรงงานในอนาคตเราจะผลิตอะไรก็ง่ายขึ้น เสือน้อยยังคิดจะผลิตลูกชิ้นขายเลย พวกไส้กรอก ฮอตดอก อะไรทำนองนี้ก็ด้วย
นกแก้วที่นั่งมองอยู่ตรงนั้น ยังไม่ค่อยรู้อะไรมาก ภายในใจก็ลอบครุ่นคิด “ทำไมต้องมาถามพี่เสือด้วย ลุงกับป้าก็ตัดสินใจกันเองไม่ได้หรือ?” แต่ไม่กล้าพูดสอดแทรกขึ้นมา
….…
ในวันรุ่งขึ้น พ่อก็พาเสือน้อยขี่จักรยานไปดูที่ดินแปลงนั้น…
ซึ่งแปลงที่ดินอยู่ไม่ห่างจากบ้านเขามากนัก นั่นคงเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่แม่อยากได้ที่ดินไว้ให้ แต่มันก็ยังต้องไปเห็นด้วยตา เหตุผลหลักก็คืออยากสร้างโรงงาน ดังนั้นในวันนี้พ่อผันจึงได้เรียนเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านก่อสร้าง…ที่ได้รู้จักกันมาเนิ่นนานมาช่วยดู
‘ลุงสิน’ เพื่อนสมัยมัธยมที่ตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ ทุกวันนี้ก็ยังไปมาหาสู่กันอยู่เป็นประจำ ลุงสินก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ออกแบบบ้านไม้ที่ครอบครัวเขาอาศัยอยู่ในปัจจุบัน ร่วมกับพ่อและลุงถิ่น
ตอนนี้แกเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้าง หลังจากที่ทำงานอยู่กับบริษัทใหญ่ ๆ มาหลายสิบปี ยืนรอครู่หนึ่งลุงสินก็โทรมาหายืนยันตำแหน่งก่อนจะไปดูที่กัน
พ่อผันบอกเหตุผลที่ต้องการว่า “อยากสร้างโรงงานได้มาตรฐาน”
ลุงสินแกจึงมาช่วยดูก่อนว่า “จำเป็นต้องถมที่ดินมั้ย? ของพวกนี้มันต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
ไม่นานนักลุงถิ่นก็มาจอดรถอยู่ข้าง ๆ บีบแตรเสียงดัง “ไม่รอกูเลยนะพวกมึง!”
ลุงถิ่นยิ้มฟันขาวเดินออกมาจากรถก่อนกอดคอเพื่อนรักทั้งสอง พูดกันอยู่นานสองนาน
คนหนึ่งวิศวกรรมก่อสร้าง อีกคนเรียนสถาปนิกออกแบบ มีเพื่อนเยอะ เพื่อนดีมันก็แบบนี้นี่เอง คำที่พ่อบอก “นกไร้ขนคนไร้เพื่อนบินขึ้นที่สูงไม่ได้” เสือน้อยพอจะเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว
ทั้งสองประเมินกันอยู่นานสองนาน พร้อมดูสำเนาแปลงเอกสารที่ดิน ก็ช่วยกันคำนวณออกแบบ จากนั้นก็เขียนสัญญาจ้างกันเลย เสือน้อยออกหมดทั้งค่าจ้างค่าออกแบบเที่ยวนี้ไม่มีลดราคา คิดจริงตามราคาหน้างานเลย
เสือน้อยก็ตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ทว่าก็เจ็บปวดเพราะพริบตาเดียวเงินก็หายไปก้อนใหญ่ และพอคิดว่าเงินหายไปเยอะ ดังนั้นจึงต้องคิดหาวิธีทำเงินเพิ่ม!
ช่วงนี้กระเป๋านักเรียนขายดี จนนำออกมาประมูลขายกันทีละสิบใบ…ใบไหนสภาพดีก็เก็บไว้สอดแทรก เป็นทีเด็ดในทุก ๆ รอบเพื่อเรียกราคา
เสือน้อยไม่ได้ออกหน้าด้วยตัวเอง แต่สั่งลูกน้องรุ่นพี่จากค่ายมวย ที่พึ่งหมดโปรแกรมแข่งมาทำหน้าที่แทน ส่วนตัวเขาไม่ได้ออกตัวเลยแม้แต่น้อย แต่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง
แล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้ ตอนที่ได้ไปซื้อกระเป๋า ได้ให้ไอ้เข้มถ่ายรูปไว้กลายเป็นการเพิ่มมูลค่า โดยเฉพาะกับกระเป๋าของพี่ผู้หญิงดาวเด่นของโรงเรียน หรือไม่ก็ของพี่ผู้ชายหล่อ ๆ บางใบราคาพุ่งไป เก้าพันกว่าบาททุบทำลายสถิติ!
ส่วนราคาอย่างต่ำนั้น ตอนนี้ก็อยู่ที่ 3,000 บาท
กระเป๋าก็ที่มีอยู่ก็ประมาณ 800 - 900 ใบ เสือน้อยก็ยังให้คนไปตามสืบเสาะหามาเพิ่มให้ได้ ซึ่งเพียงครึ่งเทอมก็หมดไป 500 กว่าใบแล้ว
จึงเกิดเป็นกระแสในหมู่นักเรียน เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายในคราวนี้เป็นทุกระดับชั้น จึงทำให้ของไม่พอต่อความต้องการ ราคาจึงดีดตัวสูงตามความต้องการโดยปริยาย…
จนราคาไปถึงสี่พันห้าพันกว่าบาท เสือน้อยก็ดีใจ ปล่อยไปในราคานั้นเลย ซึ่งมันดีกว่าราคาที่ประมูลกันในช่วงแรก ๆ มากนัก เพราะช่วงนี้เสียเงินไปก้อนใหญ่ จึงพยายามหาเงินคืนมาใส่บัญชี
โดยคนปั่นราคาตลาดนั้นส่วนใหญ่เป็นยักษ์-ใหญ่สองแฝดนรก
……
ในระหว่างนั้นเอง ทั้งกลุ่มเพื่อนร่วมห้องก็ตามสืบเรื่องของไอ้ทรพีกับพรรคพวก…
ทุกวันนี้ชื่อทรพีทั้งกลุ่มก๊วนเข้าใจความหมายของชื่อกันแล้ว และพฤติกรรมของมัน ก็ไม่ได้แตกต่างจากชื่อเสียงเลย…
กลุ่มของพีพยายาม ผูกขาดตลาดบุหรี่ภายในโรงเรียน และถ้าใครไปซื้อกับคนภายนอก จะร่วมมือกับรุ่นพี่ ที่ทำหน้าที่ฝ่ายปกครองในเครือของตัวเอง ให้ไปแจ้งกับครูฝ่ายปกครองให้มาจับ
แถมยังเป็นการจับได้แบบมีหลักฐาน ซึ่งบุหรี่ก็คาอยู่ในกระเป๋านักเรียน จึงโดนเรียกพบผู้ปกครองกลายเป็นงานใหญ่
กลุ่มของพีมีหน้าม้าเป็นทิดรุ่นพี่ ม.5 ที่มีเรื่องชกต่อยกับเสือน้อยวันนั้น ตามที่หาข้อมูลกันมาตอนแรก แต่สืบสาวไปแล้วยิ่งขุดก็ยิ่งเจอพวกนักเรียนฝ่ายปกครองที่เข้ามามีเอี่ยวด้วย
พวกเหล่านี้ ก็คือคนของประธานนักเรียนของปีก่อนที่ได้แต่งตั้งเอาไว้ เนื่องจากนักเรียนมีเยอะส่วนครูน้อย จึงทำให้ประธานนักเรียน ต้องช่วยหาคณะกรรมการมาช่วยครูฝ่ายปกครอง ตรวจสอบดูแลนักเรียนด้วยกันเอง
และพีก็เป็นตัวตั้งตัวตีรับช่วงต่อกิจการ จากรุ่นพี่ประธานนักเรียนคนก่อน ซึ่งได้กลายมาเป็นพ่อค้าบุหรี่ คนที่ดูดบุหรี่แล้วไม่ซื้อจากมันก็จะโดนจัดการ ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ครูบังเอิญไปเจอ ยามประจำโรงเรียนไปเจอ หรือนักเรียนฝ่ายปกครองไปเจอ
เสือน้อยเมื่อรวบรวมข่าวสารมาวิเคราะห์ จากที่เพื่อน ๆ เล่ามาไอ้นี่มันเลวไม่ใช่ย่อยเลย เล่นกับของผิดกฎหมาย ผิดกฎโรงเรียนแบบโจ่งครึ่ม ส่วนไอ้พวกนักเรียนฝ่ายปกครองนั่นก็พอ ๆ กัน
ในตอนนี้เสือน้อยก็กำลังหาวิธีจัดการอยู่ ตัวเขาจะออกหน้าเองมันก็ใช่ที่ เพราะจะเป็นศัตรูกับหลายฝ่ายมากจนเกินไป เลยจำเป็นต้องมีคนออกหน้าแทน และคนพวกนั้นก็คือ พวกที่ถูกเล่นงานโดยไม่รู้ตัวจากไอ้พี!
เสือน้อยให้กลุ่มเพื่อน ๆ ปล่อยข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ไอ้พวกที่โดนคดีบุหรี่รู้
ผลก็เป็นไปตามที่คาดไว้ เพราะหลายคนเริ่มพยายามที่จะหาหลักฐาน เพื่อเอามายืนยันว่าข่าวที่ได้มาจริงมั้ย? จึงได้เกิดปฏิบัติการล่อซื้อขึ้น!
……
ส่วนความรักของไอ้พีกับเหมือนฝันก็ดูเหมือนจะราบรื่น
แต่ทว่าก็มีคลื่นใต้น้ำอยู่เป็นระลอก โดยเฉพาะคนชื่อว่าเพลงขวัญซึ่งเธอได้มานั่งร้องห่มร้องไห้ปรึกษากับเหมือนฝัน
เพลงขวัญไม่ได้มาขอพีคืนจากเหมือนฝัน เพราะว่าเธอเอาพวก SMS เบอร์ที่ใช้โทรคุยกันให้เหมือนฝันดูเพื่อยืนยัน มิหนำซ้ำยังเล่าพฤติกรรม ช่วงปิดเทอมให้เหมือนฝันได้รู้อีก!
พอได้ยินแบบนั้นสีหน้าของเหมือนฝันก็หม่นหมอง ส่วนเพลงขวัญที่แสร้งร้องไห้กระซิก ๆ อยู่นั้นก็แสดงได้เนียนสมบทบาท
จนแล้วจนรอดเหมือนฝันก็ไม่มีคำตอบให้ เธอจึงได้เดินจากไปพร้อมกับคำเตือน “นี่ฝันระวังตัวให้ดีนะ อย่าเป็นแบบเราเลย!” คิดไปคิดมาหลัง ๆ เธอไม่อยากได้นายพี กลับคืนมาเป็นแฟนแล้ว จึงเอ่ยเตือนก่อนร่ำลาไป
จากนั้นเธอก็ไปรับเงินกับเสือน้อยตามที่ได้ตกลงกันไว้ แต่ยังไม่วายอ่อยใส่เสือน้อยอีก ด้วยการหอมแก้มไปฟอดหนึ่ง ทำเอาเด็กหนุ่มตั้งตัวไม่ทันอยู่บ้าง
เสือน้อยได้แต่โบกมือปฏิเสธท่าเดียว
...…
วันต่อมาเสือน้อยก็เดินเข้ามาทักทายแก๊งนางฟ้า แม้จะเลิกกับมะปรางไปแล้วแต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องหลบหน้า กับเข้าหาเหมือนฝันด้วยท่าทีของเพื่อนตามปกติ ขนมติดไม้ติดมือก็มีมาไม่ขาดสาย
ส่วนทางด้านมะปรางความรักของเธอก็ดูเหมือนจะไปได้ดีมีความสุข เสือน้อยก็พูดกับเธอเป็นปกติ แม้เลิกรากันแล้ว ก็ยังมีความหวังดีให้ต่อกันนิด ๆ หน่อย ๆ
นักดูดบุหรี่ที่ตอนนี้พยายามล่อซื้อก็เริ่มประสบความสำเร็จด้วยดี ทำให้คนในกลุ่มสิงห์อมควันรวมตัวกัน เพราะโดยมากแล้ว คนที่มีพฤติกรรมเหมือน ๆ กันก็มักจะจับกลุ่มอยู่ด้วยกัน
รุ่นพี่ ม.6 คนหนึ่งที่พึ่งโดนเล่นงานเรื่องมีบุหรี่ เป็นตัวตั้งตัวตี เตรียมจะจัดการกับไอ้ทิด และฝ่ายปกครองจอมปลอม โดยเสือน้อยนั่งสั่งการอยู่ในกระโจม ฟังรายงานข่าวจากเพื่อน ๆ
สิงหาถามขึ้น “จะเอาไงต่อดีไอ้เสือน้อย ปล่อยข่าวเรื่องไอ้พีไปด้วยเลยดีหรือเปล่า? พวกรุ่นพี่ ม.6 แม่งเตรียมลงมือแล้ว!”
เสือน้อยครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนบอกว่า “เออมึงปล่อยข่าวไปเลย!” ที่เขากำลังลังเลก็เป็นเพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้อาจกระทบเป็นเรื่องใหญ่
โดยเฉพาะเพื่อนใหม่ของแม่อย่าง ‘ผอ.นัยนา’ ซึ่งช่วงนี้ทั้งคู่สนิทกันนักเชียว ดังนั้นวันนี้เสือน้อยจึงเข้าไปหา ผอ.เอาของไปให้โดยอ้างว่าแม่ฝากกับข้าวมาให้
บนป้ายหน้าห้องเห็นชื่อ ผอ.นัยนา เห็นแสงธรรม ทั้งยังติดตำแหน่งต่าง ๆ กำกับไว้ตามประสาคนมียศมีตำแหน่ง
พอพบ ผอ.นัยนา เธอก็กล่าวขอบใจ แถมยังได้ถามสารทุกข์สุกดิบของเสือน้อย
เด็กหนุ่มก็เล่าไปว่า “เรื่องเรียนไม่มีอะไร แต่ความรักกลับเหงา ๆ ครับครูนา”
จากนั้น ผอ.นา ก็เทศนาไปชุดใหญ่ “เรื่องความรักจะสนใจอะไรให้มันมากนัก ฯลฯ” กว่าจะฟังบ่นจบก็ปาไปเกือบครึ่งชั่วโมง เสือน้อยก็ได้แต่ขานรับไม่กล้าเถียงมาก
ก่อนที่ ผอ.นา จะถามถึงเรื่องในโรงเรียนว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง?
เสือน้อยแสร้งทำท่าทีลังเลก่อนบอก “ช่วงนี้ดูเหมือนจะมีงานเข้าครูนาแล้วครับ?”
ผอ.นัยนาทำท่าฉงน “งานเข้าอะไร มีเรื่องอะไรอีกหรือ?” เธอขมวดคิ้ว พร้อมถามสีหน้าจริงจัง “ไหนลองเล่ามาสิ!?”
เสือน้อยก็เล่าสิ่งที่เตรียมมา เขาไม่ได้อยากใช้เพื่อนแม่คนนี้เป็นเครื่องมือ แต่ก็ต้องให้ครูนาที่เคารพรัก เตรียมรับแรงกระแทกไว้ก่อน “เอ่อ…ก็เรื่องขายบุหรี่แหละครับ เห็นว่ามีโจรชี้เป้าให้โจร!” จากนั้นเสือน้อยก็ไม่ได้บรรยายลงรายละเอียดมาก
แต่ก็พูดเตือนไว้หน่อย “โรงเรียนมีพวกลูกท่านหลานเธอเรียนเยอะแยะ ผมล่ะกลัวครูจะโดนแรงกระแทกเลยเอามาเล่าให้ฟัง”
จากนั้นทั้งคู่ก็คุยกันอยู่นานสองนาน เสือน้อยก็ตอบคำถามเท่าที่ตอบได้ โดยมากจะเป็นข่าวปล่อยที่เขาตั้งใจให้ครูรู้เสียมากกว่า
……
ระหว่างนั้นเอง ผอ. ก็พอจะรู้เหตุการณ์โดยคร่าว ๆ แล้ว
ขาดก็แต่พยานหลักฐานหรือคนมาร้องเรียน ส่วนที่เสือน้อยเตือนก็ทำให้เธอต้องหาวิธีรับแรงกระแทกจากบรรดาผู้ปกครองของแต่ละคน
โรงเรียนเก่าแก่ ลูกแต่ละคนก็มีตั้งแต่คนจนไปถึงพวกคุณหนู มีทุกระดับชั้น!
เข้มที่รับหน้าที่ถ่ายภาพพร้อมกับกล้องคู่ใจที่เสือน้อยซื้อไว้ให้ ถ่ายภาพหลักฐานไว้เป็นชุด ๆ เตรียมส่งให้พวกรุ่นพี่ ม.6 ที่กำลังหาทางเล่นงานไอ้ทิดอยู่
เสือน้อยส่งสายสืบแฝงตัวเข้าไปคอยชักจูงแผนการ และนั่นก็คือพวกรุ่นพี่ ม.6
โดยให้คนเหล่านี้ ทำตามแผนการที่เขาวางเอาไว้ เพราะไอ้พวกสมองน้อยก็พยายามจะรุมกระทืบท่าเดียว จึงทำเอาเขาปวดหัวกับไอ้พวกนี้ จึงจำต้องส่งสายสืบแฝงเข้าไป เพื่อที่จะได้เติมปัญญาให้พวกมันหน่อย
แน่นอนทั้งหมดที่ทำไปก็เพราะเอาคืนไอ้พีล้วน ๆ ที่วางแผนเล่นงานเขาก่อน มีหรือเสือน้อยจะยอม เขาเองไม่ใช่เพราะอิฐพระปูนเสียหน่อย
มันก็เหมือนกับคำว่า “ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย”
กลุ่มเหล่านั้นพอได้ยินแผนก็ถึงกับตาลุกวาว ไอ้แผนใช้กำลังกระทืบนั่นดูโง่เง่าไปเลย
สายสืบได้พูดขึ้นมาว่า “ปกติแล้วคนซื้อกับคนขาย ใครมีความผิดมากกว่ากัน?” เขาหันไปถามเพื่อน ๆ และรุ่นน้องทั้งหลาย
มีคนตอบแทนว่า “ก็ต้องคนขายน่ะสิ!?”
สายสืบเริ่มเกลี้ยกล่อมต่อ “ก็ใช่ไงเราแม่งก็แค่ปลายน้ำโว้ย ส่วนไอ้ที่ต้องกลัวน่ะมันต้องเป็นไอ้พวกขายบุหรี่ โทษคนซื้อแม่งปรับไม่กี่บาท แต่คนขายแม่งทั้งจำทั้งปรับเลยนะลองคิดดู!” เขาพยายามโน้มน้าวเพื่อนร่วมทุกข์