ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
รัก,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,เล่าประสบการณ์,ตลก,พล็อตสร้างกระแส,Y2K,ย้อนยุค,พระเอกเก่ง,เจ้าแผนการ,นักธุรกิจ,คนในฝัน,รวยตั้งแต่ยังเด็ก,สร้างตัว,สายเปย์,มาเฟีย,ตัวพ่อ,โรงเรียน,พล็อตไม่ซ้ำใคร,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เสือเจ้าพระยา | ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า (อ่านฟรี!)ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
เสือเจ้าพระยา ภาคที่ 1 | จับเสือมือเปล่า!
- ที่มาของชื่อเรื่อง -
ซ้ายเด่นสง่าเสือเจ้าพระยา ขวาดาราประดับฟ้าเพริศแพร้ว
สองเพชรงามน้ำหนึ่งเมืองบัวแก้ว ผู้ผ่องแผ้วคู่แคว้นแดนประทุม
………
นิยายเรื่องนี้จะเป็น ‘แนวสร้างตัว’ ซึ่งตลอดทั้งเรื่องผสมผสานไปด้วยมุกตลก และสอดแทรกไว้ด้วยสาระ โดยที่ได้อิงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงบนโลก ในภาคนี้จะมุ่งเน้นไปที่การปูพื้นฐานตัวละคร และก็โครงเรื่องเสียเป็นส่วนใหญ่
โดยนิยายจะเล่าย้อนกลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2548 เป็นเรื่องราวของพระเอกที่มีชื่อว่า “เสือน้อย” นับตั้งแต่เจ้าตัวได้เข้ามัธยมต้นในภาคที่ 1 จนกระทั่งเรียนจบมหาลัย ในภาคที่ 5
ผู้เขียนเชื่อว่าท่านนักอ่านนั้น ‘มีลิมิต’ ในการยอมรับนิยายสักเรื่องหนึ่ง ดังนั้นในตอนที่ 24 “คนขี่ควาย” ก็อาจช่วยให้ท่านตัดสินใจง่ายขึ้น แน่นอนหากว่าท่านอ่านเต็มภาคได้ย่อมจะดีที่สุด
“ใครจะไปคิดว่าควายจะเปลี่ยนชีวิตคนได้?” ทองสุขเจ้าควายตัวแสบ ถูกพ่อหยิบยกขึ้นมาเปรียบเปรยให้ลูกชายได้ฉุดคิดถึงสิ่งที่ทำอยู่ และมันได้จุดประกายความคิดของเด็กหนุ่ม ทำให้ชีวิตเขาพลิกผันไปตลอดกาล
♪
บทเพลงที่ใช้เปิดนิยายเรื่องนี้ คือ ‘เพลงบ้าหอบฟาง’ ของวงอัสนี-วสันต์
หอบฟางหอบฟางไปไหน ทำไมถึงต้องหอบฟาง
หอบกันจริงๆจังๆ หอบกันรุงรังหอบฟาง
♪
#พล็อตไม่ซ้ำใคร #นักธุรกิจร้อยล้าน #นักรักตัวพ่อ #มาเฟีย
นิยาย 5 ภาค/เล่ม(จบ) | จำนวน ≈643,202 คำ - [มี E-Book]
[--- อ่านฟรีรวม 150 ตอน! ---]
ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า
(อ่านฟรีทั้งภาค!)
ภาคที่ 2 เสือไว้ลาย
(ฟรีตอนที่ 57-87)
ภาคที่ 3 หน้าเนื้อใจเสือ
(ฟรีตอนที่ 116-131)
ภาคที่ 4 ชาติเสือจับเนื้อกินเอง
(ฟรีตอนที่ 186-207)
ภาคที่ 5 เสือหมอบ
(ฟรีตอนที่ 251-275)
(จบบริบูรณ์)
คำโปรย
เด็กหนุ่มผู้แผ้วถางป่าดงอันรกเรื้อ...
“ใช้สองมือกวาดพงสร้างทางฝัน สองเท้าย่างก้าวพลันสู่จุดหมาย
ขีดเขียนโชคชะตาด้วยใจกายยืนหยัดอย่างผึ่งผายด้วยคุณธรรม”
อุปสรรคนานัปการ…จะหล่อหลอมให้เขา กลายเป็นคนแกร่ง!
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้ ผู้เขียนแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ชื่อตัวละคร เหตุการณ์ และสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่อง อาจปรากฏอยู่ในความเป็นจริง “ทั้งนี้ผู้เขียนมิได้มีเจตนามุ่งทำร้ายให้เกิดความเสื่อมเสียต่อบุคคลวิชาชีพ หรือองค์กรใดทั้งสิ้น” หากแต่ใช้อ้างอิงเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านเท่านั้น…
เนื้อหาในนิยายอาจมีเนื้อเรื่องที่ไม่เหมาะสมปรากฏอยู่บ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง …หากมีความผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ตอนที่ 39 เหมือนฝันกับนิยายตบจูบ
เหมือนฝันรู้สึกว่าช่วงนี้เสือน้อยดูแปลก ๆ วิ่งมาหาเอาอกเอาใจบ่อย ๆ แม้จะคิดกันแค่เพื่อนแต่นานวันเข้า น้ำหยดทุกวันหินมันยังกร่อน นับประสาอะไรกับใจคน
ส่วนนายพีมีข่าวลือปล่อยมาถึงหูเธอว่า ที่พวกคณะกรรมการนักเรียนฝ่ายปกครองถูกเชิญออก เพราะมีพีชักใยอยู่เบื้องหลัง อีกทั้งยังใช้เส้นสายพ่อให้รอดมาอีก นี่เรียกได้ว่าคนอื่นตายหมดยกเว้นหัวหน้าแก๊ง!
ข่าวที่กระเด็นกระดอนมาเข้าหูเธอทีละนิดทีละหน่อย ก็ไม่ใช่จากใครที่ไหนอื่น แต่ว่าเป็นเสือน้อยซึ่งทยอย ๆ ฝากคนอื่นไปบอก แน่นอนว่าถ้าเป็นเขาไปพูดเอง…อีกฝ่ายมีหรือจะเชื่อ!
ทำให้พักนี้เหมือนฝันกับพีดูไปด้วยกันไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก ยิ่งคราวก่อนที่เพลงขวัญมาเตือนเธอตรง ๆ เธอก็ฝากเพื่อนสืบอยู่ได้ไม่นานก็เห็นจะเป็นจริงดังคาด
ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ระหองระแหง เริ่มกลายเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น
จนปิดเทอมนายพีพยายามรุกหนัก หมายมั่นปั้นมือว่าจะเผด็จศึกเธอให้ได้ จึงลวงเธอมาคุยที่ห้างก่อน และพยายามจับโน่นจับนี่อย่างถึงเนื้อถึงตัว แต่หญิงสาวก็ลุกหนีได้ทัน
ในหลายครั้งเขาพยายามพูดอ้อม ๆ ว่า “ขอมีอะไรกับเธอด้วย เพราะว่ารักเธอมาก แถมยังปฏิญาณอีกว่า จะใส่ถุงอย่างดิบดี…”
พอพีพูดแบบนี้บ่อย ๆ เข้าก็ทำให้เหมือนฝันรู้สึกอึดอัด และเริ่มไม่ชอบใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
ถึงแม้ว่าเธอจะหลงใหลเขาในรูปร่างหน้าตา ชื่อเสียงของการเป็นนักกีฬาดาวเด่นประจำโรงเรียนก็ตาม ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้นเธอก็คิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา!
พอปิดเทอมได้ไม่กี่วันทั้งคู่ก็ทะเลาะกันยกใหญ่ ก่อนที่จะบอกเลิกกันไป โดยเหมือนฝันเป็นคนเอ่ยปากพูดเอง แต่ว่าในใจของเธอเองก็เสียใจมากเช่นกัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตัดใจจากคนที่เธอชอบได้
อีกอย่างเพราะมีคนคอยเลื่อยขาเก้าอี้อยู่เนือง ๆ และนั่นก็คือเสือน้อย ตัวเขาไม่ได้อยากเอาคืนไอ้ทรพีเพื่อความสะใจเพียงอย่างเดียว
แต่พยายามดึงมันออกไปจากชีวิตเธอด้วย เขาต้องการปกป้องเหมือนฝัน เพราะเธอเป็นนางในฝัน คนในฝันของเขามาตั้งแต่แรกพบอยู่แล้ว...
พอเสือน้อยรู้ข่าวก็กระเหี้ยนกระหือรือ ออกนอกหน้าเป็นอย่างมาก ด้วยกลัวเวลาไม่คอยท่า หลังจากปล่อยให้เธอพักหายใจหายคออยู่พักใหญ่ ๆ
เสือน้อยก็ได้โทรไปหลอกถาม “เหมือนฝันโสดแบบนี้...เราก็จีบเธอได้แล้วนะสิ?”
“แล้วที่ผ่านมาเธอไม่ได้จีบเลยเหรอ!?” เหมือนฝันพูดน้ำเสียงดูหยอกเย้าเล็กน้อย และหลังจากนั้นเป็นต้นมา ตลอดช่วงปิดเทอมทั้งคู่ก็คุยกันผ่านโทรศัพท์เป็นส่วนใหญ่
จนกระทั่งวันหนึ่งเสือน้อยก็นัดเหมือนฝันออกมาดูหนังใหม่เข้าโรง เป็นความรู้สึกตื่นเต้นเกิดขึ้นในหัวใจเด็กหนุ่มอีกครั้ง ครั้งล่าสุดเสือน้อย เข้าโรงหนังพร้อมมะปรางมันก็ทำเอาเลือดลมสูบฉีด เพราะมะปรางเอาเนินอกมาแนบแขนของเขา
วันนี้เหมือนฝันแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ เสื้อยืดเอวลอยมองดูคล้าย ‘แคทรียา อิงลิช’ ในวง 2002 ราตรี เอวคอดกิ่ว ผิวสวยเนียนตา จับคู่กับกางเกงยีนทรงทาทายัง และรองเท้าผ้าใบสีขาว ดูเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ
อย่าว่าแต่เสือน้อยที่ตะลึงลานเลย ขนาดผู้ชายคนอื่นเห็นยังต้องเหลียวหลังกลับมามอง หุ่นของเธอถ้าประเมิน และจากมุมมองของครูโจ้ เธอก็คงเหมาะที่จะส่งเข้าประกวดเต้นลีลาศเป็นอย่างมาก
เสือน้อยที่ตะลึงค้างตาไม่กะพริบ จวบจนเธอเดินมายืนอยู่ต่อหน้าแล้วก็ตาม เหมือนฝันต้องหยิกแขนเขาทีหนึ่งกว่าจะสะดุ้งตื่นจากภวังค์ได้
“ส…สวัสดี” นี้เป็นคำพูดแรกที่สมองของเขาพอจะคิดออกได้
พอรู้ว่าไม่เข้าที จึงเบี่ยงประเด็นไปชมเรื่องแต่งตัวสวย “นี่ถ้าครูสอนเต้นลีลาศเรามาเห็นฝัน คงอยากจับฝันทำเป็นนักกีฬาส่งประกวดแน่ ๆ” เสือน้อยพูดขึ้นด้วยความจริงใจ
ทว่าเหมือนฝันก็ตะลึง “เสือน้อยเรียนเต้นลีลาศด้วยเหรอ?” เธอถามขึ้นอย่างสนอกสนใจก่อนนั่งสบตามองด้านข้าง
“ใช่! ถูกแม่บังคับให้เรียนน่ะ...” จากนั้นเสือน้อยก็สาธยายความเป็นมาเป็นไป ระหว่างนี้ก็จับจ้องดวงตาคู่งามของเธอ
สีหน้าสีตาบอกว่าเธอให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก พอเล่าถึงการแข่งขันเสร็จเหมือนฝัน ก็เหมือนจะตื่นเต้นไม่น้อย เสือน้อยจึงถามไปว่า “ฝันก็เรียนเต้นเหมือนกันหรือ?”
เธอก็พยักหน้า “ใช่เราเรียนมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ตอนแรก ๆ แม่ก็บังคับ แต่พอไปดูเขาแข่งเต้นตอนเด็กก็รู้สึกชอบมันมาก ๆ ทุกวันนี้แม่ยังให้ไปเรียนเต้นอยู่เลย”
จากนั้นทั้งคู่ก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย “ถึงขั้นนัดไปซ้อมเต้นที่บ้านกันด้วย”
“ที่บ้านเรากำลังจ้างครูสอนเต้นมาสอนน้องสาวเราอยู่ ไว้ถ้าว่าง ๆ ไปจับคู่เต้นกันสักเพลงมั้ย?” เสือน้อยเชื้อเชิญด้วยความจริงใจ ส่วนเหมือนฝันก็พยักหน้าตอบ
“ความฝันเราคือลงแข่งเต้นลีลาศสักครั้ง หรือไม่ก็เป็นคนเต้นเปิดฟลอร์” เธอนึกถึงภาพการแข่งขันกีฬา ที่ดูผ่านโทรทัศน์ ซึ่งบรรดาหนุ่มสาวที่เดินควงคู่ออกมาเต้นเปิดงาน คล้ายกับในนิยาย จากนั้นก็มีคนตามมาสมทบ
เธอคิดว่านั่นคือความฝันอย่างหนึ่งของเธอ จึงเล่าเรื่องให้เสือน้อยฟังอย่างไม่มีปิดบัง
พออยู่ในโรงหนังเสือน้อยก็ไม่ได้ทำอะไรรุ่มร่าม เสือน้อยนั่งหนังอยู่ดูตามปกติ หากแต่ว่ามันก็พิเศษตรงที่มีสาวสวยมานั่งอยู่ด้วยกันกับเขา ทำเอาเจ้าตัวชื่นใจจะแย่อยู่แล้ว ยิ้มแก้มปริตลอดเวลาที่ดูหนัง แลดูมีความสุขมากเป็นพิเศษ
หลังจากเสือน้อยกับเหมือนฝันดูหนังจบ ก็พากันไปกินข้าวตามปกติ และก็พากันไปเดินเที่ยวห้างซื้อของ
โดยมากเหมือนฝันมักเลือกเข้าร้านขายนิยาย เพราะเป็นกิจกรรมที่เธอชอบมาก ๆ ยามว่างใน ยุคที่ไม่มีอะไรทำมากนัก ซึ่งแฮรรี่ พอตเตอร์ เป็นนิยายสุดโปรดของเธอ
อีกทั้งนิยายรักของ นักเขียนนามปากกาดัง ๆ ช่วงนี้เธอติดนิยายรักตบจูบ เช่น จำเลยรัก สวรรค์เบี่ยง
‘พวกนิยายตบจูบ’ เธอนั้นชอบนักแหละ แต่ก็ยังไม่มีเวลาอ่าน เพราะคิวหนังสือที่จะต้องอ่านของเธอก็ได้วางแผนไว้เป็นลำดับ ๆ ไป
เวลาอยู่ในร้านหนังสือกับเธอ เสือน้อยไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเธอมากนักเขาเลือกบางเล่มที่น่าสนใจเก็บเอาไปฝาก ลูกหมีกับยัยตัวเปี๊ยก เช่นแฮรี่หรือไม่ก็เพอร์ซีย์ แจ็กสัน จะได้ลดเวลามาป่วนเขาให้น้อยลงบ้าง
ส่วนของลูกหมีเห็นเธอเปรย ๆ กับเพื่อนที่ร้านอาหารแม่ชบาว่าอยากได้ แต่ยังไม่ค่อยมีเวลาไปซื้อ
ในมุมของเขาที่สนใจก็คือ พวกหนังสือหมวดธุรกิจ ทำยังไงถึงจะรวย เล่นหุ้นอย่างมืออาชีพ ทักษะความเป็นผู้นำ หนังสือจากประสบการณ์ เสือน้อยชอบพวกนี้เสียมากกว่า และส่วนใหญ่ก็จะจ่ายผ่านบัตรเครดิต ซึ่งแน่นอนว่าเป็นของตัวเขาเอง
เด็กหนุ่มยังออกหน้าจ่ายให้เหมือนฝันด้วย “นี่...อยากได้อะไรหยิบเลยประเดี๋ยวเราจ่ายให้!” เดทแรกมันก็ต้องสร้างความประทับใจให้หน่อยสิน่า
เหมือนฝันกะพริบตา เธอยักคิ้วหลิ่วตา มุมปากแฝงไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ป๋านักเหรอเราอะ?”
เสือน้อยเกาหัว เขายืนระบายยิ้มอธิบาย “เอ่อ…ก็พอมีบ้าง เงินเก็บเราเอง”
จากนั้นเหมือนฝันก็แกล้งหยิบหนังสือที่เล็ง ๆ ไว้ใส่ตะกร้า ความจริงเธอเตรียมเงินที่แม่ให้ไว้พอที่จะซื้อหนังสืออยู่แล้ว แต่ก็แค่พยายามแกล้งเสือน้อยเท่านั้น
เธอคิดว่า เสือน้อยลำบากหาเงินทุกวัน ไม่อยากเบียดเบียนเสือน้อย หรือคิดจะเอาเปรียบเขาเลย!
พอเห็นของในตะกร้าเสือน้อยก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไร ก่อนที่จะบอกกับพนักงานว่า “แยกเป็นสองถุงครับ”
ตะกร้าของเขาก็เต็มไปด้วยหนังสือธุรกิจ กับนิยายที่ซื้อให้ลูกหมีกับนกแก้ว
ส่วนของเธอกลับเป็นนิยายล้วน ๆ เสือน้อยใช้บัตรรูดไม่ได้มีปัญหาอะไร เหมือนฝันเอ่ยปากแทรกขึ้นมาว่า “เฮ้ย! เสือน้อยเราพูดเล่น…เราเตรียมเงินมาไว้ต่างหากแน่ะ”
เธอมองค้อนเสือน้อย เพราะไม่ทันการพนักงานรูดบัตรไปเสียแล้ว!
เสือน้อยจึงหันมายิ้มแห้ง ๆ “ไม่ทันแล้ว แต่ไม่เป็นอะไรหรอกเงินเก็บเรา อีแค่นี้มันไม่ได้มากมายเท่าไรนัก ไปขายหมูปิ้งสักหลาย ๆ วันก็ได้เงินกลับคืนมาแล้ว!” เสือน้อยปลอบใจสาวสวยว่าไม่เป็นอะไรเลย
……
จากนั้นเสือน้อยก็อาสาหิ้วของให้กับเธอ อีกทั้งยังพาเธอเดินเข้าร้านเสื้อผ้าอีกต่างหาก ก่อนจะซื้อเสื้อให้เธออีกหลายตัว
ตัวเหมือนฝันเริ่มสงสัยเสียแล้ว ครอบครัวเสือน้อยเป็นแบบไหนกัน ทำไมถึงให้เงินลูกใช้เยอะจัง หรือพวกของที่เอามาขายทุกวัน มันได้กำไรดี…ถึงพอเหลือกินเหลือใช้ขนาดนี้?
แน่นอนเธอก็รู้ว่าคนอื่นเรียกเสือน้อยว่าอะไร เช่น มาสคอตประจำโรงเรียน หรือว่าพ่อค้าขายหมูปิ้ง ตอนที่มะปรางคบหาดูใจกับเสือน้อย เธอก็ได้ยินได้ฟังมาเยอะเช่นกัน!
……
หลังจากเดทแรกจบลง ที่ร้านไอติมชื่อดัง ซึ่งเสือน้อยชอบกินเป็นประจำก่อนกลับบ้าน ตอนนี้ทั้งคู่กะหนุงกะหนิงกันออกนอกหน้า เสือน้อยยิ่งนานยิ่งชื่นใจ เวลาได้เห็นรอยยิ้มพิมพ์ใจของเธอ
เสือน้อยเดินไปส่งเธอขึ้นแท็กซี่ และแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน...
พอถึงบ้านเสือน้อยก็เรียกลูกพี่ลูกน้องตัวแสบมาหา “นกแก้วอยู่ไหน!” เขาตะโกนเรียก
ผ่านไปแป๊บหนึ่งก็เห็นสาวน้อยวิ่งมาเสื้อผ้ามอมแมม คล้ายไปคลุกขี้โคลนมา “โตจนป่านนี้ยังไปเล่นเป็นเด็ก ๆ อีก”
เสือน้อยเขกมะเหงกเธอไปทีหนึ่ง ทำเธอหน้ามุ่ยก่อนจะยื่นถุงหนังสือให้ “นี่พี่ซื้อมาฝากเห็นว่าอยากได้!”
นกแก้วฉีกยิ้มกว้าง พอเห็นหนังสือที่ตนเองอยากได้ จึงจะโผเข้ากอด แต่ยังโชคดีที่เสือน้อยเอามือยันหน้าไว้ทัน “หยุดยัยตัวแสบ ดูเสื้อผ้าเลอะไปหมดยังจะมีหน้ามากอดคนอื่นเขาอีก ไปทำอะไรมา?”
“หนูไปอาบน้ำให้ไอ้ทองสุขมันต่างหากล่ะ” เธอกอดอกเชิดจมูก “เจ้าของควายไม่สนใจอาบน้ำให้มันตั้งหลายวัน...” เธอไม่ลืมพูดแขวะ
“เออดี ๆ น่าเปลี่ยนชื่อนะน้องเรา จากนกแก้วเป็นนกเอี้ยงดีมั้ย?” เสือน้อยยิ้มตอบ
นกแก้วทำหน้างุนงง “แล้วทำไมต้องเป็นนกเอี้ยงล่ะ?” เธอไม่รู้จริง ๆ
ส่วนพี่ชายเธอหัวเราะร่าและบอก “ไม่รู้ก็หัดไปถามคนอื่นเอาสิ?” ก่อนจะจากพี่ชายเธอยังไม่ลืมเขกมะเหงก แถมให้เธออีกที
“ไอ้พี่เสือโง่” หลังจากเห็นพี่ชายเดินจากไปเธอก็บ่นลับหลัง คำว่าไอ้เสือโง่ เธอได้ยินป้าชบาหลุดด่าพี่ชายอยู่เนือง ๆ
จึงตะโกนไล่หลัง “พี่เสือจะไปไหนอีกแล้วล่ะ อยู่บ้านเป็นบ้างมั้ยฮะ!?”
“ไปหาลูกหมี เอาหนังสือนิยายไปฝาก...” เสียงตะโกนดังตอบกลับมา
พอได้ยินดังนั้นสาวน้อยก็ฉีกยิ้มกว้าง “พี่ลูกหมีก็ได้เหมือนกันเหรอ?” เธอชอบพี่ลูกหมีของเธอมาก ในโรงเรียน ‘พี่ลูกหมี’ ของเธอคือดาวเด่นไม่แพ้ให้กับ ‘พี่ประดับดาว’ เลย เธอจึงนับถือพี่ลูกหมีมาก เพราะเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ประดับดาวอีกต่างหาก!
เปิดตัวละครใหม่ ‘ประดับดาว’ จำชื่อนี้ไว้น้าครับทุกท่าน