ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
รัก,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,เล่าประสบการณ์,ตลก,พล็อตสร้างกระแส,Y2K,ย้อนยุค,พระเอกเก่ง,เจ้าแผนการ,นักธุรกิจ,คนในฝัน,รวยตั้งแต่ยังเด็ก,สร้างตัว,สายเปย์,มาเฟีย,ตัวพ่อ,โรงเรียน,พล็อตไม่ซ้ำใคร,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เสือเจ้าพระยา | ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า (อ่านฟรี!)ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
เสือเจ้าพระยา ภาคที่ 1 | จับเสือมือเปล่า!
- ที่มาของชื่อเรื่อง -
ซ้ายเด่นสง่าเสือเจ้าพระยา ขวาดาราประดับฟ้าเพริศแพร้ว
สองเพชรงามน้ำหนึ่งเมืองบัวแก้ว ผู้ผ่องแผ้วคู่แคว้นแดนประทุม
………
นิยายเรื่องนี้จะเป็น ‘แนวสร้างตัว’ ซึ่งตลอดทั้งเรื่องผสมผสานไปด้วยมุกตลก และสอดแทรกไว้ด้วยสาระ โดยที่ได้อิงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงบนโลก ในภาคนี้จะมุ่งเน้นไปที่การปูพื้นฐานตัวละคร และก็โครงเรื่องเสียเป็นส่วนใหญ่
โดยนิยายจะเล่าย้อนกลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2548 เป็นเรื่องราวของพระเอกที่มีชื่อว่า “เสือน้อย” นับตั้งแต่เจ้าตัวได้เข้ามัธยมต้นในภาคที่ 1 จนกระทั่งเรียนจบมหาลัย ในภาคที่ 5
ผู้เขียนเชื่อว่าท่านนักอ่านนั้น ‘มีลิมิต’ ในการยอมรับนิยายสักเรื่องหนึ่ง ดังนั้นในตอนที่ 24 “คนขี่ควาย” ก็อาจช่วยให้ท่านตัดสินใจง่ายขึ้น แน่นอนหากว่าท่านอ่านเต็มภาคได้ย่อมจะดีที่สุด
“ใครจะไปคิดว่าควายจะเปลี่ยนชีวิตคนได้?” ทองสุขเจ้าควายตัวแสบ ถูกพ่อหยิบยกขึ้นมาเปรียบเปรยให้ลูกชายได้ฉุดคิดถึงสิ่งที่ทำอยู่ และมันได้จุดประกายความคิดของเด็กหนุ่ม ทำให้ชีวิตเขาพลิกผันไปตลอดกาล
♪
บทเพลงที่ใช้เปิดนิยายเรื่องนี้ คือ ‘เพลงบ้าหอบฟาง’ ของวงอัสนี-วสันต์
หอบฟางหอบฟางไปไหน ทำไมถึงต้องหอบฟาง
หอบกันจริงๆจังๆ หอบกันรุงรังหอบฟาง
♪
#พล็อตไม่ซ้ำใคร #นักธุรกิจร้อยล้าน #นักรักตัวพ่อ #มาเฟีย
นิยาย 5 ภาค/เล่ม(จบ) | จำนวน ≈643,202 คำ - [มี E-Book]
[--- อ่านฟรีรวม 150 ตอน! ---]
ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า
(อ่านฟรีทั้งภาค!)
ภาคที่ 2 เสือไว้ลาย
(ฟรีตอนที่ 57-87)
ภาคที่ 3 หน้าเนื้อใจเสือ
(ฟรีตอนที่ 116-131)
ภาคที่ 4 ชาติเสือจับเนื้อกินเอง
(ฟรีตอนที่ 186-207)
ภาคที่ 5 เสือหมอบ
(ฟรีตอนที่ 251-275)
(จบบริบูรณ์)
คำโปรย
เด็กหนุ่มผู้แผ้วถางป่าดงอันรกเรื้อ...
“ใช้สองมือกวาดพงสร้างทางฝัน สองเท้าย่างก้าวพลันสู่จุดหมาย
ขีดเขียนโชคชะตาด้วยใจกายยืนหยัดอย่างผึ่งผายด้วยคุณธรรม”
อุปสรรคนานัปการ…จะหล่อหลอมให้เขา กลายเป็นคนแกร่ง!
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้ ผู้เขียนแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ชื่อตัวละคร เหตุการณ์ และสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่อง อาจปรากฏอยู่ในความเป็นจริง “ทั้งนี้ผู้เขียนมิได้มีเจตนามุ่งทำร้ายให้เกิดความเสื่อมเสียต่อบุคคลวิชาชีพ หรือองค์กรใดทั้งสิ้น” หากแต่ใช้อ้างอิงเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านเท่านั้น…
เนื้อหาในนิยายอาจมีเนื้อเรื่องที่ไม่เหมาะสมปรากฏอยู่บ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง …หากมีความผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ตอนที่ 45 ขว้างงูไม่พ้นคอ
สมชายเข้ามาทักทาย “เป็นไงเมื่อเช้าได้ข่าวว่าโดนเล่นงานมาเหรอ” เพื่อน ๆ ในกลุ่มเข้ามาห้อมล้อม บางคนถึงขั้นชวนไปรุมกระทืบมัน
“รอดูทิศลมไปก่อน อย่าได้รีบร้อน…อย่าได้รีบร้อน” เขาพูดประโยคสุดท้ายย้ำสองครั้ง มองดูท่าแล้วใจเย็นผิดปกติ
ไม่นานข่าวลือก็แพร่สะพัดออกไป ถึงพฤติกรรมของนาย พีเด็ก ม.2 ลูกของ สจ.พาที นักการเมืองคนดังประจำจังหวัด ที่ได้ไถเงินพ่อค้าหมูปิ้งหน้าโรงเรียน ข่าวก็กระจายออกไปคล้ายกับไฟลามทุ่ง
เสือน้อยไม่คิดจะโหมกระพือไฟเพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติไปก่อนดูทิศทางลมเสียก่อน หากได้จังหวะเขาคงได้เล่นงานมันคืนเป็นแน่
ส่วนเหตุผลที่พีใบหน้าบอกบุญไม่รับ เป็นเพราะว่าเมื่อเช้านี้ เขาทะเลาะกับแฟนมา
ซึ่งก็เป็นแฟนสาวคนสวยรุ่นพี่…ที่ตัวเขาภูมิใจนักหนา แต่ทำตัวไม่ได้ดังใจขัดใจกัน และก็เผอิญว่าตอนเช้า เขาเห็นหน้าไอ้ลูกแมวพอดี จึงได้จัดการระบายอารมณ์ใส่มันเสียหน่อย!
แต่ทว่าอยู่ดี ๆ ก็มีข่าวลือกระจายมาถึงเขาโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะพฤติกรรมที่ทำไว้ตอนเช้า มีการเล่าจากปากหนึ่งสู่อีกปากหนึ่ง แน่นอนว่าย่อมต้องมีการแต่งแต้ม ตามแต่จินตนาการของบุคคลแต่ละบุคคล
ซึ่งบางคนก็บอกพีตบหน้าพ่อค้าหมูปิ้ง และบางคนก็บอกพ่นเศษอาหารใส่หน้าเสือน้อย ฯลฯ
……
หลังจากนั้นก็มีข่าวลือไปมากมาย แต่เสือน้อยก็ให้คนอื่นไปจัดการเรื่องนี้ ส่วนเขาก็ง่วนอยู่กับเรื่องของตัวเอง ทำทุกอย่างที่มีอยู่เพื่อใช้มันให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่าที่สุด!
โดยเฉพาะธุรกิจหลักปั๊มเงินในเกมเสือน้อย ก็ได้ไปจัดคอมยกชุดใหม่เอาแรง ๆ มาให้ลูกน้องทั้งสองชั้นหมดเลย
เสือน้อยเชื่อว่า “หากจะให้ม้าวิ่งก็ต้องให้หญ้าให้น้ำ…เขาถึงจะไปยังจุดหมายได้”
พอเปรียบเทียบดังนี้ เขาจึงให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นอย่างมาก!
พักหลัง ๆ สำหรับลูกน้องของเขา ยิ่งนานยิ่งแย่สำหรับผลการเรียน พวกเขาโดนที่บ้านบ่น ทางเสือน้อยเองก็ได้รับคำขอร้องมา ให้เขาช่วยหาติวเตอร์พิเศษมาให้หน่อย เหมือนอย่างคราวก่อน แต่ว่ารอบนี้พวกเขาจะออกเงินกันเอง
หลังจากได้รับรู้ปัญหาเสือน้อยก็เลิกใส่ใจเรื่องไอ้ทรพีชั่วคราว ปล่อยให้คนอื่นจัดการไป
ตอนเย็น ๆ เขาได้เดินไปที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่ง…
หลังจากที่ได้ไปถามพวกเพื่อน ๆ เด็กเรียนในห้องว่าแถวนี้ มีที่ไหนสอนดี ๆ บ้าง เพราะชีวิตนี้เขาไม่ค่อยได้เข้าโรงเรียนกวดวิชาเท่าไหร่ จึงจำเป็นต้องหาข้อมูลเพิ่ม และพอได้มาก็ต้องไปเยือนถึงที่ด้วยตัวเอง
ตึกสองคูหาเก่า ๆ คล้ายห้องเรียนที่ไม่ได้ค่อยบูรณะมานาน มีกลิ่นอายของความเก่าแก่ สัมผัสได้อย่างชัดเจน
โรงเรียนกวดวิชาแห่งนี้ สมัยหนึ่งเคยเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก แต่ทว่าเมื่อกาลเวลาล่วงเลยผ่านไป เหมือนกับว่าทางโรงเรียนจะปรับปรุงตัวไม่ทันตามยุคสมัย พอเสือน้อยเดินเข้ามา ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงไม่มีใครนิยมมาเรียนที่นี่!
ตึกเก่าประมาณสองสามคูหา ทั้ง ๆ ที่สถานที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงเรียน แหล่งชุมชน แต่ว่ากิจการทรุดโทรมอย่างน่าเหลือเชื่อ หากจะเปรียบก็คงเป็นทำเลทองชั้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ จากการที่เด็กหนุ่มลอบประเมิน
เสือน้อยคิดในใจ “คงเป็นเพราะด้วยปัจจุบันนักเรียนส่วนใหญ่ หันไปเรียนที่ห้างสรรพสินค้า ที่มีสถานที่ทันสมัยและก็มีของครบครันมากกว่า”
ก่อนจะมาก็ไปลองถามเพื่อน ๆ ว่า “เคยเรียนที่นี่ไหม?”
เพื่อน ๆ ในห้องก็บอกว่าปกติไปเรียนพิเศษที่อื่น พอถามไปถามมาหลาย ๆ ห้อง คนที่เรียนพิเศษเยอะมาก แต่ทว่าไม่มีใครเรียนที่นี่เลย?
หรืออาจจะเป็นเพราะว่าตัวเขายังถามคนมาไม่เยอะพอ ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นไปได้?
ดังนั้นเสือน้อยจึงเดินเข้าไปหาพนักงานต้อนรับด้านในที่ดูเป็นคนรุ่นใหม่และทันสมัย มองดูกระฉับกระเฉง แต่กลับมาอยู่ในอาคารโบราณแห่งนี้
ชายหนุ่มพอเห็นเสือน้อยซึ่งเป็นเหยื่อรายใหม่เดินเข้ามา จึงได้รีบกล่าวแนะนำโรงเรียนอย่างเต็มที่ ฟังประวัติไปเสือน้อยก็ถึงกับอึ้งเปิดมาสามสิบปีเห็นจะได้ อีกทั้งอยู่ทำเลทองใกล้ตลาด ใกล้โรงเรียน…เดินไปร้อยเมตรกว่า ๆ ก็ถึงป้ายรถเมล์แล้ว
เสือน้อยไม่อ้อมค้อมเขาพูดตามตรง “เอ่อ…พี่ครับ ผมอยากขอพบเจ้าของโรงเรียน”
ทำให้ชายหนุ่มที่แนะนำตัวเองว่าชื่อ ‘พี่บีม’ ซึ่งทำหน้างง ๆ อยู่ จึงได้ลองถามย้ำไปอีกว่า “เอ่อ…อยากพบจริง ๆ เหรอ?” ซึ่งพอดีที่เจ้าของกิจการอยู่ด้วยวันนี้
ไม่นานเสือน้อยก็เดิน เข้าไปในห้องทำงาน ที่ติดรูปความภาคภูมิใจในอดีตเอาไว้ ทั้งของตนเองและของนักเรียน
เสือน้อยกล่าวทักทายสวัสดีตามมารยาทอันพึงมี ส่วนทางด้านเจ้าของกิจการก็เชิญนั่ง
“มีอะไรหรือหนุ่มน้อย…เห็นว่าอยากพบฉัน!?” ชายสูงวัยมองเผิน ๆ อายุน่าจะพอ ๆ กับปู่ย่าของเขา ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ซึ่งภายในใจผู้เฒ่าก็คิดว่า “เด็กหนุ่มคงอยากจะมาสมัครเรียน หรือไม่ก็พวกศิษย์เก่าได้ฝากของมาให้… แต่ถ้าดูจากใบหน้าอันอ่อนเยาว์ คงเป็นอย่างแรกเสียมากกว่า”
“เอ่อ…คุณครูครับ พอดีว่าผมสนใจจะซื้อกิจการของครูน่ะครับ” เสือน้อยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังทันที
ชายสูงวัยเลิกคิ้ว “ไอ้เด็กเวร! นี่แกมาก่อกวนฉันหรือไงฮะ!?” เขาบ่นเสียงดังแต่ก็อดรักษามาดสุขุมสมเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ได้
เสือน้อยยิ้มแห้ง ๆ เขาก็พอจะเดาไว้ได้อยู่แล้วว่า ตนเองจะต้องโดนมองในแง่แบบนี้แน่ ๆ จึงไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ
เขาตอบกลับด้วยความมุ่งมั่น “ไม่ได้มากวนจริง ๆ ครับคุณครู พ่อแม่ผมอยากซื้อกิจการเลยให้ผมเดินเข้ามาเยี่ยมเยือน แวะเข้ามาดูภายในก่อน” เสือน้อยพูดอ้างไปถึงพ่อแม่ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้
ในตอนแรกเสือน้อยแค่ต้องการหาครูมาสอนให้ลูกน้อง แต่พอถามเพื่อนไปถามเพื่อนมา ผู้ปกครองเด็กเรียนหลาย ๆ คนยอมจ่ายเงินเพื่อเรียนพิเศษกันเยอะมาก ๆ
เขาจึงคิดเอาง่าย ๆ ว่า “ถ้างั้นทำไมไม่สู้…เปิดโรงเรียนไปเองเลยล่ะ?”
……
ผ่านไปสองสามวัน ข่าวลือเรื่องพฤติกรรมต่ำทรามของลูก สจ.พาที ก็ยังไม่จบสิ้น…
ทั้งถ่มถุยเศษอาหารใส่ พร้อมทั้งรีดไถเงิน แถมยังดูหมิ่นซึ่งหน้า ยิ่งนานข่าวลือยิ่งแต่งแต้มไปต่าง ๆ นานา มีพยานในเหตุการณ์เป็นนักเรียนอยู่มาก
กลายเป็นว่านายพี ‘ขว้างงูไม่พ้นคอ’ เรื่องไปถึงห้องปกครอง จนครูเรียกเขาเข้าไปพบไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ พลังของปากคนรวมกันมาก ๆ เข้าก็สามารถละลายทองคำได้เหมือนกัน!
ที่ห้องฝ่ายปกครอง บรรดาครูต่างก็หันมามองเด็กหนุ่มจอมก่อเรื่อง คราวที่แล้วยังไม่จบสิ้นดี ครั้งนี้เริ่มก่อเรื่องอีกแล้วหรือ นี่พึ่งผ่านไปกี่เดือนเอง?
ปัญหาคือเสือน้อยจะเอาความหรือเปล่า เพราะเสือน้อยปล่อยข่าวแว่ว ๆ มาว่าจะแจ้งความข้อหาทำลายชื่อเสียง ส่วนพยานบุคคลสุ่มชี้ตรงไหนมาก็เจอ!
ครูทุกคนในฝ่ายปกครองใช่ว่าไม่เคยกินหมูปิ้ง อย่างน้อยก็เจ็ดในสิบเคยกิน จึงรู้ดีว่าข้อกล่าวหาของนายพีนั้นเหลวไหลทั้งเพ และการที่นายพีทำแบบนี้มันก็เกินไปจริง ๆ แถมยังรีดไถเงินไปอีกหลายพันบาท
เสือน้อยดูทิศทางลมแล้วจึงปล่อยข่าวออกไป ถ้าเป็นเรื่องการทำมาหากิน มันเสื่อมเสียชื่อเสียงจริง ๆ ต่อไปใครจะกล้าซื้อ?
ความจริงเรื่องชื่อเสียงในการค้าขายนั้นสำคัญแค่ไหน พวกพ่อค้าแม่ค้าต่างก็รู้กันดี! ซึ่งเรื่องนี้ก็ชวนทำให้ทางฝ่ายปกครองปวดหัวอีกไม่ใช่น้อย
ทางด้านนอกโรงเรียนข่าวลือจากปากต่อปากก็ไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ‘นายก อบจ.ไพริน’ เมื่อทราบเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ข่าวเสียของทีมงานตน จึงโทรไปต่อว่าอย่างหนักถึงพฤติกรรมลูกชาย สจ.พาที
พาทีทุบโต๊ะเสียงดัง “เปรี้ยง!” พอได้รู้ว่าลูกชายตัวดีก่อเรื่องอีกแล้ว จนคราวนี้เรื่องไปถึงหูผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัด ตนเองก็โกรธจนควันออกหู รีบหยิบโทรศัพท์โทรไปหาลูกชาย ในขณะที่เจ้าตัวนั่งอยู่ในห้องฝ่ายปกครอง
“ไอ้ลูกเวรเอ๊ย! นี่มึงก่อเรื่องอีกแล้วเหรอฮะ!?” พาทีตะโกนเกรี้ยวกราด
เขาโกรธจนแทบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว จึงด่าทอต่อไปว่า “มึงรู้มั้ยท่าน ‘นายก อบจ.’ โทรมาต่อว่ากูเนี่ย!”
พีรพัฒน์อึ้งงัน “แค่ฝ่ายปกครองคงไม่เท่าไหร่ แต่นี่มันลามไปจนถึง ‘นายก อบจ.’ เลยเหรอวะ?” เขาบ่นในใจซวยแล้วแน่ ๆ
เขาพูดยอมรับและขอโทษแต่โดยดี “พอดีพีทะเลาะกับแฟนมาน่ะพ่อ คนมันอารมณ์ไม่ดี พอเจอคนที่หมั่นไส้ ก็เลยหลุดเผลอไปเล่นงานมัน…”
พอพ่อด่าไปได้สักพัก แม่ก็แย่งโทรศัพท์ก่อนพูดตำหนิพีอยู่พักใหญ่ “แล้วคนที่ไปมีเรื่องด้วยเขาจะเอาอย่างไง!?” แม่เด็กหนุ่มถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
พีก็ได้อธิบายว่า “ตอนนี้อยู่ห้องปกครอง แถมมีข่าวว่าไอ้เสือน้อยมันจะเอาเรื่อง!”
“ครูฝ่ายปกครองก็กำลังพิจารณาเรื่องโทษทัณฑ์ ถ้าเกิดว่าไอ้เสือน้อยมันแจ้งความ เพราะเรื่องมันเกิดนอกโรงเรียน พยานบุคคลก็ดูเหมือนจะมีเยอะด้วย!” พีพูดเสียงอ่อน ดูเหมือนคราวนี้เขาจะซวยแล้วจริง ๆ หนักกว่าครั้งก่อน ๆ มากนัก!
“สรุปก็คือถ้าเจ้าตัวเอาเรื่องจะโดนไล่ออกใช่มั้ย? และถ้าไม่เอาเรื่องทางโรงเรียนก็จะปล่อยผ่านใช่มั้ยลูก?” แม่ถามด้วยท่าทีร้อนใจ เตรียมที่จะวิ่งเต้นหาทางช่วยลูกชาย
ในขณะเดียวกันเสือน้อยก็ถูกเชิญมาห้องฝ่ายปกครอง เป็นตอนที่พีถือโทรศัพท์ออกไปคุยข้างนอก
ทางครูฝ่ายปกครองก็อธิบายผลที่จะเกิดขึ้น “ถ้าเธอจะดำเนินคดี ทางโรงเรียนคงต้องดำเนินการควบคู่ไปด้วยทั้งสองทาง เพราะมันเสื่อมเสียถึงชื่อเสียงโรงเรียนด้วยหากขึ้นโรงขึ้นศาล”
เสือน้อยตาลุกวาว “แล้วครั้งนี้โทษของไอ้พี…ที่โรงเรียนเตรียมไว้จะเป็นอย่างไงครับ!?”
ครูพีระตอบ “เนื่องจากเจ้าตัวเคยโดนทัณฑ์บนข้อหาหนัก ถ้าโดนรอบนี้คงต้องเชิญออกสถานเดียว...หรืออาจไล่ออกก็ได้ ในกรณีที่มีพฤติกรรมแบบนี้”
จากนั้นนายพีก็เดินเข้ามาในห้องท่าทีสงบเสงี่ยม ต่างจากท่าทีเหี้ยมหาญที่ได้แสดงออกในวันนั้นกับทางเสือน้อยอย่างสิ้นเชิง
ตัวเขานั่งอยู่มุมห้องก่อนหันไปพูดกับครูพีระว่า “ประเดี๋ยวแม่ผมขับรถมาครับครู”
พีหันมามองเสือน้อย “พอดีแม่กูมีเรื่องจะคุยกับมึง!”
เสือน้อยที่กอดอกนั่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อน พอได้ยินคำพูดของไอ้ทรพี เขาก็ไม่พอใจ ก่อนจะเลิกคิ้วข้างหนึ่งเหลือบไปมองไอ้ทรพี และพูดว่า “อะไรสิ!?”
หากใครมาเห็นเขาวางมาดตอนนี้ก็ไม่พ้นต้องด่าว่ากวนโอ๊ยแน่ ๆ
เมื่อเห็นสายตาที่แฝงไปด้วยความเย้ยหยัน ใบหน้าเชิงสอบถาม พีที่รู้ว่าเสียเปรียบ จึงพลางกัดฟันพูดขึ้นมาใหม่
เขาต้องจำใจทำเป็นขอร้อง “เดี๋ยวแม่ผมมา...มีเรื่องจะเจรจากับคุณเสือน้อยหน่อยน่ะครับ”
“นานมั้ย ถ้านานผมไม่สะดวกติดเรียน” เสือน้อยตอบแบบเชิด ๆ
“สักครู่หนึ่งครับ คุณเสือน้อยช่วยรอสักนิดเถอะครับ!” พีกัดฟันกรอดพูดอย่างนอบน้อม
ส่วนเสือน้อยหันมาพยักหน้า…แต่ทว่าภายในใจกลับหัวเราะร่า
……
ไม่นานหลังจากออกจากบ้านมา เธอเองก็โทรปรึกษาพ่อของสามี ชักชวนให้มาด้วยกันมาช่วยเกลี้ยกล่อมเด็กหน่อย เธอเชื่อว่าความเป็นครูของพ่อสามี ซึ่งได้เป็นครูมาอย่างยาวนาน จะสามารถช่วยกล่อมเด็กคนนี้ได้เป็นอย่างมาก!
อุ๊ย! อยากอ่านต่อบ่? ฮึฮึ