ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
รัก,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,เล่าประสบการณ์,ตลก,พล็อตสร้างกระแส,Y2K,ย้อนยุค,พระเอกเก่ง,เจ้าแผนการ,นักธุรกิจ,คนในฝัน,รวยตั้งแต่ยังเด็ก,สร้างตัว,สายเปย์,มาเฟีย,ตัวพ่อ,โรงเรียน,พล็อตไม่ซ้ำใคร,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เสือเจ้าพระยา | ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า (อ่านฟรี!)ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
เสือเจ้าพระยา ภาคที่ 1 | จับเสือมือเปล่า!
- ที่มาของชื่อเรื่อง -
ซ้ายเด่นสง่าเสือเจ้าพระยา ขวาดาราประดับฟ้าเพริศแพร้ว
สองเพชรงามน้ำหนึ่งเมืองบัวแก้ว ผู้ผ่องแผ้วคู่แคว้นแดนประทุม
………
นิยายเรื่องนี้จะเป็น ‘แนวสร้างตัว’ ซึ่งตลอดทั้งเรื่องผสมผสานไปด้วยมุกตลก และสอดแทรกไว้ด้วยสาระ โดยที่ได้อิงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงบนโลก ในภาคนี้จะมุ่งเน้นไปที่การปูพื้นฐานตัวละคร และก็โครงเรื่องเสียเป็นส่วนใหญ่
โดยนิยายจะเล่าย้อนกลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2548 เป็นเรื่องราวของพระเอกที่มีชื่อว่า “เสือน้อย” นับตั้งแต่เจ้าตัวได้เข้ามัธยมต้นในภาคที่ 1 จนกระทั่งเรียนจบมหาลัย ในภาคที่ 5
ผู้เขียนเชื่อว่าท่านนักอ่านนั้น ‘มีลิมิต’ ในการยอมรับนิยายสักเรื่องหนึ่ง ดังนั้นในตอนที่ 24 “คนขี่ควาย” ก็อาจช่วยให้ท่านตัดสินใจง่ายขึ้น แน่นอนหากว่าท่านอ่านเต็มภาคได้ย่อมจะดีที่สุด
“ใครจะไปคิดว่าควายจะเปลี่ยนชีวิตคนได้?” ทองสุขเจ้าควายตัวแสบ ถูกพ่อหยิบยกขึ้นมาเปรียบเปรยให้ลูกชายได้ฉุดคิดถึงสิ่งที่ทำอยู่ และมันได้จุดประกายความคิดของเด็กหนุ่ม ทำให้ชีวิตเขาพลิกผันไปตลอดกาล
♪
บทเพลงที่ใช้เปิดนิยายเรื่องนี้ คือ ‘เพลงบ้าหอบฟาง’ ของวงอัสนี-วสันต์
หอบฟางหอบฟางไปไหน ทำไมถึงต้องหอบฟาง
หอบกันจริงๆจังๆ หอบกันรุงรังหอบฟาง
♪
#พล็อตไม่ซ้ำใคร #นักธุรกิจร้อยล้าน #นักรักตัวพ่อ #มาเฟีย
นิยาย 5 ภาค/เล่ม(จบ) | จำนวน ≈643,202 คำ - [มี E-Book]
[--- อ่านฟรีรวม 150 ตอน! ---]
ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า
(อ่านฟรีทั้งภาค!)
ภาคที่ 2 เสือไว้ลาย
(ฟรีตอนที่ 57-87)
ภาคที่ 3 หน้าเนื้อใจเสือ
(ฟรีตอนที่ 116-131)
ภาคที่ 4 ชาติเสือจับเนื้อกินเอง
(ฟรีตอนที่ 186-207)
ภาคที่ 5 เสือหมอบ
(ฟรีตอนที่ 251-275)
(จบบริบูรณ์)
คำโปรย
เด็กหนุ่มผู้แผ้วถางป่าดงอันรกเรื้อ...
“ใช้สองมือกวาดพงสร้างทางฝัน สองเท้าย่างก้าวพลันสู่จุดหมาย
ขีดเขียนโชคชะตาด้วยใจกายยืนหยัดอย่างผึ่งผายด้วยคุณธรรม”
อุปสรรคนานัปการ…จะหล่อหลอมให้เขา กลายเป็นคนแกร่ง!
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้ ผู้เขียนแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ชื่อตัวละคร เหตุการณ์ และสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่อง อาจปรากฏอยู่ในความเป็นจริง “ทั้งนี้ผู้เขียนมิได้มีเจตนามุ่งทำร้ายให้เกิดความเสื่อมเสียต่อบุคคลวิชาชีพ หรือองค์กรใดทั้งสิ้น” หากแต่ใช้อ้างอิงเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านเท่านั้น…
เนื้อหาในนิยายอาจมีเนื้อเรื่องที่ไม่เหมาะสมปรากฏอยู่บ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง …หากมีความผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ตอนที่ 46 ค่าเสียหายคือแลกเปลี่ยนตึก!
ครู่ใหญ่ ๆ หญิงสาววัยสามสิบปีกว่า ๆ กับผู้เฒ่าคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้อง ทั้งคู่กล่าวสวัสดีครูบาอาจารย์ที่อยู่โดยรอบ “เริ่มจากขอโทษขอโพย…”
ส่วนเสือน้อยกะพริบตาใส่ทั้งสอง โดยเฉพาะครูเฒ่าเจ้าเล่ห์ ที่เขาไปเจอเมื่อหลายวันก่อน
ที่มุมปากของเขายกยิ้มขึ้น พลางลอบตะโกนกู่ก้องในใจ “สวรรค์ช่างเข้าข้างคนดี!” ตัวเขาอยากจะตบเข่าดังฉาดเสียเหลือเกิน ทำให้ดังไปทั่วทั้งห้อง แต่ทว่าจำต้องฝืนทนอดกลั้นไว้!
ครูเฒ่าก็ออกอาการมึนงงอยู่เหมือนกัน เพราะว่าวันก่อนที่ได้เจรจากับไอ้หนูนี่ ตัวเขาก็ได้ขูดรีดอีกฝ่ายเสียเต็มประดา ทั้งราคาที่ดินก็เพิ่มขึ้น ทั้งราคาค่าซื้อต่อกิจการก็เพิ่มขึ้น ไปอีกหลายเท่าตัว
วันต่อมาเจ้าตัวก็มาพร้อมกับทนายความ เข้ามาคุยอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ต่อรองกันอยู่นานก็ไม่ยอมลดราวาศอกแม้แต่บาทเดียว ทีแรกเขานึกว่าไอ้หนูนี่พูดเล่น ๆ ที่ไหนได้มันเอาจริง
พอเจรจากันถึงจุดหนึ่ง ทั้งคู่ก็รับกับราคานี้ไม่ไหว ครูเฒ่าก็เลิกวางมาด แถมด่าสาดเสียเทเสียยกใหญ่ แถมไล่พวกเขาเยี่ยงหมูเยี่ยงหมาก็ไม่ปาน และการมาในวันนี้ของเขาเองดูท่าจะช่วยหลานชายได้ แต่ทว่า…
แม่ของพีขอเจรจาเป็นการส่วนตัวกับเสือน้อย แน่นอนต้องเป็นเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อยู่แล้วครูในห้องปกครองจึงไม่ขัดขวางการพูดคุย ส่วนทางเสือน้อยก็พยักหน้า ตัวเขาอยากคุยกับฝ่ายนั้นใจจะขาด!
“สวัสดีครับคุณน้า คุณครู!” เสือน้อยไม่ขาดมารยาทแม้นจะเป็นคู่กรณีก็ตาม
“สวัสดีจ้ะเสือน้อย แหมชื่อน่ารักเชียว…” เธอไม่ลืมหยอดคำหวาน ไม่มีใครไม่ชอบฟังคำหวานหรอก
“น้าชื่อสมร ส่วนนี้คุณปู่แสมเป็นปู่แท้ ๆ ของเจ้าพีน่ะ”
เสือน้อยฉีกยิ้มกว้าง “โลกกลมจังเลยนะครับคุณครู! เจอกันเร็วทีเดียวเชียว วันก่อนผมเข้าไปหาคุณครูก็ได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดีเลย จำได้ไม่ลืมเลยครับ” เสือน้อยเปิดคำทักทายที่คาดไม่ถึงออกมา
ทำเอาแม่สมรตะลึงก่อนลอบดีใจ “คนรู้จักเหรอ แบบนี้ก็คุยกันง่ายน่ะสิ!”
แม่สมรหารู้ไม่ว่าปู่แสมเส้นประสาทบนขมับเต้นตึกตัก
เสือน้อยจึงพูดต่อ “วันนี้จะมาเจรจากับผมใช่มั้ยครับคุณปู่แสม” เขาเปลี่ยนคำเรียก แถมถามด้วยเสียงปกติ แต่ดวงตาฉายแววคล้ายหมาป่าจ้องตะครุบเหยื่อ
“แน่นอนว่ามาเจรจา…ก็อยากให้ทุกฝ่ายจบกันด้วยดีนะ ไม่อยากให้อาฆาตพยาบาท มีอะไรอภัยได้ก็จงอภัยกัน อย่าไปถือสากันเลย เมตตาธรรมค้ำจุนโลกนะพ่อหนุ่ม” ปู่แสมพูดร่ายยาวเหยียด
เสือน้อยก็ยิ้มรับคำ เขารู้ว่าตาเฒ่าจิ้งจอกคนนี้กำลังสื่อความหมายอะไรอยู่
เขาผายมือก่อนพูดว่า “แต่ผมไม่ได้ไปหาเรื่องอะไรลูกคุณน้า หลานคุณปู่ เลยนะครับ มีแต่โดนอีกฝ่ายหาเรื่องก่อนตลอด ยังจำครั้งนั้นได้มั้ยที่มีเรื่องชกต่อย ก็เป็นผมนี่แหละครับที่โดนลูกชายคุณน้าพาพวกมารุมกระทืบ”
เขาได้ปลุกความจำของแม่สมรขึ้นมาอีกครั้ง
สมรเองก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ว่าเธอจำเสือน้อยไม่ได้ แต่เพราะว่าคราวก่อนเจรจาผ่านพ่อของอีกฝ่าย
“โอ้โฮ...บังเอิญจริงเชียว!” เธอไม่รู้จะพูดแก้ตัวยังไงดี
“ไม่บังเอิญหรอกครับ ดูท่าคำที่คุณปู่แสมพูดมา ผมว่าควรย้อนไปบอก ‘เพื่อนพี’ เสียหน่อยดีกว่านะครับ ผมก็อยู่ของผมเฉย ๆ ตั้งใจขายของอยู่ทุกวัน กลับเป็นลูกชายคุณน้านั่นแหละที่ชอบมาหาเรื่องผมก่อนตลอด!”
เสือน้อยพูดจาไม่เกรงใจทั้งสองคนแม้แต่น้อย และที่เขาพูดก็เป็นความจริงเสียด้วย ทำเอาทั้งสองคนได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ
……
เสือน้อยพูดจายาวเหยียดก่อนที่จะจิบน้ำนิดหน่อย และก็ได้พูดต่อไปอย่างใจเย็นว่า
“แต่ลูกชายคุณน้า มันทำผมไว้แสบจริง ๆ ขยันก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน ผมแอบสืบมาว่าเรื่องใหญ่คราวก่อนที่โดนข้อหาขายบุหรี่ เพื่อนพีก็โดนทัณฑ์บน ถ้าคราวนี้โดนผมอีกก็มีสิทธิ์ยื่นเรื่องถึงทางโรงเรียนโดยให้ทำเรื่องไล่ออกได้เลยนะครับ ก่อนที่ผมจะเข้าห้องมา ครูก็ได้ยืนยันกับผมเรื่องนี้แล้ว”
เสือน้อยหยุดพูด ให้ทั้งสองย่อยข้อมูลสักครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดต่อว่า “แน่นอนว่าตอนนี้คุณน้ากับคุณปู่แสมอยู่ที่นี่แล้ว คงพยายามที่จะเจรจาให้ตัวผมหยุดเอาเรื่องทั้งการแจ้งความ และก็ทางฝ่ายปกครองกับพี ผมเข้าใจถูกต้องมั้ยครับ?”
“ใช่จ้ะ…เรานี่เข้าใจอะไรง่ายจัง น้าชอบจัง!” แม่สมรพูดชมเชย พร้อมยิ้มหวานให้เด็กหนุ่ม
“ผมน่ะเจรจาง่ายอยู่แล้ว ไม่เชื่อถามคุณปู่แสมได้เลย…แต่ว่าการเจรจา มันก็ต้องแสดงความจริงใจออกมาเสียหน่อย ตอนนี้ก็เป็นโอกาสสุดท้ายของเพื่อนพีเขาแล้ว คุณปู่แสมต้องคิดให้หนัก ถึงอนาคตหลานชายนะครับ...” เสือน้อยยังไม่ลืมพูดแฝงนัยยะไว้
“ตั้งแต่เริ่มมาเขาพูดกับเธอน้อยมาก ๆ ส่วนใหญ่พูดกับพ่อแสมเสียมากกว่า…” ตัวสมรเหมือนจะสัมผัสได้ถึงเลศนัยบางอย่าง
“เอาอย่างนี้ดีมั้ย…เดี๋ยวน้าให้เงินทำขวัญสัก ‘ห้าหมื่นบาท’ เป็นอย่างไง?” สมรพูดขึ้น
พอปู่แสมได้ยินลูกสะใภ้พูดขึ้น เส้นเลือดบนขมับปูดโปนออกมาทันที เขากัดฟันบ่นในใจ “เศษตังค์แค่นี้มันเอาก็แปลกแล้วยัยสมรเอ๊ย!”
เสือน้อยส่ายหน้า “ผมรู้ข่าวมาว่าตึกด้านหลัง ทางท่าน สจ. กับครอบครัวช่วยกันบริจาคสร้างไปตั้งหลายล้านบาท เพื่อแลกกับอนาคตลูกชาย เรื่องวงในพวกนี้ผมสืบมาก่อนจะเอาเรื่องเพื่อนพีแล้วครับ คุณน้าทำไมด้อยค่าผมถึงขนาดนั้น...” เสือน้อยตีหน้าเศร้าเล่าความจริง
“แล้วเราพอใจที่เท่าไหร่ละลูก?” สมรขมวดคิ้วถาม
เสือน้อยหันไปมองเธอก่อนพูดว่า “คือช่วงนี้ผมอยากลงทุน ทำธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาน่ะครับ…” เขาหันตาไปมองปู่แสม ในประโยคหลัง
สมรก็ถึงบางอ้อ เธอพอเข้าใจแล้วว่าทำไมเด็กคนนี้ ถึงพูดอะไรแฝงนัยยะไว้ตลอด และดูเหมือนมีอะไรจะบอกกับพ่อสามีเธอ
“ถ้าผมมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ก็จะได้การันตีอนาคตว่าจะมีงานมีการทำ” เสือน้อยพูดอ้อมจนอ้อมไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ก่อนพูดถึงพี “เพื่อนพีเขามีโอกาสสุดท้าย ในโรงเรียนนี้อยู่ มันก็ขึ้นอยู่กับความจริงใจของทางคุณน้ากับคุณปู่ว่าจะใจถึงมั้ย?”
สมรหันไปมองพ่อสามีเธอเอาจริง ๆ “งั้นประเดี๋ยวน้ากับปู่มานะ รอแป๊บเดียว ขอไปคุยกันเพิ่มเติมก่อน” เธอยิ้มอ่อน ยังไม่ลืมว่าอนาคตลูกชายตกอยู่ในกำมือของเขา
หลังออกจากห้องมา “พ่อสรุปแล้วมีเรื่องอะไรกันแน่!?” ทั้งสองก็ยืนคุยกันอยู่นานสองนาน
ทางด้านเสือน้อยก็โทรให้ ‘ทนายรัก’ ที่ได้ไปหาปู่แสมวันก่อนเป็นเพื่อนเขา ให้เข้ามาที่โรงเรียนพร้อมเอกสาร
ทนายรักที่เตรียมพร้อมอยู่นานแล้ว เขานั่งรออยู่ในร้านทองสุข ด้านข้างโรงเรียน จึงเดินเข้ามาในโรงเรียนพร้อมแฟ้มเอกสาร ก่อนแลกบัตรตรงเข้าห้องฝ่ายปกครองไป ตอนเข้าไปยังไม่ลืมแนะนำตัวให้ครูฝ่ายปกครองได้รู้
แน่นอนว่าแม่สมรกับปู่แสมได้ยินเช่นกัน โดยเฉพาะฝ่ายหลังที่หางคิ้วกระตุกเบา ๆ
หลังปู่แสมกับลูกสะใภ้เห็นว่า “มีทนายความส่วนตัวของเสือน้อยเข้ามาก็เห็นว่าท่าไม่ดี เธอจึงบอกพ่อสามีไปว่าฟาดเคราะห์” ชายชราถอนหายใจ
ก่อนเดินกลับเข้าไปในห้องพร้อมสายตาที่เด็ดเดี่ยว แน่นอนว่าเขาตัดสินใจได้แล้ว
“นี่อา…เอาเอกสารมาพร้อมนะ ดูท่าวันนี้อาจจะได้จับเสือมือเปล่า!” เสือน้อยหันไปจ้องมองทนายความด้วยความเคารพ
“เสือน้อย…ไอ้คนข้างหน้านั่นใช่ครูเฒ่า ที่ด่าเราสองคนเหมือนหมูเหมือนหมา วันก่อนใช่หรือเปล่า?” ทนายรักถามขึ้น เสือน้อยจึงพยักหน้าพร้อมยิ้มจาง ๆ
รอไม่นานทั้งสองคนก็เข้ามา ทนายรักก็แนะนำตัวก่อนหันไปทักทายกับปู่แสมเหมือนกับเสือน้อยไม่มีผิด
เสือน้อยพูดขึ้นมาว่า “ก่อนจะเจรจากันต่อ…ผมขออนุญาตให้ดูหลักฐานที่ทางทนายผมรวบรวม เพื่อประกอบการตัดสินใจครับ” เด็กหนุ่มหยิบแฟ้มส่งให้สมรดู เขาต้องการเปิดไพ่ให้อีกฝ่ายดูก่อน ไม่ใช่ขู่เล่น ๆ
ส่วนสมรเมื่อเห็นพยานหลักฐานอย่างละเอียดยิบ เธอก็คิดว่า “พวกเขาตัดสินใจ ถูกต้องแล้ว และปู่แสมด้วยก็เช่นกัน เพราะอีกฝ่ายหาหลักฐานมาได้ละเอียดมาก ตอนนี้มีแต่เสียกับเสียอย่างเดียวเท่านั้น!”
“เอาล่ะฉันยอมยกทั้งที่ดินและตัวอาคารให้นาย แต่ถ้าจะใช้ชื่อกิจการต่อก็ต้องจ่ายเงินต่างหาก เซ็นสัญญาวันนี้เลยเป็นไง!” ปู่แสมพูดเสียงหนักแน่น เขาอยากจบเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะยิ่งยื้อเขายิ่งเจ็บ!
ตอนปรึกษากับลูกสะใภ้ เธอได้บอกให้พ่อตัดใจปล่อยธุรกิจโรงเรียนกวดวิชานี้ไป ก็เพื่อแลกกับอนาคตหลานชาย
เพราะว่าคราวก่อนก็เป็นเธอที่บริจาคเงินเป็นล้าน สามีเธอไม่ได้ออกเงินสักบาท ตอนนี้ถึงฝั่งสามีเธอบ้างแล้ว!
อีกอย่างเธอเองก็ไม่ได้พิศวาสกิจการโรงเรียนกวดวิชาอะไรนั่นเลย ทำไปก็มีแต่ขาดทุน!
เป็นเธอเสียอีกต้องเอาเงินไปอุดหนุนธุรกิจที่กำลังล่มสลาย สามีของเธอก็ไม่ได้มาช่วยตรงส่วนนี้เลย นับวันยิ่งเข้าเนื้อไปเรื่อย ๆ เธอกลับโล่งใจเสียด้วยซ้ำที่พ่อสามียอมตัดใจปล่อย
แม่สมรยิ้ม “ความจริงใจแค่นี้พอมั้ยจ๊ะ?”
เสือน้อยยิ้มกระตือรือร้น “พอครับพอมากเลย ถ้าคุณน้ากับคุณปู่มีความจริงใจแบบนี้ ผมยินดีจบเรื่องนี้แต่โดยดี!”
“ส่วนของใช้ชื่อกิจการต่อมั้ยราคาถ้าไม่แพงผมก็ยอม แต่ถ้าแพงผมไม่เอายังดีเสียกว่า เอ่อ…สักห้าหมื่นบาท เป็นอย่างไงครับคุณปู่?” เสือน้อยนึกตัวเลขนี้ขึ้นมาได้พอดิบพอดี อีกทั้งยังฉวยโอกาสเอาคืนผู้เฒ่ารายนี้สักเล็กน้อย
หางคิ้วของปู่แสมกระตุกตัวเลขมันคุ้น ๆ อยู่นะ ‘ห้าหมื่นบาท’ แต่ก็กัดฟันด้วยความจำยอม “ตกลงตามนี้!”
“รายละเอียดต่อไปทางทนายความผมจะดำเนินการให้เองครับ ทั้งค่าธรรมเนียมฝั่งผมจะเป็นคนออกทั้งหมด” เสือน้อยยิ้มรับ
“มีอีกอย่างที่อยากขอจริง ๆ จากใจเลยครับ... เป็นไปได้มั้ยที่จะให้นายพีหยุดก่อเรื่อง ไม่แค้นผม ไม่ตามมาเอาเรื่องเอาราว?” เสือน้อยพูดกระแทกเข้ากลางใจคนเป็นแม่อย่างเธอ!
เธอผงะไปเล็กน้อย ก่อนพูดว่า “น้าสัญญาว่าจะให้พีเลิกมาก่อกวนเธอ” ถึงเสือน้อยไม่พูดเธอก็เตรียมที่จะทำอย่างนี้อยู่แล้ว
……
ที่ร้านทองสุข เสือน้อยสั่งลูกน้องให้พิมพ์สัญญากันตรงนั้นเลย หลังจากเซ็นสัญญาต่าง ๆ เสร็จสรรพ ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ทั้งสองฝ่ายก็จากลากันไปด้วยดี
เสือน้อยยอมขาดเรียนไปหนึ่งวัน แต่เขากลับดีใจยิ่งกว่า ก็คือได้ทั้งที่ดินตกเป็นของเขา พร้อมกับทั้งกิจการราคาห้าหมื่นบาท จะมีการส่งมอบกิจการต่อภายในสองวัน
เสือน้อยย่อมต้องให้แม่ช่วยตรวจบัญชีหนี้สินและรายได้ของทางโรงเรียน ส่วนการโอนที่ดินก็ภายในสามวัน และเมื่อส่งมอบเสร็จเสือน้อยก็จะไม่แจ้งความ
ส่วนสำหรับฝ่ายปกครองแล้วนั้น ยิ่งมีเรื่องน้อยมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นผลดีสำหรับบรรดาครูที่อยู่ในห้องนี้!
พอกลับถึงบ้านนายพีก็พบกับความเงียบสงบจากพ่อและแม่ เขาสำนึกผิดจริง ๆ เดินเข้าไปบริเวณโต๊ะกินข้าว แม่สมรก็เอ่ยปากบอกว่า “กินข้าวสิลูก…”
จากนั้นเธอก็บอกว่าไม่ควรก่อเรื่องใด ๆ อีกทั้งอยู่โรงเรียนควรทำตัวดี ๆ
“ส่วนนายเสือน้อยขอให้อย่าไปยุ่มย่ามกับเขาอีก พีพอจะทำให้แม่ได้มั้ยลูก? เธอพูดเสียงอ่อน ใบหน้าอันงดงามดูอ่อนเยาว์ของแม่ ดูสวยแพงและมีระดับเป็นที่เชิดหน้าชูตาสำหรับครอบครัว กลับมีน้ำตาคลอออกมา
“ได้ครับแม่! พีจะพยายามเลิกหาเรื่องมัน” พีกัดฟันพูด ทว่าในใจกลับไม่ยินยอม เขาไม่รู้ว่าครอบครัวเขาต้องจ่ายไปเท่าไหร่ในครั้งนี้ แต่น่าจะหนักกว่าคราวก่อนมากอยู่พอสมควร
ตั้งแต่ต้นจนจบ ‘พาที’ ไม่ได้พูดอะไรเลย…มีแต่ความผิดหวังฉายอยู่ในแววตาของเขา
และแล้วเสือน้อยก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง