ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
รัก,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,เล่าประสบการณ์,ตลก,พล็อตสร้างกระแส,Y2K,ย้อนยุค,พระเอกเก่ง,เจ้าแผนการ,นักธุรกิจ,คนในฝัน,รวยตั้งแต่ยังเด็ก,สร้างตัว,สายเปย์,มาเฟีย,ตัวพ่อ,โรงเรียน,พล็อตไม่ซ้ำใคร,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เสือเจ้าพระยา | ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า (อ่านฟรี!)ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
เสือเจ้าพระยา ภาคที่ 1 | จับเสือมือเปล่า!
- ที่มาของชื่อเรื่อง -
ซ้ายเด่นสง่าเสือเจ้าพระยา ขวาดาราประดับฟ้าเพริศแพร้ว
สองเพชรงามน้ำหนึ่งเมืองบัวแก้ว ผู้ผ่องแผ้วคู่แคว้นแดนประทุม
………
นิยายเรื่องนี้จะเป็น ‘แนวสร้างตัว’ ซึ่งตลอดทั้งเรื่องผสมผสานไปด้วยมุกตลก และสอดแทรกไว้ด้วยสาระ โดยที่ได้อิงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงบนโลก ในภาคนี้จะมุ่งเน้นไปที่การปูพื้นฐานตัวละคร และก็โครงเรื่องเสียเป็นส่วนใหญ่
โดยนิยายจะเล่าย้อนกลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2548 เป็นเรื่องราวของพระเอกที่มีชื่อว่า “เสือน้อย” นับตั้งแต่เจ้าตัวได้เข้ามัธยมต้นในภาคที่ 1 จนกระทั่งเรียนจบมหาลัย ในภาคที่ 5
ผู้เขียนเชื่อว่าท่านนักอ่านนั้น ‘มีลิมิต’ ในการยอมรับนิยายสักเรื่องหนึ่ง ดังนั้นในตอนที่ 24 “คนขี่ควาย” ก็อาจช่วยให้ท่านตัดสินใจง่ายขึ้น แน่นอนหากว่าท่านอ่านเต็มภาคได้ย่อมจะดีที่สุด
“ใครจะไปคิดว่าควายจะเปลี่ยนชีวิตคนได้?” ทองสุขเจ้าควายตัวแสบ ถูกพ่อหยิบยกขึ้นมาเปรียบเปรยให้ลูกชายได้ฉุดคิดถึงสิ่งที่ทำอยู่ และมันได้จุดประกายความคิดของเด็กหนุ่ม ทำให้ชีวิตเขาพลิกผันไปตลอดกาล
♪
บทเพลงที่ใช้เปิดนิยายเรื่องนี้ คือ ‘เพลงบ้าหอบฟาง’ ของวงอัสนี-วสันต์
หอบฟางหอบฟางไปไหน ทำไมถึงต้องหอบฟาง
หอบกันจริงๆจังๆ หอบกันรุงรังหอบฟาง
♪
#พล็อตไม่ซ้ำใคร #นักธุรกิจร้อยล้าน #นักรักตัวพ่อ #มาเฟีย
นิยาย 5 ภาค/เล่ม(จบ) | จำนวน ≈643,202 คำ - [มี E-Book]
[--- อ่านฟรีรวม 150 ตอน! ---]
ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า
(อ่านฟรีทั้งภาค!)
ภาคที่ 2 เสือไว้ลาย
(ฟรีตอนที่ 57-87)
ภาคที่ 3 หน้าเนื้อใจเสือ
(ฟรีตอนที่ 116-131)
ภาคที่ 4 ชาติเสือจับเนื้อกินเอง
(ฟรีตอนที่ 186-207)
ภาคที่ 5 เสือหมอบ
(ฟรีตอนที่ 251-275)
(จบบริบูรณ์)
คำโปรย
เด็กหนุ่มผู้แผ้วถางป่าดงอันรกเรื้อ...
“ใช้สองมือกวาดพงสร้างทางฝัน สองเท้าย่างก้าวพลันสู่จุดหมาย
ขีดเขียนโชคชะตาด้วยใจกายยืนหยัดอย่างผึ่งผายด้วยคุณธรรม”
อุปสรรคนานัปการ…จะหล่อหลอมให้เขา กลายเป็นคนแกร่ง!
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้ ผู้เขียนแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ชื่อตัวละคร เหตุการณ์ และสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่อง อาจปรากฏอยู่ในความเป็นจริง “ทั้งนี้ผู้เขียนมิได้มีเจตนามุ่งทำร้ายให้เกิดความเสื่อมเสียต่อบุคคลวิชาชีพ หรือองค์กรใดทั้งสิ้น” หากแต่ใช้อ้างอิงเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านเท่านั้น…
เนื้อหาในนิยายอาจมีเนื้อเรื่องที่ไม่เหมาะสมปรากฏอยู่บ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง …หากมีความผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ตอนที่ 47 เสือน้อยสัมภาษณ์งาน!
ผ่านไปสองวันหลังจากเกิดเหตุการณ์ในห้องประชุม
เสือน้อยจึงไปร้องขอให้แม่ชบาช่วยมาตรวจสอบบัญชีของทาง “โรงเรียนกวดวิชาทันใจวิทยา” หลังจากแม่รู้เรื่องก็ดึงหูเสือน้อยจนเขาร้องเสียงหลงคล้ายแมวถูกเหยียบหาง
เธอรู้จนกระทั่งว่า เสือน้อยไปตกลงแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ก้อนใหญ่มา แม้จะได้มาอย่างถูกต้องก็ตามแต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะอบรมสั่งสอน เพราะเดี๋ยวนี้เจ้าแผนการไปกันใหญ่
ดีไม่ดีอาจจะใช้เธอให้กลายเป็นหมากก็ได้ใครจะไปรู้? ดังนั้นจึงต้องปรามเสียบ้าง!
หลังจากได้แม่มาตรวจสอบบัญชี ผลก็ปรากฏออกว่าสถานการณ์ย่ำแย่ยิ่งนักขาดทุนมาหลายเดือนติดกันแล้ว ทางเจ้าของใช้เงินส่วนตัวประคับประคอง
แม่หันไปมองเสือน้อยก่อนพูดว่า “ถึงว่าเขายอมยกให้เสียง่าย ๆ ส่วนหนึ่งเพราะบัญชีติดลบเสียขนาดนี้ หนี้คงค้างก็เยอะอยู่ แต่มันก็มีมูลค่าน้อยกว่าที่ดินและตัวตึกนั่นแหละ”
ในส่วนที่ต้องจ่ายเสือน้อยก็ไม่ขี้เหนียวแม้แต่น้อย ทั้งค่าจ้างครูที่ติดค้างไว้ เสือน้อยให้แม่จัดการให้หมดเลยภายในวันเดียว เขาต้องการเคลียร์คนออกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นครูหรือนักเรียน เพื่อที่จะตกแต่งปรับปรุงโรงเรียนให้มันกลับมาทันสมัย...
ครั้งนี้แม่ชบาคิดเงินค่าจ้างอย่างหนัก เธอขูดรีดลูกชายตัวแสบเสียเยอะ ไม่ลดให้แม้แต่บาทเดียว กลับต้องเพิ่มให้เสียด้วยซ้ำ!
……
สำหรับพนักงานเก่า ก็ต้องสัมภาษณ์เก็บพนักงานคนที่มีคุณภาพไว้ เรื่องนี้เสือน้อยก็ปวดหัวมาก ๆ จึงให้พ่อแม่ช่วยคิดวิธีจัดการ เพื่อคุยเจรจากับบุคลากรเก่า
ดังนั้นแม่ชบาจึงได้โทรศัพท์ไปขอให้เพื่อนใหม่อย่าง ท่าน ‘ผอ.นัยนา’ มาให้ช่วยสัมภาษณ์หน่อย
ส่วนเสือน้อยแค่ต้องการตัวอย่างเท่านั้น เขานั่งอยู่ด้านข้างพร้อมแม่และก็ทนายรัก ฟังวิธีการสัมภาษณ์ ของมืออาชีพมากประสบการณ์ เพราะหลัง ๆ เขาก็คงหาคนมาจัดการเอง จะรับครูเข้าทำงานมันก็ต้องเอาคนที่รู้เรื่องครู เรื่องการสอนมาสัมภาษณ์
เสือน้อยนั่งฟังครูนาสัมภาษณ์งานก็ได้เข้าใจมุมมองของการศึกษามากขึ้น ทั้งวุฒิความเชี่ยวชาญ สอนวิชาอะไรได้บ้าง
เขาคิดอยู่ในใจคร่าว ๆ หลังรับครูใหม่ ๆ มาจะจ้างให้ครูนามาช่วยดีกว่า ให้แม่ออกหน้าคุยแทน ให้แม่เป็นเจ้าของโรงเรียนในนาม แต่ในความจริงทั้งชื่อและกรรมสิทธิ์เป็นของเสือน้อยทั้งสิ้น
‘พี่บีม’ พนักงานต้อนรับ ที่พึ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานเพียงแค่หกเจ็ดเดือนดีดับ
กิจการก็มีอันเป็นไปเสียก่อน ใจจริงเขาอยากทำงานที่นี่ต่อ หลังจากสัมภาษณ์แล้วเสือน้อยก็พบว่าเขาพึ่งจบมหาวิทยาลัยใหม่ และเพิ่งเริ่มงานได้ไม่นาน ไฟแรงมีศักยภาพเปี่ยมล้น
เสือน้อยจึงรับปากว่าจะรับเข้าทำงานต่อหลังจากปรับปรุง ทว่าตอนนี้จะยังไม่มีการจ้างงานใด ๆ ทั้งสิ้น
ส่วนนักเรียนที่ซื้อคอร์สเรียนพิเศษ เสือน้อยก็หารเฉลี่ยคืนเงินไปตามจำนวน จากนั้นจึงเริ่มปรับปรุงขนานใหญ่ แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่พ้นลุงถิ่น สถาปนิกนักออกแบบคู่ใจ!
ร้านค้าสะดวกซื้อที่พึ่งเสร็จใหม่เอี่ยม ด้วยความต้องการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลุงถิ่นจึงออกแบบไว้สามชั้นทำจากกระจกใสอย่างดี ซึ่งพอของจริงออกมาก็ไม่ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด
เครื่องใช้ไฟฟ้าจำพวกตู้เย็นอะไรทำนองนี้ พ่อผันได้หาที่สั่งซื้อและเรียกให้มาติดตั้งแล้ว โดยมีพนักงานบริษัทลุงถิ่นคอยกำกับดูแลให้เป็นไปตามแบบ
ความจริงนี่เป็นส่วนที่ลุงถิ่นเสริมให้เป็นพิเศษ เพราะเขาคิดว่าในอนาคตยังต้องพึ่งพาอาศัยกันอีกนาน ดังนั้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ซื้อใจกันไว้ไม่เสียหาย
……
ในวันโอนที่ดิน…
‘ทนายรัก’ ดำเนินการติดต่อโอนที่ดินกับกิจการไปเป็นของเสือน้อย ทั้งเอกสารมากมายเสือน้อยให้ทางทนายเตรียมและดำเนินการ ทั้งปู่แสมและน้าสมรก็มาด้วย
ปู่แสมมีหน้าที่แค่เซ็นเอกสารอย่างเดียว ส่วนค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เสือน้อยออกให้อย่างที่รับปากไว้
หลังจากทำเรื่องเสร็จสรรพเสือน้อยก็บอกคุณปู่ และน้าสมร เรื่องรายงานยอดหนี้ที่ทางโรงเรียนคงค้างไว้ทั้งหมด เขาได้ชำระแล้ว เสือน้อยพูดไปถึงเรื่องรายรับรายจ่ายที่ขาดทุนสะสม
รวมถึงคำมั่นที่ให้กับปู่แสมไว้ว่า ขอให้เก็บพนักงานลูกจ้างเก่าไว้ให้ได้มากที่สุด
ซึ่งเสือน้อยก็รายงานไปตามความเป็นจริง แน่นอนว่าคนที่มีศักยภาพย่อมเก็บไว้ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไล่ออก ส่วนคนที่ไม่มีศักยภาพก็ต้องเชิญออกจริง ๆ
แม่สมรพอได้ยินว่ากิจการขาดทุนยับหลายปี จนเข้าเนื้อพ่อสามีของตัวเอง เธอก็หันไปมองค้อนเขา เพราะเงินที่เข้าเนื้อส่วนใหญ่เป็นเงินของเธอที่ออกให้
ใบหน้าเธอปรากฏพยับเมฆ ที่ดูท่าจะไม่พอใจอย่างมาก และนี่ก็ถือเป็นโชคดีที่ได้ปล่อยไป ไม่เช่นนั้นเธอนี่แหละคือคนที่จะซวย!
ปู่แสมทำสีหน้าไม่ถูก เมื่อโดนแฉจึงขอตัวกลับก่อน โดยอ้างว่าจะไปเยี่ยมเพื่อน
ส่วนสามีน่ะเหรอ เธอคาดหวังอะไรไม่ได้เลย สร้างปัญหาเก่งพอกับลูกชาย ทั้งธุรกิจสีเทา ทั้งการทุจริตเชิงนโยบาย ทำให้เธอหวั่นใจแล้วจริง ๆ ในระยะยาวเธอกลัวกระทบกับธุรกิจของเธอเป็นอย่างมาก
เธอที่พยายามประคับประคองครอบครัวอย่างสุดกำลัง ด้วยเงินที่หามาจากหยาดเหงื่อแรงกายของเธอเอง แต่ดูเหมือนมันจะถูกบั่นทอนลงเรื่อย ๆ
เสือน้อยก็ทำตามที่รับปากไว้ว่าจะไม่เอาเรื่องนายพี ส่วนทางฝั่งสมรก็บอกเตือนลูกชายไม่ให้ไปยุ่มย่ามกับเขาแล้ว
น้าสมรยังถามถึงเรื่องพฤติกรรมของพีที่โรงเรียน!
พอเสือน้อยได้ยินเข้าก็ชะงัก “คุณน้าอยากฟังความจริง หรือเอาแบบปลอม ๆ ปลอบใจคนเป็นแม่ดีล่ะครับ” เสือน้อยยิ้มแห้ง ๆ ตอบไปทั้งอย่างงั้น
“แน่นอนว่าต้องอยากฟังความจริง!” เธอตอบด้วยความมั่นใจมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่มีอะไรที่จะเสียอีกแล้ว
เสือน้อยก็ได้รวบรวมความคิด จัดลำดับความชั่วของไอ้ทรพีอยู่พักใหญ่ ก่อนบอกกล่าวน้าสมรไปตามตรง
ทั้งเรื่องได้ผู้หญิงแล้วทิ้ง ทั้งให้เพื่อนมาจีบแย่งแฟนเสือน้อยก็ไม่ลืมเล่า
ตอนปิดเทอมใหญ่คราวก่อน ควงผู้หญิงอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ฟาดเรียบด้วยหน้าตาดี บวกกับความเป็นนักกีฬา ฯลฯ
เสือน้อยพูดน้ำไหลไฟดับ ส่วนถ้าอยากยืนยันความจริง ๆ ก็มีทั้งชื่อและก็เบอร์โทรศัพท์ พาตัวเป็น ๆ มาให้พบก็ยังได้ เขาบรรยายสารพัดความชั่วของลูกชายเธอเกือบชั่วโมงเห็นจะได้
ตอนแรกเธอเตรียมใจไว้พอสมควร แต่พอได้ฟังสารพัดความเลวตลอดสองปีที่ผ่าน
ซึ่งออกมาจากปากเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ก็ทำเธออึ้งอยู่เหมือนกัน หลังจากนั้นเธอก็นั่งทำใจสักพักระหว่างรอคิวจ่ายค่าดำเนินการต่าง ๆ
จากนั้นทนายก็เข้ามาแจ้งบอกว่าเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว ทว่าสมรขอดึงตัวทนายรักไว้ก่อน เห็นเธอบอกว่า “มีเรื่องติดขัดข้อกฎหมายในการทำธุรกิจอยู่เหมือนกัน จึงขอตัวไว้ปรึกษาก่อน”
ส่วนเสือน้อยที่โดดเรียนมาก็แสนสุขใจ ไม่รีรอโทรเรียกลุงถิ่น ที่นัดล่วงหน้าไว้ตั้งแต่วันก่อนมาหาทันที หลังจากพูดจาปราศรัยกันตามมารยาท
เขาก็ให้โจทย์ลุงถิ่นไปว่าต้องการแบบทันสมัยดูไม่หรูเกินไป บรรยากาศน่าเรียน เพิ่มห้องเรียนได้ก็ดี หรือไม่ก็สร้างเพิ่มอีกชั้น และให้ลุงสินช่วยคำนวณแรงรับน้ำหนัก หลังจากโยนงานเสร็จ เสือน้อยก็ขอตัวไปทำกิจกรรมมากมาย
ถิ่นก็ได้เดินเข้าไปตรวจดูในอาคารพร้อมลูกน้อง ความจริงดูจากแบบมันก็ไม่มีอะไรมาก เพราะทางเจ้าเก่าทำไว้ดีแล้วทั้งแบบตึกและฐานราก
แต่ทว่าปัญหาคือการใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าตามที่เจ้าเสือน้อยมันต้องการ เขาเดินสำรวจรอบด้าน มองไปหน้าตึก ดูยังไงก็ทรุดโทรมเหลือหลาย สีเก่าซีดหลุดร่วงเป็นหย่อม ๆ คงต้องเริ่มจากปรับปรุงด้านหน้าให้เด่นสะดุดตาเป็นที่น่าสนใจ
หลังจากได้พิมพ์เขียว เขาก็เข้าบริษัทเรียกประชุมทันที งานนี้เสือน้อยต้องการได้ข้อสรุปด่วนอีกทั้งยังต้องประสานงานกับวิศวกรด้วยในกรณีที่จำเป็น...
……
ตอนบ่าย ๆ เสือน้อยมีสัมภาษณ์งาน หลังจากที่ให้แม่ประกาศรับสมัครผู้จัดการร้านสะดวกซื้อ
เสือน้อยก็กลับมานั่งในร้านทองสุข พนักงานที่นัดสัมภาษณ์ไว้มีสี่คนประวัติการทำงานเสือน้อยก็ดูมาคร่าว ๆ แล้วเหลือแค่สัมภาษณ์งานจริง
พอคิดถึงเรื่องสัมภาษณ์ทีไร ก็อดย้อนนึกไปถึงตอนสัมภาษณ์เข้าเรียน ม.ต้น ไม่ได้เลย เรื่องมัดถุงข้าวแกง เสือน้อยบ่นกระปอดกระแปดกับตัวเอง
จากนั้นเขาก็เริ่มให้พี่ฉายพนักงานด้านล่าง เชิญเข้ามาทีละคน…
เขามีประสบการณ์ของการสัมภาษณ์เป็นกิจจะลักษณะ ก็เมื่อวานก่อนที่แม่เชิญ ผอ.นา มาช่วยสัมภาษณ์ เสือน้อยยังแอบลอกข้อสอบมาเป็นตัวอย่าง
เด็กหนุ่มวางมาดเล็กน้อย ก่อนที่คนแรกจะเดินเข้ามา “งั้นคุยกับคนแรกเราหยั่งเชิงก่อนดีกว่า!”
เสือน้อยก็พูดขึ้นว่า “ลองแนะนำตัวเองหน่อยครับ บ้านอยู่แถวไหน ทำไมถึงออกงานเก่า ทำไม ทำไม และทำไม?” กลายเป็นคนแรกเขาเองก็ตื่นเต้นเช่นกัน
เหตุผลของคนแรกก็คือ ต้องการย้ายมาทำงานใกล้ ๆ บ้าน ที่ทำงานปัจจุบัน ซึ่งเขาเป็นรับตำแหน่งผู้จัดการสาขา มันอยู่ไกลจากบ้านเดินทางไม่สะดวก ส่วนค่าจ้างก็ตามตกลงแต่เขาก็บอกตัวเลขในใจไว้ ซึ่งเสือน้อยก็รับได้
“งั้นเดี๋ยวจะโทรไปแจ้งผลครับ” เสือน้อยส่งแขกอย่างมีมารยาท
คนที่สองก็ถามแนวเดิม ๆ แต่คนนี้กลับเป็นพนักงาน อยากจะเลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการผ่านงานนี้ เสือน้อยก็ยิ้มเจื่อน เขาบ่นในใจ “กูหาผู้จัดการเด้อ!”
ก่อนหยั่งเชิงว่า “แล้วถ้าผมจ้างเป็นพนักงานทั่วไปจะทำไหม และถ้าทำต้องการเพื่อนร่วมงานกี่คน…”
เสือน้อยฟังคำตอบคนที่สองก็ค่อนข้างพึงพอใจ
ดูเหมือนแกเตรียมเป็นผู้จัดการเต็มที สืบเรื่องเกี่ยวกับการเป็นผู้จัดการมาเยอะ แต่ทว่ารู้เยอะกับปฏิบัติจริงมันคนละแบบ เสือน้อยต้องการจ้างเขาในฐานะพนักงานทั่วไปเท่านั้น แต่ก็เหมือนเดิม “เดี๋ยวจะโทรไปแจ้งผลครับ!”
ส่วนคนที่สามอาชีพเก่าเป็นผู้จัดการมาก่อน แต่ตอนนี้เป็นคนจัดสต๊อกของ มีหน้าที่ดูแลคลังสินค้าและกระจายสินค้าให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ชั่วโมงบินค่อนข้างสูง ดูเป็นงานเป็นการ แถมเป็นผู้หญิง…หนึ่งในสี่ที่มาสัมภาษณ์
เสือน้อยใช้เวลาคุยเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานของเธอนานสุด ที่เธออยากทำงานที่นี่เหตุผลเดียวกันคือใกล้บ้าน แค่นั้นเลยจริง ๆ เพราะร้านอยู่ห่างจากบ้านเธอไม่ไกลขี่จักรยานก็ถึง กลับคนนี้เสือน้อยพูดแตกต่างออกไป “น่าจะเป็นข่าวดีครับ รอฟังผล”
ส่วนคนที่สี่ชั่วโมงบินต่ำสุด และเป็นนักศึกษาจบใหม่แต่ต้องการงาน เรียกค่าจ้างพอตัว อยากไต่เต้าเป็นผู้จัดการเลย เพราะเชื่อว่าวุฒิการศึกษาตัวเองถึง แม้จะไม่มีประสบการณ์เลย เสือน้อยย่อมไม่คิดจะจ้างเป็นผู้จัดการแต่พนักงานทั่วไปก็พอได้อยู่!
ธุรกิจใหม่ ๆ จะเริ่มปรากฏออกมาให้เห็นอีกเรื่อย ๆ ครับ : ) สำหรับใครที่ชื่นชอบแนวนี้อาจจะถูกจริตท่าน!