ความลับของเขาซุกอยู่ในบ้านคุณยายโฮมสเตย์ อัมพวา

เขียนฝันในม่านฝน - บทที่ 1 ความลับของเซเลบบริตี้ โดย เฟื่องนคร @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เขียนฝันในม่านฝน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

เขียนฝันในม่านฝน โดย เฟื่องนคร @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ความลับของเขาซุกอยู่ในบ้านคุณยายโฮมสเตย์ อัมพวา

ผู้แต่ง

เฟื่องนคร

เรื่องย่อ

เพราะโพรเจกต์นิยายซีรีส์ Secret of Celebrity หรือ ‘ความลับของเซเลบบริตี้’ ทำให้ นิชภา นักเขียนนิยายรักพาฝัน จำต้องตกปากรับคำบรรณาธิการคู่บุญเขียนนิยายแก้ต่างให้กับ เวย์ ณัฐนนท์ พระเอกหนุ่มผู้เจอมรสุมข่าวฉาวกับนักแสดงหญิงในวงการ แต่คล้ายกามเทพจะเล่นกลกับทั้งคู่ เมื่อโฮมสเตย์ที่นิชภาเดินทางไปพักผ่อน ณ อัมพวา บังเอิญเป็นบ้านเกิดของณัฐนนท์ การปลอมตัวเป็นสาวเปิ่นเพื่อล้วงลึกข้อมูลของเขาจึงเกิดขึ้น

ท่ามกลางบรรยากาศฝนพรำน้ำชุ่มและวิถีชีวิตอันอบอุ่นเรียบง่ายอัมพวา

เขียนฝันในม่านฝน นวนิยายรักหรรษาเรื่องล่าสุด จากปลายปากกาของ ‘เฟื่องนคร’ หรือ ‘จุฬามณี’  ผู้เขียน ชิงชัง สุดแค้นแสนรัก กรงกรรม ทุ่งเสน่หา วาสนารัก ฯลฯ

สารบัญ

เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 1 ความลับของเซเลบบริตี้,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 2 เวย์ ณัฐนนท์ ดลสุข,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 3 นิชภา ภัทรสุขสวัสดิ์,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 4 บ้านคุณยายโฮมสเตย์ ณ อัมพวา,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 5 เริ่มทำความรู้จักกัน.....,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 6 เรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจก่อ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 7 เธอชื่อ 'นิชา' แล้วกัน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 8 คนเราต้องมีความคิดที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีตามเลขอายุของตน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 9 บังเอิญจังเลยเนอะ แบบนี้เรียกว่าพรหมลิขิตได้ไหม,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 10 ปลอมตัว...,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 11 เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับนักเขียน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 12 เป็นแฟนกับนักเขียน ได้ไหมล่ะครับ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 13 เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับชญานุช,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 14 หัวไม่ใช้เส้นขนาน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 15 ตราไว้ที่อัมพวา,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 16 ความลับ...ไม่มีในโลก,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 17 ผิดที่ริอ่านเล่นละครตบตาดาราใหญ่,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 18 ทุกชีวิตมีความหลังความลับ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 19 พระเอกต้องหน้าตาดี นิสัยดี และก็ต้องเป็นคนดีด้วย,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 20 คนที่มวลชนไม่สนใจ นักข่าวก็ไม่สนใจ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 21 มันเป็น 'ความลับ' อันยิ่งใหญ่ของเขา,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 22 ฝากรักไว้ที่อัมพวา,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 23 สิ้นแสงดาวดุเหว่าเร่าร้อง จากสุมทุมลุ่มน้ำแม่กลอง,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 24 ข่าว ฉาว,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 25 นักเขียนไส้แห้ง,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 26 โลกกลม,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 27 เป็นเรื่องบังเอิญ หรือว่า เป็นลิขิตจากพระพรหม,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 28 ฉันจะเอาตัวเข้าแลกเพื่อช่วยเธอ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 29 ไม่ใช่มืออาชีพ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 30 ผู้ชายเวลาที่มีความรัก เขาก็พร้อมที่จะให้สิ่งล้ำค่ากับคนที่เขารัก,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 31 หัวใจของเขานี้ มันร่ำร้องบอกว่า,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 32 บุกถึงบ้าน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 33 พรีเซนเตอร์,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 34 ดอกไม้....แทนความรู้สึก,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 35 ของขวัญวันเกิด,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 36 เพื่อนคู่คิด,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 37 เป็นตาอีกข้างของผม เป็นมือซ้ายของผม เป็นคนคนเดียวกัน ดูแลกันนะครับ (ตอนจบ)ผ,เขียนฝันในม่านฝน-บทส่งท้าย ตอนพิเศษ

เนื้อหา

บทที่ 1 ความลับของเซเลบบริตี้

“น้องนิชจ๊ะ ถึงไหนแล้วเอ่ย” 

“ใกล้ถึงแล้วค่ะพี่พลอย นิชอยู่บนรถไฟฟ้าแล้ว รอหน่อยนะคะ ขอโทษด้วยค่ะ ที่ทำให้พี่พลอยรอนานเลย” 

“ไม่นานหรอกจ้ะ พี่เพิ่งมาถึงเหมือนกัน โอเคนะ พี่รออยู่ ลงรถไฟฟ้าแล้วโทร.หาพี่อีกทีก็ได้จ้ะ” 

พลอยพธู วางโทรศัพท์แล้วก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ 

‘ไม่นานหรอกจ้ะ เพิ่งมาถึงเหมือนกัน’ หาใช่ความจริง เพราะความจริง พลอยพธูมาถึงก่อนเวลานัดหมายครึ่งชั่วโมง และขณะนี้เข็มนาฬิกาก็เลยเวลานัดมา 45 นาทีเข้าไปแล้ว ตบๆ รวมๆ เวลาที่นั่งรอ   นิชภาอยู่ก็คือ 1 ชั่วโมงกับอีก 15 นาที และพลอยพธูก็มั่นใจว่า ตนเองอาจจะต้องนั่งรอนิชภา อดีต ‘นักเขียนวัยทีน’ ตัวทำเงินของสำนักพิมพ์พลอยบุ๊คส์ ที่เธอเป็นทั้งเจ้าของและบรรณาธิการอำนวยการ อีกไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงแน่ๆ

 เพราะคำว่า ‘อยู่บนรถไฟฟ้าแล้ว’ อันที่จริงนิชภาอาจจะอยู่บนรถแท็กซี่ หรือ ดีไม่ดี อาจจะยังไม่ได้ออกจากบ้าน แต่ครั้นจะซักไซ้เอาความจริง ก็เกรงว่าจะเสียน้ำใจกัน เพราะก่อนนิชภาจะโด่งดังเป็นพลุแตก มีแฟนคลับอย่างล้นหลาม มียอดพิมพ์เริ่มต้นที่ 5,000 เล่มในปัจจุบันนี้ พลอยพธูไม่ได้ทำสัญญาผูกมัดนามปากกาของนิชภาไว้เหมือนสำนักพิมพ์บางแห่ง ที่สุ่มเสี่ยงหยิบงานเขียนที่ละเลงกันบนโลกไซเบอร์มาพิมพ์รวมเล่ม เพราะเห็นว่ามีคนตามอ่านเป็นจำนวนมาก และเพื่อไม่ให้นักเขียนที่นำมาปลุกปั้น เอางานไปพิมพ์กับที่อื่นหลังจากที่มีชื่อเสียงโด่งดังมีแฟนคลับเหนียวแน่นแล้ว บางสำนักพิมพ์เจรจาขอเซ็นสัญญามัดนามปากกาก่อนที่จะพิมพ์งานเล่มแรกให้ หรือบางแห่ง ผูกมัดทั้งนามปากกา และมัดตัวนักเขียนไว้ตามจำนวนปี พ่วงด้วยผลประโยชน์งามๆ แต่เธอไม่ทำอย่างนั้น เพราะอยากให้นักเขียนมีอิสระทางอารมณ์ แต่ปัญหาที่พบหลังจากที่นักเขียนที่ร่วมงานกันมาถึง 6 ปี หลังนามปากกา ‘นิชภา’ โด่งดังแล้ว นิสัยของเจ้าหล่อนก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป

ข้อแรกคือ นัดไม่เป็นนัด ทั้งนัดเจอพบกันแบบนี้ นิชภาก็จะมาช้าหรือไม่ก็พอใกล้วันนัด เธออาจจะติดธุระขอเลื่อนนัด ออกไปอย่างไม่มีกำหนด และถ้านัดครั้งไหน นิชภามาถึงก่อน เธอก็จะโทร.ตามจิกแล้วก็อ้างว่าจะต้องมีไปธุระต่ออีกหลายที่

หรือนัดส่งงาน หากนิชภาส่งงานไม่ทันตามที่ได้นัดหมายไว้ เธอก็จะหาเหตุผลร้อยแปดพันประการมาอ้างด้วยน้ำเสียงสดชื่นแจ่มใส หาได้สำนึกกับความผิดพลาดของตน ที่ทำให้คนอื่นต้องรอ แต่ในขณะเดียวกัน หลังจากนิชภาส่งงานแล้ว หนังสือจะต้องออกเป็นเล่มภายในหนึ่งเดือน

ใช่แล้ว ภายในหนึ่งเดือน ไม่อย่างนั้นเธอจะมีนอยด์ โทร.ไปไม่รับสาย หรือไม่ ก็โพสต์ข้อความในเว็บไซต์รวมถึงหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจของเธอ เหน็บแนมสำนักพิมพ์ ประกาศให้แฟนคลับของเธอได้รับรู้ และแฟนคลับก็จะคอมเมนต์ยุยงให้เธอเปลี่ยนที่พิมพ์งานบ้างละ หรือไม่ก็ให้เธอตั้งสำนักพิมพ์เองไปซะเลย 

ลำดับต่อมา เรื่องของผลประโยชน์ จากที่เคย ‘ให้เท่าไหร่ เมื่อไหร่ก็ได้ หนูก็ยอมหมด ขอให้ได้พิมพ์งาน’ เปลี่ยนเป็นว่า สำนักพิมพ์จะต้องโอนค่าลิขสิทธิ์เป็นเงินก้อนใหญ่ก้อนเดียวหลังหนังสือวางแผงในทันที และถ้าหากมีการพิมพ์ซ้ำ เธอก็ขอให้โอนอย่างเร่งด่วนเช่นกัน แล้วเธอก็จะอ้างหน้ายิ้มๆ ว่าสำนักพิมพ์โน้นปฏิบัติกับนักเขียนคนนั้นอย่างนี้ สำนักพิมพ์แห่งนี้ ปฏิบัติกับนักเขียนคนโน้นอย่างนั้น สุดท้าย นิชภาก็จะเป็นคนได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ 

ใจจริงพลอยพธูไม่อยากจะอดทน อดกลั้น งอนง้อ เอาอกเอาใจสารพัดกับ ‘นิชภา’ ที่ใช้ชื่อจริงเป็นนามปากกา แต่งานที่สตาร์ต 5,000 เล่ม จะขายเกือบหมดภายในเดือนสองเดือนจนสายส่งต้องสั่งให้พิมพ์ซ้ำไม่ต่ำกว่า 3,000 เล่มภายในสี่หรือห้าเดือนถัดมา และงานเก่าๆ ก็ยังพิมพ์ซ้ำครั้งละ 1,000 เล่ม อยู่เรื่อยๆ ทั้งที่จริงๆ แล้วพลอยพธูก็ไม่ได้ถูกโฉลกต้องอารมณ์กับงานของนิชภานักหรอก

แต่เมื่อในปัจจุบันคนอ่านหรือลูกค้า เป็นตัวตัดสินผลงานของนักเขียนมากกว่าบรรณาธิการที่มีกฎเกณฑ์ สูตรเฉพาะ บรรทัดฐาน ของนิยายดีๆ บนหิ้งหนังสือ พลอยพธูก็จำต้อง เอาหูไปนา เอาตาไปไร่      ทำเป็นหูทวนลมเมื่อมี...ข่าวเมาท์กันว่า เธอเป็นประเภท มือถือสากปากถือศีล

เพราะก่อนหน้า พลอยพธูก็เคยเป็นกรรมการตัดสินงานรางวัลอันมีคุณค่ามานักต่อนัก แต่งานในสำนักพิมพ์ของตัวเอง กลับเป็นงานที่เพื่อนพ้องในวงการหนังสือให้สมญานามกันว่า ‘งานลูกกวาด’

งานลูกกวาด หรืองานธรรมดาๆ ไร้พล็อตแข็ง ไร้แก่นสารที่จะบอกกล่าวให้นักอ่านเปลี่ยนแปลงอารมณ์ไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ และเรื่องบางเรื่อง ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องอะไรเลย และไม่ควรจะเป็นเรื่องให้คนอ่านติดตามด้วยซ้ำ แถมบางเรื่องก็ยังเน้นไปที่ฉาก make love หรือ have sex ซะมากกว่าบทบรรยายสิ่งแวดล้อมที่มาที่ไปของอารมณ์    วุฒิภาวะของตัวละคร แต่ทว่ากลับขายดิบขายดี และงานของนิชภาในยุคแรกๆ ก็เข้าคอนเซปต์เหล่านั้นทุกประการ 

พลอยพธูถอนหายใจอีกเฮือก พยายามสงบสติอารมณ์โดยการใช้ช้อนตัดเค้กมาละเลียดเข้าปาก พร้อมกับดูดกาแฟเย็นราคาแพงหูฉี่ไปเป็นแก้วที่สอง และก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ โทรศัพท์รุ่นพระเจ้าเหาที่เพียงโทร.ออกรับสายได้อย่างเดียวของพลอยพธูก็ดังขึ้นมา เป็นสายเรียกเข้าจากเบอร์ของ ‘นิชภา’ พลอยพธูเหลือบตามองนาฬิกาที่ผนังร้าน จากที่รอไปก่อนหน้า 1 ชั่วโมงกับ 15 นาที ตอนนี้ถูกขยายเวลาเป็นหนึ่งชั่วโมงครึ่งแล้ว 

“พี่พลอยคะ นิชมาถึงหน้าร้านแล้วค่ะ ลงจากรถไฟฟ้าแล้วนิชก็นั่ง

วินมอเตอร์ไซค์เข้ามา พี่พลอยอยู่ตรงไหนคะ” 

พลอยพธูลุกขึ้นยืน มองไปยังหน้าร้าน เห็นนิชภาสาวสวย

พลอยพธูยอมรับว่านิชภาเป็นนักเขียนวัยยี่สิบต้นๆ ที่ไม่น่าจะยึดอาชีพเป็นนักเขียนสักนิด เพราะว่าหุ่นของเธอสูงโปร่ง น่าจะเกินหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรเสียด้วยซ้ำ ผิวพรรณก็ขาวสะอาดไร้จุดด่างดำ ผมยาวสลวยดุจแพรไหม 

นิชภาน่าไปเป็นนางแบบเสียมากกว่า ส่วนที่จะติอย่างเดียวคือ เธอใส่แว่นสายตา ไม่ยอมใส่คอนแท็กต์เลนส์ และฟันของเธอเคยยื่น    จะเรียกว่าเหยินเลยก็ได้ แต่ว่าปัจจุบันนี้ก็เรียบเสมอกันแล้ว ยิ้มเห็นฟันเรียงเป็นระเบียบ เพียงแต่ว่ายังใส่แว่นตาไร้กรอบ และบางทียังแอบแต่งตัวเชยๆ และเวลาสนทนากัน บางครั้งเธอก็จะดูเหม่อลอย

ไอ้อาการเหม่อลอยนี้ เธอเข้าใจได้ เพราะบางครั้งนักเขียนก็คงตกอยู่ในห้วงของจินตนาการ จึงแยกระหว่างโลกความเป็นจริงกับโลกนิยายไม่ได้ 

“เดินเข้ามาในร้านนะ พี่อยู่ในห้องแอร์น่ะ” ร้านกาแฟร้านเป็นเรือนโบราณหลังคาปั้นหยา ที่ถูกดัดแปลงเป็นร้านกาแฟและเบเกอรี มีพื้นที่พอจะปลูกสวนโดยใช้ไผ่เป็นรั้วบดบังผนังตึกสามชั้นทั้งสามทิศ ถัดมาเป็นต้นลีลาวดี สนามหญ้าเล็กๆ และบ่อเลี้ยงปลาคราฟ และรอบๆ บ่อ มาจนถึงหน้าบ้าน ก็ทำเป็นลานตั้งโต๊ะรับลมธรรมชาติ

เมื่อนิชภาพาร่างสูงบอบบางของตนเข้ามาในร้าน หญิงสาวก็ยิ้มเห็นฟันที่ถอดเหล็กดัดฟันออกแล้ว ฟันของนิชภาจึงเรียงเป็นระเบียบสวยงามผิดเมื่อก่อน ที่ฟันของเธอเป็นปมด้อยบนใบหน้าสวยๆ ของนิชภาเลยทีเดียว 

“สวัสดีค่ะพี่พลอย” เสียงของนิชภาอ่อนหวาน การพนมมือค้อมศีรษะก็เหมือนบรรดานางงามเจนเวทีทั้งหลาย และอากัปกิริยานี้ก็ทำให้ใจที่เดือดปุดๆ ของพลอยพธูซึ่งคอยอยู่ตั้งนานเย็นลงได้อย่างประหลาด

“สวัสดีจ้า มาๆ มานั่งก่อน” 

เมื่อทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หวายหลังจากขยับแว่นตานิชภาก็รีบแก้ตัว เหมือนที่คนส่วนใหญ่นิยม

“รถติดนิดหน่อยค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้พี่พลอยเสียเวลารอตั้งเป็นชั่วโมงๆ” 

“ไม่เป็นไรหรอก” ใบหน้าของพลอยพธูยิ้มๆ ก่อนจะมองไปหาเด็กในร้าน 

“พี่พลอยคะ เมื่อตอนสงกรานต์นิชไปเที่ยวสิงคโปร์กับคุณพ่อคุณแม่มาค่ะ เลยซื้อผ้าพันคอมาฝาก ราคาไม่แพงนะคะ แต่นิชเห็นว่ามันเข้ากับพี่พลอยมากๆ” ว่าแล้วนิชภาก็วางกล่องผ้าพันคอที่พลอยพธูรู้ว่า ไม่ใช่ของถูกๆ วางขายบนแผงข้างทางอย่างแน่นอน และที่สำคัญ นิชภารู้ใจตนเองเหลือเกิน เพราะเธอเป็นคนที่แพ้ ‘สีม่วง’ อย่างแรง อะไรก็ได้ ขอให้เป็นสีม่วง เธอจะต้องถลาเข้าใส่ในทันที แม้ผมที่ซอยสั้นกุดก็เหมือนกัน พอเธอใช้สีม่วงมะฮอกกานีปิดทับผมขาวหรือที่เรียกอย่างหยาบๆ ว่าผมหงอก จนกระทั่งกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวในช่วงสองสามปีมานี้ และเมื่อผมสีม่วงเสื้อผ้าสีม่วง จึงต้องละวางไว้บ้าง ไม่งั้นจะกลายเป็นม่วงทั้งตัว เธอจึงหันมาใส่สีขาวแทนเพราะรู้สึกว่าตัวเองอายุมากขึ้น ควรที่จะวางตัวออกไปทางแนวเอาธรรมะเข้าข่ม แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังชอบสีม่วงอยู่ดี โดยเฉพาะผ้าพันคอจะถูกจะแพงขอให้มีสีม่วงแซมไว้ก่อน

แต่ด้วยมารยาท พลอยพธูแม้จะพอใจยินดีกับของฝากจากต่างแดนแต่พลอยพธูก็ต้องบอกว่า “ไปเที่ยวเรื่อยเลยนะ แล้วก็ซื้อมาฝากเรื่อยเลย พี่เกรงใจน้องนิชจัง” 

“เล็กๆ น้อย ๆ ค่ะพี่พลอย นิชไม่มีพี่ไม่มีน้อง พี่พลอยก็เหมือนพี่สาวของนิช เหมือนคุณแม่คนที่สอง แค่นี้เล็กน้อยจริงๆ ค่ะ” 

พ่อแม่ของนิชภาทำงานอยู่ฝ่ายภาคพื้นบริษัทสายการบินแห่งชาติ จึงสามารถขอตั๋วฟรีและตั๋วราคาพิเศษได้ และเมื่อมีลูกสาวเพียงคนเดียว แถมลูกสาวยังเป็นคนที่มีความสามารถหาเงินใช้เองตั้งแต่เรียนระดับมัธยมปลาย ครอบครัวของนิชภาจึงไม่เดือดร้อน ที่จะพากันไปเที่ยวต่างประเทศอยู่บ่อยๆ

“อุ้ย น้องนิชสั่งขนมกับเครื่องดื่มเลยดีกว่า” เมื่อพนักงานในร้านเดินมาพินอบพิเทาอยู่ด้านข้าง พลอยพธูก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุย 

นาฬิกาที่ผนังสีเทาๆ ดูขลังเข้ากับตัวบ้านโบราณบอกเวลาสิบเอ็ดนาฬิกา อีกหนึ่งชั่วโมงก็จะเป็นเวลาอาหารกลางวันของคนทั่วไป ขณะที่นิชภาหยิบเมนูมาพลิกดู พลอยพธูที่กินอาหารไม่ค่อยเป็นเวลาก็บอกว่า “น้องนิช จะสั่งอาหารหนักๆ เลยก็ได้นะ สั่งมื้อกลางวันไปเลยไหม ทานมาหรือยังคะ” 

นอกจากที่นี่จะเน้นเครื่องดื่ม เค้ก เบเกอรี ก็ยังมีเมนูอาหารจานเดียวจำพวกสปาเกตตี และอาหารไทยขึ้นชื่อที่ชาวต่างชาตินิยมอย่าง  ผัดไทยก็มีห้อยท้ายในเมนูอาหารจานเดียว นิชภาพินิจพิจารณาอยู่นาน พลอยพธูก็ต้องเงยหน้าไปยิ้มให้น้องพนักงานที่ดูท่าจะรอจนอ่อนใจแล้วเหมือนกัน 

แล้วนิชภาก็กระแอมก่อนจะบอกว่า “ขอสลัดผักแล้วกันค่ะ พอดีช่วงนี้ ใกล้ถึงวันเกิดแล้ว นิชอยากงดเนื้อสัตว์” 

‘อยากงดเนื้อสัตว์ แล้วหล่อนนั่งดูเมนูเนื้อสัตว์อยู่ตั้งนานสองนานเนี่ยนะยะ’ พลอยพธูนึกด่าอยู่ในใจ แต่ปากก็ทวนเมนูของนิชภาอย่างเอาใจให้น้องพนักงานอีกครั้ง

“น้องเขาเอาสลัดผัก ไม่มีเนื้อสัตว์นะ ไม่ได้กินเจใช่ไหมคะ แค่มังสวิรัติเนอะ” 

“ค่ะ แค่งดเนื้อสัตว์ค่ะ ก่อนวันเกิดสักเดือนค่ะ แต่ปีนี้อยากเริ่มเร็วกว่ากำหนดหน่อย พี่พลอยไม่เอาอะไรเหรอคะ” 

“ขอเป็นผัดไทยแล้วกัน ร้านนี้ผัดอร่อย ผัดซีอิ๊วก็อร่อยนะ พี่เคยมากินติดใจมาก จะเอาไหม เผื่อสลัดอย่างเดียวไม่พอ สั่งให้เขาเว้นเนื้อสัตว์ได้นะ มีเส้นก๋วยเตี๋ยว มีคะน้า ได้ทั้งโปรตีนและวิตามิน” 

“ไม่ค่ะ พอแล้ว ตอนสายๆ นิชทานที่บ้านมาแล้วค่ะ” 

‘สายๆ ที่บ้าน ก็คือช่วงที่ฉันนั่งรออยู่ใช่ไหมยะ’

“แล้วจะเอาน้ำอะไรจ๊ะ สั่งเลยจ้ะ” 

‘สั่งให้มันเสร็จสิ้นสิยะ น้องเขายืนรอจนโยกขาไปมาแล้วนะ คนอื่นๆ ก็รอพนักงานอยู่ จะเลือกไปถึงไหน’ แม้จะลุ้นให้นิชภาเลือกเครื่องดื่มอย่างเร็วไว แต่ว่าพลอยพธูก็แสร้งช่วยเลือกเมื่อนิชภาเปิดหน้าเมนูเครื่องดื่มแล้วก็นั่งอ่านอย่างตกภวังค์

“น้องเอาออเดอร์อาหารไปสั่งในครัวก่อนก็ได้นะ” พลอยพธูหันไปบอกพนักงาน แต่พอพนักงานจะขยับไปที่เคาน์เตอร์นิชภาก็หลุดปาก สั่งเครื่องดื่มสั้นๆ ว่า “ขอน้ำแร่แช่เย็นแล้วกันค่ะ น้ำแข็งไม่ต้อง” 

 

หลังพนักงานเดินไปที่เคาน์เตอร์ พลอยพธูยกกาแฟเย็นแก้วที่สองขึ้นมาดูดน้ำแข็งที่ละลายออกมา ส่วนนิชภาแสร้งง่วนค้นหาอะไรในกระเป๋า แล้วก็วางกระเป๋าลงไว้ด้านข้างตัวก่อนจะดันกรอบแว่นตาขึ้นเพราะความเคยชิน พลอยพธูจึงต้องถาม “ทำอะไรจ๊ะ” 

“เรียงของค่ะ “ 

พลอยพธูมีคำพูดที่อยากจะพูดเพื่อให้นิชภาปรับปรุงตัวเองกับพฤติกรรมบางอย่าง แต่พลอยพธูก็จำต้องกลืนน้ำลายลงคอ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ‘อีโก้’ สูงทุกคน นิชภาเขียนนิยายจบเรื่องและมีคนอ่านติดตาม จนเรื่องของตนขึ้นท็อปไฟว์ใน ‘เว็บเด็กสร้างบ้าน’ ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.4 อายุ 15 ปี พออายุ 16 ปี สำนักพิมพ์พลอยบุ๊คส์ติดต่อไปขอมารวมเล่ม และขณะที่เรียนระดับชั้นมัธยม นิชภาเขียนงานได้ปีละถึง 3 เรื่อง หลังเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยในคณะพณิชยศาสตร์และการบัญชี เป็นนิสิตในรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐ แม้จะเรียนหนัก นิชภาก็ยังทำงานได้ปีละ 2 เรื่อง และ 4 ปีในรั้วมหาวิทยาลัย นิชภาทำงานได้ทั้งหมด 8 เรื่อง ซึ่งทุกเรื่องสร้างเม็ดเงินให้กับสาวน้อยคนนี้รวมกับผลงานก่อนหน้าถึง 3 ล้านบาท 

เป็นเงิน 3 ล้านบาท ที่เกิดจากค่าลิขสิทธิ์นิยายล้วนๆ ไม่มีมีเงินอัน

เกิดจากทางสถานีโทรทัศน์ซื้อไปผลิตละครแต่อย่างใด

“พี่พลอย มีเรื่องอะไรจะคุยกับนิชหรือคะ” หลังจัดการกับน้ำดื่มที่พนักงานนำมาวางไว้มาก่อนอาหารจานหลักจะมา นิชภาก็ถามถึงธุระสำคัญที่ทำให้พลอยพธูต้องนัดเธอออกมาพบในทันที

“พี่ว่านิช รอจัดการกับสลัดผักก่อนดีกว่าจ้ะ”

“คุยเลยก็ได้ค่ะ นิชไม่ชอบคุยงานตอนที่กำลังเคี้ยวอาหารค่ะ” 

เหมือนถูกตีแสกหน้า เหมือนกับว่าพลอยพธู ไม่รู้จักมารยาทบนโต๊ะอาหาร พลอยพธูลอบสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนจะกระแอมเรียกความมั่นใจ 

“เอ่อ นิชเห็นละครทางช่อง 13 ไหม ที่เป็นซีรีส์ต่อๆ กัน ที่เขาเอานักเขียน มาเขียนงานชุด ช่วยกันเขียน ช่วยๆ กันคิดพล็อต” 

“นิชก็ทำอยู่นี่คะ” 

ใช่ นิชภาทำอยู่ แต่ซีรีส์ของนิชภาเป็นเรื่องราวของเจ้าพ่อทางประเทศในแถบยุโรป เจอกับสาวไทยที่ไปเรียนต่อหรือพลัดหลงไปที่นั่นด้วยเหตุผลอันมหัศจรรย์ล้ำลึก จากนั้นเจ้าถิ่นกับสาวเจ้าก็มีเหตุต้องมา ปะ ฉะ ดะ กัน แล้วเจ้าพ่อก็หลงเสน่ห์สาวไทยในที่สุด สุดท้ายก็จบลงแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

“คือโพรเจกต์ของพี่เป็นอย่างนี้นะ” พลอยพธูยืดตัวตรงเพื่อให้  นิชภาเห็นว่าเรื่องนี้เธอซีเรียส เอาจริงและให้ความสำคัญกับมันมาก 

“เอิ่ม พี่ต้องบอกก่อนว่า หนังสือนิยายในเครือของพี่น่ะมีหลากหลายแนวมาก แยกเป็น พลอยบุ๊คส์ พลัส พลอยบุ๊คส์ สแควร์ พลอยบุ๊คส์ คลาสสิค ของน้องนิชสังกัดอยู่ที่พลอยบุ๊คส์ สแควร์ ตอนนี้น้องนิชเป็นตัวแม่ของที่นั่น มีแฟนคลับมากมาย ยอดพิมพ์ต่อเรื่อง แม้จะทยอยพิมพ์ ก็หมื่นอัปทุกเรื่อง พอพี่คิดโพรเจกต์นี้ได้ พี่ก็คิดถึงน้องนิชก่อนเลย คิดถึงเป็นคนแรกเลยนะคะ” 

“ทำไมล่ะคะ” 

“อ้าว พี่อยากให้นิชทำโพรเจกต์นี้เพราะว่า นอกจากจะเป็น

โพรเจกต์ที่น่าสนใจแล้ว มันยังเป็นการรวมตัวกันของนักเขียนหลาก สไตล์ด้วย”

“มีใครบ้างคะ”

“ก็มี มณเฑียร”

แค่เอ่ยชื่อ ‘มณเฑียร’ นักเขียนหนุ่มใหญ่ มาดสุขุมลุ่มลึก เขียนงานบู๊ถึงลูกถึงคน สังกัด ‘พลอยบุ๊คส์ คลาสสิค’ ที่มีแฟนคลับติดตามผลงานกันมาอย่างยาวนาน ดวงตาของนิชภาก็ลุกวาว ยืดตัวตรง ตั้งใจฟังพลอยพธูขึ้นมาทันที และพลอยพธูก็สังเกตเห็นว่า เอามณเฑียรมาล่อแล้วมันได้ผล พลอยพธูจึงต้องรีบให้ข้อมูลเพื่อเปิดใจของนิชภาต่อและต้องปิดการขายฝันในครั้งนี้ให้สำเร็จ 

“มณเฑียร พี่ยังไม่ได้ชวนเขา แต่คิดว่า จะต้องดึงเขามารวมกลุ่มด้วยนะ มันเป็นอย่างนี้ มณเฑียร เขาดังในแนวบู๊ แล้วพี่ก็อยากให้เขาลองพลิกมาเขียนแนวหวานๆ สืบสวน ค้นหาความจริงแบบหวานๆ ผสมรสของดรามานิดๆ ดูบ้างนะ คือให้บู๊ล้างผลาญ มันน้อยลง แต่พี่ยังไม่ได้คุยกับเขานะ แต่พี่คิดว่า เขาไม่ปฏิเสธพี่แน่นอน”

“ค่ะ” 

“นอกจากมณเฑียร ก็ยังมีตัวแม่ ไม่ใช่สิ ก็ยังมีพี่ใหญ่ของพลอยบุ๊คส์ พลัส อีกคน” 

เอ่ยแค่นี้ นิชภาก็รู้แล้วว่าพลอยพธูหมายถึงใคร นิชภาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ในทันที แถมทำเหมือนจะหมดความสนใจกับเรื่องราวที่พลอยพธูจะเสนอต่อ และที่พลอยพธูกลัวที่สุด กลัวว่านิชภาก็แสร้งหยิบกระเป๋ามาจัดเรียงของข้างในอีก

“นี่นะน้องนิช พี่กระซิบอะไรหน่อยนะ คือตอนนี้เนี่ย พลอยบุ๊คส์ พลัส ยอดขายไม่ดีเท่าไหร่หรอก คนเขาไม่ค่อยสนใจงานที่ข้อมูลหนักๆ พล็อตเรื่องซับซ้อนกัน แต่ก็ยังขายได้นะ แต่ขายไม่ดีเท่าที่ควร สู้ของพลอยบุ๊คส์ สแควร์ ไม่ได้ ถ้าไม่ได้น้องนิชมาเป็นแม่เหล็กมาเป็นตัวแม่   พี่ก็อาจจะปิดบางหัวเหมือนกัน แต่ว่าก่อนหน้า เราเริ่มต้นจากตรงนั้น 

เราก็ไม่อยากยุบให้คนอื่นเอาไปซุบซิบนินทา” 

อันที่จริงพลอยบุ๊คส์ พลัส แม้จะยอดขายไม่ดีเท่า พลอยบุ๊คส์ สแควร์ แต่ก็ใช่ว่าจะขาดทุน ชักเนื้อ งานของ พลอยบุ๊คส์ พลัส บริษัทละครจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะมีตัวแม่ คือ ‘รัศมี ทอแสงทอง’ หรือพี่รัศมิ์ของน้องๆ นักเขียนในวงการน้ำหมึก เจ้าของนามปากกา ‘จุฬารัศมิ์’ เป็นตัวยืนโรง งานของรัศมี พล็อตจะซับซ้อนเน้นข้อมูลและที่สำคัญเนื้อในที่นักเขียนรุ่นๆ เดียวกันไม่มี ก็คือฉากโรมานซ์อย่างถึงลูกถึงคน ซึ่งค่ายละครพอซื้อไปทำบทโทรทัศน์ ก็ต้องตัดส่วนวาบหวิวอารมณ์ออกไปบ้าง และเพื่อไม่ให้งานถูกตัดฉากอย่างว่าเมื่อนำไปสร้างละครกับปัจจุบัน รัศมีเริ่มเอือมระอากับฉากแบบนั้น เจ้าหล่อนจึงเพลาๆ มือลง เพราะอยากให้นิยายของตนขึ้นหิ้งแทนการขายดี แต่ก็ใช่ว่ารัศมีอยากให้รุ่นน้องมาเบียดนั่งบัลลังก์ มาบดบังรัศมีที่เคยเจิดจรัสของตน 

ดังนั้น ทุกครั้งที่ละครที่มีชื่อของตนเป็นผู้ประพันธ์ออกอากาศ ในเว็บไซต์ส่วนตัวรัศมีก็จะยืดอยู่พักใหญ่ รัศมีจะโพสต์ภาพนิ่งที่ไปขอจากผู้จัดละครมาได้ ให้คนอื่นๆ ได้ประจักษ์ว่า ข้านี้ก็หนึ่งในตองอู

“เหรอคะ” 

“คือ งานที่เขาซื้อไปสร้างละคร คือนิยายมันตาย แล้วเราก็รู้ๆ กันว่า พอดูละครแล้วก็เหมือนรู้เรื่องในหนังสือตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว แถมบางค่ายเอาไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขบทผิดเพี้ยนไปจากบทประพันธ์ซะอีก บางเรื่องก็เพี้ยนซะจนคนแอนตี้บทประพันธ์ไปเลย บางเรื่องก็เขียนดีเว่อร์เกินบทประพันธ์ก็มี แล้วพอมาอ่านนิยายทีหลังก็บ่นกันในเว็บดันทิป ปัญหาโลกแตกมากๆ” 

ว่าแล้วพลอยพธูก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ 

“สรุปว่างานนี้ จะมีพี่รัศมีร่วมอยู่ด้วย” 

“ก็ต้องช่วยๆ กันน่ะ แต่พี่ก็ยังไม่ได้บอกรัศมีเขาหรอกนะ ต้องมาถามความสมัครใจจากน้องนิชก่อนคนอื่นๆ ทั้งมณเฑียรและรัศมี ถ้าน้องนิชไม่อยากร่วมงานด้วยพี่ก็จะตัดทิ้งไป เพราะพี่อยากได้น้องนิชมาทำ

โพรเจกต์นี้มั๊กมาก” 

“แต่เท่าที่ฟังดู เหมือนพี่จะบอกว่า งานชุดนี้มันต้องให้นักเขียนปรับตัวจากอะไรเดิมๆ ที่ตัวเองเคยทำ อย่างพี่มณเฑียร” 

“ก็มีบ้างจ้ะ คืออย่างนี้นะน้องนิช แบบงานของน้องนิช มันก็มีกลุ่มวัยรุ่นอ่านใช่ไหม แล้วน้องนิชทำงานมากี่ปีแล้วนะ ตั้งแต่มอห้าใช่ไหม” 

“มอสี่ค่ะ” นิชภาดูจะภาคภูมิใจกับจุดเริ่มต้นของตน

“ใช่ๆ พี่ลืม ถึงตอนนี้ ก็หกปีเจ็ดปีเข้าไปแล้ว แฟนคลับของน้องก็โตตามน้องไปด้วย เขาก็อยากได้อะไรใหม่ๆ จากนิชภาอยู่ด้วย แต่ของน้องมันขายเด็กมัธยมได้อยู่แล้ว คือแบบนี้นะ โพรเจกต์นี้ เป็นโพรเจกต์พิเศษ พี่ไม่ได้อยากให้น้องเปลี่ยนแนวทุกเรื่องและตลอดไปหรอกนะ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว มันอาจจะยากหน่อย แต่พี่ว่า มันท้าทายความสามารถของน้องอยู่นะ” 

“นิชก็คิดเยอะ คิดมาก ทุกเรื่องอยู่แล้วค่ะ” ใบหน้าของนิชภาเริ่มบึ้งตึง

“ใจเย็นๆ ฟังพี่อธิบายก่อน คือน้องนิชต้องเข้าใจระดับของหนังสือหน่อยนะ” 

“เข้าใจดีค่ะ” 

“นั่นแหละ โพรเจกต์พิเศษ คือมันต้องพิเศษจริงๆ ไง นิชภา มณเฑียร จุฬารัศมิ์ แล้วก็ เด่น ดวงดี” 

หลังพลอยพธูเอ่ยถึงนามปากกาของ ‘เด่นดวง ธนบดี’ ดวงตาของ นิชภาก็เป็นประกายขึ้นมา เพราะว่าเด่นดวงเป็นคนขี้เล่น เขียนอีโรติกแบบขำๆ ได้ดีมาก เธอเองก็เป็นแฟนคลับของเขาเหมือนกัน เวลาที่เจอกันในงานหนังสือ เธอจะรู้สึกสดชื่นกับเด่นดวงเป็นอย่างมาก แต่ว่ามันก็คนละแบบกับความรู้สึกที่มีให้มณเฑียร 

“ใช่แล้ว งานนี้ มีนักเขียนทั้งหมด สี่คนจ้า ตัวท็อปๆ ของสำนักพิมพ์ทั้งนั้นเลย” 

“แล้วโพรเจกต์นี้ ทำเกี่ยวกับอะไรหรือคะ” 

“โพรเจกต์นี้ จะออกในหัวของ พลอยบุ๊คส์ พลัส ต้องบอกไว้ก่อนนะคะ” ที่บอกเพื่อให้นิชภารู้ว่าเธอต้องปรับแนวทางในการทำงานของเธอให้เข้ากับ พลอยบุ๊คส์ พลัส เพราะที่นี่ จะเป็นนิยายของสาววัยทำงาน ไม่ใช่นิยายของเด็กมัธยมไม่ใช่งานลูกกวาดที่นิชภาถนัด 

“ค่ะ แล้วเป็นโพรเจกต์เกี่ยวกับอะไร” 

“น้องนิช ก็รู้นะว่าพี่พลอยค่อนข้างจะกว้างขวางระดับหนึ่ง วันๆ นอกจากบริหารสำนักพิมพ์ ดูแลบรรณาธิการแต่ละหัวแล้ว พี่ก็ยังมีงานการกุศล งานสังคม จาระไนไม่หวาดไม่ไหว” 

“สรุปมาค่ะ” 

Secret of Celebrity หรือ ความลับของเซเลบบริตี้ ค่ะ