ความลับของเขาซุกอยู่ในบ้านคุณยายโฮมสเตย์ อัมพวา

เขียนฝันในม่านฝน - บทที่ 2 เวย์ ณัฐนนท์ ดลสุข โดย เฟื่องนคร @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เขียนฝันในม่านฝน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

เขียนฝันในม่านฝน โดย เฟื่องนคร @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ความลับของเขาซุกอยู่ในบ้านคุณยายโฮมสเตย์ อัมพวา

ผู้แต่ง

เฟื่องนคร

เรื่องย่อ

เพราะโพรเจกต์นิยายซีรีส์ Secret of Celebrity หรือ ‘ความลับของเซเลบบริตี้’ ทำให้ นิชภา นักเขียนนิยายรักพาฝัน จำต้องตกปากรับคำบรรณาธิการคู่บุญเขียนนิยายแก้ต่างให้กับ เวย์ ณัฐนนท์ พระเอกหนุ่มผู้เจอมรสุมข่าวฉาวกับนักแสดงหญิงในวงการ แต่คล้ายกามเทพจะเล่นกลกับทั้งคู่ เมื่อโฮมสเตย์ที่นิชภาเดินทางไปพักผ่อน ณ อัมพวา บังเอิญเป็นบ้านเกิดของณัฐนนท์ การปลอมตัวเป็นสาวเปิ่นเพื่อล้วงลึกข้อมูลของเขาจึงเกิดขึ้น

ท่ามกลางบรรยากาศฝนพรำน้ำชุ่มและวิถีชีวิตอันอบอุ่นเรียบง่ายอัมพวา

เขียนฝันในม่านฝน นวนิยายรักหรรษาเรื่องล่าสุด จากปลายปากกาของ ‘เฟื่องนคร’ หรือ ‘จุฬามณี’  ผู้เขียน ชิงชัง สุดแค้นแสนรัก กรงกรรม ทุ่งเสน่หา วาสนารัก ฯลฯ

สารบัญ

เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 1 ความลับของเซเลบบริตี้,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 2 เวย์ ณัฐนนท์ ดลสุข,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 3 นิชภา ภัทรสุขสวัสดิ์,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 4 บ้านคุณยายโฮมสเตย์ ณ อัมพวา,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 5 เริ่มทำความรู้จักกัน.....,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 6 เรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจก่อ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 7 เธอชื่อ 'นิชา' แล้วกัน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 8 คนเราต้องมีความคิดที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีตามเลขอายุของตน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 9 บังเอิญจังเลยเนอะ แบบนี้เรียกว่าพรหมลิขิตได้ไหม,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 10 ปลอมตัว...,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 11 เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับนักเขียน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 12 เป็นแฟนกับนักเขียน ได้ไหมล่ะครับ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 13 เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับชญานุช,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 14 หัวไม่ใช้เส้นขนาน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 15 ตราไว้ที่อัมพวา,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 16 ความลับ...ไม่มีในโลก,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 17 ผิดที่ริอ่านเล่นละครตบตาดาราใหญ่,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 18 ทุกชีวิตมีความหลังความลับ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 19 พระเอกต้องหน้าตาดี นิสัยดี และก็ต้องเป็นคนดีด้วย,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 20 คนที่มวลชนไม่สนใจ นักข่าวก็ไม่สนใจ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 21 มันเป็น 'ความลับ' อันยิ่งใหญ่ของเขา,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 22 ฝากรักไว้ที่อัมพวา,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 23 สิ้นแสงดาวดุเหว่าเร่าร้อง จากสุมทุมลุ่มน้ำแม่กลอง,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 24 ข่าว ฉาว,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 25 นักเขียนไส้แห้ง,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 26 โลกกลม,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 27 เป็นเรื่องบังเอิญ หรือว่า เป็นลิขิตจากพระพรหม,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 28 ฉันจะเอาตัวเข้าแลกเพื่อช่วยเธอ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 29 ไม่ใช่มืออาชีพ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 30 ผู้ชายเวลาที่มีความรัก เขาก็พร้อมที่จะให้สิ่งล้ำค่ากับคนที่เขารัก,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 31 หัวใจของเขานี้ มันร่ำร้องบอกว่า,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 32 บุกถึงบ้าน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 33 พรีเซนเตอร์,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 34 ดอกไม้....แทนความรู้สึก,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 35 ของขวัญวันเกิด,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 36 เพื่อนคู่คิด,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 37 เป็นตาอีกข้างของผม เป็นมือซ้ายของผม เป็นคนคนเดียวกัน ดูแลกันนะครับ (ตอนจบ)ผ,เขียนฝันในม่านฝน-บทส่งท้าย ตอนพิเศษ

เนื้อหา

บทที่ 2 เวย์ ณัฐนนท์ ดลสุข

Secret of Celebrity หรือ ความลับของเซเลบบริตี้” ได้ยินบทสรุปเรื่องที่พลอยพธูเรียกมาคุยด้วย นิชภาทำเสียงสูงตาลุกวาวขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

“มันคืออะไรคะ” 

“คือแบบนี้นะน้องนิช พี่พลอยคนนี้ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางใน แวดวงคนดังของฟ้าเมืองไทย ข้อนี้น้องนิชรู้ดีอยู่แล้ว และคนดังแต่ละคนที่พี่ไปเจอ เขาก็โอดครวญให้พี่ฟังว่า อันที่จริงเรื่องของเขาที่สื่อเอาไปเล่น มันไม่ได้เป็นแบบนั้น มันเป็นอีกแบบ คนโน้นก็เล่าเรื่องแบบนี้ให้พี่ฟัง คนนั้นก็เล่าเรื่องแบบนี้ให้พี่รู้ ประหนึ่งว่าพี่จะไปแก้ไขอดีตให้พวกเขาได้ แต่ว่าพอฟังไปฟังมา พี่ก็เลยเกิดไอเดียขึ้นมาว่า ในเมื่อเรื่องที่มันเกิดขึ้นแล้ว มันไม่ใช่เรื่องจริง แล้วทำไมเราไม่เขียนนิยายแก้ต่างเรื่องไม่จริง ให้คนเขารับรู้ล่ะ” 

“แล้วเราจะไปแก้ให้เขาได้อย่างไร เพราะคนเข้าใจผิดกันไปแล้ว และมันก็น่าจะเป็นในวงกว้างเสียด้วย” นิชภายืดตัวตรง เริ่มหมดความสนใจ ทั้งที่ก่อนหน้า เธอเริ่มคล้อยตามไปกับโพรเจกต์พิเศษที่ว่า

แม้โพรเจกต์นี้ จะมีรัศมีร่วมทำงานอยู่ด้วยก็ตาม

“ใช่ บางเรื่องมันเป็นเรื่องในวงกว้าง แต่หนังสือบ้านเราน่ะ มันเป็นวงแคบๆ แต่ไอ้วงแคบนี้นี่แหละ บางทีมันมีพลังประหลาดอยู่เหมือนกัน น้องนิชเคยได้ยินที่ว่าคนไทยน่ะ” เอ่ยถึงตรงนี้แล้วพลอยพธูหันซ้ายหันขวาทำเหมือนมีลับลมคมใน ก่อนเอี้ยวตัวไปหานิชภาแล้วก็กระซิบเบาๆ ประหนึ่งว่าเรื่องที่กำลังจะบอก เป็นความลับสุดยอด “คือ คนไทยมีนิสัยชอบเรื่องซุบซิบๆ ยิ่งซุบซิบยิ่งดัง มันแปลกอย่างนี้นี่เองนะ” 

ได้ยินเหตุผลของพลอยพธูซึ่งเป็นบรรณาธิการผู้คร่ำหวอดในวงการหนังสือมานานแล้ว นิชภาก็พยักหน้าเห็นด้วย แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตามที 

“โพรเจกต์ของเราเหมือนเป็นการซุบซิบๆ แก้ต่างให้พวกเซเลบเหล่านั้นไง พอมีคนพูดถึงเรื่องในอดีตที่ผิดพลาดของเขา คนที่อ่านหนังสือ เขาก็จะบอกว่า นี่เธอๆ ข้อมูลที่ได้มาใหม่จากนิยายเล่มนั้น มันไม่ใช่อย่างนี้นะ หรือในทางกลับกัน นี่เธอๆ ถ้าอยากรู้ความจริงเป็นอย่างไร เธอต้องอ่านนิยายสิ เขาบอกไว้หมดเลยว่าเหตุการณ์มันไม่ได้เป็นอย่างที่เรารับรู้จากสื่อหรอกนะ” 

“แล้วเราจะเชื่อตัวคนมาแก้ข่าวได้หรือคะพี่พลอย” 

“เชื่อได้สิ พี่รู้จักเขาเหล่านี้มานานพอดู พี่เชื่อพวกเขา” 

นิชภาทำหน้าเมื่อยในทันที 

“งานยากเลยนะคะนี่” 

“ไม่ยากหรอกน่า แล้วทุกคนก็พร้อมจะให้ข้อมูลกับเรานะ เพราะก่อนจะมานี่ พี่ได้คุยกับพวกเขามาหมดแล้ว ว่าที่เคยมาเปรยๆ ไว้น่ะ ตอนนี้มีโพรเจกต์นี้นะ เพียงแต่ว่า ต้องรอก่อนว่า นักเขียนที่จะเลือกมาทำน่ะเขาสนใจเรื่องของใคร เขาก็บอกว่าพร้อมจะให้ข้อมูลเพิ่มเติม เห็นไหม พี่น่ะนักประสานงานที่ดีคนหนึ่งเลย แล้วโพรเจกต์ที่พี่คิดไว้ พี่ไม่คิดแล้วปล่อยผ่านนะ พี่เป็นประเภทกัดไม่ปล่อยหรอก เหมือนตอนที่พี่รู้ว่างานของน้องนิชเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในเว็บไซต์ พี่ก็ไม่ปล่อยไป      ใช่ไหม” 

นิชภาถอนหายใจเบาๆ รู้สึกท้อแท้ใจขึ้นมา พอดีกับพนักงานนำสลัดผักที่สั่งไว้มาเสิร์ฟให้ นิชภาจึงถือโอกาสยุติการสนทนาอันยืดยาว โดยการค่อยๆ ละเลียดอาหารจานผักเข้าปากบางได้รูป

ในขณะเดียวกัน พลอยพธูซึ่งเป็นคนกินอะไรรวดเร็ว พอรู้ว่าถ้า ผัดไทยในจานหมดไปเร็ว เธอก็จะต้องมานั่งแกร่วรอนิชภาที่ตีแสกหน้าเธอไปแล้วว่าไม่ชอบพูดในขณะที่เคี้ยวอาหาร พลอยพธูจึงต้องค่อยๆ ละเลียดเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก กระทั่งเห็นว่านิชภาอิ่มแน่แล้ว พลอยพธูจึงงัดไม้ตายไม้สุดท้ายออกมา ก็คือแฟ้มที่วางไว้ข้างตัว 

“อะไรคะ” วางแก้วน้ำลงแล้วนิชภาก็เอ่ยปากถามถึงแฟ้มสีดำที่บรรจุเอกสารไว้อยู่เป็นจำนวนมาก

“แฟ้มลับมากๆ แต่ก่อนที่น้องนิชจะปฏิเสธ พี่อยากให้น้องนิชดูก่อนว่า มีใครในนี้บ้าง เพราะบางคนเรื่องของเขาน่าสนใจมากนะ แล้วบางคนพี่บอกได้เลยว่า มันจี๊ดมากๆ เลย” 

“เหรอคะ” 

“ดูก่อนแล้วกัน เดี๋ยวพี่ขอตัวไปห้องน้ำก่อน อั้นไว้ก่อนแล้ว หรือจะไปพร้อมพี่เลย” 

“พี่พลอยไปก่อนเลยค่ะ “ 

พลอยพธูที่สวมชุดกางเกงขายาวขากว้างผ้าชีฟองสีเนื้อ เข้าชุดกับเสื้อแขกแขนยาวสีเดียวกัน มีผ้าพันคอลายดอกไม้พื้นม่วงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวก็ลุกขึ้น แล้วเดินยักย้ายส่ายสะโพกขยับแขนให้กำไลที่ข้อมือดังกระทบกันขณะที่เดินไปห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังร้าน และพอพลอยพธูลับตาไปแล้ว นิชภาก็เอื้อมมือไปหยิบแฟ้มมาวางตรงหน้า   ด้วยความอยากรู้ว่า มีคนดังหรือที่พลอยพธูให้คำจำกัดความไว้ว่า           ‘เซเลบบริตี้’ คนใดบ้าง ที่เสนอตัวมาให้พลอยพธูช่วยแก้ข่าวที่มันจบ   ไปแล้ว 

 

เสร็จธุระกับพลอยพธู ฝนก็ตกกระหน่ำลงมา แต่ด้วยในกระเป๋าใบใหญ่ที่สะพายมามีร่มแบบพับเข้ากระบอกติดมาด้วย นิชภาจึงไม่นั่งคอยให้ฝนเหือดอยู่ในร้าน เพราะว่าเพื่อนสนิทที่นัดหมายกันไว้โทร.มาว่าขึ้นรถแท็กซี่มาแล้ว นิชภาก็บอกจุดหมายปลายทางก่อนจะหยิบทิชชูในกระเป๋ามาเช็ดน้ำบนร่ม ก่อนพับร่มใส่กระบอกแล้วเก็บลงกระเป๋า แล้วก็ใช้กระดาษทิชชูเนื้อดีในมือเช็ดน้ำที่รองเท้าสาน แล้วกำกระดาษไว้  อย่างนั้น

เพราะนิชภาจะไม่ทิ้งขยะในที่ที่ไม่ใช่ถังขยะ อย่างเด็ดขาด

หญิงสาวเป็นคนสะอาดเรียบร้อย ห้องสมุดของบ้าน บัดนี้กลายเป็นห้องทำงาน นิชภาเก็บกวาดทำความสะอาดเอง และถึงแม้ที่บ้านจะมีฐานะ แต่ว่าพ่อกับแม่ก็ไม่ได้จ้างคนงานมาช่วยทำบ้าน เพราะเคยจ้างมาแล้วมีปัญหามากว่าสะดวกสบาย คนในครอบครัวจึงต้องแบ่งปันกันทำงาน พ่อของนิชภารับผิดชอบเรื่องล้างรถ ดูแลสวนข้างบ้าน กับสนามหญ้าหน้าบ้าน แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ หรือขี้เกียจ ก็จะเรียกบริการพิเศษจากโครงการหมู่บ้านจัดสรร เข้ามาจัดการหญ้ากับกิ่งไม้ 

ส่วนแม่จะดูแลครัว ห้องรับแขก กับเสื้อผ้าอยู่บ้านซึ่งนิชภาจะต้องช่วยซักเป็นบางครั้ง ส่วนชุดนักเรียน ชุดทำงาน ชุดสำคัญๆ ส่งร้านซักรีดที่อยู่หน้าหมู่บ้าน 

การเป็นลูกสาวคนเดียว ทำให้นิชภาค่อนข้างจะมีโลกส่วนตัวสูง 

และแม่ของนิชภาซึ่งเป็นนักอ่านตัวยง ก็ปลูกฝังเรื่องการอ่านหนังสือให้นิชภาตั้งแต่หญิงสาวจำความได้ 

แม่ชอบเล่านิทานโดยเฉพาะนิทานอีสปสั้นๆ ให้นิชภาฟังก่อนนอนวันละหนึ่งเรื่อง จากนั้นแม่ก็จะหาหนังสือภาพประกอบเรื่องมาให้ฝึกอ่าน มาเล่าเรื่องให้นิชภาฟัง โดยบางครั้ง บางเรื่องก็มีพ่อเป็นผู้ช่วย 

เช่นเรื่อง กระต่ายกับเต่า พ่อของนิชภาจะแอบอยู่ข้างเตียงแล้วยื่นแขนที่หัวตุ๊กตาเป็นรูปเต่ากับกระต่ายออกมาทำปากพะงาบๆ ตามเสียงพากย์ของแม่ เสียงหัวเราะก่อนนอนทำให้นิชภาฝันดีเกือบทุกคืน กระทั่งเมื่ออ่านหนังสือได้เองจนคล่อง แม่ก็จะให้นิชภาไปที่ร้านหนังสือด้วยกัน แม่จะให้นิชภาเลือกหนังสือมาครั้งละหนึ่งเล่ม พออ่านจบ แม่ก็จะพาไปเลือกเล่มใหม่มาอีก พอนิชภาอ่านนิทานจนรู้สึกเบื่อหน่ายแล้ว แม่ก็เริ่มให้ลองอ่านวรรณกรรมเยาวชน กระทั่งเมื่ออยู่ชั้นมัธยมต้น นิชภาก็เริ่มหยิบหนังสือนิยายบนชั้นของแม่ไปอ่าน แต่ว่าเรื่องที่แม่อ่าน ค่อนข้างจะหนักหนาสาหัส ในโรงเรียนนิชภามีเพื่อนๆ คอนิยายเหมือนกัน แต่เพื่อนๆ อ่านงานพาฝัน งานโรมานซ์ งานแปลจากต่างประเทศ นิชภาก็ยืมมาอ่านบ้าง 

กระทั่งเมื่อแม่ให้นิชภาดูแลเรื่องเงินค่าใช้จ่ายส่วนตัวเป็นรายสัปดาห์ นิชภาก็เริ่มเก็บเงินซื้อนิยายที่ตัวเองชอบมาอ่านและก็ต้องแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้อ่านด้วย แต่ถ้าเพื่อนคนไหนไม่ถนอมหนังสือ ก็จะไม่ให้ยืมอ่านอย่างเด็ดขาด และนิชภาก็จะไม่ยืมของเพื่อนคนนั้นมาอ่านเช่นกัน 

กระทั่งเรียนเมื่ออยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ ซึ่งเป็นโรงเรียนสตรีล้วน นิชภาก็เริ่มหัดเขียนนิยายโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ต นิยายเรื่องแรกของเธอมีคนล็อกอินเข้ามาตามอ่านกันอย่างมากมาย กระทั่ง บ.ก.พลอยพธู ติดต่อไปเหมือนพร้อมๆ กับสำนักพิมพ์อื่นๆ แต่ว่าสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ พลอยพธูให้ผลประโยชน์ที่มากกว่าที่อื่น หลังปรึกษาพ่อแม่ นิชภาจึงยอมเซ็นสัญญาส่งต้นฉบับไปจัดพิมพ์กระทั่งมีวันนี้ 

วันที่เรียนจบปริญญาตรีทางด้านบัญชี แต่นิชภาก็ไม่คิดจะยึดอาชีพนักบัญชี เพราะพลอยพธูที่บอกว่าอนาคตในวงการหนังสือของเธอสดใสแน่ๆ เพราะเริ่มต้นดีขนาดนี้แล้ว เพียงแต่ขอให้พัฒนางานเขียนไปเรื่อยๆ 

และนิชภาก็ยังเป็นนักอ่านตัวยงอยู่เช่นเคย และเคยจะเขียนงานที่แตกต่างจากที่เคยเขียน แต่พอลงมือทำแล้ว ก็ไม่กล้าที่จะฉีกแนวตัวเองกระทั่ง โอกาสอันท้าทายจากพลอยพธูมาถึง โพรเจกต์นี้น่าสนใจตรงที่ได้กระทบไหล่ ‘จุฬารัศมิ์’ นักเขียนรุ่นพี่ ‘อดีต’ ตัวแม่ของสำนักพิมพ์ ที่เคยปล่อยให้แฟนคลับของตนเองเอานิยายของเธอไปวิจารณ์อย่างสาดเสียเทเสียในเว็บไซต์ของตน 

นิชภาจำได้ไม่เคยลืม เพราะเพื่อนนักเขียนรุ่นๆ เดียวกันบอกว่าอันที่จริง ‘จุฬารัศมิ์’ ควรจะใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของเว็บไซต์ ปิดกระทู้เสีย แต่นางก็ปล่อยให้มันค้างเติ่ง กระทั่งมีคอมเมนต์ถล่มเธอเสียยับ แต่มันก็แปลก ถึงแม้ในเว็บไซต์เธอจะถูกถล่มว่างานชิ้นนั้นเขียนไม่ได้เรื่อง แต่ยอดขายกลับพุ่งสวนทาง จนกระทั่ง บ.ก.พลอยพธู ติดต่อมาขอพิมพ์ซ้ำ และเรื่องที่สองของเธอก็เลยได้สตาร์ตที่ 5,000 เล่ม จวบจนกระทั่งผลงานในปัจจุบัน และผลงานเล่มแรก แม้ปัจจุบันก็ยังพิมพ์ซ้ำ ตบๆ รวมๆ กันแล้วยอดพิมพ์ถึง 15,000 เล่ม ทำเงินให้เธอตั้งแต่เรียนมัธยมจนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย เธอแทบไม่ได้ขอเงินของพ่อกับแม่มาใช้อีกเลย แต่ถึงไม่ขอเงินของพ่อกับแม่จะไปไหนเสีย เพราะพ่อแม่มีเธอเป็นลูกคนเดียว 

และแม่ก็เคยบอกกับเธอว่า อันที่จริง อยากจะเปิดสำนักพิมพ์ให้เธออยู่เหมือนกัน แต่เธอเองขี้เกียจมาบริหารจัดการ เพราะเพิ่งเรียนจบ อยากพักเหนื่อย อยากพักสมอง และอยากท่องเที่ยวภายในประเทศและในต่างแดนหาประสบการณ์ใหม่ๆ อีกสักพัก 

แต่ใช่ว่าโพรเจกต์ เปิดสำนักพิมพ์ ‘นิชภา’ จะล้มเลิก เพียงแต่ ครั้งใดที่เธอแกล้งเรียกร้องเพื่อให้มีปัญหากันเกิดขึ้น พลอยพธูก็จะยอมเธอมาตลอด ส่วนหนึ่งเธอก็ยังติดจะเกรงใจพลอยพธูคนที่ให้โอกาสเธอมีตัวตนในบรรณพิภพนี้อยู่เหมือนกัน 

และโพรเจกต์นี้ นอกจากจะมี ‘จุฬารัศมิ์’ เป็นตัวเร่งเร้าให้เธอตัดสินใจร่วมงาน ก็ยังมี ‘มณเฑียร’ นักเขียนมาดสุขุมลุ่มลึกที่เธอรู้สึกประทับใจกับบุคลิกของเขา และถ้าได้ออกร่วมงานกันบ่อยๆ เช่นงานเปิดตัวหนังสือ พบปะนักอ่านตามสถานที่ต่างๆ ที่พลอยพธูมักจะจัดให้มณเฑียรบ่อยครั้ง ดีไม่ดี มันอาจจะมีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้น 

แต่ถ้ามันจะไม่พัฒนาไปอย่างที่คิดฝัน ก็ใช่ว่านิชภาจะคิดมาก เพราะรู้ใจตัวเองอยู่ว่า ก็แค่แอบปลื้ม ไม่ใช่ความรัก และเธอเองก็ไม่เคยมีความรักด้วย จึงไม่รู้ว่า รักคืออะไร? ที่บรรยายออกไปในนิยายคือความเพ้อฝันทั้งนั้น!

และแรงจูงใจสุดท้ายที่ทำให้เธอตกปากรับคำ บ.ก.พลอยพธู ก็คือ ‘เวย์ ณัฐนนท์ ดลสุข’ นักร้อง-ดารานักแสดงที่มีข่าวฉาวเมื่อสามปีก่อน ซึ่งนิชภาอยากรู้ถึงข้อเท็จจริงระดับหนึ่ง!! แต่กับความจริงในปัจจุบันที่นิชภาเดาว่าที่เขายังไม่มีใคร ก็เพราะรอให้อดีตคู่รักของเขา แต่ว่าเป็นคู่ปรับของเธอกลับมาจากเรียนต่อ 

‘สวรรญา พิศสวรรค์’ แค้นแต่อดีต มันสมควรที่ได้ ‘ล้างแค้น’ 

หลังหย่อนกระดาษทิชชูลงถังขยะตรงหน้าบันได นิชภาก็หยุดยืนล้วงโทรศัพท์มือถือรุ่นสมาร์ตโฟนออกมาจากกระเป๋าสะพายใบใหญ่ ด้วยนิชภาชอบนุ่งกระโปรงยาวจีบรอบตัว กับเสื้อยืดเอวลอยและรองเท้าสาน บางครั้งเพื่อนๆ จะให้ฉายานิชภาว่า ‘เจ้าป้า’ ทั้งที่นิชภาไม่ได้ทำตัวแก่ก่อนวัยเลยสักนิด เพียงแต่แม่ของนิชภาไม่ชอบให้ลูกสาวแต่งตัวแบบนุ่งน้อยห่มน้อย กอปรกับนิชภารู้สึกว่าขาของตัวเองยาวกว่าขาของเพื่อนคนอื่น เธอจึงต้องสวมกระโปรงหรือไม่ก็กางเกงปกปิดขามาตลอด และลึกๆ สไตล์การแต่งตัวที่ไม่ค่อยจะเหมือนคนส่วนใหญ่นี้ นิชภามองว่ามันเป็น ‘สไตล์ของนักเขียน’ ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ทั้งที่นิชภาชอบอ่านหนังสือแฟชั่นอัปเดตความทันสมัยของโลกเหมือนสาวๆ ทั่วไป

“ลงรถแท็กซี่แล้วนะ ฉันกำลังจะเดินเข้าไป” ชญานุชเป็นเพื่อนที่เรียนมัธยมปลายและระดับปริญญาตรีด้วยกัน เป็นนักอ่านตัวยง ปัจจุบันนอกจากจะเป็นเพื่อนสนิท ชญานุชยังช่วยดูต้นฉบับหลังจากพิมพ์เสร็จหนึ่งตอนของนิชภาด้วย 

ขณะกำลังจะเดินไปยังทิศทางที่ชญานุชบอก พลันนิชภาก็นึกได้ว่าเธอควรจะไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อน พอคิดได้แล้ว นิชภาก็ชะงักเท้าเพื่อจะหมุนตัว แต่กลายเป็นว่ามีคนที่เดินตามหลังเธอมาด้วยความเร่งรีบชนเธอเข้าโครมใหญ่ และด้วยส่วนสูงไล่เลี่ยกัน ทำให้ศีรษะของนิชภาชนเข้ากับริมฝีปากของเขาจนฟันของเขามากระทบริมฝีปากตัวเอง และ   นิชภาที่รู้ว่าตัวเองผิดก็เป็นฝ่ายที่จะพลั้งปากบอกไปว่า

“ขอโทษค่ะ ขอโทษ” นิชภาพูดยังไม่ทันจบประโยค ผู้ชายตัวสูงหน้ายาวๆ ที่ชนหลังเธอก็เสียงแปร๋นขึ้นมาทัน

“จะหยุด จะกลับตัว ก็หัดหันมามองดูข้างหลังซะก่อนสิยะ”

มือของเขาจับอยู่ที่ริมฝีปาก ดวงตาที่มองนิชภาอย่างกับจะกินเลือดจะกินเนื้อ นิชภานึกหวาดๆ แม้จะเห็นกันไม่ถึงสิบวินาที นิชภาก็มั่นใจว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา 

“เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ” นิชภารีบถามไปตามมารยาท

“ไม่ถึงกับตายหรอก เสียเวลาทำงานจริงๆ เลย” ว่าแล้วบุรุษร่างสูงที่อยู่ในชุดกางเกงขาเดฟ รองเท้าหนังหัวแหลมสีน้ำตาล ใส่เสื้อเชิ้ตลายสก็อตเข้ารูป สะพายกระเป๋าหนังใบใหญ่ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์รุ่นใหม่ ก็เดินยักย้ายสะโพกไปอย่างเร่งรีบ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังหันมาค้อนให้นิชภาอีกยก

นิชภาส่ายหน้าเบาๆ เบ้ปาก ยักไหล่ ทำท่าไม่สนใจ ทั้งที่นึกเคืองเขาอยู่เหมือนกัน และอีกไม่นานนัก นิชภาก็ได้รู้ว่า ผู้ชายคนนี้ ‘แสบ’ ใช่ย่อย

 

หลังจากทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวตรงข้ามกับชญานุชพร้อมด้วยแก้วน้ำส้มปั่นที่รับมาจากเคาน์เตอร์ นิชภาก็เปิดปากเล่าถึงธุระสำคัญของตนที่เพิ่งไปทำมาทันที

“โอ้วว เป็นโพรเจกต์ที่น่าสนใจมากๆ งานนี้เธอก็ต้องเข้าพบพี่เวย์ละสิ” 

“ใช่ ต้องได้เจอเขาแน่ๆ” 

“ฉันไปกับเธอได้ไหม” 

“ไม่รู้เขาจะว่างสำหรับฉันเมื่อไหร่นะ ต้องให้พี่พลอยเขาประสานงานให้ก่อน” พอเอ่ยถึงเวย์ ณัฐนนท์ ชญานุชก็ทำท่าหลงใหลได้ปลื้ม จนนิชภารู้สึกหมั่นไส้เป็นอย่างมาก

“เมื่อไหร่ก็ได้ ฉันพร้อมหยุดงาน” 

“จ้า แม่เจ้าของกิจการ จะหยุดเมื่อไหร่ก็ได้” 

“หยุดได้จริงๆ เพื่อพี่เวย์” ชญานุชกะพริบตาอย่างฝันๆ

นิชภาเบ้ปากก่อนจะยกน้ำส้มปั่นขึ้นมาดูด แล้วก็รู้สึกจี๊ดขึ้นโพรง

จมูกเพราะความเย็นจัด 

“เป็นไง คิดไม่ดีกับคนหล่อ ภัยเข้าตัวเลยสิ” 

“หล่อแบบเวย์ ฉันไม่สนหรอกย่ะ” 

“แล้วทำไมเลือกเขาล่ะ มีให้เลือกตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ” 

“เป็นสิบๆ คน แต่บางคนฉันไม่รู้จัก ไม่ได้ตามข่าว อีกอย่าง เธอจำสวรรญา พิศสวรรค์ สาวไฮโซ ลูกสาวเจ้าของธุรกิจพันล้าน รุ่นพี่เราน่ะ” 

“ไม่เคยลืม ก็ฉันนี่แหละยังไปช่วยเธอด่ากับมันในบล็อกมาแล้ว แล้วมันก็เคยคบอยู่กับพี่เวย์ก่อนจะบินไปเรียนต่อเมืองนอก แล้วสวรรญามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ล่ะ” 

“อ้าว ตั้งแต่เกิดเรื่อง เวย์ก็ไม่มีข่าวกับใครเลย ฉันว่า อีพี่เวย์ รออีพี่สวรรญาแน่ๆ” 

“ผู้หญิงอย่างสวรรญา จะเอาพี่เวย์รึ พ่อแม่เขารวยซะขนาดนั้น เดี๋ยวก็คงจับคู่ให้กับผู้ชายคนใหม่ที่มีฐานะเสมอกัน” 

“คือ ฉันไม่ได้สนใจเรื่องที่เวย์ทำสุทธิษาท้องแล้วไม่รับเป็นพ่อเด็กอย่างเดียวหรอกนะ ฉันคิดว่า ตอนนี้เวย์กับสวรรญา ยังคบหากันอยู่หรือเปล่า หรืออย่างไรกันด้วย ฉันว่าประเด็นนี้น่าสนใจกว่า” 

“ฉันเดาพล็อตนิยายเธอไม่ออกเลยนิช เธอจะพล็อตไปอย่างไร   ไอ้ความลับของเซเลบบริตี้เนี่ย” 

“ฉันก็ยังไม่ได้นึกอะไรมากนักหรอก ใจจริงฉันอยากจะปฏิเสธจะตายไป แต่ว่า...” 

“เป็นเพราะเซ็ตนี้ มีพี่รัศมิ์อยู่ด้วย” 

“นังรัศมี” เมื่ออยู่ต่อหน้าชญานุช นิชภาไม่จำเป็นจะต้องสงวนถ้อยคำ เมื่อเกลียดก็ไม่จำเป็นจะต้องยกย่องว่ารัศมีเป็นนักเขียนรุ่นพี่ และการได้เรียก ‘นังรัศมี’ ก็ถือว่าเป็นการระบายความเคียดแค้นไปใน ตัวด้วย

“ถึงอย่างไร ฉันก็ยังชอบงานของเขานะ” ชญานุชอ่านงานได้ทุก

สไตล์ และเธอจะต้องซื้อหนังสือใหม่อ่าน ไม่เคยซื้อหนังสือเก่า ถ้าจะอ่านก็ต้องเป็นมือสองสภาพดีเยี่ยม ที่เพื่อนนักอ่านอ่านแล้วอาจจะไม่ชอบเรื่องราว แล้วประกาศขายต่อในเว็บไซต์หรือในร้านหนังสือมือสองย่านสะพานควาย เพราะชญานุชหลงใหลในกลิ่นกระดาษใหม่ และหนังสือเล่มไหนถ้าชอบก็จะห่อปกพลาสติกเก็บเข้าตู้ แต่ถ้าเล่มไหนอ่านแล้วไม่ถูกใจ ขัดใจพล็อตบ้าง คาแรคเตอร์พระเอกนางเอกบ้าง หรือหวานไม่ถึงใจบ้าง ก็จะประกาศขายทิ้งในทันทีเช่นกัน แต่ถึงกระนั้น ชญานุชก็ใช่จะเข็ดกับนักเขียนหน้าใหม่ที่ผุดขึ้นมาราวดอกเห็ดหน้าฝน โดยชญานุชมีเหตุผลว่า ต้องให้โอกาสคนอื่นๆ เขาบ้าง

แต่ถ้าอ่านแล้วไม่ต้องอารมณ์สักสามเรื่อง นามปากกานั้นเป็นอันยุติไป

“ฉันก็ไม่ได้ว่าเขาเขียนงานไม่ดีนี่ แต่นิสัยอีกเรื่อง” นิชภาก็เคยอ่านงานของรัศมีมาก่อน แม่ของหญิงสาวก็เป็นแฟนรัศมี แต่ตั้งแต่เกิดเรื่อง นิชภาก็ไม่จับงานของรัศมีขึ้นมาอ่านอีก ไม่ว่าเรื่องไหนจะถูกชมจากบล็อกของคนอ่านนิยายมากแค่ไหนก็ตามที 

“แล้วพี่พลอยเขารู้ไหมว่าเธอไม่ชอบพี่รัศมี” 

“รู้ แต่มันเป็นเรื่องของธุรกิจ เขาก็ต้องเอาตัวแม่มารวมกันเพื่อกระตุ้นยอดขาย แฟนฉันก็ซื้องานรัศมี แฟนรัศมีก็ซื้องานฉัน แฟนฉันก็ซื้องานมณเฑียร แฟนมณเฑียร แฟนเด่น ดวงดี ก็เปิดใจลองอ่านงานฉัน งานรัศมี ทุกคนได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย” 

“ล้ำลึกเนอะ แต่ว่าไปโพรเจกต์นี้ ก็น่าสนใจจริงๆ แหละ แล้วมันจะไม่ถูกฟ้องร้องเอาเหรอ คนต้นเรื่องเขาก็ต้องรู้สิว่า เป็นเรื่องของเขากับเวย์อะ” 

“ใครจะไปเขียนตรงๆ ให้ถูกฟ้องล่ะ ปั้นเป็นตุ๊กตาขึ้นมา แล้วก็แก้ต่างให้เขา แต่ว่าไป ฉันก็ยังงงๆ อยู่เหมือนกัน” 

“เธอทำได้อยู่แล้วแหละ”

“ได้ไม่ได้ ก็รับปากเขาไปแล้ว ก็ต้องสู้กันให้ถึงที่สุด” 

ระหว่างที่สองสาวคุยกัน ที่ลานน้ำพุของห้างซึ่งมีงานอีเวนต์ก็มีเสียงอึกทึกขึ้นมา แล้วนิชภาก็ต้องหันไปมอง 

“เธอฟังซินุช ใช่เพลงของเวย์หรือเปล่า” 

“ใช่ เวย์ ‘รักละเมอ’ ซิงเกิลใหม่ล่าสุด” ชญานุชแสดงตัวว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้แล้วก็นิ่วหน้าถามกลับอย่างจับพิรุธ “ไหนว่าไม่สนใจเวย์ แล้วรู้ได้ไงว่าเพลงของเวย์” 

“ฉันก็ไม่ได้ปิดหูปิดตาอยู่บ้านนี่” นิชภาค้อนให้เพื่อนก่อนจะเชิดหน้าขึ้น 

“นี่นิช ฉันว่าเธอเลิกใส่แว่นสายตาเถอะ รู้ไหมตอนนี้เธอ เป๊ะ มากเลยนะ” ‘เป๊ะ’ ในความหมายของชญานุชคือรูปหน้า ปาก จมูก และฟันที่จัดเรียงเสร็จแล้ว จุดเด่นอย่างหนึ่งของนิชภาคือผมที่ดำยาวสลวยเป็น เงางาม กับผิวที่ไร้จุดด่างดำอย่างคนที่ไม่เคยตากแดดตากลมลำบาก    ลำบน

“ไม่” 

“ทำเลสิคก็ได้ เงินก็มีนี่” ก่อนหน้านิชภาเคยบอกว่าไม่อยากใส่ๆ ถอดๆ คอนแท็กต์เลนส์ แต่ลึกๆ แล้ว หญิงสาวอยากให้ใครสักคนพึงพอใจกับตัวตนของเธอเสียมากกว่า 

แล้วอีกอย่าง แค่แว่นสายตาอันเดียว มันไม่ได้ทำให้เธอขี้เหร่จนดูไม่ได้ซะที่ไหน 

“ฉันเคยอ้างเรื่องเงินเหรอ” 

“อยากเป็นยายป้าก็ตามใจ” เมื่อแนะนำดีๆ แล้วไม่ฟัง ชญานุชจึงประชดให้ 

“ป้า แต่ว่าไม่เฉิ่ม ไม่โง่ และก็มีเงินนะยะ” 

“เจ้าค่ะ แม่เศรษฐีเงินล้าน” 

หยอกเย้าพลางหัวร่อต่อกระซิกกันอยู่อึดใจ ที่เก้าอี้ด้านหลังของ นิชภาซึ่งพนักชนกันก็มีผู้ชายเดินคุยโทรศัพท์พลางมาทรุดตัวลงนั่ง    กลิ่นน้ำหอมที่ฉุนจัดทำให้นิชภาต้องย่นจมูก และถ้อยคำที่เขาสนทนา

ทำให้นิชภาต้องเงี่ยหูฟังไปด้วย 

“เค้าอยู่ที่ห้างจ้าที่รัก มาทำงาน ก็มาตามดูเวย์เขาน่ะสิ เผื่อจะมีอะไรหลุดๆ ให้เอาไปเขียนมั่ง แล้วตัวเองทำอะไรอยู่ล่ะ นอนเหรอ จริงๆ นะ ไม่ได้อยู่บ้านคนอื่นแล้วหลบออกมาโทร.มาหาเค้านะ จะให้เค้าแวะไปหาใช่ปะ ได้สิ อีกสักชั่วโมงนะ เดี๋ยวขอเค้าทำงานก่อน ก็แหม เวย์เขาเหมือนแมวเก้าชีวิต มีขึ้นสูง และก็มีตกจนเลือดทะลักออกปาก ก็ต้องตามดูหน่อยว่าชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป และที่สำคัญข่าวเขาขายได้อยู่เสมอ จ้าๆ แล้วเจอกันนะ บายจ้า จุ๊บจุ๊บ” 

ด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแบบยานคางแถมเป็นเสียงห้าวๆ ของผู้ชาย ทำให้นิชภายักไหล่ เบ้หน้าให้ชญานุชได้รับรู้ว่าเธอกำลังฟัง ‘อีคนข้างหลังนี่’ คุยโทรศัพท์กับผัวมันอยู่ 

และถ้าหากนิชภาหันหน้าไปมองหรือเห็นหน้าผู้ชายที่เธอตั้ง    นิกเนมว่า ‘อี’ นิชภาก็จะรู้ว่า เขาคือผู้ชายคนที่เดินมาชนเธอแล้วก็สบถใส่เธอ โดยไม่ได้รู้สักนิดเลยว่า เธอน่ะเป็นนักเขียนใหญ่ มีแฟนคลับเยอะแยะอยู่เหมือนกัน นะยะ