ความลับของเขาซุกอยู่ในบ้านคุณยายโฮมสเตย์ อัมพวา

เขียนฝันในม่านฝน - บทที่ 5 เริ่มทำความรู้จักกัน..... โดย เฟื่องนคร @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เขียนฝันในม่านฝน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

เขียนฝันในม่านฝน โดย เฟื่องนคร @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ความลับของเขาซุกอยู่ในบ้านคุณยายโฮมสเตย์ อัมพวา

ผู้แต่ง

เฟื่องนคร

เรื่องย่อ

เพราะโพรเจกต์นิยายซีรีส์ Secret of Celebrity หรือ ‘ความลับของเซเลบบริตี้’ ทำให้ นิชภา นักเขียนนิยายรักพาฝัน จำต้องตกปากรับคำบรรณาธิการคู่บุญเขียนนิยายแก้ต่างให้กับ เวย์ ณัฐนนท์ พระเอกหนุ่มผู้เจอมรสุมข่าวฉาวกับนักแสดงหญิงในวงการ แต่คล้ายกามเทพจะเล่นกลกับทั้งคู่ เมื่อโฮมสเตย์ที่นิชภาเดินทางไปพักผ่อน ณ อัมพวา บังเอิญเป็นบ้านเกิดของณัฐนนท์ การปลอมตัวเป็นสาวเปิ่นเพื่อล้วงลึกข้อมูลของเขาจึงเกิดขึ้น

ท่ามกลางบรรยากาศฝนพรำน้ำชุ่มและวิถีชีวิตอันอบอุ่นเรียบง่ายอัมพวา

เขียนฝันในม่านฝน นวนิยายรักหรรษาเรื่องล่าสุด จากปลายปากกาของ ‘เฟื่องนคร’ หรือ ‘จุฬามณี’  ผู้เขียน ชิงชัง สุดแค้นแสนรัก กรงกรรม ทุ่งเสน่หา วาสนารัก ฯลฯ

สารบัญ

เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 1 ความลับของเซเลบบริตี้,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 2 เวย์ ณัฐนนท์ ดลสุข,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 3 นิชภา ภัทรสุขสวัสดิ์,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 4 บ้านคุณยายโฮมสเตย์ ณ อัมพวา,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 5 เริ่มทำความรู้จักกัน.....,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 6 เรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจก่อ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 7 เธอชื่อ 'นิชา' แล้วกัน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 8 คนเราต้องมีความคิดที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีตามเลขอายุของตน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 9 บังเอิญจังเลยเนอะ แบบนี้เรียกว่าพรหมลิขิตได้ไหม,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 10 ปลอมตัว...,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 11 เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับนักเขียน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 12 เป็นแฟนกับนักเขียน ได้ไหมล่ะครับ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 13 เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับชญานุช,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 14 หัวไม่ใช้เส้นขนาน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 15 ตราไว้ที่อัมพวา,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 16 ความลับ...ไม่มีในโลก,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 17 ผิดที่ริอ่านเล่นละครตบตาดาราใหญ่,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 18 ทุกชีวิตมีความหลังความลับ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 19 พระเอกต้องหน้าตาดี นิสัยดี และก็ต้องเป็นคนดีด้วย,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 20 คนที่มวลชนไม่สนใจ นักข่าวก็ไม่สนใจ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 21 มันเป็น 'ความลับ' อันยิ่งใหญ่ของเขา,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 22 ฝากรักไว้ที่อัมพวา,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 23 สิ้นแสงดาวดุเหว่าเร่าร้อง จากสุมทุมลุ่มน้ำแม่กลอง,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 24 ข่าว ฉาว,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 25 นักเขียนไส้แห้ง,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 26 โลกกลม,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 27 เป็นเรื่องบังเอิญ หรือว่า เป็นลิขิตจากพระพรหม,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 28 ฉันจะเอาตัวเข้าแลกเพื่อช่วยเธอ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 29 ไม่ใช่มืออาชีพ,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 30 ผู้ชายเวลาที่มีความรัก เขาก็พร้อมที่จะให้สิ่งล้ำค่ากับคนที่เขารัก,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 31 หัวใจของเขานี้ มันร่ำร้องบอกว่า,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 32 บุกถึงบ้าน,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 33 พรีเซนเตอร์,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 34 ดอกไม้....แทนความรู้สึก,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 35 ของขวัญวันเกิด,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 36 เพื่อนคู่คิด,เขียนฝันในม่านฝน-บทที่ 37 เป็นตาอีกข้างของผม เป็นมือซ้ายของผม เป็นคนคนเดียวกัน ดูแลกันนะครับ (ตอนจบ)ผ,เขียนฝันในม่านฝน-บทส่งท้าย ตอนพิเศษ

เนื้อหา

บทที่ 5 เริ่มทำความรู้จักกัน.....

“นนท์อยู่ไหนล่ะพี่กุล โทร.เข้ามือถือก็ปิดเครื่อง” เห็นหน้าพี่สาว เข็มทองก็ถามถึงลูกชายคนโตที่เกิดกับสามีเก่าในทันที

“อยู่ในห้องกับแม่ เพิ่งมาถึง พากันเข้าไปเมื่อกี้” 

“วันนี้มีแขกเหรอ” 

“อืม เพิ่งมาถึงเหมือนกัน มากันสองคน พักห้องเดียว” 

“ก็ได้ตั้งพันหนึ่ง สบายๆ” 

“สบายที่ไหน ก็ต้องดูแลเขา ทำอาหารให้เขากิน ซักผ้าหลังจากเขากลับไป” 

“ฝนนี่ก็ตกได้ตกดี ไม่รู้จะตกอะไรนักหนา นักท่องเที่ยวหนีหมด” พอพี่สาวอธิบาย เข็มทองก็เปลี่ยนไปเรื่องอื่น และเรื่องที่เข็มทองเอ่ยถึง  ก็ไม่พ้นความยากลำบากของตน คนอย่างเข็มทอง ไม่เคยคิดว่าคนอื่นจะลำบาก เข็มทองจะเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แล้วคนอื่นก็ต้องหมุนตาม 

พิกุลได้แต่ถอนหายใจเบาๆ แล้วก็เป็นดังที่คาด เข็มทองถอดรองเท้าแล้วก้าวเดินเข้าไปในบ้าน และระหว่างที่เดินผ่านห้องพักหมายเลข 1 ประตูบานนั้นก็ถูกดึงเข้าไป นิชภาจึงได้เห็นแม่ของณัฐนนท์อย่างถนัดตา หลังจากที่แม่ของชายหนุ่มเดินไปทางหลังบ้าน นิชภาก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าตู้หนังสือกวาดตามองไปจนทั่ว ที่สันหนังสือมีชื่อนิยายและชื่อเจ้าของบทประพันธ์

“พ่อของป้าเป็นภารโรง แม่เป็นแม่บ้าน เป็นชาวสวน พ่อชอบอ่านหนังสือ แม่ป้าก็ชอบ ที่บ้านก็เลยมีหนังสือเยอะหน่อย” พิกุลเห็นว่า    นิชภาสนใจกับหนังสือในตู้ จึงเดินตามมาบอกเล่าประวัติความเป็นมาของ

กองหนังสือตรงหน้า

“มีแต่หนังสือเก่าๆ ไม่มีหนังสือใหม่ๆ เลยเหรอ” 

“หนังสือใหม่ๆ ก็พอมี อยู่ในตู้บนบ้าน ขึ้นไปดูได้นะ” 

ชั้นบนนอกจะเป็นโถงโล่งๆ แล้วยังมีห้องสำหรับเก็บของกับเอาไว้ให้ลูกๆ หลานๆ อีกหนึ่งห้อง 

“เรื่องใหม่ๆ ใครอ่านคะ” 

“ป้านี่แหละอ่าน พวกนี้ก็อ่านหมดแล้ว เพียงแต่ว่าอยากเก็บมาโชว์”

“ดีจังเลย นิชก็ชอบนิยายค่ะ” 

“จะดูไหมล่ะ ป้าจะไขกุญแจให้” 

“กระดาษกรอบหมดแล้วมั้งคะ” 

“ที่ใส่กุญแจก็เพราะมันเก่านี่แหละ กลัวมันเสียหาย” 

“อย่าเลยค่ะ ดูแต่ตาดีกว่า เดี๋ยวของจะเสีย” 

“นานๆ จะมีคนสนใจหนังสือเก่าๆ สักทีหรอก ส่วนใหญ่ เขามาเย้วๆ กันแล้วก็กลับ เพราะเวลาของนักท่องเที่ยวมีจำกัด” 

“แล้วที่นี่ ไม่เห็นมีรูปถ่ายของคุณตาคุณยายเหรอคะ ปกติเคยไปเที่ยวบ้านพักแบบโฮมสเตย์ เขาจะเอารูปเจ้าของบ้านมาโชว์กัน” 

“ก็อยากให้มันโล่งๆ ตา แล้วนี่กินมื้อเที่ยงกันมาหรือยัง” 

“เรียบร้อยแล้วค่ะ” 

“นึกว่ายังไม่ได้กิน จะชวนกินข้าวด้วยกัน” 

“เห็นเพื่อนว่าจะไปตลาดน้ำอัมพวาค่ะ รอให้ฝนหยุดก่อน” 

“ท่าจะยาก คงจะตกแบบนี้ทั้งวัน” 

“แล้ววันนี้ จะมีคนมาเดินกันไหมล่ะเนี่ย” 

“เสาร์ อาทิตย์ มีตลอดแหละ เคยมาไหม” 

“เคยมาค่ะ มากับครอบครัว แต่ไม่เคยมาพักโฮมสเตย์แบบนี้หรอก ครั้งนี้เพื่อนชวน ก็เลยมากับเขา” 

“แล้วหนู ทำงานอะไรกัน” 

“หนูเอ่อ เอ่อ กิจการส่วนตัวค่ะ แล้วคุณป้าล่ะคะ นอกจากทำโฮม

สเตย์แล้วทำอะไรอีก” 

“ป้าเคยเป็นแม่บ้านที่ธนาคาร ลาออกมาหลายปีแล้ว เพราะยายสุขภาพไม่ค่อยดี ไม่มีคนดูแล” 

“แล้วแม่พี่เวย์ล่ะคะ” 

“เอ่อ เขา ทำสวน ทำรีสอร์ตอยู่ที่ดำเนินสะดวก จับธุรกิจหลายอย่าง” 

“คือหนูอ่านประวัติพี่เวย์จากเน็ต หนูไม่เห็นเขาพูดถึงเลยว่าเขาเป็นคนที่นี่” 

“นนท์เขาไม่ได้เรียนมัธยมที่นี่หรอก เขาไปอยู่กับลุงเขาที่กรุงเทพฯ บ้านลุงเขาใกล้โรงเรียนเลยสะดวกนนท์เขา แต่เขาก็เรียนประถมที่นี่ถึงป.4 นะ” 

“เหรอคะ แล้วทำไม พ่อแม่พี่เวย์ถึงได้ให้พี่เวย์ไป” ยังไม่ทันที่   นิชภาจะหลุดคำถามออกไปว่า ‘แล้วทำไมพ่อแม่พี่เวย์ถึงได้ยอมให้พี่เวย์ไปอยู่กับลุง’ ที่ประตูออกไปทางหลังบ้าน ก็มีเสียงปิดดังปัง ทำให้นิชภากับพิกุลสะดุ้งตกใจ แล้วร่างสูงของณัฐนนท์ก็เดินหน้าบึ้งออกมา เขาเดินผ่านไปแล้วก็หยุดยืนเท้าเอวมองไปข้างนอกบ้าน 

พิกุลมองหลานแล้ว ก็มองไปที่ประตูหลังบ้าน มั่นใจได้ว่าหลานชาย คงจะมีเรื่องถกเถียงกับแม่อีกแล้วแน่ๆ 

นิชภาเห็นท่าดังนั้น จึงทำทีว่าสนใจหนังสือ 

“ขอตัวก่อนนะ” พิกุลเปรยออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปหาหลานชายแล้วถามเสียงไม่ดังนัก “มีอะไรกันอีก” 

“เดี๋ยวผมจะกลับกรุงเทพฯ แล้วนะครับ” 

“อ้าว จะรีบกลับไปไหน ไหนว่าจะอยู่นอนด้วยกันสักคืน” 

“งั้น ผมขอออกไปข้างนอกก่อน ถ้าแม่เขาถาม ก็บอกว่าผมกลับกรุงเทพฯ ไปแล้ว ก็แล้วกัน” ว่าแล้วเขาก็เดินไปสวมรองเท้าหนัง ก่อนจะเดินฉับๆ ไปยังโรงจอดรถ เปิดประตูรถเข้าไปนั่งแล้วเขาก็ขับรถออกไป นิชภาที่สังเกตการณ์อยู่เห็นว่าตอนนี้ควรจะกลับเข้าห้องไปรายงานความคืบหน้าให้ชญานุชได้รับรู้ ก็ค่อยๆ ขยับตัวเดินไปเปิดประตู แล้วผลุบหายเข้าไปในห้อง 

 

“ไหนว่าจะออกไปเอาหนังสือมาอ่าน ทำไมไม่เห็นมีติดมือมา สักเล่ม” 

“นี่หล่อนกะจะมานอนอยู่แต่ในห้องหรือไง” 

“ก็มันเมื่อย แล้วก็อากาศน่านอนสุดๆ” 

“ฉันอยากไปเดินเที่ยวแล้วนะ” 

“ขอสักแป๊บได้ไหม” 

“งั้นเอากุญแจรถมา ฉันจะไปเอาหนังสือมาอ่าน เอากระเป๋ามาเก็บไว้ก่อน” 

ชญานุชดึงกุญแจรถจากกระเป๋ากางเกงส่งให้นิชภาแล้วก็พลิกตัวหลับตาเอาแรงต่อ 

เปิดประตูห้องออกมา นิชภาก็พบว่าแม่ของณัฐนนท์นั่งคุยอยู่กับป้าพิกุล ดวงตาแดงช้ำเหมือนว่าผ่านการร้องไห้ แต่นิชภาก็แสร้งทำเป็นไม่เห็น หญิงสาวเดินออกมาตรงจุดที่ถอดรองเท้าวางไว้

“จะไปไหนล่ะหนู” ป้าพิกุลร้องถาม

“ไปเอากระเป๋าค่ะ” 

ใส่รองเท้าแล้วนิชภาก็เดินไปยังรถที่จอดอยู่ ได้กระเป๋าของตัวเองและของชญานุช นิชภาก็เดินหอบหิ้วเข้ามาในบ้าน ยิ้มให้กับสตรีทั้งสองคนเพียงเล็กน้อย แล้วก็เดินเลี่ยงเข้าไปในห้อง แต่ระหว่างทางนิชภาก็ได้ยินแม่ของณัฐนนท์พูดว่า “ถ้านนท์เขาไม่ให้เงินฉันอย่างที่พูดจริงๆ ฉันแย่แน่ๆ เลยพี่กุล พี่กุลจะช่วยอะไรฉันได้ไหม” 

 

หลังเห็นรถของแม่ณัฐนนท์แล่นออกไป และชญานุชก็ยังมีความสุขกับการนอนเอาแรงอยู่ นิชภาที่มีหนังสือนิยายอยู่ในมือก็วางหนังสือลงที่โต๊ะก่อนเปิดประตูออกมา ออกมาแล้วสายตาก็มองหาบันได เมื่อหาไม่เจอจึงได้เดินไปทางหลังบ้านที่ว่าเป็นห้องน้ำ ห้องครัว พอเดินไปถึงประตู นิชภาก็พบห้องน้ำสองห้องอยู่ทางซ้ายมือ ตรงกันข้ามเป็นบันไดขึ้นไปชั้นบน เลยห้องน้ำไปเป็นห้องครัวเปิดโล่งมีร้านนั่งอยู่ตรงกลาง มีโต๊ะอาหารขนาดยาวซึ่งมีเก้าอี้ล้อมรอบประมาณสิบตัว ติดกับห้องครัวมีประตูหนาทึบอีกสองบาน เดาว่าคุณยายคงจะอยู่ในห้องใดห้องหนึ่ง หน้าห้องครัวเป็นลานโล่งเทพื้นต่างระดับไปจนถึงริมคลองที่มีต้นมะพร้าวสูงและมีต้นไม้อีกหลายชนิดขึ้นแซมอย่างไม่มีระเบียบ มีซุ้มดอกไม้ ซึ่งนิชภาไม่รู้เหมือนว่าเป็นซุ้มอะไร หญิงสาวชั่งใจระหว่างจะขึ้นบันไดไปดูข้างบนกับเดินไปที่ริมคลอง และสุดท้ายนิชภาก็เลือกที่จะเดินขึ้นบันไดไป 

โผล่พ้นหัวบันไดมาแล้วก็เจอห้องที่ปิดประตูคล้องกุญแจอยู่หนึ่งห้อง นอกนั้นเป็นพื้นที่โล่งๆ มีที่นอนยางพาราเรียงซ้อนๆ กัน มีหมอนใบขนาดย่อมอยู่ในถุงใสแยกจากถุงผ้าห่ม หน้าต่างชั้นบนติดมุ้งลวดและเหล็กดัด ที่เพดานมีพัดลมสามใบพัดติดเรียงราย ด้านหลังออกไปทางระเบียงมีประตู ซึ่งน่าจะเป็นระเบียงให้นั่งพักผ่อน และห้องน้ำรวมซึ่งมีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน และสุดท้ายนิชภาก็เลือกที่จะไปยืนที่หน้าตู้หนังสือที่อยู่หน้าห้อง บนชั้นมีหนังสือของนักเขียนชั้นครู อย่าง ‘ทมยันตี’ ‘โสภาค สุวรรณ’ ‘โบตั๋น’ ‘ประภัสสร เสวิกุล’ ‘แก้วเก้า’ ‘ว.วินิจฉัยกุล’ ‘สีฟ้า’ ‘ศรีฟ้า ลดาวัลย์’ ‘กฤษณา อโศกสิน’ ‘กิ่งฉัตร’ ‘พงศกร’      ‘ดวงตะวัน’ ฯลฯ และที่มีอยู่หลายเรื่องเหมือนกันก็คือของ ‘จุฬารัศมิ์’ โดยเฉพาะเรื่องที่ณัฐนนท์ได้เล่นละคร เรื่องเดียวมีอยู่ถึงสามเล่ม ไฟร้อนเกมลวง ซึ่งละครเรื่องนี้แหละ ที่ทำให้เขาได้พบกับสุทธิษา จนกระทั่งกลายเป็นความกันในกาลต่อมา และด้วยอยากรู้ว่า ทำไม หนังสือนิยายเรื่องนี้จึงมีถึงสามเล่ม นิชภาก็เอื้อมมือไปหยิบมาพลิกดูกระดาษรองปก

ทั้งสามเล่มมีลายเซ็นของ ‘จุฬารัศมิ์’ เขียนข้อความด้านบนว่า ‘สำหรับน้องเวย์ค่ะ’ นิชภาเบ้ปาก แล้วก็อดนึกไม่ได้ว่า ถ้าให้รัศมีเลือกตัวคนต้นเรื่องก่อน รัศมีจะเลือก ‘น้องเวย์’ หรือเปล่า และลึกๆ นิชภาก็รู้สึกสะใจที่ตัดหน้า ‘น้องเวย์’ ของรัศมีมาได้ และวันนี้ แม้จะเป็นเรื่องบังเอิญเป็นอย่างมาก แต่นิชภาก็อดคิดไม่ได้ว่า มันเป็นเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่า ถึงทำให้เธอมาเจอกับณัฐนนท์ที่นี่ ‘อัมพวา’

 

เมื่อเลือกหนังสือได้แล้ว นิชภาก็เดิน ไปเปิดประตูระเบียง ก่อนจะเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่สามารถปรับนอนประมาณ 340 องศาได้ 

เบญจรงค์ห้าสี ของ ‘ว.วินิจฉัยกุล’ นิยายในมือเรื่องนี้นิชภาเคยอ่านเมื่อหลายปีมาแล้ว แต่ว่าอ่านไม่จบเพราะว่ารู้สึกหนักหน่วงกับชีวิตพวกเธอทั้งห้าคน แต่มาวันนี้อากาศดีๆ อย่างนี้ ทำให้นิชภาอยากจะเริ่มต้นอ่านใหม่อีกสักครั้ง อยากรู้อารมณ์ตัวเองว่าเมื่อเวลาผ่านไป เธอยอมรับกับความเจ็บปวดแบบที่ตัวละครเจอได้หรือไม่ มีแต่คนมองว่างานของเธอเป็นงานพาฝัน เป็นงานที่อ่านแล้วมีแต่ความสุข ถ้าเป็นความทุกข์ ก็ไม่ใช่ทุกข์จริงๆ เป็นทุกข์ประเดี๋ยวประด๋าว และทุกข์เหล่านั้น ก็จะถูกปัดเป่าไปด้วยความร่ำรวยและความดีของพระเอก 

นิชภาเริ่มต้นกับบรรทัดแรก 

‘บ้านหลังนั้น พวกเราอยู่ด้วยกันทั้งหมดห้าคน ถ้าไม่นับน้าคำซึ่งเป็นคนดูแลบ้านฯ’ 

ไล่อ่านเพียงไม่กี่บรรทัด นิชภาก็รู้สึกง่วงนอนขึ้นมาเพราะว่าอากาศหลังฝนตกเย็นสบาย หญิงสาวถอดแว่นสายตาแล้ววางไว้บนตักหยิบหนังสือฝืนความง่วงขึ้นมาดูอีกนิด เมื่อเห็นว่าฝืนไม่ไหวแขนที่อ่อนล้าจึงค่อยๆ ปล่อยหนังสือลงแล้วเอนตัวหลับไปกับเก้าอี้ 

 

เมื่อกะว่าแม่กลับบ้านไปแล้ว ณัฐนนท์ก็ขับรถกลับเข้ามาในบ้านกลางสวนของยายพร้อมของกินจากตลาดแม่กลอง รถยนต์ของแขกจอดอยู่ แอร์ของห้องพักหมายเลข 1 ยังส่งเสียงคราง แสดงว่าแขกคงจะอยู่ในห้อง เขาเดินไปทางหลังบ้านมองไม่เห็นป้าพิกุล เขาเดาว่าคงจะอยู่ในห้องกับยาย เขาวางของที่ซื้อมาไว้บนโต๊ะ ก่อนจะเดินมาคว้ากุญแจห้องชั้นบนที่อยู่ในตู้ยาข้างบันได แล้วก็ค่อยๆ เดินขึ้นไป พบว่าประตูออกไปทางระเบียงเปิดอยู่ เขาไม่ได้เดินไปยังระเบียง แต่เดินไปไขกุญแจห้อง เปิดหน้าต่าง สลัดผ้าคลุมเตียงออกแล้วโยนไปไว้ที่ข้างฝาแล้วก็เดินไปกดสวิตช์พัดลมเพื่อไล่อากาศ ไล่กลิ่นอับ ใจหนึ่งอยากจะทรุดตัวลงนอน แต่อีกใจคิดว่ารอให้กลิ่นอับของห้องจางลงเสียก่อนจึงควรจะกลับมานอนพักผ่อน เขาเดินออกจากห้องหมายจะไปยืนสูดอากาศที่ระเบียงด้านหลัง และพอไปถึงประตู เขาก็พบเห็นว่าบนเก้าอี้ปรับนอนได้มีหญิงสาวตัวยาวกระโปรงยาว ผมยาวดำขลับนอนหลับอยู่ เขาชะโงกหน้าไปดูเจ้าของเรือนร่าง ใบหน้าเจ้าหล่อนได้รูป ผิวพรรณก็ขาวสะอาดไร้จุดด่างดำ หน้าตาไร้สีสันแต่งแต้ม มองไล่มาที่ต้นแขน จนกระทั่งนิ้วมือที่เรียวงาม บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวไม่เคยจับต้องงานหนัก และที่นิ้วนางข้างซ้ายของเจ้าหล่อนก็ไม่มีแหวนสวมติดมืออยู่ มีแต่แหวนวงเล็กๆ ติดอยู่ที่นิ้วนางข้างขวา ณัฐนนท์มองหนังสือที่วางอยู่บนตักซึ่งวางทับขาแว่นตาอยู่ เขาอ่านชื่อเรื่องแล้วก็อมยิ้ม สั่นหน้าเบาๆ ครุ่นคิดไปว่าเมื่อคืนเจ้าหล่อนไปทำอะไรมาถึงได้อ่อนเพลียจนมาม่อยกระรอกอยู่ตรงนี้

“นิช นิช นิช” เสียงเรียกหาเจ้าหล่อนดังมาจากข้างล่าง ทำให้  ณัฐนนท์สะดุ้งเฮือก เขารีบหมุนตัวแล้วเดินย่างย่องไปยังห้องส่วนตัวที่ยายกับป้าพิกุลทำไว้ให้เขา ห้องนี้จะไม่เปิดให้แขกได้พัก จะเป็นห้องเก็บของและเป็นห้องให้เฉพาะญาติกันๆ พัก

“นิช นิช” 

เสียงของชญานุชดังไล่มาจนถึงตีนบันได นิชภาขยับตัว ก่อนจะลุกนั่ง ทำให้เก้าอี้พนักเก้าอี้ที่ปรับได้ดีดตามขึ้นมา 

“มาทำอะไรอยู่ตรงนี้” 

“อ่านหนังสือ” นิชภาคว้าแว่นไปสวมเข้ากรอบหน้าได้รูปของตน 

“ไปๆ ไปเดินตลาดน้ำอัมพวากัน” ชญานุชบอกนิชภาพลางเดินไป

เกาะระเบียงฝั่งที่มองเห็นโรงจอดรถ เห็นเพื่อนบ้านที่อยู่เลยดงมะพร้าว

ไป บ้านแต่ละหลังอยู่ห่างกัน มีคูน้ำเป็นเขตรั้ว

“อ้าว พี่เวย์กลับมาแล้วนี่” 

“เหรอ” ก่อนหน้านิชภารู้อยู่แล้วเขาจะกลับมาอีก แต่ไม่คิดว่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้ 

“ตอนนี้ เขาอยู่ไหนนะ ข้างล่างก็ไม่มี” ชญานุชเปรยออกมาเสียงดังพอได้ยินกันสองคน แต่ว่าเสียงอาจจะทะลุฝากระดานเข้าไปในห้องหลังพนักเก้าอี้ตัวที่นิชภานั่งอยู่ก็ได้

“อยู่ตรงไหน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ” 

“อ้าว ตื่นปุ๊บก็กวนอารมณ์กันเลยนะ”

“ถามเอาเรื่อง ตอบมาตรงๆ” 

“เจอดาราใหญ่ทั้งที ฉันก็จะถ่ายรูปโพสต์ลงเฟซบุ๊กกับไลน์ ให้คนอิจฉาเล่นๆ แล้วก็จะให้พี่เวย์เซ็นชื่อที่เสื้อของฉันด้วย” 

นิชภาเบ้หน้า ทำหน้าระอา

“หรือเธอไม่อยากถ่ายรูปกับเขา” 

“ก็ ไม่เห็นอยากถ่าย”

“ให้มันจริงเถอะ เห็นเขาแล้ว อย่าลืมตัวลืมตนขึ้นมาล่ะ” 

“ไม่มีทางหรอก เขาก็คนเหมือนเรา” นิชภายืมคำพูดของแม่มาใช้ ทั้งที่ยังไม่ลืมอารมณ์ครั้งเมื่อได้ยินเสียงของเขากรอกมาตามสัญญาณโทรศัพท์ วันนี้เอง ตอนที่เห็นเขาลงจากรถ และตอนที่เขาเดินผ่านไปหน้าบ้าน นิชภายอมรับว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ดารา’ มีกระแสดึงดูด ที่ทำให้ใจวาบหวิวขึ้นมาได้ 

“ถูก แต่ว่า ไม่ถูกทั้งหมด” 

“แตกต่างตรงไหนล่ะ” 

“ก็ลองเดินเข้าตลาดไปพร้อมกับเขาสิ แล้วจะรู้ว่า แตกต่างตรงไหน” 

“รำคาญจะเถียงกับเธอ” ว่าแล้วนิชภาก็ลุกขึ้น ด้วยลืมไปว่ามี

หนังสือวางอยู่บนตัก หนังสือจึงร่วงลงพื้นแล้วไถลไปหน้าห้องน้ำ นิชภารีบตามไปก้มเก็บ แต่ด้วยกระโปรงที่นุ่งอยู่ยาวรุ่มร่ามมันจึงพันขาทำให้เสียหลักล้มลง 

“ยายป้าเอ๊ย เป็นอะไรหรือเปล่า” แม้ปากจะว่าเพื่อน แต่ชญานุชก็รีบถลาเข้าไปทรุดตัวประคองให้นิชภาลุกขึ้นมานั่ง

“นิ้วซ้นเลย” นิชภาสลัดมือข้างขวา แล้วก็ใช้มือข้างซ้ายจับไปที่ข้อนิ้วนางซึ่งมีแหวนสวมอยู่ 

“เอาแหวนออกเลย เดี๋ยวเกิดนิ้วบวมขึ้นมา เอาแหวนออกไม่ได้” ชญานุชออกคำสั่งเสียงดัง

เมื่อถอดแหวนตามคำแนะนำของเพื่อนแล้ว นิชภาก็เปลี่ยนมาใส่ไว้ที่นิ้วกลางข้างซ้าย แต่ว่าก็ใส่ไม่ได้เพราะนิ้วใหญ่ 

“แล้วทำไมเธอ ไม่ใส่ที่นิ้วนางไว้ก่อนล่ะ” 

“ไม่เอาฉันถือ!”

“รอแหวนแต่งงานว่างั้นเถอะ สาวเวอร์จิ้น”

พอถูกเพื่อนล้อ นิชภาก็หน้าแดงก่อนจะค้อนให้หนึ่งยก 

 

สองสาวพากันเดินลงไปข้างล่าง ณัฐนนท์ที่นอนอมยิ้มฟังความอยู่บนเตียงถอนหายใจเบาๆ แต่พอจะผล็อยหลับ เขาก็ได้ยินเสียงสตาร์ตรถ เขารีบดีดตัวลุกขึ้นเดินไปยืนดูที่หน้าต่าง รถเก๋งฮอนด้าแจ๊สน้ำเงิน ถอยหลังออกมาจากชายคาที่จอดรถ แต่ว่าผู้หญิงที่นุ่งกระโปรงยาวยังอ้อยอิ่งอยู่กับการใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปดอกชวนชมในกระถางที่วางเรียงๆ กันอยู่ และพอเพื่อนเจ้าหล่อนบีบแตรเร่ง เจ้าหล่อนก็รีบจ้ำพรวดๆ ไปเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง เห็นเพียงด้านหลังเขายอมรับว่า เจ้าหล่อนสวย แล้วเป็นความสวยที่เขารู้สึกว่าเป็นธรรมชาติดูสบายตาเสียด้วย แต่เมื่อนึกถึงอดีตของตนเอง ณัฐนนท์ก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง 

เพราะความเจ้าชู้ เพราะคิดว่าผู้หญิง เป็นเพียงผู้หญิง ไม่ได้คิดว่า ผู้หญิงจะเป็นเหมือนดอกไม้ที่มีทั้งสีสวย กลิ่นหอม และมีพิษ เขาจึงชะล่าใจ จนกระทั่งเกิดเรื่องราวกับสุทธิษาขึ้นมา จนชีวิตที่คิดว่าจะลอยขึ้นฟ้าไปสุดกู่แล้วเหมือนหล่นลงมาสู่พื้น และไม่ใช่พื้นดินเสียด้วย มันเป็นหินที่เต็มไปด้วยความแข็งและแหลมคม

อนาคตเกือบจะดับ เขาคิดจะฆ่าตัวตายเสียด้วยซ้ำ ดีแต่ว่าเขามี  พี่ปกป้อง มียายจำปี มีป้าพิกุล มีลุงขจร มีป้าสะใภ้ มีแฟนคลับอีกจำนวนไม่น้อยที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเขา

 

“โทร.บอกพ่อแม่หรือยังว่าถึงอัมพวาแล้ว” 

“ไลน์ไปบอกแล้ว” 

“ฉันเลยเชยไปเลย เพราะแม่ฉันไม่ยอมเล่นไลน์เหมือนพ่อแม่เธอ” 

“ทำไมดาราชอบใส่แว่นตาสีดำ” นิชภาเอ่ยขึ้นมาลอยๆ

“กลับไปเธอก็ถามพี่เวย์เขาสิ ฉันไม่ใช่ดารา ฉันตอบไม่ได้หรอก” ชญานุชตอบไปอย่างกวนอารมณ์ 

“แล้วนี่ จะพาฉันไปไหนบ้าง” 

“ก็ไปเดินตลาดน้ำ เดินหาซื้อของ หาซื้ออะไรกิน แล้วก็กลับมานอน” 

ขณะที่เพื่อนขับรถ นิชภาก็โหลดรูปขึ้นหน้าเฟซบุ๊กไปด้วย 

“ดอกไม้ของบ้านคุณยายโฮมสเตย์ อัมพวา” อ่านข้อความที่ตนโพสต์ให้เพื่อนฟังแล้วนิชภาก็ยิ้มออกมา

“โหลดไปกี่รูปแล้ว” 

“รูปเดียว เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบเล่นเฟซบุ๊ก ขี้เกียจอ่านเรื่องไร้สาระของคนอื่นๆ แล้วก็ไม่ได้อยากให้ใครมารู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่อีกด้วย” 

“แล้วหล่อนโพสต์รูปดอกไม้ทำไม” 

“ก็เอาสักหน่อย นานๆ จะมีเรื่องให้อัปเดตสักที” 

“เดี๋ยวกลับไป ถ้าเจอพี่เวย์ จะขอเขาถ่ายรูปคู่แล้วก็โพสต์เฟซบุ๊ก เพราะฉันอยากให้คนริษยา” 

“เมื่อก่อนอาจจะมีคนริษยา แต่ตอนนี้ อาจจะมีคนสมเพชเธอ

ก็ได้นะ” 

“ยายบ้า ไปว่าเขา” 

“คนนิสัยไม่ดี ดูซิ จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่โทร.กลับมาเลย” 

“แล้วถ้าเขาโทร.กลับมาตอนนี้ เธอจะคุยกับเขาว่าอย่างไร”

“ไม่รู้เหมือนกัน” 

พูดไม่ทันขาดคำ โทรศัพท์ในมือของนิชภาก็ดังขึ้น นิชภาดูเบอร์ที่ปรากฏอยู่ที่หน้าจอ แม้ยังไม่ได้เซฟเบอร์ลงเครื่อง แต่หญิงสาวก็จำได้ว่าเป็นเบอร์ของเขา 

“ตายยากจริงๆ เลยนุช นินทาปุ๊บก็โทร.มาปั๊บเลย” 

“ดีนะ ไม่โทร.ตอนที่เธอนั่งอยู่ในบ้าน” ชญานุชลดความเร็วลงชะลอรถเพราะพอเลี้ยวขวาแล้วรถก็ติดเป็นแพ “อ้าวกดรับสิ จะนั่งดูอยู่ทำไมล่ะ” 

“ฉันไม่รู้จะคุยอะไรกับเขา” 

“เมื่อกี้ละปากดี กดรับเลย รำคาญเสียงเพลงรอสายของเธอ”

“เธออย่าเสียงดังนะ” 

ว่าแล้วนิชภาก็กดรับสาย 

“สวัสดีครับคุณนิชภา” ครั้งนี้เขาไม่ได้แนะนำตัวเอง แต่ว่าเรียกชื่อเต็มของนิชภาเลย ทำให้หญิงสาวรู้สึกเป็นบวกขึ้นมาที่เขาจดจำชื่อของเธอได้

“เปิดลำโพงเดี๋ยวนี้เลยฟังด้วย” ชญานุชที่บังคับรถอยู่หันมาบอก นิชภาเบ้หน้าไหวไหล่ แต่ก็ปฏิบัติตาม

“สวัสดีค่ะคุณเวย์” นิชภารู้สึกผ่อนคลายขึ้นกว่าเมื่อวานนี้

“เรื่องที่คุณนิชภาจะนัดเจอผมน่ะครับ เป็นพรุ่งนี้ได้ไหมครับ” 

“ที่ไหนคะ” 

“แล้วแต่คุณนิชเลยครับ ผมสะดวกทุกที่เลย ไปได้หมด พรุ่งนี้ผมว่าง” 

“แต่พรุ่งนี้ นิชไม่ว่างค่ะ” 

“อ้าว ทำไงล่ะทีนี้” 

“ว่างวันจันทร์ค่ะ วันจันทร์คุณเวย์ว่างไหม” 

“วันจันทร์ผมไม่ว่างครับ”