ยอดสวาทจอมเถื่อน - บทนำ ว่าที่เจ้าบ่าวคนใหม่ โดย อรอร @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ยอดสวาทจอมเถื่อน ,อรอร,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ยอดสวาทจอมเถื่อน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ยอดสวาทจอมเถื่อน ,อรอร

รายละเอียด

ยอดสวาทจอมเถื่อน โดย อรอร @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผู้แต่ง

อรอร

เรื่องย่อ

สารบัญ

ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทนำ ว่าที่เจ้าบ่าวคนใหม่,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 1-1 พรหมไม่ได้ลิขิต,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 1-2 พรหมไม่ได้ลิขิต,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 1-3 พรหมไม่ได้ลิขิต,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 2-1 ผู้กำหนดโชคชะตา,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 2-2 ผู้กำหนดโชคชะตา,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 2-3 ผู้กำหนดโชคชะตา,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 3-1 ลูกไก่ในกำมือ,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 3-2 ลูกไก่ในกำมือ,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 3-3 ลูกไก่ในกำมือ,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 4-1 จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 4-2 จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 4-3 จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 5-1 เนื้อเข้าปากเสือ,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 5-2 เนื้อเข้าปากเสือ,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 5-3 เนื้อเข้าปากเสือ,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 6-1 เมื่อต้องเดินสวนทางกับความรัก,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 6-2 เมื่อต้องเดินสวนทางกับความรัก,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 6-3 เมื่อต้องเดินสวนทางกับความรัก,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 7-1 แผนลักพาตัว,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 7-2 แผนลักพาตัว,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 7-3 แผนลักพาตัว,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 8-1 แผนโง่ๆ แต่มันได้ผล,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 8-2 แผนโง่ๆ แต่มันได้ผล,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 8-3 แผนโง่ๆ แต่มันได้ผล,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 9-1 สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าความรัก,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 9-2 สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าความรัก,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 9-3 สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าความรัก,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 10-1 แพ้ใจ,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 10-2 แพ้ใจ,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 10-3 แพ้ใจ,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 11-1 ความลับไม่มีในโลก,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 11-2 ความลับไม่มีในโลก,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 11-3 ความลับไม่มีในโลก,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 12-1 ผิดที่ผมรักคุณ,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 12-2 ผิดที่ผมรักคุณ,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 12-3 ผิดที่ผมรักคุณ,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 13-1 การสะสางคดี,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 13-2 การสะสางคดี,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 13-3 การสะสางคดี,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 14-1 โทษประหาร,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 14-2 โทษประหาร,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 14-3 โทษประหาร,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 15-1 เพราะความรักทำให้โลกหมุน,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 15-2 เพราะความรักทำให้โลกหมุน,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทที่ 15-3 เพราะความรักทำให้โลกหมุน,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทพิเศษ - 1 can't take my eyes off you,ยอดสวาทจอมเถื่อน-บทพิเศษ - 2 can't take my eyes off you

เนื้อหา

บทนำ ว่าที่เจ้าบ่าวคนใหม่

ท่วงทำนองเพลง “We’ve Only Just Begun” ซึ่งเป็นของ Caepenters  ศิลปินเพลงในตำนาน ถูกบรรเลงโดยวงเครื่องสายออเครสต้าที่มีชื่อเสียงอยู่ในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของคฤหาสน์หลังงามแห่งตระกูลเวย์ริงตัน ซึ่งเป็นวันวิวาห์ของโรมัน เวย์ริงตันกับเจ้าสาวผู้เลอโฉม ดานิกา รัทเทอร์ฟอร์ดทายาทคนเดียวของสเตฟาน รัทเทอร์ฟอร์ดที่ถึงแม้จะรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล แต่เจ้าตัวก็มอบหมายให้เพื่อนรักเป็นผู้จัดงานแต่งครั้งนี้ขึ้นมาทั้งหมด

“ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องรักแรกพบสักเท่าไร แต่พอคุณพ่อบอกว่าเจ้าสาวของผมคือดานิกา รัทเทอร์ฟอร์ดซึ่งท่านจับจองไว้ให้ผมนานแล้ว ผมเลยต้องไปแอบดูตัวกะว่าถ้าไม่สวยหรือไม่ถูกใจก็จะปฏิเสธการแต่งงานแบบคลุมถุงชนในครั้งนี้” คำพูดของเจ้าบ่าวที่อยู่ในชุดทักซิโดสีดำทำให้มีเสียงหัวเราะดังขึ้นทั่วทั้งห้อง

ในขณะที่เจ้าบ่าวยืนอยู่หน้าไมโครโฟนที่วางตั้งอยู่บนโพเดียมที่ถูกจัดตกแต่งด้วยดอกลิลลี่สีขาวบริสุทธิ์ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ ดวงตาสีฟ้าคมทอดมองอย่างหลงใหลไปยังเจ้าสาวแสนสวยในชุดแต่งงานสีงาช้างที่บานฟูฟ่องและนั่งอยู่ตรงโต๊ะกระจกตัวยาวเคียงข้างด้วยพ่อเจ้าบ่าวและแนนซี่พี่เลี้ยงคนสนิท

“อย่าเพิ่งหัวเราะครับ ผมจะบอกว่าพอผมเจอหน้าเธออาการรักแรกพบก็กำเริบทันทีแล้วก็กลับมาบอกคุณพ่อว่า ผมจะแต่งงานกับดานิกา รัทเทอร์ฟอร์ด ทั้งที่เจ้าสาวของผมไม่ยอมตกลงด้วยสักเท่าไร แต่ผมขอให้เธอเริ่มต้นเรียนรู้เรื่องความรักไปกับผม เราจะออกไปเผชิญโลกกว้างไปด้วยกันท่ามกลางแสงอาทิตย์สาดส่องที่มีหัวใจรักนำทาง ดานิกา ผมดีใจที่เราสองคนมีวันนี้และผมเชื่อว่าเราจะมีกันและกันไปตราบลมหายใจสุดท้ายของเราสองคน รักคุณ” เจ้าบ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มน่าฟังก่อนจะมีเสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับเพลง “We’ve Only Just Begun” ก็ถูกบรรเลงขึ้นอีกครั้ง

ร่างสูงใหญ่ของแซคคิโอ มิเกลลี่อยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม สวมทับเสื้อเชิ้ตสีฟ้าและผูกเนกไทสีน้ำตาลไหม้ เขายืนถือแก้วบรั่นดีอยู่ตรงระเบียงด้านนอกของห้องจัดเลี้ยงที่ใหญ่โตหรูหราของคฤหาสน์หลังงามภายในอาณาเขตของเวย์ริงตัน

ดวงตาสีน้ำเงินเข้มมองเหม่อไปยังเจ้าสาวแสนสวยในชุดแต่งงานที่หรูหราสมฐานะ ดานิกา รัทเทอร์ฟอร์ด ทายาทร้อยล้านที่เขาเคยดูแลรักษาความปลอดภัยให้มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย

แต่ปัจจุบันเขาหมดหน้าที่ เพราะคุณหนูของเขากำลังเป็นเจ้าสาวของโรมัน เวย์ริงตันเจ้าบ่าวผู้คู่ควรและเหมาะสมทั้งรูปร่างหน้าตาและฐานะทางสังคม ซึ่งเจ้านายอาวุโสของเขาเป็นผู้เลือกเจ้าบ่าวด้วยตัวเอง จากนั้นเจ้าบ่าวก็แต่งตั้งเขาให้เป็นน้องชายบุญธรรมคนใหม่ของตระกูลเวย์ริงตัน เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เขาช่วยชีวิตคนทั้งสองไว้จากการตกเป็นเหยื่อเรียกค่าไถ่ของสองคนร้ายอย่าง ร็อคโค กอนซาโล่กับลูกน้องร่างยักษ์อย่างจิมมี่

เขาดื่มบรั่นดีจนหมดแก้วแล้วเรียกบริกรมาเปลี่ยนแก้วใหม่ จากนั้นเดินลงบันไดหินอ่อนที่ทอดยาวลงไปในสวนที่ร่มรื่นด้วยไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ลมพัดโชยเอาความหนาวเย็นมาปะทะผิวหน้าและผิวกายแต่อดีตบอดี้การ์ดก็ยังคงเดินสำรวจสวนไปอย่างเรื่อยเปื่อย

ใบหน้าคมเข้มแหงนขึ้นมองไปบนท้องฟ้าที่ดาวดวงเล็กส่องแสงเป็นประกายอยู่ทั่วราวกับเพชรเม็ดเล็กแข่งกันอวดความงาม แล้วก็ถามตัวเองว่าเขาไม่ได้อกหักใช่ไหม เพราะก่อนหน้านี้เขาทำใจได้มาแล้ว หลังต้องเป็นฝ่ายแอบหลงรักลูกสาวเจ้านายอยู่เงียบๆ โดยมีเพียงแนนซี่เป็นที่ปรึกษาและบอกให้เขาตัดอกตัดใจ เพราะไม่มีทางที่เขาจะสมหวังในรักครั้งนี้ไปได้

ร่างสูงใหญ่ทอดถอนใจ แล้วก็ได้คำตอบให้ตัวเองว่า เขาก็แค่รู้สึกเหงาเพราะจะไม่ได้เดินตามหลังดูแลความปลอดภัยให้คุณหนูดานิกาอีกแล้ว ต้องเปลี่ยนหน้าที่บอดี้การ์ดส่วนตัวของคุณหนูให้ลูกน้องอีกคนทำแทน ส่วนเขาก็ไปนั่งแท่นเรียนรู้งานบริหารกับเธียรี่เพื่อช่วยให้บริษัทรัทเทอร์ฟอร์ดกับเวย์ริงตันกรุ๊ปเจริญรุดหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป

“อ้าวแซคกี้ มายืนทำไมแถวนี้” เธียรี่เอ่ยทักลูกบุญธรรมของตระกูลเวย์ริงตันอย่างเป็นกันเอง เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยเรียกแซคคิโอว่าคุณแซคกี้หลังจากได้มาเป็นลูกบุญธรรมของเวย์ริงตัน แต่เจ้าตัวก็สั่งห้ามแล้วสั่งให้เรียกเหมือนเดิม และถ้าเขาไม่ทำตามก็จะถูกสั่งปลดออกจากงานโดยที่โรมันก็ห้ามไม่ได้ ตั้งแต่นั้นเขากับแซคคิโอก็เลยเหมือนเพื่อนสนิทมากกว่าจะเป็นเจ้านายกับลูกน้อง

“ว่าจะกลับเพนท์เฮ้าส์” ชายหนุ่มหมายถึงเพนท์เฮ้าส์หลังงามซึ่งตั้งอยู่บนตัวอาคารของโครงการหรูแห่งหนึ่งกลางใจเมืองซึ่งสเตฟาน รัทเทอร์ฟอร์ดเซ็นสั่งซื้อให้เป็นรางวัลที่เขาทำงานด้วยความภักดีมาตลอด นอกเหนือจากการที่เขาได้เป็นลูกบุญธรรมของเวย์ริงตัน

“นายคงยังไม่ชินกับบ้านหลังใหม่”

“ฉันเคยอยู่ในห้องพักปกติธรรมดา แต่มาอยู่ห้องใหญ่ๆ ของที่นี่มันดูโล่งเกินไป รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย” อดีตบอดี้การ์ดบอกยิ้มๆ

“นายต้องต้องหัดให้ชิน เดี๋ยวคุณโรมันจะไปฮันนีมูนสามเดือน นายต้องดูแลแทนร่วมกับคุณไวแอท แต่คุณไวแอทน่ะไม่ค่อยเข้าไปที่ออฟฟิศหรอก มักปล่อยให้คุณโรมันบริหารจัดการอยู่คนเดียว เพราะฉะนั้นนายต้องเตรียมตัวให้พร้อม ขยันมาเรียนรู้งานกับฉันด้วย”

“ความจริงฉันอยากเป็นแค่บอดี้การ์ดเท่านั้น บอกตรงๆ เลยว่าไม่ได้อยากจะขึ้นมาเป็นผู้บริหารเลยสักนิด”

“บางครั้งคนเราก็ไม่อาจฝืนโชคชะตาไปได้หรอกนะแซคกี้ บางทีนี่คือลิขิตจากพระเจ้าก็เป็นได้”

“ก็อาจเป็นได้ เพราะก่อนหน้านั้นฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาเป็นน้องชายบุญธรรมของคุณโรมัน คิดแค่ว่าทำงานให้คุ้มกับบุญคุณที่คุณสเตฟานมีให้ก็พอ บอกตรงๆ เลยว่าบางครั้งฉันก็คิดว่าฝันไปหรือเปล่า” ร่างสูงใหญ่พูดเสียงกลั้วหัวเราะ

“นายไม่ได้ฝันหรอก ยินดีด้วยอีกครั้ง” เธียรี่ส่งมือให้เจ้านายคนใหม่จับอย่างยินดี

“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยแล้วกัน มีอะไรก็ช่วยสอนฉันด้วย” แซคคิโอเขย่ามือเธียรี่ตอบแทน

“เต็มที่อยู่แล้วละ เพื่อเจ้านายทั้งสองของเรา”

“ใช่ เพื่อเจ้านายทั้งสองของเรา นี่ฉันก็ว่าจะแวะไปเยี่ยมคุณสเตฟานสักหน่อย จะไปเล่าเรื่องงานแต่งวันนี้ให้ฟัง”

“แต่ฉันดูคุณสเตฟานมีความสุขนะถึงจะอ่อนแรงลงทุกวัน แต่ก็ไม่มีสีหน้าทรมานกับอาการเจ็บป่วยของตัว เห็นคุณโรมันบอกว่าไปปารีสครั้งนี้จะต้องกลับมาพร้อมเด็กในท้องของคุณดานิกาให้ได้ เรียกว่าเป็นของฝากให้พ่อตานั่นแหละ”

ร่างสูงใหญ่ได้แต่ยิ้มรับ

“ว่าแต่นายจะไม่บอกจริงๆ เหรอว่าไอ้เจ้าสองคนนั้นอยู่ที่ไหน”

“อย่ารู้เลย รู้มากคนก็มากความ เท่าที่ฉันประกาศบอกลูกน้องนายไปว่าไอ้เจ้าสองคนนั้นยังไม่ตาย แค่นี้ก็อาจทำให้ญาติหรือลูกน้องของคนร้ายพุ่งเป้ามาที่ฉันอีกโขยง เพราะฉะนั้นฉันรู้คนเดียว ตายคนเดียว”

“นายพูดเหมือนกำลังประชดชีวิต”

“เปล่า แต่มันเป็นการปกป้องคนที่เรารักมากกว่า เพราะฉะนั้นฉันรู้คนเดียวพอ” แซคคิโอพูดตัดบทเสียงเรียบ เขาเชื่อมั่นว่าตัวเองคิดอย่างรอบคอบแล้ว เพราะถ้าทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้ความลับในเรื่องนี้กันหมด ก็จะตกอยู่ในอันตราย แล้วเขาเองก็ไม่สามารถตามไปช่วยเหลือได้หมด สิ่งเดียวที่เห็นว่าดีที่สุดก็คือเซฟทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

“แสดงว่านายมั่นใจว่าต้องมีคนตามหาสองคนร้ายนั่น” คำพูดของเธียรี่ทำให้แซคคิโอตื่นจากความคิดแล้วจึงตอบออกไปด้วยความมั่นใจ

“ความจริงคำถามนี้ นายไม่น่าถามเลย อย่าลืมว่าญาติของไอ้สองคนนั้นต้องมีนะ จะลูกเมียหรือพ่อแม่มันก็ต้องออกตามหา ยิ่งคนหายไปเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงก็ต้องร้อนใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แล้วนี่หายไปสองสัปดาห์ นายว่าพวกเขาจะตามหาไหมล่ะ”

“แล้วนายไม่กลัว?”

“ไม่ ถ้ากลัว ฉันจะไม่ทำตั้งแต่แรกเลย” อดีตบอดี้การ์ดบอกอย่างมั่นใจในความเป็นตัวเอง เพราะวันนั้นเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะทำแบบนี้ แต่ฟิลิปโปลูกน้องมือขวาของเขากลับไม่เห็นด้วยแนะให้ใช้กระสุนจริงยิงไปเลย เพราะเกรงว่าปัญหามันจะตามมาให้แก้ทีหลัง แต่เขาห่วงความรู้สึกของดานิกา หากจะนึกถึงความรักความหลังขึ้นมา แล้วดันมีคนตายถึงสองคนเข้ามาเกี่ยวข้อง ประวัติศาสตร์รักคงไม่น่าพิสมัยสักเท่าไร

“ระวังนะ บางทีไอ้จิมมี่ร่างยักษ์มันอาจมีลูกสาวสวยราวนางฟ้ากำลังออกตามหาอยู่ก็ได้ นายอย่าไปหลงรักเข้าก็แล้วกัน”

“ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันจะจับเชือดเซ่นความเลวของพ่อเธอคนนั้นซะเลย ว่าแต่นายอ่านหนังสือนิยายมากไปหรือเปล่าเธียรี่ พูดออกมาแต่ละอย่างให้มันมีความเป็นไปได้หน่อยเถอะ”

“แซคกี้ โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนหรอก อย่าลืมว่าโลกมันกลม บางทีมันอาจจะหมุนๆ แล้วเหวี่ยงเธอคนนั้นมาหานายก็ได้”

“ฉันว่าช่วงนี้นายทำตัวแปลกๆ ว่ะเธียรี่ คำพูดคำจาดูมันฟุ้งเฟ้อเหมือนพวกมีความรัก ฉันรู้สึกว่าตั้งแต่นายเริ่มคุยกับแนนซี่แบบจริงๆ จังๆ ”

เธียรี่ถึงกับหัวเราะร่วน ใบหน้าคมคายแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด

“นายนี่ก็ช่างสังเกตนะ” คนพูดทำเสียงขัดเขินยามนึกถึงแม่บ้านสาวใหญ่ที่เขาคุยด้วยอย่างถูกคอ นับแต่รู้จักกันตั้งแต่ตอนเจ้านายตกลงปล่องชิ้นกับเจ้าสาวคนสวย

“นายชอบแนนซี่จริงหรือเปล่าเธียรี่”

“ก็คิดว่าชอบนะ จากการที่คุยกันฉันว่าแนนซี่น่ารักดี ว่าแต่นายมีอะไรหรือว่าหวง?”

“หวงในฐานะพี่สาวน้องชาย นายห้ามทำให้พี่สาวฉันร้องไห้เด็ดขาดนะ” บอกพลางหมุนตัวเพื่อจะเดินกลับเข้าไปในงานเลี้ยงอีกครั้ง

“รู้สึกว่างานกำลังคึกคักเลย ไปแย่งสายรัดถุงน่องจากเจ้าบ่าวกันดีกว่าเธียรี่”

“นายจะแย่งมาทำไมแซคกี้ ในเมื่อนายไม่มีแฟน ให้ฉันแย่งมาให้แนนซี่ดีกว่า”

“ไม่ได้ ถ้านายอยากได้ก็ต้องแย่งชิงกันหน่อย ใครจะไปรู้ว่าต่อจากนี้ฉันอาจจะได้เมียก็เป็นได้” แซคคิโอร้องบอกพลางเดินแกมวิ่งกลับเข้าไปภายในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ ที่บรรดาแขกผู้มาร่วมงานต่างกำลังส่งเสียเชียร์เจ้าบ่าวรูปงามในชุดสูทแต่งงานสีดำที่ใบหน้าคมเข้มระบายไปด้วยรอยยิ้ม ยามทรุดเข่าลงตรงเก้าอี้ที่เจ้าสาวคนสวยอยู่ในชุดเดรสแต่งงานสีงาช้างบานฟูฟ่องนั่งอยู่ เพื่อให้เจ้าบ่าวได้ค้นหาสายรัดถุงน่องที่ซ่อนอยู่ใต้กระโปรงแต่งงาน

“มุดเลย มุดเลย” แซคคิโอร้องเชียร์ไปอย่างนึกสนุกพร้อมกับเธียรี่ที่มายืนเชียร์อยู่ข้างๆ

“ทูนหัวจะบอกผมดีๆ ไหมว่าซ่อนอยู่ข้างซ้ายหรือข้างขวา” เจ้าบ่าวขู่เสียงทุ้มใบหน้าเปื้อนยิ้มกับวันชื่นคืนสุข

“เรื่องอะไรจะบอก”

“ถ้าไม่บอกผมมุดเลยนะ”

“ก็มุดเข้ามาสิคะ” เจ้าสาวท้าเสียงใส แก้มสองข้างร้อนผ่าวด้วยความขัดเขินกับเสียงเชียร์ของแขกผู้มาร่วมงาน แต่คืนสำคัญเช่นนี้ เขาบอกว่ามันมีครั้งเดียวที่เจ้าบ่าวจะยอมสิโรราบให้กับเจ้าสาว

“จะบอกให้ว่าฉันตัดชุดแต่งงานก็เพื่อการนี้โดยเฉพาะเลย”

“ได้สิ ท้ากันแบบนี้ ผมไม่ยอมเสียหน้าแน่นอน จะบอกให้ว่าผมไม่มุดหาสายรัดถุงน่องอย่างเดียวหรอกนะ แต่จะมุดเข้าไปในโพรงดอกไม้ของคุณด้วย” ขู่เสร็จแล้วก็เปิดกระโปรงสุ่มขึ้นแล้วมุดเข้าไปทั้งตัวในทันที ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแขก แต่ยังไม่เท่ากับเสียงกรีดร้องของเจ้าสาว

“กรี๊ด กรี๊ด โรมัน คุณอย่าทำอะไรบ้าๆนะ” ดานิการ้องเสียงหลง แทบจะลุกขึ้นยืนถ้ามือหนาจะไม่จับต้นขาของเธอกดเอาไว้แน่น จากนั้นจับขาของเธอให้ฉีกกว้างขึ้น แล้วใช้ปากกัดสายรัดถุงน่องที่ถูกรัดไว้ตรงต้นขาช่วงบนจนสำเร็จ ก่อนจะแวะไปจูบเนินดอกไม้ที่ซ่อนอยู่ในบิกีนีสีขาวด้วยความมันเขี้ยวแล้วจึงถอยหลังมุดออกจากกระโปรงของเจ้าสาวพร้อมกับสายรัดถุงน่องในปาก โดยมีเสียงตบมือแสดงความยินดีอย่างล้นหลาม

“ขอบคุณ ขอบคุณครับ” เจ้าบ่าวโค้งคำนับไปรอบๆ อย่างมีความสุขพลางโบกสายรัดถุงน่องโชว์ไปมา

“โรมัน คุณบ้ามากๆ เลย” เจ้าสาวต่อว่าเสียงเขียวด้วยความขัดเขิน ก่อนจะถูกจับให้ลุกยืนแล้วใบหน้าคมเข้มก็โน้มลงมาประกบปากจูบอย่างอ่อนหวาน

“ก็คุณท้าผมทำไมล่ะที่รัก”

“บ้า เขามีแต่จะล้วงมือเข้าไปไม่ใช่เหรอ”

“ถ้าให้ล้วงแต่มือ เกิดไปล้วงโดนเนินดอกไม้ของคุณมันจะยุ่งนะโมเน่” เจ้าบ่าวกระซิบบอกตรงเรือนผมหอมกรุ่น อ้อมแขนก็ยังกอดกระชับเจ้าสาวเอาไว้แน่น

“คนบ้า หื่นได้ตลอดเวลา” ดานิกาทุบแผงอกล่ำของเจ้าบ่าวด้วยความหมั่นไส้

“คุณโรมันโยนถุงน่องเลย โยนเลยครับ” แซคคิโอตะโกนบอกอย่างนึกสนุกยามเห็นรอยยิ้มของบ่าวสาวที่สวยสมกันดังกิ่งทองใบหยก

“นายอย่าแย่งฉันนะแซคกี้” เธียรี่ร้องบอกแข่งกับเสียงวงดนตรี

“บ้าเหรอเธียรี่ ของแบบนี้มันก็ต้องแย่งชิงกันหน่อยสิ” อดีตบอดี้การ์ดบอกเสียงกลั้วหัวเราะโดยไม่หันไปมองคนที่ยืนเคียง สายตาของเขามุ่งมั่นกับสายรัดถุงน่องในมือเจ้าบ่าวอย่างมาก

“โรมัน โยนให้เธียรี่เลยสิคะ พี่แนนซี่จะได้เป็นเจ้าสาวคนต่อไป” ดานิกากระซิบบอกหลังเหลือบไปเห็นคนสนิทของเจ้าบ่าวยืนชะเง้อมองมายังเจ้าบ่าวของเธอ ทำราวกับว่าอยากได้สายรัดถุงน่องชิ้นนี้มากที่สุด

“แนนซี่ผมไม่ห่วง เพราะยังไงเธียรี่ก็ไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว แต่ผมอยากเห็นเจ้าสาวของแซคกี้มากกว่า” เจ้าบ่าวยิ้มมุมปาก ดวงตาสีฟ้าฉาบไปด้วยความเจ้าเล่ห์อย่างชัดเจน เมื่อคิดได้ว่าหากน้องบุญธรรมคนใหม่แต่งงานรู้แล้วรู้รอดไป ก็จะไม่ตามมาตอแยเจ้าสาวของเขาอีก ถึงแม้แซคคิโอจะไม่เคยแสดงท่าที่ให้เห็น แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงเยื่อใยบางอย่างที่อดีตบอดี้การ์ดมีต่อเจ้าสาวของเขา

มือหนาจึงยกสายรัดถุงน่องขึ้นจูบพลางอธิษฐานขอให้ผู้ที่ได้สายรัดถุงน่องชิ้นนี้ไป ให้ได้แต่งงานอย่างเร็วที่สุด จากนั้นหันมายื่นสายรัดชิ้นนั้นให้เจ้าสาว

“โมเน่ อธิษฐานสิว่าขอให้ผู้ที่ได้สายรัดชิ้นนี้เป็นเจ้าบ่าวคนต่อไป จูบด้วยนะ”

เจ้าสาวจึงทำตามด้วยความศรัทธา เพราะเธอเองก็อยากเห็นเจ้าสาวของแซคคิโอเช่นกัน

“โอมเพี้ยง” ดานิกาจุมพิตลงบนสายรัดถุงน่องด้วยความเชื่อมั่น ก่อนจะส่งคืนเจ้าบ่าวที่เอื้อมไปหยิบดอกลิลลี่สีขาวบนโต๊ะขึ้นมาหนึ่งดอก เขาผูกสายถุงน่องนั้นกับก้านดอกลิลลี่จนแน่น

“คุณทำอะไรคะโรมัน”

“มันจะได้มีน้ำหนักไง เวลาโยนไปจะได้ถึงเจ้าแซคกี้เลย” บอกแล้วก็หันไปจุมพิตแก้มเจ้าสาวอย่างมีความสุข

“ผมจะไม่ยอมให้แซคกี้มันเป็นคนโสดอยู่เดียว เขาจะต้องมีเมียแต่งงานตามผมมาติดๆ”

“ฉันดูคุณมุ่งมั่นมากเลยนะคะ”

คนเป็นเจ้าบ่าวหัวเราะชอบใจ ก่อนจะชูดอกลิลลี่ที่ใช้สายรัดถุงน่องผูกเป็นรูปโบที่ถึงแม้จะไม่สวยงามสักเท่าไร แต่มันก็เรียบร้อยตามประสาผู้ชายที่ไม่ถนัดงานฝีมือ

“ผมจะโยนแล้วนะ บอกเลยว่าถ้าใครได้สายรัดชิ้นนี้ไป คนนั้นจะต้องเป็นเจ้าบ่าวคนต่อไปในเร็ววันนี้แน่นอน เพราะผมกับเจ้าสาวช่วยกันอธิษฐานด้วยความศรัทธา เพราะฉะนั้นช่วยกันนับหนึ่งถึงสามเลยครับ”

“หนึ่ง...สอง...สาม”

สิ้นเสียงตะโกนนับ เจ้าบ่าวก็เหวี่ยงดอกลิลลี่พร้อมสายรัดถุงน่องจนสุดแรงไปยังทิศทางที่น้องชายบุญธรรมยืน ชายหนุ่มหลายคนต่างยืดแขนกันจนสุด บ้างก็กระโดดเพื่อจะแย่งชิงมาไว้กับตัว แต่ดอกลิลลี่พร้อมสายรัดถุงน่องก็ดูเหมือนว่าจะลอยละลิ่วมุ่งตรงไปยังร่างสูงใหญ่ของแซคคิโอที่วิ่งแทรกทุกคนออกมาแล้วกระโดดชูแขนเอื้อมคว้าเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย สมใจคนเป็นเจ้าบ่าวในที่สุด

“แซคกี้ นายได้” เธียรี่หันมาบอกด้วยความตื่นเต้น

“เออสิ แต่ฉันยังหาเจ้าสาวไม่เจอเลย” ว่าที่เจ้าบ่าวคนต่อไปบอกเสียงกลั้วหัวเราะ เขาขำตัวเองที่ดันนึกสนุกอยากจะแย่งชิงสายรัดถุงน่องเจ้าสาว เจตนาที่แท้จริงไม่ได้อยากได้เพราะอยากจะแต่งงาน

แต่ที่อยากได้ก็เพื่อจะเอามาเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่ามันเป็นของชิ้นสำคัญของผู้หญิงที่เขาเคยหลงรักมาก่อนมากกว่า แต่ตอนนี้เขาคงต้องค้นหาตัวเจ้าสาวให้เร็วที่สุด เพราะดูเหมือนว่าพี่ใหญ่อย่างโรมัน เวย์ริงตันเจตนาจะโยนมาให้เขาโดยเฉพาะ นั่นหมายความว่าถ้าเขาแต่งงานเร็วเมื่อไร ก็จะพ้นข้อหาแอบรักคุณหนูดานิกาเร็วขึ้นเท่านั้น

แซคคิโอ มิเกลลี่บอกตัวเองแบบนั้น ก่อนจะยกดอกลิลลี่ขึ้นสูดดมอย่างมีความสุข จากนั้นซุกมันไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทราคาแพง แล้วส่งยิ้มให้กับบ่าวสาวที่ยืนกอดกันกลางเวที เสียงเพลงประจำงานแต่งดังขึ้นทำให้คนทั้งสองต้องทำหน้าที่เปิดฟลอร์เต้นรำในวันชื่นคืนสุขที่จะตราตรึงเขากับเธอไว้ชั่วนิรันดร์

หญิงสาวรูปร่างเพรียวระหงในชุดพนักงานของโรงแรมชื่อดังแห่งเมืองเซโล่ ประเทศเอสเตน่าก้าวเข้าไปในห้องรับแขกของบ้านกอนซาโล่ ใบหน้าสวยหวานดูวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด ยามดวงตาสวยคมทอดมองไปยังมารดาที่อยู่ในชุดเครื่องแบบของคนรับใช้นั่นก็คือกระโปรงดำที่เก่าคร่ำคร่ากับผ้ากันเปื้อนสีขาวขุ่น

แม่ของเธอมีสีหน้าเศร้า ยืนประสานมืออยู่ตรงประตูห้อง โดยมีนายใหญ่รูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์นั่งอยู่บนโซฟารับแขกด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ที่เธอเห็นแล้วก็แอบหนักใจ เพราะเชื่อว่าแม่คงโดนดุเหมือนกับทุกวันที่ไม่เคยทำอะไรถูกใจสักอย่างจนเธอเองก็ชินชา เพราะเจอมาตั้งแต่เล็กจนโต

“มาแล้วเหรอ” แดเนียล กอนซาโล่ชายวัยหกสิบผู้มีรูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์ด้วยไขมัน คือนายใหญ่ของบ้านกอนซาโล่ที่แม่ของเธอทำงานเป็นหญิงรับใช้มาหลายปีทั้งที่เงินเดือนก็ถูกแสนถูกและไม่เคยได้ตรงเดือนเลยสักครั้ง แต่แม่ของเธอก็ทนทำทนอยู่เพื่อต้องการส่งให้เธอเรียนด้วยเงินเดือนอันน้อยนิด

จนกระทั่งเธออายุครบที่จะสามารถทำงานพิเศษได้ เธอจึงทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยจนจบและได้งานทำเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงแรมแห่งหนึ่งพร้อมกับทำงานนอกเวลากับร้านกาแฟอีกหนึ่งแห่งอีกด้วย จากนั้นเธอขอให้แม่ลาออกจากที่นี่เพื่อไปอยู่ด้วยกันที่คอนโด แต่แม่ก็ยังปฏิเสธบอกว่าเป็นห่วงเจ้านายที่ไม่มีใครดูแล เพราะนายผู้หญิงก็หอบข้าวของทิ้งไปตั้งแต่ที่นี่ตกอยู่ในภาวะถังแตก

ลูกชายคนเดียวของบ้านไม่ยอมทำงานแล้วยังทำตัวเป็นลูกคุณหนูด้วยการเที่ยวเตร่กินเหล้าเล่นการพนัน โดยมีพ่อของเธอติดสอยห้อยตามเป็นองค์รักประจำตัว

“กว่าจะมาได้ ต้องตามแล้วตามอีก เล่นตัวฉิบหายทั้งที่มีข่าวพ่อของมึงด้วย” แดเนียลก่นด่าด้วยความเหนื่อยหอบและไม่พอใจที่เขาใช้หญิงรับใช้เรียกลูกสาวมาเพื่อจะสั่งงาน แต่กลับล่าช้าไปเกือบสองวัน

“หนูต้องเข้าเวร หาใครแทนไม่ได้”

“แกไม่ต้องแก้ตัว” คนเป็นนายตวาดจนหญิงสาวสะดุ้งในขณะที่คนเป็นแม่เอื้อมมาจับมือของเธอกุมเอาไว้ ดวงตาสีดำสนิทปริ่มเต็มไปด้วยหยาดน้ำใสที่พร้อมจะไหลรินหากมีเรื่องกระทบกระเทือนใจมากกว่านี้

“แล้วสรุปมีเรื่องอะไรกันหรือคะ”

“ฉันได้ข่าวพ่อของแกแล้ว”

“อยู่ที่ไหนเหรอคะ”

“ที่อยู่ที่แน่นอนยังไม่มีใครรู้ แต่คนที่รู้มีคนเดียว” แดเนียลเอ่ยเสียงเย็นมองสองแม่ลูกอย่างเหยียดหยาม เพราะเชื่อมั่นว่าจิมมี่ เซอจิโอ้เป็นผู้ชักนำให้ร็อคโค ลูกชายคนเดียวของเขาต้องไปทำอะไรสักอย่างที่ไม่ชอบมาพากล ตอนนี้คนทั้งสองจึงหายตัวไปอย่างลึกลับกว่าสี่เดือนโดยไม่สามารถตามหาตัวได้ จนเขาต้องยอมเสียเงินจ้างนักสืบตามหา สุดท้ายได้มาแค่ว่าคนที่รู้เบาะแสเรื่องนี้มีเพียงคนเดียวคือ

“แซคคิโอ เวย์ริงตัน”

“ลูกบุญธรรมของตระกูลเวย์ริงตันอย่างนั้นเหรอคะ”

“แกรู้จักด้วยเหรอ” ถามแล้วก็สบตารอด้วยแววตาเหยียดหยาม

“เห็นจากนิตยสารเล่มหนึ่งค่ะ ในนั้นมีบทสัมภาษณ์เขานิดหน่อยตอนร่วมงานศพคุณสเตฟาน รัทเทอร์ฟอร์ดที่สุสานแกรนเด้”

“ดูแกรู้จักนายแซคคิโอดีนี่นะ”

“หนูรู้จักเขาจากนิตยสารที่อ่านเจอเท่านั้นค่ะ” ลลิลลิตาตอบอย่างสุภาพพลางบีบมือมารดาให้กำลังใจเพราะเธอรู้ว่าแม่นั้นวิตกกังวลกับการหายตัวไปของพ่ออย่างมาก แต่เธอกับแม่ไม่มีเงินมากพอจะไปจ้างนักสืบออกตามหา ได้แต่รอฟังข่าวจากนายใหญ่ผู้แสนเอาเปรียบ

“นักสืบเขาได้เบาะแสมาว่าไอ้แซคคิโอนี่แหละเป็นคนเอาตัวลูกของฉันกับพ่อของแกไปซ่อน แต่ไม่มีใครรู้ว่าซ่อนที่ไหน เพราะมันปิดปากเงียบมาตลอด”

“หนูไม่เข้าใจว่าเขาจะเอาตัวพ่อกับคุณร็อคโคไปซ่อนทำไม”

“ก็ถ้าแกเจอมันก็ถามให้หายข้องใจหน่อยสิ!” แดเนียลตวาดเสียงดังจนคนทั้งสองสะดุ้งตกใจ

“จะบอกให้ว่าตอนนี้ฉันก็อยากได้คำตอบจากเรื่องนี้มากที่สุด ไอ้เจอรี่คนขับรถมันก็ไม่มาทำงานอีกเลย หาตัวมันไม่ได้  แม่ของแกก็บอกอะไรไม่ได้ว่านายของมันหายไปไหน ไม่รู้ว่ามัวแต่งมหาอะไรอยู่ในครัว บอกได้อย่างเดียวว่าร็อคโคออกไปจิมมี่ แล้วก็มีไอ้เจอรี่เป็นคนขับรถ”

“คุณแดเนียลจะให้หนูทำอะไรเหรอคะ” ลลิลลิตาถามเสียงสั่นนึกสงสารมารดาที่ถูกก่นด่าอยู่ตลอดเวลาหลังจากลูกชายคนเดียวของตระกูลกอนซาโล่หายตัวไปพร้อมกับพ่อของเธอ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าไปไหนถึงแม้จะแจ้งตำรวจแล้วก็ตาม

“ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะใช้แกเป็นเหยื่อล่อให้ไอ้แซคคิโอมันมาติดกับ เพราะแกมันหน้าตาสวยเหมือนนางงาม”

“ยังไงคะ หนูไม่เข้าใจ” คนถามเริ่มใจไม่ดี เธอถูกมารดาบีบมือจนแน่น

“รู้จักนางนกต่อไหม แกต้องไปจัดการหลอกล่อไอ้แซคคิโอให้มันตายใจแล้วล่อมันมาที่นี่ ฉันจะถามมันเองว่าลูกชายฉันอยู่ที่ไหน”

“แล้วหลังจากนั้นล่ะคะ ถ้าเขาแจ้งตำรวจ”

“มันไม่มีทางไปแจ้งตำรวจได้หรอก พอฉันรู้ความจริงแล้วฉันจะฆ่ามัน” แดเนียลบอกด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม

“แต่หนูไม่เห็นด้วย” ลลิลลิตาเถียงออกไปอย่างเหลืออด ถึงแม้จะนึกห่วงผู้เป็นพ่อแต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าแซคคิโอ เวย์ริงตันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย

“แกไม่ห่วงพ่อเลยหรือไง รู้บ้างไหมว่าแม่ของแกน่ะไม่เป็นอันทำงานทำการอะไรหรอก เดี๋ยวๆ ก็เป็นลม จนฉันจะไล่ออกอยู่แล้ว ทำงานไม่คุ้มกับเงินเลยสักนิด”

“แล้วทำไมไม่ไล่ล่ะคะ”

“ลิลลี่ลูก” คนเป็นแม่รีบกระตุกมือบุตรสาวเพราะไม่อยากเห็นคนเป็นนายโมโหโกธรามากกว่าเดิม

“อีลิลลี่ มึงอย่ามาทำอวดเก่งใส่กูนะ มึงลืมไปแล้วหรือไงว่าที่มึงเติบโตมาได้นี่เพราะใคร ไม่ใช่เพราะข้าวแดงแกงร้อนในบ้านนี้หรอกเหรอที่มึงอาศัยกินจนเรียนจบแล้วมีงานการทำน่ะ”

“คุณแดเนียลคะ อย่าโกรธลูกดิฉันเลยค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะคุยกับลูกเอง” เพียงเพ็ญเอ่ยเสียงสั่นด้วยความนอบน้อม

“แม่”

“ลิลลี่ แม่ขอร้องเถอะนะ ทำเพื่อคุณแดเนียลสักนิด ถึงยังไงลูกก็เรียนจบเพราะเงินเดือนที่แม่ได้จากที่นี่นะลูก”

“บอกมันด้วยสิว่า เป็นคนต้องรู้จักกตัญญูรู้คุณ ไม่อย่างนั้นแม่ของมันจะเดือดร้อน”

“นะลิลลี่ ทำเพื่อแม่สักครั้ง”

“แล้วถ้าเขาเกิดตายขึ้นมาล่ะคะแม่”

“แล้วถ้าไอ้คนนั้นมันฆ่าพ่อแกตายแล้วล่ะ แกไม่คิดจะแก้แค้นบ้างหรือไง หรือว่าไอ้จิมมี่มันไม่ใช่พ่อของแก” แดเนียลตวาดเสียงห้วน

“ลิลลี่ ได้โปรดเถอะลูก” คนเป็นแม่วอนเสียงเครือ น้ำตาไหลอาบสองแก้มที่ซูบซีด

“แม่ต้องรับปากก่อนว่าถ้าหนูทำเรื่องนี้เสร็จแล้ว เราจะออกไปจากที่นี่กัน”

“เออ ฉันจะคืนพาสปอร์ตของแม่แกให้ด้วย” คนเป็นนายบอกเสียงห้วนอย่างหงุดหงิด

“ถ้าอย่างนั้นหนูต้องทำยังไงบ้าง”

“ก็แค่นั้นแหละ ต้องให้พูดมาก เพ็ญไปหาน้ำชามากินแก้เจ็บคอหน่อยสิ ฉันจะบอกเล่าแผนการให้ลูกแกฟังคร่าวๆ ก่อนด้วย”

ลลิลลิตาจึงต้องนิ่งฟังแผนการอย่างตั้งใจ ทั้งที่เธออยากจะตามหาด้วยวิธีอื่นตามประสาคนไม่มีเงิน ทุกวันนี้เธอใช้วิธีติดประกาศตามบอร์ดและใช้โซเซียลเน็ทเวิร์ดให้มีประโยชน์ แต่มันก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ แล้วนี่มาให้เธอทำตัวเป็นนางนกต่อทั้งที่ไม่อยากทำสักเท่าไร แต่ก็ต้องจำใจ เพราะถึงอย่างไรพ่อของเธอก็อาจจะกลับมาตามความต้องการของแม่ ทั้งที่พ่อไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูอย่างที่ควรจะเป็น เงินเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้จากการเดินตามก้นร็อคโค กอนซาโล่ก็หมดไปกับการพนันทุกชนิด จนแม่กับเธอเอือมระอาในพฤติกรรม แต่แม่ก็ไม่เคยคิดจะไปจากพ่อ ยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ที่นี่ราวกับจะรอให้พ่อกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีในวันข้างหน้าที่เธอไม่รู้ว่าจะมีวันนั้นไหม แต่แม่ก็ยังบอกกับเธออย่างมีความหวังว่า สักวันพ่อคนเดิมของเธอจะต้องกลับมา