“โหวเยว่ซิน” โชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้ไม่อาจแปรเปลี่ยน
รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,จีน,ย้อนยุค,แค้น,เกิดใหม่,เกิดใหม่ในร่างคนอื่น,จีนโบราณ,รัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ลิขิตรักแห่งดวงจันทร์“โหวเยว่ซิน” โชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้ไม่อาจแปรเปลี่ยน
โชคชะตาที่มิอาจขวางกั้นนำพาให้มาเจอกับเรื่องสุดแปลกที่ไม่อาจจะคาดถึง แสงแห่งจันทร์นำทางให้เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่เพื่อกลับมาทวงความยุติธรรมคืน แต่เรื่องราวนั้นกลับเต็มไปด้วยกลิ่นของความแค้น จากคนแปลกหน้าก็แปรผันกลายเป็นคนรัก เรื่องรางสุดแสนจะวุ่นวายนี้เธอจะผ่านมันไปได้อย่างไร
สาวใช้มากมายต่างนำอาหารจัดขึ้นที่โต๊ะรวมถึงของบำรุงที่ถูกจัดแจงโดยฮูหยิน เธอในตอนนี้กลับรู้สึกไม่ประหลาดใจเลยที่ตระกูลโหวจะมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทางเดียวกันว่าร่ำรวยเพียงใด ด้วยตระกูลโหวนั้นก่อนหน้าที่เธอจะสิ้นลมหายใจจำได้เพียงตระกูลจางที่เธอจากมาวางแผนการร้ายต่อตระกูลโหวเอาไว้เพื่อใส่ร้ายร่วมกับเหล่าขุนนางอื่น ตระกูลจางนั้นเป็นขุนนางที่มีฐานะทางสังคมรองจากตระกูลโหวจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกหากต้อฃการที่จะสร้างผลงานและเลื่อนยศตำแหน่งในราชสำนัก เพียงแต่ท่านจางเฟิงเหมียนนั้นมีภรรยาถึงสองคน ซึ่งเธอในร่างของโหวเยว่ซิน ในอดีตคือบุตรสาวเพียงหนึ่งเดียวที่มาจากฮูหยินใหญ่ของตระกูลจาง นามว่า จางซิงเยียน และอนุที่มีบุตรเพียงหนึ่งคนเช่นกันนามว่า จางซูเจิน เมื่อฮูหยินใหญ่สิ้นลมหายใจได้ไม่นานหลังจากที่คลอดบุตรสาว ท่านจางก็ได้แต่งตั้งอนุให้เป็นฮูหยินใหญ่ภายในบ้าน จางซิงเยียนก็ถูกกลั้นแกล้งสารพัดจากจางซูเจิน อีกทั้งท่านจางยังเอนเอียงไปทางฝั่งจางซูหนิงเท่านั้น เพราะเขาคิดเพียงเพราะจางซิงเยียนเป็นตัวอัปมงคลมีดวงชะตากลืนกินมารดา นั้นทำให้เธอตระหนักได้ว่าสิ่งที่ต้องทำคือขัดขวางแผนการชั่วร้ายนั้นเอาไว้ให้ได้ เนื่องจากตอนนี้มีเพียงตระกูลโหวเท่านั้นที่จะสานต่อความต้องการที่จะทำให้สำเร็จได้ สิ่งที่เธอผิดหวังมากที่สุดคืออำนาจที่เคยมีในมือแต่เธอไม่เคยคิดที่จะใช้มันเพียงเพราะเห็นแก่ความเป็นพี่น้อง
“จางซูเจิน ข้าจะทำให้เจ้าได้ลิ่มลองรสชาติของการถูกเหยียบย่ำมันเป็นอย่างไร” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเบาเพียงพูดกับตัวเอง
“คุณหนูพูดว่าอะไรนะเจ้าคะ”
“เปล่าข้าจะถามเจ้าอีกครั้งน่ะว่าเจ้าชื่ออะไร”
“ข้าน้อยซูลี่เจ้าค่ะ”
“แล้วเจ้า..”
“ข้าน้อยเป็นสาวใช้ที่เคียงข้างคุณหนูมาตั้งแต่เด็กๆเจ้าค่ะ”
“แล้วข้านอนไปนานแค่ไหนแล้วละ”
“คุณหนูนอนแน่นิ่งไปเก้าสิบสองวันแล้วเจ้าค่ะ หลังจากที่คุณหนูประสบเหตุโจรจะปล้นชิงทรัพย์ แล้วหัวของคุณหนูได้รับการกระแทกจากของแข็งจึงทำให้นอนแน่นิ่งไปเจ้าค่ะ”
“หาาาา! แล้วใครกันที่ช่วยข้าไว้”
“เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ข้าเองก็เห็นใบหน้าไม่ชัดเท่าไหร่นัก”
“อ่า เป็นเช่นนี้นี่เอง”
(น่าแปลกหากแต่ข่าวที่แพร่ออกมาเป็นทหารลาดตระเวนผ่านทางไปเห็นพอดี ใยจึงเป็นผู้ชายครหนึ่งเท่านั้น หากไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอันใดใยต้องปิดบังตัวตนด้วย เพียงแต่อาจจะเป็นบุคคลที่มีอำนาจหรือขุนนางในวังหลวงก็เป็นได้)
“คุณหนูพูดว่าอย่างไรนะเจ้าค่ะ”
“ไม่มีอันใดเจ้าน่ะมาช่วยข้าแต่งตัวหน่อย ข้าอยากออกไปสูดอากาศสักหน่อย”
“รับทราบเจ้าค่ะ แต่จะออกไปคุณหนูต้องขออนุญาตจากฮูหยินก่อนนะเจ้าคะ”
“ข้ารู้แล้วหน่า”