“โหวเยว่ซิน” โชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้ไม่อาจแปรเปลี่ยน

ลิขิตรักแห่งดวงจันทร์ - ตอนที่ 6 ชวนสงสัย โดย คุณหนูใหญ่แห่งหลัิงอัน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,จีน,ย้อนยุค,แค้น,เกิดใหม่,เกิดใหม่ในร่างคนอื่น,จีนโบราณ,รัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ลิขิตรักแห่งดวงจันทร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,จีน,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แค้น,เกิดใหม่,เกิดใหม่ในร่างคนอื่น,จีนโบราณ,รัก,ดราม่า

รายละเอียด

ลิขิตรักแห่งดวงจันทร์ โดย คุณหนูใหญ่แห่งหลัิงอัน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“โหวเยว่ซิน” โชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้ไม่อาจแปรเปลี่ยน

ผู้แต่ง

คุณหนูใหญ่แห่งหลัิงอัน

เรื่องย่อ

โชคชะตาที่มิอาจขวางกั้นนำพาให้มาเจอกับเรื่องสุดแปลกที่ไม่อาจจะคาดถึง แสงแห่งจันทร์นำทางให้เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่เพื่อกลับมาทวงความยุติธรรมคืน แต่เรื่องราวนั้นกลับเต็มไปด้วยกลิ่นของความแค้น จากคนแปลกหน้าก็แปรผันกลายเป็นคนรัก เรื่องรางสุดแสนจะวุ่นวายนี้เธอจะผ่านมันไปได้อย่างไร


สารบัญ

ลิขิตรักแห่งดวงจันทร์-ตอนที่ 1 จุดจบและจุดเริ่มต้น,ลิขิตรักแห่งดวงจันทร์-ตอนที่ 2 การถูกสับเปลี่ยน,ลิขิตรักแห่งดวงจันทร์-ตอนที่ 3 โลกใหม่,ลิขิตรักแห่งดวงจันทร์-ตอนที่ 4 โชคชะตาแห่งการเปลี่ยนแปลง,ลิขิตรักแห่งดวงจันทร์-ตอนที่ 5 บังเอิญพบ,ลิขิตรักแห่งดวงจันทร์-ตอนที่ 6 ชวนสงสัย,ลิขิตรักแห่งดวงจันทร์-ตอนที่ 7 งานมงคล,ลิขิตรักแห่งดวงจันทร์-ตอนที่ 8 การจากลา

เนื้อหา

ตอนที่ 6 ชวนสงสัย

เมื่อเขาขึ้นรถม้าไปก็พบว่าหญิงสาวที่ได้พบเมื่อครู่ช่างคุ้นเคยราวกับว่าเขาและเธอเคยพบกันมาแล้วเมื่อนาน กลิ่นของเหมยกุ้ยฮวาหอมเสียจนน่าจดจำจากตัวของแม่นางท่านนั้นทำให้เขาเองอดไม่ได้ที่จะพึงนึกถึงและพร่ำหา แต่ทว่าเขาในตอนนี้มีเหตุต้องไปจัดการให้แล้วเสร็จอีกทั้งเขากำลังจะแต่งงานกับตระกูลที่เขาต้องการปรองดองด้วยมากท่สุด เพราะตระกูลนี้นั้นมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในวังหลวง เขาเป็นสหายเพียงคนเดียวที่แม่ของเขาเคยมีก่อนจะสิ้นลมหายใจ การตายที่เป็นปริศนาแม้คนทั่วไปจะมองว่าไม่มีอะไรที่น่าสงสัย แต่จริงๆแล้วเรื่องนี้กลับน่าสงสัยมากที่สุด 

“เจียวมิ่ง”

“ขอรับท่านอ๋อง”

“เจ้าจงไปตามสืบว่าแม่นางที่ข้าพึ่งพบหอตำรานั้นเป็นคนของตระกูลใด”

“ว่าแต่ท่านอ๋องคงไม่ได้สนใจนางหรอกนะขอรับ”

“เจ้านี้ ข้าจะรับฮูหยินอยู่แล้ว แค่รู้สึกคุ้นหน้านางน่ะ”

“รับทราบท่านอ๋อง ข้าจะไปตามสืบเดี๋ยวนี้ขอรับ”

ณ จวนตระกูลโหว ข้าวของมากมายที่เรียงรายอยู่ภายในห้องทำให้เธอนึกถึงวันที่จะต้องแต่งงานเข้าจวนอ๋อง แต่ครานั้นที่เธอยังเป็นจางซิงเยียน เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับหวังอ๋องที่เธอเคยได้ยินจากชาวบ้านว่า เขานั้นมีรูปโฉมที่งดงาม เพียงก้าวเดินก็ราวกับว่าเดินอยู่บนเมฆหมอก แต่ทว่าชาวบ้านบางคนก็เล่าว่า นิสัยของหวังอ๋องยากแท้หยั่งรู้ได้ ถึงภายนอกจะดูอ่อนน้อมเพียงใดแต่ก็ใช่ว่ามิโหดร้ายจนฆ่าผู้ใดไม่ได้ เคยมีสตรีนางหนึ่งบอกเอาไว้ว่านางเห็นกำลังพลจำนวนหนึ่งกำลังทรมานชายผู้หนึ่งเพื่อให้พูดบางอย่างก่อนจะฆ่าเขาทิ้ง แต่คนที่นางเห็นกลับเป็นหวังอ๋องนางจำเขาได้ เนื่องจากนางอ้างว่าเคยเห็นหน้าจังๆของหวังอ๋อง แม้เขาจะสวมอาภรณ์สีดำที่ปกปิดใบหน้าเพียงครึ่งหนึ่งนางก็จำเขาได้ ถึงกระนั้นก็มีเพียงคำพูดไม่ได้หลักฐานอันใดก็คงไม่น่าเชื่อถือเท่าใด 

ทว่า

สิ่งที่โหวเยว่ซินแปลกใจมากที่สุดก็คือสาวใช้ภายในเรือน เมื่อเห็นหน้าของเธอในร่างของโหวเยว่ซินแล้วกลับมีอาการสั่นสายตาส่อถึงความหวาดกลัวทำอันใดไม่ถูก ต้องคอยก้มหน้าตลอด เธอนั่งครุ่นคิดขณะยกชาพลันสงสัยจึงเอ่ยถามกับซูลี่

“แล้วปกติข้าเป็นคนยังไงหรอ ข้ารู้สึกว่าสาวใช้ในเรือนมองข้าแปลกๆ”

“เอ่อ.. คุณหนูค่อนข้างเอาแต่ใจและโหดร้ายเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่”

“ข้าโหดร้ายเพียงใดเล่า”

“สั่งโบยสาวใช้จนสิ้นลมหายใจเจ้าค่ะ”

“เหตุอันใดเล่า”

“เพราะสาวใช้คนนั้นทำตามที่คุณหนูรับสั่งได้ไม่ดีเจ้าค่ะ”

“ข้าคงทำให้พวกเจ้าลำบากมามากสินะขอบใจเจ้ามากนะ”

“ไม่ได้เจ้าค่ะคุณหนู เพราะพวกข้าน้อยถูกอบรมมาเพื่อดูแลคุณหนูให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ เป็นรับสั่งของใต้เท้าโหวที่มีต่อท่าน”

“ท่านพ่อคงจะรักข้ามากสินะ”

“ฮูหยินและใต้เท้ารักคุณหนูมากเจ้าค่ะ ไม่เคยขัดคุณหนูแม้แต่ครั้งเดียว”

“ว่าแต่.. เจ้าน่ะไม่กลัวข้าหรือ”

“ถึงกลัวเพียงใดข้าก็จะเคียงข้างคุณหนูเจ้าค่ะ เดิมท่านไม่ได้โหดร้ายถึงเพียงนี้ เพียงแต่เมื่อก่อนท่านมีรูปร่างอวบอั๋นกว่าตอนนี้จึงทำให้ถูกรังแกจากเด็กคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง หลังจากนั้นคุณหนูก็ไม่พบเจอใครเลยอีกทั้งยังซ่อนตัวเองอยู่ในจวน มักจะหาวิธีเพื่อให้ตัวเองงดงามอยู่เสมอเจ้าค่ะ”

“เป็นเช่นนี้สินะ”