ใช่แล้ว คุณนั่นเอง คุณคือคนที่ฉันกำลังตามหาคนที่เคยแกล้งฉันสมัยเรียน ทำไมกันล่ะ อะไรทำให้เราสองคนต้องจากกัน
รัก,ตลก,ชาย-หญิง,ไทย,รั้วโรงเรียน,รัก,รักเก่า,รักเดียวใจเดียว,รักหวานแหวว,รักโรแมนซ์,รั้วโรงเรียน,รักโรแมนติก,รักตั้งแต่เด็ก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เขาคนนั้น ไปอยู่ไหนกันนะใช่แล้ว คุณนั่นเอง คุณคือคนที่ฉันกำลังตามหาคนที่เคยแกล้งฉันสมัยเรียน ทำไมกันล่ะ อะไรทำให้เราสองคนต้องจากกัน
ไออุ่น เด็กสาวอ่อนโยน ขี้เล่น เธอมีความทรงจำในวัยเด็กช่วงมัธยมว่าเคยเจอรักครั้งแรกแต่แล้วมีบางอย่างทำให้ทั้งคู่เลิกรากันไป หนึ่งปีผ่านมาเธอได้ก้าวเข้าสู่มัธยมปลายความทรงจำความรักของเธอหายไปหมด อยู่มาวันหนึ่งโรงเรียนจัดงานกีฬาสี ไออุ่นได้เจอผู้ชายคนหนึ่งมาขอจีบเธอ บอกว่า ฉันคือคนในรูปนี้ รูปที่เธอถืออยู่นั้นเป็นรูปรุ่นตอนมัธยมต้น เธอทำหน้าตะลึงเหมือนเจอคนแปลกหน้าจากนั้นเธอรีบหนีเขาไปทันที รักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร รอดูกัน
เวลาผ่านไปหลายวัน ปิดเทอมได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ทั้งคู่เริ่มไม่เจอกันเนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมที่ยาวนานมากเป็นเวลาสามเดือน เด็กสาวกลับบ้านด้วยความดีใจหลังจากไม่ได้กลับไปนาน ตอนนี้เธอกำลังเลื่อนชั้นเรียนเป็นปีสอง ในระหว่างเข้าห้องนอนส่วนตัวเธอได้คิดถึงวันวานที่มีอะไรกันกับไทเกอร์ จากนั้นเธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาเขา เขารีบกดรับอย่างเร็วที่สุดเหมือนของขาดมานาน
“สวัสดีครับคนสวย...เป็นไงบ้าง”เขาพูดด้วยน้ำเสียงหวานทำให้เธอเคลิ้มตั้งแต่คำแรก
“ฮื้ม...ปากหวานจังเลยนะคะ”เธอเสยผมพร้อมทั้งยิ้มอย่างปิดปากแต่ยังเผยให้เห็นรอยยิ้ม
“คิดถึงเธอแล้วสิ....ไปหาเธอได้ไหม”
“จะบ้าเหรอ..พ่อแม่ฉันอยู่นะ”
“งั้นเอางี้ไหม..มีวันไหนที่ออกข้างนอกบ้าง”
“วันเสาร์อาทิตย์ จันทร์ถึงศุกร์พ่อแม่ฉันไปทำงาน”ชายหนุ่มลังเลว่าจะเอาวันไหนดี ซึ่งวันนี้เป็นวันอังคาร รออีกนานกว่าจะถึงวันนั้น เขาหน้าหงิกหน้างอไปพักหนึ่ง วางโทรศัพท์ลงแล้วหยิบขึ้นมาตอบอย่างมั่นใจ
“วันเสาร์นี้จะได้ไหม”เขาเม้มปากกลัวว่าเธอจะตอบว่าไม่ได้ ระหว่างโทรศัพท์กันอยู่นั้น แม่ไออุ่นเปิดประตูห้องนอนเพื่อมาราตรีสวัสดิ์ ไออุ่นตอบรับแม่ตามกิจวัตร
“แค่นี้ก่อนนะ..ฉันต้องนอนล่ะ”
“เดี๋ยวก่อนคุณ..สรุปมาได้ไหม”
“ตื้ด..ตื้ด..ตื้ด”เสียงโทรศัพท์วางสายไปแล้ว เขาเกิดอาการหัวร้อน ตบไปที่ขาตัวเอง จากนั้นเขาคลุมผ้านอนไปอย่างดื้อๆ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาไออุ่นแทบจะไม่ได้ออกจากบ้าน เวลาออกไปซื้อของที่ไปเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์กลายเป็นว่าไม่ได้เข้าตัวเมืองแต่ซื้อตลาดละแวกบ้านแทนเนื่องจากความยากจน ไออุ่นติดต่อไทเกอร์ไม่ได้เพราะต้องหาเงินมาจ่ายค่าโทรศัพท์ เธอออกไปซื้อบัตรเติมเงินที่ร้านขายของชำ เมื่อเธอได้ยินคำพูดของแม่ค้ามันช่างดูแพงมากแต่ยอมจ่ายไป เธอกลับบ้านไปเติมเงินในโทรศัพท์ พ่อแม่เธอยังอยู่ในภาวะซึมเศร้า เครียดหนัก ไออุ่นเดินเข้าห้องนอนทันทีเพื่อไม่ให้พ่อแม่รู้เรื่องว่าเธอไปซื้ออะไรมา ถ้าเห็นว่าเป็นของแพงคงจะดุร้ายใส่เอไม่เบา ไออุ่นเติมเงินเสร็จ เธอรีบโทรหาไทเกอร์อย่างเร่งรีบแต่เธอกลับได้ยินเขาพูดคุยกับสาวคนอื่น นั่นทำให้เธอวางสายไปแล้วไม่คุยกับเขาอีก
“ทำไม..ทำไมเป็นอย่างนี้”เธอนั่งร้องไห้ทั้งคืนจนเผลอหลับไปในเวลาเที่ยงคืนของวันนั้น
“กริ๊ง..กริ๊ง”เสียงโทรศัพท์เธอดังขึ้นตอนหกโมงเช้า
“ใครโทรมาแต่เช้าวะ”ไออุ่นคว้าโทรศัพท์ตรงหัวเตียง สายนั้นโผล่ชื่อใครไม่รู้ ไออุ่นมองไม่ชัดจึงรับสายไปปรากฏว่าเป็น ไทเกอร์ เขาโทรกลับมาหาเธอแล้ว เขาได้เฉลยว่าเสียงผู้หญิงคนนั้นคือแอร์โฮสเตส เขากำลังถามถึงการสมัครเป็นนักบิน เมื่อได้ยินคำพูดทั้งหมดทำให้ไออุ่นสับสนว่าทำไมทั้งที่อยากเป็นนักบินทำไมต้องเรียนสถาปัตย์ เขาจึงตอบกลับไปอย่างมีเหตุผล
“เพราะว่าฉันนึกอยากเปลี่ยนขึ้นมา..แต่ไม่ทันแล้ว..ไม่อยากออกไปแล้วไปเรียนที่อื่นเพราะมันเหนื่อย..แต่โชคดีไปบริษัทไม่ขออะไรมาก..ขอแค่บริการผู้โดยสารได้ดีก็พอ”
“เฮ้อ..เปลี่ยนจนได้”
“แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง..ทำไมฉันโทรหาเธอไม่ติดเลย..เป็นอะไรเปล่า..มีอะไรบอกฉันได้นะ”เขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ดูนุ่มนวลชวนหลงใหลทำให้เธอร้องไห้ออกมาและพูดไม่ออกว่าจะตอบโต้อย่างไร
“เอาล่ะไออุ่น..ไม่เป็นไร..ไว้เปิดเทอมค่อยเจอกันใหม่..เธอไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ..ถ้าเจอกันก็คุยกับผมให้เต็มที่เลย”
“เธอนี่หางานได้ไวจังเลยนะ..ฉันนี่หางานยังไม่ได้ตอนนี้เลย..ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นอะไรดี..จะเป็นนักเขียนหรือนักวาดดี”เธอพุดด้วยเสียงร้องไห้ออกมาทำให้เขาต้องตั้งใจฟังว่าเธอพูดอะไร
“ช่วงนี้ยังอยู่ปีหนึ่งกำลังจะขึ้นปีสอง..ไม่ต้องคิดมาก..ไปเที่ยวเล่นก่อน..ถ้าปีสามเมื่อไหร่ล่ะก็เรามาเล่นทดสอบอาชีพกัน ถนัดอันไหน..ไปตามนั้น”
“ได้สิ..ฉันจะทำ”
“ไออุ่น..ไม่ว่าเธอจะได้ทำงานอะไรฉันจะไม่ดูถูกเธอสักคำ”เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งแต่ทำให้เธอเชื่อเขาได้
เช้าวันต่อมาไออุ่นตื่นเช้าอย่างสดใส พ่อแม่ของเธอคิดว่าจะขายของหารายได้ พวกเขาหาตลาดใกล้บ้านจนได้ในทันที คิดว่าจะขายผักผลไม้โดยจะซื้อมาปลูกเอง อาจจะลงทุนไปเยอะหน่อยแต่พอเอามาขายคุ้มมาก ได้เยอะแถมยังได้ค่าน้ำค่าไฟมาบ้าง แค่นี้ทำให้พวกเขาไม่ต้องเครียดอีกต่อไป พวกเขาไม่หยุดหย่อน ทำต่อไปทั้งปลูกต้นไม้ มีผักผลไม้ชนิดใหม่เพิ่มมาทุกวันทำให้ลูกค้าแปลกใจว่าไม่เคยกินผักชนิดนี้มาก่อน ต่างเป็นผักที่หายากแล้วไม่ค่อยมีใครเอามาปลูกเนื่องจากราคาแพง
ไออุ่นคิดไอเดียขึ้นมาว่าตัวเองอยากขายเหมือนพ่อแม่บ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม เธอคิดหาในสิ่งที่ชอบ อาทิเช่น ถักไหมพรม ร้อยลูกปัดเป็นพวงกุญแจ เธอทำไปทำมาลูกค้าแถวนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไรเพราะมันดูรำคาญแถมวัยรุ่นไม่ค่อยมาเดินตลาดสด เจ้าของตลาดบอกว่าเธอไม่ควรไปขายกับผัก ควรไปขายตามโรงเรียน เด็กสาวจึงคิดเลิกทำแล้วทิ้งไป เธอลองค้นหาในสิ่งที่เธอชอบไปทั้งวันจนได้ผลออกมาเป็น หนังสือ เธอคิดจะขายหนังสือเก่าแต่ต้องขอขายแยกกับพ่อแม่
หลังจากนั้นไออุ่นเดินไปขอเจ้าของตลาดในโรงเรียนที่อยู่ข้างตลาดสด เธอบอกเขาว่าขอขายหนังสือการ์ตูนเก่าให้เด็กพวกนี้อ่าน เธอมีอยู่เยอะมากในกล่องอันใหญ่โต เจ้าของตลาดยังอยากหยิบมาอ่านเพราะหนังสือการ์ตูนเก่าแบบนี้หายไปนานมาก เขาตามหาที่ไหนไม่เจอ จากนั้นเขาได้ส่งเลขล็อตตลาดไปให้เธอ มือของเขาเขียนอย่างช้าๆ เขามองไปที่หนังสือที่หยิบมาจากลังของเธออย่างภาคภูมิใจ และเขายื่นกระดาษเขียนล็อตอย่างนุ่มนวล
“เล่มนี้เท่าไรล่ะ”เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงหวานอันสุดลึกซึ้ง
“แค่15บาทค่ะ”
“ว้าว..ถูกจัง”
“แต่พี่ไม่ต้องจ่ายหรอกค่ะ..พี่เป็นเจ้าของตลาด..อย่าเลยค่ะ”
“ทำไมล่ะ..อ่าพี่ให้..เอาไปเลย..20 บาท..เก็บไว้เป็นค่าเรียนนะ”
“ขอบคุณมากค่ะ”เธอไปตามหมายเลขที่เขียนไว้ เลขนั้นเขียนไว้ว่า123 เธอเดินไปจนสุดเห็นพอดี เธอกำลังหยิบของมาตั้งร้านอย่างสนุกสนานแต่ทันใดนั้นเองมีลุงป้าคู่หนึ่งบอกว่าเธอมาแย่งที่ของเขา เธอไม่กลัวจึงยื่นกระดาษนั่นไปให้ลุงป้าคู่นั่นไป เมื่อเขาดูไปสักระยะหนึ่งเขาหันกลับมามองหน้าเธออีกครั้งแล้วคืนกระดาษให้เธอ
“ทำไม..อีกระดาษนั่นมันเกี่ยวอะไร..ฉันจะตั้งตรงนี้..นี่มันที่ของฉัน..ฉันอยู่ตรงนี้ ขายตรงนี้ทุกวัน”ป้าคนหนึ่งสวนกลับใส่เธอด้วยวาจาที่รุนแรง ทำให้เธอต้องยอมออกไปเพื่อไปช่วยพ่อแม่ขาย
ไม่นานชายหนุ่มเดินตัดหน้าลุงป้าเข้ามาบอกว่าเธอไม่ต้องเก็บของ เดี๋ยวเขาจะช่วยขายเอง ลุงกับป้าแทบจะยกมือกราบไหว้เขาและออกไปปทันทีเพื่อที่จะขอเลขใหม่
“ไม่ต้องกลัวนะ..พวกนั้นไปแล้ว”ชายเสื้อฮู้ดคลุมหน้าก้มมาหาเธอระหว่างที่เธอกำลังเก็บของแล้วเอาออกมาวางใหม่
“คุณเป็นใครกัน..แล้วทำไมคุณปกป้องฉัน” ชายหนุ่มเปิดหมวกของชุดคลุมออกมา ทำให้เธอเห็นใบหน้าเขาอย่างตกใจ
“ไท..ไทเกอร์..มาได้ไง..แล้วทำไมเมื่อกี้ลุงป้าคู่นั้นต้องกราบไหว้เธอ”
“เฮ้อ..ฉันจะบอกอะไรให้นะ..พ่อฉันเป็นเจ้าของตลาด..นี่แล้วทีนี้ไม่ต้องกลัวนะ..มา..ฉันจะช่วยเธอขาย..นี่ไม่คิดเลยนะว่าเธอจะมาขายของนะ..เป็นอะไรหรือเปล่า”เขาถามท่าทางดูเป็นห่วงเธอ แต่เธอไม่อยากให้เขาเป็นห่วงมากไปจึงตอบไปว่า
“ฉันแค่อยากมาหารายได้เสริม”ในจิตใจเขากลับไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูด
“ไม่เอาน่า..ไออุ่น..บอกมาเถอะ...ฉันเห็นเธอไม่รับสายฉันตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนะ..เป็นอะไร..ฉันก็เป็นเพื่อนเธอคนหนึ่งนะ..เป็นแฟนเธอด้วย...ฉันเป็นห่วงเธอนะ”
เธอไม่ยอมตอบอะไร เธอหยิบหนังสือในลังเอามากองวางขาย สีหน้าเธอไม่อยากสบตาเขา ไทเกอร์ยื่นหน้ามาหาเธอ เด็กสาวถึงกับร้องไห้ออกมาเธอบอกความจริงกับเขาไปว่า
“บ้านฉันยากจนขึ้น..ก็เลยมาขายของ..บริษัทที่พ่อแม่ฉันทำนั้นล้มละลาย”เธอขอพูดแค่นี้และขอขายของต่อ เขาไม่ยอม เขาขอช่วยขายของไปกับเธอ สตางค์ที่เธอได้มานั้นทำให้เธอได้ฟื้นกลับมาอีกครั้งแถมเธอยังได้ช่วยพ่อแม่อีกด้วย พ่อแม่ภูมิใจในตัวเธอและยังยอมให้เธอมีแฟนเนื่องจากเห็นแฟนเธอยอมช่วยทุกอย่าง
จากนั้นไออุ่นเตรียมกลับบ้าน เธอยื่นเงินที่ขายหนังสือได้ให้พ่อแม่แต่พวกเขากลับไม่เอา บอกให้เธอเอาไปใช้เรียน ต่อจากนั้นมาเธอไปขายของทุกวันระหว่างปิดเทอมทั่วทุกสถานที่ แล้วไทเกอร์ตามไปช่วยเธอด้วยอย่างไม่ขาดสายในทุกวัน