เธอนั่งอยู่ตรงข้ามพี่ชาย ดวงตาจับจ้องเขาอย่างเงียบงัน หวังว่าเขาจะเงยหน้าขึ้นมามองเธอบ้าง แต่เขากลับก้มหน้ากินข้าวอย่างสงบเงียบจานข้าวของเขาวางอยู่บนโต๊ะไม้เก่าที่มีรอยขูดขีดจากการใช้งานมานาน มันดูไม่ต่างจากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยร่องรอยที่ไม่เคยได้รับการซ่อมแซม เสียงช้อนกระทบกับจานกระเบื้องเป็นจังหวะเดียวที่ตอกย้ำถึงการมีตัวตนของเขาในตอนนี้ ส่วนเธอ... แม้จะนั่งอยู่ตรงนี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนเธอเป็นเพียงเงาบางๆ ที่เขาไม่เคยรับรู้
ดราม่า,แฟนตาซี,อื่นๆ,ข้ามเวลา,ครอบครัว,ย้อนเวลา,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดผ่านหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ ลำแสงบางเบาทาบลงบนพื้นกระเบื้องสีขาวหม่นที่มีรอยถลอกประปราย แสงสะท้อนกับผนังที่เริ่มซีดลงจากกาลเวลา ดูเหมือนพยายามจะปลุกชีวิตในห้องให้สดใสขึ้น แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน บรรยากาศในห้องนี้ก็ยังคงนิ่งและเงียบงัน...
เสียงรถยนต์จากถนนด้านล่างแว่วขึ้นมาเป็นระยะ สลับกับเสียงนกร้องจางๆ ที่เหมือนจะมาจากที่ไกลๆ เสียงพัดลมเพดานเก่าๆ ที่หมุนอย่างเชื่องช้าดังก๊อกแก๊กเบาๆ คล้ายกับจังหวะของหัวใจที่กำลังชะลอตัว เธอนั่งอยู่ตรงข้ามพี่ชาย ดวงตาจับจ้องเขาอย่างเงียบงัน หวังว่าเขาจะเงยหน้าขึ้นมามองเธอบ้าง แต่เขากลับก้มหน้ากินข้าวอย่างสงบเงียบ
จานข้าวของเขาวางอยู่บนโต๊ะไม้เก่าที่มีรอยขูดขีดจากการใช้งานมานาน มันดูไม่ต่างจากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยร่องรอยที่ไม่เคยได้รับการซ่อมแซม เสียงช้อนกระทบกับจานกระเบื้องเป็นจังหวะเดียวที่ตอกย้ำถึงการมีตัวตนของเขาในตอนนี้ ส่วนเธอ... แม้จะนั่งอยู่ตรงนี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนเธอเป็นเพียงเงาบางๆ ที่เขาไม่เคยรับรู้
ลมเย็นจากหน้าต่างพัดเข้ามาปะทะผ้าม่านเก่าๆ ที่สีเริ่มซีดจนแทบมองไม่ออกว่าเคยเป็นสีอะไร เสียงมันดังพลิ้วเบาๆ คล้ายจะบอกว่าโลกภายนอกยังคงเคลื่อนไหว ขณะที่เธอนั่งอยู่ในห้องที่เหมือนถูกตัดขาดจากทุกสิ่งทุกอย่าง ความเงียบนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังถูกกลืนเข้าไปในห้องนี้อย่างช้าๆ
เธอหันไปมองเขาอีกครั้ง เสียงจังหวะการทานข้าวของเขายังคงดังอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าเขารับรู้ถึงการมีอยู่ของเธอเลย เสียงหัวใจเธอเต้นช้าๆ เหมือนพยายามซ่อนความเจ็บปวดที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจ ความรู้สึกนี้มันเหมือนกับการตอกย้ำว่าทุกสิ่งที่เธอทำมาตลอดนั้น... อาจไม่มีความหมายสำหรับเขาเลยแม้แต่น้อย
เสียงรถยนต์ด้านนอกดังขึ้นอีกครั้ง แสงแดดจากหน้าต่างยังคงพยายามส่องลงมา แต่กลับทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งกว่าเดิม ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เสียงเงียบที่กัดกินหัวใจของเธอช้าๆ... เหมือนว่าเธอกำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของห้องนี้ไปอย่างสมบูรณ์
---------------------------------------
บทที่2
"Invisible Threads"
เส้นด้ายที่มองไม่เห็น
หลังจากพี่ชายออกจากบ้าน เด็กสาวเดินลงบันไดไปยังชั้นล่างของอพาร์ทเมนท์ เสียงฝีเท้าดังเป็นจังหวะไปตามบันไดที่ยังคงเปียกชื้นจากฝนเมื่อเช้า สักพักก็ถึงชั้นล่างและพบกับร้านข้าวตามสั่ง ร้านนี้ไม่เหมือนร้านทั่วไปที่มีประตูเปิดตลอดเวลา แต่เป็นร้านเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะตั้งอยู่ในบ้านเก่าๆ ภายในอบอวลไปด้วยกลิ่นข้าวต้มและข้าวมันไก่ จนทำให้ผู้คนในละแวกนั้นแวะเวียนมานั่งทานกันเป็นประจำ ร้านนี้ไม่มีการตกแต่งมากมาย แต่มีบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง โต๊ะไม้ที่เรียงรายอยู่ภายในร้านดูเรียบง่าย แต่อบอวลไปด้วยความคุ้นเคยจนใครๆ ก็รู้สึกเหมือนอยู่บ้านเด็กสาวเดินไปนั่งที่มุมหนึ่งของร้านที่เหมาะกับการนั่งคนเดียว
"สวัสดีค่ะ วันนี้กินอะไรคะ"
พนักงานสาวในชุดเรียบง่ายยิ้มแย้มทักทาย เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองและตอบไปด้วยน้ำเสียงใสซื่อ
"ข้าวต้มค่ะ"
พนักงานสาวยิ้มและถามต่อ
"วันนี้กินข้าวกับใครคะ?"
"ฮิฮิ..วันนี้กินกับพี่ค่ะ"
✿ ( ꈍᴗꈍ) ✿
คำตอบของเด็กสาวทำให้พนักงานสาวเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
"จริงเหรอ..?"
"ใช่ค่ะ"
"แล้วเขาว่าไงบ้าง?"
เด็กสาวยิ้มอย่างภูมิใจ
"กินเสร็จก็ออกจากบ้านค่ะ"
พนักงานสาวยิ้มขำๆ ก่อนจะส่ายหัวเล็กน้อยด้วยความไม่เข้าใจ
"แค่นี้เองเหรอ?"
"ค่ะ"
(✿◕ᴗ◕✿)
เด็กสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ
พนักงานสาวมองไปยังเด็กสาวอย่างพิจารณา แล้วก็ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ ด้วยความเศร้าในใจ "เจ้าพี่ชายของเธอนี่ยังน่าหนักใจเหมือนเดิมจริงๆ"
แต่ในขณะที่การสนทนากำลังดำเนินไปอย่างง่ายๆ เด็กสาวกลับพูดขึ้นมาอย่างไม่คิดมาก
"แล้วก็...หนูลองบอกรักพี่ชายแบบที่พี่สอนแล้วนะคะ"
พนักงานสาวที่ได้ยินคำพูดนั้นถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่หน้าตาของเธอจะแสดงความตกใจออกมาอย่างชัดเจน
"ห๊า!...ทำจริงดิ—อุ๊บ..." เสียงหลุดขำดังขึ้นเบาๆ แต่ไม่ทันจะกลั้นไว้ น้ำเสียงขำขันก็เผลอหลุดออกมาจนได้ เธอยกมือขึ้นปิดปาก พยายามสงบตัวเองจากภาพในหัวที่หลั่งไหลเข้ามา—ภาพเจ้าพี่ชายที่ทำหน้าตื่นๆ พร้อมกับอาการขนลุกเมื่อได้ยินคำบอกรักของน้องสาว
"เธอทำจริงๆ เหรอเนี่ย? ฉันแค่สอนเล่นๆ เองนะ!"
เด็กสาวยิ้มใสซื่อ "ก็พี่บอกว่าต้องพูดให้ตรงๆ แล้วเขาจะชอบหนูมากขึ้นนี่คะ!"
หญิงสาวหลุดหัวเราะเสียงดังทันที ร่างของเธอเอนพิงเก้าอี้เหมือนหมดแรงไปชั่วขณะ
"โอ๊ย เม เธอฆ่าฉันจริงๆ! ฮ่าๆๆ พี่ชายเธอคงแทบจะละลายไปแล้วตอนนั้น!"
เด็กสาวยังคงมองหญิงสาวอย่างไร้เดียงสา รอยยิ้มภูมิใจฉายชัด
"แต่มันได้ผลจริงๆ นะคะ เพราะพี่เลยยอมนั่งกินข้าวที่หนูทำค่ะ"
หญิงสาวที่ยังไม่หยุดหัวเราะต้องชะงักลงเมื่อได้ยินประโยคนั้น เธอหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง มองใบหน้าร่าเริงของเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความภูมิใจเล็กๆ
ความรู้สึกขบขันในใจก่อนหน้านี้ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกหนักอึ้งเหมือนถูกบีบหัวใจ หญิงสาวสูดลมหายใจลึก พยายามเก็บอารมณ์สะเทือนใจที่เริ่มเอ่อขึ้นมา
"...เม พี่ชายเธอรู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังมีสมบัติล้ำค่าที่สุดในโลกอยู่ตรงหน้า?"
เด็กสาวมองหญิงสาวด้วยความงุนงง แต่ก็ยังยิ้มอย่างสดใส
หญิงสาวยิ้มตอบ แม้ในใจจะเต็มไปด้วยคำถามและความเศร้า ทำไมกันนะ... เธอพยายามขนาดนี้แล้วนายจะซ่อนจากเธอไปถึงเมื่อไหร่...
เมื่อเห็นรอยยิ้มใสซื่อของเธอ หญิงสาวกลับรู้สึกเศร้าลึกลงในใจ ยิ่งเห็นท่าทีไร้เดียงสาเช่นนี้ ก็ยิ่งอดสงสารไม่ได้ หากตัวเองเป็นพี่ชายของเธอล่ะก็ คงไม่ลังเลที่จะลูบหัวอย่างอ่อนโยน พร้อมคำชื่นชมที่เธอสมควรได้รับ...
ความคิดนั้นทำให้หญิงสาวยกมือขึ้น ลูบศีรษะเล็กๆ ด้วยความเอ็นดู แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความเศร้าปนขมขื่น ในใจนึกภาพเจ้าพี่ชายตัวดี—แต่แทนที่จะเป็นเขาในแบบที่เป็นอยู่ เธอกลับจินตนาการถึงเขาในอีกมุมหนึ่ง พี่ชายผู้แสนอบอุ่นที่เอ่ยคำชื่นชมอย่างจริงใจ
"ขอบคุณนะ อาหารอร่อยมากเลย"
เสียงนั้นดังก้องอยู่ในความคิดของเธอ ภาพจินตนาการช่างต่างจากความจริงเสียจนหญิงสาวได้แต่หัวเราะแผ่วเบาอย่างปลงใจ ขณะที่ยังลูบศีรษะเล็กๆ ต่อไปอย่างแผ่วเบา
เด็กสาวมองหญิงสาวด้วยความงุนงง แต่ก็ยังยิ้มอย่างสดใส
เธอหันมามองเด็กสาวที่ยังคงแสดงท่าทางไร้เดียงสาอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มสดใสนั้นเปรียบเสมือนแสงอาทิตย์ยามเช้า แต่หญิงสาวกลับรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความพยายามเหล่านั้น
" เรน..."
"เธอจะยึดติดกับมันไปจนถึงเมื่อไหร่"
ภาพชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏขึ้นในความคิดของเธอ ดั่งเสียงอบอุ่นที่เคยเรียกชื่อเธอ แผ่วเบาและห่างไกล ราวกับเสียงที่สะท้อนในความทรงจำที่หายไปนาน หญิงสาวถอนหายใจยาว และในความคิดนั้น เธอยื่นมือออกไปลูบศีรษะเล็กๆ ของเด็กสาวเบาๆ อย่างอ่อนโยน ราวกับต้องการสัมผัสบางสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับมาได้
" เม..เธอทำดีที่สุดแล้วจริงๆ..."
หญิงสาวกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่เจือไปด้วยความสะเทือนใจ ก่อนที่ความเงียบจะพาให้เธอถอนหายใจอีกครั้ง ท่าทางของเด็กสาวที่ยังคงเต็มไปด้วยความหวัง แม้ในโลกแห่งความเป็นจริงจะไม่มีอะไรแน่นอน
หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองกำลังทนกับความรู้สึกที่อยากจะบอกบางสิ่งบางอย่างออกไป แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเธอรู้ดีว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้มันเปลี่ยนแปลงไปได้ในตอนนี้...
+++++++
ไม่นานหญิงสาวก็ลุกออกไปรับออเดอร์ลูกค้าคนอื่น เด็กสาวหลังจากที่นั่งอยู่ในร้านซักพักเธอก็ลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินออกจากร้าน มุ่งหน้าไปยังที่ที่เธอคุ้นเคย เมื่อย่างเท้าไปตามถนนที่เงียบสงบ ราวกับเสียงฝีเท้าของเธอสะท้อนไปในอากาศที่เย็นขึ้นเล็กน้อย สายตาของเด็กสาวมองไปข้างหน้า สะท้อนแสงไฟจากตึกต่างๆ ที่ล้อมรอบอย่างไร้เป้าหมาย ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ความรู้สึกในหัวใจกลับมีบางสิ่งที่เปลี่ยนไป
เธอเดินไปเรื่อยๆ จนถึงสถานที่หนึ่งที่เธอรู้ดีว่ามันเป็นจุดหมายปลายทาง ทุกครั้งที่รู้สึกเหนื่อยใจหรือไม่เข้าใจบางอย่าง เธอจะมาที่นี่—สวนเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากร้านข้าวตามสั่งที่เธอเพิ่งออกมา มันเป็นสถานที่ที่เธอเคยพาคนที่รักมาอยู่บ่อยครั้งในอดีต และแม้ว่าผ่านมาหลายปี สิ่งนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของเธออย่างเดิม
เมื่อถึงที่หมาย เด็กสาวยืนนิ่งอยู่หน้าประตูรั้วสวน สายตาของเธอจ้องไปยังรั้วไม้ที่ยังดูใหม่ สะอาดตาและเรียบเนียนราวกับเพิ่งถูกสร้างขึ้นมา แต่เมื่อมือเล็กๆ ของเธอยื่นไปแตะ ความรู้สึกบางอย่างพลันไหลบ่าเข้ามา
ภาพที่ไม่เคยเป็นของเธอปรากฏขึ้นในหัว—รั้วไม้ผุพัง สีกระเทาะหลุดลอก เศษไม้แหลมคมแทงออกมาราวกับจะขัดขวางไม่ให้ใครผ่านเข้าไป เสียงสะท้อนของกิ่งไม้หักดังแว่วในอากาศ มันไม่ใช่ความทรงจำของเธอ แต่กลับชัดเจนเกินกว่าจะปฏิเสธ
เธอชักมือกลับ ลมหายใจสะดุด ความคิดปะติดปะต่อไม่ได้ว่าภาพเหล่านั้นมาจากไหน รั้วตรงหน้าที่เคยดูสมบูรณ์แบบกลับแปรเปลี่ยนในสายตาเหมือนมันเป็นของคนแปลกหน้าที่เธอไม่เคยพบพาน และในความเงียบของสายลม เธอได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ จากใครสักคนที่ไม่มีตัวตน คำพูดที่เธอไม่เข้าใจ แต่กลับทำให้หัวใจเธอเต้นแรง ราวกับเป็นคำตอบที่เธอไม่กล้าถาม
"ที่นี่..." เธอพึมพำเบาๆ อย่างไร้เสียงคำตอบ
เด็กสาวยืนนิ่งอยู่หน้าประตูรั้วสวน สายตาของเธอมองผ่านช่องระหว่างรั้วไม้ที่ใหม่เอี่ยม เสียงใบไม้กรอบใต้เท้าที่เหยียบเป็นจังหวะเบาๆ ราวกับเสียงที่แฝงอยู่ในความเงียบสงบของสถานที่แห่งนี้ ลมเย็นพัดผ่านต้นไม้ที่สูงตระหง่าน กิ่งก้านเคลื่อนไหวไปตามลม เสียงกรอบแกรบของใบไม้แห้งที่ถูกแรงลมพัดทำให้บรรยากาศในสวนดูมีชีวิตขึ้นมา
เธอยืนนิ่งอยู่นาน จ้องมองไปที่ทางเดินในสวนที่ทอดยาวไปข้างหน้า ผ่านต้นไม้ที่โค้งเข้าหากันเหมือนกำลังรอให้เธอเดินเข้าไป เธอเริ่มก้าวเดินไปตามทางเดินนั้น ช้าๆ ฝ่าเท้าของเธอกระทบกับพื้นหญ้านุ่มๆ เสียงลมที่พัดผ่านและเสียงฝีเท้าที่เบาบางทำให้ทุกสิ่งรอบตัวเงียบสงัด ราวกับไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นในโลกนี้ นอกจากเธอที่เดินไปข้างหน้า
แต่ทุกย่างก้าวของเธอเหมือนจะเพิ่มความรู้สึกแปลกๆ ในอากาศ มีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ สายลมที่พัดมาบ้างทำให้ต้นไม้ข้างทางโคลงเคลงไป แต่สิ่งที่สัมผัสได้กลับเป็นความรู้สึกที่ขัดแย้งกับความสงบที่รอบตัว ความรู้สึกเหมือนกับการเดินผ่านบางสิ่งที่เคยเป็น แต่ไม่สามารถจับต้องได้
เมื่อเธอมาถึงมุมหนึ่งของสวน สายตาของเธอก็ไปหยุดที่หลุมเล็กๆ ที่อยู่กลางสนามหญ้า เสียงลมยังคงพัดผ่านไปในทิศทางเดิม เสียงกรอบแกรบของใบไม้ที่ร่วงลงจากต้นไม้ใกล้ๆ เสริมให้บรรยากาศดูเงียบงัน ราวกับเวลานี้หยุดเคลื่อนไป ความรู้สึกบางอย่างดึงดูดให้เธอเดินไปที่หลุมนั้น
ปลายนิ้วของเธอไล่ไปตามขอบหลุม รู้สึกถึงดินเย็นและชื้นที่คลุมอยู่บางๆ มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังสัมผัสอะไรที่ไม่เห็น แต่รู้สึกถึงมันอย่างชัดเจน ภายในหัวใจของเธอมีบางอย่างกระตุกขึ้นมา แต่เธอไม่รู้ว่าเป็นอะไร
เธอขยับมือไปตามหลุมที่ดูเงียบสงบ มือของเธอสัมผัสกับของกระจุกกระจิกมากมายที่กระจัดกระจายอยู่ในนั้น เธอจัดระเบียบมันไปโดยไม่รีบร้อน
จนกระทั่งสายตาของเธอไปสะดุดเข้ากับกล่องใบหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในหลุม กล่องกลางๆ ที่ดูเหมือนจะถูกละเลยมานาน หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย สายตาของเธอสว่างขึ้นราวกับว่าเธอได้พบสิ่งที่ตามหามานาน แต่ก็ยังคงมีความสงสัยที่ไม่อาจขจัดออกไปได้
เธอหยิบกล่องขึ้นมา น้ำหนักของมันเหมือนจะคุ้นเคย สัมผัสที่มือไม่ได้แปลกใหม่สำหรับเธอเลย ราวกับว่าเธอเคยจับมันหลายครั้งมาก่อน ความรู้สึกนี้ทำให้ใจของเธอเริ่มเต้นแรงขึ้น แต่ไม่พูดอะไร กล่องนั้นเก่าและทาสีซีดไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังดูเหมือนมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ภายใน
มือเล็กๆ ของเธอค่อยๆ ปัดฝุ่นออกจากกล่องนั้น เธอยิ้มมุมปากบางๆ ก่อนจะเปิดมันออก เธอรู้ดีว่าข้างในนั้นคืออะไร และเธอก็รอคอยที่จะได้เห็นมันอีกครั้ง
เมื่อกล่องเปิดออก สิ่งที่ปรากฏอยู่ข้างในคือสิ่งหนึ่งที่ถูกห่อไว้ด้วยผ้าสีหม่น ดูเก่าแก่และเต็มไปด้วยร่องรอยของเวลา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย กลับกัน มันเหมือนกับว่าเธอได้เจอกับสิ่งที่เธอคาดไว้
รอยยิ้มที่มุมปากของเธอแฝงไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง และเธอก็รู้ดีว่าสิ่งนี้จะทำให้เธอเข้าใกล้คำตอบที่กำลังหลบซ่อนอยู่ในความลับที่รอการเปิดเผย
เด็กสาวหยิบของสิ่งนั้นขึ้นมาในมืออย่างระมัดระวัง ราวกับมันเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ก่อนจะมองไปข้างหน้าและพึมพำเบาๆ
“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของแกรอหน่อยนะ”
เธอเก็บกล่องลงในกระเป๋าและเดินออกจากสวนไป ช้าๆ ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เธอหยุดยั้ง ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความมั่นใจ เธอรู้ดีว่าแผนของเธอยังคงอยู่ในขั้นตอนที่เงียบสงบ และทุกสิ่งที่ทำไปในตอนนี้คือการเตรียมการในเบื้องหน้า
เมื่อเธอหันหลังและก้าวออกจากสวน ความเงียบสงบของที่นั่นกลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญอีกต่อไป
แต่บางอย่างกลับกระตุ้นให้เธอชะงัก ทุกอย่างที่เธอทำมาตลอดยังคงลอยอยู่ในหัว ราวกับมีบางสิ่งที่เธอลืมไป...
แล้วมันคืออะไร? เธอเดินต่อไปโดยไม่พูดอะไร แต่ภายในใจยังคงมีคำถามที่เธอยังหาคำตอบไม่ได้
-------------------------------------
ช่วงแนะนำตัวละคร (☆▽☆)
พี่สาวปริศนา = เพื่อนที่สนิทที่สุดของเด็กสาวและยังเป็นคนที่สอนทำอาหารและวีธีมัดใจพี่ชาย♡ ถึงส่วนใหญ่จะทำเพื่อแกล้งก็เถอะ -ᄒᴥᄒ-
ประวัติ: แต่ก่อนเคยเรียนอยู่ในเมืองโดยมีงานเสริมเป็นช่างแต่งหน้าแต่เนื่องจากเบื่อชีวิตเมืองกรุงหลังเรียนจบจึงกลับมาทำงานช่วยแม่ที่ร้านแต่ก็มีบ้างเดือนละครั้งที่กลับไปทำงาน
งานอดิเรก : ขายของออนไลน์ เช็คเรตติ้ง