ชั่ววินาทีที่ 'ธารธรรม' ได้สบตากับ 'ศิลา' เขาก็ตกหลุมรักพ่อหนุ่มที่กระโดดลงมาจากต้นมะม่วงพร้อมแมวส้มคนนี้เสียแล้ว...
ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ไทย,อื่นๆ,ศิธาร,ศิเป็นของธาร,มหาวิทยาลัย,น่ารัก,หวาน,feel good,feelgood,อ่านฟรี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ศิเป็นของธารชั่ววินาทีที่ 'ธารธรรม' ได้สบตากับ 'ศิลา' เขาก็ตกหลุมรักพ่อหนุ่มที่กระโดดลงมาจากต้นมะม่วงพร้อมแมวส้มคนนี้เสียแล้ว...
เพียงได้พบสบตา 'ธารธรรม' ก็ตกหลุมรัก 'ศิลา' พ่อหนุ่มที่กระโดดลงมาจากต้นมะม่วงพร้อมแมวส้มไปเสียแล้ว
แม่สอนธารธรรมไว้ว่าชอบใครต้องไปให้สุด เตรียใจไปเลยพ่อต้นมะม่วง เจอธารธรรมใส่สุดแน่นอน!!
มาค่ะ มาเปิดเรื่องใหม่กัน
ญ่าฝากคุณผู้อ่านเอ็นดูเจ้าศิกับยัยธารด้วยนะคะ // ไหว้ย่อแบบติดพื้น
เรื่องนี้จะลงทุกวันอังคาร เวลา 2 ทุ่ม(ตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง)ค่ะ
“กำลังไปโว๊ยยย” เจ้าของร่างโปร่งกรอกเสียงผ่านเครื่องมือสื่อสารรุ่นเก่าเก็บของตน ก่อนวางสายทันที ไม่ได้สนใจว่าปลายสายจะพูดอะไรต่อ
‘ธารธรรม’ ยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่รีบร้อนแม้จะถูกเพื่อนรักโทรจิกไปเมื่อสักครู่ ตอนอาจารย์ให้เอาเอกสารมาส่งที่คณะเกษตรฯล่ะพากันอิดออด สุดท้ายก็เป็นเขาที่ต้องลากสังขารแบกปึกเอกสารมาคนเดียว
ปล่อยให้รอไปแบบนั้นแหละ!!
ฟุบ!
“เชี่ย” ริมฝีปากสวยพ่นคำหยาบออกมาเมื่อมีอะไรบางอย่างหล่นลงมาจากฟ้า
ไม่ใช่สิ…
หล่นลงมาจากต้นมะม่วง…
และช่วงจังหวะที่อะไรบางอย่างหันมาสบตากัน ราวกับว่าเจ้าก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายถูกกลืนหายเข้าไปในหลุมลึกไร้ก้น
หลุมรักแน่ ๆ ธารธรรมมั่นใจแบบ 300%
ธารธรรมมันใจง่ายเหมือนที่เพื่อนว่าแหละ
“…ไหม”
ห้ะ?
เหมือนพ่อต้นมะม่วง(ตั้งเอง)จะพูดอะไรบางอย่าง แต่คนที่นอนอยู่ก้นหลุมกลับเกิดอากการหูดับกะทันหัน ฟังอะไรไม่ออกสักอย่าง
รู้ตัวอีกทีก็เห็นร่างสูงที่สูงกว่าเขาเกือบคืบถือพวงมะม่วง(?) วิ่งหันหลังไปทางหน้าตึกคณะเกษตรฯ
เสียดายที่เอาแต่เหม่อจนไม่ได้ถามชื่อ
หรือวิ่งตามไปดีนะ ไปบอกว่าชอบ ไปบอกว่าขอจีบ ไปบอกแบบง่าย ๆ นี่แหละ แม่สอนไว้ว่าชอบใครให้ลุยไปให้สุด ธารธรรมเลยใส่สุดทุกครั้งไป
แต่ก่อนที่ขายาวใต้กางเกงนักศึกษาจะก้าวตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ? ความนุ่มนิ่มที่อยู่ในอ้อมกอดก็ขยับดุ๊กดิ๊กเสียก่อน
เอ๊ะ?
ลูกแมว?
มาไงวะ!?
อ่า…เหมือนจะนึกออกแล้ว ประโยคที่พ่อต้นมะม่วงพูดก่อนหน้านี้
‘เอาลูกแมวไหม?’
และด้วยความเผลอไผลก็พยักหน้าตกลง เจ้าลูกแมวสีส้มขาว หูตั้ง ตาโต เลยได้มานอนแง้ว ๆ ในอ้อมกอดของเขา
สุดท้ายภารกิจตามเจ้าของหลุมใต้ต้นมะม่วงก็ต้องยุบไป เพราะคงตามไม่ทัน
“แกมีแม่ไหมเนี่ย?” ตาสวยกวาดมองไปรอบตัว ธารธรรมตัดสินใจเดินไปถามน้ายามที่ป้อม สรุปแม่ของเจ้านี่น่าโดนรถชนไปวันก่อน เขาก็เป็นคนใจอ่อนกับสัตว์เสียด้วย จะปล่อยเจ้าส้มนี่ไว้เฉย ๆ ก็กระไรอยู่
พาไปอยู่ด้วยกันก็ได้…
ถือว่าเป็นโชคชะตาที่เราได้พบกัน
ถือว่าเป็นของแทนใจจากพ่อต้นมะม่วง
“โอ๊ยยยยย กูยอมใจมึงค่ะไอ้ธารรรร” มือเรียวสวยของ ‘กรองทอง’ ยกขึ้นนวดขมับทันใดเมื่อฟังเรื่องราวจากปากเพื่อนหนุ่มที่อุ้มแมวกลับมาหาพวกตน
“ขยันตกหลุมรักจนกูเป็นห่วงว่าข้อเท้าจะเสื่อม” ถึงปากจะว่า แต่มือของ ‘ชาติชาย’ หรือที่เพื่อน ๆ มักเรียกว่า ‘ชาติชั่ว’ ก็ยังคงลูบหัวเจ้าลูกแมวที่ซุกอกของธารธรรมอย่างอ่อนโยน
“แล้วนี่ยังไง ขึ้นมาจากหลุมยัยนิ้งแล้วเหรอถึงเดินไปตกหลุมพ่อต้นม่วงน่ะ?” กรองทองถาม
“วิธีมูฟออนจากหลุมเก่าได้ดีที่สุดคือตกหลุมใหม่”
“กูล่ะสงสัยว่าชีวิตมึงเคยเห็นแสงตะวันไหม วัน ๆ เห็นแต่ตกอยู่ในหลุม”
“ถ้าเป็นหลุมรักกูยอมว่ะชาติ”
“แหวะ” สองเพื่อนซี้ประสานเสียง
“แล้วมึงจะเลี้ยงไอ้ก้อนส้มนี่จริงเหรอ?” กรองทองใช้นิ้วจิ้มลูกแมวน้อย
“จริง” ธารธรรมตอบพลางพยักหน้า “แล้วก็เรียกดี ๆ ด้วย น้องชื่อพบรัก”
“ชื่อเลี่ยนสัด”
“อย่ามาว่าแมวกูนะไอ้กรอง”
“เอาดี ๆ นะธาร ชีวิตหนึ่งชีวิตเลยนะเว้ย มึงต้องมั่นใจว่ามึงจะมีความรับผิดชอบมากพอที่จะดูแลน้องให้ดีได้” ชาติชายกล่าวจริงจัง
“กูมั่นใจ มั่นใจมาก ๆ ด้วย”
“มึงแน่ใจนะว่าไม่ได้เลี้ยงน้อง เพราะพ่อต้นมะม่วงให้มา แน่ใจนะว่าถ้าวันหนึ่งมึงปีนขึ้นมาจากหลุมของเขาแล้ว จะไม่ทิ้งพบรัก”
“กูก็ไม่เหี้ยขนาดนั้นนะชั่ว ถ้ากูตัดสินใจแล้ว กูมั่นใจเสมอ”
“โอเค ๆ งั้นก่อนอื่นก็พาพบรักไปหาหมอก่อน”
“ได้”
หลังจากตกลงกันเรียบร้อยทั้งสามเพื่อนซี้ก็พากันไปยังรถของกรองทอง เนื่องจากทั้งกลุ่มมีเธอคนเดียวที่มีรถยนต์
“ว่าแต่วันนี้มึงยังจะไปดูยัยนิ้งคัดตัวไหม?” กรองทองถามหลังจากเข้ามานั่งข้างคนขับเรียบร้อย
ถึงแม้นี่จะเป็นรถเธอ แต่เพราะทั้งสามคนขับรถได้และมีใบขับขี่ ทุกครั้งที่ต้องใช้รถจึงต้องโอน้อยออกขับรถกัน และหน้าที่คนขับวันนี้คือชาติชาย
“บอกนิ้งไว้แล้วก็คงไปแหละ”
‘นิ้ง’ เป็นสมาชิกชมรมเชียร์หลีดดิ้งของมหาวิทยาลัย ธารธรรมตกหลุมรักนิ้งหลังจากเห็นเธอซ้อมต่อตัว ช่วงจังหวะที่ร่างเล็กทิ้งตัวลงมา ธารธรรมก็ชอบเธอทันที หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เทียวไล้เทียวขื่อขายขนมจีบให้นิ้งอยู่บ่อย ๆ ตอนเลิกซ้อมก็เอาน้ำหวานไปให้บ้าง พาไปทานข้าวบ้าง แต่สาวเจ้าก็ไม่เคยใจอ่อน
วันนี้ทางชมรมเชียร์หลีดดิ้งมีการคัดตัวจริงเพื่อลงแข่ง การคัดตัวเป็นแบบเปิด คนนอกเข้าไปดูได้ ก่อนหน้านี้ที่ยังคงนอนอยู่ในหลุมของนิ้ง ธารธรรมก็ได้บอกทางนั้นไว้ว่าจะไปดู และเขาก็เป็นคนรักษาคำพูดคนหนึ่ง ถึงแม้วันนี้จะปีนขึ้นมาจากหลุมนั้นแล้วก็ตาม
“ซื้อของเยอะ-ิบหาย” กรองทองบ่นหลังจากเดินเข้ามาในโรงยิมที่จะใช้คัดตัวเชียร์หลีดดิ้ง ผู้คนที่ให้ความสนใจก็ทยอยมากันบ้างแล้ว
“ก็ของมันน่ารักหมดเลยนี่น่า” ธารธรรมยิ้มเมื่อนึกถึงของที่กองพะเนินอยู่ในห้องของเขา ทั้งเบาะนอน คอนโดแมว น้ำพุแมว ถุงอาหาร ขนมแมวเลีย ห้องน้ำแมว ทรายแมว ไม้ตกแมว และของเล่นอีกสารพัด ส่วนเจ้าพบรัก ตอนนี้ก็ฝากไว้กับพี่หมอที่คลินิก
“บ่นว่ะกรอง ทีตอนมึงชอปปิ้ง ไม่ใช่พวกกูเหรอที่ไปช่วยขนอะ” ชาติชายผลักหัวเพื่อนสาวเบา ๆ “อีกอย่างนะ นาน ๆ ทีไอ้ธารจะใช้เงิน ก็ช่วยมันถลุงหน่อยดิ”
“ก็จริงว่ะ เดี๋ยวขากลับแวะซื้ออีกมะ อยากช่วยเพื่อนใช้ตัง”
“พอเลยพวกมึง” ธารธรรมหัวเราะกับความกวนของเพื่อน
ไม่นานการคัดตัวจริงสำหรับลงแข่งเชียร์หลีดดิ้งก็เริ่มขึ้น ผู้คนส่วนใหญ่มาเพื่อให้กำลังใจเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ
ผ่านไปประมาณชั่วโมงกว่าการตัดตัวก็เสร็จสิ้น และนิ้งก็ชวดตัวจริงในการแข่งครั้งนี้ไป เพื่อน ๆ ของเธอต่างพากันไปให้กำลังใจ หรือปลอบใจก็ว่ากันไป มีแค่อดีตคนนอนก้นหลุมอย่างธารธรรมที่ทำเพียงแค่ยิ้มให้เล็กน้อยอย่างปลอบโยนเท่านั้น
“แค่นี้เหรอวะ?” กรองทองทำหน้าสงสัย
“แล้วต้องแค่ไหน?”
“ปีนขึ้นมาแล้วกลบหลุมเลยเหรอ เยื่อใยก็ไม่มีเลยเหรอ?” ชาติชายว่าอย่างเหลือเชื่อ
ชายหนุ่มยิ้มให้เพื่อนทั้งสอง ยักไหล่อย่างไม่มีคำพูด และไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร…
หลายคนเริ่มทยอยออกจากโรงยิม ก่อนที่กลุ่มชายสูงใหญ่ราวกับชาติที่แล้วตีพ่อตีแม่ ก็ทยอยเข้ามายังสนาม ดูจากลายสกรีนบนเสื้อคลุมก็เห็นว่าเป็นทีมบาสของคณะเกษตรฯ
อือ…พ่อต้นมะม่วงก็สูงมากเลยนะ
หรืออาจจะอยู่ในทีมบาส
บ้าน่า จะบังเอิญขนาดนั้นเลย
“เชี่ยยยย” ธารธรรมมองขายาว ๆ ที่ก้าวเข้ามาในโรงยิมอย่างไม่เชื่อสายตา
บังเอิญ!
บังเอิญขนาดนั้นเลยล่ะ
“พ่อต้นมะม่วง”
“ห้ะ” ชาติชายหันซ้ายขวา
“ไหน ๆ” กรองทองว่าพลางมองหา
“คนนั้น” ธารธรรมชี้ไปยังคนตัวสูง หน้าคม ผิวเข้ม ที่ทิ้งตัวนั่งหัวเราะอยู่กับเพื่อนที่ข้างสนาม
แต่ก่อนที่เพื่อนจะได้ถามอะไรไปมากกว่านี้ ร่างโปร่งก็ก้าวพรวดไปยังพ่อต้นมะม่วงทันที
“เดี๋ยวไอ้ธาร!” ชาติชายส่งเสียงห้ามเพื่อน
“ไม่เคยจะทัน” กรองกล่าวอย่างปลง ๆ แต่ขาเรียวก็ก้าวตามเพื่อนไป
“พ่อต้นมะม่วง!” ธารธรรมเอ่ยเสียงดัง เรียกความสนใจ และความสงสัยจากเหล่าทีมบาส
“นายนั่นแหละ” ร่างโปร่งชี้ไปยังคนผิวเข้มที่นั่งงงอยู่บนเก้าอี้ยาวข้างสนาม
“ผม?” นิ้วแกร่งชี้เข้าหาตัวเอง
“อืม พ่อต้นมะม่วง”
“ไม่…ใช่มั้ง?”
“ธารธรรม ปี 2 บริหารฯ” ว่าพลางยื่นมือไปข้างหน้า ดวงตากะพริบปริบ ๆ อย่างรอคอยให้อีกคนบอกชื่อตนเอง
“เอ่อ…ศิลา เกษตรฯ ปี 2” ชายหนุ่มนักบาสจำต้องยื่นมือไปจับกับอีกคนอย่างงงๆ
“มือใหญ่จัง” ธารธรรมพึมพำเบา ๆ หลังจากอีกฝ่ายปล่อยมือ
“แล้วมีอะไรกับกู?” สรรพนามเปลี่ยนทันทีเมื่อศิลาเห็นว่าคนตัวขาวอายุเท่ากัน
“พบรัก”
“ห้ะ” คนตัวสูงทำหน้างงเมื่อธารธรรมพูดวลีที่ไม่น่าเกี่ยวกับสิ่งที่ตนถาม
“หมายถึงลูกแมวที่ศิลาให้เราเมื่อตอนเที่ยงไง ที่ศิลากระโดดฟุ่บลงมาจากต้นมะม่วง แล้วก็เอาพบรักให้เรา”
“คนเมื่อกลางวัน? เอาไปเลี้ยงเหรอวะ?”
“อื้ม” คนตัวขาวพยักหน้า “คุณหมอว่าน้องน่าจะอายุสองเดือนพอดี ก็เลยได้วัคซีนเข็มแรกแล้ว”
“อ่า…” ศิลาเหมือนไม่รู้จะพูดอะไร ตอนนั้นแค่ไปเก็บมะม่วง เจอแมวจึงอุ้มเอาไปปล่อยข้างล่าง พอกระโดดลงมาเจอคนก็เอาแมวยื่นให้เท่านั้น
เขาจำหน้าอีกฝ่ายไม่ได้ด้วยซ้ำ
บทสนทนาหยุดชะงักลง ความเงียบครอบคลุมเมื่อไม่มีใครกล่าวอะไร และก็เป็นธารธรรมที่เอ่ยทำลายความเงียบ และความสงบในชีวิตของเขาหลังจากนี้
“เราชอบศิลา!” ใบหน้าขาวยังคงเปื้อนยิ้ม
“?” ใบหน้าคมประดับด้วยเครื่องหมายคำถาม
“เราจีบศิลานะ!” ไม่ใช่ประโยคคำถาม ไม่ใช่ประโยคขอร้อง แต่มันคือประโยคที่บอกว่าต่อจากนี้ศิลาจะโดนเจ้าคนตัวขาวมาวนเวียนในชีวิต
‘เชี่ยยยย/เอาแล้วพ่ออออ/ไอ้ศิโดนแล้ววว/…' และอีกหลายประโยคที่หลุดออกมาจากปากของเพื่อน ๆ ในกลุ่มนักบาส ส่วนเพื่อนของธารธรรมนะเหรอ
เอิ่ม…ปลงแล้วน่ะ
ด้านคนจะถูกจีบนั้น
“ห้ะ!!!!”
นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรวะครับเนี่ยยยยย
ชอบก็จีบ ชอบก็จีบเลยเซ่ ชูวับ ชูวับ
ยอมให้จีบเลย ยอมให้จีบเลยนะ ยอม! ยอม! // ธารธรรมกระชากคอบอก