ชั่ววินาทีที่ 'ธารธรรม' ได้สบตากับ 'ศิลา' เขาก็ตกหลุมรักพ่อหนุ่มที่กระโดดลงมาจากต้นมะม่วงพร้อมแมวส้มคนนี้เสียแล้ว...

ศิเป็นของธาร - บทนำ บทแรกรู้จัก โดย อมณ. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ไทย,อื่นๆ,ศิธาร,ศิเป็นของธาร,มหาวิทยาลัย,น่ารัก,หวาน,feel good,feelgood,อ่านฟรี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ศิเป็นของธาร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ศิธาร,ศิเป็นของธาร,มหาวิทยาลัย,น่ารัก,หวาน,feel good,feelgood,อ่านฟรี

รายละเอียด

ศิเป็นของธาร โดย อมณ. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชั่ววินาทีที่ 'ธารธรรม' ได้สบตากับ 'ศิลา' เขาก็ตกหลุมรักพ่อหนุ่มที่กระโดดลงมาจากต้นมะม่วงพร้อมแมวส้มคนนี้เสียแล้ว...

ผู้แต่ง

อมณ.

เรื่องย่อ

เพียงได้พบสบตา 'ธารธรรม' ก็ตกหลุมรัก 'ศิลา' พ่อหนุ่มที่กระโดดลงมาจากต้นมะม่วงพร้อมแมวส้มไปเสียแล้ว

 

แม่สอนธารธรรมไว้ว่าชอบใครต้องไปให้สุด เตรียใจไปเลยพ่อต้นมะม่วง เจอธารธรรมใส่สุดแน่นอน!!

 


มาค่ะ มาเปิดเรื่องใหม่กัน

ญ่าฝากคุณผู้อ่านเอ็นดูเจ้าศิกับยัยธารด้วยนะคะ // ไหว้ย่อแบบติดพื้น

เรื่องนี้จะลงทุกวันอังคาร เวลา 2 ทุ่ม(ตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง)ค่ะ

สารบัญ

ศิเป็นของธาร-บทนำ บทแรกรู้จัก,ศิเป็นของธาร-บทที่ 1 เมื่อรู้จักจึงสังเกตเห็น,ศิเป็นของธาร-บทที่ 2 ป๊ะป๋ากับคุณพ่อ,ศิเป็นของธาร-บทที่ 3 ศิ ๆ รถเป็นอะไรอ่ะ?,ศิเป็นของธาร-บทที่ 4 พรหมลิขิตแบบ 300%

เนื้อหา

บทนำ บทแรกรู้จัก

“กำลังไปโว๊ยยย” เจ้าของร่างโปร่งกรอกเสียงผ่านเครื่องมือสื่อสารรุ่นเก่าเก็บของตน ก่อนวางสายทันที ไม่ได้สนใจว่าปลายสายจะพูดอะไรต่อ

‘ธารธรรม’ ยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่รีบร้อนแม้จะถูกเพื่อนรักโทรจิกไปเมื่อสักครู่ ตอนอาจารย์ให้เอาเอกสารมาส่งที่คณะเกษตรฯล่ะพากันอิดออด สุดท้ายก็เป็นเขาที่ต้องลากสังขารแบกปึกเอกสารมาคนเดียว

ปล่อยให้รอไปแบบนั้นแหละ!!

ฟุบ!

“เชี่ย” ริมฝีปากสวยพ่นคำหยาบออกมาเมื่อมีอะไรบางอย่างหล่นลงมาจากฟ้า 

ไม่ใช่สิ…

หล่นลงมาจากต้นมะม่วง…

และช่วงจังหวะที่อะไรบางอย่างหันมาสบตากัน ราวกับว่าเจ้าก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายถูกกลืนหายเข้าไปในหลุมลึกไร้ก้น

หลุมรักแน่ ๆ ธารธรรมมั่นใจแบบ 300%

ธารธรรมมันใจง่ายเหมือนที่เพื่อนว่าแหละ

“…ไหม”

ห้ะ?

เหมือนพ่อต้นมะม่วง(ตั้งเอง)จะพูดอะไรบางอย่าง แต่คนที่นอนอยู่ก้นหลุมกลับเกิดอากการหูดับกะทันหัน ฟังอะไรไม่ออกสักอย่าง

รู้ตัวอีกทีก็เห็นร่างสูงที่สูงกว่าเขาเกือบคืบถือพวงมะม่วง(?) วิ่งหันหลังไปทางหน้าตึกคณะเกษตรฯ

เสียดายที่เอาแต่เหม่อจนไม่ได้ถามชื่อ

หรือวิ่งตามไปดีนะ ไปบอกว่าชอบ ไปบอกว่าขอจีบ ไปบอกแบบง่าย ๆ นี่แหละ แม่สอนไว้ว่าชอบใครให้ลุยไปให้สุด ธารธรรมเลยใส่สุดทุกครั้งไป

แต่ก่อนที่ขายาวใต้กางเกงนักศึกษาจะก้าวตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ? ความนุ่มนิ่มที่อยู่ในอ้อมกอดก็ขยับดุ๊กดิ๊กเสียก่อน

เอ๊ะ?

ลูกแมว?

มาไงวะ!?

อ่า…เหมือนจะนึกออกแล้ว ประโยคที่พ่อต้นมะม่วงพูดก่อนหน้านี้

‘เอาลูกแมวไหม?’

และด้วยความเผลอไผลก็พยักหน้าตกลง เจ้าลูกแมวสีส้มขาว หูตั้ง ตาโต เลยได้มานอนแง้ว ๆ ในอ้อมกอดของเขา

สุดท้ายภารกิจตามเจ้าของหลุมใต้ต้นมะม่วงก็ต้องยุบไป เพราะคงตามไม่ทัน 

“แกมีแม่ไหมเนี่ย?” ตาสวยกวาดมองไปรอบตัว ธารธรรมตัดสินใจเดินไปถามน้ายามที่ป้อม สรุปแม่ของเจ้านี่น่าโดนรถชนไปวันก่อน เขาก็เป็นคนใจอ่อนกับสัตว์เสียด้วย จะปล่อยเจ้าส้มนี่ไว้เฉย ๆ ก็กระไรอยู่

พาไปอยู่ด้วยกันก็ได้…

ถือว่าเป็นโชคชะตาที่เราได้พบกัน

ถือว่าเป็นของแทนใจจากพ่อต้นมะม่วง

 

“โอ๊ยยยยย กูยอมใจมึงค่ะไอ้ธารรรร” มือเรียวสวยของ ‘กรองทอง’ ยกขึ้นนวดขมับทันใดเมื่อฟังเรื่องราวจากปากเพื่อนหนุ่มที่อุ้มแมวกลับมาหาพวกตน

“ขยันตกหลุมรักจนกูเป็นห่วงว่าข้อเท้าจะเสื่อม” ถึงปากจะว่า แต่มือของ ‘ชาติชาย’ หรือที่เพื่อน ๆ มักเรียกว่า ‘ชาติชั่ว’ ก็ยังคงลูบหัวเจ้าลูกแมวที่ซุกอกของธารธรรมอย่างอ่อนโยน

“แล้วนี่ยังไง ขึ้นมาจากหลุมยัยนิ้งแล้วเหรอถึงเดินไปตกหลุมพ่อต้นม่วงน่ะ?” กรองทองถาม

“วิธีมูฟออนจากหลุมเก่าได้ดีที่สุดคือตกหลุมใหม่”

“กูล่ะสงสัยว่าชีวิตมึงเคยเห็นแสงตะวันไหม วัน ๆ เห็นแต่ตกอยู่ในหลุม”

“ถ้าเป็นหลุมรักกูยอมว่ะชาติ”

“แหวะ” สองเพื่อนซี้ประสานเสียง

“แล้วมึงจะเลี้ยงไอ้ก้อนส้มนี่จริงเหรอ?” กรองทองใช้นิ้วจิ้มลูกแมวน้อย

“จริง” ธารธรรมตอบพลางพยักหน้า “แล้วก็เรียกดี ๆ ด้วย น้องชื่อพบรัก

“ชื่อเลี่ยนสัด”

“อย่ามาว่าแมวกูนะไอ้กรอง”

“เอาดี ๆ นะธาร ชีวิตหนึ่งชีวิตเลยนะเว้ย มึงต้องมั่นใจว่ามึงจะมีความรับผิดชอบมากพอที่จะดูแลน้องให้ดีได้” ชาติชายกล่าวจริงจัง

“กูมั่นใจ มั่นใจมาก ๆ ด้วย”

“มึงแน่ใจนะว่าไม่ได้เลี้ยงน้อง เพราะพ่อต้นมะม่วงให้มา แน่ใจนะว่าถ้าวันหนึ่งมึงปีนขึ้นมาจากหลุมของเขาแล้ว จะไม่ทิ้งพบรัก”

“กูก็ไม่เหี้ยขนาดนั้นนะชั่ว ถ้ากูตัดสินใจแล้ว กูมั่นใจเสมอ”

“โอเค ๆ งั้นก่อนอื่นก็พาพบรักไปหาหมอก่อน”

“ได้”

หลังจากตกลงกันเรียบร้อยทั้งสามเพื่อนซี้ก็พากันไปยังรถของกรองทอง เนื่องจากทั้งกลุ่มมีเธอคนเดียวที่มีรถยนต์ 

“ว่าแต่วันนี้มึงยังจะไปดูยัยนิ้งคัดตัวไหม?” กรองทองถามหลังจากเข้ามานั่งข้างคนขับเรียบร้อย

ถึงแม้นี่จะเป็นรถเธอ แต่เพราะทั้งสามคนขับรถได้และมีใบขับขี่ ทุกครั้งที่ต้องใช้รถจึงต้องโอน้อยออกขับรถกัน และหน้าที่คนขับวันนี้คือชาติชาย

“บอกนิ้งไว้แล้วก็คงไปแหละ”

‘นิ้ง’ เป็นสมาชิกชมรมเชียร์หลีดดิ้งของมหาวิทยาลัย ธารธรรมตกหลุมรักนิ้งหลังจากเห็นเธอซ้อมต่อตัว ช่วงจังหวะที่ร่างเล็กทิ้งตัวลงมา ธารธรรมก็ชอบเธอทันที หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เทียวไล้เทียวขื่อขายขนมจีบให้นิ้งอยู่บ่อย ๆ ตอนเลิกซ้อมก็เอาน้ำหวานไปให้บ้าง พาไปทานข้าวบ้าง แต่สาวเจ้าก็ไม่เคยใจอ่อน

วันนี้ทางชมรมเชียร์หลีดดิ้งมีการคัดตัวจริงเพื่อลงแข่ง การคัดตัวเป็นแบบเปิด คนนอกเข้าไปดูได้ ก่อนหน้านี้ที่ยังคงนอนอยู่ในหลุมของนิ้ง ธารธรรมก็ได้บอกทางนั้นไว้ว่าจะไปดู และเขาก็เป็นคนรักษาคำพูดคนหนึ่ง ถึงแม้วันนี้จะปีนขึ้นมาจากหลุมนั้นแล้วก็ตาม

 

“ซื้อของเยอะ-ิบหาย” กรองทองบ่นหลังจากเดินเข้ามาในโรงยิมที่จะใช้คัดตัวเชียร์หลีดดิ้ง ผู้คนที่ให้ความสนใจก็ทยอยมากันบ้างแล้ว 

“ก็ของมันน่ารักหมดเลยนี่น่า” ธารธรรมยิ้มเมื่อนึกถึงของที่กองพะเนินอยู่ในห้องของเขา ทั้งเบาะนอน คอนโดแมว น้ำพุแมว ถุงอาหาร ขนมแมวเลีย ห้องน้ำแมว ทรายแมว ไม้ตกแมว และของเล่นอีกสารพัด ส่วนเจ้าพบรัก ตอนนี้ก็ฝากไว้กับพี่หมอที่คลินิก

“บ่นว่ะกรอง ทีตอนมึงชอปปิ้ง ไม่ใช่พวกกูเหรอที่ไปช่วยขนอะ” ชาติชายผลักหัวเพื่อนสาวเบา ๆ “อีกอย่างนะ นาน ๆ ทีไอ้ธารจะใช้เงิน ก็ช่วยมันถลุงหน่อยดิ”

“ก็จริงว่ะ เดี๋ยวขากลับแวะซื้ออีกมะ อยากช่วยเพื่อนใช้ตัง” 

“พอเลยพวกมึง” ธารธรรมหัวเราะกับความกวนของเพื่อน

ไม่นานการคัดตัวจริงสำหรับลงแข่งเชียร์หลีดดิ้งก็เริ่มขึ้น ผู้คนส่วนใหญ่มาเพื่อให้กำลังใจเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ 

ผ่านไปประมาณชั่วโมงกว่าการตัดตัวก็เสร็จสิ้น และนิ้งก็ชวดตัวจริงในการแข่งครั้งนี้ไป เพื่อน ๆ ของเธอต่างพากันไปให้กำลังใจ หรือปลอบใจก็ว่ากันไป  มีแค่อดีตคนนอนก้นหลุมอย่างธารธรรมที่ทำเพียงแค่ยิ้มให้เล็กน้อยอย่างปลอบโยนเท่านั้น

“แค่นี้เหรอวะ?” กรองทองทำหน้าสงสัย

“แล้วต้องแค่ไหน?”

“ปีนขึ้นมาแล้วกลบหลุมเลยเหรอ เยื่อใยก็ไม่มีเลยเหรอ?” ชาติชายว่าอย่างเหลือเชื่อ

ชายหนุ่มยิ้มให้เพื่อนทั้งสอง ยักไหล่อย่างไม่มีคำพูด และไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร…

หลายคนเริ่มทยอยออกจากโรงยิม ก่อนที่กลุ่มชายสูงใหญ่ราวกับชาติที่แล้วตีพ่อตีแม่ ก็ทยอยเข้ามายังสนาม ดูจากลายสกรีนบนเสื้อคลุมก็เห็นว่าเป็นทีมบาสของคณะเกษตรฯ

อือ…พ่อต้นมะม่วงก็สูงมากเลยนะ 

หรืออาจจะอยู่ในทีมบาส

บ้าน่า จะบังเอิญขนาดนั้นเลย

“เชี่ยยยย” ธารธรรมมองขายาว ๆ ที่ก้าวเข้ามาในโรงยิมอย่างไม่เชื่อสายตา

บังเอิญ!

บังเอิญขนาดนั้นเลยล่ะ

“พ่อต้นมะม่วง”

“ห้ะ” ชาติชายหันซ้ายขวา

“ไหน ๆ” กรองทองว่าพลางมองหา

“คนนั้น” ธารธรรมชี้ไปยังคนตัวสูง หน้าคม ผิวเข้ม ที่ทิ้งตัวนั่งหัวเราะอยู่กับเพื่อนที่ข้างสนาม

แต่ก่อนที่เพื่อนจะได้ถามอะไรไปมากกว่านี้ ร่างโปร่งก็ก้าวพรวดไปยังพ่อต้นมะม่วงทันที

“เดี๋ยวไอ้ธาร!” ชาติชายส่งเสียงห้ามเพื่อน

“ไม่เคยจะทัน” กรองกล่าวอย่างปลง ๆ แต่ขาเรียวก็ก้าวตามเพื่อนไป

“พ่อต้นมะม่วง!” ธารธรรมเอ่ยเสียงดัง เรียกความสนใจ และความสงสัยจากเหล่าทีมบาส 

“นายนั่นแหละ” ร่างโปร่งชี้ไปยังคนผิวเข้มที่นั่งงงอยู่บนเก้าอี้ยาวข้างสนาม

“ผม?” นิ้วแกร่งชี้เข้าหาตัวเอง

“อืม พ่อต้นมะม่วง”

“ไม่…ใช่มั้ง?”

“ธารธรรม ปี 2 บริหารฯ” ว่าพลางยื่นมือไปข้างหน้า ดวงตากะพริบปริบ ๆ อย่างรอคอยให้อีกคนบอกชื่อตนเอง

“เอ่อ…ศิลา เกษตรฯ ปี 2” ชายหนุ่มนักบาสจำต้องยื่นมือไปจับกับอีกคนอย่างงงๆ

“มือใหญ่จัง” ธารธรรมพึมพำเบา ๆ หลังจากอีกฝ่ายปล่อยมือ 

“แล้วมีอะไรกับกู?” สรรพนามเปลี่ยนทันทีเมื่อศิลาเห็นว่าคนตัวขาวอายุเท่ากัน

“พบรัก”

“ห้ะ” คนตัวสูงทำหน้างงเมื่อธารธรรมพูดวลีที่ไม่น่าเกี่ยวกับสิ่งที่ตนถาม

“หมายถึงลูกแมวที่ศิลาให้เราเมื่อตอนเที่ยงไง ที่ศิลากระโดดฟุ่บลงมาจากต้นมะม่วง แล้วก็เอาพบรักให้เรา”

“คนเมื่อกลางวัน? เอาไปเลี้ยงเหรอวะ?”

“อื้ม” คนตัวขาวพยักหน้า “คุณหมอว่าน้องน่าจะอายุสองเดือนพอดี ก็เลยได้วัคซีนเข็มแรกแล้ว”

“อ่า…” ศิลาเหมือนไม่รู้จะพูดอะไร ตอนนั้นแค่ไปเก็บมะม่วง เจอแมวจึงอุ้มเอาไปปล่อยข้างล่าง พอกระโดดลงมาเจอคนก็เอาแมวยื่นให้เท่านั้น 

เขาจำหน้าอีกฝ่ายไม่ได้ด้วยซ้ำ

บทสนทนาหยุดชะงักลง ความเงียบครอบคลุมเมื่อไม่มีใครกล่าวอะไร และก็เป็นธารธรรมที่เอ่ยทำลายความเงียบ และความสงบในชีวิตของเขาหลังจากนี้

“เราชอบศิลา!” ใบหน้าขาวยังคงเปื้อนยิ้ม

“?” ใบหน้าคมประดับด้วยเครื่องหมายคำถาม

“เราจีบศิลานะ!” ไม่ใช่ประโยคคำถาม ไม่ใช่ประโยคขอร้อง แต่มันคือประโยคที่บอกว่าต่อจากนี้ศิลาจะโดนเจ้าคนตัวขาวมาวนเวียนในชีวิต

‘เชี่ยยยย/เอาแล้วพ่ออออ/ไอ้ศิโดนแล้ววว/…' และอีกหลายประโยคที่หลุดออกมาจากปากของเพื่อน ๆ ในกลุ่มนักบาส ส่วนเพื่อนของธารธรรมนะเหรอ

เอิ่ม…ปลงแล้วน่ะ

ด้านคนจะถูกจีบนั้น

“ห้ะ!!!!”

นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรวะครับเนี่ยยยยย


ชอบก็จีบ ชอบก็จีบเลยเซ่ ชูวับ ชูวับ

ยอมให้จีบเลย ยอมให้จีบเลยนะ ยอม! ยอม! // ธารธรรมกระชากคอบอก